keai998 โพสต์ 2022-2-25 19:50:33

การดิ้นรนจากบ้านเด็กกำพร้า 2 (โลกของผู้ชาย)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย keai998 เมื่อ 2022-3-6 23:21

**เนื้อหาต่อไปนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น ชื่อ สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆเป็นเพียงเรื่องสมมุติมีความแฟนตาซี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็ก**             ณหมู่เกาะแห่งหนึ่งมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ ในเมืองแห่งนี้มีสถานอยู่หลากหลายเช่น คาเฟ่ชายหาด ท่าเรือ บาร์เปลือย ป่า ผับ โรงเรียน โรงเรียนสอนเต้น โรงพยาบาล โรงงานร้านเกม สปา สถานีตำรวจ ห้าง             ทุกสถานที่ ที่กล่าวมาก็ไม่ได้ดูแปลกใหม่อะไรล้วนเป็นสถานมีอยู่ทั่วไปตามที่อื่นๆ แต่ที่ดูแปลกตาคงจะเป็นชาวเมืองที่เดินไปมาอยู่นั้นไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้ชาย ไม่ใช่แค่ที่นี่เท่านั้นแต่ที่อื่นๆ ก็เช่นกัน ทุกๆ ที่ล้วนมีแต่ผู้ชายทั้งนั้นโลกที่มีแต่ผู้ชาย...            สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 07:40 น.            หลังจากทาจิแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังออกจากห้องพบว่าที่โถงกลางของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กคนอื่นๆ ก็กำลังจะมุ่งหน้าไปโรงเรียนเช่นกัน            ขณะกำลังปิดประตูห้องนั้นก็มีเสียงเดินใกล้เข้ามาที่ทาจิ            พลั่ก!!!            ทาจิตกใจล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างจัง หลังจากได้สติก็แหงนหน้าขึ้นพบว่าเคจเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าผลักเขาและเข็นรถบรรทุกเสบียงอาหารกำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวโดยที่ไม่สนเขาเลยซักนิด            มันเจ็บนะ! ไม่สนใจกันเลยหรอไง!! ทาจิคิดแต่ก็ได้แค่คิดไม่มีใครกล้าพูดอะไรแบบนั้นใส่เคจหรอก            ทาจิลุกขึ้น รู้สึกเจ็บที่ก้นของเขาแต่ก็ต้องทำใจและเดินออกไปเงียบๆ เท่านั้น            เมื่อเดินออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็พบผู้คนกำลังเดินทางไปทำงาน เด็กๆ กำลังเดินไปโรงเรียนทาจิเดินไปที่ป้ายรถประจำทางแล้วรออยู่ตรงนั้นไม่กี่นาทีรถประจำทางก็มา            ทาจิเดินขึ้นรถประจำทางจ่ายค่าตั๋ว เดินไปท้ายรถและนั่งหนึ่งในที่นั่งที่ว่างอยู่รอให้รถเคลื่อนตัวไปบริเวณโรงเรียนของเขา ระหว่างทางก็มีคนขึ้นรถตลอดทาง             ทุกเช้าในวันธรรมดาแบบนี้ข้างในรถเต็มไปด้วยนักเรียนระหว่างทางไปโรงเรียนทาจินั่งมองออกไปนอกหน้าต่างมองดูทางที่กำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ            ทาจิมักจะอยู่คนเดียวเสมอเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนและไม่ชอบเข้าสังคมเวลาว่างๆก็มักจะเดินเล่นไปมาแต่ไม่เข้าสังคมกับใคร เล่นที่ร้านเกม ไม่ก็หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวันเมืองเล็กๆ แห่งนี้ช่างน่าเบื่อ และมักจะได้ยินหรือเห็นการกระทำแปลกๆของชาวเมืองด้วย ที่นี่ไม่มีคนสนใจคนอย่างเขา ถ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ก็จะไปเขาจึงตัดสินใจคุยกับเคจเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า            ว่าแต่นิโคเนี่ยทำไมถึงมาคุยกับเรานะ            ทาจิได้แต่คิดแล้วก็สงไส            สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 07:55 น.            