tor_8915 โพสต์ 2020-4-30 16:53:24

รักเร่ร่อน...ของคนจรจัด...ตอนพิเศษ bymod-cup

ตอนพิเศษวันลอยกระทง



“ไม่โกรธใช่ไหม” คนตัวใหญ่เข้าสวมกอดผมจากด้านหลังให้ผมที่ออกมานั่งพักขาหันไปยิ้มให้เต็มแก้ม


“ไม่หรอกเล็กไม่ใช่คนงี่เง่านะ”


ฟอด


“ขอบคุณครับ”


แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว แค่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้


ใหญ่คงกังวลกลัวว่าผมจะโกรธเรื่องที่ไม่ได้พาไปลอยกระทงทั้งที่เป็นวันลอยกระทงปีแรกของเรา แต่ที่ทุกอย่างต้องผิดพลาดไปหมดเนื่องจากว่าร้านอาหารของใหญ่ขาดคนพนักงานลาหยุดพร้อมกันจนคนไม่พอ ไอ้ครั้นจะปิดร้านของก็ซื้อมาหมดแล้ว ทีแรกใหญ่ก็คิดจะปิดแต่เป็นผมที่คัดค้านเอาไว้


ของที่ซื้อมาก็คือเงิน ปิดร้านเท่ากับของเสียก็เหมือนกับทิ้งเงินแล้วผมจะให้เขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร


สุดท้ายแล้วในคืนพระจันทร์เต็มดวงส่องสว่างขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 เราสองคนรวมกับนายปาวพนักงานอีกหนึ่งก็หัวหมุนกับงานที่ร้าน โดยมีพ่อครัวหัวป่าคือนายหมาตูบที่ห่างหายจากการโชว์ฝีมือไปนานหลังจากจ้างเชฟฝีมือดีมาประจำที่ร้าน ส่วนผมกับน้องปาวก็ช่วยเสิร์ฟกับรับออเดอร์เรียกได้ว่าขาลากเลยล่ะครับ


แต่พอเห็นรอยยิ้มของเหล่าลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นที่มากันแบบคู่รักมากับเป็นกลุ่มก๊วนเพื่อนฝูง หรือยกกันมาเป็นครอบครัวก็ทำให้ผมหายเหนื่อยได้ ยิ่งถูกชมเรื่องรสชาติอาหารว่าอร่อยถูกปากผมนี่ยิ้มแก้มปริ พลังงานเหลือเฟือให้เดินเสิร์ฟทั้งคืนก็ไหว


แต่ใหญ่ก็แซวนะบอกว่าแค่ร้านเปิดเที่ยงตรงถึงสี่ทุ่มก็แย่แล้ว เพราะกว่าจะทำความสะอาดปิดร้านเสร็จก็ปาไปเที่ยงคืน เรียกได้ว่าเดินขาลากกลับบ้านคลานขึ้นเตียงกันเลยทีเดียว


จะดีหน่อยที่กลับบ้านมาหลังจากอาบน้ำเสร็จเตรียมตัวจะเข้านอน จะมีหมอนวดตัวใหญ่เอากะละมังใส่น้ำอุ่นมาแช่เท้าพร้อมบีบนวดให้รู้สึกผ่อนคลาย แม้ผมจะบอกว่าไม่ต้องเพราะใหญ่ก็เหนื่อยเหมือนกันเผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ใหญ่ก็ไม่เคย...ที่จะละเลยหรือไม่ใส่ใจกัน...


“ไว้พรุ่งนี้ผมจะปิดร้านแล้วเราไปลอยกระทงกันนะ” ใหญ่โยกตัวผมไปมาในอ้อมกอดพลางพูดเสียงนุ่มผมยิ้มบาง ซุกหน้าลงกับแผงอกอุ่น ส่ายหน้าไปมา


“ไม่ต้องหรอกเสียดาย”


“ผมไม่สนใจเงินเท่าความสุขคุณหรอก...”


