DarkSide อีกด้านของคุณ 6 กลับบ้านเรา รักรออยู่
"โท พรุ่งนี้ว่างไหม ช่วยไปเดินเลือกของเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ"โทหันหลังตามเสียงเรียก เขาเห็นกิต หรือพี่กิต เพื่อนร่วมงานอีกคนหนึ่งที่เป็นฝ่ายดูแลการประสานงานระหว่างกองกิจกับสโมสรนักศึกษา
"ไม่ว่างครับพี่ วันหยุดนี้ตรงสิ้นเดือนพอดี ผมต้องกลับบ้านต่างจังหวัดครับ"
"อ้าวหรอ แย่เลย"
เสียงกิตดูซึมลงเล็กน้อย ใบหน้าที่ยิ้มน้อยก่อนหน้าเริ่มตึงเรียบ กิตนั้นเป็นผู้ที่ดึงโทเข้ามาทำงานที่นี่ หลังจากที่โทเอ่ยขอ เพราะทั้งสองคนนั้นมีความสัมพันธ์กันนิดหน่อย เนื่องจากช่วงเรียนมหาลัย กิตเคยตามจีบโท แต่ตอนนั้นโทปฏิเสธ ตอนนี้เจ้าตัวก็…มีลูกมีเมียไปแล้ว แต่ยังคงทำงานด้วยกันได้ไม่มีปัญหาอะไร
"ขอโทษด้วยนะพี่ ลองชวนคนอื่นไปไหมครับ"
"ไม่เป็นไรครับ แล้วอาภูภาเป็นไงบ้าง สะบายดีไหม ฝากทักทายด้วยนะ"
โทยิ้มให้และกล่าวขอบคุณก่อนที่จะลุกเก็บของเนื่องจากตอนนี้ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีงานด่วนอะไร กิตเลยให้โทกลับก่อนเลยก็ได้
เมื่อกลับถึงหอพัก โทเริ่มลงมือเก็บของที่จำเป็นแล้วเดินแบกเป้ขึ้นรถเพื่อจะเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดทันที หากเขากลับตอนนี้ ก็จะมีเวลาวันเสาร์และวันอาทิตย์ช่วงเช้า แต่หากกลับพรุ่งนี้ จะมีเวลาพักเพียงเล็กน้อย จึงตัดสินใจเริ่มออกเดินทางเลย
ระหว่างทาง โทเปิดกระจกรถเพื่อรับลมและสูดอากาศบริสุทธิ์ เนื่องจากเส้นทางที่เขาเลือกใช้ไม่ใช่เส้นหลัก จึงมีเวลาดื่มด่ำกับบรรยากาศ พลันทำให้นึกถึงเรื่องราวในวัยเด็ก ตอนที่ทุกคนในบ้านอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ พี่ น้องชาย และอา…
ฟ้าบริเวณโยรอบมืดสนิท เป็นจังหวะเดียวกับที่โทขับรถมาถึงบ้าน คนในบ้านที่พอได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้านก็พากันเดินออกมาดู
"อ้าว ทำไมมาวันนี้ล่ะ ขับรถกลางค่ำกลางคืนอันตราย"
เสียงหนุ่มใหญ่วัย 51 ที่แม้จะอายุมากแต่ร่างกายไม่ได้เสื่อมตามอายุ เพราะคนที่มารับโทนั้นคือภูผา พ่อของเขานั่นเอง
"วันนี้เลิกงานเร็วน่ะพ่อ"
โทลงจากรถแล้วเเบกกระเป๋าเป้เดินเข้าไปกอด ภูผาเคยป่วยด้วยโรคหลายอย่างเนื่องจากทำงานหนักและพักผ่อนน้อยจนต้องเข้ารักษาตัวอยู่บ่อยครั้ง เอกและโทเห็นว่าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่ จึงได้ช่วยกันปรามพ่อ ตอนนั้นเอกถึงกับลาออกจากงานประจำมาดูแลพ่อ ให้พ่อพักรักษาตัว เมื่อภูผาเห็นว่าตัวเองทำให้ลูกชายคนโตต้องออกจากงานจึงรู้สึกผิด หลังจากรักษาหายในตอนนั้น เขากลับมาจัดตารางชีวิตใหม่ เลิกทำงานหักโหมและพักผ่อน เลิกดื่มเลิกเที่ยว และหันมาดูแลสุขภาพตัวเองจน 3 พี่น้องวางใจจึงได้แยกย้ายกันไปทำงาน แต่ก็ยังคงหาเวลามาเยี่ยมอยู่เสมอ
