มันอ้อย โพสต์ 2021-5-22 04:53:08

DYNAMICS OF LOVE | ขอบคุณที่ไม่ต้องเจอกันอีก 1

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย มันอ้อย เมื่อ 2024-11-17 21:38

      
      
===== ซัน =====      
      
      บรรยากาศริมทะเลตอนใกล้ค่ำนั้นเย็นสบาย ผมที่ยืนค้ำแขนกับระเบียงไม้ดูลูกคลื่นอยู่ก็ถูกเรียกสายตาโดยคนที่เพิ่งเดินขึ้นบันไดมาใหม่      
      "มึงว่างไหม? กูขอคุยด้วยหน่อยสิ" ผมพยักหน้าให้ไปแล้ว แต่เต๋อมันก็ยังคงเงียบและมองมานิ่ง ๆ ท่าทางนั่นดูเหมือนว่าเต๋อมันยังไม่อยากคุยกันตรงนี้ ผมที่รับรู้ได้ก็กระดกเบียร์ที่เหลืออยู่ก้นขวดจนหมด ก่อนจะเป็นฝ่ายออกเดินนำมันลงไปที่ชายหาด      
      เราทั้งคู่เดินเคียงกันมาเงียบ ๆ อยู่พักใหญ่ ก่อนที่เต๋อมันจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นในที่สุด "ริมทะเลตอนกลางคืนสบายดีนะมึงว่าไหม? กูโคตรอยากมีบ้านอยู่แถว ๆ นี้สักหลังนึงเลยว่ะ" ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของมัน พลางก้มมองมวลน้ำที่ถูกซัดเข้ามาบนฝั่งแล้วซึมหายลงไปในผืนทราย      
      หลังจากนั้นเต๋อมันก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ทำเพียงแค่เดินไปเรื่อย ๆ สลับกับเงยมองท้องฟ้าและผืนน้ำที่ขยับไหวไปมา ผมลอบสังเกตมันเป็นพัก ๆ เพื่อรอฟังว่ามันจะพูดเรื่องที่ต้องถึงขั้นชวนผมออกมาคุยไกลขนาดนี้เมื่อไร      
      แต่รอแล้วรอเล่ามันก็ไม่ยอมปริปากพูดมันออกมาเสียที และตอนนี้พวกเราก็มาไกลจากที่พักกันมากแล้ว ผมจึงตัดสินใจเป็นฝ่ายถามมันเสียเองเลย "แล้วเรื่องอะไรวะที่มึงอยากจะคุยกับกู? "      
      เต๋อมันอึ้งไปเล็กน้อย และอึกอักเหมือนอย่างกับยังไม่พร้อมที่จะพูด แต่พอทำใจได้มันก็พยักหน้ากับตัวเองและก็พูดออกมาในที่สุด "ซัน.. กูว่า กูยังชอบมึงเหมือนเดิมว่ะ"      
      เสียงคลื่นซัดชายหาดดังแทรกขึ้นมาในตอนนั้น แต่มันก็ไม่ดังพอที่จะกลบเสียงของเต๋อมัน ผมเสไปสบแววตาที่มองมาอย่างมีความหวังแวบหนึ่ง แล้วตอบรับมันด้วยการพยักหน้าเบา ๆ
      ก่อนหน้านี้ตอนแข่งบาสระหว่างคณะจบ เต๋อมันก็วิ่งมาจากฝั่งทีมของมันเพื่อมาบอกว่าจะขอจีบผม แต่เพราะเพิ่งจบแมตช์ทุกอย่างจึงวุ่นวายไปหมด ผมจึงไม่ได้ตอบรับอะไรมันตอนนั้น      
      จนกระทั่งตอนนี้ที่ผ่านมาเป็นเดือน ๆ แล้ว แต่ผมก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้กับมันเลยว่าจะให้มันเดินหน้าต่อหรือควรจะพอแค่นี้..      
      ผมหลุดออกจากภวังค์ความคิดเมื่อเต๋อมันหยุดอยู่ข้างหลังและพูดขึ้นมาอีกครั้ง "ซันมึงบอกกูมาเถอะ ถ้ามึงไม่อยากให้กูมาวุ่นวายกับมึง.. กูพร้อมนะที่จะหยุด เพื่อให้มึงสบายใจ.."      
      ผมหันกลับไปมองเต๋อมันที่ยังมองมาอย่างอ้อนวอนทางผมอยู่ "มึง.. ก็จีบกูสิ.."      
