Medmayom โพสต์ 2012-5-22 15:46:45

ตาบอดซะยังดีกว่า "ทัศนคติบอด"


ทัศนคติบอด บริษัทนี้เป็นลูกค้ารายใหม่ที่ชนะกำลังติดตามเรื่องอยู่ เสียงของโอเปอเรเตอร์ซึ่งรับสายด้วยเสียงที่เป็นมิตรและอ่อนโยนกล่าวว่า “ สวัสดีค่ะบริษัทเอบีซีอิงค์   ยินดีต้อนรับค่ะ ” คุณชนะกล่าวว่า“ผมขอเรียนสายกับคุณสมจิต ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ หน่อยครับ”โอเปอเรเตอร์กล่าวทักขึ้นมาว่า“นั่น คุณชนะใช่ไหมคะ” ชนะรู้สึกแปลกใจความสามารถในการจดจำเสียงของพนักงานคนนี้ได้ เขากล่าวตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประทับใจ “ใช่แล้วครับ   ขอบคุณที่จำได้ครับ”   เธอกล่าวว่า “ ยินดีคะ   ดิฉันจะโอนสายให้นะคะ ” หลังจากที่ชนะสนทนาเรื่องงานกับสมจิตจบ ชนะจึงถามสมจิตขึ้นมาว่า“คุณสมจิตผมขอชมพนักงานรับโทรศัพท์ของคุณหน่อยครับ เธอเก่งจริงๆเลยที่จำเสียงผมได้ เป็นการให้บริการที่เกินความคาดหวังของผมจริงๆเลยครับ ผมเองไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ   และก็ไม่ได้โทรมาบ่อยๆ ขนาดที่เธอจะจำเสียงผมได้ด้วย   เธอมีเคล็ดลับอะไรครับ” สมจิตพูดว่า เธอได้รับคำชมอย่างนี้บ่อยๆ หากคุณฟังเรื่องของเธอมากขึ้นกว่านี้คุณจะยิ่งประทับใจสนใจฟังไหมละคะ”ชนะรีบกล่าวตอบด้วยความกระตือรือร้นว่า “สนใจสิครับช่วยกรุณาเล่าให้ฟังหน่อยครับ” สมจิตเริ่มต้นเล่าอย่างอารมณ์ดี“คุณเรณูเธอตาบอดคะ เธอจึงต้องอาศัยการฟังเพียงอย่างเดียวทำให้เธอสามารถจดจำชื่อคนได้ดี เธออาศัยอยู่ที่สมุทรปราการและมาทำงานที่ออฟฟิศนี่ซึ่งอยู่แถวดอนเมืองถือว่าไกลมากโดยเฉพาะสำหรับเธอซึ่งต้องเดินทางโดยรถเมล์เหมือนคนปกติส่วนใหญ่ก็จะมีคนตาดีอย่างพวกเราที่คอยช่วยดูสายรถเมล์และส่งเธอขึ้นรถให้   เธอไม่เคยมาสายเลยและก็ไม่เคยเรียกร้องขอรถรับส่งแต่อย่างใด ไม่เหมือนพนักงานปกติของพวกเราหลายคนตอนที่เราย้ายสำนักงานจากในเมืองต้องขอรถรับส่งให้ด้วยแถมหลายๆคนที่มีรถส่วนตัวก็ยังมาทำงานสายพร้อมกับเหตุผลสารพัด   คิดแล้วอายแทนคนตาดีเลยคะ”เธอหยุดเว้นจังหวะสักครู่ก่อนจะเล่าต่อว่า “คุณเรณูมีทัศนคติที่ดีมากๆกับงานของเธอ เธอเคยเล่าให้ดิฉันฟังว่าสำหรับเธอแล้วการรับโทรศัพท์ไม่ใช่งานแต่มันคือชีวิตเงินเดือนที่บริษัทให้กับเธอ ทำให้เธอสามารถเลี้ยงตัวเอง และครอบครัวได้อย่างดี นอกจากนี้เธอยังมีเงินเหลือกว่าครึ่งสะสมไว้อีก ที่จริงแล้วเพื่อนคนตาดีหลายคนเคยหยิบยืมจากเธอในยามฉุกเฉิน คุณเรณูกล่าวว่าบริษัทเรา   เพื่อนร่วมงาน   ลูกค้า