บทหนึ่งของชีวิต ตอนแผนรัก…นักศึกษาฝึกงาน 1 จุดเริ่มต้น โดย Orama
บทหนึ่งของชีวิต ตอนแผนรัก…นักศึกษาฝึกงาน 1 จุดเริ่มต้น โดย Oramaชีวิตข้าราชการถ้าไม่จมอยู่กับกองเอกสารบนโต๊ะก็เข้าห้องประชุมกับคณะทำงานต่าง ๆแต่ละคนต่างพกวิชาความรู้และประสบการณ์มากันคนละแขนง เวลาประชุมทีถกเถียงกันเป็นบ้าเป็นหลัง แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้ ยิ่งถ้าคณะทำงานไหนมีคนมาจากหลายหน่วยงานยิ่งหนักประชุมทั้งวันยังหาข้อยุติไม่ได้ คนส่วนใหญ่เลยมองว่าข้าราชการไม่ทำงานผมได้รับมอบหมายให้ไปราชการเพื่อประชุมที่จังหวัดขอนแก่น ตอนแรกกะว่าจะเดินทางโดยเครื่องบิน แต่พอดูวันประชุมแล้วตรงกับวันพฤหัสบดี เดินทางไปวันพุธ ประชุมวันพฤหัสบดี เดินทางกลับวันศุกร์ แต่ถ้าเอารถไปเองได้เที่ยวต่อเสาร์อาทิตย์ และระยะทางระหว่างกรุงเทพขอนแก่นมีที่ให้แวะเที่ยวแวะพักมากมาย ไปราชการทั้งทีเอารถไปเองน่าจะสะดวกที่สุด“พี่จะให้หนูจองตั๋วเครื่องบินเลยมั้ย แล้วพี่จะไปเที่ยวไหน” น้องผู้ช่วยถามจองตั๋วเครื่องบินให้ผม“ไม่ต้องหรอกพี่ว่าจะเอารถไปเอง อยากฉลองรถใหม่ด้วยซื้อมาจะครึ่งปีแล้วเพิ่งวิ่งได้ไม่ถึง 5000 โลเลย เดี๋ยวก็จะเข้าศูนย์อีกแล้ว”“แต่พี่ไม่ได้ขออนุมัติเดินทางโดยรถส่วนตัวนี่คะ”“ไม่เป็นไรส่วนต่างที่เกินพี่รับผิดชอบเอง ถือโอกาสไปเที่ยวด้วย”ผมออกรถใหม่เป็น ฟอร์จูนเนอร์ เพราะคันเก่าเป็นรถเก๋ง ผมชอบรถอเนกประสงค์ พอรุ่นนี้ออกมาเลยประทับใจอีกสองสัปดาห์ผมต้องเดินทางไปราชการขอนแก่น วันนี้เลิกงานเลยมาเที่ยวห้างเพื่อหาซื้อเสื้อสักตัวสองตัว เดินดูของจนเหนื่อยเลยหาที่พักได้โต๊ะว่างที่ศูนย์อาหาร กำลังนั่งคิดว่าจะกินอะไรดี“หวัดดีครับพี่ต๊ะ”ผมเงยหน้าและรับไหว้แบบงง ๆ ว่าเด็กหนุ่มนักศึกษาคนนี้คือใคร “พี่ต๊ะมากินข้าวหรอครับ”“พี่มาซื้อของ”“ได้อะไรบ้างครับ”“ได้เสื้อโปโลมาสองตัว พอดีจะไปราชการที่ขอนแก่น”“พี่จะไปเมื่อไหร่ครับ”“อีกสองอาทิตย์”“บ้านผมก็อยู่ขอนแก่นครับ...แต่มาเรียนที่กรุงเทพ”ผมพยายามคุยไปนึกไปว่าผมไปรู้จักกับเด็กหนุ่มขอนแก่นคนนี้ที่ไหน ตอนไหน และเมื่อไหร่ จะว่าเมียเก่าก็ไม่ใช่แต่หน้าก็คุ้นมาก เหมือนเคยเห็น“บ้านอยู่ในเมืองหรอ”“ผมอยู่อำเภอพลครับ ไปเรียนมัธยมที่ตัวเมืองขอนแก่น แล้วมาต่อปริญญาตรีที่ราชภัฏ” น้องบอกชื่อสถาบันที่ตั้งอยู่แถวเขาดิน ผมเริ่มนึกขึ้นทีละนิดว่าผมเคยเจอที่ไหน เป็นนักศึกษาที่มาฝึกงานที่หน่วยงานผม แต่ฝึกที่งานบริหาร เพราะเรียนการจัดการมา เคยมาส่งหนังสือที่ฝ่ายผมครั้งสองครั้งมั้ง หรืออาจจะมากกว่าเพราะผมเองก็ส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องประชุม