      เต๋อมันตาโตอย่างคนไม่เชื่อหูตัวเอง ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าตะลึงงันนั่นเป็นรอยยิ้มกว้างน่ามองของมัน "ซัน กูขอสัญญา ว่ากูจะไม่ทำให้มึงเสียใจเลย ที่มึงให้โอกาสกู"      
      …            
      สระว่ายน้ำของศูนย์กีฬาครบวงจรถูกจับจองโดยคณะกองถ่ายซีรีย์ที่จะกำลังออกอากาศในอีกหกเดือนข้างหน้า ผมที่นั่งรออยู่บนอัฒจันทร์ก็ได้แต่มองตามเต๋อมันตาละห้อย เพราะมันเล่นใช้เวลาถ่ายเทคนี้วนไปวนมาปาไปแล้วกว่าสองชั่วโมง      
      เต๋อมันได้รับบทเป็นเพื่อนพระเอกซึ่งต้องลงไปช่วยนางเอกขึ้นจากน้ำมามากว่าหกรอบ เพราะผู้กำกับยังบอกว่าอารมณ์ที่ถ่ายทอดออกมามันยังไม่ดีพอ      
      ผมที่นั่งรอมานานก็ถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะดันตัวขึ้นเพื่อจะลงไปหาเต๋อมันที่นั่งคลุมผ้าเช็ดตัวอยู่บนม้านั่ง
      "ไม่กล้าผายปอดหรอวะ? " ผมถามพลางมองไปทางนางเอกซีรีย์ที่ใส่วันพีชโชว์รูปร่างน่ามอง ก่อนจะถูกยันศอกใส่โดยคนที่นั่งอยู่
      "สัตว์! มองใหญ่เลยนะมึง" ผมยิ้มตอบเพราะรู้ว่ามันกำลังหึง ก่อนจะก้มลงไปกระซิบข้างหูมัน      
      "ไปห้องน้ำกับกูสิ.. แล้วมึงจะผายปอดเทคหน้าผ่านแน่นอน" บอกจบก็ดึงปีกให้มัลุกขึ้นยืนแล้วดึงมันผ่านตากล้องที่มองมาทางพวกผมด้วยสีหน้าประหลาดใจไปทางห้องน้ำ      
      กระจกบานใหญ่ติดกับผนังเป็นสิ่งแรกที่เห็นเมื่อเปิดประตูเข้ามา ผมไม่รอช้ารีบล็อคประตูแล้วดันเต๋อมันจนไปติดขอบอ่าง ก่อนจะแทรกเข้าไปที่ระหว่างโคนขาขาว แล้วรั้งให้เต๋อมันเข้ามาหาสัมผัสปากที่ผมกำลังจะมอบให้      
      "หึง.." ผมกระซิบเสียงแข็งปนความเคืองเล็กน้อย หลังจากผละออกมาจากปากกระจับได้รูปที่ไม่ว่าจะจูบเบาหรือจูบหนักมันก็สร้างความพึงพอใจให้กับผมได้ทุกครั้ง      
      "ขอโทษ.. มึงอย่าโกรธกูเลยนะ กูก็พยายามเซฟตัวเองสุด ๆ แล้ว.." มันพูดทั้งที่หลบสายตา ผมรู้ดีว่าเต๋อมันคงจะรู้สึกผิดที่ทำให้ผมต้องมาทนใช้ปากของมันร่วมกับคนอื่น ผมจึงรั้งมันเข้ามาจูบเบาอีกครั้งว่าผมเข้าใจมัน
      "ไม่เป็นไร แต่กูยอมให้แค่วันนี้ และนี่ คือการลบรอยนางเอกนั่นจากกู" ก่อนจะผละมากระซิบและก็ทาบริมฝีปากลงอย่างดูดดื่มเชื่องช้าอีกครั้ง ผมต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ดูดดึงหรือขบเม้มจนทำให้บวมช้ำ เพราะกลัวคนอื่น ๆ รู้ว่าพวกเราทั้งสองคนนั้นเข้ามาทำอะไรกันในห้องน้ำ
      แต่เพียงไม่นานเต๋อมันก็กลายเป็นฝ่ายรุกกลับ โดยการดูดดึงลิ้มผมให้เข้าไปหาอย่างเรียกร้อง ผมจึงต้องจำยอมและกว่าที่เราจะถอนออกมาจากกันได้ ตอนนั้นทั้งสีข้างและที่คอของเต๋อมันก็ได้แดงเถือกเป็นรอยมือของผมเป็นที่เรียบร้อย
      "แม่ง แดงเลยว่ะ" เต๋อหันซีกหน้าเข้ากระจกพลางยกมือลูบรอยที่มันบ่นก่อนจะหันมามองค้อน ส่วนผมก็เลิกคิ้วใส่ มันใช่ความผิดของผมที่ไหนกันล่ะ มันนั่นแหละที่อยากจูบกับผมต่อเอง
      ผมจึงปั่นประสาทเต๋อมันต่อด้วยการยิ้มยียวนให้เป็นของแถม แล้วออกแรงดึงมันลงจากขอบอ่างและผลักให้มันออกไปข้างนอก ก่อนจะล็อกอีกครั้งเพื่อที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเอง..
