ร่านกว่าเมีย ก็ผมนี่แหละครับ ตอนที่ 55 บทเรียนจากพี่ธัน
"คุณปุนครับ โอเคไหมครับ""ห๊ะ เอ่อ โอเคครับพี่แดน"
แดนที่ถามปุนออกไปด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากพักหลังๆมานี้ปุนดูไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอย พอไปถามกัสจึงได้ความมาว่าปุนอกหัก
ปุนเปิดลิ้นชักแล้วหยิบซองจดหมายขึ้นมา พลันนึกถึงเรื่องก่อนหน้า ในช่วงบ่าย ที่เขาเดินทางไปยังคอนโดของบอส แม้จะรู้ว่าบอสไม่อยู่แล้ว แต่ปุนก็ยังทำใจไม่ได้และคอยวนเวียนกับสถานที่ๆคุ้นเคย
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด
ปุนแตะคีย์การ์ดที่ประตูห้องแต่ประตูกลับไม่เปิด จนกระทั่งประตูถูกเปิดจากด้านใน
"ขอโทษนะครับ คุณเป็นใครหรอครับ"
ปุนเอ่ยถามด้วยความสงสัย ที่เห็นผู้หญิงแปลกหน้าเปิดประตูออกมา
"อ่าฉันเป็นเจ้าของห้องนี้ค่ะ"
"ผมว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้วครับ"ปุนยิ้มอ่อนๆและบอกกับหญิงสาวคนนั้นไป
"ใครมาหรอตัวเอง"มีเสียงผู้ชายร้องถามมาจากด้านใน
"ไม่รู้จักอะ เพื่อนตัวเองหรือเปล่า"
สาวเจ้าหันไปพูดกับคนด้านใน ไม่นานผู้ชายเจ้าของเสียงก็เดินออกมายังหน้าประตู
"เอ่อ คุณเป็นใครหรอครับ"ชายตรงหน้าถามกับปุนด้วยคำถามเดียวี่ปุนถามก่อนหน้า
ทั้งสามยืนจ้องกันอยู่ครู่หนึ่ง
"ผม แฟนผมเป็นเจ้าของห้องนี้"ปุนตอบตะกุกตะกักจนชายคนนั้นทำหน้าเข้าใจ
"อ๋อ คุณ ปุนใช่ไหมครับ ผมเป็นเพื่อนของบอสครับ บอสขายห้องนี้ให้ผม มันฝากนี่ให้คุณด้วยครับ สักครู่นะครับ"
ชายร่างสูงเดินกลับเข้าไปในห้อง และเดินกลับมาพร้อมจดหมายซองเล็กยื่นให้ปุน ปุนรับมาแล้วเดินหงอยลงจากคอนโด จนถึงตอนนี้ปุนก็ยังไม่กล้าแกะอ่าน ทำได้เพียงหยิบขึ้นมาแล้ววางลงเก็บในลิ้นชัก
หลังเลิกงาน ปุนพับจดหมายใส่กระเป๋าเตรียมตัวจะกลับบ้าน ตอนนั้นเองที่กัสเดินมากอดคอเขาจากด้านหลัง
"ไง ดีขึ้นยัง"
"..."ปุนไม่ตอบแต่ส่ายหน้า กัสเลยเอาแขนลงจากคอของกัส แล้วยื่นมือไปหยิบกุญแจรถของปุนที่กำลังล้วงออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปเปิดประตูฝั่งคนขับ
"ให้คนไม่มีสติขับ กลับไม่ถึงบ้านแน่ เดี๋ยวเราขับให้เอง"
"จะดีหรอ รบกวนหรือเปล่า"
"ไม่ต้องคิดมาก ขึ้นมาเลย"
กัสขับรถมาส่งปุนถึงบ้าน โดยสังเกตุเห็นว่าปุนถือซองจดหมายสีขาวซองเล็กแล้วมองมันพร้อมถอนหายใจมาตั้งแต่ขึ้นรถ
"จดหมายอะไรหรอ"
"เปล่า ไม่มีอะไร"
"ของบอสหรอ"
"..."ปุนไม่ตอบแต่ถอนหายใจแล้วพยักหน้ารับ กัสเลยแย่งไปจากมือของปุน
"ทำไมไม่แกะอ่านล่ะ"
"เรา เราไม่กล้าอะ"
"งั้นให้เราอ่านให้ไหม"
"..."
"ถ้าไม่กล้าอ่าน ก็เก็บเอาไว้ก่อนก็ได้ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยเปิดอ่าน แต่เราจะบอกอย่างนึงนะ ชีวิตต้องไปต่อ นี่มันแค่หนึ่งในบททดสอบ แต่เวลาจะเยียวยานายเอง"
"หึ พูดยังกับกูรู ไม่เคยมีความรักซักหน่อย"
ปุนแซวกัสแล้วยิ้มขำเบาๆ แต่กลับต้องหน้าถอดสีกับคำพูดของอีกฝ่าย
"ใครว่าเราไม่เคยมีแฟน"
"อ้าว ขอโทษ ก็เราเคยได้ยินเพื่อนกัสคุยกัน...."