ในที่สุดรถประจำทางก็เคลื่อนที่มาถึงโรงเรียนทาจิเดินลงจากรถพร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆ บริเวณรอบๆ มีอาคารที่หลากหลายแต่ก็ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวแต่ที่โดดเด่นที่สุดคือโรงเรียน คงจะเพราะนักเรียนที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนอย่างไม่ขาดสายหรือนักเรียนที่กำลังเที่ยวเล่นอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น ทาจิแวะซื้อแซนวิชอันเล็กๆ ที่ขายหน้าโรงเรียนมากินเป็นประจำทุกเช้า            อันละตั้งหนึ่งเหรียญแหนะได้แค่นี้เองดีนะเรากินน้อย แล้วเขาก็บ่นในใจประจำทุกเช้า            ทาจิเข้าไปในโรงเรียนทันทีผ่านสนามเด็กเล่นหน้าโรงเรียน มีนักเรียนที่อายุน้อยกว่ากำลังเล่นอยู่จำนวนนึงทาจิเดินเข้าไปในอาคารเข้าสู่โถงทางเดินนักเรียนและอาจารย์เดินผ่านไปมาก่อนจะเดินไปที่ห้องเรียนวิชาแรก            ไม่มีใครอยู่ในห้อง            คาบแรกเริ่มเวลา 09.00น.            ทาจิเดินผ่านโถงทางเดินไปเรื่อยๆมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดของโรงเรียนเมื่อเข้าไปก็พบนักเรียนหลายคนกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ บางส่วนก็เดินหาหนังสือตามชั้น            มีชั้นวางหลายชั้นพร้อมวรรณกรรมทางวิชาการทั่วไปหนังสือเกี่ยวกับวิศวกรรม ชีววิทยา สังคมศาสตร์ และการเรียนรู้ภาษา หนังสือที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้            ถัดมาเป็นตะกร้าใบเล็กๆที่คืนหนังสือและหนังสือยังไม่ได้คัดแยก            มีนักเรียนคนนึงนั่งที่เคาน์เตอร์กำลังสับเอกสารและประทับตรา            อื้มมมมถ้าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น การย้ายโรงเรียนเหมือนจะต้องสอบด้วยสินะไปยืมหนังสือเรียนมาอ่านซักหน่อย ลองตั้งใจเรียนซักนิดดดดดนึงงงงงงงก็ไม่เสียหายหละมั้ง? มั้ง??            ทาจิเดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์หลังเคาน์เตอร์มีเด็กชายหน้าตาดูเหนื่อยล้าคนนึง            ก่อนที่ทาจิจะเดินไปถึงเคาน์เตอร์เด็กชายคนนั้นก็มองมาที่ทาจิพอดีและยิ้มเบาๆ ราวกับจะจำเขาได้            “อรุนสวัสดิ์...”            เขาพูดแล้วหาว            ทาจิเหลือบไปมองที่ป้ายชื่อหน้าเคาน์เตอร์‘เชน’ชื่อของเด็กชายสวมแว่นตาอ่านหนังสือดวงตาสีเหลืองอำพันและผมสีบลอนต์หน้าตาดูเหนื่อยๆ อาจจะเพราะเป็นคนที่ทำงานหนักตลอดเวลา            เชนประทับตราอะไรซักอีกครั้งโดยที่ยังคงมองเขาอยู่            “ครั้งแรกที่คุณมาที่เคาน์เตอร์? คุณสามารถยืมหนังสือได้ครั้งละหนึ่...”            เขาหยุดหาวอีกครั้ง            “หนึ่งเล่มต่อครั้ง”            “อ่อที่เคาน์เตอร์เราขายชุดนักเรียนด้วยนะอาจารย์ใหญ่เอเซอเพิ่มราคาชุดนักเรียนเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่แพงเท่าในห้างหนะนะแล้วก็ถ้าเป็นนักเรียนดีเด่นก็จะได้รับส่วนลดพิเศษด้วย”            พูดยาวเป็นหางว่าวแต่น้ำเสียงดูร่าเริงถึงจะดูหมดแรงตอนพูดจบก็เถอะ ก็พูดซะยาวขนาดนี้            “หนังสือสามารถยืมได้ครั้งละสองสัปดาห์....”            จู่ๆเชนก็มองลงมาดูที่มือของเขา พบว่าที่เขาประทับตราลงที่มือตัวเองว่า ‘เกินกำหนด’ เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งและยิ้มให้ทาจิอย่างประหม่า            “เอ่อเป็นการสาธิตว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณส่งคืนหนังสือล่าช้าหรือเสียหาย เราชื่อเชนนะ ยินดีที่รู้จัก”            เอ่อรู้ชื่อแล้วครับ ดูจากป้ายครับ            “ชื่อทาจิครับยินดีที่รู้จัก”            ทาจิกับเชนคุยกันอยู่ซักพักจนลืมว่าจะยืมหนังสือเรียนแต่ก็ใกล้เวลาเรียนแล้วทาจิจึงขอตัว แต่ก่อนที่ทาจิจะเดินออกไปเชนก็พูดขึ้น            “เอ่อ..ขอถามอะไรซักหน่อยได้มั้ย?”            ทาจิหันกลับหันซ้ายหันขวา เมื่อมั่นใจว่าเชนทักตนแน่ๆ จึงพยักหน้า            “นักเรียนคนอื่นชอบพูดตลกกับเราเราไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไร พวกนั้นจะขยิบตาใส่เราบางคนชวนเราไปที่ที่ดูส่วนตัวกับเขา เขาก็ดูเป็นคนดีนะแต่เราออกจากเคาน์เตอร์เวลานี้ไม่ได้ คิดว่าเราควรทำตัวยังไงดี?”            