หรือไม่ก็ออกไปประชุมข้างนอก“ผมเจอพี่หลายครั้งแล้วครับแต่ไม่มีโอกาสได้สวัสดี อีกเดือนกว่า ๆ ก็จะฝึกเสร็จแล้ว”“มาฝึกงานตั้งแต่เมื่อไหร่”“ผมมาฝึกงานสองเดือนกว่าแล้วครับ เพิ่งจะมีโอกาสได้คุยกับพี่ต๊ะตัวเป็น ๆ ครั้งนี้เอง”“ส่วนใหญ่พี่จะอยู่แต่ในห้องประชุม”“ครับ ผมเคยไปช่วยพี่เขาจัดกาแฟด้วยเห็นพวกพี่เถียงกันหน้าดำค่ำเครียด ที่นี่ประชุมเยอะนะครับ”“ก็แทบทุกวัน เดี๋ยวคณะนั้นประชุม เดี๋ยวคณะนี้ประชุม”“เครียดตายเลย”“ก็มีบ้างที่เครียด แต่ชินมากกว่า”“ผมเห็นหนังสือขออนุมัติเดินทางพี่แวบ ๆ พี่ไปคนเดียวหรอครับ”“ไปคนเดียว ตอนแรกพี่ว่าจะไปเครื่องบิน แต่เปลี่ยนใจจะขับรถไปเอง เพราะจะได้เที่ยวระหว่างทางด้วย”“จริงหรือครับ ผมขอไปด้วยได้มั้ยครับ ผมไม่ได้กลับบ้านจะปีนึงแล้ว”“เฮ้ย...จริงดิแล้วเราไม่ฝึกงานหรอ”“ถ้าพี่ให้ผมไปด้วยผมก็ว่าจะขอลาสักสามวันนะครับ เพราะตั้งแต่ฝึกงานมาผมไม่ได้หยุดไม่ได้ลาเลยครับ”“เด็กดีจริง ๆ แล้วมาฝึกกันกี่คน”“มากัน 3 คนครับ มีเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน อยู่บริหารกับผมคนนึง และไปช่วยที่ฝ่ายมาตรฐานกฎหมายคนนึงครับ” เราคุยกันเรื่อยเปื่อย จากเท่าที่ได้พูดคุยถือว่าน้องคนนี้นิสัยโอเค หน้าตาน่ารักผิวขาวเหลือง สูงพอ ๆ กับผมรูปร่างไม่อ้วนไม่ผอม สมส่วน บุคลิกก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป หน้าตาก็ไม่เหมือนคนอีสานกระเดียดไปทางเชื้อสายจีนมากกว่า จมูกไม่ถึงกับโด่งปีกจมูกไม่บาน ตาออกจะตี๋นิด ๆ รูปหน้าเรียว แต่ที่โดดเด่นคือปากสีชมพูได้รูปเวลาพูดแล้วมองเพลิน“พี่ต๊ะครับ” ผมตื่นจากภวังค์“เออ............มีไรครับ”“ผมเรียกพี่ตั้งหลายครั้ง......เออ พี่เคียดหรือเปล่าครับที่ผมจะขอไปด้วย ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ”“ปะ เปล่า....กำลังคิดว่ามีเจ้าถิ่นไปด้วยจะได้ให้ช่วยวางแผนว่าเที่ยวตรงไหน กินตรงไหนดี”“อ๋อ..........เออ....ผมรบกวนพี่หรือเปล่าครับ”“ไม่หรอกดีเสียอีกพี่จะได้มีเพื่อนคุยแก้ง่วง ระทาง 400 กว่าโลก็ขับรถเมื่อยเหมือนกันนะ ว่าแต่เราขับรถเป็นมั้ย”“เป็นครับ”“งั้นดีเลยจะได้ช่วยพี่ขับด้วย พี่จะได้นอน”“สบายมากเลยครับ”“กินอะไรมาหรือยัง”“ยังครับ”“งั้นไปหาอะไรกิน”“ไม่รบกวนพี่ดีกว่าครับ ผมมากับเพื่อน ๆ”“แล้วเพื่อน ๆ ไปไหนล่ะ”“ไปดูเครื่องสำอางค์ครับ ผมเลยมารอที่นี่”“ไม่เป็นไร ไปทั้งสามคนเลย พี่เลี้ยงเอง”“ป้อง ป้อง” เด็กหนุ่มหันไปตามเสียงเรียก เป็นนักศึกษาสาว สองคน แต่งกายเรียบร้อย สงสัยจะเป็นเพื่อนที่มาฝึกงาน “เฮ้ยทางนี้”ผมนั่งคุยกับน้องเขาอยู่นาน ว่าจะถามชื่อแต่ไม่กล้า ตอนนี้รู้แล้วว่าน้องเขาชื่อป้อง“นั่งก่อนนี่พี่ต๊ะ”“หวัดดีค่ะพี่”“คนนี้จอย และคนนี้แอนครับ ที่มาฝึกงานกับผม”“ยินดีครับ”“ได้อะไรมาบ้างว๊ะ”“แพงโคตร....