และสังคมมอบโอกาสให้เธอได้พิสูจน์ว่าเธอมีคุณค่าและสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคมได้ เธอบอกว่าเธอพยายามทำงานของเธออย่างสุดความสามารถซึ่งรวมทั้งพยายามจำชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาด้วย เธอบอกว่าทุกคืนก่อนเข้านอน   เธออยากรีบนอนไวๆเพื่อจะได้รีบตื่นขึ้นมาทำงานเธออดใจรอจะมาทำงานไม่ไหว แหมอย่าหาว่าดิฉันบ่นเลยคะแต่พวกตาดีๆอย่างพวกเรากลับภาวนาให้ถึงวันหยุดเร็วๆเสียนี่กระไร สมจิตจบเรื่องด้วยเสียงหัวเราะเบาๆอย่างคนอารมณ์ดี เมื่อชนะมาเล่าเรื่องนี้ให้กับผมฟังในรถระหว่างที่เราเดินทางไปพบลูกค้าที่นวนครผมจึงเสริมความเห็นของผมไปว่า “เราน่าจะเล่าเรื่องนี้ให้คนที่มาเข้าอบรมกับเราฟังบ้างนะ บ่อยครั้งเรามักจะได้ยินคนบ่นว่างานหนักหรือไม่ก็ปัญหาเรื่องงานมีมาก สิ่งที่คุณเรณูมีแตกต่างกับเราไม่ใช่ว่าเธอตาบอดหรอกครับความจริงพวกเราต่างหากที่บอด เราทัศนคติบอดไงละเราได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย จากนายจ้างจนเคยชินกระทั่งมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น ยิ่งนานวันเรายิ่งเรียกร้องมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้ในขณะที่คุณเรณูกลับมองแตกต่างกับเราอย่างสิ้นเชิง บางคนเบื่องานจนอยากลาออกไปอยู่กับบ้านเฉยๆ มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดของDr. Denis Waitley ผู้แต่งหนังสือขายดีชื่อ    ‘The psychology of winning’ เขายกรายงานวิจัยในอเมริกาที่บอกว่าผู้เกษียณอายุออกจากงานไปโดยไม่มีภารกิจอะไรทำจะมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น พวกเขาตายเพราะความรู้สึกด้อยคุณค่าหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเฉาตายนั่นเองครับ เราบางคนมีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรัก ในขณะที่คนจำนวนมากไม่มีโอกาสอย่างนั้น อย่างไรก็ตามเรามีสิทธิที่จะเปลี่ยนมุมมองโดยหันมารักและหลงใหลในสิ่งที่เราทำได้โดยไม่ต้องรอให้ตาบอดแบบคุณเรณูก็ได้ ”

sand โพสต์ 2012-5-22 19:14:55

ดีมากครับ ตาบอดแต่ใจคนงาม คิดดี
แต่ตาดี ใจทราบ คิดชั่วย่อมเลวร้ายกว่าคนตาบอดครับ

Medmayom โพสต์ 2012-5-22 19:23:09

ต้นฉบับโพสต์โดย sand เมื่อ 2012-5-22 19:14 static/image/common/back.gif
ดีมากครับ ตาบอดแต่ใจคนงาม คิดดี
แต่ตาดี ใจทราบ คิดชั ...

ดีใจที่มาเยี่ยมเยียนกันแถมมีกำลังใจมาอีกเต็มๆ ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ตาบอดซะยังดีกว่า "ทัศนคติบอด"