ผมไม่ใช่เด็กขายน้ำโว้ย!!! EP58-61 จบแล้ว (แก้ไขแทน)
เช้าวันที่สองของกีฬาสี วันนี้พี่โจ้ดูหงุดหงิดมากๆ เดินง่วนเป็นเสือติดจั่นเลยทีเดียว"เม้ง! มาพอดีเลย แล้วต้นล่ะมารึยัง?"
"อ้าว! ไอ้ต้นมันยังไม่มาอีกเหรอครับ? เมื่อวานมันยังย้ำเวลากับผมเลยนะว่า 10 โมงเช้า"
"นั่นแหละถึงได้ถามน้องไง นี่ 8 โมงครึ่งแล้วทำไมยังไม่เห็นอีก น่าจะมาเตรียมตัวได้แล้วนะ เม้งช่วยโทรตามทีซิพี่ไม่มีเบอร์"
.....ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก......
"อะไรวะเนี่ย? ปิดมือถือเหรอ? คงไม่ใช่นอนจนลืมตื่นหรอกนะ" เม้งเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อเพื่อนรักไม่เคยสายในวันสำคัญแบบนี้ ถึงจะแข่งสิบโมงแต่นักกีฬาก็ควรจะมารายงานตัว เปลี่ยนชุดและบริหารร่างกายตั้งแต่เช้า
"วิงๆ เห็นต้นรึเปล่า?"
"เอ๋? ต้นยังไม่มาเหรอ?"
"นี่พี่โจ้เริ่มปวดหัวแล้ว จะแข่งตอน 10 โมงนี่ละ"
"แต่เมื่อวาน....."
"เมื่อวานทำไมเหรอวิง? เมื่อวานนายเจอไอ้ต้นเหรอ?"
"อ...อ......อืม เจอตอนหัวค่ำน่ะ"
"ที่โรงเรียนเนี่ยเหรอ?"
".....อืม....."
"ยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ ไหนมันบอกว่าเมื่อวานติดธุระมาไม่ได้ไง?"
"แล้วเบอร์บ้านล่ะลองโทรรึยัง?"
"เออจริงด้วย มัวแต่ห่วงมันจนลืมนึกไปเลย"
...
...
...
"วิง เราโทรไปเจอพี่ต้อมรับสายละ พี่เขาบอกว่ามันไม่สบายนอนอยู่ในห้องน่ะ"
"หา!? แล้วเป็นไงบ้างน่ะ?"
"ไม่รู้สิ แต่วันที่ต้องแข่งบาสน่ะต้นมันไม่น่าปล่อยตัวเองป่วยได้นะ มันชอบเล่นบาสจะตาย" เม้งก็เริ่มกลุ้มหนัก
"เราว่าเราไปหามันที่บ้านเลยดีกว่า ยังมีเวลาเหลือ ท่าทางมันแปลกๆ พิกล นายจะไปด้วยมั๊ยวิง?"
"ไม่ล่ะเราอยู่รอที่นี่ละกัน"
"พี่โจ้ครับ ตอนนี้พี่คมเดชอยู่ไหนครับ?"
"พี่กริชน่ะเหรอ? น้องวิงมีอะไรเหรอครับ?"
"....คือ...อาจารย์พละจะขอเอกสารอะไรหน่อยน่ะครับ เดี๋ยวผมไปหาพี่เขาเองก็ได้ครับแค่บอกว่าพี่เขาอยู่แถวไหนก็พอ"
"นพ! เมื่อคืนพี่กริชไปนอนบ้านนายใช่มั๊ย? แล้วตอนนี้พี่เขาอยู่ไหนน่ะ? อาจารย์จะถามหาเอกสารอะไรก็ไม่รู้"
"เหรอ! แต่พี่กริชเขากลับบ้านต่างจังหวัดไปแล้วนะ ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ"
"อ้าว! แบบนี้ก็แย่น่ะสิ แล้วอาจารย์เขาอยากได้เอกสารอะไรเหรอเดี๋ยวพี่จะลองไปค้นในห้องให้"
"ม.....ไม่เป็นไรหรอกครับ อาจารย์บอกว่าไม่ค่อยสำคัญ ไว้ทีหลังก็ได้ครับ"
..
..
......9:04.......
นาฬิกายังคงทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์....แม้คนที่มอบสิ่งนี้ให้ผมจะไม่อยากเจอผมอีกแล้วก็ตาม.....
ก็เพราะผมไม่ซื่อสัตย์เรื่องมันถึงได้เป็นแบบนี้ กริชสมควรจะโกรธผมแล้ว ผมที่หลอกเขามานาน ถึงจะทำใจไว้แล้วว่าเขาต้องโกรธแต่......
ผมเช็ดน้ำตาก่อนมันจะหยดลงบนรูปถ่ายตรงหน้า....แก่งกระจาน.....หาดเจ้าสำราญ.....บ้านของกริช.....
น้ำตาที่เอ่อคลอทำให้ผืนน้ำในรูปเหมือนจะสั่นไหว ที่ๆ กริชเคยอยากพาผมไป ทุกอย่างเป็นความผิดของผมเองผมสมควรโดนแบบนี้
"กริชครับ...ฮึกๆ....เราขอโทษ....เราขอโทษ......"
ภาพวันเก่าๆ ...แค่สามเดือนที่เราอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้เหมือนทั้งชีวิตมันพังลงตรงหน้า....ตั้งสามเดือนตะหาก.....ตั้งสามเดือนที่ผมหลอกเขาได้หน้าตาย.....สามเดือนที่ทำให้เขาเดือดร้อน ทำให้ความฝันของเขาพัง
ความอุ่นของแขนกริชที่โอบไหล่ผม....มือที่เคยกุมมือไว้.....ความรู้สึกยังอยู่ชัดเจนแต่วันนี้ไปจะไม่มีอีกแล้ว.....
