Vitamin25 โพสต์ 2022-6-2 23:51:01

พี่ยักษ์ที่รัก [18]

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Vitamin25 เมื่อ 2022-6-2 23:51

ตั้งแต่ที่เรามาอยู่กับพี่ยักษ์ทุกเช้าของเราก็ไม่เคยตื่นมาแล้วรู้สึกเหงา หรือโดดเดี่ยวอีกเลย
บรรยากาศในทุกเช้ามีแต่เสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะ ไม่ใช่แค่เรากับพี่เขาแค่สองคน
แต่ยังรวมถึง...พี่เมฆที่มานั่งเล่นพูดคุยกับพี่ยักษ์เกือบทุกเช้าอีกด้วย...

เช้านี้ก็เช่นกันพี่เมฆมาถึงปุ๊บ ก็เอาแต่ล้อผมทรงใหม่ของพี่ยักษ์ไม่หยุด ทั้ง ‘เฮ้ย! ว่าไงไอ้ทิดไปบวชที่วัดไหนมาวะ?’
หรือ ‘ตัดสั้นขนาดนี้ มึงตัดผมแก้บนหรอวะ?’ และอื่นๆ
ล้อไม่หยุดจนโดนพี่ยักษ์เตะก้นเข้าให้ จังหวะนั้นทำเอาเราหัวเราะชอบใจไม่หยุดเลย

“แต่ผมว่า...พี่ยักษ์ตัดผมทรงนี้แล้วหล่อมากเลยนะฮะ!” พอตั้งสติได้ เราก็รีบพูดเข้าข้างพี่เขาทันที
หวังให้พี่เมฆเลิกล้อพี่ยักษ์ได้แล้วเริ่มรู้สึกสงสาร...

“แหม! ไอ้ตัวเล็กเอ็งนี่นะ...ไอ้ยักษ์ทำอะไรก็ดีหมดแหละ อิจฉาจังโว้ย ทำอะไรก็มีคนเข้าข้าง”
พี่เมฆหันมาทางเราพร้อมกับเบ้ปากใส่ ทำไมพอพี่เขาทำท่าทางงอนๆ แบบนี้มันดูตลกมากกว่าน่ารักก็ไม่รู้ 5555

“มานี่ซิ... ไอ้ตัวแสบ” พอพี่ยักษ์เรียกเราก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันทีพี่เขายกมือมาลูบหัวเราไปมา ก่อนจะทุบลงเบาๆ หนึ่งที

“นี่แน่ะ! ไม่ต้องมาชมพี่เลย...เมื่อวานตอนออกจากร้านตัดผม ใครขำใส่พี่เป็นบ้าเป็นหลังเมื่อกี้ก็ตอนไอ้เมฆล้อพี่ก็นั่งขำไม่หยุด เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวโดนนน”

เราได้แต่ยิ้มแหยๆ อันนี้เถียงไม่ได้เลยเพราะเรื่องจริง แหะๆ

---------

“เออ... ไอ้เมฆ เดี๋ยวตอนเย็นเลิกงานแล้วมาบ้านกูก่อนนะมาช่วยกูขนไม้จากบ้านแม่กู มานี่หน่อย”
พี่ยักษ์เอ่ยขึ้นขณะที่พวกเรากำลังนั่งล้อมวงกินข้าวเช้ากันอยู่

“ขนมาทำอะไรวะ?”

“กูจะเอาไม้ไปทำบ้านบนต้นก้ามปูให้น้องมัน”

“หะ? ไอ้ตัวเล็ก...เอ็งเป็นลิงหรอ? ถึงจะย้ายไปอยู่บนต้นไม้” พี่เมฆหันมาถามเราพร้อมกับทำสีหน้าฉงน

นี่ก็อีกคน ไม่รู้จักบ้านบนต้นไม้อีกและ...

“ไม่ใช่ฮะ! พี่เมฆไม่เคยดูในหนังหรอ?ที่เขาชอบมีบ้านบนต้นไม้กันอ่า!!”