      ผมออกมาจากห้องน้ำอีกครั้งก็ทันเห็นฉากที่เต๋อมันกำลังก้มลงผายปอดพอดี ผมรีบกวาดสายตาหาผู้กำกับในทันทีเพื่อจะดูสีหน้าว่าพอใจหรือเปล่าในรอบนี้
      ผู้กำกับทำเพียงแค่กัดเล็บเหมือนในทุกที แต่รอบนี้ไม่มีการสั่งคัดเพื่อเรียกเต๋อมันและนางเอกไปคุยเรื่องการถ่ายทอดอารมณ์ ก่อนคนที่รับบทเป็นทั้งพระเอกและเป็นเพื่อนรักของเต๋อจะเดินเร็ว ๆ เข้ามารั้งไหล่มันออกและซัดหมัดใส่หน้าไปหนึ่งที
      ทุกอย่างรันไปตามบทด้วยความลื่นไหล ผมที่รู้สึกสบายใจแล้วเพราะเต๋อมันไม่ต้องเสียปากให้ใครอีกก็นั่งลงตรงที่นั่งข้างสระ สักพักพี่ตากล้องที่นั่งหันหลังให้ ก็หันหน้ามามองผมแล้วกดมุมปากพลางพยักหน้าให้ด้วยสีหน้ารู้ทัน
      ...
      การนอนหนุนตักเต๋อมันในเช้าวันเสาร์บนโซฟาตัวยาวหน้าทีวีที่เปิดไว้ให้ดูคน เป็นกิจกรรมที่ผมทำเป็นประจำในช่วงสองเดือนมานี้
      ตอนนี้ผมมีแฟนเป็นคนที่ทำหน้าตาเคร่งเครียดตลอดเวลาไปแล้วเรียบร้อย เต๋อมันจะไม่เครียดน่ะสิแปลก ทั้งเรื่องเรียนที่ต้องได้เกรดอย่างต่ำสามจุดสองห้าเพื่อไม่ให้หลุดทุน ไหนจะมีบทซีรีย์เรื่องใหม่ที่แต่งขึ้นมาสด ๆ ร้อน ๆ และกำลังจะออกกล้องในไม่ช้าให้ต้องจำเพิ่มอีก
      ผมไม่อยากจะเชื่อเลย แค่ฉากโบรแมนซ์ระหว่างเต๋อมันกับนักแสดงหน้าใหม่อีกคนที่รับบทเป็นรุ่นน้องที่มาคอยช่วยเต๋อให้ผ่านพ้นช่วงอกหัก ฉากไม่กี่ฉากนี่จะมีคนเชียร์ทีมผู้สร้างอย่างท่วมท้นจนต้องมีเรื่องแยกออกมา
      ผมลุกขึ้นจากตักมันแล้วหันไปมองคนที่ใส่แว่นพลางกัดปลายดินสอไม้จนบู้บี้ ก่อนจะบ่นอู้อี้ใส่มัน "กูหิวแล้วว่ะ"
      "อือ.. ขออีกสิบนาที กูก็หิวแล้วเหมือนกัน" ผมพยักหน้าก่อนจะลุกขึ้นไปหาอะไรกินรองท้อง และไม่ลืมหยิบมาเผื่อมันด้วย
      แซนด์วิชถูกมันรับไปแทะอย่างไม่อิดออด ก่อนจะพึมพำกับสิ่งที่ตัวเองอ่าน ผมที่เห็นว่าคงจะนานเกินสิบนาทีแน่จึงเข้าไปนั่งบนเข่ามัน ก่อนจะดึงบึกกระดาษที่เต๋อมันสนใจมาตั้งแต่เช้าออกจากมือ แล้วส่งกลีบปากเข้าไปหาอย่างออดอ้อนเหมือนกับเด็กที่เรียกร้องความสนใจ
      มันเงยหน้ารับแล้วบดเบียดริมฝีปากกลับอย่างเชื่องช้า ก่อนเราทั้งคู่จะผละออกมาหัวเราะให้กัน      
      "โอเค ๆ ลุกแล้ว ๆ " เต๋อมันว่าก่อนจะดันให้ผมออกจากตัวมัน แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมา ผมที่มองมันอยู่ตลอดก็ทำได้เพียงกดมุมปากกลั้นยิ้มไว้
      แฟนผม แม่งดูดีแม่กระทั่งตอนบิดขี้เกียจอ่ะคิดดูแล้วกัน!
      "เออ พรุ่งนี้กูมีสัมภาษณ์เช้านะ" ระหว่างรอลงลิฟต์มันก็พูดขึ้น
      "ไปไง ให้กูไปส่งมั้ย"
      มันส่ายหน้าเล็กน้อย "ไม่เป็นไร แม่กูเขามารับน่ะ"
