chokond โพสต์ 2023-2-5 06:57:18

ร่านกว่าเมีย ก็ผมนี่อหละครับ ตอนที่ 62 วิกฤตมาเยือน (No NC)

   "อะไรนะครับพี่ ลากออกยกทีมเลยหรอครับ"
   ปุนเจอกับปัญหารับสัปดาห์ใหม่ หลังจากที่ไปพักผ่อนหย่อนใจเมื่อสุดสัปดาห์ แต่พอกลับมาทำงานได้ครึ่งวันก็ต้องปวดหัวกับทีมออกแบบภายในทีี่มาขอยื่นลาออกกันยกทีม
   
   "ได้ครับพี่ฟาน เดี๋ยวผมไปตอนนี้เลยครับ"


   ปุนวางสายจากฟาน หัวหน้าฝ่ายบุคคลที่โทรมารายงานว่าทีมอินทีเรียนั้นมายื่นใบลาออก แต่พอปุนไปพบกับฟานเพื่อฟังรายละเอียดกลับพบว่ามันเลวร้ายกว่านั้นมาก เพราะนอกจากอินทีเรียที่ขอออกแล้ว ทีมสถาปนิกก็พึ่งส่งจดหมายลาออกทางอีเมล์มาถึงฟาน
   
   "พี่ลองให้ทางทีมงานยื่นข้อเสนอและข้อต่อรองมาแล้ว แต่ทุกทีมปฏิเสธและยืนยันว่าจะลาออกพร้อมกันหมดเลย"
   "แล้วงานที่ค้างอยู่ล่ะพี่"
   "พี่คุยกับทางนั้นแล้ว ทีมออกแบบจะทำตามงานค้างจนเสร็จ"
   "อืมก็ยังดีครับ งั้นพี่ก็ประกาศรับทีมใหม่เลยครับ ผมจะช่วยดูอีกแรง"


   ปุนเปิดหารายชื่อนักออกแบบที่เคยดูๆไว้ รวมไปถึงคนที่ปุนสนใจก็มีอยู่ไม่น้อยและได้ส่งรายชื่อเหล่านั้นให้กับฟานเพื่อติดต่อเข้ามาคุยงานดู และเขาก็คิดว่าเรื่องนี้คงไม่ใช่เรื่องปกติ แต่จะทำยังไงได้ ถ้าเกิดว่าอยากไปขนาดนั้นรั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์


   "ฮัลโหล หน้าเครียดเชียว มีอะไรหรอ"
   "อ้าวกัส มานี่ มีอะไรหรอ"
   ปุนสะดุ้งตัวหลังจากถูกกัสทักพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า เพราะเขามัวแต่ใจลอยจนไม่รู้ว่ากัสเดินเข้าห้องมา
   "เราเจอพี่ทีอยู่ศุนย์อาหาร พี่ทีบอกว่าปุนยังไม่ได้กินข้าว เราเลยซื้อนี่มาให้"


   กัสยกถุงที่ใส่แซนวิช และน้ำดื่มมาให้ปุน
   "อืม ขอบใจนะ ตอนนี้มีปัญหานิดหน่อยอะ ทีมงานอินทีเรียกับสถาปนิกพากันลาออกหมดเลย"
   "หืม จริงหรอ ทำไมอะ"
   ปุนส่ายหัวเบาๆ กัสมองดูก็เข้าใจ ทั้งสองคนถอนหายใจแล้วนั่งนึก
   
   "เรามีคนนึง งานน่าสนใจมากเลยนะ จบจากนอกพึ่งกลับไทยได้ไม่นาน เคยชนะการแข่งขันออกแบบ Modern Standard Sesign Awardด้วย"
   "หรอ ขอคอนแทคหน่อยสิ"
   "ได้ๆ เดี๋ยวเราส่งให้"
   หลังจากกัสหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อมูลติดต่อให้กับปุน ปุนได้ดูผลงานคร่าวๆถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก
   
   "กัส......"
   ปุนวางมือถือลงแล้วเอ่ยชื่อคนตรงหน้า ทำให้กัสเองเงยหน้าละจากจอมือถือเช่นกัน
   "ห๊ะ"
   "ขอบคุณนะ"
   "ขอบคุณอะไร"
   "ขอบคุณที่คอยช่วยเหลือเราตลอดเลย"
   กัสไม่ได้ตอบแต่พยักหน้ารับคำขอบคุณ
   "อย่าลืมกินนะ เราไปละ"
   กัสพยักหน้าไปยังแซนวิชที่วางบนโต๊ะและเดินออกจากห้องไป