"ไม่ใช่ว่าเราไม่เคยมีแฟน เราแค่ยังบริสุทธิ์อยู่เฉยๆหรอก"
"อะ อ้าวหรอ แต่ยังไงอะ เคยมีแฟนแต่บริสุทธิ์ ไม่เคยมีเซ็กกันเลยหรอ"
"อืม"
"จริงป่ะเนี่ย คบกันแต่ไม่เคยนอนด้วยกันเนี่ยนะ"
ดูเหมือนตอนนี้ปุนจะลืมเรื่องตัวเองชั่วคราวแล้วหันมาตกใจกับชีวิตของกัสแทน
"ใช่ ตอนนั้นคบกันช่วงมัธยม ใสๆนอนจับมือ"
"อ้าว แล้ว สาเหตุที่เลิกกันล่ะ"
"..."
"ขอโทษนะ ถ้าไม่อยากตอบ ก็ไม่ต้องตอบ"
"ไม่เป็นไร ที่เลิกกันเป็นเพราะเรื่องเซ็กนี่แหละ เราไม่ยอมเขา เขาเลยไปเอาคนอื่น"
"โห แย่มากอะ"
"หมายถึงแฟนเก่าเราหรอ"
"หมายถึงกัสอะแหละ แฮร่ ไม่ใช่ หมายถึงแฟนเก่ากัสแหล่ะ ถ้าไม่ใช่ก็น่าจะเลิกก่อนค่อยไปเอากับคนอื่น ทำแบบนี้มันหักหลังกันชัดๆ"
"ใช่ป่ะ แต่รู้อะไรไหม ทุกวันนี้เรายังคิดว่าเป็นความผิดเราอยู่เลย"
ปุนยื่นมือไปแตะไหล่กัสเบาๆเพื่อเป็นการปลอบปะโลม
"มันไม่ใช่ความผิดนายหรอก จากที่ฟังความข้างเดียวอะนะ"
"อืม ตอนนั้นเราร้องไห้หนักมาก เสียใจสุดๆอะ นั่นรักแรกของเราด้วย หลังจากนั้นเราเลยไม่มีใครอีกเลย กลัวทำให้เขาผิดหวัง"
"...เราเชื่อว่า สักวัน นายจะเจอกับคนที่รับได้ในสิ่งที่นายเป็นนะ"
"ขอบใจนะ ปุนเองก็เหมือนกัน ตอนนี้แผลยังสด แต่ถ้าวันเวลาผ่านไป มาพูดถึงเรื่องนี้ บางทีปุนอาจจะหัวเราะตัวเองอยู่ก็ได้"
ปุนนึกถึงคำพูดของกัสที่คอยเตือนสติเขา แล้วจ้องจดหมายในมือ พร้อมหันไปหากัสเพื่อส่งสัญญาณว่าเขาพร้อมแล้ว
"จะอ่านเลยหรอ"ปุนพยักหน้าตอบ
"อืม ถึงไม่อ่านวันนี้ ซักวันก็ต้องอ่านอยู่ดี อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องอ่านคนเดียว"
ปุนและกัสลงจากรถแล้วมานั่งที่สวนข้างบ้าน กัสให้ปุนสูดหายใจลึกๆพร้อมจะรับมือกับข้อความด้านใน ปุนค่อยๆฉีกซองจดหมายออก แล้วหยิบกระดาษด้านในออกมาปุนค่อยๆคลี่มันออกช้าๆ แต่ถึงเวลาจริงแล้ว ปุนกลับหลับตาปี๋ไม่กล้าอ่าน แล้วยื่นใส่มือของกัส
"นายอ่านดีกว่า ถ้าในนี้มีเรื่องไม่ดี ไม่ต้องบอกเรานะ ไว้เราทำใจได้ค่อยบอก"
กัสรับกระดาษจดหมายมาแล้วยกขึ้นอ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ปุนจ้องหน้ากัสแล้วเค้นถาม
"ยังไง ว่าไง"
"..."
"ทำไมไม่พูด เป็นเรื่องไม่ดีหรอ หรือว่าดี"กัสอมยิ้มกลั้นขำสีหน้าของปุนที่ตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังทะเลาะกับตัวเอง แต่สุดท้ายกัสก็เลือกที่จะ....