คืออะไรหละหนะ ไม่เห็นเข้าใจทาจิคิดอย่างนั้น            “พวกนั้นอยากรู้จักนายแหละลองเปิดใจคุยกันดูซักนิดสิ”            ทาจิพูด            พูดไปนั่นเราเองยังไม่มีเพื่อนเลยเหอะๆ            “นายคิดอย่างอย่างนั้นจริงๆหรอ”            เขายิ้ม            “ขอบคุณ”            เขามองลงมาที่แล้วดวงตาเบิกกว้าง            “อ๊ะ!! จะสายแล้ว”            เขาเริ่มจัดของ            “โทษทีไว้มาคุยกันทีหลังนะ”            แล้วเขาก็วิ่งออกไป            อะไรหละหนะพูดแปลกๆ แล้วรีบอะไรขนาดนั้นยังเหลืออีกตั้งหลายนาที            ทาจิจึงค่อยๆเดินอย่างไม่รีบร้อนไปที่ห้องเรียนวิชาแรก ก่อนออกจากห้องสมุดของโรงเรียนก็ได้ยินนักเรียนบางคนคุยกัน            “มันแย่มาก! ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันสอบตก”            “ก็ฉันบอกให้ตั้งใจเรียนดีๆไง!”            พยายามเข้านะครับทาจิให้กำลังใจในใจก่อนจะเดินออกไป            สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 08:55 น.            ทาจิเดินมาถึงห้องเรียนนักเรียนบางส่วนนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วและก็มีนักเรียนทยอยเข้าห้องเรียนเรื่อยๆ            ทาจิเข้าไปนั่งที่ประจำตรงแถวกลางมุมสุดริมหน้าต่างนั่งรอเวลาเริ่มเรียนในทุกคาบ          สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 09:00 น.            เมื่อถึงเวลาเรียนวิชาแรกอาจารย์เคนทาโรอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ เขาเป็นคนใจเย็นและมีความอดทนแต่บางครั้งก็ดูเงอะงะทำอะไรไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่            ช่วงแรกของบทเรียนทาจิตั้งใจฟังอาจารย์และศึกษาเนื้อหาไปเรื่อยๆ            อาจารย์เคนมองรอบๆ ห้องและเหลือบมามองที่ทาจิครู่หนึ่งก่อนจะขอให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งมาที่หน้าชั้นเรียน            เคนยิ้มให้เด็กชายและในไม่กี่นาทีต่อมาก็เริ่มพูดถึงกระดูกและอวัยวะต่างๆ โดยชี้ที่ส่วนต่างๆของร่างกายไปด้วย            ต่อมาเคนก็เปิดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์มีการมุ่งเน้นการศึกษาที่เข้มข้น โดยพูดถึงเรื่องสุขภาพทางเพศโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์และการคุมกำเนิดว่ามนุษย์ทุกคนนั้นเกิดมาพร้อมกับอวัยวะสืบพันธุ์สองอย่างคือองคชาตและมดลูกที่อยู่ในทวารหนักของทุกๆคน โดยการจะให้กำเนิดบุตรหรือการคุมกำเนิดนั้น ผู้ที่จะให้กำเนิดบุตรได้คือผู้ที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไปหรือมีร่างกายที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจึงจะสามารถสืบพันธุ์ได้ผู้ที่อายุต่ำกว่านั้นจึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ส่วนการคุมกำเนิดก็คือการสวมถุงยางอนามัยและฉีดยาชนิดหนึ่งที่การตกไข่หรือการผ่าตัดท่อนำไข่            ขณะวิดีโอบทเรียนนี้กำลังฉายอยู่บรรยากาศภายในห้องเป็นบรรยากาศเบาๆ นักเรียนบางคนดู แต่มีไม่กี่คนที่ดูสนใจจริงๆส่วนมากจะพูดคุยกันอยู่ตลอด            ส่วนทาจินั้นกำลังตั้งใจศึกษาอย่างละเอียดจนการอธิบายเรื่องเพศจบลงและมีฉากการการร่วมเพศขึ้นมา เด็กๆเริ่มหันมาสนใจมากขึ้นแต่แค่ครู่เดียวเท่านั้น
            วิดีโอฉายภาพของชายสองคนกำลังดูดปากลูบไล้ ไซร้คอ มือของทั้งสองเริ่มถอดเสื้อผ้าของกันและกันจนเหลือแต่กางเกงในแสดงให้เห็นถึงท่อนขนาดใหญ่ที่กำลังแข็งของทั้งสองขณะที่ชายอีกคนนึงมุดหน้าเข้าไปดมและเลียแท่งนั้นนอกกางเกงในเหมือนกับสิ่งนั้นเป็นของที่โปรดปรานเมื่อทำเช่นนั้นจนพอใจแล้วขณะกำลังจะถอดกางเกงในของอีกคนนึงนั้น             ทาจิกำลังนั่งดูอย่างตั้งใจในขณะที่สายตาจ้องดูวิดีโอนั้น เจ้าแท่งขนาดเล็กของเขา ก็แข็งจนอึดอัด มันแข็งจัดดันกางเกงจนนูนออกมาเดาว่าเด็กคนอื่นๆ ก็เช่นกัน            พึ่บ            “เอ้า!!”            