บิ้กบอส 37 CP
พอตั้งสติได้ก็ลืมตาขึ้นดูอีกครั้ง....ตั้งใจจะลุกขึ้นเอาเรื่องผู้บังอาจมาขัดขวางความสุขของอย่างเต็มที่แต่เมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของฝ่าเท้าได้ชัดเจน คราวนี้นอกจากไม่กล้าหือแล้วยังรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ จนแทบเยี่ยวราดเลยทีเดียว“ท่าน...”
เสียงกระซิบเบาๆ ไม่พ้นริมฝีปาก
“เออ...! กูเอ็งบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเที่ยวดึกและดื่มเหล้าเมามายอย่างนี้ ยิ่งอยู่ในหน้าเสี่ยวหน้าขวานอยู่ด้วย”
“ท่าน...ท่านมาได้ยังไง”
อย่างจับต้นซนปลายไม่ถูกสายตาคมเข้มได้เบิกจ้องมายังตนอยู่ก่อนแล้ว ความเหี้ยมเกรียมภายในเบ้าตานั้นไม่มีอะไรจะน่ากลัวเท่าอีกแล้ว
หมวดธีร์กะพริบตาถี่ๆ แล้วจ้องอีก ขณะนั้นแสงไฟนีออนสว่างจ้าจนแสบตา ทำให้เขามองเห็นอะไรต่อมิอะไรได้ชัดเจนขยับกายลุกขึ้นนั่งอย่างลำบาก รู้สึกเคล็ดขัดยอกไปทั้งลำตัวเลยทีเดียวมองไปทั่วห้อง ก็รู้สึกว่าเป็นห้องพักของตนเองกับตำรวจรุ่นพี่ มองมายังเตียงนอน ก็ไม่เห็นร่างของหนุ่มนักธุรกิจซึ่งเมื่อครู่ จำได้ว่าได้จับมัดมือมัดเท้า กระเด้าจนน้ำเกือบแตกอยู่แล้วหากท่านไม่เข้ามาแทรกเสียก่อน
บิดกายไปมาทำหน้าด๊อกแด๊ก ๆ ขยี้ตาครั้งแล้ว ครั้งเล่าขยายม่านเปิดกว้างขึ้นมองอีกครั้งอย่างงง ๆ พยายามยันกายจะลุกขึ้น แต่ฝ่าเท้าเจ้าของดวงตาคมเข้มก็แตะมาที่อกเบาๆ ทำให้ต้องหงายลงไปจนศีรษะเกือบพาดกับพื้นเลยทีเดียวเรี่ยวแรงมันดูอ่อนเปลี้ยไปหมด
“ท่าน...”
มันเป็นประโยคเดียวที่เขาพูดได้ในตอนนั้น
“เออ..กูเอ็งว่าแต่มึงจะนอนแอ้งแม้งอย่างนี้นานหรือเปล่า กูจะได้เรียกลูกน้องข้างล่างมาลากคอมึงลุกขึ้น”
“โอ๊ย! อะไรว่ะนี่ผมงงเหลือเกิน”
หมวดหนุ่มอุทานออกมาพยายามจะลุกขึ้น แต่ก็ต้องชะงักอยู่เช่นเดิมเพราะเจอฝ่าเท้าที่สวมรองเท้าหนังราคาแพงกดหน้าอกไว้ เขามองไปรอบห้องอีกครั้งสายตาไปจับจ้องตรงเข็มนาฬิกา ทำให้เขาเริ่มปรับสภาพจิตใจได้เป็นปกติมากยิ่งขึ้น
“นี่เพิ่งเช้าเองหรือวะ”
“มึงไปทำไรมาเมื่อคืน...ทำไมถึงตื่นสายไม่รู้จักหน้าที่ของตนแบบนี้ ขืนมึงเป็นแบบนี้บ่อย ๆทั้งกูและมึงได้จบเห่พร้อมกันแน่”
ธีร์รู้สึกอึ้งพูดอะไรไม่ออก พยายามปรับประสาทให้คืนโดยเร็วที่สุด แต่รู้สึกว่าศีรษะของตนตอนนี้มันหนักเหลือประมาณสะบัดหน้าเร่า ๆ เพื่อขับไล่ความมึนงง แล้วฝืนยิ้มให้เจ้านาย
“ขอโทษครับ!เมื่อคืนผมดื่มหนักไปหน่อยก็เลยฝันอะไรเลอะเทอะเปรอะเปรื้อนไปใหญ่และไม่คิดว่าตนเองจะนอนตื่นสายขนาดว่าท่านต้องปลุกด้วยการเตะตกเตียงอย่างนี้”
“เรื่องนั้น กูรู้แล้วผู้กองก้องบอกว่าเมื่อคืนเอ็ง แอบออกไปเที่ยว แถมยังดื่มกลับมาจนไม่ได้สติสตังค์จนเขาต้องลากเอ็งขึ้นมานอนข้างบนนี้ พร้อมกับรีบไล่ให้เพื่อนเอ็งกลับไปก่อนถ้าสมมติว่า คนที่มาส่งเอ็งเป็นพวกคุณภูล่ะ กูจะซวยขนาดไหน?”