"ในจดหมายบอกว่า ที่บอสขายคอนโดนเพราะรู้ว่าปุนจะไป บอสไม่อยากให้ปุนจมอยู่กับเขา อยากให้ปุนมูฟออนได้ไวๆ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะตอนนี้เขาใช้ชีวิตปกติสุขดี และได้เจอกับเพื่อนเก่าที่เข้าใจ เพราะงั้น ให้ปุนตั้งสติได้เร็วๆ และหาแฟนใหม่ที่จะดูแลปุนได้"
ปุนที่ก่อนหน้ารุกรี้รุกรน พอฟังความในจดหมายจบก็ค่อยๆสงบขึ้นและยิ้มออกมาจางๆ
"ขอบคุณนะกัส ที่อยู่เป็นเพื่อนเรา ตอนนี้เราโอเคขึ้นแล้ว ขอบคุณมากเลยนะ"
"ไม่เป็นไร ถ้ามีอะไรโทรมาได้ตลอดนะ"
"อืม"
ปุนยิ้มให้กัส เป็นใบหน้าเปื้อนยิ้มที่ดูเศร้าที่สุดที่กัสเคยเห็น แต่เขาทำได้เพียงแค่เท่านี้ในตอนนี้ กัสโทรเรียกแท็กซี่ แล้วยืนรอรถอยู่ที่หน้าบ้านของปุน แล้วทำการฉีกจดหมายของบอสเพื่อทำลายหลักฐาน เนื่องจากกัสนั้น ไม่ได้บอกสิ่งที่เขียนในจดหมายทั้งหมด และปลอมแปลงคำพูดของบอสนิดหน่อย
ในจดหมาย บอสได้บอกถึงแฟลชไดรฟ์ที่เขาฝากไว้ที่นิติคอนโด ในนั้นมีข้อมูลลับบางอย่างที่เขาอยากจะให้ปุนเก็บไว้ใช้เผื่อเป็นประโยชน์ และตอนนี้ กัสก็ได้ขึ้นแท็กซี่ไปยังคอนโดแห่งนั้น!!!
วันต่อมา ขณะที่ทุกคนที่เป็นห่วงปุนคิดว่าปุนกำลังดีขึ้น แต่หลังเลิกงาน ปุนที่กำลังจิตใจไม่ปกติ ได้อยากปลดปล่อยความอัดอั้นขึ้นมา เป็นจังหวะที่แดนโผล่เข้ามาพอดี
"พี่แดน เย็นนี้พี่ว่างไหมครับ"
"คุณปุนมีอะไรหรือเปล่าครับ"
"ผมอยากไปดื่มหน่อย พี่สะดวกไหมครับ"
"เอ่อ ให้ผมชวน..."
"ไม่ต้องครับ ถ้าพี่ไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปคนเดียวเอง ทุกคนกำลังคิดว่าผมดีขึ้นแล้ว ผมไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วง"
ปุนพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิดหน่อย พลางทำหน้าเศร้า แดนที่เห็นเลยใจอ่อน
"ได้ครับ งั้นพี่ขอเก็บของครู่นึงนะ"
แดนเดินออกจากห้องของปุนแล้วโทรหาบอส แฟนหนุ่มของตนเพื่อบอกกล่าว
"ขอโทษนะบอส เจ้านายผมพึ่งอกหักเลยชวนไปดื่ม"
"แบบนี้มันใช้อำนาจเกินหน้าที่หรือเปล่า"
"มะ ไม่ใช่แบบนั้น คือ หัวหน้าเขาเป็นคนดีนะ แล้วอีกอย่างเขาก็เป็นเพื่อนกับน้องชายเก๋ด้วย เขาไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงเลยชวนผม"
"อ๋อ ก็ได้ แต่อย่ากลับดึกนะ แล้วก็อย่าดื่มเยอะด้วย ถ้าขับไม่ไหวโทรหาผมนะ อย่าฝืน"
"ครับผม จุ๊บๆ"
"อืม คิดถึงเหมือนกัน จุ๊บ"
สองคนคุยกันเสร็จสัพ แดนก็ไปหาปุนแล้วทั้งสองก็พากันไปดื่มร้านประจำของแดน เพราะเป็นร้านที่อยู่ระหว่างบ้านเขาและบริษัท
ปุนที่ไม่ใช่สายดื่มอยู่แล้ว แค่กระดกไปสองแก้วหน้าก็ขึ้นสีพร้อมพูดจาระบายความรู้สึกต่างๆออกมา แดนทำได้เพียงนั่งฟังแล้วเออออกับคนตรงหน้า จนกระทั่งปุนไม่ได้สติแล้วหลับไป
แดนแบกปุนขึ้นรถ พอคาดเข็มขัดได้ ปุนก็สลึมสลือลืมตาตื่นขึ้นมา ปุนที่เมาๆอยู่ก็เอื้อมมือมาจับไปที่เป้าของแดน ทำเอาแดนสะดุ้งตัวโหยง
"คุณปุน ทำอะไรครับ"
"พี่แดน พี่แดนช่วยผมหน่อยพี่"
