แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย keai998 เมื่อ 2022-3-6 23:21
**เนื้อหาต่อไปนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น ชื่อ สถานที่และเหตุการณ์ต่างๆ เป็นเพียงเรื่องสมมุติมีความแฟนตาซี และมีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็ก** ณหมู่เกาะแห่งหนึ่งมีเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ ในเมืองแห่งนี้มีสถานอยู่หลากหลายเช่น คาเฟ่ชายหาด ท่าเรือ บาร์เปลือย ป่า ผับ โรงเรียน โรงเรียนสอนเต้น โรงพยาบาล โรงงานร้านเกม สปา สถานีตำรวจ ห้าง ทุกสถานที่ ที่กล่าวมาก็ไม่ได้ดูแปลกใหม่อะไรล้วนเป็นสถานมีอยู่ทั่วไปตามที่อื่นๆ แต่ที่ดูแปลกตาคงจะเป็นชาวเมืองที่เดินไปมาอยู่นั้นไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ผู้ชาย ไม่ใช่แค่ที่นี่เท่านั้นแต่ที่อื่นๆ ก็เช่นกัน ทุกๆ ที่ล้วนมีแต่ผู้ชายทั้งนั้นโลกที่มีแต่ผู้ชาย . . . สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 07:40 น. หลังจากทาจิแต่งตัวเสร็จแล้วกำลังออกจากห้องพบว่าที่โถงกลางของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กคนอื่นๆ ก็กำลังจะมุ่งหน้าไปโรงเรียนเช่นกัน ขณะกำลังปิดประตูห้องนั้นก็มีเสียงเดินใกล้เข้ามาที่ทาจิ พลั่ก!!! ทาจิตกใจล้มลงก้นกระแทกพื้นอย่างจัง หลังจากได้สติก็แหงนหน้าขึ้นพบว่าเคจเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าผลักเขาและเข็นรถบรรทุกเสบียงอาหารกำลังมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวโดยที่ไม่สนเขาเลยซักนิด มันเจ็บนะ! ไม่สนใจกันเลยหรอไง!! ทาจิคิดแต่ก็ได้แค่คิดไม่มีใครกล้าพูดอะไรแบบนั้นใส่เคจหรอก ทาจิลุกขึ้น รู้สึกเจ็บที่ก้นของเขาแต่ก็ต้องทำใจและเดินออกไปเงียบๆ เท่านั้น เมื่อเดินออกมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็พบผู้คนกำลังเดินทางไปทำงาน เด็กๆ กำลังเดินไปโรงเรียนทาจิเดินไปที่ป้ายรถประจำทางแล้วรออยู่ตรงนั้นไม่กี่นาทีรถประจำทางก็มา ทาจิเดินขึ้นรถประจำทางจ่ายค่าตั๋ว เดินไปท้ายรถและนั่งหนึ่งในที่นั่งที่ว่างอยู่รอให้รถเคลื่อนตัวไปบริเวณโรงเรียนของเขา ระหว่างทางก็มีคนขึ้นรถตลอดทาง ทุกเช้าในวันธรรมดาแบบนี้ข้างในรถเต็มไปด้วยนักเรียนระหว่างทางไปโรงเรียนทาจินั่งมองออกไปนอกหน้าต่างมองดูทางที่กำลังเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ทาจิมักจะอยู่คนเดียวเสมอเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนและไม่ชอบเข้าสังคมเวลาว่างๆก็มักจะเดินเล่นไปมาแต่ไม่เข้าสังคมกับใคร เล่นที่ร้านเกม ไม่ก็หมกตัวอยู่ในห้องทั้งวันเมืองเล็กๆ แห่งนี้ช่างน่าเบื่อ และมักจะได้ยินหรือเห็นการกระทำแปลกๆของชาวเมืองด้วย ที่นี่ไม่มีคนสนใจคนอย่างเขา ถ้าย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ก็จะไปเขาจึงตัดสินใจคุยกับเคจเจ้าของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ว่าแต่นิโคเนี่ยทำไมถึงมาคุยกับเรานะ ทาจิได้แต่คิดแล้วก็สงไส สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 07:55 น. ในที่สุดรถประจำทางก็เคลื่อนที่มาถึงโรงเรียนทาจิเดินลงจากรถพร้อมกับนักเรียนคนอื่นๆ บริเวณรอบๆ มีอาคารที่หลากหลายแต่ก็ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวแต่ที่โดดเด่นที่สุดคือโรงเรียน คงจะเพราะนักเรียนที่กำลังเดินเข้าโรงเรียนอย่างไม่ขาดสายหรือนักเรียนที่กำลังเที่ยวเล่นอยู่ใกล้ๆ บริเวณนั้น ทาจิแวะซื้อแซนวิชอันเล็กๆ ที่ขายหน้าโรงเรียนมากินเป็นประจำทุกเช้า อันละตั้งหนึ่งเหรียญแหนะได้แค่นี้เองดีนะเรากินน้อย แล้วเขาก็บ่นในใจประจำทุกเช้า ทาจิเข้าไปในโรงเรียนทันทีผ่านสนามเด็กเล่นหน้าโรงเรียน มีนักเรียนที่อายุน้อยกว่ากำลังเล่นอยู่จำนวนนึงทาจิเดินเข้าไปในอาคารเข้าสู่โถงทางเดินนักเรียนและอาจารย์เดินผ่านไปมาก่อนจะเดินไปที่ห้องเรียนวิชาแรก ไม่มีใครอยู่ในห้อง คาบแรกเริ่มเวลา 09.00น. ทาจิเดินผ่านโถงทางเดินไปเรื่อยๆมุ่งหน้าไปยังห้องสมุดของโรงเรียนเมื่อเข้าไปก็พบนักเรียนหลายคนกำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ บางส่วนก็เดินหาหนังสือตามชั้น มีชั้นวางหลายชั้นพร้อมวรรณกรรมทางวิชาการทั่วไปหนังสือเกี่ยวกับวิศวกรรม ชีววิทยา สังคมศาสตร์ และการเรียนรู้ภาษา หนังสือที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ ถัดมาเป็นตะกร้าใบเล็กๆที่คืนหนังสือและหนังสือยังไม่ได้คัดแยก มีนักเรียนคนนึงนั่งที่เคาน์เตอร์กำลังสับเอกสารและประทับตรา อื้มมมมถ้าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น การย้ายโรงเรียนเหมือนจะต้องสอบด้วยสินะไปยืมหนังสือเรียนมาอ่านซักหน่อย ลองตั้งใจเรียนซักนิดดดดดนึงงงงงงงก็ไม่เสียหายหละมั้ง? มั้ง?? ทาจิเดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์หลังเคาน์เตอร์มีเด็กชายหน้าตาดูเหนื่อยล้าคนนึง ก่อนที่ทาจิจะเดินไปถึงเคาน์เตอร์เด็กชายคนนั้นก็มองมาที่ทาจิพอดีและยิ้มเบาๆ ราวกับจะจำเขาได้ “อรุนสวัสดิ์...” เขาพูดแล้วหาว ทาจิเหลือบไปมองที่ป้ายชื่อหน้าเคาน์เตอร์‘เชน’ชื่อของเด็กชายสวมแว่นตาอ่านหนังสือดวงตาสีเหลืองอำพันและผมสีบลอนต์หน้าตาดูเหนื่อยๆ อาจจะเพราะเป็นคนที่ทำงานหนักตลอดเวลา เชนประทับตราอะไรซักอีกครั้งโดยที่ยังคงมองเขาอยู่ “ครั้งแรกที่คุณมาที่เคาน์เตอร์? คุณสามารถยืมหนังสือได้ครั้งละหนึ่...” เขาหยุดหาวอีกครั้ง “หนึ่งเล่มต่อครั้ง” “อ่อที่เคาน์เตอร์เราขายชุดนักเรียนด้วยนะอาจารย์ใหญ่เอเซอเพิ่มราคาชุดนักเรียนเพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ก็ยังไม่แพงเท่าในห้างหนะนะแล้วก็ถ้าเป็นนักเรียนดีเด่นก็จะได้รับส่วนลดพิเศษด้วย” พูดยาวเป็นหางว่าวแต่น้ำเสียงดูร่าเริงถึงจะดูหมดแรงตอนพูดจบก็เถอะ ก็พูดซะยาวขนาดนี้ “หนังสือสามารถยืมได้ครั้งละสองสัปดาห์....” จู่ๆเชนก็มองลงมาดูที่มือของเขา พบว่าที่เขาประทับตราลงที่มือตัวเองว่า ‘เกินกำหนด’ เขาเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งและยิ้มให้ทาจิอย่างประหม่า “เอ่อเป็นการสาธิตว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าคุณส่งคืนหนังสือล่าช้าหรือเสียหาย เราชื่อเชนนะ ยินดีที่รู้จัก” เอ่อรู้ชื่อแล้วครับ ดูจากป้ายครับ “ชื่อทาจิครับยินดีที่รู้จัก” ทาจิกับเชนคุยกันอยู่ซักพักจนลืมว่าจะยืมหนังสือเรียนแต่ก็ใกล้เวลาเรียนแล้วทาจิจึงขอตัว แต่ก่อนที่ทาจิจะเดินออกไปเชนก็พูดขึ้น “เอ่อ..ขอถามอะไรซักหน่อยได้มั้ย?” ทาจิหันกลับหันซ้ายหันขวา เมื่อมั่นใจว่าเชนทักตนแน่ๆ จึงพยักหน้า “นักเรียนคนอื่นชอบพูดตลกกับเราเราไม่แน่ใจว่ามันหมายถึงอะไร พวกนั้นจะขยิบตาใส่เราบางคนชวนเราไปที่ที่ดูส่วนตัวกับเขา เขาก็ดูเป็นคนดีนะแต่เราออกจากเคาน์เตอร์เวลานี้ไม่ได้ คิดว่าเราควรทำตัวยังไงดี?” คืออะไรหละหนะ ไม่เห็นเข้าใจทาจิคิดอย่างนั้น “พวกนั้นอยากรู้จักนายแหละลองเปิดใจคุยกันดูซักนิดสิ” ทาจิพูด พูดไปนั่นเราเองยังไม่มีเพื่อนเลยเหอะๆ “นายคิดอย่างอย่างนั้นจริงๆหรอ” เขายิ้ม “ขอบคุณ” เขามองลงมาที่แล้วดวงตาเบิกกว้าง “อ๊ะ!! จะสายแล้ว” เขาเริ่มจัดของ “โทษทีไว้มาคุยกันทีหลังนะ” แล้วเขาก็วิ่งออกไป อะไรหละหนะพูดแปลกๆ แล้วรีบอะไรขนาดนั้นยังเหลืออีกตั้งหลายนาที ทาจิจึงค่อยๆเดินอย่างไม่รีบร้อนไปที่ห้องเรียนวิชาแรก ก่อนออกจากห้องสมุดของโรงเรียนก็ได้ยินนักเรียนบางคนคุยกัน “มันแย่มาก! ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันสอบตก” “ก็ฉันบอกให้ตั้งใจเรียนดีๆไง!” พยายามเข้านะครับทาจิให้กำลังใจในใจก่อนจะเดินออกไป สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 08:55 น. ทาจิเดินมาถึงห้องเรียนนักเรียนบางส่วนนั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วและก็มีนักเรียนทยอยเข้าห้องเรียนเรื่อยๆ ทาจิเข้าไปนั่งที่ประจำตรงแถวกลางมุมสุดริมหน้าต่างนั่งรอเวลาเริ่มเรียนในทุกคาบ สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 09:00 น. เมื่อถึงเวลาเรียนวิชาแรกอาจารย์เคนทาโรอาจารย์สอนวิชาวิทยาศาสตร์ เขาเป็นคนใจเย็นและมีความอดทนแต่บางครั้งก็ดูเงอะงะทำอะไรไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่ ช่วงแรกของบทเรียนทาจิตั้งใจฟังอาจารย์และศึกษาเนื้อหาไปเรื่อยๆ อาจารย์เคนมองรอบๆ ห้องและเหลือบมามองที่ทาจิครู่หนึ่งก่อนจะขอให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งมาที่หน้าชั้นเรียน เคนยิ้มให้เด็กชายและในไม่กี่นาทีต่อมาก็เริ่มพูดถึงกระดูกและอวัยวะต่างๆ โดยชี้ที่ส่วนต่างๆของร่างกายไปด้วย ต่อมาเคนก็เปิดคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการสืบพันธุ์ของมนุษย์มีการมุ่งเน้นการศึกษาที่เข้มข้น โดยพูดถึงเรื่องสุขภาพทางเพศโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์และการคุมกำเนิดว่ามนุษย์ทุกคนนั้นเกิดมาพร้อมกับอวัยวะสืบพันธุ์สองอย่างคือองคชาตและมดลูกที่อยู่ในทวารหนักของทุกๆคน