น้ำเสียงตำหนิตรงๆ คิ้วขมวดเข้าหากัน
“ถ้ามึงเป็นอย่างนี้อีกกูจะส่งมึงไปกวาดขยะริมถนนแทน”
ตำรวจหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ รู้สึกว่าลำคอแห้งแหบแสบพร่า ก้มลงมองกระบอกปืนของตนก็เห็นว่ามันยังแข็งปั๋งอยู่เลย
“กูให้เวลามึงอาบน้ำจัดการตนเองให้หายเมาภายในเวลา๑๕ นาที แล้วรีบไปช่วยผู้กองเขาจัดเตรียมอาหารให้แขกของกู”
“ครับ.... ครับท่าน”
อย่างอาการของคนที่เพิ่งสร่างจากอาการโอเวอร์แฮงค์ไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ถูก แต่ก็สำนึกบอกตนเองได้ว่าไม่บังควรอย่างยิ่งที่จะขัดขืนคำสั่งนายเหนือหัวคนนี้ รีบลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำทั้งชุดนอน จัดการชำระร่างกายตนเอง
ความเย็นของสายน้ำทำให้เขารู้สึกสดชื่นกระปี้กระเป่าขึ้นมาบ้าง แม้จะยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่บ้างรูดกระบอกปืนของตนอย่างรัวเร็วจนน้ำทะลัก พร้อมทั้งถอนหายใจเฮือกหงายต้นคอพิงกับผนังห้องน้ำ หลับตาลงทบทวนความฝันอันเลอะเลือนของตนตั้งแต่ช่วยผู้กองก้องจัดอาหารสำหรับเชลยท่านภาณุพลเช่นทุกวันกระทั่งโดนถีบตกเตียง
“เฮ้อ...! ไม่น่าเป็นฝันเลยกูแถมฝันแล้ว ยังไม่เสร็จสมอารมณ์หมายอีก ซวยจริง ๆแต่ว่าแค่ฝันยังมันส์และเสียวขนาดนี้ หากได้เอาจริง ๆ จะมันส์ขนาดไหนว่ะนี่”
เพียงแค่คิดถึงเรือนร่างของภูริเชษฐ์ที่ตนเคยเห็นตอนเดินออกจากห้องน้ำกระบอกปืนที่ปล่อยกระสุนออกไปจนหมดแม๊กแล้ว กลับตั้งลำแข็งขึ้นมาอีกได้แต่สลัดความคิดนั้นทิ้งไป รีบลงไปช่วยผู้กองจัดอาหาร
“พี่ก้อง ! พี่ก้องท่านมาถึงบ้านก็ไม่ปลุกน้องบ้างเลย”
ก้องไม่ตอบคำถามแต่กลับย้อนถามกลับมา
“แล้วเอ็งล่ะ ไม่สบายหรือเปล่าถึงได้นอนตื่นสายผิดปกติแบบนี้”
เขาได้ยินดังนั้นได้แต่โบกมือปัดผ่านไปมา ขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างใคร่ครวญว่าควรบอกรุ่นพี่ดีหรือเปล่า เกี่ยวกับความฝันเลอะเลือนของตน “เมาหนักพี่แถมยังฝันเลอะเลือนเกือบทั้งคืนอีก ตื่นขึ้นมาเหมือนกับว่าตนเองไม่ได้นอนตลอดคืนเลย”
“ฝันถึงใครว่ะไอ้นายแบบที่มาส่งเมื่อคืนงั้นเหรอ”
“ไม่ใช่หรอก”
“รู้สึกว่าเอ็งจะหงุดหงิดฉุนเฉียวอย่างไรชอบกลท่านกล่าวอะไรกับเอ็งเหรอ”
“ไม่เกี่ยวกับท่านหรอก”
“แล้วเกี่ยวกับอะไรวะหากเป็นผู้หญิง กูต้องคิดว่าประจำเดือนมึงมาไม่ปกติแน่ ๆ”
“ทำนองนั้นแหละ”
“หมายความว่าไง”
“ก็ผมกำลังฝันว่าผมและพี่ร่วมกันเย็ดคุณอย่างสนุกสนานเมามันส์ที่สุดในชีวิต”
“ฮ้า...!”