      พอพูดถึงแม่เต๋อ ผมยังจำได้เลยว่าครั้งแรกที่เจอกันนั้นผมรู้สึกได้เลยว่าท่านไม่ค่อยชอบผมสักเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนแม่ของเต๋อจะพยายามกีดกันผมออกจากลูกชายของตัวเอง แล้วไหนจะสายตาที่มองมายังผมมันเหมือนกับมองคนที่เกาะลูกชายเขากินอย่างไรอย่างนั้น
      ผมหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตัวเองตอนเสียงลิฟต์ดังขึ้น ก่อนจะหันไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังก้มหน้าอ่านสไลด์ในโทรศัพท์ "แล้วมึงเสร็จกี่โมง"
      เต๋อมันเงยขึ้นมาแล้วทำหน้านึก "น่าจะไม่เกินเที่ยงมั้ง"
      "ให้กูไปรับป่าว"
      "ไม่เป็นไร กลัวจะลำบากมึงเปล่า ๆ " ผมขมวดคิ้วแน่นไม่พอใจที่มันพูดแบบนั้น จนเต๋อมันยิ้มเจื่อนก่อนที่มันจะเลื่อนแขนมาคล้องคอผมแล้วดึงเข้าไปหา "กูหมายถึงสตูมันอยู่ไกล แล้วไหนมึงมีเรียนตอนบ่ายอีก กูไม่อยากให้มึงขับรถตอนเที่ยง ๆ แดดมันร้อน กูเป็นห่วง"
      พอฟังที่เต๋อมันอธิบายผมถึงได้คลายความหน้าตึงลง แล้วพยักหน้าส่ง ๆ ให้กับมันไป ก็นะเหตุผลมันไม่พ้นเป็นห่วงผมนี่หว่า ทำไมผมจะไม่ดีใจล่ะ      
      ...
      ผมยิ้มอารมณ์ดีเพราะกำลังขับรถกลับไปกกแฟนหลังจากอาจารย์ยกคลาสบ่าย ส่วนคลาสเย็นผมยกเอง ตอนนี้บ่ายโมงกว่าแล้วเต๋อมันก็คงจะกลับถึงห้องแล้วเรียบร้อย ตอนแรกผมก็ว่าจะซื้อของเอาขึ้นไปกินบนห้อง
      แต่คิดไปคิดมาไม่ซื้อดีกว่า เพราะอยากจะทำกิจกรรมเข้าจังหวะมากกว่า เมื่อคืนก็ฟัดกันได้นิดเดียวแถมยังรุนแรงไม่ได้อีกเพราะเต๋อมันมีสัมภาษณ์ตอนเช้า บ่ายนี้ก็เลยกะจะเอาให้เต็มอิ่มแล้วค่อยลงมากินข้าวเย็นทีเดียว
      เปิดประตูห้องเข้าไปก็เห็นว่าเต๋อมันยืนค้ำมือจับกระเป๋าเดินทางพลางกวาดสายตามองดูของในห้องอยู่ ความคิดแรกของผมคือเต๋อมันคงจะเตรียมกระเป๋าไปออกรายการต่างจังหวัดสักที่
      ผมไม่ต้องคิดไปเองนานกว่านั้น คนที่จะเฉลยว่ามันเตรียมตัวไปไหนก็หันกลับมามองผมแล้วก็ชะงักไปนาน      
      ก่อนที่มันจะลากกระเป๋ามาหยุดอยู่ตรงหน้าผมแล้วพูดขึ้นเสียงเรียบ "กูขอโทษนะ"
      แทบไม่ต้องคิดผมก็เอื้อมมือไปรั้งมันไว้ทันที "เดี๋ยว! ขอโทษอะไรของมึงวะเต๋อ"      
      ความคิดของผมตอนนี้ตีกันมั่วไปหมด มันจะไปไหน มันจะทำอะไร แล้วทำไมมันต้องขอโทษผมด้วย
      แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีคำอธิบายใดกลับมา แม้แต่จะหันหน้ามามองผมมันก็ยังไม่ทำ..
      มันจากไปแล้ว.. ตอนนี้เหลือเพียงผมที่นั่งลงบนโซฟาแต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ประตูตลอด ผมมองมันอยู่อย่างนั้นและคาดหวังเหลือเกินว่าเต๋อมันจะเปิดประตูนั่นเข้ามาอีกครั้งหนึ่งด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม      
      แต่สุดท้ายประตูนั้น ก็ไม่เคยถูกเปิดออกจากคนที่ชื่อเต๋ออีกเลย..
      …
      บรรยากาศวันรับปริญญานั้นคับคั่งไปด้วยผู้คนที่มาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ที่สำเร็จการศึกษา วันนี้ผมแต่งตัวมาอย่างเนี้ยบเพื่อที่จะมาแสดงความยินดีให้กับบุคคลสาธารณะที่โพสต์เชิญชวนให้ทุกคนมาร่วมงานรับปริญญาของตัวเอง