ในหัวมีแต่คำว่าขอโทษ....คำๆ เดียวที่ผมอยากจะบอกเขาทุกวันแต่ไม่เคยได้พูด มันอัดอั้นในใจ แต่ตอนนี้ไม่มีเขาให้ผมขอโทษได้อีกแล้ว ต่อไปถ้าเจอหน้าเขาผมจะทำยังไง....แค่คิดว่ากริชจะมองผ่านผมไปเหมือนไม่มีตัวตน คิดแค่นั้นใจมันก็บีบจนเจ็บ
ผมหยิบมือถือขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ยอมรับความจริงเถอะ.....กริชจะไม่โทรมาอีกแล้ว.....จะไม่ได้ยินเสียงเขาอีกแล้ว ก็เขาขว้างมือถือแตกกระจายไปต่อหน้าผมแล้วนี่นา....ไม่รู้จะโทรหาเขาได้ยังไง เมื่อคืนตามไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ เบอร์อื่นๆ ก็ไม่รู้
ผมยกมือถือแกว่งไปมาใกล้หน้าต่าง.....มันแค่ไม่มีสัญญาณเท่านั้นแหละ
.....กริชคงโทรหาผมสักครั้ง....เขาจะโทรมา....
จะหลอกตัวเองอีกนานมั๊ยไอ้โง่.....เขาเกลียดผมถึงขนาดนี้แล้ว......
"ขอโอกาสเถอะครับกริช.....ให้เราได้อธิบายอีกครั้ง กริชจะทำอะไรเราก็ยอม....."
ต่อให้พูดแบบนี้อีกนานแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางได้ยิน ต่อให้เขาอยู่ตรงหน้าก็คงไม่ฟังผมอีกแล้ว.....เขาบอกแล้วไงว่าต่อไปนี้เขาไม่รู้จักผม
ก๊อกๆๆๆ
"ต้น นอนอยู่รึเปล่า?"
"............."
"กรูรู้ว่ามรึงแกล้งป่วย มีอะไรบอกมาซะดีๆ"
".......กรู....ไม่สบายจริงๆ เม้งมรึงรีบไปโรงเรียนเถอะใกล้จะแข่งแล้ว"
"จะแข่งทำเจี้ยไรถ้าไม่มีมรึง กรูย้ายสีตามมรึงมานะเรื่องอะไรจะลงแข่งคนเดียว"
เพื่อนคนนี้ถึงเอ่ยปากไล่เขาก็ไม่ยอมไปแน่ถ้ารู้ว่าผมไม่สบายใจ
แต่ทำไมกริชถึงไม่ยอมอยู่ฟังเวลาที่ผมอยากให้เขาอยู่ แค่ฟังสักวินาที แค่นั้นก็พอ....จะคร่ำครวญทำไม ดูตัวเองก่อนเถอะว่าทำอะไรกับเขาบ้าง แล้วตอนนี้ผมควรทำยังไงดี
"เปิดประตูให้กรูเข้าไปหน่อยเถอะต้น" ....ยังไงมันคงไม่ยอมไปไหนแน่ๆ
"เฮ้ย!!! มรึงร้องไห้ขนาดนี้เลยเหรอ?!!!" .....เจรี้ยเอ๊ย! รู้งี้ไม่น่าเปิดประตูให้เลย
"เกิดอะไรขึ้นวะต้น?.......เรื่องคนนั้นเหรอ? ทะเลาะกันรึไง?"
"อย่าถามเลย มันจบไปแล้ว อย่าถามกรูอีกเลยเม้ง มรึงไปแข่งบาสเผื่อกรูด้วยละกัน"
"ไม่ไปเว้ย! สีกรูรึก็ไม่ใช่ ถ้ามรึงไม่ไปกรูก็ไม่ไปเหมือนกันนะต้น" ว่าแล้วมันก็ถือวิสาสะเปิดวิทยุหยิบการ์ตูนมาอ่านยืนยันว่าไม่ยอมไปไหนแน่ๆ
จะบังคับตรูไปถึงไหนไอ้เม้ง ถ้าไปโรงเรียนแล้วเจอกริชตรูจะทำยังไงล่ะ?
.....แล้วจะหมกตัวในห้องนอนไปนานแค่ไหน....อีกสองวันก็จบกีฬาสีแล้ว จากนั้นก็ต้องไปโรงเรียนตามปกติ....ถึงตอนนั้นจะทำยังไง.....ไม่รู้โว้ย!!
เสียงเพลงหนึ่งที่คุ้นเคยดังจากวิทยุ เพลงนี้.....เพลงที่ผมเคยร้องให้กริช เพลงที่เขาใช้ในมือถือ....มือถือที่แตกกระจุยไปแล้ว......
"เม้ง ปิดเหอะกรูไม่อยากฟัง"
ฟังแล้วนึกถึงทุกอย่างที่ผมทำเพื่อเขา....ทุกอย่างที่เขาไม่ต้องการอีกแล้ว....
ผมทำเพื่อเขาเหรอ....ผมทำอะไรเพื่อกริชบ้าง?.....ที่อิดออดอ้างโน่นนี่เพื่อผลัดวันไปเรื่อยๆ แบบเนี้ยเหรอเรียกว่าทำเพื่อเขา?
"เม้ง ช่วยออกไปนอกห้องที"
"กรูไม่ไปไหนทั้งนั้นโว้ย!"
"เม้ง กรูจะเปลี่ยนเสื้อผ้า! มรึงอยากอยู่ท้าพิสูจน์ก็ได้นะ แต่บอกไว้ก่อนว่ากรูเป็นรุกนะว้อย
..
..
..
..
มาถึงที่สนามก็ 10 โมงนิดๆ แล้ว พี่โจ้ยืนทำหน้าเป็นยักษ์วัดแจ้งเลย ตอนนี้ในสนามเริ่มแข่งไปได้ราว 20 นาทีแล้ว ฝ่ายเรายังตามอยู่ 11 แต้ม ผมกวาดตาดูรอบๆ.....กริชไม่อยู่ที่นี่.....เขาไม่อยู่แล้วจริงๆ.....
"ขอโทษครับพี่โจ้"
"เอาเถอะ รีบเปลี่ยนเสื้อทีมแล้วเตรียมตัวรอก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะเปลี่ยนตัวให้ลง"
"ไหวแน่นะต้น? หน้ามรึงเซียวมากเลย เมื่อคืนได้นอนมั๊ยเนี่ย?"