“จริงครับ”
แล้วเขาก็เล่าความฝันทั้งหมดให้ตำรวจหนุ่มรุ่นพี่ฟังกระทั่งโดนปลุกให้ตื่นด้วยรองเท้าหนังราคาแพงของท่านภาณุพล
“ฮ่า...ฮ่า...ฮ่าไอ้บ้า ออกไปเที่ยวกับแฟน แทนที่จะฝันถึงแฟนกับฝันถึงคนอื่นเสียนี่ สมน้ำหน้า”
“ผมพูดจริง ๆ นะพี่ในฝันผมเห็นพี่สนุกมาก ๆ เลย แตกทั้ง ๆ ที่โดนกระเด้าอย่างเดียว แต่ผมกลับไม่เสร็จเฮ้อ...เซ็ง”
“เออ...มึงจะเซ็งกว่านี้หากมัวแต่ยืนเอ้อระเหอ ท่านยังไม่ทานไรมา และสั่งให้จัดอาหารไปให้คุณภูและท่านด้วยบอกว่ามีเรื่องจะพูดคุยธุระส่วนตัวกับคุณภู” ด้านภูหลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งคิดโน่นคิดนี่อยู่คนเดียวเพื่อรออาหารเช้ามาส่งให้เหมือนทุกวัน แต่รู้สึกว่าวันนี้มันจะล่าช้ากว่าทุกวันไปเกือบชั่วโมง
ขณะที่ท้องเขาร้องประท้วงอยู่นั้นประตูห้องขังเปิดออก ผู้กองจักรภพและการ์ดอีกสองนายได้ช่วยกันเข้ามาจัดโต๊ะอาหารภายในห้องพักนั้น
เมื่ออาหารถูกจัดตั้งบนโต๊ะเรียบร้อยบุรุษที่เขาต้องการพบตัวมากที่สุดตอนนี้ ก็ปรากฏกายขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มอันเยาะหยันเหมืนเดิม
เขาจ้องมองชามข้ามต้มประณีตส่งไอควันร้อนๆ ขึ้นมาเตะจมูกอย่างแรง แต่ก็รู้สึกหายหิวไปทันที เมื่อเห็นหน้าภาณุพล
“เป็นไงบ้างครับคุณภู....ลูกน้องผมให้การต้อนรับเป็นที่พอใจหรือเปล่า”
“ก็โอเค...หากไม่คิดว่าถูกจับตัวมา”
ภาณุพลยักไหล่อันผึ่งผายของตนมองดูหน้าเขายิ้ม ๆ พร้อมกับเดินมานั่งบนโต๊ะที่ลูกน้องจัดเตรียมไว้ให้
“อีกไม่นานหรอกคุณจะได้หลุดพ้นไปจากที่นี่ พร้อมกับไม่เหลืออะไรที่เป็นของตนสักอย่างแม้กระทั่งเมียของคุณเอง ก่อนอื่นต้องขออภัยผมมัวแต่วุ่นจัดการเดินเรื่องซื้อหุ้นภายในบริษัทของคุณ ตอนนี้คนอื่น ๆผมก็ซื้อได้เกือบหมดแล้วด้วย แต่ปริมาณรวมกันทั้งหมดก็ยังน้อยกว่าของคุณและพ่อคุณอยู่ดีแต่ไม่เป็นไร เอาไว้กินข้าวเสร็จ เราค่อยคุยกันเรื่องนี้”
“มีอะไรจะพูดกับฉันก็พูดมาเสียเดี๋ยวนี้”
“ไม่เอาน่า...คุณภู โตๆ กันแล้ว อย่าทำตัวเป็นเด็กหน่อยเลย ถ้าคุณไม่ยอมทานอะไร ผมจะไม่ยอมบอกว่าเหตุการณ์ประชุมแต่งตั้งบอร์ดบริหารชุดใหม่เป็นยังไง ใครได้ตำแหน่งอะไรบ้าง”
ภูได้แต่ใจหายวาบรู้สึกชาไปทั้งตัว สังหรณ์ชนิดหนึ่งวิ่งขึ้นมาจับขั้วหัวใจดวงตาของเขาลุกโซนราวกับมีกองไฟเป็นพัน ๆ เข้าไปสุมอยู่ข้างในขณะจ้องมองภาณุพลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ผมต้องขอบคุณไอ้ฝรั่งขี้นกเพื่อนคุณจริง ๆ การที่คุณไม่ได้เข้าประชุมสร้างความชุลมุนวุ่นวายภายในบริษัทของคุณไม่น้อยแถมเลขาฯสาวคนสวยยังลาออกจากตำแหน่งอีกโดยอ้างว่าทนความกดขี่ข่มเหงทางเพศจากคุณไม่ได้ พนักงานคนอื่น ๆก็ทำงานกันได้อย่างดีทีเดียว แต่ดีขนาดไหน คุณต้องทานข้าวต้มให้หมดถ้วยนี้พร้อมผมก่อนผมจะเล่าให้ฟัง ฮ่า....ฮ่า...ฮ่า”
ภูริเชษฐ์ได้ยินดังนั้นได้แต่นั่งนิ่งเงียบ ขณะที่ภาณุพลยังคงยิ้มอยู่ในอาการเดิมโบกมือกับองครักษ์ประจำกายของตนให้นำหนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ เข้ามาวางตรงหน้าเชลย
เขาได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อปากสั่น หน้าแดงก่ำ
