nokky โพสต์ 2013-4-13 17:37:32

แม่น้ำปาย

คือแม่น้ำที่ไหลผ่านอำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า และอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ก่อนที่จะไหลลงไปสู่แม่น้ำสาละวิน ในรัฐกะยา ประเทศพม่า มีต้นสายอยู่ในเทือกเขาถนนธงชัย และเทือกเขาแดนลาวอยู่ ในท้องที่ของอำเภอปาย แม่น้ำสายนี้มีความยาวประมาณ 180 กิโลเมตร

http://image.ohozaa.com/i/2d9/MjvxsM.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:36:28

แม่น้ำปัตตานี

คือแม่น้ำที่มีต้นน้ำอยู่ในเทือกเขาสันกาลาคีรี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ไหลผ่านเขื่อนบางลาง ผ่านจังหวัดปัตตานีและสิ้นสุดที่อำเภอเมืองปัตตานี ไหลออกสู่ทะเลอ่าวไทย แม่น้ำมีความยาวทั้งสิ้น 214 กิโลเมตร

http://image.ohozaa.com/i/0c4/Y4lkRg.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:35:25

แม่น้ำบางปะกง

เป็นแม่น้ำสายสำคัญในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดฉะเชิงเทรา มีความยาวประมาณ 230 กิโลเมตร และมีความกว้างในช่วงที่ไหลผ่านเขตเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราประมาณ 100 เมตร
แม่น้ำบางปะกง มีต้นกำเนิดจากแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำปราจีนบุรี ไหลมาบรรจบกันบริเวณ ตำบลบางแตน อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี

http://image.ohozaa.com/i/6f8/z6xj15.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:34:03

แม่น้ำบางตะบูน

เป็นสาขาของแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งไหลย้อนขึ้นไปทางเหนือผ่านอำเภอเขาย้อย อำเภอบ้านแหลม ออกสู่อ่าวไทยที่ปากอ่าวบางตะบูน อำเภอบ้านแหลม มีความยาวประมาณ 13 กิโลเมตร

http://image.ohozaa.com/i/639/A57zTl.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:32:27

แม่น้ำบางขาม

เป็นแม่น้ำสายสั้น ๆ มีความยาวเพียง 20 กิโลเมตร ซึ่งมีต้นกำเนิดจากคลอง ในเขตอำเภอบ้านหมี่ ไหลไปรวมกับแม่น้ำลพบุรี ในเขตอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ลุ่มแม่น้ำบางขาม ลพบุรี เป็นสายน้ำแห่งวิถีชีวิตของผู้คนซึ่งนักโบราณคดีเชือว่า เดิมชุมชนแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานตั้งแต่สมัยทวารวดี ราวพุทธศักราช 1100- 1600 เป็นแหล่งอารยธรรมของมอญอาศัยอยู่ชื่อว่า "เมืองราม" เมื่ออิทธิพลขอมเรืองอำนาจ อาณาจักรทวารวดีล่มสลายลง และต่อมาชนเผ่าในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นผู้คนจาก จังหวัดอ่างทอง จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดลพบุรี ได้พากันอพยพมาตั้งถิ่นฐานบริเวณลุ่มแม่น้ำบางขามและเนื่องจากริมแม่น้ำดังกล่าวมีต้นไผ่ซึ่งชาวบ้านปลูกไว้เพื่อป้องกันการพังทลายของดิน และป้องกันลมจากชายน้ำ และมีจำนวนมาก ชาวบ้านจึงเรียกขานกันว่าเป็น บ้านวังไผ่ ซึ่งปัจจุบันนี้อยู่บริเวณหมู่ที่ 4 ตำบลบางพึ่ง อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี ลุ่มแม่น้ำบางขาม ประกอบด้วย ต.มหาสอน ต.บางพึ่ง ต.บ้านชี ต.บางขาม อ.บ้านหมี่ และต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งวิถีชีวิตเดิมมีความผูกพันกับสายน้ำใช้เป็นเส้นทาง สัญจร ค้าขาย โดยเฉพาะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ทำนาตลอดปีโดยอาศัยแหล่งน้ำจากแม่น้ำบางขาม ในปี พ.ศ. 2546 จังหวัดลพบุรี ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งได้ร่วมกันอนุรักษ์คุณภาพของน้ำ เพื่อไม่ให้เกิดการทำลายทรัพยากร โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี ได้ร่วมกันขุดลอกและกำจัดผักตบชวาและดำเนินการจัดทำประตูสำหรับการระบายน้ำแม่น้ำบางขาม วึ่งทำให้ประชาชนในเขตลุ่มน้ำบางขามได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ แยงทำให้วิถีชีวิตผู้คนลุ่มน้ำบางขาม กลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่งhttp://image.ohozaa.com/i/678/iTGVcP.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:31:15