"ยะ อย่าคุณปุน จะทำอะไรครับ"
แดนพยายามขัดขืนที่ปุนเอื้อมมือมาจับมือของแดนล้วงไปในกางเกงของเขา แต่แดนก็เลี่ยงจนปุนหัวเสีย
"พี่แดนไม่ชอบผมหรอ ทำไม ไม่มีคนรักผมเลยหรอ ผมมันไม่ดีขนาดนั้นเลยหรอ"
"มะ ไม่ใช่ครับคุณปุน คุณปุนตั้งสติหน่อยครับ"
แดนใช้มือตบหน้าปุนเบาๆสามสี่ครั้งเพื่อเรียกสติ จนสุดท้ายปุนอ้วกออกมารดไปบนเสื้อของแดน ก่อนที่ตัวต้นเรื่องจะหลับไปอีกครั้ง
"ฮัลโหล กัสหรอ มารับคุณปุนหน่อยสิ"
"ห๊ะ มีอะไรหรือเปล่าพี่"
"เออ มาถึงเดี๋ยวรู้เอง เดี๋ยวพี่ส่งโลไปให้นะ"
ไม่นานกัสก็ขับรถมายังร้านที่แดนอยู่ แล้วช่วยแดนแบกปุนขึ้นรถเขาไป
"เกิดอะไรขึ้นพี่"
"คุณปุนอะสิ อยากดื่มพี่เลยมาเป็นเพื่อน แต่เมาแล้วเรื้อนนี่อ้วกใส่พี่แล้วหลับไปแล้ว พี่วานกัสไปส่งบ้านคุณปุนหน่อยสิ"
"อ๋อได้พี่ ขอบคุณมากครับ"
กัสแยกกับแดนแล้วพาปุนไปส่งบ้าน ตอนนั้นเอง พ่อของปุนก็ออกมาดูว่าใครมาจอดรถหน้าบ้าน พอเห็นลูกชายตัวเองที่เมาจนยืนไม่ไหวก็ลงไปรับ
"อ่าว มาๆ เดี๋ยวพ่อจัดการต่อเอง ขอบคุณมากลูก"
ปืนเอ่ยบอกกัสแล้วแบกร่างของปุนเข้าบ้านไป กัสยืนมองจนปุนเข้าบ้านไปอย่างปลอดภัยแล้วขับรถกลับบ้านของตัวเอง
เช้ามา ปุนงัวเงียด้วยอาการเมาค้าง จนลุกลงมาด้านล่างเปิดตู้เย็นหยิบน้ำดื่มขึ้นมาดื่มด้วยเคยชิน
ปืนที่เห็นลูกลงมาจากชั้นสองด้วยอาการเซก็จะเข้าไปประคอง แต่เห็นว่าลงมาได้เลยยืนมองแล้วถอนหายใจ
"ไปทำอีท่าไหนถึงได้เมากลับบ้านแบบนี้ โตจนจะสามสิบแล้วยังไม่รู้จักดูแลตัวเอง"
ปืนบ่นปุนจากทางด้านหลัง ปุนที่นึกได้ว่าพ่อกลับบ้านมาแล้ว ก็วางแก้วน้ำลงแล้วหันไปจ้องหน้าพ่อด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ตีกันภายใน
"ทำไม สนใจผมด้วยหรอครับ"ปุนจ้องตาของพ่อก่อนจะเบนสายตาหนีแล้วหันไปสบตากับปืนอีกครั้ง
"นี่แกเป็นลูกฉันนะ ถ้าไม่ให้ฉันสนใจแกจะให้ไปสนใจหมาที่ไหน ห๊ะ!"
"ถ้าพ่อสนใจผมจริง คงไม่มาถามผมหรอกว่าทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ เพราะพ่อ ควรจะเป็นคนที่รู้ก่อนคนอื่นด้วยซ้ำ"
ปุนพูดเสียงเรียบนิ่งน้ำในตาคลอเบ้ามองหน้าของผู้เป็นพ่อเรียบเฉย ปุนยกแขนปาดน้ำตา ก่อนจะสูดหายใจแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ
"ถ้าแม่ยังอยู่ ทุกอย่างคงดีกว่านี้"
ว่าจบก็เดินขึ้นห้องไป ปุนนั่งคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก่อนจะจำความได้เลยรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปขอโทษแดนและกัสที่ก่อเรื่องไว้
หลังจากเดินลงจากบ้าน ตอนที่กำลังจะก้าวขาออกมาจากประตู พ่อของปุนได้พูดขึ้นมารั้งร่างปุนให้หยุดนิ่ง
"ปุน พ่อขอโทษ"
"...."ปุนหันไปมองหน้าพ่อของตัวเอง เห็นสีหน้าและแววตาของปืนที่สั่นไหว
"พ่อโทรไปถามธันมาแล้ว พ่อไม่รู้ว่าปุนเจอกับอะไรบ้าง พ่อขอโทษที่ปล่อยให้ปุนโตคนเดียว พ่อผิดเองที่ไม่มีเวลาให้ ถ้างานโปรเจคนี้สำเร็จ พ่อจะ...."