เด็กแทบจะทั้งห้องส่งเสียงคล้ายกันออกมา            เสียงทีวีปิดลง            “ใกล้จะหมดเวลาแล้วคลิปการสาธิตนี้อาจารย์จะเปิดให้ดูต่อในคาบต่อไป”            เคนยิ้มก่อนที่จะวางรีโมทลง พร้อมกับเสียงอิดออกของเด็ก ๆ          สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 09:59 น.            เสียงกริ่งดังขึ้นหมายถึงการสิ้นสุดบทเรียน มีเวลาแค่หนึ่งนาทีก่อนที่จะเริ่มวิชาถัดไป นักเรียนคนบางคนเริ่มเดินออกจากห้องเรียน เพื่อเตรียมตัวไปเรียนในวิชาที่สอง            ทาจิกุมเป้าตัวเองไว้กะจะรอให้แท่งน้อยของตนสงบก่อนจึงจะออกจากห้องไป ในขณะที่นักเรียนบางคนก็ทำเช่นเดียวกับเขาแต่บางคนก็ไม่ นักเรียนบางคนเดินออกไปทั้งๆที่เป้าของตนนูนเด่นออกมาโดยไม่แคร์สายตาคนอื่นบางคนก็ลูบของกันและกันข้างนอกกางเกงซะอย่างอย่างไคร่รู้ซะอย่าง            ทาจิมองดูสิ่งเหล่านั้นเขารู้สึกร้านผ่าวทั้งตัว เป็นความรู้สึกแปลกๆ เขาหันไปมองทางอื่นและกุมเป้าออกจากห้องไปหลังจากเดินไปได้ซักพักแท่งน้อยของเขาก็หดตัว            ทาจิเข้าไปในห้องเรียนต่อไปพบว่าอาจารย์เฉียงอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ นักเรียนมักจะประพฤติตัวดีในชั้นเรียนของเขา อาจารย์เฉียงกำลังเตรียมอุปกรณ์ที่หน้าชั้นเรียนในขณะที่ดวงตาแหลมคมของเขาก็ตรวจดูรอบๆห้อง            ช่วงแรกของบทเรียนทาจิตั้งใจฟังอาจารย์และศึกษาเนื้อหาเช่นเดิม            เฉียงสาธิตสมการบนกระดานไวท์บอร์ดและถามคำถามเป็นครั้งคราวโดยเลือกนักเรียนที่เขาคิดว่าไม่สนใจเรียน            หลังจากตั้งใจเรียนมาซักพักจนเริ่มรู้สึกเบื่อๆ เฉียงก็มายืนอยู่ข้างโต๊ะของทาจิ             “ผมขอใช้คุณหน่อย ผมต้องการให้คุณส่งจดหมายนี่ไปให้อาจารย์ใหญ่ที”             เขายื่นซองจดหมายที่ปิดผลึกแล้วให้กับทาจิ            งื้อเริ่มเซ็งพอดีเลยส่งช้าๆ หน่อยแล้วกัน            ทาจิรับจดหมายนั่นมา เดินออกจากห้องเรียนและตรงไปส่งที่ห้องอาจารย์ใหญ่ช้าๆโดยไม่รีบร้อน และก็เดินกลับมาที่ห้องเรียนด้วยความช้าเท่าเดิม          สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 10:59 น.            เสียงกริ่งดังขึ้น            อื้อออออ จะหมดช่วงเช้าแล้วววววเหลืออีกวิชานึงงงงง            ทาจิและนักเรียนคนอื่นๆ เดินออกจากห้องและไปเรียนในวิชาที่สาม            เมื่อเข้าไปในห้องเรียนต่อไปก็พบว่าอาจารย์รูเพิร์ต อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษรออยู่ในห้องแล้ว เมื่อนักเรียนพากันนั่งที่จนครบอาจารย์ก็เริ่มสอนทันที             ทาจิเริ่มสนใจการเรียนน้อยลงและเล่นยางลบปากกาของตนเองแทน            เห้อการเรียนช่างน่าเบื่ออย่างงี้จะตั้งใจเรียนเพื่อไปสอบเข้าที่อื่นได้หรอเนี่ย เอ๊ะ..ถึงสอบได้ก็ออกจากบ้านเด็กกำพร้าไม่ได้ถ้ายังจ่ายหนี้ไม่หมดหนิ.....            ซักพักรูเพิร์ต ขอให้ทาจิสาธิตการใช้ไวยากรณ์บนไวท์บอร์ดในขณะที่ทาจิเดินไปที่หน้าห้องเรียน ก็มีเท้ายื่นออกมาในเส้นทางที่กำลังเดินและทำให้ทาจิสะดุดและคุกเข่าลงกับพื้นเด็กชายที่ยื่นเท้าออกมาและเพื่อนในกลุ่มของเขาเริ่มหัวเรอะ            อาจารย์รูเพิร์ตจ้องเขม็งไปที่เด็กชาย            “เชิญออกจากชั้นเรียนและไปพบอาจารย์ใหญ่ครับ”            อาจารย์พูดเสียงแข็งเล็กน้อยก่อนเด็กชายจะออกจากห้องเรียนไป            ทาจิได้แต่เก็บความเจ็บไว้แล้วลุกขึ้นไปที่หน้าชั้นสาธิตให้อาจารย์ดูและกลับไปนั่งที่เดิม ถ้ารูเพิร์ตไม่เห็นเขาก็คงโดนแกล้งแบบนี้โดยไม่มีใครสนใจ          สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 11:59 น.            เสียงกริ่งดังขึ้น            พักเที่ยง!!            