แม่น้ำน่าน

มีต้นกำเนิดอยู่ในเทือกเขาหลวงพระบาง จังหวัดน่าน มีความยาวตลอดลำน้ำ 740 กิโลเมตร ซึ่งยาวที่สุด ในบรรดาแควต้นน้ำเจ้าพระยาด้วยกัน นับเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายหลักในภาคเหนือและภาคกลางของไทย โดยได้ไหลรวมกับแม่น้ำปิง กลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสำคัญสายหนึ่งของประเทศ
http://image.ohozaa.com/i/54e/vI8dAE.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:29:35

แม่น้ำนครนายก

เป็นแม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดนครนายก จังหวัดฉะเชิงเทรา และจังหวัดปราจีนบุรี มีความยาวประมาณ 130 กิโลเมตร ไหลผ่านทุกอำเภอในจังหวัดนครนายก ต้นน้ำจากภูเขาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ไหลผ่านน้ำตกเหวนรก ซึ่งในช่วงต้นน้ำมีชื่อเรียกว่า "คลองท่าด่าน" ถูกกั้นโดยเขื่อนขุนด่านปราการชล หลังจากนั้นได้ไหลผ่าน อำเภอเมืองนครนายก อำเภอบ้านนา และอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก นอกจากนี้แม่น้ำนครนายกยังเป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก และอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กับอำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี สุดท้ายจึงไหลไปบรรจบกับแม่น้ำปราจีนบุรีที่ปากน้ำโยธะกาเป็นแม่น้ำบางปะกง
ปัจจุบันแม่น้ำนครนายกบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชลได้มีกิจกรรมล่องแก่งสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อและทำรายได้ให้กับจังหวัดนครนายกเป็นอย่างมากhttp://image.ohozaa.com/i/2c7/WrfNJT.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:28:12

แม่น้ำท่าจีน

แม่น้ำท่าจีน เป็นแม่น้ำที่แยกตัวออกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ตำบลท่าซุง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี กับ ฝั่งตะวันตกที่อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ไหลผ่านจังหวัดชัยนาท จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนจะไหลออกสู่อ่าวไทยที่ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 325 กิโลเมตร แม่น้ำท่าจีนมีชื่อเรียกหลายชื่อ ดังนี้ ตอนที่ไหลผ่านจังหวัดชัยนาทเรียกว่า "แม่น้ำมะขามเฒ่า" ตอนที่ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี เรียกว่า "แม่น้ำสุพรรณบุรี" ตอนที่ผ่านจังหวัดนครปฐมเรียกว่า "แม่น้ำนครชัยศรี" ส่วนตอนที่ไหลผ่านจังหวัดสมุทรสาครและไหลลงสู่อ่าวไทยเรียกว่า "แม่น้ำท่าจีน"http://image.ohozaa.com/i/8ab/u8aASF.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:25:38

แม่น้ำชี

เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำมูล เกิดจากที่ราบด้านตะวันออกของเทือกเขาเพชรบูรณ์นับตั้งแต่เขาสันปันน้ำ เขาแปปันน้ำ เขาเสลียงตาถาด เขาอุ้มน้ำ เขายอดชี เขาครอก จนถึงเขาเทวดา ซึ่งเป็นแนวภูเขาชายเขตแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดชัยภูมิ โดยมีสาขาหลัก 5 ลำน้ำซึ่งประกอบไปด้วย ลำน้ำพอง ลำน้ำปาว ลำน้ำเซิน ลำน้ำพรมและลำน้ำยัง แม่น้ำชีถือว่าเป็นแม่น้ำที่มีความยาวมากที่สุดในประเทศไทย ไหลผ่านจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดยโสธร และไหลไปบรรจบกับแม่น้ำมูลที่บ้านวังยาง ต.บุ่งหวาย อ.วารินชำราบจังหวัดอุบลราชธานี มีความยาวทั้งสิ้น 765 กิโลเมตร
[แก้]ตำนานแม่น้ำชี