“อ้อๆ พี่ก็นึกว่าเอ็งเป็นลิงซะอีก ถึงจะย้ายไปอยู่บนต้นไม้” พอพี่เมฆพูดจบ เราสังเกตเห็นสีหน้าพี่ยักษ์มองมาที่เราแล้วอมยิ้มนิดๆ
แหมม พอเราโดนล้อว่าเป็นลิงนี่ยิ้มชอบใจเชียวนะ!

“ว่าแต่...สรุปเอ็งจะอยู่กับไอ้ยักษ์มันต่อใช่ป่าว?” พอพี่เมฆยิงคำถามนี้มาเราถึงกับหยุดชะงัก แล้วเงยหน้าไปมองพี่ยักษ์ทันที

พูดตามตรงว่าเราเองก็ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดเหมือนกันโดยความเป็นเด็กการตัดสินใจอะไรแบบนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก
ถึงแม้พี่ยักษ์จะดีกับเรามากก็ตาม แต่เราก็พึ่งมาอยู่ด้วยกัน มันยังไม่นานพอที่จะสนิทใจขนาดนั้น...


เราไม่รู้ว่าพี่เขาจะดีกับเราแบบนี้ตลอดไปมั้ย?ด้วยความที่เราเองก็พึ่งถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจากพวกญาติๆ ของตัวเองมา
บางครั้งมันก็ยังทำให้เรารู้สึกระแวงและไม่ไว้ใจคนอื่นอยู่เหมือนกันถึงแม้ว่าคนนั้นจะเป็นพี่ยักษ์ก็ตาม

ต่อให้เราจะรู้สึกดีและมีความสุขเวลาอยู่กับพี่เขาแค่ไหน แต่อีกใจหนึ่งก็มีความกลัวอยู่เหมือนกัน
กลัวว่าเราจะโดนทำร้ายแบบนั้นอีก...

เพราะในความรู้สึกของเด็ก ยังไงซะตอนนั้นมันก็ต้องรู้สึกสนิทใจกับพ่อแม่ตัวเองมากกว่าอยู่แล้ว

“เออน่า มึงอย่าไปถามน้องมันเลย เดี๋ยวถึงวันก็รู้เอง...เอาๆรีบกินข้าวเข้าไอ้ตัวแสบ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนา”
พอเห็นเรานิ่งเงียบไปนาน พี่ยักษ์ก็พูดขึ้นมาตัดบทเปลี่ยนเรื่องทันที
พร้อมกับยิ้มให้เราเหมือนจะบอกว่าไม่ต้องใส่ใจหรอก...

----------

ตอนพักเที่ยงช่วงที่กำลังนั่งกินข้าวกัน พวกเพื่อนๆ มาล้อมเราใหญ่เลยพร้อมกับถามเรื่องที่เราจะไปอยู่กรุงเทพฯ จริงหรอ?

แต่ส่วนใหญ่ก็จะโดนตัดพ้อทำนองต่อว่ามากกว่า ว่าอยากให้อยู่ต่อนะเพราะอุตส่าห์พากันไปทำความสะอาดในสวนมะม่วงพี่ยักษ์จนโล่งเตียนแล้ว
แถมพึ่งจะพากันวิ่งเล่นได้แค่วันเดียวเอง55555

‘ถ้าเราเกิดเราไปอยู่กรุงเทพฯ ก็คงไม่มีใครกล้าเข้าไปขอพี่ยักษ์หรอกเพราะพี่ยักษ์น่ะรักมินจะตาย เห็นตามใจทุกอย่างเลย’
คำพูดทิ้งท้ายของพี่บัวทำให้เรารู้สึกฉุกคิดขึ้นมานิดหน่อย


ตลอดเวลาที่อยู่กับพี่เขา ถึงแม้เขาจะดีกับเรามากแค่ไหนในใจลึกๆ เราก็ยังรู้สึกเกรงใจพี่เขาอยู่ดี
แต่ส่วนใหญ่ที่เรากล้าขอ ก็มักจะขอเกี่ยวกับเรื่องไปวิ่งเล่นกับพวกเพื่อนเนี่ยแหละ


ไม่เคยร้องขอของเล่น หรืออะไรที่ทำให้พี่เขาต้องเสียเงินเลย

เพราะพี่เขาก็ทำงานมาเหนื่อยมากกว่าจะได้เงินมา
เรารู้ดีว่าไม่ควรเอาแต่ใจไม่เข้าเรื่องแบบนั้น กลัวพี่เขาเบื่อแล้วไม่ให้อยู่ด้วย