ปุนที่ได้ยินคำนั้นออกจากปากพ่อของเขา ก็สาวเท้าแล้วเดินออกจากบ้านมาโดยไที่ไม่ฟังอะไร พอถึงบริษัท ก็เข้าไปขอโทษกัสและแดนทันที ทั้งสองคนก็เข้าใจไม่ได้ว่าอะไร แถมกัสยังซื้อกาแฟดำมาให้ดื่มแก้แฮงค์ด้วย
ก๊อก ก๊อก
"ปุนพี่ขอคุยด้วยหน่อยสิ"
ธันเคาะบานประตูห้องทำงานของปุนที่เปิดอยู่ ก่อนที่จะเดินเข้ามาแล้วมองไปที่กัส กัสเลยเดินออกจากห้องแล้วปิดประตูให้สองคนคุยกัน
"พี่ได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานแล้ว พี่ไม่ว่านะถ้าปุนจะไปเที่ยว ไปสังสรร หรือดื่มย้อมใจอะไร แต่ว่าถ้ามีคนรู้เรืองจนเป็นข่าว จะส่งผลเสียต่อบริษัท..."
"หึ"ปุนสถบขัดธันที่กำลังพูดทำให้ธันเงียบแล้วจ้องหน้าปุน
"มีอะไรหรอ"
ธันเค้นเสียงออกมาถามปุน ปุนเองก็ยิ้มสมเพช
"พี่กับพ่อผมนี่เหมือนกันเลยเนอะ อะไรๆก็บริษัท อะไรๆก็งาน"
"ตอนนี้พี่ว่าปุนไม่พร้อมที่จะฟัง งั้นพี่ขอตัวก่อน ถ้าใจเย็นลงแล้วเราค่อยคุยกัน"
ธันเปิดประตูเดินออกจากห้องปุนไปพร้อมพูดกับกัสด้วยท่าทีสั่งการ
"กัส คอยอยู่ประกบปุนด้วยนะ อย่าให้ไปก่อเรื่อง"
"คะ ครับ"กัสรับปากด้วยท่าทีเกรงๆธัน แล้วเดินเข้ามาหาปุน
"เราไม่ได้จะว่านะ แต่ว่า ช่วงนี้ฟังที่คุณธันเตือนไว้บ้างก็ไม่เสียหายนะ"
ปุนหันขวับจ้องมาที่กัส กัสกลัวปุนจะโกรธเลยออกจากห้องแล้วกลับไปยังออฟฟิศตัวเอง
แม้ถึงเวลาเลิกงาน แต่ปุนยังไม่อยากกลับบ้าน เลยอยู่ที่ออฟฟิศจนดึกดื่น ตอนที่ปุนเห็นว่าดึกมากแล้ว เลยเก็บของกำลังจะกลับ ในตอนนั้นเอง ธันได้เดินเข้ามายังแผนกและได้เจอปุนเข้า
"ยังไม่กลับบ้านอีกหรอ"
ธันถามปุนตามปกติ ตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็อารมณ์เย็นลงแล้ว พอนึกถึงเรื่องตอนเช้า เลยอึดอัดนิดหน่อย
"กำลังจะกลับแล้วครับ"
ปุนบอกกับธันแล้วเดินผ่านธันไป จังหวะที่ปุนกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง ธันได้เอ่ยเรียกรั้งปุนไว้
"เดี๋ยวก่อนปุน!"
ทั้งสองคนลงจากตึกแล้วไปนั่งคุยกันที่หน้าร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามบริษัท
"ก่อนหน้านี้พี่ขอโทษนะ"
"ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ พี่ไม่ได้ทำอะไรผิด ผมสิที่ต้องขอโทษ ที่ใส่อารมณ์กับพี่ไปหน่อย"
"ที่พี่อยากจะเตือน เพราะพี่หวังดีนะ"
"...."