   ปุนก้มหน้ามองดูของกินบนโต๊ะ แล้วนั่งลงก่อนจะแกะแซนวิชกินจนหมด จากนั้นส่งข้อความไปหานที เลขาของเขาเพื่อบอกว่าตอนบ่ายจะไม่เข้าออฟฟิศ


   ปุนส่งข้อความไปหาคนที่กัสให้ข้อมูลมา อีกฝ่ายพอรู้ว่าคนที่ติดต่อเป็นบริษัทใหญ่เลยนัดคุยกัน


   ปุนขับรถไปยังบริษัทที่เขาติดต่อ ซึ่งเป็นเพียงตึก3ชั้น ปุนเดินเข้าไปด้านในและบอกพนักงานต้อนรับว่าได้นัดไว้ พนักงานจึงนำทางปุนไปยังห้องรับรอง ระหว่างทางปุนก็สำรวจไปรอบๆอาคาร ภายในอาคารถูกออกแบบเป็นสัดส่วน ดูอิสระแต่มีกรอบ สามารถมองขึ้นไปยังชั้นสองและชั้นสามได้จากกลางอาคาร ห้องรับรองที่ปุนเข้าไปรอเป็นห้องกระจกมองเห็นรอบทิศแสดงถึงวิสัยทัศน์ของผู้นำ


   ก่อนที่หัวหน้างานจะมาพนักงานได้ยกขนมและเครื่องดื่มเล็กๆน้อยๆมาเสิร์ฟ หลังจากพนักงานเดินออกไปไม่นาน ชายวัยกลางคนที่สวมเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กับกางเกงสแลคและรองเท้าหนัง ใบหน้าดูทะเล้น วางตัวมีเอกลักษณ์ เดินมาหยุดตรงหน้าของปุน


   "สวัสดีครับคุณปุณยวีย์"
   "สวัสดีครับคุณ นภัทร"
   นภัทรเดินเข้ามาทักทายพร้อมยื่นมือออกมาด้านหน้า ปุนก็ลุกขึ้นแล้วจับมือกับนภัทร
   
   "นั่งก่อนครับ"
   นภัทรเอ่ยบอก พอปุนนั่งลง นภัทรก็นั่งลงตรงข้ามแล้วเริ่มสนทนาพูดคุย
   
   "เรียกผมพัดก็ได้ครับ"
   "ครับคุณพัด เรียกผมว่าปุนก็ได้ครับ"
   "ผมค่อนข้างตกใจนะครับที่คุณปุนติดต่อผมเข้ามา"
   "ผมเห็นผลงานของคุณพัดแล้วรู้สึกประทับใจมากครับ เลยติดต่อคุณพัดมา"
   "ไม่ใช่ว่าทีมออกแบบของ ดีซีวายลาออกกันหมดหรอครับ"
   ปุนชะงักไปชั่วขณะ เรื่องนี้เขาพึ่งรู้ไม่นาน แต่คนตรงหน้ากลับรู้ ไม่ธรรมดาเลย
   
   "อ๋อครับ รู้ด้วยหรอครับ"
   "ครับ วงการนี้มันแคบน่ะครับ ว่าแต่คุณมาติดต่อผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ"
   "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ผมขอพูดตรงๆเลยนะครับ ผมอยากจะร่วมงานกับคุณพัดครับ"
   "ผมขอปฏิเสธครับ"
   "?"
   ปุนขมวดคิ้วย่นติดกัน อีกฝ่ายปฏิเสธทันทีโดยไม่เจรจา แถมยังรู้ข้อมูลในบริษัทอีก
   "เอ่อ คุณพัดจะไม่ฟังข้อเสนอก่อนหรอครับ"
   "ไม่ต้องหรอกครับ เพราะยังไงผมก็ไม่ทำงานกับคุณหรอก"
   "ผมขอถามได้ไหมครับว่าทำไม"
   "คุณปุน บริษัทของผมเป็นแค่บริษัทเล็กเองนะครับ จะให้ไปรับงานกับโปรเจคเป็นหมื่นล้านได้ยังไง"
   "ผมยังไม่ได้บอกเลยนะครับ ว่าจะให้คุณดูแลโปรเจคอะไร"
   พัดไม่พูดอะไรแต่ยิ้มมุมปากให้ปุน แล้วยกชาขึ้นมาจิบ ปุนเริ่มตะหงิดขึ้นมาอีก ปุนรู้สึกเหมือนพัดกำลังจะบอกว่าพัดก็รู้ข้อมูลของเขามาพอสมควร
   