“เปล่าเล็กไม่ได้หมายถึงเรื่องเงิน”


“...??” ใหญ่ผละมาขมวดคิ้วจ้องหน้าให้ผมยื่นปลายนิ้วไปสัมผัสแผ่วบนแก้มสากพร้อมกับส่งยิ้มละมุนไปให้


“เล็กเสียดายรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ของคนที่มากินอาหารร้านเรา เล็กมีความสุขนะเวลาเดินผ่านโต๊ะต่างๆแล้วได้ฟังเรื่องเล่าว่าไปลอยกระทงกันที่ไหนมา ไปกับใคร มีอะไรน่าตื่นเต้นบ้างมันเหมือนกับเล็กได้ไปกับพวกเขาด้วย”


มันเป็นเรื่องที่สำหรับบางคนอาจจะอิจฉาว่าทำไมเราไม่มีโอกาสอย่างเขาบ้าง คนบางคนที่แม้แต่เวลาว่างสิบนาทีเพื่อเจียดเวลาไปลอยกระทงกับครอบครัว เพื่อนฝูงหรือแม้แต่คนรักก็ยังไม่ได้เนื่องจากข้อจำกัดมากมายของชีวิต แต่สำหรับผมแล้ว...ความสุขหาได้รอบตัวอยู่ที่เราจะเลือกมองมุมไหนต่างหาก


“แต่ลอยกระทงครั้งแรกของเรา...”


“เอาไว้พนักงานที่ลากลับมาทำงานเราค่อยไปก็ได้เนอะ ^^” ใหญ่เจอรอยยิ้มพิฆาตละลายใจของผมเข้าไปจะต้านทานไหวเหรอ สุดท้ายก็ต้องตามใจแถมท้ายด้วยหอมกระหม่อมอุ่นๆอีกหนึ่งที


“คุณใหญ่...พี่เล็ก...” ผมหันไปตามเสียงก็เจอกับหนุ่มน้อยวัยสิบแปดปีพนักงานเสิร์ฟของร้านที่ขยันทำงานไม่สายไม่ลาจนเป็นที่เอ็นดูของทั้งผมและใหญ่ เพียงแค่ใหญ่ไม่แสดงออกเท่านั้น


“ว่าไงปาว” ผมผละออกจากอ้อมแขนอุ่นเดินแยกมาหาปาว


“ผมเก็บร้านเสร็จแล้วยังไงขอตัวกลับก่อนนะครับ”ปาวยกมือไหว้ลา


“กลับดีๆนะ” เทศกาลด้วยรถก็เยอะ ผมล่ะเป็นห่วงจริงๆ


“เดี๋ยวก่อน” ปาวที่กำลังจะเดินออกไปหยุดกับเสียงทุ้มขรึมหันมามองอย่างหวาดๆ มาทำงานก็ได้หลายเดือนปาวก็ยังไม่ชินกับท่าทางน้ำเสียงนิ่งๆของใหญ่สักที


แล้วนายหมาตูบก็ไม่ยอมพูดอะไรนอกจากคว้ามือผมเดินเข้าไปในห้องทำงานผมเลยกวักมือเรียกปาวให้เดินตามมาด้วย


“ครับ??” อย่าว่าแต่ปาวมันงงเลย ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีๆก็มายื่นซองน้ำตาลให้ ให้ผมเดาน่าจะเป็นซองเงิน


“พรุ่งนี้ไม่ต้องมาทำงานนะ”


ห๊ะ!!


ผมหันไปมองหน้าคนพูดทันที ส่วนปาวก็หน้าเหวอตัวซีดไปแล้ว


“คะคุณใหญ่จะไล่ผมออกเหรอ...”


“เปล่าให้หยุดวันนึง”


ฟู่วววว


ผมได้ยินเสียงถอนหายใจของปาวแรงมาก อย่างว่าเด็กมันต้องหาเงินส่งตัวเองเรียน ทำงานแบบพาร์ทไทม์แต่ได้เงินเท่าพนักงานประจำใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ เป็นผมเองที่ขอให้ใหญ่ช่วยเหลือ


“คุณใหญ่จะให้ผมหยุดเหรอครับ”


ใหญ่พยักหน้า


“แต่งานที่ร้านยุ่งมาก”


“ให้หยุดก็หยุดไปเถอะ”


“คะครับ”


ผมแทบจะหลุดขำปาวมันคงคิดว่าใหญ่รำคาญเริ่มหงุดหงิด มีแค่ผมที่รู้ว่าใหญ่หมายความว่า ‘อยากให้ปาวได้พักผ่อนหลังจากที่ทุ่มเทช่วยเหลืองานที่ร้านมาอย่างเหน็ดเหนื่อย’ แต่เพราะเป็นคนพูดไม่เก่ง แสดงอารมณ์ไม่เป็นมันเลยออกมาดูห้วนๆจนพาลให้คนอื่นเขากลัวไปหมด