"พี่อยากให้ปุนระวังตัวให้มากกว่านี้ จะทำอะไรให้ใช้สติ เพราะพี่ไม่อยากให้ปุนเจอเรื่องแบบพี่"
"....เรื่องแบบพี่? เรื่องอะไรหรอครับ"
ธันได้เล่าย้อนไปในช่วงที่เรียนจบใหม่ๆ หลังจากกลับมาจากต่างประเทศ พ่อของธันนั้นไม่ได้ให้ธันทำงานในตำแหน่งปัจจุบัน แต่ส่งให้ธันไปฝึกงานที่บริษัทของเพื่อน ธันไม่ได้ต่อว่าธรแต่อย่างใด และก้มหน้ายอมรับคำสั่งแต่โดยดี
หลังเลิกงานอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง พนักงานในบริษัทมักจะนัดเจอเพื่อกินและดื่มสังสรรกันเป็นปกติ ธันเองก็ปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี โดยที่ทุกคนไม่รู้ว่าธันเป็นใครรู้เพียงแค่ว่าเป็นเด็กจบนอกมาฝึกงาน
พอดึก ปายก็จะเป็นคนมารับธันกลับบ้าน จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งที่พอสังสรรกันเสร็จแล้ว พี่พนักงานคนหนึ่งก็บอกว่าวันนั้นเป็นวันเกิดขอเธอ เธอเลยจะเลี้ยงคาราโอเกะต่อ ธันเองที่เห็นว่าดึกมากแล้ว เลยปฏิเสธไป แต่ทุกคนก็ต่างพากันขอให้อยู่ต่อ ธันเลยตัดสินใจโทรบอกปายว่าจะไปต่อ ซึ่งปายเองก็เข้าใจ
"ปาย วันนี้ไม่ต้องมารับนะ พี่น่าาจะเลิกดึก"
"แล้วจะกลับยังไงอะ"
"เดี๋ยวเรียกแท็กซี่มารับ ปายขับรถดึกๆมันอันตราย"
"อืม ดูแลตัวเองด้วย อย่าดื่มเยอะนักล่ะ"
"คร๊าบบบบบ จุ๊บ"
หลังจากวางสายปาย ธันก็ไปคาราโอเกะกับเพื่อนร่วมงานต่อ แต่หลังจากเลิกแล้ว แต่ละคนต่างพากันหมดสภาพ เดินโซซัดโซเซ ธันเองกำลังจะโทรเรียกแท็กซี่ แต่เพื่อนร่วมงานในแผนกคนหนึ่งเดินก็เข้ามาหาพร้อมแบกเพื่อนร่วมงานอีกคนที่สลบเหมือด
"โห ดึกขนาดนี้รถหมดแล้วมั๊ง ไปนอนกับผมก่อนไหมล่ะ อยู่ใกล้ๆนี่เอง เช้าค่อยกลับไปอาบน้ำที่บ้าน"
"ขอบคุณมากนาย แต่เดี๋ยวเราขอลองโทรดูก่อน"
ธันกล่่าวขอบคุณและพยักหน้าแสดงความขอบคุณอีกรอบหลังจากพูดจบ และหันมากดเบอร์เรียกรถ
ไม่นานรถแท็กซี่ก็เข้ามาจอดเทียบท่า ธันเลยอาสาให้แท็กซี่ไปส่งสองคนนั้นที่หอใกล้ๆนี้ พอสองคนนั้นลงก็ขอบใจธันและแบกร่างเพื่อนขึ้นตุกไป
ธันนั่งรถไปโดยไม่คิดอะไร พลางหยิบมือถือขึ้นมาส่องฟีดโซเชียลจนไม่รู้ตัวเลยว่า แท็กซี่ที่เขานั่งมานั้นไม่ได้พาไปยังสถานที่ปลายทาง แต่กว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว
"พี่่ครับ นี่ไม่ใช่ทางไปบ้านผมครับ"
ธันพูดบอกคนขับรถแต่คนขับไม่มีทีท่าว่าจะจอดหรือเปลี่ยนเส้นทางแต่อย่างใด ชั่วโมงเร่งด่วน ธันจึงคิดหาความเป็นไปได้ทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
แม้เขาจะกลัวคนขับแท็กซี่พิรุธคคนนี้ แต่การเปิดประตูแล้วหนีลงไปคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนัก แถมทางยังเปลี่ยว หลุดจากตรงนี้ไปได้ ข้างหน้าจะจเอกับอะไรก็ไม่ทราบได้
ธันจึงนั่งรถไปจดสุดเส้นทางที่อีกฝ่ายพามา มันคือโรงแรมจิ้งหรีดข้างทางในซอยเปลี่ยว คนขับแท็กซี่บอกให้ธันลงจากรถพร้อมเอามีดที่พกมาขึ้นจี้ขู่ธัน ธันก็ทำตามแต่โดยดี
คนขับแท็กซี่บอกให้ธันเข้าไปรอในห้อง ธันก็ไม่มีท่าทีจะขัดขืนแม้แต่น้อย หลังจากธันเข้ามารอในห้อง ไม่นานอีกฝ่ายก็ตามเข้ามา
"ทำแบบนี้บ่อยหรอครับ"