".....เราไหว ไม่ต้องห่วงหรอก"
ผมหยิบเสื้อทีมสีแดงขึ้นมาสวม ถึงหัวมันจะลอยๆ หวิวๆ แต่ตอนนี้ผมพร้อมแล้วที่จะทำเพื่อกริช สิ่งแรกที่ผมจะเพื่อเขาจริงๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็น.....กริชครับ จะโกรธผมยังไงก็ได้ จะไม่ยกโทษให้ผมก็ได้ จะทำเป็นไม่รู้จักกันผมก็ไม่ว่าเพราะสิ่งที่ผมทำมาตลอดมันเกินจะให้อภัย แต่ยังไงผมก็จะทำความฝันของกริชให้เป็นจริง
"ต้น เกิดอะไรขึ้นน่ะ?"
"ไม่มีอะไรหรอกวิง"
".......ทะเลาะกับพี่กริชเหรอ?"
".............."
"พี่กริชไม่มา......พี่เขากลับต่างจังหวัดไปแล้วล่ะต้น.....เป็นเพราะเรารึเปล่า? เราขอโทษนะต้น"
"ไม่ใช่เพราะนายหรอกอย่าคิดมากเลยวิง เราสิต้องขอโทษนาย"
ความโง่ของผมทำร้ายเพื่อนคนนี้มานานแล้ว แถมยังทำให้กริชเข้าใจผิดจนโกรธวิงไปด้วย
"เราขอโทษจริงๆ นะ....เราจะไปคุยกับพี่กริชให้ พี่เขาต้องเข้าใจนายแน่ๆ"
เจ้าหน้าใสตรงหน้าก็ยังเข้มแข็งกว่าผมมากนัก วิงกล้าเข้าไปคุยกับกริชด้วยความรู้สึกนั้น พยายามสู้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวัง ....แต่ผมสิ.....
"ไม่ใช่ความผิดของนายหรอกวิง ทั้งหมดเป็นเพราะเราต่างหาก จริงๆ แล้วเราต้องขอบใจนายนะ"
"ขอบใจเรื่องอะไรล่ะ? เราทำให้นายเดือดร้อนมาตลอด"
"ก็ถ้าไม่มีนาย เราคงรู้สึกผิดไปอีกนานต่อให้กริชไม่โมโหเราก็เถอะ"
บางทีมันอาจจะดีที่เป็นแบบนี้ ถ้าผมบอกกริชตรงๆ เขาคงโกรธแต่ไม่แสดงออกมา ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่รู้เมื่อไหร่ถึงจะสนิทใจกันได้เหมือนเดิมอีก
"ต้น! ลงสนามได้แล้ว!"
"เราไปล่ะวิง! ช่วยเชียร์เราด้วยนะ" นาฬิกากับเข็มสีทองถูกหย่อนลงเป้.....รอดูผมตรงนี้นะครับนะกริช
เสียงเพลงนั้นยังก้องอยู่ในหัว เพลงที่ผมร้องเพื่อเขา เพลงของเราสองคน ......ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าการสู้ที่แท้จริงคืออะไร
.....ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากมีเธอเป็นเพียงภาพในความฝัน
ลำบากลำบนไม่สนใจ ตะเกียกตะกายสักเพียงใดก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจากฉัน
ตกหลุมรักจริงๆ เพราะรักจริงๆเธอคงไม่ว่ากัน........
สู้เพื่อสิ่งที่ฝันไม่ใช่นั่งหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะเป็นจริง
สู้ทั้งที่รู้ว่าไม่มีหวัง.....สู้ในเวลาที่กำลังใจหมดไปแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมท้อ
เมื่อวานเป็นวันสุดท้ายที่กริชอยู่กับผม แต่วันนี้แหละ.......
"ไปกันเถอะเม้ง"
"สีแดงขอเปลี่ยนตัว 2 คน!!!" .....วันนี้แหละจะเป็นวันแรกที่ผมสู้เพื่อเขา!
"ไงน้องต้น! นึกว่าไม่มาซะแล้ว"
"ยังไงก็ต้องมาล่ะครับพี่ปัด"
ถึงจะตามอยู่สิบกว่าแต้มแต่ผมก็ไม่กลัวหรอก ยิ่งเป็นทีมของพี่ปัดที่ชอบเล่นแรงๆ ก็ยิ่งทำคะแนนง่าย หลอกล่อซะหน่อยก็ได้ฟาล์วแล้ว
ตอนนี้คะแนนเริ่มตีตื้นขึ้นมาทีละนิดแต่ก็ยังห่างเกินไป ใกล้จะหมดครึ่งแรกแล้วถ้าเป็นแบบนี้คงตามไม่ทันแน่ๆ
หัวก็เริ่มมึนๆ ซะแล้ว โธ่เว้ย! ต้องทำได้สิน่า!!! เรื่องเดียวในตอนนี้ที่ผมจะทำเพื่อกริชได้ จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว!!
****************************************************************
นาฬิกาเหนือสถานีขนส่งสายใต้ใหม่บอกเวลา 9:04
"กริช ทำไมจู่ๆ จะกลับมาบ้านล่ะลูก? ไหนว่าสอบเสร็จแล้วจะอยู่ดูกีฬาสีก่อนไง"
".......เบื่อๆ น่ะครับ วันจันทร์ก็ไม่มีเรียนเลยอยากกลับบ้าน"
"แล้วนี่รถเที่ยวไหนบริษัทไหนล่ะ? แม่จะได้บอกพ่อไปรับที่ท่ารถ"
"เพชรบุรีทัวร์ครับแม่ รถออก 9:45 ครับ"
"แล้วเงินติดตัวมั๊ย? จ่ายค่าติวไปเท่าไหร่น่ะ ยังมีเงินพอใช้มั๊ยลูก?"
"มีเยอะครับ แม่ไม่ต้องห่วงครับ"
เด็กหนุ่มเหน็บหูโทรศัพท์สาธารณะไว้ที่คอพลางเปิดกระเป๋าเงิน ธนบัตรใบพันหลายฉบับยัดอยู่ในนั้น
.....เรารักกริช เราไม่ได้ทำเพราะต้องการเงินของกริชนะครับ อีกอย่างเราอยากให้กริชได้มอเตอร์ไซค์เร็วๆ.....
.....ปีหน้ากริชจะอายุ 20 ใช่มั๊ยครับ?...ได้เป็นเด็กมหาลัย....มีมอเตอร์ไซค์....ถึงตอนนั้นกริชอย่าลืมเรานะครับ.....
.....ทำไมต้นทำเหมือนจะหายไปไหนแบบนั้นล่ะ? ต้นอย่าทิ้งผมไปนะ......