โดยการจะให้กำเนิดบุตรหรือการคุมกำเนิดนั้น ผู้ที่จะให้กำเนิดบุตรได้คือผู้ที่มีอายุสิบแปดปีขึ้นไปหรือมีร่างกายที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจึงจะสามารถสืบพันธุ์ได้ผู้ที่อายุต่ำกว่านั้นจึงไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ส่วนการคุมกำเนิดก็คือการสวมถุงยางอนามัยและฉีดยาชนิดหนึ่งที่การตกไข่หรือการผ่าตัดท่อนำไข่ ขณะวิดีโอบทเรียนนี้กำลังฉายอยู่บรรยากาศภายในห้องเป็นบรรยากาศเบาๆ นักเรียนบางคนดู แต่มีไม่กี่คนที่ดูสนใจจริงๆส่วนมากจะพูดคุยกันอยู่ตลอด ส่วนทาจินั้นกำลังตั้งใจศึกษาอย่างละเอียดจนการอธิบายเรื่องเพศจบลงและมีฉากการการร่วมเพศขึ้นมา เด็กๆเริ่มหันมาสนใจมากขึ้นแต่แค่ครู่เดียวเท่านั้น
วิดีโอฉายภาพของชายสองคนกำลังดูดปากลูบไล้ ไซร้คอ มือของทั้งสองเริ่มถอดเสื้อผ้าของกันและกันจนเหลือแต่กางเกงในแสดงให้เห็นถึงท่อนขนาดใหญ่ที่กำลังแข็งของทั้งสองขณะที่ชายอีกคนนึงมุดหน้าเข้าไปดมและเลียแท่งนั้นนอกกางเกงในเหมือนกับสิ่งนั้นเป็นของที่โปรดปรานเมื่อทำเช่นนั้นจนพอใจแล้วขณะกำลังจะถอดกางเกงในของอีกคนนึงนั้น ทาจิกำลังนั่งดูอย่างตั้งใจในขณะที่สายตาจ้องดูวิดีโอนั้น เจ้าแท่งขนาดเล็กของเขา ก็แข็งจนอึดอัด มันแข็งจัดดันกางเกงจนนูนออกมาเดาว่าเด็กคนอื่นๆ ก็เช่นกัน พึ่บ “เอ้า!!” เด็กแทบจะทั้งห้องส่งเสียงคล้ายกันออกมา เสียงทีวีปิดลง “ใกล้จะหมดเวลาแล้วคลิปการสาธิตนี้อาจารย์จะเปิดให้ดูต่อในคาบต่อไป” เคนยิ้มก่อนที่จะวางรีโมทลง พร้อมกับเสียงอิดออกของเด็ก ๆ สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 09:59 น. เสียงกริ่งดังขึ้นหมายถึงการสิ้นสุดบทเรียน มีเวลาแค่หนึ่งนาทีก่อนที่จะเริ่มวิชาถัดไป นักเรียนคนบางคนเริ่มเดินออกจากห้องเรียน เพื่อเตรียมตัวไปเรียนในวิชาที่สอง ทาจิกุมเป้าตัวเองไว้กะจะรอให้แท่งน้อยของตนสงบก่อนจึงจะออกจากห้องไป ในขณะที่นักเรียนบางคนก็ทำเช่นเดียวกับเขาแต่บางคนก็ไม่ นักเรียนบางคนเดินออกไปทั้งๆที่เป้าของตนนูนเด่นออกมาโดยไม่แคร์สายตาคนอื่นบางคนก็ลูบของกันและกันข้างนอกกางเกงซะอย่างอย่างไคร่รู้ซะอย่าง ทาจิมองดูสิ่งเหล่านั้นเขารู้สึกร้านผ่าวทั้งตัว เป็นความรู้สึกแปลกๆ เขาหันไปมองทางอื่นและกุมเป้าออกจากห้องไปหลังจากเดินไปได้ซักพักแท่งน้อยของเขาก็หดตัว ทาจิเข้าไปในห้องเรียนต่อไปพบว่าอาจารย์เฉียงอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ นักเรียนมักจะประพฤติตัวดีในชั้นเรียนของเขา อาจารย์เฉียงกำลังเตรียมอุปกรณ์ที่หน้าชั้นเรียนในขณะที่ดวงตาแหลมคมของเขาก็ตรวจดูรอบๆห้อง ช่วงแรกของบทเรียนทาจิตั้งใจฟังอาจารย์และศึกษาเนื้อหาเช่นเดิม เฉียงสาธิตสมการบนกระดานไวท์บอร์ดและถามคำถามเป็นครั้งคราวโดยเลือกนักเรียนที่เขาคิดว่าไม่สนใจเรียน หลังจากตั้งใจเรียนมาซักพักจนเริ่มรู้สึกเบื่อๆ เฉียงก็มายืนอยู่ข้างโต๊ะของทาจิ “ผมขอใช้คุณหน่อย