      แต่.. มันคงไม่ใช่สำหรับผมที่โดนเขาบล็อคเอาไว้ทำให้ไม่เห็นโพสต์ ผมจึงต้องใช้แอคเคาท์อื่นเพื่อส่องดู จริง ๆ ช่วงนี้ผมก็ไม่ได้ว่างเท่าไหร่หรอก เพราะตัวเองก็มีรับปริญญาในวันพรุ่งนี้เหมือนกัน ถ้าคนที่บล็อคผมเขาไม่สำคัญจริง ๆ ผมก็คงจะไม่มางานของเขาหรอก
      เดินผ่านฝูงชนที่รายล้อมเพื่อรอถ่ายรูปคนที่ผมมาหาเขาเข้าไป ก็เจอกับดาราหนุ่มมาแรงที่กำลังฉีกยิ้มกว้างโชว์ฟันเรียงสวยอย่างมีความสุขอยู่ ผิดกับผมที่ก้มพิจารณาช่อดอกไม้เล็ก ๆ ของตัวเองว่ามันจะมีค่าพอให้เขาถือไว้อย่างกับของเหล่าแฟนคลับของเขาหรือเปล่า
      วินาทีที่เต๋อมันจะหันมาทางผม อยู่ ๆ ผมก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจนต้องถอยหลังกลับเข้าไปในกลุ่มผู้คน ก่อนจะเดินเอาดอกไม้ของตัวเองไปฝากรวมไว้กับเหล่าแฟนคลับคนอื่น ๆ แล้วเดินออกมา..
      อย่างน้อยวันนี้ผมก็ได้ให้ดอกไม้มันสักทางหนึ่งนั่นแหละ
      …
      'กูขอโทษนะ' มันเป็นประโยคที่เต๋อเคยบอกกับผม ก่อนจะขอไม่ให้ไปเจอกับเขาอีก ประโยคนี้ประโยคเดียวนี่แหละที่ทำให้ผมกลายเป็นคนกลัวที่กล้าจะรักใคร เพราะกลัวว่าสักวันหนึ่งผมจะได้ยินครั้ง
      แต่แล้ววันนี้ก็มาถึง วันที่เจ้าของประโยคนั่นได้กลับมาพบเจอกับผมอีกครั้งหนึ่ง.. ผมทำเป็นมองไม่เห็นเขาแล้วเดินผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าเขายังไม่รู้ตัวว่าผมทำเมิน จึงรีบก้าวขาตามจนทัน ก่อนจะทักขึ้นทั้งที่ผมไม่ได้หันไปมอง
      "สะ..สบายดีนะ" ประโยคแรกในรอบสามปีตั้งแต่วันนั้นก็คือคำถามโง่ ๆ ในวันนี้ ตอนแรกก็กะจะเงียบไม่ตอบอยู่หรอก แต่เพราะเขาได้เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ให้กับบริษัท ผมจึงต้องตอบกลับไปตามมารยาท
      "ครับ สบายดี" ตอบเสร็จผมก็ปรายตามองเขาเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินหนีโดยไม่หันกลับไปมองคนที่ถูกทิ้งไว้ด้านหลังอีก
      ผมต้องชมตัวเองหนัก ๆ เรื่องที่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นได้ขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ตอนนี้กำลังรู้สึกดีใจอยู่แท้ ๆ ว่าอย่างน้อยเจอกันครั้งนี้เขาก็ยังเข้ามาทักผม
      หมับ!
      ผมหันไปมองมือที่รั้งไหล่ผมเอาไว้ ก่อนจะมองไปยังเจ้าของมัน "กูขอโทษ.."      
      ประโยคเดิมจากคนเดิมที่ถูกพูดออกมาอีกครั้ง ผมฟังแล้วก็ได้แต่กัดกรามแน่นเพื่อไม่ให้แสดงอารมณ์อะไรออกมา "กูขอโทษจริง ๆ "
      ผมไม่อยากฟังคำขอโทษโง่งมนี่ซ้ำ ๆ อีก จึงรีบพูดขัดขึ้นมาก่อน "อือ ไม่เป็นอะไรเลย ไม่ต้องขอโทษอะไรหรอก"      
      พลางมองไปยังมือนั่นเพื่อให้เขาปล่อยมือออก ก่อนจะหันหลังแล้วเดินจากมา..      
      ...