....กริชคิดมากจังเราไม่ทิ้งนายไปไหนหรอก เราสัญญาจะอยู่กับกริชตลอดไป......
........เราสัญญาจะอยู่กับกริชตลอดไป........
"แล้วสอบยากมั๊ยเนี่ย ทำได้มั๊ยลูก?"
"ก...ก็ไม่ค่อยยากหรอกครับ ติวกับเพื่อนหลายคน แค่นี้ก่อนนะครับเสียงเพลงมันดังคุยไม่ค่อยได้ยิน"
"จ้า กลับมาค่อยคุยกันนะลูก"
-------------------------------------------------------
"นพ เอาไงดีวะ?"
พี่โจ้หน้าเครียดพลางจ้องดูกระดานคะแนนสลับกับสนามบาสที่แข่งขันชุลมุนแย่งบอลล้มลุกคลุกคลานจนกลายเป็นลูกยึดซะหลายครั้ง ครึ่งหลังนี่แผนเริ่มจะไม่เป็นแผนแล้ว ถึงคะแนนจะตามอยู่แค่ 8 แต้มแต่ตอนนี้เปลี่ยนตัวกันจนเหนื่อยทั้งตัวจริงตัวสำรองทั้งสองฝ่ายเลย
"สงสัยต้องเล่นไม้ตายแล้วโจ้" พี่โจ้พยักหน้าให้สัญญาณนำอาวุธสุดท้ายมาใช้
"วันนี้ชนะเลี้ยงเอ็มเคแล้วตบด้วยสเวนเซ่นส์นะน้องๆ!!!" ....ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย! แต่ก็เข้าใจ พี่เขาอยู่ฝ่ายอุปกรณ์กับเหรัญญิกพ่วงอีกตำแหน่งนี่หว่า
พี่ม.5 กับเจ้าเม้งที่เปลี่ยนตัวออกไปเพิ่งกลับเข้ามาเล่นต่อ ฝ่ายโน้นก็เริ่มเหนื่อยจนชู๊ตไม่ลงซะหลายครั้ง แดดร้อนขึ้นทุกทีแล้ว ดีนะที่ได้ลูก 3 คะแนนจากเม้งกับพี่ม.5 ติดกันสองลูกให้พอใจชื้นบ้าง แต่อีกแปบเดียวฝ่ายโน้นก็ชู๊ตลงให้คะแนนทิ้งห่างไปอีก ชักจะไม่ไหวแล้ว จะเปลี่ยนตัวก็.....คนที่นั่งอยู่ริมสนามยังหน้าซีดโบกมือหยอยๆ บอกน้อยจะไปชายแดนอยู่เลย..... ตอนนี้ก็ได้แต่ส่งบอลให้พี่ๆ ไปจัดการต่อ
"เฮ้ย! หมดแรงแล้วเหรอต้น?"
"คร้าบพี่โย่ง จาม่ายหวายแล้ว"
มารยาไปงั้นแหละ พอเผลอไม่มีคนประกบผมก็เข้าเลย์อัพใต้แป้นเอา 2 แต้มบ้าง พี่โย่งชี้หน้าแล้วหัวเราะใหญ่ แต่เล่นมุขนี้อีกทีพี่ท่านเริ่มไม่ขำแล้ว พอบอลเข้ามือผมอีกคราวนี้พี่โย่งยืนดักเลย ง่ายไปมั้งพี่! คิดว่าผมชู๊ตสามแต้มไม่ได้แน่ๆ เลยจะรอบล็อคเลย์อัพรึไง?! ก้าวซ้าย- ขวาแล้วกระโดดขึ้นด้วยบอลในมือขวา พี่โย่งกับสีเหลืองอีกคนก็โดดขึ้นบังทันที ผมรีบเปลี่ยนบอลมามือซ้ายแล้วส่งลูกลอยขึ้นข้างห่วง
มันเหมือนภาพสโลว์โมชั่น.....พี่สองคนเสียหลักกลางอากาศ ลูกบอลกลิ้งลงห่วงไปอย่างช้าๆ คะแนนเท่ากันแล้ว!
พอผมลงแตะพื้นก็รีบขยับออกแต่พี่สองคนที่ล้มตามลงมา.....หัวเข่าใครสักคนกระแทกลงที่........
กร๊อบ!!!!
"อ๊ากกกกกก!!!!!!!"
"เฮ้ย! ต้น!!"
พี่สองคนรีบลุกขึ้นจากขาผม.....ขา.....ขาผม........
บนพื้นปูนที่ร้อนจนแสบผิว แต่ความเจ็บมันมากกว่า .....ความเจ็บที่แล่นตั้งแต่ข้อเท้าขวามาถึงต้นขา....
ได้ยินเสียงพี่โจ้วิ่งเข้ามาดู มันเจ็บจนหมดแรงซะดื้อๆ ได้แต่นอนตัวงอดูคนมากมายที่มุงเข้ามา เห็นเม้ง วิง แล้วก็ใครอีกเยอะแยะแต่เจ็บจนลืมตาแทบไม่ขึ้น
"ต้น เป็นอะไรมากมั๊ย!!?"
"ไม่....ไม่เป็นไร"
"เจ็บตรงไหนต้น? ขยับขาได้มั๊ย?!"
....พูดไม่ออก....พยายามลุกขึ้นยืนแต่มันเสียวแปลบไปทั้งขา....บ้าน่า! ต้องไม่ใช่แบบนี้!
"ผมยังไหวครับพี่ ขอนั่งพักแปบเดียว"
"ไม่ได้หรอก! ขอพี่ดูขาก่อน" พี่โจ้กดนิ้วเบาๆ ไล่จากน่อง พอถึงเหนือข้อเท้ามันก็เจ็บจนสะดุ้ง
"อาการเป็นไงครับพี่โจ้? ไอ้ต้นมันเป็นยังไงแน่?"
"ส....สงสัยกระดูกร้าวว่ะ เห็นแวบๆ ว่าฝ่ายโน้นเอาเข่าลงแถวนี้"
"พี่โจ้ ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับ น้องต้นลองถอดรองเท้าออกดูซิ"
ฝ่ายโน้นหน้าสลดไม่แพ้กันพยายามเข้ามาช่วยแกะเชือกรองเท้าแต่ยิ่งกระเทือนมันยิ่งเจ็บ.....มรึงจะช่วยหรือมรึงจะฆ่าตรู!? ตาพร่าจนมองหน้าไม่ชัดเลยไม่งั้นตรูจะเอาคืนแน่ไอ้คนหวังดีที่โลกไม่ได้รอ
อะไรๆ มันชุลมุนไปหมด แล้วใครก็ไม่รู้มาหามผมไปข้างสนาม.....ผมถูกเปลี่ยนตัวออกแล้วเหรอเนี่ย?....ไม่จริง....