ผมต้องการให้คุณส่งจดหมายนี่ไปให้อาจารย์ใหญ่ที” เขายื่นซองจดหมายที่ปิดผลึกแล้วให้กับทาจิ งื้อเริ่มเซ็งพอดีเลยส่งช้าๆ หน่อยแล้วกัน ทาจิรับจดหมายนั่นมา เดินออกจากห้องเรียนและตรงไปส่งที่ห้องอาจารย์ใหญ่ช้าๆโดยไม่รีบร้อน และก็เดินกลับมาที่ห้องเรียนด้วยความช้าเท่าเดิม สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 10:59 น. เสียงกริ่งดังขึ้น อื้อออออ จะหมดช่วงเช้าแล้วววววเหลืออีกวิชานึงงงงง ทาจิและนักเรียนคนอื่นๆ เดินออกจากห้องและไปเรียนในวิชาที่สาม เมื่อเข้าไปในห้องเรียนต่อไปก็พบว่าอาจารย์รูเพิร์ต อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษรออยู่ในห้องแล้ว เมื่อนักเรียนพากันนั่งที่จนครบอาจารย์ก็เริ่มสอนทันที ทาจิเริ่มสนใจการเรียนน้อยลงและเล่นยางลบปากกาของตนเองแทน เห้อการเรียนช่างน่าเบื่ออย่างงี้จะตั้งใจเรียนเพื่อไปสอบเข้าที่อื่นได้หรอเนี่ย เอ๊ะ..ถึงสอบได้ก็ออกจากบ้านเด็กกำพร้าไม่ได้ถ้ายังจ่ายหนี้ไม่หมดหนิ..... ซักพักรูเพิร์ต ขอให้ทาจิสาธิตการใช้ไวยากรณ์บนไวท์บอร์ดในขณะที่ทาจิเดินไปที่หน้าห้องเรียน ก็มีเท้ายื่นออกมาในเส้นทางที่กำลังเดินและทำให้ทาจิสะดุดและคุกเข่าลงกับพื้นเด็กชายที่ยื่นเท้าออกมาและเพื่อนในกลุ่มของเขาเริ่มหัวเรอะ อาจารย์รูเพิร์ตจ้องเขม็งไปที่เด็กชาย “เชิญออกจากชั้นเรียนและไปพบอาจารย์ใหญ่ครับ” อาจารย์พูดเสียงแข็งเล็กน้อยก่อนเด็กชายจะออกจากห้องเรียนไป ทาจิได้แต่เก็บความเจ็บไว้แล้วลุกขึ้นไปที่หน้าชั้นสาธิตให้อาจารย์ดูและกลับไปนั่งที่เดิม ถ้ารูเพิร์ตไม่เห็นเขาก็คงโดนแกล้งแบบนี้โดยไม่มีใครสนใจ สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 11:59 น. เสียงกริ่งดังขึ้น พักเที่ยง!! ทาจิและนักเรียนคนอื่นๆ เดินออกจากห้องเรียนบางคนวิ่งบางคนเดินไปที่โรงอาหารด้วยความหิว ขณะกำลังเดินไปที่โรงอาหารของโรงเรียนก็พบเด็กชายตัวเล็กๆคนนึง ทาจิจำได้ว่าน่าจะอายุเท่ากับเขาและเหมือนจะเป็นคน แปลกๆ ตอนจะเดินผ่านเด็กชายคนนั้นเด็กคนนั้นก็หันมาเห็นทาจิกำลังมองเขาอยู่จากนั้นเด็กชายก็ทำหน้าน่าขนลุกเมื่อทาจิเดินผ่านเขาก็เริ่มติดตามทาจิ อึ๊ย!! เดินตามมาทำไมอะ เดินตามสินะ กำลังตามมาชัดๆ ทาจิเร่งฝีเท่าเล็กหน่อยก่อนจะเดินสวนกับอาจารย์ เด็กชายหยุดตามทาจิเมื่อเห็นอาจารย์และเดินไปอีกทางนึง อะไรเนี่ย! น่ากลัวจัง!! ในที่สุดทาจิก็เดินมาถึงโรงอาหารในห้องเต็มไปด้วยนักเรียนกำลังพูดคุยและกินอาหารกลางวัน ทาจิต่อแถวรับอาหารกลางวันและมองหาที่ว่างเพื่อนั่งกินอาหารคนเดียวเหมือนทุกครั้ง