"แล้วกินข้าวกินปลามาหรือยัง พ่อไม่มีอะไรติดตู้ไว้เลย"
"สวัสดีครับอา"
"อ่า ๆ มาเดี๋ยวอาเอาของไปเก็บให้"
ไม่ทันได้ตอบพ่อ อาภูเขาก็เดินมาทักทายและรับกระเป๋าโทไปเก็บ โทได้เอ่ยขอบคุณและพูดคุยกับพ่อของตนต่อที่หน้าบ้าน
หลังจากพูดคุยกันเสร็จ ภูผาให้ลูกชายคนรองได้พักผ่อน โทจึงเดินเข้าบ้านและตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง ห้องนอนของ 3 พี่น้องนั้นอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน เพราะไม่อยากให้พ่อเดินขึ้นลงบันไดบ่อย กลัวจะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวเข่า เมื่อเข้ามายังห้องของตน โทได้ทำการอาบน้ำชำระล้างร่างกายที่เหนียวตัวมาทั้งวัน
หลังจากอาบเสร็จก็สวมกางเกงบอกเซอร์ตัวเดียว ขึ้นเตียงเตรียมจะนอน แต่จังหวะที่เขากำลังจะทิ้งหัวลงหมอน หางตาของโทกลับสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง โทสะดุ้งตัวแรงลุกนั่ง ก่อนที่เขาจะสูดหายใจเข้าออกช้า ๆ แล้วตัดสินใจหันไปมองที่โต๊ะข้างเตียง
!!!
โทถึงกับอึ้ง เมื่อเห็นสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง เพราะมันคือ ไดอารี่ปรารถนา!!
โทตกใจมากที่เห็นมันที่นี่ เพราะเขานั้นไม่ได้นำมันมาด้วย แถมก่อนจะออกจากหอพัก ยังได้ยัดมันลงลิ้นชักไปแล้วด้วย
กลางดึกคืนนั้น โทไม่ได้นอนพักแต่อย่างใด เขากำลังนั่งจ้องสมุดไดอารี่ด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจเจตนาของมัน ว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วทำไมมันถึงตามมาด้วย ระหว่างคิดอยู่นั้น โทได้กระหายน้ำขึ้นมาจึงเดินออกจากห้องลงไปชั้นล่าง เพื่อหาน้ำดื่ม
ก๊อก แก๊ก ฟืดดด
ในขณะที่โทกำลังเปิดตู้เย็น เขาได้ยินเสียงบางอย่างดังมาจากห้องนอนของพ่อเขา เมื่อดื่มน้ำเสร็จ เขาจึงตัดสินใจเดินไปยังห้องนอนของพ่อเผื่อมีอะไร
แต่เมื่อไปถึงห้องนอนของพ่อ ประกฎว่าประตูห้องนอนของภูผาไม่ได้ปิดอยู่ มันแง้มออกมาเล็กน้อย โทจึงเอื้อมมือไปจับลูกบิดหวังจะปิดมันเบา ๆ พลันเหตุการณ์ที่เคยประสบทำให้โทเกิดสงสัยจึงได้แอบมองผ่านช่องว่างอัตโนมัติ
ภาพตรงหน้าที่ได้เห็นทำเอาโทช็อคตาค้างไม่ต่างกับที่เห็นภาพของโก้มีอะไรกับน้องเขยเลย เพราะภาพเบื้องหน้าเขานั้น คือภาพที่อาภูเขา หรือน้องชายแท้ ๆ ของพ่อตน กำลังก้มหัวทำบางอย่างขณะที่ผูผาหลับอยู่
โทยกมือสองข้างขึ้นมาปิดปากตัวเอง เขาไม่รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่เขาหลอนไปเองหรือมันกำลังเกิดขึ้นจริง บ้าไปแล้ว!