พอปาวกลับไปแล้ว ใหญ่ก็ตรวจดูความเรียบร้อยที่ร้านก่อนกลับบ้านกัน นี่ก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่าแล้วระหว่างทางผมก็ถามใหญ่อย่างอดสงสัยไม่ได้


“ทำไมให้ปาวลาล่ะพรุ่งนี้เชฟกุ้งกับพนักงานคนอื่นๆยังไม่มาทำงานไม่ใช่เหรอ”


“ผมไปได้ยินปาวคุยโทรศัพท์ที่หลังร้านน่ะ แม่คงโทรแม่...เห็นบอกว่าคงกลับไปหาไม่ได้ติดงาน...” พูดแค่นี้ผมก็เข้าใจแล้ว ผมยิ้มกว้างก่อนจะห้ามใจไม่ไหวที่จะชะโงกหน้าไปหอมแก้มคนตัวโตท่าทางหยาบกระด้างแต่จิตใจละเอียดอ่อน


“น่ารัก”


ผมรู้สึกเหมือนรถกระตุกไปชั่ววินาทีเมื่อผมเอ่ยชมพร้อมทั้งนายหมาตูบที่แก้มมีเลือดฝาดฝ่าความมืดขึ้นมาฮ่าๆ น่ารักจริงๆ
                  

…………………………………………………………….


“เอ๊ะรถพี่เมตรนี่” เมื่อมาถึงบ้านผมก็เจอกับรถคันคุ้นตาจอดติดเครื่องอยู่หน้าบ้านผมลงจากรถและเดินเข้าไปเคาะกระจก


ก๊อก ก๊อก


“พี่เมตร”


คนข้างในรถขยับตัวยุกยิกก่อนลดกระจกลง


“อ้าว กลับมาแล้วเหรอ” พี่เมตรลุกขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือก่อนมองเลยไปข้างหลังที่ใหญ่กำลังเดินมาหลังจากเอารถไปจอดเก็บแล้ว “ทำไมเพิ่งกลับวะ” พูดกับใหญ่ไม่เพราะตลอดๆ


“เข้าบ้านก่อนพี่” พี่เมตรพยักหน้าตามคำบอกของใหญ่ไอ้ท่าทีเหมือนจะตีกันเมื่อกี้คืออะไร


พอเข้ามานั่งกันในห้องรับแขกเหมือนนายหมาตูบจะเดาใจพี่เมตรออกว่าคงมีเรื่องไม่สบายใจบางอย่างไม่อย่างนั้นคงไม่มาจอดรถรอดึกๆดื่นๆ ไม่สินี่ก็เข้าเช้าวันใหม่แล้วไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องของตัวเอง ใหญ่เลยเดินไปหยิบเบียร์มายื่นให้หนึ่งกระป๋องถือไว้เองหนึ่งกระป๋อง


พี่เมตรก็ไม่มีขัดรับมาเปิดฝากระดกอึกๆทันที


“เบาๆพี่” ผมคว้าข้อมือพี่ชายไว้ ส่วนใหญ่เพียงแค่นั่งดื่มเป็นเพื่อนเงียบๆ


“ทะเลาะกับพี่หญิงมาเหรอ” พี่เมตรกับพี่หญิงยังไม่ถึงขั้นคบกันเป็นแฟน แต่ก็เป็นผู้หญิงที่สองเดือนมานี้พี่เมตรตามจีบอยู่และเป็นผู้หญิงคนแรกที่พี่เมตรจริงจังด้วย


“มีเรื่องผิดใจกันนิดหน่อย”


“เรื่องผู้หญิงอีกสิ” ผมสวนทันที เลยเจอพี่เมตรมองหน้าแล้วขยี้หัวอย่างหมั่นไส้


“รู้ดีอดีตทั้งนั้นเหอะ”


“ก็เหมือนกันหมด” ผมบัดมือออก


“แค่กๆ” ส่วนใหญ่ก็สำลักเชียว ชิ


“เป็นเด็กเป็นเล็กไปนอนไป” นั่นไง รู้ทันเข้าหน่อยก็ไล่ให้ไปนอน


“แล้วพี่มาทำไม”


“มาหาเพื่อนดื่ม” พี่เมตรชำเลืองมองไปทางใหญ่


“แต่พรุ่งนี้ใหญ่ต้องเข้าบริษัทแต่เช้าไหนตอนบ่ายจะต้องเข้าร้านอีก” ถ้าให้ใหญ่มานั่งดื่มกับพี่เมตรพรุ่งนี้เป็นผีดิบแทนหมาตูบแน่


“มึงไม่ไหว??” พี่เมตรก็นิสัยเสียว่ะถ้าผมลูกคนเล็กที่แสนเอาแต่ใจ พี่เมตรก็เป็นพี่ชายคนโตแสนบ้าอำนาจ!