ชื่อของแม่น้ำชี เกิดจากแม่หม้ายคนหนึ่งอยู่กับลูกสาว สามีของนางเสียชีวิตนานแล้ว วันหนึ่งนางไปหาหน่อไม้บนภูเขาซึ่งมีหน่อไม้มาก วันนั้นนางหาหน่อไม้ได้มากกว่าทุกวันนางจึงได้นำหน่อไม้ที่หาได้ไปขายในตลาดกับลูกสาวของนาง ปรากฏว่าหน่อไม้ของนางขายดีได้เงินมาเป็นจำนวนไม่น้อย เมื่อได้เงินจากการขายหน่อไม้นางได้พาลูกสาวของนางไปซื้อเสื้อผ้าซื้อของที่ลูกของนางอยากได้ เมื่อนางและลูกสาวซื้อของเสร็จกำลังจะออกจากร้าน เจ้าของร้านก็ได้บอกนางว่า "ผู้หญิงคนนี้สวยจริง ๆ เลย" ต่อมามีคนพูดว่า "ลูกสาวของป้าสวยอย่างนี้ทำไมไม่ให้เข้าไปอยู่ในวังจะได้สบาย" ต่อมานางจึงพยายาม ส่งลูกสาวเข้าไปอยู่ในวังเมื่อลูกสาวของนางได้ไปอยู่ในวังก็เป็นที่หมายปองของชายทั้งหลาย และได้พบรักกับลูกขุนนาง และตกลงใจแต่งงานกัน โดยไม่บอกมารดาด้วยความเป็นห่วง นางรู้แล้วว่าลูกสาวของนางแต่งงานแต่ไม่บอกนาง นางก็ไม่โกรธและได้เข้ามาหาลูกสาวในวัง เมื่อลูกสาวพบหน้ามารดาก็ทำท่าเหมือนไม่รู้จักซ้ำยังไล่เหมือนกับว่าไม่ใช่แม่ สร้างความเสียใจให้แก่ผู้เป็นแม่มาก นางกลับบ้านด้วยความเสียใจ เมื่อกลับถึงบ้านนางยังคงร้องไห้อยู่ทุกวัน เสียใจกับลูกที่นางรักปานแก้วตาดวงใจ ที่ทำกับนางเช่นนี้แม้ชีวิตก็ยอมสละให้ลูกได้ นางคิดว่าในชีวิตของนางไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เพราะคนที่นางรักยังไม่สนใจใยดีนางจึงไปวัดไปหาความสงบในชีวิตที่เหลือน้อยเต็มที ในที่สุดก็ตัดสินใจบวชชี และได้เดินทางไปบนภูเขาซึ่งนางเคยหาหน่อไม้กับลูกสาวของนาง และได้นั่งร้องไห้บนภูเขาจนน้ำตาของนางกลายเป็นสายน้ำที่ไหลอยู่ทุกวันนี้และได้จบชีวิตลง ณ ที่แห่งนั้น ชาวบ้านได้เรียกชื่อแม่น้ำสายนี้ว่า "แม่น้ำชี"
ตำนานของแม่น้ำชี ยังมีปรากฏอีกแห่ง ซึ่งอยู่ในตำนานอุรังคธาตุ(ตำนานพระธาตุพนม)ซึ่งต้นฉบับดั้งเดิมจารึกไว้เป็นตัวอักษรธรรมอีสานบนแผ่นใบลาน คาดว่าถูกคัดลอกต่อกันมาไม่ต่ำกว่า ๔๐๐ ปี ซึ่งกรมศิลปากร ได้ปริวรรตเป็นตัวอักษรไทยสยามไว้ตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๓ บรรยายความเกี่ยวกับกำเนินแม่น้ำสายต่างๆลุ่มน้ำโขงว่า แต่เดิมมีหนองน้ำแห่งหนึ่งชื่อว่า หนองแส (คาดว่าปัจจุบันคือ ทะเลสาบเอ๋อไห่ เมืองต้าหลี่ มณฑลยูนนาน ประเทศจีน) หนองแสแห่งนี้ มีนาคอาศัยอยู่ด้วยกัน ๘ ตัว คือ พินทะโยนกวตินาค เป็นใหญ่ทางหัวหนอง, ธนะมูนนาค เป็นใหญ่ทางท้ายหนอง, ชีวายะนาค, หัตถีศรีสัตตนาค , สุกขรนาค, ปัพพารนาค,สุวรรณนาค และพุทโธปาปะนาค โดย พินทะโยนกวตินาคและธนะมูนนาค ได้ให้คำสัตย์ต่อกันว่า หาอาหารได้เท่าไร จะต้องแบ่งครึ่งเท่าๆกัน อยู่มาวันหนึ่ง พินทะโยกวตินาค จับเม่นได้เป็นอาหาร