ซื้อไม่ไหวว่ะ” น้องแอนหน้าตาจิ้มลิ้มผิวขาวสวยสมวัย“สำหรับกูธรรมชาติให้มาเท่าไหร่กูก็ของามแค่นั้นแหละ” ส่วนน้องจอยผิวน้ำตาลเหลือง แต่ผิวเนียนมาก หน้าตาออกไปทางแขก คิ้วดก ตาโต“พี่ต๊ะชวนไปกินข้าว”“กูสองคนขอบาย จะทุ่มอยู่แล้ว”“เฮ้ยไปด้วยกันดิ”“ไม่ไหว มึงไปเถอะบ้านมึงอยู่แค่สวนผักเอง”“อ้าวป้องพักแถวสวนผักหรอ”“ครับ เป็นหอพักรวม หารกันกับเพื่อน ๆ 4 คน ตอนแรกก็พักแถวราชภัฏ แต่สู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหวเลยมาหาที่พักแถวนั้นครับ ส่วนเพื่อนสองคนนี้พักแถวดอนเมือง”“มึงไปกินกับพี่เขาเถอะ กูสองคนขอตัว เมื่อยขาด้วย นี่กว่าจะยืนเกาะรถเมย์ถึงหอก็คงน่องโป่ง”“งั้นเอาไว้โอกาสหน้าหนูสองคนจะรับเลี้ยงค่ะสัญญา แต่วันนี้หนูสองคนขอตัวก่อน”“ตามสบายครับ”“พรุ่งนี้เจอกันแก” สองสาวหันมาตบบ่าป้องแล้วเดินออกไปเพื่อกลับบ้าน“แล้วเราสองคนจะกินอะไรดี พี่เริ่มหิวแล้ว”“อะไรก็ได้ครับ”“งั้นไปสั่งให้พี่จานนึง”“สั่งอะไรครับ”“ก็สั่งอะไรก็ได้เมื่อกี้ไง เผื่อพี่จานนึง”ป้องยังทำหน้า งงๆ“เออ.....ผมหมายถึงทานอะไรก็ได้ครับ พี่ทานอะไรผมก็ทานอย่างนั้น”“ที่พี่ถามเพราะต้องการขอความคิดเห็น ว่าจะกินอะไรดี”“เออ...ผมขอโทษครับ”“แล้วตกลงกินอะไรดี”“เออ...พี่ต๊ะชอบแบบปิ้งย่างมั้ยครับ”“โห....ทุ่มกว่าแล้วไปกินปิ้งย่าง กว่าจะกินอิ่มถึงเวลาห้างปิดพอดี”“งั้น...ก็พาสฟูดที่นี่”“ดูแต่ละร้านซิคิวยาวมาก รอไม่ไหว”“งั้น...เอ็มเคสุกี้มั้ยครับ”“กว่าน้ำจะเดือด หิวตายพอดี”“โหพี่...............................”“5555555555555555555 ไปๆเดี๋ยวพี่พาไป”ผมลุกขึ้นเดินนำหน้าป้องเพื่อไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง จะมีอาหารเป็นชุดให้เลือก ผมเองชอบกินปลาซาบะ ผมเลือกได้ที่นั่งข้างฝาเป็นชุดโซฟา ขนาด 4 ที่ พนักงานมายื่นเมนูให้เราทั้งสองคนละเล่ม“อยากกินอะไรเลือกเลยนะ”“โห...มีแต่แพง ๆ ทั้งนั้นเลยพี่”“เอาน่ากินไปเถอะ ถือเสียว่าพี่จ่ายค่าขับรถล่วงหน้า”“พี่ก็พูดเกินไป ผมเสียอีกที่ต้องจ่ายค่ารถ”“เอาน่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน ตอนนี้กินก่อนเดี๋ยวห้างปิด”เราสองคนเลือกได้อาหารคนละชุด ผมเลือกแบบมีปลาซาบะย่างซีอิ้ว ส่วนป้องเลือกแบบมีเท็มปุระเราสองคนต่างสนใจแต่อาหารเพราะหิวแทบตาลาย ต่างคนต่างก้มหน้ากิน เงยหน้ามามองตากันบ้างเป็นระยะ กินเสร็จประมาณสองทุ่มครึ่ง“เรากลับยังไง ไปเดี๋ยวพี่ไปส่ง”“พี่พักแถวไหนครับ”“พี่พักแมนชั่น.....................” “อ๋อ.........