“เดี๋ยวผมมาพี่ดื่มไปก่อนแล้วกัน” เข้าขากันได้ดีเหลือเกิน นายหมาตูบบ้า!ไม่ต้องทำมาเป็นประคองเลย


พอเข้ามาในห้องนอนผมก็กระแทกตัวลงบนเตียงอย่างให้รู้ว่ากำลังไม่พอใจอย่างแรง


“ไม่น่าเชื่อเนอะว่าจะเคยเกือบฆ่ากันตาย” ผมประชดประชันใส่ แผลเป็นยังจารึกอยู่บนตัวแท้ๆแล้วดูตอนนี้สิซี้กันจนผมนึกหมั่นไส้


ใหญ่ไม่เถียงไม่แย้งเพียงแค่นั่งลงข้างๆเข้ามากอดและวางคางลงบนไหล่พลางลูบต้นแขนผมเบาๆ


“พี่คุณเขามีปัญหาอยู่”


“ก็เห็นดื่มกันได้ตลอดดีใจ เสียใจ กลุ้มใจ เมื่อวันก่อนก็เพิ่งมาชวนดื่มไป” เอาเข้าจริงๆพี่เมตรก็ไม่ได้เครียดขนาดนั้นหรอกเพราะพี่หญิงเท่าที่ผมรู้จักก็เป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลพอ แล้วคนใจร้อนอย่างพี่เมตรน่ะเหรอ ถ้าเป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจจริงๆไม่มานั่งดื่มชิวๆอยู่อย่างนี้หรอก ป่านนี้บุกถึงบ้านสาวเจ้าแล้ว อ้างมากกว่าเหอะ


ฟอด!!


“ไม่ต้องมาอ้อนเลย” ผมเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากอุ่นที่เข้ามาหอมอ้อนใจเริ่มอ่อนไปแล้วสามสิบเปอร์เซ็นต์


จุ๊บ


“เอ๊ะ” คราวนี้มาจุ๊บหน้าผาก


จุ๊บ!


“อื้อ! ก็ได้ๆห้ามเกินตีสามนะ”


ต้านทานไม่ไหวก็ตรงจุ๊บปากนี่แหละ!


“ขอบคุณครับ”


สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้ ใหญ่ยิ้มบางแล้วโน้มตัวลงมาจรดริมฝีปากบนขมับผมแช่ไว้นานหลายนาทีอย่างขอบคุณผมได้โอกาสเลยประกบมือเข้าที่สองแก้มสากก่อนจับมาจ้องตากันตรงๆ


“จำที่ตกลงกันได้ใช่ไหมครับอยากไปนอนเล่นที่หาดสักสองสามคืนไหม??”


“ตีสามขึ้นมานอนเลย” ไม่ต้องมาทำเป็นยกมือสองข้างยอมแพ้เลยแต่ก่อนที่ใหญ่จะผละออกจากห้องไปผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี


“ฝากพี่เมตรด้วยนะใหญ่”


ใหญ่พยักหน้าก่อนก้มลงมาจูบหน้าผากผมอีกครั้ง


“อาบน้ำนอนนะดึกมากแล้ว”


…………………………………………….


ไม่รู้ว่าเมื่อคืนดื่มกันไปหนักแค่ไหน ปรึกษากันไปถึงกี่โมง แต่ตอนตีสี่ผมสะดุ้งตัวตื่นมานายหมาตูบก็มานอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆแล้ว ส่วนพี่เมตรผมลงมาด้านล่างตอนแปดโมงเช้าก็ยังเห็นท่านรองฯประธานบริษัทนอนแอ้งแม้งหมดสภาพอยู่บนโซฟาห้องรับแขก


ผมต้องเข้าไปปลุกไปลากมาอาบน้ำเพื่อไปทำงานส่วนใหญ่ดีที่อึดและถึกเลยยังสามารถลุกมาทำงานได้ปกติ


“นี่มัน...” วันนี้ผมเข้ามาถึงร้านช้ากว่าใหญ่เพราะต้องอยู่ประชุมเรื่องแบบโฆษณาสินค้า พอเปิดประตูร้านเข้ามาก็ต้องแปลกใจกับลูกค้าจำนวนมากมายที่อัดแน่นอยู่ภายในร้าน ไมใช่สิ...