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว เราก็ไปหาครูประจำชั้น เพราะเขาบอกว่ากินข้าวเสร็จแล้วให้ไปพบเขาด้วย

ครูประจำชั้นได้ยินข่าวเรื่องที่เราจะย้ายกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯ
ครูเขาก็บอกว่าไม่อยากให้ย้ายเพราะมันจะวุ่นวายและเข้าเรียนยากอาจมีปัญหาทำให้ไม่ได้เรียนต่อก็ได้
ต้องรอปีหน้าแล้วเรียนซ้ำชั้น ป.4 ใหม่

ครูก็ถามเรา ว่ามันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น...ด้วยความที่เรารู้สึกไว้ใจครูพอสมควรก็เลยเล่าให้ฟัง
แต่...ครูกลับทำสีหน้าเหมือนไม่เชื่อ คิดว่าเราพูดเกินจริง ก็เลยให้เราไปตามไอ้โหน่งกับไอ้เหน่งมา เขาจะถามและฟังความทั้งสองฝั่ง

ซึ่งเราก็ต้องพาพวกพี่บัวไปตามหาสองคนนั้นแบบช่วยไม่ได้เพราะเราเองก็ไม่อยากเจอหน้ากับพวกมันแบบส่วนตัวนักหรอก

แน่นอนว่าพอเรียกมันมาถาม สิ่งที่มันเล่ากลับเป็นหนังคนละม้วนที่เราบอกกับครูไปก่อนหน้านี้
แถมยังบอกอีกด้วยว่าเพราะเราดื้อและก้าวร้าวมาก ขนาดว่าเอาไม้ไล่ตีพวกญาติผู้ใหญ่
ซึ่งเราตกใจมากไม่คิดว่ามันจะเอาจุดนี้มาเล่า เราก็ทำได้แค่ต้องยอมรับผิดแต่โดยดี


ด้วยความเป็นเด็กอ่ะเนอะ เราเองก็ไม่อยากโกหกครู แต่...มันกลับทำให้เราดูแย่ในสายตาครูไปในทันที

ก็ทีแรกนึกว่าครูจะถามหาที่มาที่ไปสักหน่อยว่าทำไมเราถึงลงมือทำแบบนั้น...
พอครูทำสีหน้าเหมือนผิดหวังในตัวเราเราเองก็ไม่ได้อยากอธิบายอะไรอีกแล้ว

ขนาดว่าพวกพี่บัวช่วยยืนยันด้วยนะว่าเราโดนกระทำจากทั้งไอ้โหน่งและญาติผู้ใหญ่ทุบตีจริงๆ
ครูดันไม่ฟังอีกเพราะหาว่าเรากับพี่บัวเป็นพวกเดียวกัน...

หลังจากนั้นครูก็พยายามหว่านล้อมให้เราอยู่ต่อ ประมาณว่าให้เรากลับไปอยู่กับญาติเหมือนเดิม
ยังไงญาติพี่น้องกันก็ตัดกันไม่ขาดหรอก

ให้เราทำนิ้วเกี่ยวก้อยคืนดีอะไรกับไอ้โหน่งก็ไม่รู้ ให้ไอ้โหน่งรับปากว่าจะดูแลเราและเลิกแกล้งเรา
ซึ่งไอ้โหน่งก็ตอบไปแค่ ‘ครับๆ’ เหมือนรับปากแบบขอไปทีไม่ได้มีความจริงใจในน้ำเสียงพวกนั้นสักนิด

คือถ้าเรื่องมันจบง่ายขนาดนั้น เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันก็คงไม่บานปลายขนาดนี้หรอก...

ซึ่งสภาพเราตอนนั้นพูดตรงๆ ว่ามันอัดอึดใจจนอยากจะร้องไห้ ครูไม่ได้เข้าใจอะไรเลย มันเลยทำให้เราได้แค่ก้มหน้า
แล้วพยักหน้าอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาพูดต่อจากนั้นแม้แต่น้อย

...คิดถึงพี่ยักษ์จัง...