พี่ส่งผมตรงนั้นก็ได้ครับเดี๋ยวผมขึ้นรถสองแถวไปที่หอเอง”“เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่า”“ไม่ต้องหรอกครับ แค่ 3 บาทส่งถึงที่ รบกวนพี่เปล่า ๆ”“เอางั้นก็ได้”ผมขับรถออกจากห้างจนมาจอดที่แมนชั่น จอดรถเรียบร้อย โดยเราสองคนไม่ได้คุยอะไรกันเลย“ขอบคุณครับ สำหรับอาหารมื้อค่ำวันนี้” น้องป้องยกมือไหว้ขอบคุณ“ไม่เป็น กลับบ้านดี ๆ ล่ะพรุ่งนี้เจอกัน”“หวัดดีครับ” น้องป้องยกมือไหว้อีกครั้งก่อนที่จะเดินออกไปหน้าแมนชั่นเพื่อรอรถสองแถวไปยังสวนผักผมเองก็เพิ่งรู้ว่ามีรถสองแถวจากหน้าแมนชั่นผมเข้าไปในสวนผักด้วย เพราะผมไปไหนก็อาศัยไปกับรถหลวง หรือไม่ก็เดินทางโดยรถส่วนตัว*******************************หลังจากวันนั้นผมออกประชุมนอกสถานที่ตลอด ออกจากที่ทำงานตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง กว่าจะกลับถึงที่ทำงานก็หกโมงเย็นแทบทุกวัน แทบไม่เจอหน้าเพื่อน ๆ ที่ทำงานเลย เวลา 7.00 น. ของวันจันทร์ขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวไปประชุมที่กรม น้องผู้ช่วยเข้ามาหาอย่างรีบด่วน“เกือบไม่ทัน”“มีไร”“เมื่อวานโทรไปหาพี่ที่อพาร์ทเม้น เขาบอกพี่ยังไม่กลับ เมื่อไหร่พี่จะซื้อมือถือ หนูติดต่อพี่ยากมาก”“ซื้อมาแล้ว”“งั้นเอาเบอร์มา”“หายไปแล้ว”“อะไรนะ”“พี่ซื้อมาได้ไม่ถึงเดือน ไม่มีใครโทรหาเลยไม่รู้ไปลืมไว้ที่ไหน”“ก็พี่ไม่ให้เบอร์เขาแล้วเขาจะโทรหาพี่ได้ไง”“ก็ไม่มีใครขอ ........มีอะไรว่ามาพี่จะรีบไปประชุมที่กรม”“ก็เรื่องนี้แหละเมื่อวานเขาแจ้งยกเลิก เลื่อนไปไม่มีกำหนด เพราะอธิบดีเดินทางไปต่างประเทศ”“อ้าว...................”“ไม่อ้าวล่ะ”“แล้วของพรุ่งนี้ด้วย เพราะอธิบดีเป็นประธานเหมือนกัน....โอ้ย...........เหนื่อย”“ก็ใครเขาจ้างให้แกวิ่งมาล่ะ”“นี่ขนาดหนูวิ่งมาแบบไม่หายใจ...ยังแทบไม่ทันพี่ต๊ะ”“เซ็งเลยไปไหนดีกว่า”“แหมพี่......ใจคอพี่จะไม่อยู่สำนักงานให้น้อง ๆ มันชื่นชมสักวันหรอทุกวันนี้คนที่นี่เขาแทบจำหน้าพี่ไม่ได้แล้ว”“เอ็งก็เวอร์ไป”“จริง ๆ ผอ.ยังถามหาเลยว่าพี่ไปไหน ไม่เห็นหน้า”“ก็ ผอ.ไม่ใช่หรอที่มอบให้พี่ไปประชุม”“แกคงลืมแหละ...โอ้ยไปล่ะหิวข้าว ไปหาข้าวเช้ากินกันมั้ยพี่”“ไม่ล่ะ เดี๋ยวหากาแฟกินดีกว่า”“ตามใจ......งั้นหนูไปล่ะ”ผมกลับไปที่โต๊ะวางเอกสารเตรียมประชุมโครมอย่างเซ็ง ๆ สงสัยต้องซื้อมือถือใหม่อีกแล้ว พอวางกระเป๋าเอกสารบนโต๊ะเสร็จผมก็เดินไปที่มุมกาแฟเพื่อหากาแฟกิน“พี่ต๊ะ พี่ต๊ะ อยู่มั้ย”“ว่าไงเจน พี่อยู่นี่” เจนหัวหน้างานบริหารทั่วไป“คือที่พี่จะไปขอนแก่นพี่เอารถไปเองใช่ปะ”“ใช่......