โทพยายามเดินถอยออกมาจากห้อง แล้ว ดึงสติตัวเองแล้วเดินกลับขึ้นห้องนอนของตนไป เขาใช้เวลาที่เหลือช่วงดึกข่มตาหลับ พยายามไม่คิดถึงภาพที่เห็นก่อนหน้า
…
..
.
เมื่อรุ่งเช้ามาถึง ภูผากะว่าจะมาปลุกลูกชายไปวิ่งรอบหมู่บ้านด้วยกัน แต่พอเปิดประตูห้องนอนก็เห็นว่าเจ้าลูกชายนอนขดอยู่ใต้ผ้าห่ม
สงสัยคงจะเหนื่อย ให้นอนไปละกัน
ภูผามองดูลูกชายตนนอนด้วยความเอ็นดู ก่อนจะปิดประตูห้องลูกชายแล้วลงไปด้านล่าง เตรียมผ้าและน้ำดื่มก่อนจะออกจากบ้านเพื่อวิ่งออกกำลังกายรับแสงอรุณในตอนเช้า
โทรู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลากว่า 10 โมงแล้ว เขาลุกจากเตียงแล้วเดินลงไปชั้นล่างเพื่อดื่มน้ำ ขณะที่กำลังดื่มน้ำก็ดันเห็นภูเขากำลังนั่งเล่นมือถือดูคลิปตลกอยู่ที่โซฟา ทำให้โทชะงักตัวไปครู่หนึ่ง ภาพในหัวเขาตอนนี้คือสิ่งที่เจอเมื่อคืน
โทยืนจ้องหน้าของอาตัวเองที่ยิ้มหัวเราะมีความสุขสลับกับภาพในหัว จนโทสับสนเป็นอย่างมาก อาเขาจะทำแบบนั้นจริงหรอ แล้วพ่อเขาก็เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของอาเลยนะ อาจะกล้าทำแบบนั้นหรอ
"อ้าว ตื่นแล้วหรอเรา ทำงานเหนื่อยเลยสิ"
แค่ก แค่ก!
ภูเขาที่หันมาเห็นโทจึงเอ่ยทักทายทำให้โทสำลักน้ำออกมา
"อ้าว เป็นอะไรล่ะเรา ตกใจหรอ อาขอโทษนะ"
ภูเขาเห็นโทสำลักน้ำจึงเดินเข้ามาหากะจะมาลูบหลัง แต่โทยกมือโบกส่ายไปมาเป็นสัญญาณว่าไม่เป็นไร
"อาครับ….."