การที่มาคุยกับครูแบบนี้ จู่ๆ ภาพความคิดในหัวของเราก็นึกถึงพี่เขา...มันยิ่งทำให้เรารู้สึกคิดถึงพี่ยักษ์มากขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนนั้นในความรู้สึกของเรา มองว่ายังไงผู้ใหญ่ก็เหมือนกันหมด ไม่ได้สนใจปัญหาของเราจริงจังเลย
มีแต่พี่เขาเท่านั้นแหละ ที่เข้าใจและปกป้องเราจากเรื่องพวกนี้ได้

----------

ตกเย็นพอพี่ยักษ์มารับ เราก็รีบวิ่งไปกอดพี่เขาทันทีทำไมก็ไม่รู้วันนี้รู้สึกคิดถึงแปลกๆ

“หืออออ เป็นอะไรรึเปล่าไอ้ตัวแสบ ทำไมอยู่ๆ ก็วิ่งมากอดพี่” พี่ยักษ์ทักขึ้นพร้อมกับลูบหัวเราไปมาเบาๆ

“ไม่มีอะไรฮะ...แค่รู้สึกว่าวันนี้คิดถึงพี่ยักษ์” เราเงยหน้าตอบพร้อมกับยิ้มกว้างให้พี่เขา

“ขี้อ้อนจริงนะเรา แต่คิดถึงพี่แค่วันเดียวเองเหรอ?คิดถึงทุกวันไม่ได้รึไง??”

“ได้สิฮะ ผมจะคิดถึงพี่ยักษ์ทุกวันเลยยยย” พอเราตอบไปแบบนี้พี่ยักษ์ก็อมยิ้มนิดๆ ก่อนจะดึงตัวเราออกแล้วก็ย่อตัวนั่งลง

“เอ่...อย่างนี้ถ้าไปอยู่กรุงเทพฯ แล้วยังมีคนคิดถึงพี่อยู่มั้ยน้า...แล้วถ้าพี่คิดถึงหนู ทำยังไงดี? ไปหากอดสาวแถวนี้ดีมั้ย??”

“ผมยังไม่ได้บอกเลยนะฮะ! ว่าผมจะไปอยู่กรุงเทพฯ!!”พอพี่เขาพูดจบ จู่ๆ เราก็ดันเผลอพูดเสียงดังออกไป

“อ้าว แล้วกัน... ขึ้นเสียงใส่พี่อีกแล้ว เป็นอะไรหว่าอยู่ๆก็เสียงดัง” พี่ยักษ์ยิ้มกริ่มพร้อมกับยืนหน้ามาใกล้ๆ แล้วโยกหัวเราไปมา

“ผม...ขอโทษฮะ...ก็ผม...ยังไม่ได้บอกเลยว่าผมจะไปอยู่กรุงเทพฯ...” เราพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
เพราะเมื่อกี้เราเองก็ตกใจเหมือนกันที่อยู่ๆ ก็เผลอเสียงดังใส่พี่เขา

“จ้าๆ ยังไม่ได้บอกก็ยังไม่ได้บอก ป่ะ อยากกินอะไรมั้ยครับไอ้ลูกหมา”

เราพยักหน้ารับแล้วยิ้มกว้างให้พี่เขาทันที หลังจากนั้นพี่ยักษ์ก็พาเราไปซื้อของกินหน้าโรงเรียนก่อนจะแวะไปที่ทำงานพี่เขาก่อน

---------

หลังจากเลิกงานกลับมา พี่ยักษ์ก็พาพี่เมฆไปบ้านป้าปู สักพักใหญ่พี่เขาก็ขับรถไถผ่านหน้าบ้านไปเราเลยรีบวิ่งตามไปดู

ก็เห็นพี่เขาจอดรถไถริมถนนข้างต้นก้ามปูใหญ่ พร้อมกับช่วยกันทยอยขนแผ่นไม้กระดานลงจากรถไถ
จะว่าไปแผ่นไม้กระดานเหมือนจะบาง แต่พอเราไปช่วยพี่เขายกด้วยมันก็หนักมากเหมือนกันแหะ...
ทุลักทุเลมากกว่าจะขนลงได้แผ่นหนึ่งจนโดนพี่เมฆไล่ให้ไปยืนดูเฉยๆ เพราะเกะกะมากกว่ามาช่วย เชอะ!55555