“เฮ้!!” .... “เฮ้!! ทาจิ!!!” ทาจิหันไปตามเสียงเรียกเป็นนิโคที่เรียกเขา “มานั่งกินด้วยกันสิ!!” ทาจิลังเล เอ๊ะ! ชวนเราหรอทำไมหละ! เอ๊ะ! แต่เหมือนนิโคจะสังเกตว่าทาจิกำลังลังเลอยู่จึงลุกจากโต๊ะแล้วเดินมาจูงมือเขาไปนั่งร่วมโต๊ะด้วย ทาจิก็มานั่งด้วยแบบงงๆ โดนลากมาเฉย อะไรของเขา “ทาจิสีหน้าเครียดๆนะ! อย่ากดดันตัวเองมากไปหละ!!” อยู่กันใกล้แค่นี้ต้องพูดเสียงดังด้วยหรอ!@! ทาจิกับนิโคนั่งกินอาหารด้วยกันโดยที่นิโคชวนคุยอยู่ตลอดเวลาที่รับกินอาหาร “เดียวเราไปรอที่ห้องเรียนนะ” นิโคพูดหลังจากทาจิกินอาหารคำสุดท้ายหมด “เราไม่ชอบเข้าเรียนสายหนะ” นิโคพูดย้ำอีกทีก่อนที่จะเดินมาก่อนเขา ทาจิหน้าแดงทำอะไรไม่ถูกเช่นเดิมจนนิโคปล่อยเขาและเดินจากไป อะไร๊!! อยู่ๆ ก็มากอดกันอีกแล้ว!! ว่าแต่เมื่อกี๊ว่าไงนะไปรอที่ห้องเรียน? เอ๊ะ? ทาจินั่งงงและสงไสอยู่ซักพักก่อนจะปล่อยวางนำถาดอาหารไปเก็บและออกจากโรงอาหารไป ทาจิออกมานั่งเล่นอยู่บริเวณสนามเด็กเล่นคนเดียวซักพักรอให้ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้วจึงกลับเข้าไปในอาคารเรียนอีกครั้งมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนวิชาที่สี่ เมื่อใกล้ถึงเวลาทาจิเดินไปในห้องเรียนวิชาประวัติศาสตร์และเห็นนิโคอยู่ในห้องเรียนแล้ว เขายิ้มพร้อมกับโบกมือให้กับเขา แล้วชี้ไปที่นั่งที่ว่างข้างๆเขา เอ๊ะ! เราเรียนวิชานี้ด้วยกันหรอ จำไม่เห็นได้เลยหรือเพราะไม่สังเกตนะ...เอาไงดีหละอยู่กันแค่สองคนด้วยถ้าปฏิเสธจะโกรธกันมั้ยนะ ทาจิคิดและตัดสินใจจะเข้าไปนั่งข้างๆนิโคแต่มีเด็กชายคนอื่นเดินเข้ามานั่งที่ตรงนั้นก่อนที่เขาจะไปถึง อ๊ะ! นิโคแทบจะหยุดยิ้มทันทีที่มีเด็กคนอื่นมานั่งตรงข้างๆ เขาแล้วก้มหน้าลง ทาจิหาที่อื่นนั่ง สัมผัสได้ถึงแผ่นหลังว่านิโคส่งคลื่นแห่งความเศร้าจากอีกฟากของห้อง ขอโทษนะเราไม่กล้าขอเด็กคนนั้นหรอกอาจจะดีแล้วก็ได้ที่เราไม่ต้องนั่งด้วยกันสัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 13:00 น. เมื่อถึงเวลาเรียนอาจารย์อาเธอร์ก็เข้ามาในห้องเขาเป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์ เขาเป็นอาจารย์ที่อายุเยอะสุดในโรงเรียนแล้ว อาเธอร์เริ่มบรรยายในชั้นเรียนด้วยเสียงพึมพำของเขาบรรยายถึงประวัติศาสตร์ของเมือง บ้านผีสิงชื่อดังของเมือง อื่นๆ ทาจินั่งฟังด้วยความเบื่อจนหมดคาบ... สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 13:59 น. เสียงกริ่งดังขึ้น อีกวิชาเดียว!! ทาจิเดินออกจากห้องรีบเดินไปที่เรียนวิชาสุดท้าย!! เป็นการเรียนว่ายน้ำ!! เมื่อไปถึงก็พบว่าเด็กนักเรียนคนอื่นๆ อยู่เต็มห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ากำลังถอดเสื้อและกางกางเพื่อเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำบางคนใส่มาอยู่แล้วแทนกางเกงในแค่ถอดเสื้อและกางเกงออกบางคนถอดออกทั้งหมดรวมถึงกางเกงในด้วยแล้วใส่กางเกงว่ายน้ำทีหลังโดยไม่อาย แต่เขาอาย..เขาเลยใส่กางเกงว่ายน้ำมาโรงเรียนทุกครั้งเพื่อที่จะไม่ต้องเปลี่ยนชุดต่อหน้าคนอื่น เขายังจำตอนที่ต้องเปลี่ยนชุดว่ายน้ำต่อหน้าคนอื่นๆได้ มันหน้าอาย ใครจะไปคิดหละว่าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามันโล่งขนาดนี้ห้องน้ำก็ไม่มีต้องเปลี่ยนกันโต้งๆ เท่านั้น