      พอหมดเวลางานช่วงเช้าผมก็รีบพาตัวเองขึ้นมาบนดาดฟ้าเพื่อสูบบุหรี่สักมวนหนึ่ง ตอนนี้รู้สึกเลยว่าตัวเองนั้นไม่ไหวแล้ว เพราะในหัวมีแต่ภาพความทรงจำของคนเมื่อเช้าแทรกขึ้นมาในหัวตลอดเวลา
      ทั้ง ๆ ที่ห้ามไม่ให้ตัวเองรู้สึกแล้วแท้ ๆ แต่สุดท้ายทำไมผมกลับยิ่งรู้สึกมากขึ้นกว่าเดิม
      ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันกับอีกคนมันวนเวียนอยู่ในหัว ก่อนจะจบลงด้วยภาพที่เขามาบอกเลิกผมทั้งที่ไม่ได้บอกอะไรกันเลย
      ผมอยากรู้จริง ๆ เหลือเกินว่าตัวเองนั้นผิดอะไร?
      หลังจากสูบจนหมดมวนก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วอีกครั้งเมื่อได้รับข้อความมาจากแม่
      'เต๋อทักมาขอที่อยู่กับแม่'
      'ซันจะให้แม่ส่งไปไหม'
      'ตอนนี้กลับมาดีกันแล้วหรอ'
      ผมก้มอ่านวนอยู่อย่างนั้น ก่อนจะตัดสินใจพิมพ์ตอบกลับแม่ไป
      'ให้ก็ได้'
      'ผมอยากจะเคลียร์มันให้จบ ๆ ไปเหมือนกัน'
      แม่ส่งสติ๊กเกอร์ว่าโอเคมาอีกสองสามตัวก่อนจะหายไปไม่ถามไถ่อะไรลูกตัวเองอย่างผมอีก
      ...
      วันนี้ทั้งวันไม่รู้ว่าเป็นวันซวยอะไรของผมกันแน่ ตอนเช้าก็เจอโจทก์เก่าที่เลิกกันไปแบบงง ๆ พอตอนเย็นก็ต้องแก้งานจนหัวฟูอีก กว่าจะได้เลิกงานก็โอทียาวจนทุ่มกว่า ๆ
      พอเสร็จงานผมจึงไม่รอช้าพาตัวเองมาที่บาร์เพื่อหาสิ่งย้อมใจ วันนี้วันศุกร์แท้ ๆ แต่กลับงานหนักสุดในรอบสัปดาห์
      ผมที่กำลังถอนหายใจกับงานที่ทำและเรื่องต่าง ๆ ที่เจอมาในวันนี้ก็ถูกขัดจังหวะโดยคนที่มานั่งลงข้าง ๆ
      "สวัสดีครับ ขอนั่งด้วยคนนะครับ"
      ผมก้มมองเหล้าที่เหลือในแก้วพลางพยักหน้าให้กับอีกคน ก่อนจะเสสายตาไปมองเมื่อเขายังคงนั่งหันตัวมาทางผมแถมยังส่งยิ้มมาให้      
      "ชื่ออะไรหรอครับ ผมตุลย์นะ"
      "ซัน.. ครับ" ผมตอบกลับไปพร้อมยกยิ้มเล็กน้อยเพื่อโปรยเสน่ห์ เพราะรู้ดีว่าตุลย์กำลังสนใจในตัวผมแน่ ๆ
      หลังจากนั้นก็โดนเขาถามโน่นถามนี่ไปเรื่อย ผมที่ตอบคำถามของตุลย์จนเบื่อแล้วก็ถอนหายใจขึ้นเสียงดัง ก่อนจะพาเขาเข้าประเด็น "ห้องผมไม่ว่างนะ แต่ที่อื่นผมได้หมด"
      ตุลย์ยิ้มน่ามอง ก่อนจะไม่อ้อมค้อมอะไรอีก "งั้นเปิดห้องสักห้องแล้วกันนะครับคืนนี้"
      "ผมว่าได้อย่างนั้นก็ดี จะได้ไม่ต้องลำบากใคร"
      เราทั้งคู่ลุกขึ้นเมื่อตกลงกันเสร็จ ก่อนจะพากันเดินออกไปเอารถที่หลังร้าน ระหว่างทางเดินช่วงที่มีไฟสลัว ตุลย์ก็รั้งผมเข้าไปจูบ แม้การกระทำนี้จะไม่ค่อยถูกใจผมสักเท่าไรนัก แต่ผมก็ตอบรับกลับไปให้อย่างถึงใจ
      เราทั้งคู่โรมรันกันพันตูกันอย่างนั้นอยู่พักใหญ่แบบไม่สนใจว่าใครจะเดินผ่าน ก่อนตุลย์จะผละออกมายิ้มอย่างถูกใจ "ขอเช็คนิดหน่อยคงจะไม่ว่านะครับ ว่าแต่ซันจูบเก่งจังเลย.."
      ผมยิ้มตอบก่อนจะกระซิบข้างริมฝีปากที่กำลังแดงนั่น "ผมมีอย่างอื่นที่เก่งกว่านี้อีก.."
      ตุลย์ไม่พูดอะไรต่อเขายกยิ้มตาพราวแล้วหันตัวเดินนำผมไปทันที ก่อนจะรั้งผมไว้อีกครั้งเมื่อผมจะเดินไปทางรถของตัวเอง "ไปรถผมดีกว่า เดี๋ยวผมมาส่ง"