และแบ่งครึ่งตามสัญญา ปรากฏว่าธนะมูนนาค กินไม่พออิ่ม เนื่องจากคลางแคลงใจที่ ขนเม่นยาวเป็นศอก จะได้เนื้อมีนิดเดียวได้อย่างไร จึงเกิดเรื่องวิวาทกันระหว่างนาคทั้ง ๒ ฝ่าย ทำให้น้ำในหนองแสขุ่นมัว และสร้างความเดือดร้อนแก่สัตว์อื่นๆที่อยู่ร่วมกัน เรื่องจึงเดือดร้อนถึงสวรรค์ พระอินทร์จึงสั่งให้พระวิสุกรรมเทวบุตร ลงมาปราบนาคทั้ง ๒ ฝ่าย นาคทั้งหลายในหนองแส จึงถูกขับไล่และเหวี่ยงโยนออกจากหนองแส และบางตัวได้เลื้อยแถกแผ่นดิน จนกลายเป็นสถานที่ต่างดังนี้
๑.พินทะโยนกวตินาค และ ชีวายะนาค ถูกเหวี่ยงออกไปตกนอกหนองแส นาคทั้ง ๒ ได้ใช้หน้าอกลำตัวเลี้อยแถกแผ่นดินไปหาแม่น้ำโขง รอยเลื้อยจึงกลายเป็น แม่น้ำอู ใน สปป.ลาว ๒.จากนั้น พินทะโยนกวตินาคได้ทางเมืองเชียงใหม่ และแหวกแผ่นดินกลายเป็น แม่น้ำปิง และเมืองโยนกวตินคร ๓.ศรีสัตตนาค หนีไปอยู่ ดอยนันทกังฮี (ยังสรุปไม่ได้ว่า หมายถึงที่ไหน) ๔.สุวรรณนาค หนีไปอยู่ ปู่เวียน (ยังสรุปไม่ได้ว่า หมายถึงที่ไหน) ๕.พุทโธปาปนาค คุ้ยควักแผ่นดินจนกลายเป็น หนองบัวบาน (ยังไม่ชัดเจนว่า จะหมายถึง เมืองหนองบัวลุ่มพู หรือไม่) ๖.ปัพพารนาค หนไปอยู่ภูเขาหลวง (ยังสรุปไม่ได้ว่า หมายถึงที่ไหน) แต่มีเงือกและ พญางูพลัดหลงไปด้วย แต่เงือกและพญางู ทั้ง๒ ได้คุ้ยควักแผ่นดิน จนกลายเป็น แม่น้ำเงือกงู หรือ แม่น้ำงึมในปัจจุบัน (อยู่ สปป.ลาว) ๗.สุกขรนาค หนีไปอยู่ เวินหลอด (ยังสรุปไม่ได้ว่า หมายถึงที่ไหน) ๘.ธนมูนนาค และบริวาร ตอนแรกพลัดไปอยู่ใต้ดอยกัปปนคีรี (ภูกำพร้า หรือ เมืองธาตุพนม) แต่ธนมูนนาค ได้เลื้อยไปตามลำน้ำโขงต่อลงไปจนถึง ลี่ผี แล้วไม่สามารถเลื้อยต่อไปได้ จึงเลื้อยแถกแผ่นดินไปทางทิศตะวันตก ไปถึงเมืองกุรุนทะนคร รอยแถกแผ่นดิน จึงกลายเป็น "มูนนที" หรือ แม่น้ำมูน ในปัจจุบัน ๙.ชีวายะนาค ได้หนีไปตามเส้นทางของ ธนมูนนาค ก่อนที่จะเลื้อยแถกแผ่นดินไปทางด้านเหนือ โดยอ้อมเมืองพระยามหาสุรอุทก ไปจนถึงเมืองหนองหานหลวง และเมืองหนองหานน้อย รอยเลื้อย จึงได้กลายเป็น "ชีวายะนที"ตามชื่อของ ชีวายะนาค หรือ แม่น้ำชี ในปัจจุบัน
หรืออีกนัยหนึ่งคือ คำว่า "ชี" นั้น มาจากภาษาอีสาน(ลาว) ท้องถิ่นแถบลุ่มน้ำชีบริเวณต้นน้ำนั้น คือคำว่า "ซี" ซึ่งหมายถึงการเจาะทะลุเป็นรู โดยลักษณะต้นกำเนิดของน้ำชีนั้นมีสายน้ำที่ไหลผ่านลอดใต้เทือกเขาหินปูน ที่เรียกว่า "ซีดั้น" และไหลทะลุลอดผ่านมาอีกฝั่งหนึ่งของเทือกเขา เรียกว่า "ซีผุด" เป็นเช่นนี้เป็นส่วนใหญ่ในบริเวณต้นกำเนิดสายน้ำชี จึงทำให้เรียกลำน้ำสายนี้ตามลักษณะพิเศษที่ลำน้ำไหลซี(ไหลทะลุ)ลอดผ่านใต้เทือกเขานั้นว่า "ลำน้ำซี" ในภาษาถิ่น หรือ ลำนำชี ในภาษากลาง นั่นเอง