แต่พี่ก็เบิกค่าเดินทางเป็นรถทัวร์ปกตินั่นแหละ” สมัยนั้นให้เบิกค่าเดินทางด้วยรถทัวร์ระดับ VIP ตามราคาของขนส่งโดยไม่ต้องแนบหางตัวเบิกส่วนการเดินทางโดยเครื่องบินต้องระดับผู้บริหารเท่านั้นหรือเหตุจำเป็นจริง ๆ และต้องใช้หางตั๋วมาแนบเบิก ถ้าใครจะเดินทางโดยเครื่องบินก็ต้องยอมจ่ายส่วนต่างเอง ซึ่งผมเองก็ทำบ่อยเพราะไม่อยากเสียเวลาเดินทาง ตอนแรกครั้งนี้ก็คิดว่าจะไปเครื่องแต่คิดไปคิดมาอยากเอารถส่วนตัวไปขับทางไกลดูบ้างถือโอกาสเที่ยวด้วย แต่ก็มาทำเบิกเป็นค่ารถทัวร์ปกติ“ไม่ได้ว่าอะไร คือเจ้าป้องน้องนักศึกษาฝึกงานมันมาขอลา 3 วันแล้ว หนูถามว่าไปไหนเพราะมันไม่เคยลาเลย ทั้งที่เพื่อน ๆ ที่มาด้วยกันลาไปหลายครั้งแล้ว มันบอกว่าอยากจะกลับบ้านที่ขอนแก่น เพราะไม่ได้กลับมาเกือบปีแล้ว เห็นว่าพี่จะไปขอนแก่นพอดี หนูเลยจะมาขอพี่ให้พามันไปด้วย”“อ๋อ......ได้ ๆ นึกว่าเรื่องอะไร”“มันเป็นเด็กดี ขยันขันแข็ง เอ็นดูมันนะพี่ อีกอย่างมาฝึกงานสองเดือนกว่าแล้วไม่มีลาไม่มีขาด ไม่มีสายเลย”“อืม........” จะบอกว่าผมกับไอ้ป้องคุยกันแล้วก็กระไรอยู่เดี๋ยวเจนจะคิดว่าข้ามหน้า เลยนิ่งเสียตำลึงทอง“แค่นี้แหละขอบคุณมากพี่ หนูไปทำงานล่ะ”“จ้า.................”ผมหากาแฟกินต่อ นั่งจิบกาแฟไปเรื่อย ๆ ประมาณแปดโมงกว่า ๆ ป้องเดินเข้ามาหา“หวัดดีครับพี่ต๊ะ”“หวัดดีครับ ว่าไงป้อง”“ผมมาหาพี่ทุกวันเลยครับ”“มาหาพี่ทำไม...มีอะไรหรอ”“ก็เรื่องที่จะไปขอนแก่นนะครับ ผมไม่รู้ว่าพี่จะยอมให้ผมไปด้วยมั้ย”“55555555555 ทำไมคิดว่าพี่ไม่ยอมล่ะเราคุยกันแล้วนี่”“ก็เห็นพี่เงียบไป”“ทำยังกะพี่อยู่สำนักงานงั้นแหละ”“ผมขอลากับพี่เจนแล้วครับว่าจะกลับบ้านที่ขอนแก่น พี่เจนเลยบอกจะมาขอพี่ให้ผมอาศัยติดรถไปด้วย”“พี่เจนมาบอกพี่แล้ว อีกอย่างพี่บอกให้ไปก็ไปดิ 5555555555555”“ก็ไม่แน่ใจนะครับ เพราะไม่เจอพี่เลยตั้งแต่วันนั้น จะโทรไปที่แมนชั่นก็ไม่กล้า”“พี่ออกไปประชุมทุกวัน กลับค่ำด้วย”“ผมไปดักรอพี่ที่แม่นชั่นด้วย”“เฮ้ย....ถึงขนาดนั้นเลยหรอ 555555555555555”“ผมดีใจมากเลยครับที่จะได้กลับบ้าน พอไม่เจอพี่ผมนอนไม่หลับมาหลายคืน”“โถเด็กหนอเด็ก....ให้ไปด้วยครับ”“แล้วจะออกกี่โมงครับ”“วันพุธเราพร้อมกี่โมงก็ไปหาพี่ที่แมนชั่นเลย เดี๋ยวขับออกไปทางบางบัวทอง”“งั้นสัก 8 โมง”“เฮ้ยเช้าไปมั้ย สัก 10 โมงก็ได้ วันพุธวันเดินทางไม่มีอะไร”“ได้ครับ...ขอบคุณครับ” เจ้าป้องคุยเสร็จก็ขอตัวไปทำงานต่อ ผมก็เครียงานบนโต๊ะ เพราะสองวันนี้งานประชุมโดนยกเลิก ก็มีเวลาเครียงานบนโต๊ะ ก่อนหายไปอีก 3 วัน**************************วันพุธ 10 โมงตรงผมลงมาที่ร็อบบี้ของแมนชั่น เห็นเจ้าป้องนั่งหน้าแป้นตรงโซฟา “หวัดดีครับพี่ต๊ะ”“รอพี่นานมั้ย ทำไมไม่โทรบอก”“หนูจะโทรบอกแล้วค่ะแต่น้องเขาบอกว่าไม่ต้องเพราะนัดพี่ไว้ 10 โมง”เจ้าหน้าที่ของแมนชั่นรายงาน ผมกับน้องเจ้าหน้าที่ก็จะสนิทสนมกันเป็นพิเศษ แต่จริง