หลังจากที่ขนลงเสร็จเรียบร้อยเราก็รีบกลับเข้าไปในบ้านเอาผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำเย็น
กับตักน้ำเย็นเตรียมไว้สองขันสำหรับพี่ยักษ์กับพี่เมฆ

“อ้าว ไอ้ตัวเล็กทำไมของพี่ไม่มีผ้าเช็ดมั่งวะ?” พี่เมฆรับขันน้ำไป แต่ยังไม่วายบ่นอุบว่าของตัวเองไม่มีผ้า

“ผ้าเช็ดตีนตรงบันไดนั่นไง เอาไปใช้ก่อนได้นะ กูไม่ว่า” พี่ยักษ์รีบพูดขัดขึ้นทันที ทำเอาเราถึงกับหลุดขำ

ชอบเวลาที่พวกพี่เขาแหย่กวนประสาทกันจริงๆ ไม่ว่าฝ่ายไหนจะโดนกวนก็แล้วแต่
แต่เราก็รู้สึกว่ามันสมน้ำสมเนื้ออย่างบอกไม่ถูก เราขำใส่ได้ทั้งสองฝ่าย 555555

“โธ่ พวกมึงนี่นะพอกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย” พี่เมฆตัดพ้อทันทีที่เห็นว่าเราเองก็หัวเราะชอบใจ

“พี่ยักษ์วันนี้ทำงานมาไม่เหนื่อยหรอฮะ?” เราถามพร้อมกับบีบนวดไหล่ให้พี่เขาไปมาทั้งสองข้าง

“ก็...นิดหน่อยจ้ะ ทำไมเหรอ?”

“ก็เห็นพี่ยักษ์พาพี่เมฆไปขนไม้ ทำไมรีบทำจังเลยฮะ...ไว้ทำตอนว่างๆก็ได้”

“อ้าว ก็พี่ไม่รู้...ว่าหนูจะอยู่กับพี่หรือเปล่านิก็เลยอยากทำให้เสร็จก่อน เผื่อได้ขึ้นไปนอนเล่นกันสักคืน ก่อนหนูไปอยู่กรุงเทพฯก็ยังดี”

“เอ็งก็อยู่ต่อสิวะไอ้ตัวเล็ก พ่อยักษ์ของเอ็ง ขอให้มันรู้เถอะว่าเอ็งอยากได้อะไรมันแทบจะหามาประเคนให้ แบบนี้หาไม่ได้อีกแล้วนะโว้ย”
พี่เมฆที่ยืนฟังอยู่รีบพูดเสริมขึ้นมาทันที

“นี่พี่จะบอกอะไรให้... เอ็งรู้ป่าว... ขนาดไอ้โชคมันแซว เรียกเอ็งว่า‘ไอ้เด็กตุ๊ดๆ’ พ่อยักษ์ของเอ็งได้ยินแค่นั้น…ยังไม่พอใจเลย ซัดกับไอ้โชคเล่นเอาไอ้โชคปากเปิกแตกหมด”

พอพี่เมฆพูดจบเราถึงกับตาเบิกโพลง แล้วหันไปมองพี่เขา เหมือนจะถามว่า ‘จริงหรอฮะ?’ เพราะเราไม่รู้เคยรู้มาก่อนเลย

แค่รู้สึกผิดสังเกตุนิดหน่อยตรงที่ช่วงหลังพี่โชคไม่มาทำงานด้วยเลย
แถมบนร่างกายพี่ยักษ์ก็ไม่มีตรงไหนบอบช้ำหรือดูผิดปกติด้วยเราเลยไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นตอนไหน ยังไง...

“เฮ้ยๆๆ ไอ้เมฆ มึงจะเล่าให้น้องมันฟังทำไมวะ! พอเลย นี่ก็ไม่ต้องหูผึ่งไปสนใจมาก เลิกคุยกันได้แล้ว ไปหาข้าวหาปลามากินกัน”
พอพี่ยักษ์ดุพี่เมฆเสร็จก็หันมาเอ็ดเราต่อ

ถึงเราจะไม่ชอบที่ถูกเรียกว่าไอ้ตุ๊ด หรือเด็กตุ๊ด อะไรทำนองนี้...
แต่มันก็อดรู้สึกแย่ไม่ได้ที่เราเหมือนเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่เขากับเพื่อนต้องทะเลาะกัน...