http://image.ohozaa.com/i/975/OgT86w.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:23:54

แม่น้ำเจ้าพระยา

เป็นแม่น้ำสายหลักสายหนึ่งของประเทศไทย เกิดจากการรวมตัวของแม่น้ำสายหลัก 2 สายจากภาคเหนือ คือแม่น้ำปิงและแม่น้ำน่าน ที่ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นไหลลงไปทางทิศใต้ ผ่านจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ก่อนออกสู่อ่าวไทยที่ปากน้ำ ซึ่งอยู่ระหว่างเขตตำบลท้ายบ้าน ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ และตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

http://image.ohozaa.com/i/f75/SSDtS4.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:22:38

แม่น้ำโขง

มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัย ไหลผ่านมณฑลชิงไห่ ประเทศจีน และบริเวณที่ราบสูงธิเบต ไหลลงสู่ทะเลจีนใต้ ผ่านประเทศจีน ประเทศลาว ประเทศพม่า ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม มีความยาวทั้งหมด 4,880 กิโลเมตร เป็นความยาวในประเทศจีน 2,130 กิโลเมตร ช่วงที่แม่น้ำไหลผ่านประเทศจีนมีชื่อเรียกว่า แม่น้ำหลานชางเจียง หรือ แม่น้ำล้านช้าง และเมื่อไหลผ่านเข้าเขตประเทศพม่า และประเทศลาว เรียกว่า แม่น้ำของ ในภาษาไทยเรียกว่า แม่น้ำโขง ยังเป็นเส้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศลาวด้วย
ลักษณะสำคัญของแม่น้ำโขงคือ มีตลิ่งที่สูงชันมากทั้งสองฝั่ง ไหลเลี้ยวเลาะไปตามไหล่เขา กระแสน้ำจะไหลจากทางเหนือลงสู่ทางใต้ตลอดทั้งปี ระดับน้ำในฤดูฝนกับฤดูแล้งจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก ความเร็วของกระแสน้ำขึ้นอยู่กับแต่ละฤดูกาล ดินในแม่น้ำโขงเป็นดินทราย มีเกาะแก่งน้อยใหญ่กว่าหนึ่งร้อยแห่งเรียงรายตลอดแม่น้ำ ทำให้ได้รับการขนานนามว่า แม่น้ำดานูบตะวันออก

http://image.ohozaa.com/i/277/wuC2uz.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:20:55

แม่น้ำโกลก

เป็นแม่น้ำสายสำคัญของภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยเป็นแม่น้ำที่กั้นพรมแดนระหว่างไทยกับมาเลเซียโดยไหลผ่านอำเภอสุไหงโก-ลก ของประเทศไทย ...

http://image.ohozaa.com/i/g68/0L0xQZ.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:19:14