ๆ แล้วผมก็สนิทกับเจ้าหน้าที่แมนชั่นทุกคนแหละครับไม่เว้นแม้แต่ รปภ. เพราะเวลาผมไปไหนมาไหนเห็นของกินอร่อยก็ติดไม้ติดมือมาฝากประจำ หวังจะให้ช่วยดูรถที่จอดลานหน้าแมนชั่นด้วย “ผมมาถึงก่อนแป็บเดียวเองครับ” เจ้าป้องรีบลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อมเจ้าป้องนุ่งกางเกงยีนส์เข้ารูปขาทรงกระบอก ใส่เสื้อยืดโปโลสีออกฟ้าอ่อน ๆ ใส่รองเท้าผ้าใบ มีกระเป๋าเป้ใบใหญ่มา 1 ใบ กับกระเป๋าสะพายในเล็กที่คล้องบ่า 1 ใบส่วนผมใส่เสื้อยืดคอกลม และนุ่งกางเกงวอร์มหลวม ๆ เพราะถ้านุ่งกางเกงยีนส์ผ้าแข็ง ๆ แล้วนั่งนาน ๆ มันจะแน่นอึดอัดจนเป็นตะคิวได้ง่ายเวลาขับรถไกล ๆ เลยชอบนุ่งผ้ายืดหลวมหรือเป็นกางเกงวอร์ม มันนั่งสบายดี ไม่อึดอัด แต่ก็ตามสบายชอบใครชอบมัน“ไปขึ้นรถ”“เดินทางปลอดภัย แล้วอย่าลืมของฝากนะพี่” “จ้า ดูแลตึกให้ดี ๆ ล่ะ.......อย่าให้ใครมาขโมย”“จะบ้าหรอ...ใครจะมาขโมยตึก”“555555555555555555555”ผมกับป้องขับรถออกมาทางบางบัวทองไปทางถนนสาย 9 เพื่อตีออกวงแหวนบางประอิน แล้วมุ่งหน้าไปสระบุรี“เป็นไรเงียบเชียว” พอเข้าสู่ถนนหลักผมก็เอ่ยถามป้อง“ก็ไม่รู้จะคุยอะไรนะครับ กลัวทำให้พี่ต๊ะเสียสมาธิในการขับรถ”“เวลาขับรถไปไหนมาไหนแล้วมีคนคุยเป็นเพื่อนมันจะไม่ทำให้ง่วง”“ก็..............”“55555555555555555 ว่าแต่เราหิวหรือยัง เดี๋ยวแวะกินสเต็กที่โชคชัยดีกว่า”ผมขับรถมาถึงปากช่องเวลาประมาณ เที่ยงกว่า ๆ เลยแวะกินสเต็กร้านดัง เราแวะกินสเต็กกันประมาณชั่วโมงกว่า ๆ เสร็จแล้วผมก็ขับรถมุ่งหน้าเข้าโคราชเพื่อเดินทางไปขอนแก่น ขับออกมาได้ไม่นานสังเกตเห็นเจ้าป้องขยับไปขยับมา“ปวดฉี่หรอ แวะปั๊มมั้ย”“ไม่ปวดครับ”“เห็นขยับไปขยับมา ถ้าง่วงก็นอนได้นะ”“ไม่ได้ง่วงครับ แต่กางเกงยีนส์นั่งนาน ๆ แล้วมันอึดอัด”“พี่ก็ว่าจะทักตั้งแต่แรกแล้ว ดูพี่ดิแต่งตัวแบบหลวม ๆ สบาย ๆ”“แวะปั๊มเปลี่ยนมั้ย มีชุดมาหรือเปล่า”“มีแต่กางเกงกีฬาขาสั้นครับ”“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ อยู่บนรถเรายังไงก็ได้จะได้นั่งสบาย ๆ เพราะอีกนานกว่าจะถึง”“ได้ครับ” ผมขับรถมาอีกหน่อยก็ถึงปั๊มน้ำมันเลยแวะจอดทำธุระส่วนตัว แล้วให้เจ้าป้องเปลี่ยนกางเกงด้วยผมออกมาจากห้องน้ำเห็นเจ้าป้องนุ่งกางเกงบอลสีดำ ตัดกับขาที่ขาว ขาผู้ชายทำไมมันเรียวขนาดนั้น ผมนึกอยู่ในใจ“ซื้ออะไรไปกินมั้ย”“ยังอิ่มตื้ออยู่เลยครับ อีกอย่างน้ำอัดลม กับน้ำดื่มยังมีในรถอยู่หลายกระป๋อง”“ถ้าพร้อมก็ไปเลย”ผมขับรถแวะข้างทางมาเรื่อย ๆ แบบไม่รีบจนจะเข้าเขตอำเภอพลเวลาประมาณ บ่ายสามกว่า ๆ “เดี๋ยวเลยไฟแดงแล้ว ชิดซ้าย จะมีศาลาท่ารถพี่ต๊ะส่งผมตรงนั้นเลยครับ”“อ้าว...