หน้าแรกหนังสือพิมพ์เป็นการตีข่าวเกี่ยวกับการระทมทุนซื้อหุ้นบริษัทของเขาอย่างเอิกเริกโดยมีนักธุรกิจหลายคนมากหน้าหลายตาออกมาให้ความคิดเห็นถึงผลดีผลเสียตลอดถึงกำไรที่พึงได้รับอย่างมหาศาลหากกลุ่มทุนของภาณุพลสามารถซื้อได้ตามที่เป็นข่าว ไล่สายตาชำเลืองดูคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ที่ภาณุพลเลือกเข้ามาบริหารแต่ละคนทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้นเลยทีเดียว
เขาหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้เปิดอ่านคอลัมน์ด้านใน ข่าวเกี่ยวกับผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทเขาเป็นที่ได้รับความสนใจจริง ๆ หนังสือพิมพ์ฉบับอื่นๆ ก็ลงข่าวไม่แตกต่างกันราวกับนัดกันไว้
“เจ้าของบริษัทหนุ่มภูริเชษฐ์ได้หายตัวไปอย่างลึกลับโดยทิ้งภาระหน้าที่การบริหารให้กับสุรเชษฐ์ผู้เป็นพ่อเสือแก่ที่สิ้นเขี้ยวเล็บบริหารงานแทน....สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มผู้บริหารเป็นอย่างยิ่ง”
ขณะนั้นประสาททุกส่วนของเขาอื้ออึงตรึงเครียดไปหมดหัวใจสั่นระทึกรัวเร็วราวกับว่าจะหลุดกระเด็นออกจากหน้าอกพ่อและอากรทำได้ดีที่สุดแล้ว ทว่าการที่ผู้ถือหุ้นถูกภาณุพลปั่นหัวทำให้พวกนั้นที่นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเองคล้อยตามได้โดยง่าย
จากหนังสือพิมพ์ภายในประเทศเขาได้หยิบหนังสือพิมพ์ต่างประเทศขึ้นมาอ่านหน้าธุรกิจเกือบทุกสำนักได้มีการวิพากย์วิจารณ์สถานการณ์การเข้าครอบครองหุ้นของนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลกันอย่างกว้างขวาง
เขาขยุ้มหนังสือพิมพ์ขยำเป็นก้อนแล้วปาใส่หน้าภาณุพลอย่างรวดเร็วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่านั้น เมื่อบรรดาองครักษ์ที่อยู่ใกล้นักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลเข้ามาล็อคแขนเขาไว้อย่างทันควันพร้อมกับถูกกระชากให้ก้มลงแทบเท้าของภาณุพลมีเสียงหัวเราะอย่างเย้ยหยันดังมาจากเจ้าของฝ่าเท้าที่เหยียบบดขยี้บนหลังมือเขา
“นอนรออ่านข่าวสำคัญอยู่นี่ก่อนนะคุณภู...ผมเชื่อว่าไม่เกินสามวันผมสามารถบีบซื้อหุ้นมาครอบครองได้หมดแน่ ๆคราวนี้หุ้นอันน้อยนิดของคุณก็จะไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า”
พ่อกับอากรทำงานกันอย่างไรนี่ถึงปล่อยให้ภาณุพลดำเนินการได้สะดวกง่ายดายขนาดนี้ ....
ด้านแนนนี่หลังจากได้รับทราบเรื่องราวจากนรากรหล่อนก็ยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาหล่อนพยายามเข้าไปโฉบเฉี่ยววับ ๆ แวม ๆ ตามงานสังคมให้ผ่านสายตาของภาณุวัฒน์กระทั่งสามารถเข้าไปตีสนิทได้ในที่สุด โดยไม่แสดงอาการพิรุธเพื่อให้อีกฝ่ายจับได้
หล่อนออกไปเที่ยวกับชายหนุ่มเจ้าสำราญเกือบทุกคืนตามสถานที่ต่าง ๆ เป็นการสร้างความคุ้นเคยและหาลู่ทางในการหลอกล่อสอบถามแต่การเข้าไปตีสนิทกับชายหนุ่มก็ไม่ได้ช่วยให้เรื่องราวคลี่คลายได้เนื่องจากภาณุวัฒน์ทั้งฉลาดและเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมไม่ต่างจากพ่อ
และก่อนที่แผนทุกอย่างจะแตกเสียก่อนในวันหนึ่ง แนนนี่นัดให้ชายหนุ่มออกมาพบตนเองเพียงลำพังที่คลับหรูแห่งหนึ่งโดยไม่ต้องให้มีบริการ์ดติดตามมาด้วยระหว่างทั้งคู่กำลังนั่งดื่มกันอย่างออกรสชาติหล่อนจึงเอ่ยปากชวนภาณุวัฒน์ไปกินและดื่มต่อห้องส่วนตัวของตน ซึ่งความจริงแล้วเป็นคอนโดของนรากร