      ผมพยักหน้า ปล่อยให้เขานำไปจนถึงสปอร์ตคาร์คันหรูที่ราคาคงไม่ต่ำกว่าหลักสิบล้าน ผมที่ไม่ได้ขัดขืนตุลย์ตั้งแต่แรกชาตินี้จึงได้มีบุญหย่อนตูดลงบนเบาะหนังอย่างดีของแอสตันมาตินคันงาม
      ขับออกไปจากบาร์นั่นได้ไม่นานก็ถึงโรงแรมสภาพดีที่จะใช้ฟัดกายเนื้อกันกับคนที่กำลังขยับหัวเข้ากับจังหวะเพลงอย่างอารมณ์ดีในคืนนี้
      ตุลย์ลงจากรถแล้วเดินนำผมไปที่ลิฟต์เลย ตัวเองที่กำลังสงสัยจึงถามขึ้น "ตุลย์จองห้องไว้แล้วเหรอ"
      เขายกยิ้มภูมิใจก่อนจะหันมามองผมเพียงเท่านั้น และปล่อยให้ความเงียบงันเป็นคำตอบ
      จนกระทั่งประตูห้องปิดลงเขาก็รั้งผมเข้าไปบดจูบ ก่อนเขาจะผละออกมาเพื่อพูดพลางยกยิ้มร้าย "ก็ผมอยาก และก็รู้ว่าคืนนี้ผมก็ต้องได้"
      เขาไม่รอให้ผมเข้าใจอะไรไปมากกว่านั้นก็ลงทุนแกะเสื้อผ้าตัวเองออก ผมเองก็เรีบแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตตาม ก่อนที่เขาจะเดินดุ่มเข้ามาคว้าผมไปจูบ
      เราหมุนเราเหวี่ยงเพื่อบดจูบระหว่างนั้นก็ช่วยกันดึงช่วยกันรั้งเปลือกนอกที่เหลือติดอยู่บนตัวออก ก่อนผมจะโดนผลักลงไปกับเตียงขนาดใหญ่ที่เด้งสู้กับร่างผมตั้งแต่สัมผัส
      ผมก็รู้ได้ทันทีว่ามันจะดังแค่ไหน เมื่อต้องส่งเสียงแข่งกับความร้อนแรงของเราทั้งสองคน..
      ...
      ผมลุกขึ้นมองคนที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับเตียง ก่อนจะเดินเข้าไปชำระร่างกายในห้องน้ำ การใช้ชีวิตสนุกไปวัน ๆ อย่างนี้มันก็ดีอยู่หรอก แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันนั้นยังไม่เพียงพอ ผมอยากได้อะไรที่มันถึงใจมากกว่านี้ อยากรู้สึกมากกว่านี้ อยากครอบครองมากกว่านี้
      แต่สุดท้ายแล้วก็ทำได้เพียงหักห้ามใจ เพราะอย่างไรมันก็คือวันไนท์แสตน
      เดินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นตุลย์นอนพิงพนักหัวเตียงพลางเล่นโทรศัพท์อยู่ เขาเงยขึ้นมามองผมเพียงครู่ ก่อนจะลุกขึ้นเข้าห้องน้ำไป
      ผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยตุลย์ก็ออกมาพอดี ความเงียบงันระหว่างเราทั้งคู่ตอนนี้ทำให้ทั้งห้องกว้างดูอึดอัดไปเสียหมด ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เสียงครางและคำอุทานยังดังก้องไปทั่วห้องแท้ ๆ แต่พอเสร็จกิจกลับงันเงียบใส่กัน
      "ให้ผมไปส่งที่บาร์นั่นใช่มั้ย" ตุลย์ถามขึ้นระหว่างใส่กระดุมแขนพลางมองมาทางผมผ่านบานกระจก
      "ครับ" ผมตอบแค่นั้น ก่อนจะก้มลงทำเป็นเช็คข้อความในโทรศัพท์ต่อ
      คนที่แต่งตัวเสร็จแล้วก็หันตัวกลับมาก่อนจะคร่อมผมไว้ แล้วจับมือถือผมไปกดอย่างถือวิสาสะ "เบอร์ผม ถ้าอยากสนุกเมื่อไหร่ก็โทรมา รับรองเลยว่าถึงใจเหมือนครั้งนี้แน่นอน"
      เขาพูดจบก็ก้มลงมาสูดจมูกเบาข้างซอกคอผมก่อนจะผละออกไป ผมก็ยืนขึ้นตามเขาและเดินตามเหมือนกับตอนขามา            