----------

หลังจากวันนั้น พอตกเย็นหลังเวลาเลิกงานพี่ยักษ์ก็จะง่วนอยู่กับการวัดแผ่นไม้และเลื่อยไม้ ซึ่งตอนนั้นเราเองก็รู้สึกสงสารพี่เขามาก

เรารู้ดีอยู่แก่ใจว่าเวลาแค่ไม่กี่วันยังไงมันก็ไม่มีทางทำทันอยู่แล้วอีกอย่างพี่เขาลงมือทำแค่คนเดียว
โดยแค่อาศัยยืมแรงพี่เมฆมาช่วยขนไม้แค่วันเดียวเท่านั้น

ตลอดทั้งอาทิตย์นั้นจิตใจของเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย พูดตามตรงว่าขนาดว่าเรานั่งคิดยังไงก็คิดไม่ตก
ว่าเราจะตัดสินใจยังไงดีกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่เลือกยากเหมือนกันสำหรับเด็กจริงๆ

แล้วยิ่งใกล้ถึงวันสิ้นเดือน แม่ก็โทรมาบอกผ่านลุงผู้ใหญ่บ้านให้ฝากมาบอกเราว่าเขาจะมาหาเราในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่จะถึงนี้
มันยิ่งทำให้เรารู้สึกใจหายแปลกๆก็ดีใจอยู่หรอก ที่จะได้เจอพ่อกับแม่แล้ว แต่พอคิดว่าจะไม่ได้อยู่กับพี่เขาอีกแล้วมันก็รู้สึกไม่ดีเลย...

“พี่ยักษ์ฮะ… วันนี้ไปเล่นน้ำตรงคลองที่กระท่อมนาของแม่ผมกันมั้ยฮะ?” เราบอกพี่เขา ขณะที่พาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน

“หืมมมม ไม่ให้พี่กลับทำบ้านต้นไม้ให้หนูต่อเหรอ?” พี่ยักษ์ชะลอรถก่อนจะจอดแล้วหันมาคุยกับเรา

“ไม่เป็นไรฮะ พ่อกับแม่น่าจะมาถึงพรุ่งนี้เช้าแล้ว ผมก็เลยอยากไปเล่นน้ำคลอง...” เราบอกเสียงอ่อยๆ

“อยากเล่นน้ำส่งท้ายงั้นสิ ชอบจริงๆเลยน้าเล่นน้ำเนี่ยไอ้ตัวแสบ เอ้า ป่ะ ไปก็ไป”

พอถึงทางเข้านาเรา...ครั้งนี้พี่ยักษ์ก็ให้เราขี่หลังเขาอีกเหมือนทุกที

“พี่ขอโทษนะ ที่ทำบ้านต้นไม้ให้หนูเสร็จไม่ทัน...ฮ่าอดขึ้นไปนอนเล่นบนนั้นด้วยกันเลย”
จู่ๆ พี่ยักษ์ก็พูดขึ้นขณะที่พาเราเดินเข้าไปยังกระท่อม

“ไม่เป็นไรฮะ...แค่นี้...แค่...นี้ก็...ดี...มากแล้ว” เราซบลงกับแผ่นหลังของพี่เขา
แต่ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ มันถึงร้องไห้ออกมาพอเรานึกถึงภาพที่พี่เขานั่งเลื่อยไม้
และพยายามประกอบตีตะปูตอกไม้ตามจุดต่างๆ ให้มันเป็นบ้านขึ้นมา แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

ด้วยความสูงต่ำที่ไม่เท่ากันของกิ่งไม้ ไหนจะต้องมีเสาไม้มาช่วยค้ำอีก ทำให้ใต้ต้นไม้นั้นมีกองไม้ต่างๆอยู่เต็มไปหมด...
พี่เขาพยายามมากแล้วจริงๆ เรารู้สึกดีนะที่พี่เขาพยายามทำให้เราขนาดนี้
แต่มันก็รู้สึกเศร้า ถ้าเราจะไม่ได้อยู่ดูตอนที่พี่เขาทำมันเสร็จแล้ว...