“ทำไมล่ะ”
“แนนนี่เป็นดารานะคะเกิดปาปารัซซี่มาเจอและถ่ายรูปแนนนี่นั่งดื่มกับคุณแบบนี้อนาคตเส้นทางแนนนี่ก็ดับวูบกันพอดี”
ทั้งคู่จึงเดินออกมาขึ้นรถหญิงสาวที่จอดอยู่ด้านหลังของร้าน
เมื่อเห็นว่าปลอดสายตาคนแล้วหล่อนขับรถออกมายังเส้นทางหลักก่อนจะเลี้ยวขวาและจอดเยื้องกับโรงแรมหรูระดับห้าดาวใจกลางเมืองแห่งหนึ่งชั้นล่างมีบริการเครื่องดื่มและอาหาร หันมาทางชายหนุ่ม
“คุณเดินไปรอแนนนี่ตรงลิฟต์ก่อนนะคะแนนนี่ขอไปทำธุระนิดหนึ่ง”
เดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ของเสมียนเวรโดยเร็วกระซิบเบา ๆ พร้อบกับยื่นโน้ตให้
“ช่วยติดต่อคุณนรากรเจ้าของห้อง360 ตามนี้ด้วย บอกว่าตอนนี้แขกคนสำคัญมาถึงแล้ว”
เสร็จแล้วก็รับกุญแจสำรองก้าวยาว ๆ ทำท่าหลบ ๆ ซ่อน ๆ ตรงไปยังชายหนุ่มที่ยืนคอยอยู่แล้ว
“ไปกันเถอะค่ะหากมีใครมาเห็นจะกลายเป็นข่าวเอาได้”
“ดีเหมือนกันครับ ผมเองก็ไม่อยากตกเป็นข่าวเท่าไหร่”
ภาณุวัฒน์ยิ้มหวานจนเห็นฟันสีขาววาววับเรียบสนิทและดวงตาลุกเป็นประกายหญิงสาวเห็นอาการนั้นเหมือนกัน แต่แกล้งทำเป็นมองข้ามเสีย
“เดี๋ยวก็รู้คุณภาณุวัฒน์”
ระหว่างอยูในลิฟต์ทั้งคู่ส่งสายตายิ้มหวานให้กันตลอดเวลาสายตาที่ส่งให้แก่กันเต็มไปด้วยเลศนัยและความมุ่งหมายแตกต่างกันออกไปโดยต่างฝ่ายต่างคิดว่าตนเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า
เมื่อหญิงสาวเปิดประตูห้องภาณุวัฒน์ก็แทรกกายเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“คุณพ่อของแนนนี่ใจดีจังเลยซื้อห้องส่วนตัวให้ลูกสาวพักตามลำพังด้วย”
สำนวนและประโยคแสดงให้เห็นว่าเต็มไปด้วยคารม หญิงสาวเผยอริมฝีปากยิ้มแต่พองามแต่สีหน้ายังแสดงความหื่นกระหายยั่วยวนชายหนุ่มเต็มที่
“ไม่ทราบว่าแนนนี่พาหนุ่ม ๆ มาเที่ยวที่ห้องนี้บ่อยหรือเปล่า”
“คุณภาณุวัฒน์เป็นคนแรกเลยค่ะเพราะปกติแนนนี่จะพักอยู่กับเพื่อน ๆ หรือบางครั้งพี่เอเจนซี่ส่วนตัวก็จะมาขอค้างด้วยหากวันไหนถ่ายละครดึก”
“เป็นดารานี้ทำตัวลำบากเหมือนกันนะ”
ทั้งสองยิ้มสบตากันอย่างมีความหมายอีกครั้ง
“เชิญคุณภาณุวัฒน์ดื่มอะไรเย็นๆ ก่อนค่ะ”
ภาณุวัฒน์แทนที่จะเดินไปนั่งตรงโซฟาชุดรับแขกแต่กลับทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม ๆ ยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ยิ้มแย้มให้หญิงสาว ขณะยื่นมือไปรับแก้วเครื่องดื่มจากเธอ
แนนนี่ถือแก้วน้ำผลไม้ติดมือมานั่งทรุดกายลงข้างๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าและดวงตาของชายหนุ่ม
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าผู้หญิงสาวและสวยอย่างแนนนี่จะยังไม่มีแฟน”
“อยากมีเหมือนกันแหละค่ะแต่อาชีพดารา ยิ่งเป็นน้องใหม่ของวงการด้วย เรื่องแบบนี้ต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษขืนตกเป็นข่าวฉาวหน้าหนึ่งขึ้นมาเมื่อไหร่ อาชีพจบเห่ทันที”
ขณะกล่าวสมองของหล่อนเริ่มทำงานหนักเมื่อพิจารณาดูชายหนุ่มที่กระเหี้ยนกระหือเหลือเกิน หล่อนหลอกล่อลูกเสือเข้ามาติดกับได้แล้วแต่การจัดการถลกหนังเสือนี่สิ เป็นสิ่งที่หนักหนาเอาการสำหรับหญิงสาวอย่างหล่อนระหว่างคิดอะไรไม่ออกอยู่นั้น จึงเดินไปหยิบเครื่องดื่มมาให้ชายหนุ่มทั้งขวดกล่าวขึ้นเบา ๆ