บ้านเราไม่อยู่ในตัวอำเภอหรอ”“เปล่าครับออกจากอำเภอไปอีกประมาณ 20โล และจะมีรถสองแถววิ่ง 30 นาทีคันนึง”“แล้วเราจะกลับกับพี่ด้วยมั้ย”“เดี๋ยววันกลับผมจะมารอพี่ที่ศาลาครับ”“โห...........กะจะหาไกด์นำเที่ยว สุดท้ายก็เที่ยวคนเดียวตามเคย”“เออ....พรุ่งนี้พี่ประชุมนี่ครับ”“เลิกประชุมไม่รู้จะไปไหนเหมือนกัน”“งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้บ่าย ๆ ผมจะเข้าเมืองพาพี่ต๊ะเที่ยวก็ได้ครับ”“ผมดูนาฬิกาที่รถยังมีเวลาอีกเยอะเพราะจากอำเภอพลถึงขอนแก่นก็ไม่ไกล อีกอย่างวันนี้ก็ไม่มีโปรแกรมทำอะไรถึงค่ำหน่อยก็ไม่น่าจะเป็นอะไร“เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปส่งเราที่บ้าน ขากลับเดี๋ยวพี่ไปรับที่บ้านจะได้ไม่ต้องมานั่งรอที่ศาลา”“เออ.......”“ไม่ต้องเออ...........บอกทางมาแล้วกันว่าจะให้พี่ไปทางไหน”“ขอบคุณครับ” เจ้าป้องยกมือไหว้ผมอย่างซาบซึ้ง แทบจะกราบบนอกเลยก็ว่าได้”“พี่ขับตรงไปก่อนเดี๋ยวจะเห็นสี่แยกไฟแดงแล้วพี่เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งตรงอีกประมาณ 10 กว่าโลก็จะมีทางเข้าหมู่บ้านครับ”“โอเค......ตามนั้น”ผมพอรู้จุดหมายก็ขับออกไปตามที่เจ้าป้องบอก พอถึงทางเลี้ยวเข้าหมู่บ้านจะเป็นถนนลาดยางมะตอยประเภทรถวิ่งได้คันนึงแบบสบาย ๆ ถ้าจะมีการวิ่งสวนกันคันนึงต้องหลบลงข้างทางเล็กน้อยจากถนนใหญ่เข้ามาอีกประมาณ 2 กิโลก็เห็นหมู่บ้าน“หมู่บ้านนี้แหละครับ เดี๋ยวพี่ต๊ะตรงไปจะเจอวัด แล้วเลี้ยวขวาตรงวัด วิ่งไปอีก 500 เมตรก็ถึงบ้านผมครับ”ผมขับรถไปตามทางที่เจ้าป้องบอกจนมาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านสองชั้น ขนาด 2 ห้องมีบริเวณบ้านโดยรอบชั้นล่างก่ออิฐบล็อกโดยไม่ทาสี แต่ชั้นสองเป็นไม้ทาสีน้ำตาลแดง ๆ แต่ดูจากสภาพแล้วน่าจะทามานาน ประตูบ้านปิดสนิท“อ้าวไปไหนกันหมด...สงสัยอยู่ในสวน”“แม่ แม่ ยูบ่ครับไปใสหมด”“อ้าวบักป้อง เมือบ้านติหำ”“ครับป้า ป้า.....พ่อกับแม่ผมไปใส”“เห็นว่าเราพาบักป้อมไปสมัครอีหยังนี่แหละ”“ไปมื่อได”“ไปมื่อเซ่านี่อีกจักสองสามมื่อพุ้นแหละยังจิกลับ คือบ่บอกกอนว่าจิมา แม่เราบ่ฝากกุญแจไว้นำ”ผมก็ลูกอีสานฟังภาษาออก มองเห็นสีหน้าป้องแล้ว“จิเฮ็ดจังใด ไปนอนบ้านป้าก่อน แล้วจิกลับมือใดล่ะ”“ผมมาสองสามมื่อครับ มากับหัวหน้าเพิน เพินมาประชุมที่ขอนแก่น เลยอาศัยขอกลับมาบ้านนำ บ่ได้มาเกือบปี อุตส่ามาเลยบ่ได้พ้อกันซ้ำ”“หวัดดีครับป้า” พอป้องเอ่ยถึงผม ผมจึงยกมือไว้ป้า ตอนแรกก็ว่าจะยกมือไหว้แต่ไม่มีจังหวะแทรก“ปาดดดดดดดดดดดด คนกรุงเทพคืองามคักเนาะ” ป้าเดินเข้ามาจ้องผมเต็ม ๆ “ขอบคุณครับ”“งั้นไปนอนบ้านป้าก็ได้แล้วค่อยกลับ”“เออ..........” ป้องเกิดอาการลังเล“เอางี้ดีมั้ยป้อง