"ต้น! ขาหักเหรอ?"
"ไม่หักโว้ย! ช้ำนิดหน่อยแค่นั้นแหละวิง"
"พี่โจ้ ผมว่าเรียกรถพยาบาลเถอะครับ"
"เอางั้นเหรอเม้ง! เออ! ก็คงดีมั้ง? พี่ทำอะไรไม่ถูกแล้วเนี่ย!"
"ไม่ได้นะครับพี่โจ้! ผมแข่งไหวจริงๆ ผมยังแข่งได้นะครับ ขอผ้ายืดมารัดขาก็พอครับ"
"อ....เอางั้นเหรอต้น? แน่ใจนะ?"
ผมนอนแหมบกลั้นใจตอนที่พี่โจ้ถอดรองเท้าถุงเท้าออกแล้วรัดผ้ายืดตั้งแต่เหนือข้อเท้าไล่ลงไป แค่ช้ำเท่านั้นแหละ ไม่ได้เป็นอะไรหรอก ผมต้องแข่งต่อได้สิ.....วันนี้คือวันแรกที่ผมจะสู้เพื่อเขา! จะจบแบบนี้ไม่ได้!
"ต้น! ท่าจะไม่ไหวนะ! เจ็บแบบนี้คงกระดูกร้าวแหงๆ ดีไม่ดีหนักกว่านั้นอีก"
"ต้องไหว....ต้องไหวสิ เขารออยู่....เขารอเหรียญทองอยู่.....เจ็บนิดเดียวเอง"
"ต้น.....อย่าฝืนเลยนะ ทำแบบนี้พี่เขาไม่ดีใจหรอก"
"เรายังไหวน่าวิง....แค่ไล่เตะนายไม่ได้แค่นั้นแหละ ฮะๆ"
"ต้น พี่ว่าไปโรงพยาบาลเถอะ พี่รับผิดชอบไม่ไหวนะถ้าน้องอะไรไป ยังไงเจ็บแบบนี้พี่ก็ให้ลงต่อไม่ได้แล้ว"
"ข...ขอผมนั่งเป็นตัวสำรองก็ได้ครับพี่.....ขอผมอยู่เถอะนะ.....แข่งจบแล้วค่อยไปหาหมอ"
อุตส่าห์ตีเสมอได้แล้ว อีกไม่นานก็จะจบแล้ว อย่างน้อยอยู่เป็นตัวสำรองถ้าใครเหนื่อยผมยังลงแทนได้.....ต้องชนะสิ....ต้องชนะ......ผมขยับผ้าให้ยิ่งรัดแน่นขึ้น รัดแน่นๆ ให้ลืมเจ็บไปเลย แต่พอลองลงน้ำหนักที่เท้ามันก็ยังเสียวแปลบนิดๆ ถึงโคนขา
.....แค่อย่างเดียวที่ผมจะทำเพื่อเขาได้ แต่ผมก็ยังทำมันพัง.....
.....ทุกอย่างพังหมดแล้ว....ไม่เหลืออะไรแล้ว.....
"โจ้! นายทำอะไรน่ะ?" เสียงใครเดินเข้ามา....ทำไม.....ไม่นะ! ต้องไม่ใช่เวลานี้!!!
"น้องเขาโดนล้มกระแทกแถวข้อเท้าน่ะพี่กริช"
"แล้วทำไมเอาผ้ารัดแบบนั้นล่ะ?"
"ก็....ก็น้องเขาอยากให้ทำแบบนี้น่ะ"
เขาก้มลงข้างๆ มือแข็งแรงที่คุ้นเคยแตะลงที่ข้อเท้าแล้วค่อยๆ แก้ผ้าที่รัดออกก่อนจะกดเบาๆ ไปทั่ว
"เจ็บตรงไหนบ้าง?"
.....เขาอยู่ตรงนี้จริงๆ.....เขากลับมาแล้ว.....แต่ทำไมต้องเป็นตอนนี้.....นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากมอบให้เขา เขาควรได้เห็นเหรียญทองที่ฝันมานานต่างหาก ความฝันที่ผมทำพังถึงสองครั้ง......
"นอนลงซะ โจ้หาอะไรมาหนุนขาน้องต้นไว้ ขอถุงน้ำแข็งมาประคบแล้วโทรเรียกรถพยาบาลด้วยนะ"
ถึงจะอยู่ข้างสนามที่กำลังแข่ง แต่รอบข้างในตอนนี้กลับเงียบเหมือนมีแค่ผมกับกริช เงียบจนได้ยินแค่เสียงสะอื้นของตัวเองกับเสียงลมหายใจของเขา
"ทำแบบนี้ทำไม?"
"......เรา......" ผมจะคุยกับเขาไม่ได้ เรื่องของผมกับกริชจบไปแล้ว ต้องทำเหมือนไม่รู้จักเขา จะไม่ทำให้เขาเดือดร้อนอีกแล้ว
"ถามว่าทำแบบนี้ทำไม? อยากพิการรึไง?" เขายังโกรธอยู่จริงๆ ด้วย......เขายังโกรธผมอยู่.....
อยากจะห้ามน้ำตาแต่มันไหลมาไม่หยุดได้แค่เบือนหน้าหนี ไม่ใช่เพราะเจ็บขา แต่มันเจ็บที่ใจ
เรื่องเดียวที่ผมพอจะทำให้เขาได้ แต่ตอนนี้มันพังหมดแล้ว.....ตอนนี้ผมเป็นแค่คนโกหกที่ไม่มีอะไรจะให้เขายกโทษได้
เสียงรถพยาบาลแว่วมา แล้วผมก็ถูกอุ้มขึ้นรถ.....ดีเหมือนกัน พาผมไปจากตรงนี้ทีผมสู้หน้ากริชไม่ได้.....ไม่อยากให้เขาเห็นผมในสภาพนี้อีกแล้ว
"ไปด้วยครับ" กริชก้าวตามขึ้นมาแล้วประตูรถก็ปิด ....โว้ย!! พูดอยู่หยกๆ ว่าไม่อยากให้เห็นก็ยังจะตามมาอีก
"กริช.....เราขอโทษ" กริชนั่งจ้องหน้าผมไม่พูดอะไรเลย
"ไม่ต้องพูดแล้ว"
"เราขอโทษ.....ขอโทษนะกริช......ขอโทษจริงๆ"
"................"