“ขอตัวไปโทร.หาพี่เอเจนซี่ก่อนนะค่ะจะได้แจ้งให้แกทราบว่าคืนนี้แนนนี่มีแขก”
ลับหลังหญิงสาวเปิดประตูออกไปด้านนอก โทร.หานรากรทันที
“ไฮ! หนูแนนนี่ทุกอย่างเรียบร้อยดีหรือเปล่า”
“หวัดดีค่ะพี่กรก็โอเคค่ะ แต่แนนนี่ไม่ได้เตรียมอะไรสักอย่าง”
“ไม่ต้องห่วงพี่ได้จัดเตรียมรอไว้หลายวันแล้ว”
“หมายความว่าไง”
“เครื่องดื่มทุกประเภทยกเว้นน้ำผลไม้ นอกนั้นพี่จัดการใส่ยานอนหลับลงไปทุกขวดแล้ว ไม่ว่าหนูจะนำอะไรออกบริการรับรองไอ้ภาณุวัฒน์ได้สลบเหมือดแน่ ว่าแต่หนูเผลอดื่มไรเข้าไปบ้างยัง”
“ยังคะโห...เล่นกันยังงี้เลยเหรอ”
“เผื่อไว้กันผิดพลาดโทษทีพี่ก็ลืมแจ้งหนูไว้ก่อน”
“จะให้หนูทำไรต่อไปจากนี้”
“หนูต้องใช้ไหวพริบและปฏิภาณของตนวินิจฉัยสถานการณ์เฉพาะหน้าเอาเองทุกย่างก้าวต้องเต็มไปด้วยความระมัดระวังทุกลมหายใจเข้าออก”
น้ำเสียงของนรากรไม่แสดงอาการตื่นเต้นอะไรยังคงพูดคุยเรียบ ๆ เหมือนพูดคุยกันธรรมดา
“เดี๋ยวก่อน! พี่กร จะไม่แนะนำอะไรที่มันเข้าท่ากว่านี้บ้างเหรอ”
“หนูเป็นนางเอกละครแต่วันนี้ต้องพยายามเล่นบทนางมารร้ายเข้าไว้ ยั่วยวนภาณุวัฒน์ให้เต็มที่พี่คะเนว่าหากภาณุวัฒน์ดื่มเหล้าหมดสองแก้วน่าจะหลับเพราะยาที่ให้ไว้ค่อนข้างแรงพอสมควร”
วางสายโทรศัพท์จากนรากรแนนนี่รีบเข้ามาในห้องทันที เกรงว่าหากออกไปนานภาณุวัฒน์จะสงสัยเอาได้มันจำเป็นอย่างยิ่งที่ตัวหล่อนต้องจำใจเล่นบทนางมารร้ายชั่วคราวตามหลักยุทธวิธีของผู้กำกับอย่างนรากรโดยรักษามติประจำใจไว้ว่า”เปลืองตัวให้น้อยที่สุด” เพราะเชื่อมั่นได้ว่าภาณุวัฒน์ดื่มสักแก้วสองแก้วก็จะหลับฟุบไปเอง
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้วหล่อนก็ไปทรุดกายลงนั่งข้าง ๆ ภาณุวัฒน์ รินเหล้าให้เขาดื่มอย่างเอาใจพร้อมกับพร่ำพรรณาถึงความลำบากในชีวิตการเป็นดาราให้เขาฟังและเล่าถึงเพื่อนสาวดาราของเธอหลายคน ใช้อาชีพดาราบังหน้าแต่เบื้องหลังคือการยอมเป็นเมียเก็บของบรรดาอาเสี่ยหรือนักการเมืองรุ่นพ่อ รุ่นปู่ซึ่งสร้างรายได้ให้อย่างมากมาย มีของแบรนด์เนมใช้ มีรถหรู ๆ ขับ มีบ้านหลังโต ๆพักอาศัย ขณะที่เธอต้องอยู่คอนโดส่วนตัวแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ น้ำเสียงออดอ้อนออเซาะ
ภาณุวัฒน์ได้ยินดังนั้นก็เข้าใจว่าหญิงสาวต้องการอะไรจากตน เพราะเคยเห็นพ่อเลี้ยงบรรดาดาราสาว ๆแบบที่เธอกล่าวไว้เยอะพอสมควร จึงโน้มตัวเข้าไปหอมแก้มนวลปรางอย่างฉวยโอกาส
“แนนนี่อยากมีแบบเพื่อนๆ บ้างหรือเปล่าล่ะ”
“อยากมีเหมือนกันค่ะแต่แนนนี่ไม่ชอบคนแก่ หนังก็เหี่ยว หน้าท้องก็มีแต่พุง”
“แล้วคนหนุ่มละครับ”
“คนหนุ่มที่ไหนจะมาสนใจสาวอาชีพแบบนี้”
หล่อนพูดจบก็แกล้งหันหลังให้ชายหนุ่มปล่อยให้ชายเสื้อบริเวณหัวไหล่ตกลงเล็กน้อย เผยให้เห็นผิวเนื้อขาว ๆ นวลเนียน
ในความเงียบสงัดในความรู้สึกบางอย่าง และในสายตาที่จับจ้องประสานกันอยู่ขณะนี้อำนาจแรงขับทางธรรมชาติของมนุษย์ปุถุชนได้ฉาบฉายให้เห็นชัดในสายตาของภาณุวัฒน์เหนือกว่าความรู้สึกอื่นใดทั้งมวลนั่นคือการหวังครอบครองหญิงสาวที่ให้ท่าตนให้ได้ในคืนนี้