   ไม่ทันที่ทั้งสองจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ พนักงานแผนกต้อนรับได้เดินเข้ามาเคาะประตูห้อง แล้วเปิดเข้ามาพร้อมรายงาน
   
   "มีคนเข้ามาขอพบคุณปุณยวีย์ค่ะ"
   พอพนักงานรายงานเสร็จก็เดินกลับออกไป ปุนเลยหันไปสบตากับพัดครู่หนึ่ง พัดเองก็จ้องตาเขากลับโดยไม่หลบสายตา และเป็นฝ่ายปุนที่ต้องถอย
   
   "ผมขอตัวสักครู่นะครับ"
   "เชิญครับ"
   พัดว่า แล้วยกขาขึ้นมาไขว่ห้าง พร้อมยกชาจิบอย่างสะบายอารมณ์ปุนเดินออกมาแสดงท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะเห็นกัสที่ยืนรอเขาที่แผนกต้อนรับ
   
   "อ้าวกัส มาทำอะไรหรอ"
   "หืม เรื่องนี้ช่างมันก่อน ตอนนี้มีประชุมบอร์ดด่วน ทำไมไม่รับโทรศัพท์"
   "อะ อ๋อโทษที"
   ปุนกล่าวขอโทษก่อนจะควานหาโทรศัพท์แต่ไม่พบทั้งกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกง
   
   "คุณปุน คุณลืมนี่ไว้คะ...ครับ"
   พัดเดินตามออกมาจากห้องพร้อมยื่นมือถือของปุนที่ลืมไว้ให้กับคนตรงหน้า แต่พัดพูดติดขัดที่ได้เจอเข้ากับคนที่มาหาปุน
   
   "ขอบคุณครับคุณพัด ผมมีธุระด่วนเข้ามานิดหน่อย ขอโทษด้วยนะครับ ต้องขอตัวกลับก่อน"
   ปุนบอกพัดที่ยืนนิ่งจ้องหน้าของกัส ปุนเลยหันไปมองหน้ากัสที่ตอนนี้กำลังงุ่นกับการพิมพ์ตอบแชทมือถือ ปุนรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง แต่สงสัยได้ไม่นานกัสก็รีบดึงตัวเขาออกมา
   
   "เร็วเลย พี่ทีบอกว่าด่วนมาก จอดรถไว้ไหนอะ"
   "อะ เอ่อ รอตรงนี้ก่อน เดี๋ยวเราไปเอารถมา"
   ปุนรีบไปขับรถมารับกัสที่ยืนรอหน้าบริษัท พอกัสขึ้นมา ปุนก็ออกรถทันที
   
   "มีเรื่องอะไรหรอ"
   "พี่ทีอะสิ บอกว่าบอร์ดมีประชุมด่วน แต่นายบอกว่าจะไม่เข้าออฟฟิศ เราเลยเดาว่าปุนน่าจะมาที่นี่"
   "อ๋อ แล้วกัสมายังไงอะ"
   "นั่งแท็กซี่มาสิ"
   "ทำไมไม่ขับรถมา?"
   ปุนสงสัยเลยถาม กัสนิ่งไปพักนึงปุนเลยหันไปหาเพื่อฟังคำตอบ
   "เออว่ะ ลืมอะ รีบจัด"
   ปุนที่ได้ยินคำตอบของกัสก็ยิ้มขำออกมาลืมความเครียดที่มีก่อนหน้าหมดสิ้น
   "ฮ่าๆๆๆ กัสนะกัส"