ทาจิและนักเรียนคนอื่นๆ เดินออกจากห้องเรียนบางคนวิ่งบางคนเดินไปที่โรงอาหารด้วยความหิว            ขณะกำลังเดินไปที่โรงอาหารของโรงเรียนก็พบเด็กชายตัวเล็กๆคนนึง ทาจิจำได้ว่าน่าจะอายุเท่ากับเขาและเหมือนจะเป็นคน แปลกๆ ตอนจะเดินผ่านเด็กชายคนนั้นเด็กคนนั้นก็หันมาเห็นทาจิกำลังมองเขาอยู่จากนั้นเด็กชายก็ทำหน้าน่าขนลุกเมื่อทาจิเดินผ่านเขาก็เริ่มติดตามทาจิ            อึ๊ย!! เดินตามมาทำไมอะ เดินตามสินะ กำลังตามมาชัดๆ            ทาจิเร่งฝีเท่าเล็กหน่อยก่อนจะเดินสวนกับอาจารย์            เด็กชายหยุดตามทาจิเมื่อเห็นอาจารย์และเดินไปอีกทางนึง            อะไรเนี่ย! น่ากลัวจัง!!            ในที่สุดทาจิก็เดินมาถึงโรงอาหารในห้องเต็มไปด้วยนักเรียนกำลังพูดคุยและกินอาหารกลางวัน            ทาจิต่อแถวรับอาหารกลางวันและมองหาที่ว่างเพื่อนั่งกินอาหารคนเดียวเหมือนทุกครั้ง
            “เฮ้!!”            ....            “เฮ้!! ทาจิ!!!”            ทาจิหันไปตามเสียงเรียกเป็นนิโคที่เรียกเขา            “มานั่งกินด้วยกันสิ!!”            ทาจิลังเล เอ๊ะ! ชวนเราหรอทำไมหละ! เอ๊ะ!            แต่เหมือนนิโคจะสังเกตว่าทาจิกำลังลังเลอยู่จึงลุกจากโต๊ะแล้วเดินมาจูงมือเขาไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย            ทาจิก็มานั่งด้วยแบบงงๆ            โดนลากมาเฉย อะไรของเขา            “ทาจิสีหน้าเครียดๆนะ! อย่ากดดันตัวเองมากไปหละ!!”            อยู่กันใกล้แค่นี้ต้องพูดเสียงดังด้วยหรอ!@!            ทาจิกับนิโคนั่งกินอาหารด้วยกันโดยที่นิโคชวนคุยอยู่ตลอดเวลาที่รับกินอาหาร            “เดียวเราไปรอที่ห้องเรียนนะ”            นิโคพูดหลังจากทาจิกินอาหารคำสุดท้ายหมด            “เราไม่ชอบเข้าเรียนสายหนะ”            นิโคพูดย้ำอีกทีก่อนที่จะเดินมาก่อนเขา            ทาจิหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกเช่นเดิมจนนิโคปล่อยเขาและเดินจากไป            อะไร๊!! อยู่ๆ ก็มากอดกันอีกแล้ว!!            ว่าแต่เมื่อกี๊ว่าไงนะไปรอที่ห้องเรียน? เอ๊ะ?            ทาจินั่งงงและสงไสอยู่ซักพักก่อนจะปล่อยวางนำถาดอาหารไปเก็บและออกจากโรงอาหารไป            ทาจิออกมานั่งเล่นอยู่บริเวณสนามเด็กเล่นคนเดียวซักพักรอให้ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วจึงกลับเข้าไปในอาคารเรียนอีกครั้งมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนวิชาที่สี่            เมื่อใกล้ถึงเวลาทาจิเดินไปในห้องเรียนวิชาประวัติศาสตร์และเห็นนิโคอยู่ในห้องเรียนแล้ว เขายิ้มพร้อมกับโบกมือให้กับเขา แล้วชี้ไปที่นั่งที่ว่างข้างๆเขา            เอ๊ะ! เราเรียนวิชานี้ด้วยกันหรอ จำไม่เห็นได้เลยหรือเพราะไม่สังเกตนะ...เอาไงดีหละอยู่กันแค่สองคนด้วยถ้าปฏิเสธจะโกรธกันมั้ยนะ            ทาจิคิดและตัดสินใจจะเข้าไปนั่งข้างๆนิโคแต่มีเด็กชายคนอื่นเดินเข้ามานั่งที่ตรงนั้นก่อนที่เขาจะไปถึง            อ๊ะ!            นิโคแทบจะหยุดยิ้มทันทีที่มีเด็กคนอื่นมานั่งตรงข้างๆ เขาแล้วก้มหน้าลง            ทาจิหาที่อื่นนั่ง สัมผัสได้ถึงแผ่นหลังว่านิโคส่งคลื่นแห่งความเศร้าจากอีกฟากของห้อง            ขอโทษนะเราไม่กล้าขอเด็กคนนั้นหรอกอาจจะดีแล้วก็ได้ที่เราไม่ต้องนั่งด้วยกันสัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 13:00 น.            เมื่อถึงเวลาเรียนอาจารย์อาเธอร์ก็เข้ามาในห้องเขาเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ เขาเป็นอาจารย์ที่อายุเยอะสุดในโรงเรียนแล้ว            อาเธอร์เริ่มบรรยายในชั้นเรียนด้วยเสียงพึมพำของเขาบรรยายถึงประวัติศาสตร์ของเมือง บ้านผีสิงชื่อดังของเมือง อื่นๆ            ทาจินั่งฟังด้วยความเบื่อจนหมดคาบ...          สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 13:59 น.            เสียงกริ่งดังขึ้น            อีกวิชาเดียว!!            ทาจิเดินออกจากห้องรีบเดินไปที่เรียนวิชาสุดท้าย!! เป็นการเรียนว่ายน้ำ!!            เมื่อไปถึงก็พบว่าเด็กนักเรียนคนอื่นๆ อยู่เต็มห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังถอดเสื้อและกางกางเพื่อเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำบางคนใส่มาอยู่แล้วแทนกางเกงในแค่ถอดเสื้อและกางเกงออกบางคนถอดออกทั้งหมดรวมถึงกางเกงในด้วยแล้วใส่กางเกงว่ายน้ำทีหลังโดยไม่อาย            แต่เขาอาย..เขาเลยใส่กางเกงว่ายน้ำมาโรงเรียนทุกครั้งเพื่อที่จะไม่ต้องเปลี่ยนชุดต่อหน้าคนอื่น เขายังจำตอนที่ต้องเปลี่ยนชุดว่ายน้ำต่อหน้าคนอื่นๆได้ มันหน้าอาย ใครจะไปคิดหละว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามันโล่งขนาดนี้ห้องน้ำก็ไม่มีต้องเปลี่ยนกันโต้งๆ เท่านั้น