เขาได้ดึงหล่อนเข้ามาซบที่หัวไหล่พรรณนาความสวยความงามของตัวเธอ รู้สึกประทับใจในตัวเธอตั้งแต่แรกเห็นประทับรอยจูบฝังลึกไปตามผิวเนื้อนวลนั้น แนนนี่ไม่ทันระวังตัวรู้สึกอึ้งตกตะลึงงึงงันไปชั่วขณะด้วยภาวะที่ยากจะบรรยายจะอย่างไรก็ตามเพื่อให้เป็นไปตามแผน หล่อนค่อย ๆ ปลดกระดุมเม็ดเสื้อให้เขาทีละเม็ดๆ ด้วยอาการสุภาพอ่อนโยน เอาใจแฝงไว้ด้วยความยั่วเย้า เหมือนจะยินยอมเป็นของชายหนุ่มจริงๆ แต่ก็ไม่ลืมเตือนให้เขาดื่มอีกสักแก้ว จะได้สดชื่นกระปรี้กระเป่าขึ้นกว่านี้
ภาณุวัฒน์เหมือนต้องมนต์สะกดยกเครื่องดื่มขึ้นดื่มอีกแก้วตามคำขอของเธอทันที โดยไม่มีอาการระแวงสงสัย
“พี่อยากอยู่อย่างนี้กับแนนนี่ทั้งวันทั้งคืนจังเลย”
หญิงสาวไม่ตอบคำถามแต่กลับประคองศีรษะเขาให้เอนทับลงกับหมอนซึ่งวางอยู่บนตักตนเอง รินแก้วเหล้าให้เขาดื่มอีกแก้วสีหน้าและแววตาบอกให้ทราบชัดว่ามีความสุขใจล้นปรี่ที่ได้บริการเขา
“ดื่มอีกแก้วสิคะแนนนี่จะให้คำตอบ”
เขาปัดแก้วเหล้าออกไปพร้อมกับโน้มคอเธอลงมาจูบปากอย่างดูดดื่มด้วยความหิวกระหาย
“ไม่ดื่มแล้วเหล้าอยากดื่มอยากอื่นมากกว่า”
น้ำเสียงกังวานทุ้มนุ่มนวลดังออกมาจากปากที่รกครื้มไปด้วยหนวดนั้น
“เป็นของพี่นะคนดีอย่าคิดมอมพี่ด้วยเหล้าแบบนี้อีกเลย มาถึงขนาดนอนหนุนตักแบบนี้พี่ไม่ปล่อยแนนนี่ให้หลุดไปหรอก”
หญิงสาวเบนหน้าไปทางหนึ่งรำพึงกับตนเอง
“พี่กรวางยาครบทุกขวดหรือเปล่านี่ทำไมกินไปสามสี่แก้วแล้วยังไม่ยอมหลับอีก”
ภาณุวัฒน์อาศัยจังหวะหญิงสาวเผลอตัวเหนี่ยวร่างของเธอให้นอนตะแคงลงเคียงข้างอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีคำพูดไร ๆผ่านออกมาจากริมฝีปากของเขาอีก นอกจากใบหน้าที่ฝังจมลงไปบนทรวงอกขาวผ่องที่เบียดล้นอยู่แทบจะปริทะลักออกมาภายใต้ชุดที่เธอสวมใส่
“ยอมเป็นของพี่เถิดนะคนดีพี่สัญญาว่าจะเลี้ยงดูแนนนี่อย่างดีที่สุดเลย อยากได้อะไรจะหามาให้แนนนี่จ๋า...อย่าปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปโดยเปล่าประโยชน์เลยนะจ๊ะเพียงแค่พบและสบตาแนนนี่วันแรก หัวใจของพี่ก็แทบระเบิดออกมาอยู่ข้างนอกอยู่แล้ว”
น้ำเสียงเริ่มอ้อแอ้เพ้อรำพึงรพัน ขาดสติสัมปชัญญะลงเรื่อย ๆ เมื่อฤทธิ์ยาเริ่มทำงานตามหน้าที่ของมัน
สิ่งที่หล่อนไม่อยากทำที่สุดแต่ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เสียแล้ว
เปลือกตาของหล่อนเต้นระริกสั่นสะเทือนด้วยอำนาจความหวาดหวั่นและแกล้งพึมพำอย่างเป็นสุข พร้อมกับเบียดกายอบอุ่นอยู่ในอ้อมกอดของเขาก่อนที่หล่อนจะเปลืองตัวไปมากกว่านี้ ก็พอดีกับฤทธิ์ยานอนหลับทำงานทำให้ภาณุวัฒน์หลับไปอย่างง่ายดายคาร่องอกของเธอ
แนนนี่พลิกกายออกจากเรือนร่างของภาณุวัฒน์หยิบโทรศัพท์มากดหานรากรทันที
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ดีมากหนูแนนนี่ช่วยภูออกมาได้เราค่อยว่ากันอีกที”
“เสร็จงานรีบขับไล่เลยนะพี่กร”
น้ำเสียงกึ่งตัดพ้อเล็กน้อย
“อย่าน้อยใจสิจ๊ะรีบออกมาจากห้องนั้นก่อนเถอะ”
“แล้วคุณภาณุวัฒน์ล่ะ”
“ปล่อยให้มันนอนอยู่อย่างนั้นแหละพี่กำลังจะไปถึงแล้ว เดี๋ยวเป็นหน้าที่ของพี่เอง”
“ค่ะ”
“ขอบใจมาก แล้วเจอกัน”
หญิงสาวกดปิดสัญญาณการติดต่อแล้วก็จัดการเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย พร้อมกับเดินออกไปอย่างเงียบ ๆปล่อยทุกอย่างไว้ด้านหลัง ส่วนการคาดคั้นหรือแผนการขั้นต่อไปจะเป็นอย่างไรหล่อนได้ปลีกตนเองพ้นจากนี้ไป ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนรากรคนวางแผนจัดการเอาเอง....