ไปนอนกับพี่ที่ขอนแก่น จะได้ช่วยพี่เรื่องประชุมด้วย ขากลับค่อยแวะหาพ่อกับแม่อีกที”“มันจะดีหรือครับ รบกวนพี่ต๊ะเปล่า ๆ” “อยู่นี่เราก็เข้าบ้านไม่ได้ แถมไม่เจอพ่อกับแม่อีก ไปโน่นได้ช่วยพี่ด้วย”ป้องคิดอยู่นานก่อนที่จะบอกว่า“งั้นผมไปพักที่ขอนแก่นดีกว่านะป้า เดี๋ยวขากลับผมจะแวะมาหาพ่อกับแม่อีกที”“เอาจังซั่นก็ได้ แล้วแต่โต๋”“งั้นผมลาละครับป้า” ผมยกมือไหว้ป้า เจ้าป้องก็ยกมือลาแล้วขึ้นมานั่งบนรถด้วยสีหน้ากังวล“กังวลเรื่องอะไรป้อง”“เออ....ผมกลัวจะเป็นภาระพี่ต๊ะนะครับ แค่อาศัยมาด้วยก็รบกวนมากแล้ว”“พี่บอกแล้วไงว่ายินดี อย่าคิดมาก” “ขอบคุณอีกครั้งครับ”ผมขับรถออกมาจากหมู่บ้านแล้วเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองขอนแก่นทันที โดยมีเจ้าป้องนั่งเงียบมาตลอดทาง“เงียบจัง ยังคิดเรื่องบ้านอยู่หรอ”“เปล่าครับ คือผม..........เออ..............”ผมเดาว่าคงเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายแน่ ๆ “เรื่องกินอยู่ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่รับผิดชอบเอง พี่ได้เบี้ยเลี้ยงมาด้วยนะ”“รบกวนพี่ต๊ะมากเลยครับ แต่ผมก็มีเงินติดตัวมาไม่มาก กะว่าจะมาขอพ่อกับแม่ด้วย” “555555555 นึกว่าเรื่องอะไร”“พี่ต๊ะง่ะ...........หัวเราะทำไมครับ”“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก เดี๋ยวพี่ให้กู้........คิดดอกไม่แพง”“ผมซีเรียสนะครับ”“ตอนกลับค่อยว่ากัน ตอนนี้ทำตัวให้สบาย อย่าคิดมาก”“เออ... ครับ”“ว่าแต่เมื่อกี้พ่อกับแม่พาใครไปไหน”“อ๋อ...ไอ้ป้อมครับ น้องชายผมเองครับ สงสัยพ่อกับแม่พาไปหาสอบชิงทุน เพราะมันเรียนเก่ง ชอบสอบชิงทุนต่าง ๆ” “เรียนชั้นไหน”“ม.3 ครับ”“เรามีพี่น้องกี่คน”“มี 3 คนครับ ลูกชายล้วน มีน้องชายอีกคนไอ้ป็อก อยู่ ป.5”“อ๋อตระกูล ป. 55555555555”หลังจากป้องคลายกังวลทุกประเด็นทีนี้ก็พูดเป็นต่อยหอย เสียงเจื้อยแจ้ว ทั้งเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องฝึกงาน เรื่องครอบครัว ผมหันไปดูปากได้รูปขยับไปมาหลายครั้ง มองแล้วก็เพลินดีผมถึงตัวเมืองขอนแก่นประมาณทุ่มนิด ๆ เพราะขาเข้ารถค่อนข้างติด อีกอย่างขับหลงทางด้วย ทั้งเจ้าถิ่น ทั้งคนต่างถิ่น บอกทางกันมั่วไปหมด กว่าจะหาโรงแรมเจอ ขอบคุณครับ สนุกมากเลยครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากนะครับ รอตอนต่อไปนะครับ{:5_130:} ขอบคุณครับ ลุ้นๆใครจะเริ่มก่อนนะ
รออ่านต่อไป
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปนะครับ ขอบคุณครับ สนุกมากเลยครับเรื่องนี้ ขอบคุณครับ คราวนี้ไม่ทัน ขอบคุณครับ เรื่องนี้เกิดเมื่อกี่ปีมาแล้วหรือครับ สนุกคับ จะได้กินป้องแบบไหนนะ รอลุ้น