            หลังจากแค่ถอดเสื้อผ้าทาจิก็เหลือแค่เกงเกงว่ายน้ำตัวเดียว แล้วเข้าไปในบริสระว่ายน้ำ            อาจารย์โรเบิร์ตเป็นอาจารย์สอนว่ายน้ำเขาเป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุด แก่กว่านักเรียนบางคนเพียงไม่กี่ปี เขามีร่างกายที่แข็งแรงกระตือรือร้นและเป็นคนชอบแสดงออก             โรเบิร์ตยืนอยู่ข้างสระน้ำกระตุ้นให้นักเรียนยืดเส้นยืดสายระหว่างรอนักเรียนที่เหลือ            ทาจิจดจ่อกับการทำตามคำแนะนำของโรเบิร์ตและทุ่มเทให้กับการเรียน            แน่นอนเพราะเขาว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งในช่วงแรกๆ นั้นค่อนข้างยากทีเดียว แต่ตอนนี้เขาคิดว่าทักษะการว่ายน้ำของเขากำลังก้าวหน้าและมีความมั่นใจในการว่ายน้ำมากขึ้น            โรเบิร์ตคอยเฝ้ามองจากขอบสระเสมอและให้คำแนะนำแก่นักเรียนที่ดูเหมือนจะลำบาก            สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 14:59 น.            เสียงกริ่งดัง             ทาจิปีนออกจากสระกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุดเช็ดตัวจนแห้งและรีบใส่เสื้อผ้าออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อทันที            เลิกเรียนแล้วโว้วววว!            ทาจิตะโกนในใจเขาดีใจทุกครั้งที่ได้กลับมานอนกลิ้งในห้องตนเอง แต่ตอนนี้เขาต้องใช้หนี้ด้วยเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่น...แต่เอาไว้หาเงินวันเสาร์อาทิตย์ค่อยก็ได้!!            ทาจิเดินผ่านโถงทางเดินของโรงเรียนนักเรียนและอาจารย์บางคนยังคงอยู่แม้ว่าจะถึงเวลาเลิกเรียนแล้วเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างยังคงเปิดอยู่สองสามชั่วโมง เขาไม่สนอะไรนอกจากกลับห้องของตนเท่านั้นเดินออกจากอาคารผ่านสนามเด็กเล่นและออกไปอยู่หน้าโรงเรียน            หน้าโรงเรียนมีแต่เสียงพูดคุยบ้างก็หัวเรอะ            ทาจิเดินไปที่ป้ายรถประจำทางเพื่อกลับไปห้องของตน
            เป็นกิจวัตรประจำวันของทาจิทุกๆ วันก็มักจะเป็นเช่นนี้ ‘เหมือนเดิม’ น่าจะเป็นแบบนั้น ต่อจากนี้แค่ต้องสละเวลาไปหาเงินเพื่อออกจากที่นี้เท่านั้นเอง
            “เฮ้!!”            “…”            ทาจิเดินไปเรื่อยๆเพื่อไปยังป้ายรถประจำทาง แต่ก่อนจะถึงเสียงวิ่งมาข้างหลังและจับบ่าหันกลับมา            “เฮ้!! ทาจิ!!”            เป็นนิโคที่วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม            ทาจิตกใจ แต่ก็แปปเดียวแค่วันเดียว เขาก็คิดแล้วว่าน่าจะเป็นนิโคแน่ๆ ที่มาทำอะไรกับเขาแบบนี้ เพราะวันนี้มีแค่เขาคนเดียวที่ทักและเข้าหาเขาแบบนี้เป็นครั้งแรก            “ดีใจจังที่นายอยู่ที่นี่เราไม่ชอบเดินกลับบ้านคนเดียว เดินกลับด้วยกันมั้ย?”            นิโคพูดและยังคงยิ้มอยู่            “...เอ่อก็ได้มั้ง”            “เยี่ยม!!”            นิโคเดินเข้ามาและจับมือเขาแล้วเดินนำเขาไป            “อ๊ะ…”            ทาจิตกใจอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขารู้สึกอายที่มีคนมาจูงมือพาเขากลับบ้านแบบนี้            คนๆ นี้มันยังไงกันเนี่ย!! เอะอะ จะทัก จะจับ จะกอด ไม่บอกซักคำ!!!            