"วิงเขาไม่เกี่ยวอะไรด้วยนะครับกริช วิงเขาไม่รู้เรื่อง เราไม่ได้เล่าเรื่องของพี่--"
"ไม่ต้องพูดแล้ว นอนไปเถอะจะถึงโรงพยาบาลแล้ว"
รถหยุดนิ่ง บุรุษพยาบาลเข้ามาเข็นผมเข้าห้องฉุกเฉิน ภาพสุดท้ายที่เห็นคือกริชยืนนิ่งไม่เดินตามมา นั่นสินะเราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วนี่นา ทั้งที่รู้ดีแต่ทำไมมันหัวใจมันเจ็บเหลือเกิน.....เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว....คำขอโทษของผมเขาก็ไม่อยากฟัง.....เขาไม่รู้จักผมอีกแล้ว......
...
...
...
...
พยาบาลจับผมตรวจโน่นนี่ แล้วเข็นไปห้องเอ็กซเรย์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาทำอะไรบ้าง ในหัวเห็นแต่ภาพกริช.....
ภาพที่เคยอยู่ด้วยกัน....ทุกคำพูด......ทุกสิ่งทุกอย่าง.....รวมทั้งภาพสุดท้ายที่เขายืนมองผมไกลๆ.....สิ่งที่พอเรียกสติกลับมาได้ก็คือความเจ็บเมื่อคุณหมอขยับเท้าผมให้เข้าที่ก่อนจะเริ่มพันผ้าปูนพลาสเตอร์เปียกๆ เข้ารูปเฝือก
"กระดูกร้าวนะ ไม่ถึงกับหักแต่ก็พยายามอย่าใช้ขาช่วงนี้ล่ะ"
"ครับ"
"ใส่เฝือกเดือนนึงแล้วมาเอ็กซเรย์ดูอีกทีแต่คิดว่าเดือนเดียวคงหายดีแล้วล่ะ"
ไม่รู้ว่าดีใจหรือเสียใจ....แวบนึงคิดว่าน่าจะเจ็บแรงกว่านี้เผื่อบางทีเขาอาจจะอยู่กับผมนานขึ้น.....คิดอะไรบ้าๆ.....กริชเกลียดผมขนาดนั้น....
นาฬิกาบนผนังบอกเวลาบ่ายโมงกว่าๆ ....ตอนนี้การแข่งจบไปแล้ว.....ถึงไม่รู้ผลแต่......ถ้าชนะป่านนี้คงมีใครสักคนมาหาแล้วล่ะ.....ทุกอย่างพังหมดแล้ว สิ่งสุดท้ายที่จะทำเพื่อเขาแต่ผมก็ยังพลาด แล้วไอ้เป๋อย่างผมจะทำอะไรได้อีก ก็ได้แต่ยอมรับความจริงเท่านั้น ผมยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอและพี่บุรุษพยาบาลที่เข็นรถให้ผมนั่ง ประตูห้องตรวจค่อยๆ เปิดออก ทั้งที่รู้.....แต่ลึกๆ ก็ยังหวังว่าคนที่ยืนรออยู่หน้าห้องจะเป็น......มีแค่ความว่างเปล่าเท่านั้น......
จะมัวสำออยไปถึงไหนฟระไอ้โง่! ชีวิตเราต้องจัดการเองได้สิ! บอกตัวเองไว้ว่าไม่มีกริชอีกแล้ว!
"เอ่อ....พี่พยาบาลครับ ผมไม่ได้เอากระเป๋าเงินมา ขอโทรไปหาคนที่บ้านหน่อยได้มั๊ยครับ?"
"พี่ชายของน้องจ่ายให้หมดแล้วล่ะครับ" ....พี่ชาย? ใครโทรบอกพี่ต่อพี่ต้อมรึไง?
"นั่นไงครับ"
ไม่ใช่พี่ต่อหรือพี่ต้อม.....คนที่ยืนสะพายเป้ถือไม้ค้ำกับถุงยาอยู่ข้างหน้า......
"คุณหมอนัดอีกหนึ่งเดือนให้มาเอ็กซเรย์อีกครั้ง ระวังอย่าโดนน้ำด้วยนะครับ อันนี้บัตรคนไข้ครับ"
"ขอบคุณครับ"
แล้วเขาก็เปลี่ยนมาเข็นรถให้ผมช้าๆ ออกมานอกโรงพยาบาล ไม่มีคำพูดอะไรทั้งนั้น....มีแต่ความเงียบ
..
..
"พี่กริชไม่กลับเพชรบุรีแล้วเหรอครับ?"
"เรียกกริชเฉยๆ ก็ได้"
....
....
....
....
"ต้น ทำแบบนี้ทำไม?"
".....เราขอโทษนะกริช"
"เลิกพูดขอโทษได้แล้ว บอกผมทีว่าทำแบบนี้ทำไม ไม่รู้ตัวรึไงว่าเจ็บหนักแค่ไหน ถ้าฝืนต่อจะเป็นมากกว่านี้นะ"
".....แต่ยังแข่งไม่จบ......"
"จะฝืนไปทำไม?"กริชเบาเสียงแล้วนั่งลงตรงหน้า ".....แค่เดินยังไม่ไหวเลย"
"เรา...อยากเอาเหรียญทองมาให้กริช.....เหรียญทองบาส.....ขอโทษนะเราทำให้กริชผิดหวัง"
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ นั่นมันความฝันของสิงห์ ต้นก็รู้"
.....เรื่องนั้นช่างมันเถอะ.....พูดแบบนี้แสดงว่าสีเราแพ้แล้วจริงๆ.......
"อะไรที่กริชอยากได้...ฮึกๆ....เราจะทำให้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้ทีมสีเรา...ฮึกๆ ...."