“สุขสันต์วันลอยกระทงครับ อาจจะเลยวันจริงไปวันนึงแต่มันคงไม่สายไป” คนตัวโตที่โผล่มายืนด้านหลังผมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้โน้มตัวลงมากระซิบให้ผมยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่


“นะนี่มันอะไรกัน”


“คุณไม่ได้อ่านป้ายหน้าร้านเหรอ”


มะไม่...ผมไม่ทันสังเกตเพราะรีบจะเข้ามาช่วยใหญ่จัดร้านด้วยเห็นว่าวันนี้ปาวก็หยุด คนอื่นๆก็ยังไม่หมดวันลากลัวว่าเขาจะไม่มีคนช่วยแต่นี่...


ผมรีบวิ่งออกไปหน้าร้านอีกครั้งทันที ก่อนเจอเข้ากับป้ายไวนิลสี่เหลี่ยมผืนผ้าอันใหญ่สะดุดตาที่ทำให้ผมกลั้นยิ้มและกลั้นน้ำตาแห่งความตื้นตันใจไว้ไม่อยู่


‘ด่วน! โปรโมชั่นพิเศษเฉพาะวันนี้...เพียงแค่คุณเป็นคนที่ไม่มีบ้านไม่มีเงิน ไม่มีกิน คุณก็สามารถเข้ามาทานอาหารที่ร้านได้ฟรีไม่อั้นทุกเมนู พร้อมกิจกรรมลอยกระทงร่วมกันโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ตั้งแต่สี่โมงเย็นเป็นต้นไป’


“ห้ะๆ มีคนเชื่อใหญ่เข้ามากินด้วยเหรอ” ผมถามแม้จะเห็นผู้คนยากไร้มากมายอยู่ในร้านก็ตาม ใหญ่เข้ามาสวมกอดทางด้านหลังพลางเอ่ยด้วยเสียงทุ้มนิ่งที่ใครอาจจะมองว่าเย็นชาแต่สำหรับผมมันช่างซึมลึกเข้าไปถึงหัวใจให้อุ่นซ่านเหลือเกิน


“ผมให้ปาวช่วยแจกใบปลิวมาหลายวันแล้ววันนี้ก็มาด้อมๆมองๆไม่มีใครกล้าเข้ามาคงกลัวถูกหลอกผมเลยมาต้อนรับพวกเขาด้วยตัวเอง”


ผมไม่สามารถกลั้นยิ้มและน้ำตาไว้ได้อีกแล้วนอกจากหมุนตัวไปสวมกอดคนที่รู้ใจผมไว้ให้แน่นที่สุดอย่างซาบซึ้งใจ


“เมื่อคืนผมอาจจะผิดนัดคุณแต่คืนนี้เรามาลอยกระทงด้วยกันนะ ลอยพร้อมๆกับพวกเขา”


“อืม”


ผมเชื่อว่าภาพความสุขของทุกคนในค่ำคืนนี้มันจะประทับอยู่ในหัวใจผมไปอีกเนิ่นนาน ภาพของคนหลายสิบคนที่แต่งตัวมอซอทั้งที่มันอาจเป็นชุดที่ดีที่สุดของพวกเขาแล้วกำลังนั่งรับประทานอาหารในร้านหรูที่แม้ใหญ่จะบอกว่าสั่งเมนูอะไรก็ได้ แต่ก็แทบไม่มีใครจะกล้าสั่งเลย ซึ่งใหญ่รู้ถึงจุดนี้ดี...เขาเลยจัดการทำอาหารขึ้นชื่อของร้านแทบทุกเมนูเป็นหม้อใหญ่ๆถาดใหญ่ๆไว้ให้ตักกินกันเองแบบบุฟเฟต์


ท่าทีทุกคนดูเงอะงะ มีแย่งกันบ้าง แต่พอใหญ่บอกว่าให้เข้าแถวดีๆไม่ต้องกลัวถ้าไม่พอเขาจะทำเพิ่มให้อีกเรื่อยๆ เพียงเท่านั้นทุกคนก็พร้อมใจกันเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ...เริ่มช่วยกันตักอาหาร...แบ่งปัน...นั่งร่วมโต๊ะ...พูดคุย...แม่คนหนึ่งป้อนข้าวลูกด้วยรอยยิ้มเมื่อเห็นลูกตัวเองได้อิ่มท้อง...ชายชราที่เดินลำบากให้อีกคนเข้าไปช่วยประคองพร้อมตักอาหารให้...มันเป็นสายพานน้ำใจ ที่เพียงแค่เราเป็นผู้เริ่มต้นที่จะให้มันก็จะหลั่งไหลถ่ายทอดกันต่อไป...