ธันที่นั่งสะบายใจบนเตียงเอ่ยถามพี่แท็กซี่ จนเป็นอีกฝ่ายที่เกิดความระแวง
"ก็มีบ้าง"
"งั้น ให้เริ่มตรงไหนดี"
ธันหยัดตัวลุกขึ้นมาแล้วตรงไปยังร่างของอีกฝ่ายจนทำให้คนขับแท็กซี่ตกใจยกมีดขึ้นมาขู่ ธันก้มมองมีดในมือแล้วยื่นมือไปจับมีดและเลื่อนขึ้นไปจับมืออีกฝ่ายแล้วหยิบดึงมีดออกมาแล้วโยนไปที่มุมห้อง
"อยากเริ่ม...จากตรงไหนดีครับ"
ธันเดินเข้าหาอีกฝ่าย พร้อมประกบตัวของเขา ยื่นหน้าขึ้นไปกระซิบที่ข้างใบหู พร้อมถามซ้ำอีกครั้ง
คนขับแท็กซี่ยืนแข็งทื่อทำตัวไม่ถูก ธันเลยเป็นฝ่ายเริ่มลงมือ โดยการถอดเสื้อของคนตรงหน้าออก แล้วใช้มือคลึงคลำไปทั่วลำตัวเพื่อสร้างความสยิว
เมื่อเสื้อชั้นนอกถูกปลด เสื้อยืดด้านในก็เป็นชิ้นที่สอง ตามด้วยเข็มขัด กางเกง และชั้นใน ธันจับร่างเปลือยเปล่าของอีกฝ่ายนอนลงบนเตียง แล้วขึ้นไปค่อมอยู่บนตัว ก่อนจะก้มหน้าดูดเลียหัวนมให้จนอีกฝ่ายสะดีดสะดิ้งร้องขอให้หยุด
"หืม ให้หยุดจริงหรอครับ แต่เหมือนว่าร่างกายของคุณมันจะไม่บอกแบบนั้นนะครับ"
ธันว่าพร้อมเอามือจับเข้ากับแก่นกายกลางลำตัวแล้วชักเบาๆจนอีกฝ่ายร้องครวญครางด้วยความเสียว
ธันก้มลงใช้ลิ้นซอกแซกกับหัวเงี่ยงที่บานอ้า แล้วแลบลิ้นเล่นกับแท่งเนื้อตรงหน้า จนคนขับแท็กซี่เสียวซ่านขนลุกไปทั้งตัว
ธันเล่นกับจุดเสียวต่างๆจนคนขับแท็กซี่ร้องโอดครวญอยากจะเสร็จ แต่ธันกลับหยุดการกระทำทั้งหมดจจนอีกฝ่ายงง แต่เขาไม่ปล่อยเบลอนานนักเอื้อมมือมาชักให้ตัวเอง แต่มีหรือที่ธันจะยอม ธันได้ปัดมือของอีกฝ่ายออกไม่ยอมให้แตะต้องส่วนอ่อนไหว จนคนตรงหน้าต้องเป็นฝ่ายร้องขอ
"ช่วยผมหน่อยนะ ผมขอร้อง ผมอยากแตกแล้ว อ่าาา นะ ขอร้อง อ๊ะ อ่าาา"
อีกฝ่ายไม่พูดเปล่าพร้อมทำการกระเด้าลมโชว์ ธันจึงใช้โอกาสนี้สอบสวน
"ก็ได้แต่ก่อนอื่น บอกมาให้หมดว่าทำแบบนี้ทำไม แล้วผมจะยอมช่วย"
"อ๊ะ กูไม่บอกหรอกเว้ย"
พอถูกถาม กลับเปลี่ยนท่าทีเป็นดุดัน และไม่ยอม ธันจึงใช้นิ้วลากผ่านส่วนอ่อนไหวอย่างแผ่วเบาสร้างความเสียวให้เขาเป็นอย่างมาก ธันค่อยๆลงมือชักอีกครั้ง อีกฝ่ายปล่อยตัวตามอารมณ์ และในตอนที่ใกล้จะแตกอีกรอบนั้น ธันได้หยุดมือแล้วฟาดไปที่แก่นกายอย่างแรงจนมันดีดกระดกขึ้นลง แล้วธันก็ไม่ยุ่งกับมัน จนคนขับแท็กซี่ทนไม่ไหว ยอมเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้ฟัง
"มีคนจ้างผมให้มานอนกับคุณ แล้วถ่ายรูปส่งให้เขา"
"ใคร ใครเป็นคนสั่ง"
"ผมไม่รู้ ผมแค่ทำตามที่เขาบอก อ่าา ผมบอกหมดแล้ว ให้ผมแตกได้ยัง ซี๊ดดดดด"
ธันนึกอะไรบางอย่างได้ จึงได้ก้มลงอ้าปากงับแท่งเนื้ออุ่น อีกฝ่ายจับหัวธันโขกสับอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ธันจะถอนปากออกมาจนปากดูดอยู่ที่ส่วนหัว แล้วออกแรงดูดเน้นจนอีกฝ่ายปล่อยน้ำแตกพุ่งลงคอของธัน
คนขับแท็กซี่นอนหอบหายใจอย่างแรง ธันไม่ละตัวขึ้นค่อมดูดเลียแก่นกายที่พึ่งแตกไปเมื่อครู่จนอีกฝ่ายร้องครวญครางไม่ขาดสายจนกระทั่งน้ำสีเหลืองจำนวนมากไหลพุ่งออกมาแล้วย้อนลงบนตัวของเขาเอง