โทเอ่ยเรียกภูเขากะจะถามถึงพ่อ แต่แค่เอ่ยเรียกจบ เขาก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ในใจอยากจะถามออกไปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนคืออะไร แต่ก็กลัวว่ามันอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง อาจจะเป็นเพราะเขาตาฝาดไปเอง หรือเป็นภาพหลอนจากอาการเครียดจากการทำงาน
"หืม ว่าไงล่ะเรา"
"ปะ เปล่าครับ คือ..พ่อไปไหนหรอครับ"
โทเอาตัวรอดด้วยการเอ่ยถามถึงพ่อแล้วมองหารอบบ้าน
"พ่อโทไปวิ่งตอนเช้าน่ะ เสร็จก็น่าจะแวะไปโกดังเลยมั๊ง"
"อ๋อครับ แล้ววันนี้..อาไม่เข้าสวนหรอครับ"
"ไม่เข้า ๆ อาพึ่งฉีดยาเสร็จเมื่อวานนี้เอง"
ขณะคุยกัน โทสังเกตว่าสายตาของภูเขาที่นั่งบนโซฟาจ้องมายังเขา แต่ผภูเขาจ้องมามันเป็นระดับสายตา ซึ่งหากกะดูแล้ว มันตรงกับเป้าของเขาที่กำลังยืนอยู่พอดี พอนึกได้แบบนั้น โทจึงรีบเดินกลับขึ้นห้องแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า
โทเดินลงจากห้องอีกครั้งด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์ขายาว หากเป็นปกติเขาก็จะสวมกางเกงบอกเซอร์หรือบางครั้งก็เป็นกางเกงชั้นในตัวเดียวเดินร่อนไปทั่วบ้าน แต่คราวนี้ เขากลับรู้สึกไปม่ปกติ…
ช่วงบ่าย โทขับรถไปหาพ่อของเขาที่ร้าน เป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างขนาดไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งร้านอยู่ติดกับถนนใหญ่ ใกล้กับตลาดหมู่บ้าน
"อ้าวโท มาทำไมหึ"
ภูผาที่เห็นลูกชายลงจากรถเดินมาหาตนก็ถามไถ่ พร้อมวางสมุดที่กำลังจดเช็คสต็อคสินค้า
"จะออกมาหาอะไรกิน พ่อเอาไรป่ะ"
"เออดี กำลังหิวพอดี"
ภูผาหันไปสั่งงานลูกน้องที่ค้างอยู่ ก่อนจะเข้าไปในออฟฟิศเพื่อเตรียมตัว จังหวะนั้นโทหันไปเจอกับลูกน้องของพ่อที่รู้จัก จึงเดินเข้าไปหา
"พี่วิทสวัสดีครับ"
"อ้าวโท กลับมาแต่เมื่อไหร่"
"มาเมื่อวานครับ แล้วนี่พี่มาทำอะไรที่นี่ครับ"
"เอาเอกสารมาให้เถ้าแก่เซ็น แล้วนี่มาอยู่กี่วันล่ะ"
"กลับพรุ่งนี้เย็นครับ"
"โห มาแปบเดียวเอง ไม่ได้คุยกันนาน โตขึ้นเยอะเลยนะ"
วิทใช้มือตบไหล่โท โทและวิทนั้น ทั้งสองคนสนิทกันมากเมื่อโทเด็ก ๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ภูผายุ่งกับงานมากทั้งสวนผลไม้ ทั้งรับเหมา ได้วิทนี่แหละที่เป็นลูกน้องพ่อมาช่วย ทั้งดูแลงานบ้าน ดูแลลูก ดูแลร้าน เรียกได้ว่า วิทเป็นคนเก่าคนแก่ของครอบครัวเลยก็ว่าได้ แต่พักหลังเมื่ออะไรค่อย ๆ ลงตัว ภูผาได้ให้ภูเขาน้องชายตนเป็นคนดูแลสวนผลไม้ วิทลูกน้องคนสนิทก็ให้ไปดูแลโกดัง ส่วนร้านผูผาเป็นคนคุมเอง