   ก่อนจะถึงบริษัท ปุนได้นึกอะไรขึ้นมาได้เลยหันไปถามกับกัสก่อนที่จะลืมอักรอบ
   
   "กัส เราถามหน่อยสิ กัสรู้จักกับคุณพัดหรอ"
   "หืม คุณพัด?"
   "ใช่ คุณพัด เจ้าของบริษัทรับออกแบบที่เราพึ่งไปมา"
   "อ๋อ คุณพัด ไม่ได้รู้จักส่วนตัวนะ แต่เราเคยไปงานที่คุณพัดขึ้นพูดสุนทรพจน์อะ"
   "อะ อ๋อ ไม่มีเจอกันส่วนตัวอะไรหรอ"
   ปุนถามออกมาเพื่อเค้นเอาข้อมูลเผื่อจะนำไปใช้ในการเจรจากับพัดครั้งต่อไปได้ แต่กัสกลับไม่ตอบและนิ่งไปเลย
   "กัส ไม่สบายหรอ หน้าแดงๆ หูแดงด้วย อย่าบอกนะว่า...."ปุนกำลังจะถามแต่เป็นจังหวะที่รถจอดพอดี กัสเลยรีบเปิดประตูลงจากรถแล้ววิ่งหนีไป


   'หรือว่ากัสจะชอบคุณพัด...'


   ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ ปุนรีบเดินไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปยังห้องประชุมบอร์ด พอถึงห้องประชุมเสียงเงียบลง ปุนเดินเข้าไปนั่งที่ของตัวเอง คนในห้องประชุมถึงเริ่มคุยกันอีกครั้ง
      
   "คุณอเนกครับ คุณเป็นกรรมการผู้ถือหุ้นก็จริงอยู่ แต่จะเรียกประชุมแบบนี้ไม่ได้นะครับ การประชุมหรือแม้แต่จะทำอะไรต้องมีระเบียบ มีข้อบังคับ การประชุมแบบนี้ทำให้เสียเวลามากนะครับ แล้วเวลาก็เป็นทรัพยากรที่มีค่าที่สุด"
   ปืนเปิดไมค์พูดกับอเนกเจ้าเดิม จบก็กดปิดไมค์
   
   "ผมขออภัยกรรมการทุกคนนะครับที่ต้องสละเวลาอันมีค่ามาประชุมด่วนในครั้งนี้ แต่ที่ผมทำไปเพราะความบริสุทธิ์ใจครับ ผมได้ข้อมูลบางอย่างมาซึ่งเป็นที่หน้าตกใจมาก ที่ประธานกรรมการไม่เคยแจ้งคณะกรรมการเลย"
   อเนกหันไปพูดกับกรรมการท่านอื่นๆในห้อง แล้วหันมาจ้องยังประธานกรรมการอย่างธร ที่นั่งสงบนิ่งมาครู่หนึ่งแล้ว อเนกยิ้มกว้างก่อนจะกล่าวต่อ


   "ผมบังเอิญทราบข้อมูลมาว่า ทางเคอาร์ได้ยื่นข้อเสนอของซื้อโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ในราคา 3,000ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าโรงงานจริงในตลาดตอนนี้ถึง2เท่า แต่ประธานกลับไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้แก่ที่ประชุมทราบเลย ทำไมกันล่ะครับ"
   หลังอเนกพูดจบ เสียงกรรมการในห้องต่างพากันซุบซิบจนเสียงเหล่านั้นดังไปทั่วห้องประชุม


   "จริงไหมคะท่านประธาน"
   หนึ่งในกรรมการท่าหนึ่งได้เปิดไมค์แล้วถามออกมาตรงๆ ทำให้เสียงซุบซิบเงียบลงและรอฟังคำตอบ
   "เรียนกรรมการทุกท่านครับ เรื่องที่คุณอเนกพูดมานั้นเป็นเรื่องจริงครับ...." เสียงบ่นอุบเริ่มดังขึ้นอีกครั้งจนกระทั่งธรได้กล่าวต่อ
      
   "...ผมต้องขออภัยที่ไม่ได้นำเรื่องนี้เข้ามาในวาระการประชุม เพราะผมเห็นว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรต่อที่ประชุมแห่งนี้เลย"

   พออเนกได้ยินแบบนั้นก็กดเปิดไมค์ ถามอีกครั้ง
   "คุณกำลังจะบอกว่า โรงงานของเรามีกำไรปีล่าสุดอยู่ที่100ล้านบาท ซึ่งทำให้มูลค่าโรงงานลดลงถึง 37% หรือประมาณ 500ล้านบาท ตอนนี้มูลค่าโรงงานเราอยู่ที่ 1,500ล้านบาท การที่เคอาร์เสนอซื้อในราคา 3,000ล้านบาท มันไม่เป็นประโยชน์ตรงไหนครับ"