“เอ้า! แล้วหนูร้องไห้ทำไมเนี่ยไอ้ตัวแสบ” พี่ยักษ์วางเราลงกับพื้น แล้วหันมาเช็ดน้ำตาให้

“ผม...ผมอยากอยู่กับพี่ยักษ์นะฮะ...แต่...ผมก็อยากอยู่กับพ่อกับแม่ด้วย...ผมไม่รู้เหมือนกัน...ผมเลือก...ไม่ได้...”
เราปล่อยโฮออกมา ตลอดเวลาเราเองก็รู้สึกกดดันเหมือนกัน ตอนเด็กเราไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอยู่ๆ เราต้องมาตัดสินใจเรื่องอะไรแบบนี้

“โอ๋ๆ ไม่ต้องคิดมากนะครับคนดี เลือกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หนูก็ปล่อยไปทำตามที่หนูต้องการนั่นแหละพี่ไม่ว่าอะไรเลยยย ไอ้ลูกหมาเอ้ย ไอ้ขี้แย”
พี่ยักษ์ดึงตัวเราเข้าไปกอดแล้วลูบหัวเราไปมา ปลอบจนเราหยุดร้อง

หลังจากนั้นพอถึงกระท่อมจากที่จะได้เล่นน้ำ ฝนก็ดันเทกระหน่ำลงมา จนพวกเราต้องนั่งหลบฝนกันในกระท่อมก่อน
แน่นอนว่าอากาศแบบนี้มีหรอเราจะไม่หลับ 55555

“หมาน้อยครับ ตื่นได้แล้ว ป่ะกลับไปนอนต่อที่บ้านกันฝนซาแล้ว”

หลังจากที่ได้ยินเสียงพี่ยักษ์ปลุกเราก็งัวเงียตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าฟ้าเริ่มมืดแล้วอ้าว ว่าจะนอนหลับแปปเดียว...อดเล่นน้ำเลย

“พี่ยักษ์ฮะ...ถามจริงๆ นะฮะ ถ้าเกิดว่าผมไปอยู่กรุงเทพฯกับพ่อแม่พี่ยักษ์จะทำยังไงต่อหรอฮะ?” เราถามพี่เขาขึ้นมาอีกครั้ง
ขณะที่พวกเรากำลังเดินกลับไปที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดไว้ริมถนน

“อืมม...เอาตรงๆ พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน…แต่พี่ก็คิดไว้แล้วละ ถ้าเกิดหนูไปจริงๆ พี่ก็คงจัดการเรื่องที่นาหาคนเช่าทำนาให้เรียบร้อยก่อน พอเสร็จธุระแล้วก็คงตามไป หางานทำที่อยู่ใกล้ๆกับที่หนูอยู่ ดีมั้ย?”

“ดีฮะๆ”

“แล้ว...พี่ยักษ์จะมีเมียมีลูกมั้ยฮะ?” เราถามต่อเพราะยังรู้สึกคาใจกับเรื่องนี้ไม่หาย

“หืมมมม มีดีมั้ยน้า? แล้ว...หนูอยากให้พี่มีรึเปล่าล่ะ??” พี่ยักษ์ถามกลับมาแน่นอนคำตอบของเราคือ ‘ไม่อยากให้มี’ ทำเอาพี่เขาหัวเราะชอบใจใหญ่เลย

ขำอะไรกัน...ก็คนเค้าไม่อยากให้มีนี่

“ถ้าเกิดว่า ผมอยู่ต่อกับพี่ยักษ์ แล้ว...ถ้าวันหนึ่งผมดื้อขึ้นมาพี่ยักษ์จะตีผมมั้ยฮะ?”

“ไม่ตีจ้ะ แต่...พี่ก็ต้องทำโทษหนูนะ หนูจะได้รู้ว่าสิ่งที่หนูทำมันผิด”

“ทำโทษยังไงหรอฮะ?”

“ไม่บอก”

“อ้าว…” พอเราร้องอ้าวออกไป พี่เขาถึงกับเอียงหน้ามาแล้วยิ้มให้

“พี่จะไม่ใช้วิธีทำโทษที่ทำให้หนูเจ็บแน่นอน สบายใจได้เลย แต่ถ้าหนูไม่ดื้อกับพี่มันก็ดีกว่าใช่มั้ยละ?”