"เอ่อพี่วิทครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษาหน่อยครับ"
โทตัดสินใจปรึกษากับวิท ซึ่งวิทเองก็สนใจ แต่ไม่ทันที่โทจะได้เล่ารายละเอียด ภูผาก็เดินออกมาจากออฟฟิศพอดี
"ป่ะ พ่อเสร็จละ"
โทหันไปบอกกับวิทว่าเดี๋ยวไปหาที่โกดัง แล้วแยกย้ายกัน โทขับรถไปตลาดในหมู่บ้านเพื่อหาอะไรกิน ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันโทอยากจะเอื้อนเอ่ยถามถึงสิ่งที่กังวล แต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดออกมา เพราะหากเขาพูดไปแล้ว จะไม่สามารถย้อนเวลากลับมาแก้ไขมันได้อีก หากเรื่องที่ถามออกไปเพราะความสงสัย แต่สิ่งที่ได้รับกลับมา อาจจะเป็นปัญหาใหญ่โตในอนาคต จึงทำให้โทเก็บคำพูดพวกนั้นเอาไว้ แล้วถามไถ่เรื่องอื่น ๆ แทน
"ช่วงนี้ไอ้ตรีเป็นไงบ้างพ่อ ได้ติดต่อมาบ้างป่ะ"
"โอย เจ้าตรีมันจะติดต่อมาอะไรล่ะ ถ้าไม่ขอเงินก็มาขอของ ไม่ติดต่อมาน่ะดีแล้ว"
ภูผาพูดทีเล่นทีจริงถึงลูกชายคนเล็ก โทก็ผสมโรงนินทาน้องชาย เพราะน้องชายของเขาไม่ค่อยกลับบ้าน แล้วหาตัวยาก ไปไหนมาไหนไม่เคยบอก แต่จะบ่นยังไง ตอนมันมีปัญหากลับมาบ้านก็ช่วยมันทุกที
"เจ๊ เดี๋ยวเอาอีก 40 ถุง กลับบ้าน"
ภูเขาลุกไปสั่งก๋วยเตี๋ยวให้ลูกน้อง แล้วมานั่งคุยกับลูกชายต่อ ปกติเรื่องที่คุยก็เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป เอาเข้าจริงโทเริ่มคิดได้เมื่อเห็นพ่อของตัวเองในตอนนี้
หลังจากแม่เขาเสีย พ่อก็ทำงานหนัก
ดูแลเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียว ถึงจะเคยมีข่าวมาบ้างว่าพ่อไปกิ๊กกับผู้หญิงคนนู้นบ้างคนนี้บ้าง แต่ไม่เคยเปิดตัวใครเป็นพิเศษ อาจจะเพราะตอนเด็กพวกเขาไม่พอใจที่พ่อจะมีคนอื่นนอกจากแม่ แต่เมื่อมองในปัจจุบันแล้ว พ่อของพวกเขาคงต้องเหงามากแน่ ยิ่งโตเขาก็ยิ่งรู้สึกต่างออกไป
ครืดดด ครืดดด ครืดดด
"หึ ตายยากจริง ๆ เลยมึง กำลังพูดถึงพอดี"
โทรับสายจากเอก ที่โทรเข้ามาหาขณะที่เขาและพ่อกำลังนินทา โทเปิดลำโพงเพื่อคุยกับพี่ชาย
"อยู่กับพ่อป่ะ"
"อยู่ ๆ ตอนนี้มากินข้าวที่ตลาด มีอะไร"
"เออ เปล่า แค่ถามดูนึกว่าไม่ได้กลับ"
"อะพ่อ คุยกับมันหน่อย"
โทเปลี่ยนเป็นวิดีโอคอลแล้วยื่นมือถือให้กับพ่อของตน ภูผาก็รับไปแล้วพูดคุย โทลุกออกมาเพื่อไปซื้อน้ำผลไม้ปั่น ปล่อยให้พ่อกับพี่ชายคุยกัน
ภูผาแม้จะมีเงินทองมากมาย แม้จะดูแลร่างกายอย่างดี แต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่สามารถเลยก็คือ…เทคโนโลยี มือถือเครื่องแพงที่มีอยู่ก็ใช้แค่โทรคุยงานกับลูกค้าและลูกน้อง แอปต่าง ๆ ที่โทและเอกโหลดให้ใช้ก็ไม่ค่อยจะเป็น แต่ก็นั่นแหละ…..