"กีฬาต้องมีแพ้มีชนะ มันเรื่องปกติน่ะ"
"เราไม่ได้ตั้งใจจะให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้เลยนะ...ฮึกๆ...คืนนั้นเรา....เราแค่อยากกินเหล้าฟรี.....ตอนแรกตั้งใจจะ..."
"จะมอมเหล้าผมแล้วทิ้งไว้ที่ร้านงั้นเหรอ?"
ภาพวันเก่าๆ คืนแรกที่ได้เจอกัน จุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด จุดเริ่มต้นที่ให้เรื่องเลยเถิดมาถึงขั้นนี้
"ตอนเห็นชุดนักเรียนในตู้ ทำไมต้นไม่บอกผมล่ะ?"
"เรา...เรากลัว....ฮึกๆ....เรากลัวกริชบอกโรงเรียน ....ฮึกๆ.....กลัวถูกไล่ออก...."
"แล้วหลังจากนั้นล่ะ? มีเวลาตั้งนานทำไมต้นถึงไม่บอก?"
"เราผิดเองแหละ เรากลัว....ฮึกๆ....กลัวไปทุกอย่าง"
...
...
"ต้นกลัวจะกระทบการเรียนของผมใช่มั๊ย? ต้นรอให้ผมสอบกลางภาค สอบโควต้าเสร็จก่อนใช่มั๊ย? คืนนั้นที่สวน......ต้นพูดว่านายเป็นรุ่นน้องแต่พอผมเล่าเรื่องสอบโควต้านายก็เปลี่ยนใจไม่ยอมพูด"
...
...
"ต้น.....เป็นความผิดของผมเอง เพราะผมอ่อนแอ ต้นถึงต้องรอมาตลอดใช่มั๊ย? ต้นรอผมสอบเสร็จก่อนแล้วถึงจะพูดใช่มั๊ย?"
"เรากลัวบอกไปแล้วกริชจะโกรธจนไม่มีสมาธิทำข้อสอบ.......ม...ไม่ใช่หรอก เรามันโง่เอง เรามันขี้ขลาด....กลัวว่าบอกความจริงแล้วจะเสียนายไป....เรากลัวกริชจะเกลียดเรา แต่ยิ่งหลอกนายนานเข้าเราก็.....เราไม่รู้จะทำยังไงดี"
"ขอโทษนะต้น....เป็นความผิดผมเอง ผมมันอ่อนแอ...ทำให้นายต้องคอยหลบมาตลอดสามเดือน"
"ดูต้นตอนนี้สิ....เจ็บขนาดนี้....." กริชลูบมือลูบแขนที่แผลเพิ่งตกสะเก็ดและเฝือกที่ยังไม่แห้งดี เสียงเขาสั่นเครือ
"ขอโทษนะที่เมื่อคืนผมพูดแรงแบบนั้นกับต้น ผมเสียใจจริงๆ ต้นไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมสักอย่างแต่ผมกลับคิดกับนายแบบนั้น"
"ไม่เป็นไรหรอก เราควรโดนยังงั้นแล้วล่ะ ขอโทษนะกริช"
เขากอดผมไว้ เป็นท่าที่ทุลักทุเลแถมยังต้องเบี่ยงตัวไม่ให้โดนเฝือกอีก
"ผมว่าเราเลิกพูดคำว่าขอโทษกันดีกว่านะ ไม่งั้นพูดกันอีกสามวันก็ไม่จบซะที"
"แล้วกริชยังโกรธเราอยู่มั๊ย?"
"ไม่แล้วล่ะ ผมเองก็ผิดเหมือนกัน"
"ไม่โกรธแน่นะ?" กริชพยักหน้าทั้งน้ำตา
"งั้นเราก็มีอีกเรื่องจะบอก.....คือ...." มาถึงขั้นนี้แล้วสารภาพให้หมดไปเลย จะตายก็ตายทีเดียวนี่ล่ะ
"เราเป็นคนโทรเข้ามือถือนายตอนที่อยู่หน้าห้องปกครอง คือตอนนั้นเราอยากรู้ชื่อจริงของกริชจะได้หลบถูกน่ะ" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 1)
"งั้นเหรอ.....ก็ไม่เป็นไรร้อก! ไม่ได้โดนตีซะหน่อย" (ศาลยกฟ้อง)
"แล้วเรา...เอ่อ....ก็เป็นคนบอกพ่อแม่กริชเองแหละว่านายทำกีฬาสี" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 2)
"ไปบอกกันตอนไหน? ต้นเจอพ่อแม่ผมได้ยังไง?" (ท่าตรูจะไม่รอด ไหนๆ จะตายแน่ขอบอกให้หมดจะได้ตายตาหลับ)
"เจอที่หน้าบ้านของกริช .....เรา.....วันนั้นเราขโมยกุญแจของกริชไปปั๊ม" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 3)
"แล้วก็แอบเข้าบ้านของกริช......" (และความผิดพิเศษกระทงที่ 4)
"ไปค้นของของพี่สิงห์ด้วย" (ความผิดพิเศษกระทงที่ 5 ตามมาติดๆ .....หมดรึยังเนี่ย?)
กริชจ้องหน้าเขม็งเลย..... อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดล่ะ จะปิดบังไม่ได้อีกแล้ว
"ผมไม่โกรธหรอก จริงๆ แล้วก็ไม่คิดว่าจะปิดพ่อแม่เรื่องกีฬาสีได้นานนักหรอกนะ"
"แล้วที่เราขโมยกุญแจของกริชล่ะ? ที่ค้นของของพี่สิงห์อีก กริชโกรธก็เราบอกมาตรงๆ เถอะนะ"
"บอกแล้วไงว่าไม่โกรธก็ไม่เชื่อ อยากให้โกรธก็ได้นะ เอ้านี่!" โป๊ก! ว่าแล้วก็โดนมะเหงกหนึ่งที
"มะเหงกนี้สำหรับการปากหนัก คิดมาก ไม่เชื่อใจผม"
"แล้วก็มะเหงกที่สอง.....โทษฐานที่ไปกอดคนอื่นต่อหน้าผม บอกมาซิน้องวิงเป็นใครเป็นอะไรกับนาย?"
"ก...กริช วิงเป็นเพื่อนเรา"
"กอดกันแบบนั้นน่ะนะ! อยากให้ผมเชื่อแบบนั้นน่ะเหรอ?"