TO BE CONTINUED ..      
                  

tjkung โพสต์ 4 วันที่แล้ว

ข อ บ คุ ณ ค รั บ

nuangnut1996 โพสต์ 6 วันที่แล้ว

สนุกมากครับ

atatar45 โพสต์ 2021-6-14 11:32:10

ขอบคุณครับ

ore โพสต์ 2021-5-28 12:02:35

ขอบคุณครับ

Aquarius_Camu โพสต์ 2021-5-26 14:21:00

ขอบคุณครับ

4554 โพสต์ 2021-5-25 21:52:00

รัก คือสิ่งที่สวยงาม

guide01 โพสต์ 2021-5-25 19:15:15

ขอบคุณมากเลยนะครับ

mm2013 โพสต์ 2021-5-23 10:25:39

ขอบคุณมากครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2021-5-22 10:12:45

สนุกมากครับ

ore โพสต์ 2021-5-22 08:11:41


อยากเจอแบบนี้ครับ​ อิอิอิ

audiwoods โพสต์ 2021-5-22 06:16:16

อยากเจอแบบนี้ครับ​ อิอิอิ

takeshi โพสต์ 2021-5-22 05:26:05


ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: DYNAMICS OF LOVE | ขอบคุณที่ไม่ต้องเจอกันอีก 1