หลังจากกินเสร็จ โทได้ขับรถมายังร้านส่งพ่อลง ภูผาเองก็ใช้ให้โทเอาก๋วยเตี๋ยวอีก 20 ถุง ไปแจกให้ลูกน้องที่โกดัง โทเองที่กำลังจะไปหาวิทด้วยเลยไม่ขัดอะไร
"เออโท ก่อนหน้านี้มีเรื่องจะปรึกษาพี่ เรื่องอะไรหรอ"
วิทเดินเข้ามาถามหลังจากโทแจกก๋วยเตี๋ยวให้คนงานครบ โทเดินไปหาที่ส่วนตัว ซึ่งก็คือศาลาใต้ต้นมะขามข้างโกดัง
"พี่วิท คือ…พ่อผมมีเรื่องผู้หญิงบ้างป่ะ"
"ฮ่า ๆ พี่ก็นึกว่าเรื่องอะไร"
"..."
วิทมองดูโทที่จริงจัง เขาจึงเลิกขำเพราะโทไม่เล่นด้วย
"เรื่องผู้หญิงหรอ ไม่มีนะ ไม่มีมานานแล้วด้วยครับ"
"แล้วเรื่อง…."
โทชั่งใจอยู่นานแต่ก็ไม่กล้าพูดต่อ วิทเองก็มีสีหน้ากังวลทำให้โทเริ่มสงสัยเหมือนว่าวิทรู้อะไร
"พี่วิทรู้อะไรมาครับ…"
"เอ่อ คือ พี่ก็ไม่แน่ใจนะ แต่ว่า….พักหลังมานี้ เถ้าแก่หายไปบ่อย ๆ"
"หายไป?หมายความว่าไงครับ"
"อืม ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวไหมนะ มีคนที่ร้านมาเล่าให้พี่ฟัง ว่ามีครั้งนึง เถ้าแก่ออกจากร้านไป ไม่ได้บอกใครว่าไปไหน พอกลับร้านมาก็เพลีย ๆ บางวันพี่ต้องเอาเอกสารไปให้เถ้าแก่เซ็น ก็นัดปกติ แต่พอไปถึง เถ้าแก่ก็ไม่อยู่ เห็นคนงานว่า เถ้าแก่จะไปข้างนอกแบบนี้อาทิตย์ละวัน"
"....ขอบคุณครับพี่"
โทกลุ้มหนักเข้าไปอีก ความจริงพ่อเขาก็อายุขนาดนี้ จะไปไหนมาไหนส่วนตัวก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่การที่โทรับรู้เรื่องนี้พร้อมกับเรื่องก่อนหน้า ทำเอาสับสนหนักเข้าไปอีก ตอนนี้ไม่รู้เลยว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ตกดึกคืนนั้นเอง โททนไม่ไหวลุกขึ้นมากลางดึกพร้อมนั่งจ้องสมุดไดอารี่ พร้อมคิดในใจ หรือว่านี่คือจุดประสงค์ที่มันมาโผล่ที่นี่?
โทนั่งวิเคระห์เรื่องราวที่เกิดขึ้นและที่รับรู้มาในวันสองวันนี้ ก่อนจะตัดสินใจจรดปลายปากกาลงบนไดอารี่ ก่อนที่ทิ้งตัวลงนอนด้วยความหวังว่าคืนนี้จะได้รู้เรื่องที่สงสัย แม้จะทำใจยอมรับยากว่าตนจะได้เจอกับเรื่องไม่ควรของคนในครอบครัว แต่ความสงสัยมันอยู่เหนือจิตสำนึกต่อคนในครอบครัว แม้จะรู้สึกไม่ดี แต่เขาปล่อยมันไปไม่ได้จริง ๆ
โทเริ่มลงมือเขียนชื่อและเรื่องราวที่รู้เกี่ยวกับ อาภูเขา และ พ่อภูผา ลงในสมุดไดอารี่!!!
ขอบคุณครับ ติดตามอยู่นะครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สุดยอด เยี่ยมครับ ตื่นเต้น แต่โทต้องปล่อยใจนะก่อนจะบ้าไปเอง ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ สิ่งที่ได้เห็นมันก็ยิ่งทำให้อยากรู้อะเนาะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_142:}{:5_142:} ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