หลังจากแค่ถอดเสื้อผ้าทาจิก็เหลือแค่เกงเกงว่ายน้ำตัวเดียว แล้วเข้าไปในบริสระว่ายน้ำ อาจารย์โรเบิร์ตเป็นอาจารย์สอนว่ายน้ำเขาเป็นอาจารย์ที่อายุน้อยที่สุด แก่กว่านักเรียนบางคนเพียงไม่กี่ปี เขามีร่างกายที่แข็งแรงกระตือรือร้นและเป็นคนชอบแสดงออก โรเบิร์ตยืนอยู่ข้างสระน้ำกระตุ้นให้นักเรียนยืดเส้นยืดสายระหว่างรอนักเรียนที่เหลือ ทาจิจดจ่อกับการทำตามคำแนะนำของโรเบิร์ตและทุ่มเทให้กับการเรียน แน่นอนเพราะเขาว่ายน้ำไม่ค่อยแข็งในช่วงแรกๆ นั้นค่อนข้างยากทีเดียว แต่ตอนนี้เขาคิดว่าทักษะการว่ายน้ำของเขากำลังก้าวหน้าและมีความมั่นใจในการว่ายน้ำมากขึ้น โรเบิร์ตคอยเฝ้ามองจากขอบสระเสมอและให้คำแนะนำแก่นักเรียนที่ดูเหมือนจะลำบาก สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 14:59 น. เสียงกริ่งดัง ทาจิปีนออกจากสระกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุดเช็ดตัวจนแห้งและรีบใส่เสื้อผ้าออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อทันที เลิกเรียนแล้วโว้วววว! ทาจิตะโกนในใจเขาดีใจทุกครั้งที่ได้กลับมานอนกลิ้งในห้องตนเอง แต่ตอนนี้เขาต้องใช้หนี้ด้วยเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่น...แต่เอาไว้หาเงินวันเสาร์อาทิตย์ค่อยก็ได้!! ทาจิเดินผ่านโถงทางเดินของโรงเรียนนักเรียนและอาจารย์บางคนยังคงอยู่แม้ว่าจะถึงเวลาเลิกเรียนแล้วเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกบางอย่างยังคงเปิดอยู่สองสามชั่วโมง เขาไม่สนอะไรนอกจากกลับห้องของตนเท่านั้นเดินออกจากอาคารผ่านสนามเด็กเล่นและออกไปอยู่หน้าโรงเรียน หน้าโรงเรียนมีแต่เสียงพูดคุยบ้างก็หัวเรอะ ทาจิเดินไปที่ป้ายรถประจำทางเพื่อกลับไปห้องของตน
เป็นกิจวัตรประจำวันของทาจิทุกๆ วันก็มักจะเป็นเช่นนี้ ‘เหมือนเดิม’ น่าจะเป็นแบบนั้น ต่อจากนี้แค่ต้องสละเวลาไปหาเงินเพื่อออกจากที่นี้เท่านั้นเอง
“เฮ้!!” “…” ทาจิเดินไปเรื่อยๆเพื่อไปยังป้ายรถประจำทาง แต่ก่อนจะถึงเสียงวิ่งมาข้างหลังและจับบ่าหันกลับมา “เฮ้!! ทาจิ!!” เป็นนิโคที่วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทาจิตกใจ แต่ก็แปปเดียวแค่วันเดียว เขาก็คิดแล้วว่าน่าจะเป็นนิโคแน่ๆ ที่มาทำอะไรกับเขาแบบนี้ เพราะวันนี้มีแค่เขาคนเดียวที่ทักและเข้าหาเขาแบบนี้เป็นครั้งแรก “ดีใจจังที่นายอยู่ที่นี่เราไม่ชอบเดินกลับบ้านคนเดียว เดินกลับด้วยกันมั้ย?” นิโคพูดและยังคงยิ้มอยู่ “...เอ่อก็ได้มั้ง” “เยี่ยม!!” นิโคเดินเข้ามาและจับมือเขาแล้วเดินนำเขาไป “อ๊ะ…” ทาจิตกใจอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขารู้สึกอายที่มีคนมาจูงมือพาเขากลับบ้านแบบนี้ คนๆ นี้มันยังไงกันเนี่ย!! เอะอะ จะทัก จะจับ จะกอด ไม่บอกซักคำ!!! ทาจิรู้สึกร้อนที่ใบหน้าตลอดทางที่เดินกลับไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกันเขาชวนพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ ตลอดทางจนถึงบ้านเด็กกำพร้าก่อนจะแยกกันเข้าห้อง เขาชวนทาจิให้ไปเล่นที่ห้องเขาวันนี้ “ทาจิมาเล่นห้องเราสิจำที่เราบอกเมื่อวานได้มั้ย เรามีอะไรจะให้นายดู!