จานชามลวดลายสวยสด ช้อนส้อมอย่างดี หรือแม้แต่แก้วใสทรงสูงที่ดูช่างขัดตาพิกลเมื่อมันถูกหยิบใช้ด้วยบุคคลเหล่านี้ แต่ทำไมกันนะในความรู้สึกของผมมันช่างดูลงตัว...เพียงแค่เรามองข้ามภาพลักษณ์ภายนอก....แล้วมองลึกไปถึงรอยยิ้มที่สะท้อนความสุข ประกายตาแสนสดใส หัวใจอันอิ่มเอม...


ผมอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพความสุขเหล่านี้เอาไว้...


....ความสุขที่ได้อิ่มท้อง


...ความสุขที่ได้ทานของอร่อย


...ความสุขที่ได้รับสิ่งเสมือนฝัน


...ความสุขที่ได้เห็นคนที่รักมีความสุข


จวบจนเวลาสองทุ่ม...งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา...เราร่วมกันลอยกระทงขนมปังหลากสีกัน โดยนายหมาตูบเหมารถบัสมารับคณะทั้งหมดไปลอยกระทงกันที่บึงขนาดกลางที่เพียงกระทงลอยเหนือผิวน้ำไม่ทันอึดใจปลาก็เข้ามาตอดกินกระทงของพวกเรากันอย่างเมามันส์ แต่ก็ไม่มีใครเศร้าใจเลยสักนิด...กลับกัน...มีเพียงเสียงหัวเราะดังก้องอบอวล...เพราะพวกเรารู้ดี...ว่าการเป็นผู้ให้มันรู้สึกดีแค่ไหน...


“ใหญ่...ขอบคุณนะวันนี้เล็กมีความสุขมากจริงๆ”


“ผมรู้...”****** จบแล้วน่ะครับ ต่อไปจะนำเรื่องอะไรมาให้อ่าน ติดตามกันน่ะครับ********

Aonz003 โพสต์ 2020-4-30 19:24:58

;P สนุกมาก ไม่อยากให้จบเลย

audiwoods โพสต์ 2020-4-30 21:40:53

ดีจัง แบ่งปันให้กันครับ

sa99 โพสต์ 2020-4-30 21:42:52

ขอบคุณนะครับ{:5_119:}

guide01 โพสต์ 2020-4-30 22:11:21

สนุกมากเลยครับเรื่องนี้

uglymen โพสต์ 2020-4-30 22:17:03

{:5_139:} จบแล้ว จะอ่านเรื่องสนุก ๆ แบบนี้ได้อีกไหมหนอ {:5_146:}

pipi1 โพสต์ 2020-4-30 22:53:35

{:5_119:}ขอบคุณครับ{:5_136:}

a03 โพสต์ 2020-4-30 22:54:01

{:5_119:}

Phol_th โพสต์ 2020-4-30 23:31:53

เรื่องนี้ ทำให้เสียน้ำต่ สองตอน

Chinnawat_phrom โพสต์ 2020-4-30 23:48:13

ขอบคุณครับ รออ่านเรื่องใหม่ครับ

ดอกม่วง โพสต์ 2020-4-30 23:58:07

ขนาดตอนพิเศษ หุบยิ้มไม่ได้เลย

maravann โพสต์ 2020-5-1 00:23:18

ขอบคุณครับ

rowetszaa โพสต์ 2020-5-1 00:42:58

ขอบคุณครับ

minone โพสต์ 2020-5-1 00:49:51

ขอบคุณ​มาก​นะ​ครับ​{:5_130:}

gaybin โพสต์ 2020-5-1 01:16:21

น่าจะมีตอนขอแต่งงานนะครับ

Joechin โพสต์ 2020-5-1 02:05:56

ขอบคุณครับ

Joechin โพสต์ 2020-5-1 02:06:04

ขอบคุณครับ

sak4 โพสต์ 2020-5-1 02:08:01

โอ้ย น้ำตารื้นเฉย เฮ้อ .. เขียนอีกนะครับ รออ่าน

chakkychakky โพสต์ 2020-5-1 03:18:00

ขอแบบนี้หนึ่งคน หาที่ไหน

hnum โพสต์ 2020-5-1 03:44:21

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: รักเร่ร่อน...ของคนจรจัด...ตอนพิเศษ bymod-cup