ฝ่ายนรากรขับรถออกมาจากบ้านมาตั้งแต่แนนนี่โทร.ไปหาครั้งแรกนั่งรถมากลับชะเอม เมื่อหญิงสาวโทร.มาอีกครั้ง ก็พอดีกับที่ตนขับรถมาถึงบริเวณใกล้ๆ แล้ว
ระหว่างเดินมาด้วยกันชะเอมเห็นนรากรมีสีหน้าเคร่งเครียดจึงกล่าวขึ้นเบา ๆ
“พี่กร...ชะนีพี่ไว้ใจได้เปล่าไม่ใช่ปลอกกินกล้วยหอมผมก่อนนะ”
“เออ...แทนที่จะห่วงเรื่องอื่นดันห่วงกล้วยหอมเสียนี่คนเรา งานนี้ไม่มีใครได้กินทั้งนั้นโว้ย!”
“โห....อุตส่าห์ยอมเป็นข้าช่วงใช้สารพัดไม่ขอกล้วยหอมก็ได้ อยากลองชดถั่วดำมันดูบ้าง กินแต่ถั่วค้างคืนอย่างพี่เริ่มเอือมระอาแล้ว”
“มาช่วยกันภาวนาอย่าเพิ่งให้มันรู้สึกตัวขึ้นมาก่อนเราไปถึงยังน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการติดตามหาภูมากง่ายขึ้นมัวแต่พูดเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ได้”
“ล้อเล่นหน่อยเดียวเองเห็นพักหลังพี่เอาแต่หน้าดำคร่ำเครียด”
“ภูหายไปทั้งคนใครจะไปทำหน้ายิ้มระรื่นได้ พูดมากเดี๋ยวจับมะเขือเผายัดปากเสียเลย”
“ยิ่งชอบถึงมันจะเหี่ยวไปหน่อยก็ตาม ฮ่า..ฮ่า”
สองคนเดินคุยกันมาเรื่อยๆ กระทั่งมาหยุดที่หน้าประตูห้อง
“เตรียมอุปกรณ์ที่สั่งไว้พร้อมหรือเปล่า”
นรากรถามชะเอมเพื่อความมั่นใจอีกครั้ง
“เรียบร้อยครับ”
ไม่มีใครเอ่ยคำใดกันอีกนรากรเป็นฝ่ายเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบภาณุวัฒน์นอนแผ่หลาอย่างหมดสภาพอยู่บนเตียงก่อนแล้วการเห็นคู่ต่อสู้อยู่ในสภาพแบบนี้ ยิ่งทำให้สะดวกขึ้นในการรับมือหากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ชะเอมสะกิดแขนนรากรเมื่อเดินเข้ามาชิดเตียงนอนแล้วก็รู้สึกในฝ่ามืออบอุ่นของอีกฝ่ายที่กุมมือตนบีบไว้เบา ๆก้มลงจ้องมองร่างที่สลบไสลไม่ได้สติอย่างพิจารณา เชื่อมั่นในอำนาจยานอนหลับจึงยังไม่แสดงอาการสนใจหรือระวังตัวกับเหยื่อมากนัก เดินสำรวจรอบ ๆ บริเวณห้องนอนขณะเดียวกันได้กลั้นลมหายใจ ยังไม่สามารถปฏิบัติการอย่างไรลงไปได้นอกจากรอคำสั่งจากนรากรเจ้าของแผนการ
“ไม่ต้องจ้องราวจะดูดกินเลือดกินเนื้อเขาเลยมาช่วยถอดเสื้อผ้ามันออกก่อนหน่อยสิ พี่จะถ่ายวีดีโอบันทึกภาพมันนอนแก้ผ้าเอาไว้”
“ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“เออสิวะ...ถอดออกหมดไม่ให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว”
ระหว่างชะเอมค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าภาณุวัฒน์ออก นรากรก็เก็บบันทึกภาพทุกอย่างไว้หมด
“เอาล่ะเอากุญแจมือที่สั่งให้ซื้อมาล็อคมือ ล็อคขามันไว้ก่อนกันผิดพลาด สก๊อตเทปปิดปากไว้เผื่อมันตื่นขึ้นมาตอนนี้”
“ทำไงต่อ”
ขอบคุณคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เห้อเมื่อไหร่ภูจะโดนเอาจริง ๆ ซักที ขอบคุณครับ เสียวไปคัฟ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ Happy ลุ้น ๆ มันส์ ๆ