   "แม้กำไรของโรงงานจะลดน้อยลงก็จริง แต่โรงงานเองสามารถลดต้นทุนการผลิตที่ทางเราส่งให้ยังรีสอร์ทถึง 8% การผลิตแบบเฟอร์นิเจอร์กับโรงแรม 20% นอกจากนี้ยังมีดีไซน์บิ้วอินกับคอนโดใหม่ถึง21% รวมๆแล้วกว่า49% นี่ยังไม่รวมถึงปีต่อๆไปด้วย พวกคุณจะเห็นแก่เงิน 1,500ล้าน จนไม่สนใจ9,000ล้านบาทที่ต้องเสียกันหรอครับ" ธรอธิบายโต้อเนก ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง อเนกที่หันซ้ายหันขวารู้สึกว่ากรรมการกำลังสับสน จึงไม่ปล่อยให้กรรมการท่าอื่นได้คิด รีบยิงประเด็นต่อ

   "หรือที่ไม่ยอมขายโรงงาน เพราะจริงๆแล้ว คุณมีส่วนได้ส่วนเสียกันล่ะครับ ผมได้ข้อมูลลับมาว่า โรงงานนี้ คุณธีรนัยหรือคุณธัน ได้เป็นเจ้าของหุ้นส่วนถึง51%"
   "ผมขอชี้แจงนะครับ การที่ผมเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงงานในเครือ ไม่ได้เป็นข้อมุลลับแต่อย่างใด สามารถค้นหาได้บนอินเทอร์เน็ตทั่วไป ประการที่สอง ตอนที่นำโรงงานเข้ามาในเครือเมื่อ4ปีก่อน คณะกรรมการทุกคนเห็นชอบด้วย ตอนนั้นคุณอเนกก็เป็นคนที่ลงมติเห็นชอบด้วยไม่ใช่หรอครับ"
   ธันที่ถูกกล่าวถึงรีบคว้าไมค์อธิบายและชี้แจงจนพ้นข้อครหา

   อเนกมีท่าทีฟึดฟัด และหันไปมองกรรมการที่นั่งในห้อง ก่อนจะยิ้มออกมาแล้วเปิดไมค์พูดอีกครั้ง

   "ผมขอเสนอให้โหวต เพื่อการตัดสินในครั้งนี้ครับ"
   ปุนที่นั่งเงียบฟังมานานได้หันหน้าไปกระซิบกับธัน

   "พี่ธัน ทำไมถึงต้องโหวตอะ แค่ลุงชี้แจงผลประโยชน์ไปก่อนหน้า เป็นใครก็รู้แล้วป่ะว่าเก็บโรงงานไว้ได้มากกว่าเสีย"
   "พี่ก็คิดแบบนั้น แต่ดูอีกฝั่งมั่นใจขนาดนี้ พี่คิดว่าอาจจะถูกล็อบบี้ยิสต์มาแล้วก็ได้"
   "แบบนี้เราก็แย่สิครับ"
   "ไม่แน่ ต้องรอดูต่อ"

   หลังจากอเนกยื่นข้อเสนอ แม้ว่าธรจะไม่อยากให้โหวตแต่ก็เลี่ยงไม่ได้

   "ผลโหวตที่ออกมานะคะ เห็นด้วย45%ไม่เห็นด้วย35% ค่ะ"
   นุชาได้อ่านผลการโหวตออกเสียง อเนกที่เป็นฝ่ายเสนอโหวตชนะได้ตบโต๊ะดัง ก่อนจะยืนขึ้นแล้วยิ้มด้วยความยินดี

   "คราวนี้ก็ขายได้แล้วสิครับ"
   อเนกยิ้มออกนอกหน้า
   "ยังหรอกครับ"
   ปืนเอ่ยขัดความสุขของอเนก ทำให้พี่แกหงุดหงิด
   "ทำไมล่ะครับคุณปืน ในเมื่อผลโหวตก็ออกมาแล้ว"
   "ตามระเบียบผลโหวตที่ชนะจะต้องได้จำนวนหุ้นเกินกึ่งหนึ่งหรือ 51%เป็นอย่างต่ำครับ"
   "แต่...."
   "หรือคุณจะบอกว่าหุ้น20%ที่เหลือไม่สำคัญอย่างนั้นหรอครับ"อเนกหน้างุ้มลงโต๊ะกัดฟันกรอด