ทาจิรู้สึกร้อนที่ใบหน้าตลอดทางที่เดินกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกันเขาชวนพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ ตลอดทางจนถึงบ้านเด็กกำพร้าก่อนจะแยกกันเข้าห้อง เขาชวนทาจิให้ไปเล่นที่ห้องเขาวันนี้            “ทาจิมาเล่นห้องเราสิจำที่เราบอกเมื่อวานได้มั้ย เรามีอะไรจะให้นายดู!อย่าลืมมาห้องเรานะ”            สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 16:10 น.            หลังจากอาบน้ำแต่งตัว ทาจินอนกลิ้งอยู่ในห้องตนเองมาพักใหญ่พลางคิดถึงคำชวนของนิโค            งื้อออออออ เอาไงดีนะลองเข้าไปหาดีมั้ยนะ            ทาจินอนคิดอยู่อีกพักนึงย้อนคิดถึงตอนที่เจอกับนิโคตลอดวันนี้ ทุกครั้งที่นิโคเขามักจะรู้สึก...แปลกๆอยู่เสมอเป็นความรู้สึกที่...ไม่เคยพบเจอ            ความรู้สึกนี้....            ทาจิลุกขึ้นจากเตียงเดินออกจากห้องมุ่งหน้าไปยังห้องของนิโค            ทาจิยืนสูดหายใจเข้าออกอยู่หน้าห้องของนิโคซักพักนึงระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงมาจากข้างในเป็นระยะ            เมื่อเสียงเงียบลงทาจิจึงตัดสินใจเคาะประตูจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงภายในห้องอีกครั้งแต่เป็นเสียงที่ดูวุ่นวายกว่าเดิม            นิโคเปิดประตูออกมาและกอดเขา            กอดอีกแล้ว!!            “นายมา”             นิโคพูด             “ดู”             นิโคดึงทาจิเข้าไปในห้องที่มุมใต้ทีวีเครื่องเก่ามีเครื่องเล่นเกมเครื่องนึงอยู่            เครื่องเกม!! ไปเอามาจากไหน? ซื้อ?             “...นี่คือที่จะให้เราดูหรอ”            “อื้อใช่!!”            นิโคตอบ            “เราเก็บห้องแล้ว”             นิโคพูดขณะนั่งอยู่บนเตียง            “นายรออะไรอยู่?”             พร้อมกับตบเตียงข้างๆเขา            ทาจินั่งลงข้างๆนิโคและดูเขาเล่นเกมซักพัก            “ไม่เล่นด้วยกันหรอ?”            นิโคถาม            เครื่องแพงแน่ๆถ้าทำพังขึ้นมาจะเป็นไงหละ พึ่งรู้จักกันวันนี้เอง...            “เราขอนั่งดูก่อนนะ”            นิโคทำหน้ามุ่ยวางจอยลงแล้วหันมาทางทาจิ            “น่ามาเล่นด้วยกันนนน”            “ม..ไม่..เอ่อเราขอนั่งดูนายไปก่อนนะ”            ทาจิตอบ            นิโคทำสิหน้าสงไสแต่พยักหน้าเข้าใจแล้วเล่นเกมต่อ            ผ่านไปซักพักนิโคก็เอนตัวลงวางหัวไว้บนตักของเขา            อ๊ะ...            ทาจิไม่กล้าขยับแล้วปล่อยให้นิโคหนุนตักไปอย่างนั้น..ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเอื้อมมือไปลูบหัวของนิโค
            หลังจากลูบอยู่สองสามทีนั้น            “หยุดดดด”            นิโคพูดแบบงัวเงีย            “ทำแบบนี้จะทำให้เราหลับบบ”            ทาจิขยับมือออกไป            “เอ่อเราไม่ได้ตั้งใจ...”            หลังจากนั้นอีกซักพักนิโคเล่นติดอยู่ในด่านที่ยากและไม่ผ่านด่านซักทีเขาเลยวางคอนโทรลเลอร์ลงบนตักของทาจิ            “ลองดูสิ”            ทาจิมองนิโคก่อนที่นิโคจะยิ้มให้แล้วจับมือของเขาหยิบคอนโทรลเลอร์ขึ้นมา ทาจิสามารถเล่นจนจบด่านนั้นได้และส่งคอนโทรลเลอร์กลับไปให้เขา            “นายทำได้!!ขอบคุณ..”            “ขอบคุณที่ใช้เวลากับเรา...”            นิโคกล่าว            “มันสนุกมากกว่าเล่นคนเดียว..”            เล่นคนเดียว....            “อื้อเราขอเล่นด้วยนะ”            “ได้สิ!!”            นิโคหยิบคอนโทนลเลอร์อีกอันให้ทาจิทั้งคู่เล่นด้วยกันพักใหญ่จนนิโคเงยหน้ามองดูนาฬิกาที่ผนัง            “มันเลยเวลานอนของเราแล้วพรุ้งนี้เรามาเล่นกันอีกนะ”            นิโคกล่าวพร้อมกับกอดทาจิ            “ฝันดีนะ”            “ฝันดี”            ทาจิตอบ             แล้วจึงกลับห้องตนเอง ก่อนจะแก้ผ้าขึ้นนอนบนเตียง...พลางนึกถึงคำพูดของนิโค‘พรุ้งนี้เรามาเล่นกันอีกนะ’            ทาจินอนยิ้มอยู่อย่างนั้นจนหลับไป
            ปล.ช่วยคอมเมนต์ติชมหรือเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ

lekthai โพสต์ 2022-2-25 21:30:20

ขอบคุณ

danzalion โพสต์ 2022-2-25 22:15:25

ขอบคุณครับ

karanvee โพสต์ 2022-2-25 22:19:41


ขอบคุณครับ

Kantruk โพสต์ 2022-2-25 22:38:16

ขอบคุณค่าบ

azimexs โพสต์ 2022-2-26 00:40:48

แต่งและเรียบเรียงเนื้อเรื่องแบบอ่านง่ายดีครับ ชอบ

dekdek11 โพสต์ 2022-2-26 03:44:31

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2022-2-26 04:44:37

สนุกมากครับ

thanapat0440 โพสต์ 2022-2-26 05:33:43

งงครับ

team901x โพสต์ 2022-2-26 06:38:14


ขอบคุณครับ

tjkung โพสต์ 2022-2-26 10:33:57

ข อ บ คุ ณ ค รั บ

thai_boys โพสต์ 2022-2-26 17:52:22

ยอดมาก ขอบคุณครับ

Thuvadyr โพสต์ 2022-2-26 20:03:13

ขอบคุณครับ

arasi22 โพสต์ 2022-2-28 07:40:42

ขอบคุณครับ

ICE122612 โพสต์ 2022-2-28 14:36:15

รอมาต่อ

maxum โพสต์ 2022-3-1 09:59:38

ขอบคุณมากนะครับ

kkkggg โพสต์ 2022-3-1 21:59:14

ติดตาม

xoman โพสต์ 2022-3-2 06:17:29


ขอบคุณครับ

Feen โพสต์ 2022-3-2 14:23:42


ขอบคุณครับ

nasan โพสต์ 2022-3-2 19:06:14

ขอบคุณครับรอตอนต่อไปครับ
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: การดิ้นรนจากบ้านเด็กกำพร้า 2 (โลกของผู้ชาย)