"วิง....เป็นเพื่อนสนิทของเราจริงๆ นะครับ"
"จะบอกดีๆ หรือเอามะเหงกอีก?"
ผมได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ จะพูดอะไรให้วิงเสียหายไม่ได้หรอกเขาเจ็บช้ำขนาดนั้นเพราะผม ถ้ากริชไม่เชื่อใจผมก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว
"มะเหงกที่สามนี่ โทษฐานที่ไม่บอกผมว่าจูบแรกของต้นน่ะให้คนอื่นไปแล้ว"
"กริชรู้ได้ยังไง?"
"น้องวิงบอกผมหมดแล้ว เขามาที่โรงพยาบาลตอนที่ต้นยังอยู่ในห้องตรวจ แต่ตอนนี้กลับไปแล้วล่ะ"
...
...
".......ขอโทษนะกริช"
"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องนี้ต้นคงลำบากใจ ......น้องวิงเขาก็น่าสงสารนะ"
"....ครับ...."
"เป็นเด็กซื่อๆ แต่ใจกล้าน่าดู น่าเสียดายโดนต้นปล้ำซะได้"
"โว้ย! ไม่ได้ปล้ำนะ!"
"เล่นถอดเสื้อกอดเขาแล้วจูบที่หน้าผากแบบเนี่ยไม่เรียกปล้ำเหรอ?" ....วิงมันกล้าเล่าลงลึกทุกรายละเอียดเลยเหรอเนี่ย? เป็นคนเปิดเผยจริงๆ
กริชหัวเราะเบาๆ แล้วนั่งยองๆ หันหลังให้ผม
"ทำอะไรน่ะ? อย่าบอกว่าจะให้เรารุกที่นี่นะ"
"เดี๋ยวเถอะไอ้น้องจอมหื่น! อยากโดนมะเหงกอีกรึไง? จะพาไปส่งขึ้นแท๊กซี่ต่างหาก"
แผ่นหลังของเขาอบอุ่นเหลือเกิน ดีกว่ามอเตอร์ไซค์ในฝันหลายเท่า.....ดีที่สุดเลย......ผมกอดคอกริช ซบหน้าลง.....ไม่ได้ฝันไป.....
"กระเทือนแผลเหรอต้น? ทำไมร้องไห้?"
"เปล่า.....เรา....เรานึกว่ากริชจะโกรธเราไปตลอดชีวิตแล้วซะอีก"
"เราสองคนสัญญากันแล้วนี่นาว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป"
"กริชครับ.....อย่าโกรธวิงนะครับ....วิงเป็นเพื่อนเรา"
"ไม่โกรธหรอกน่า เขาเป็นเพื่อนนายแล้วก็เป็นรุ่นน้องผมด้วยนี่นา"
"เขาน่าสงสารนะครับ"
"อืม แต่สักวันนะ.....สักวันเขาคงเจอรักแท้ครั้งใหม่..........เหมือนที่ผมได้เจอ"
คำสุดท้ายของกริชแผ่วเบาจนเด็กหนุ่มที่ขี่หลังอยู่คงไม่ได้ยิน....และไม่ได้เห็นน้ำตาของคนที่แบกเขาไว้
.....เป็นไรวะสิงห์ เปียกฝนแล้วดันมายืนหน้าบ้าน กรูนึกว่าผี.....
....กรูทำกุญแจหาย.....
......เราขโมยกุญแจของกริชไปปั๊ม......
เขาเจอแล้ว.....กุญแจที่หายไป.....กุญแจที่เคยคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีใครดีเท่าความรักครั้งแรกที่แสนเจ็บปวดนั้น ....แต่วันนี้....เขาหันไปดูเด็กหนุ่มที่อยู่บนหลัง.....สิ่งต่างๆ ที่ต้นทุ่มเททำเพื่อเขามาตลอด......
"ผมจะอยู่กับต้นตลอดไปนะ"
"กริชว่าอะไรนะครับ?"
"ป....เปล่า...."
"กริชครับ.....เรายังไม่อยากกลับบ้าน"
"งั้นจะ...จะไปไหนล่ะ....หรืออยากไปจู๋จี๋กันที่บ้านผม"
"โหย! ขาเพิ่งเข้าเฝือกอยู่นะ"
"งั้นจะไปไหนล่ะคร้าบท่านน้องชายสุดที่ร้าก?"
"ไปอีกที่นึงนะครับ"
"ไม่เอา! ไกลอะ! ตัวนายก็หนักยังกะควาย"
"ฮะๆ นะครับ นะๆๆ พี่ชายสุดที่รัก นะๆๆ น้าาาาาาา"
กริชไม่ตอบแต่ก็แบกผมไปตามฟุตบาทเรื่อยๆ .....ไม่ต้องบอกว่าไปที่ไหนแต่หัวใจสองดวงต่างรู้คำตอบของอีกฝ่าย เป็นภาพที่แปลกตา กลางแดดร้อนเปรี้ยง เด็กหนุ่มสองคนขี่หลังกันเดินไปตามถนน คนบนหลังแต่งชุดนักบาสสีแดงสะพายเป้แบกไม้ค้ำพะรุงพะรัง ขาก็เข้าเฝือกสีเดียวกันเหมือนจงใจ
......บาสแพ้ไปแล้ว.....ขาก็ใส่เฝือก.....การสอบก็ยังต้องรอฟังผล.......ไม่มีเหรียญทอง.......ไม่มีมอเตอร์ไซค์.......
หนทางของชีวิตไม่ได้สวยงามเป็นไปตามที่คาดหวังเสียทุกครั้ง แต่หากยังไม่ปล่อยมืออีกมือที่เกาะกุม
หากยังไม่หมดหวัง หากยังเชื่อใจ ยังสู้เพื่อตัวเองและคนอีกคนที่อยู่เคียงข้าง ชีวิตก็ยังมีพลังให้ก้าวต่อไป
.......ตอนนี้เหมือนโลกมีแค่เขาสองคน.....คนสองคนที่พร้อมจะเป็นโลกทั้งใบให้กันและกัน......
================= THE END
ขอบคุณ สนุกมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณคับบบ ขอบคุณที่เอามาต่อให้นะครับ ดีจังเลยครับ ขอบคุณครับ อ่านจบแล้วรู้สึกดีไปด้วยครับ สนุกมากครับ อยากอ่านภาคต่อ น่ารักจัง สนุกมาก ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]