อย่าลืมมาห้องเรานะ” สัปดาห์ที่1 วันจันทร์ในเดือนกันยา 16:10 น. หลังจากอาบน้ำแต่งตัว ทาจินอนกลิ้งอยู่ในห้องตนเองมาพักใหญ่พลางคิดถึงคำชวนของนิโค งื้อออออออ เอาไงดีนะลองเข้าไปหาดีมั้ยนะ ทาจินอนคิดอยู่อีกพักนึงย้อนคิดถึงตอนที่เจอกับนิโคตลอดวันนี้ ทุกครั้งที่นิโคเขามักจะรู้สึก...แปลกๆอยู่เสมอเป็นความรู้สึกที่...ไม่เคยพบเจอ ความรู้สึกนี้.... ทาจิลุกขึ้นจากเตียงเดินออกจากห้องมุ่งหน้าไปยังห้องของนิโค ทาจิยืนสูดหายใจเข้าออกอยู่หน้าห้องของนิโคซักพักนึงระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงมาจากข้างในเป็นระยะ เมื่อเสียงเงียบลงทาจิจึงตัดสินใจเคาะประตูจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงภายในห้องอีกครั้งแต่เป็นเสียงที่ดูวุ่นวายกว่าเดิม นิโคเปิดประตูออกมาและกอดเขา กอดอีกแล้ว!! “นายมา” นิโคพูด “ดู” นิโคดึงทาจิเข้าไปในห้องที่มุมใต้ทีวีเครื่องเก่ามีเครื่องเล่นเกมเครื่องนึงอยู่ เครื่องเกม!! ไปเอามาจากไหน? ซื้อ? “...นี่คือที่จะให้เราดูหรอ” “อื้อใช่!!” นิโคตอบ “เราเก็บห้องแล้ว” นิโคพูดขณะนั่งอยู่บนเตียง “นายรออะไรอยู่?” พร้อมกับตบเตียงข้างๆเขา ทาจินั่งลงข้างๆนิโคและดูเขาเล่นเกมซักพัก “ไม่เล่นด้วยกันหรอ?” นิโคถาม เครื่องแพงแน่ๆถ้าทำพังขึ้นมาจะเป็นไงหละ พึ่งรู้จักกันวันนี้เอง... “เราขอนั่งดูก่อนนะ” นิโคทำหน้ามุ่ยวางจอยลงแล้วหันมาทางทาจิ “น่ามาเล่นด้วยกันนนน” “ม..ไม่..เอ่อเราขอนั่งดูนายไปก่อนนะ” ทาจิตอบ นิโคทำสิหน้าสงไสแต่พยักหน้าเข้าใจแล้วเล่นเกมต่อ ผ่านไปซักพักนิโคก็เอนตัวลงวางหัวไว้บนตักของเขา อ๊ะ... ทาจิไม่กล้าขยับแล้วปล่อยให้นิโคหนุนตักไปอย่างนั้น..ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาเอื้อมมือไปลูบหัวของนิโค
หลังจากลูบอยู่สองสามทีนั้น “หยุดดดด” นิโคพูดแบบงัวเงีย “ทำแบบนี้จะทำให้เราหลับบบ” ทาจิขยับมือออกไป “เอ่อเราไม่ได้ตั้งใจ...” หลังจากนั้นอีกซักพักนิโคเล่นติดอยู่ในด่านที่ยากและไม่ผ่านด่านซักทีเขาเลยวางคอนโทรลเลอร์ลงบนตักของทาจิ “ลองดูสิ” ทาจิมองนิโคก่อนที่นิโคจะยิ้มให้แล้วจับมือของเขาหยิบคอนโทรลเลอร์ขึ้นมา ทาจิสามารถเล่นจนจบด่านนั้นได้และส่งคอนโทรลเลอร์กลับไปให้เขา “นายทำได้!!ขอบคุณ..” “ขอบคุณที่ใช้เวลากับเรา...” นิโคกล่าว “มันสนุกมากกว่าเล่นคนเดียว..” เล่นคนเดียว.... “อื้อเราขอเล่นด้วยนะ” “ได้สิ!!” นิโคหยิบคอนโทนลเลอร์อีกอันให้ทาจิทั้งคู่เล่นด้วยกันพักใหญ่จนนิโคเงยหน้ามองดูนาฬิกาที่ผนัง “มันเลยเวลานอนของเราแล้วพรุ้งนี้เรามาเล่นกันอีกนะ” นิโคกล่าวพร้อมกับกอดทาจิ “ฝันดีนะ” “ฝันดี” ทาจิตอบ แล้วจึงกลับห้องตนเอง ก่อนจะแก้ผ้าขึ้นนอนบนเตียง...พลางนึกถึงคำพูดของนิโค‘พรุ้งนี้เรามาเล่นกันอีกนะ’ ทาจินอนยิ้มอยู่อย่างนั้นจนหลับไป
ปล.ช่วยคอมเมนต์ติชมหรือเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะครับ
|