ธันมองดูด้วยความพอใจ แล้วให้อีกฝ่ายทำเรื่องอย่างหนึ่งให้กับเขา ในวันต่อมาธันลางานและไปยังสถานที่ ที่หนึ่ง ไม่นาน เป้าหมายก็มาถึงที่ เมื่อธันมองเห็นเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้น ก็นั่งรถโดยสารกลับบ้านและเตรียมการบางอย่าง
ไม่กี่อาทิตย์หลังจากเกิดเรื่อง ธันก็ผ่านฝึกงานและได้รับเข้าทำงานที่ DCY ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการ การเงินและการลงทุน แต่ก่อนที่จะได้เข้าทำงาน ก็มีบุคคลผู้หนึ่งคัดค้าน โดยอ้างว่าธันนั้นทำผิดจริยธรรม และทำให้องค์กรเสื่อมเสีย
ไม่นานหลังจากถูกคัดค้าน ก็มีการตรวจสอบข้อค้านนั้นๆ ซึ่งอีกฝ่าย ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดธัน ธันจึงใช้โอกาสนั้น เล่นคนที่หาเรื่องกลับด้วยเอกสารการเงินที่ถูกใช้จ่ายอย่างมิชอบ
เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นหลังจากคืนนั้น วันที่คนขับแท็กซี่ไปร้านกาแฟตามที่ธันสั่ง และคนที่มาหาคนขับแท็กซี่ก็คือหนึ่งในกรรมการผู้ถือหุ้น ที่เขาได้จ้างวานให้คนขับแท็กซี่ข่มขืนธันและถ่ายรูปเอาไว้ แต่คนขับแท็กซี่นั้นไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น แต่อยากได้เงิน เลยจะใช้มีดข่มขู่ธันให้ยอมแก้ผ้าถ่ายรูปแทน แต่เนื่องจากธันนรับมือได้เป็นอย่างดี จึงทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป
พอธันรู้ตัวผู้อยู่เบื้องหลัง เขาก็ได้ติดต่อหาเต้ คนสนิทที่ทำงานอยู่ฝ่ายกฏหมายในบริษัทขุดหาเอกสารหลักฐานแล้วใช้จัดการกับคนๆนั้นจนถูกปลดและถูกดำเนินคดีในที่สุด
และที่กรรมการคนนั้นไม่มีหลักฐานมาเล่นงานธันเป็นเพราะว่า วันที่นัดเจอกันนั้น คนขับแท็กซี่ไม่ได้ส่งรูปให้กับกรรมการคนนั้น เพียงแตต่เปิดรูปถ่ายในมือถือให้อีกฝ่ายดู เมื่ออีกฝ่ายเห็นภาพก็ถูกใจ จนลืมขอให้คนขับแท็กซี่ส่งให้ และในวันที่ตรวจสอบ คนขับแท็กซี่ก็ไม่ได้ส่งภาพให้กรรมการ
"และกรรมการคนนั้น คือภรรยาของคุณอเนก"
"ถึงว่า แล้วทำไมถึงไม่ขับคุณอเนกให้พ้นตำแหน่งไปล่ะครับ"
"ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกเยอะ บางที การที่เราเก็บศัตรูที่เรารู้จักไว้ อาจจะเป็นการดีกว่า"
หลังจากเรื่องที่ธันเล่าให้ปุนฟัง ทำให้ปุนเริ่มเข้าใจะันมากขึ้น และเริ่มเปิดใจรับฟังธันมากขึ้นเช่นกัน
หลังจากแยกย้ายกันไป ไม่นานก็มีรถเก๋งสีดำหรูมาจอดเทียบท่าริมฟุตบาท แล้วธันก็เปิดประตูข้างคนขับขึ้นนั่ง รถที่มารับธันนั้นเป็นรถของบริษัท โดยคนขับเป็นพนักงานขับรถส่วนตัวของธัน ที่มักจะถูกเรียกใช้เมื่อต้องเดินทางไกล หรือกิจส่วนตัว และคนๆนี้ ก็คือคนขับแท็กซี่ในตอนนั้นนั่นเอง
"ไปไหนดีครับคุณธัน"
"แล้วแต่พี่เลยครับ วันนี้แฟนผมกลับบ้านพ่อเขา"
"งั้นไปตึกร้างไหมครับ!!"
สนุกครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ซับซ้อนแต่น่าสนใจมากครับ:D ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ พี่ธันก็ใช่ย่อยนะเนี้ย {:5_137:} ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ โอ้ยซับซ้อนมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณครับ ซับซ้อนมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2