   "ก็ได้ครับ ผมผิดเองที่เรียกประชุมด่วน ทำให้ผู้ถือหุ้นอีก17%นั้นเสียสิทธิในการตัดสินใจ งั้นผมจะขอยื่นเรื่องนี้ใหม่ในวาระประชุมวิสามัญนะครับ"

   หลังผลโหวตออกมาทำให้ได้รู้ว่ากรรมการถูกซื้อตัวไปมกเกือบถึงครึ่ง ทำให้ตอนนี้ตำแหน่งของธรนั้นไม่มั่นคงเสียแล้ว ธรและปืนเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร ในห้องเหลือเพียงนุชา ธันและปุน

   "ปุน ก่อนประชุมวิสามัญครั้งต่อไป เราต้องรวบรวมผู้ถือหุ้นให้เกิน51%"
   ธันพูดกับปุนด้วยท่าทีจริงจัง เพราะตอนนี้อนาคตของบริษัทกำลังสุ่มเสียง
   "พี่จะให้ผมทำอะไรครับ"
   "พี่ได้ข่าวลือมาว่ามีคนถือหุ้นลับ10% พี่อยากให้ปุนไปสืบให้หน่อย เพราะอย่างน้อย ถ้าเราได้เพิ่มอีก10% ก็มีโอกาสชนะสูง ส่วนที่เหลือพี่จัดการเอง"
   "ได้ครับพี่ธัน"
   "จำเอาไว้นะปุน พวกเรามีเวลาแค่14วันก่อนถึงวันประชุมวิสามัญ อนาคตของสิ่งที่พ่อของปุนและพ่อของพี่สร้างขึ้นมา ขึ้นอยู่กับพวกเราแล้ว"

   หลังกลับมาห้องทำงานของตน ปุนได้เกิดความสงสัยอยู่อย่างนึง ทำไมลุงธรและพ่อของเขาไม่แสดงทีท่าอะไรออกมาเลย ยิ่งก่อนหน้านี้ที่เขาไปถามปืนถึงผู้ถือหุ้นลับ10%ปืนกลับมีท่าทางนิ่งเรียบและไม่ได้ตอบคำถามของเขาเลยแม้แต่น้อย บริษัทกำลังจะถูกยึด แต่ผู้บริหารไม่ทำอะไรเลย เรื่องแบบนี้ปุนไม่เคยเจอ

boyzmember โพสต์ 2024-10-7 00:18:18

สุดยอดเลยฮะ {:5_129:}

iiupkoop โพสต์ 2024-3-5 23:48:21

ขอบคุณครับ

wat_ โพสต์ 2024-1-13 21:59:20

ขอบคุณครับ

ShangHai โพสต์ 2023-12-24 19:40:56

ปัญหาเยอะแท้ สุ้ๆ นะนู๋ปุน {:5_135:}

bokko.hiso โพสต์ 2023-6-27 18:38:16

ขอบคุณครับ

Feen โพสต์ 2023-5-24 13:14:10

ขอบคุณมากครับ

pt200 โพสต์ 2023-4-25 16:34:12

ขอบคุณครับ

Gngkung โพสต์ 2023-2-19 08:02:52

ขอบคุณครับ

possto_01 โพสต์ 2023-2-17 15:54:45

หัวจะปวด

Spicy.mc โพสต์ 2023-2-16 07:38:59

ขอบคุณครับ

joryu โพสต์ 2023-2-7 19:15:06

ขอบคุณครับ

phitchapat2 โพสต์ 2023-2-6 19:58:58


ขอบคุณครับ

auto101 โพสต์ 2023-2-5 18:47:28

ขอบคุณครับ

lekthai โพสต์ 2023-2-5 17:56:36

ขอบคุณนะครับ

konkong1 โพสต์ 2023-2-5 09:40:26

{:5_119:}{:5_119:}

uuuukrubb โพสต์ 2023-2-5 09:23:19

เยี่ยมครับ

takeshi โพสต์ 2023-2-5 08:43:26

ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2023-2-5 08:32:27

สนุกมากครับ

audiwoods โพสต์ 2023-2-5 08:11:55

งานเข้าเต็มๆเลยนะครับ​ ทุกปัญหา​มีทางออกครับ
หน้า: [1] 2
ดูในรูปแบบกติ: ร่านกว่าเมีย ก็ผมนี่อหละครับ ตอนที่ 62 วิกฤตมาเยือน (No NC)