“ฮะ...”

ก็จริงนะ ถ้าไม่ดื้อก็ไม่โดนทำโทษ แต่ถึงยังไงเราก็ต้องถามไว้ก่อนเพื่อความแน่ใจ
เพราะตอนนั้นเราเองก็มีมุมที่ดื้อ ทะเล้นตามภาษาเด็กเหมือนกัน

“พี่ยักษ์...ถ้าผมอยู่ด้วย พี่ยักษ์จะไม่ทิ้งผมใช่มั้ยฮะ?”

พอจบประโยคคำถามเรา พี่ยักษ์ก็หยุดเดินทันทีแล้วหันหน้ามายิ้มให้

“หึ...ดูถามเข้าไอ้ลูกหมาเอ้ย! พี่ไม่ทิ้งหนูแน่นอนครับ ถ้าหนูอยู่กับพี่ พี่จะดูแลหนูให้ดีที่สุดเลย พี่สัญญา”

“อีกอย่าง...ลูกหมาขี้อ้อน ขี้น้อยใจ ขี้แย ขี้กลัวแบบนี้ พี่จะไปหาจากที่ไหนมาไว้นอนกอดทุกคืนได้อีกจริงมั้ย?”
พอพี่เขาพูดจบเราอมยิ้มนิดๆ

พี่ยักษ์เห็นสีหน้าเราเหมือนเขินๆก็หัวเราะชอบใจจากนั้นพี่เขาก็เดินหน้าต่อไป...

ตลอดทางเราได้แต่ซบลงบนแผ่นหลังของพี่เขา

เพราะตัวเราเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต่อไปเราจะได้มีโอกาสทำแบบนี้กับพี่เขาอีกมั้ย...



Darmmek โพสต์ 2022-6-3 00:04:15

ขอบคุณครับ

guyinbkk2510 โพสต์ 2022-6-3 00:16:38

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2022-6-3 00:24:08

สนุกมากครับ

arasi22 โพสต์ 2022-6-3 00:29:01

ขอบคุณครับ

iHNONG โพสต์ 2022-6-3 00:46:15

ดูอบอุ่นมากเลยนะ {:5_153:}

bangphoon โพสต์ 2022-6-3 01:01:43

ขอบคุณครับ

4554 โพสต์ 2022-6-3 01:21:21


ขอบคุณครับ

Migraine โพสต์ 2022-6-3 02:06:10

มาต่อไวๆนะฮะ

sirsar โพสต์ 2022-6-3 02:17:50

ทำไมครูตัดสินเร็วขนาดนั้นละพอบัวมาช่วยพูดก็บอกว่าพวกกัน แล้วอีกข้างไม่พวกหรือ ไม่แน่ใจก็ไม่สืบเลยนะ อ่านแล้วโมโหกับครูแบบนี้จริง{:5_138:}

kookkoo โพสต์ 2022-6-3 03:00:11

ขอบคุณครับ

Linkren โพสต์ 2022-6-3 05:07:31

โครตอบอุ่น

winwin2 โพสต์ 2022-6-3 06:18:53

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2022-6-3 08:30:57

หวาน อบอุ่น อ่านเพลินมาก

pai_2552 โพสต์ 2022-6-3 09:11:40

ขอบคุณครับ

surface โพสต์ 2022-6-3 09:12:11

ขอบคุณครับ

guide01 โพสต์ 2022-6-3 09:49:48

ขอบคุณมากนะครับ

OakyDogie โพสต์ 2022-6-3 11:50:17

สัมผัสถึงความอบอุ่นลอยออกมาจากระทู้เลยฮาาา /แอบรู้สึกหน่วงๆ นิดนึง กลัวตอนต่อๆ ไปอารมณ์จะดิ่งหงะ {:5_118:}

dorap27 โพสต์ 2022-6-3 11:54:41

ขอบคุณครับ

ROSY712 โพสต์ 2022-6-3 12:03:05

ขอบคุณครับ
หน้า: [1] 2 3
ดูในรูปแบบกติ: พี่ยักษ์ที่รัก [18]