แม่น้ำกระบุรี

ตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี แม่น้ำกระบุรี ยอดน้ำเกิดจากคลองกะเดียง ยาวประมาณ 17 กิโลเมตร และคลองกระเนย ยาวประมาณ 15 กิโลเมตร ไหลมารวมกันในเขตอำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง และที่บริเวณบ้านปากจั่น ตำบลปากจั่น ซึ่งอยู่ตอนเหนือของอำเภอกระบุรี มีคลองปากจั่นยาวประมาณ 35 กิโลเมตร ไหลมารวมกันทางฝั่งตะวันออกอีกด้วย แม่น้ำนี้ไหลไปทางทิศใต้จนถึงอำเภอกระบุรี มีขนาดกว้าง 230 เมตร และต่อลงมาแม่น้ำจะกว้างขึ้นทุกที ผ่านอำเภอละอุ่น อำเภอเมืองระนอง จนถึงปากน้ำไหลลงสู่ทะเลอันดามัน มีขนาดกว้าง 4.5 กิโลเมตร ตั้งแต่ปากน้ำขึ้นไปจนถึงอำเภอกระบุรี ลำน้ำยาว 5.3 กิโลเมตร และยาวรวมกันทั้งหมด 125 กิโลเมตร
แม่น้ำนี้เป็นแม่น้ำปันเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหภาพพม่า ในลำน้ำมีเกาะใหญ่น้อยหลายเกาะ สองฟากแม่น้ำเป็นป่าและเขาสลับซับซ้อนกันมาก ที่ปากแม่น้ำทางฝั่งตะวันตกเป็นแหลมใหญ่เรียกว่า แหลมวิกตอเรีย ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับคลองระนอง ที่ปากคลองระนองมีกระโจมไฟตั้งอยู่บนเกาะสะระนีย์ (ผี) ในสมัยก่อนเมื่อยังไม่มีถนนเพชรเกษม คงมีแต่ถนนชุมพร-ปากจั่นเท่านั้น ที่ปากจั่นจึงเป็นท่าเรือสินค้าที่ใช้เดินทางติดต่อกันระหว่างจังหวัดระนองและจังหวัดภูเก็ต ฉะนั้นแม่น้ำกระบุรีจึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แม่น้ำปากจั่น สามารถดำเนินการจัดให้มีการท่องเที่ยวทางแม่น้ำกระบุรี โดยจัดกิจกรรมการล่องแพและนำเที่ยวทางเรือ
กิจกรรม - ชมวัฒนธรรมประเพณี - ดูนก - พายเรือแคนู/คยัค - ล่องแพ/ล่องเรือ - ชมทิวทัศน์ - ชมพรรณไม้
http://image.ohozaa.com/i/5ed/n1Xw78.jpg

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:17:46

แม่น้ำกก

แม่น้ำกก เป็นแม่น้ำสายสำคัญสายหนึ่งในภาคเหนือของประเทศไทยโดยมีต้นกำเนิดมาจากภูเขาตอนเหนือของเมืองกก จ.เชียงตุง ภายในอาณาเขตของรัฐฉานในประเทศพม่า ไหลเข้าสู่ประเทศไทยที่ช่องแม่น้ำกก อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไหลมาเรื่อยๆ จนผ่านตัว อ.เมืองเชียงราย หลังจากนั้นก็ไหลลงแม่น้ำโขงที่บริเวณสบรวก อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
จิตร ภูมิศักดิ์ เชื่อว่าบริเวณแม่น้ำกกแห่งนี้เป็นศูนย์กลางใหญ่ที่สำคัญอย่างยิ่งของสังคมชนชาติไทยและอารยธรรมของไทยยุคก่อนหน้า พ.ศ.1800 ขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นเพราะบริเวณลำน้ำมีต้นกกขึ้นอยู่โดยรอบจึงเรียกแม่น้ำกก
ซึ่งร่องรอยของอารยธรรมอยู่ที่สองฝั่งของแม่น้ำกก จ.เชียงราย และอ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มีซากเมืองโบราณกระจายอยู่มากมาย ทั้งสองจังหวัดนี้รวมกันถึงกว่า 30 แห่งด้วยกัน
เฉพาะที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งอยู่ทางต้นแม่น้ำกกนั้นมีซากเมืองโบราณที่พบแล้วถึง 12 แห่ง และใน จ.เชียงราย ที่อยู่ปลายแม่น้ำกก มีซากเมืองโบราณที่พบแล้วเช่นกันกว่า 15 แห่ง
ซากเมืองโบราณเหล่านี้ จิตร ภูมิศักดิ์ ให้ความเห็นว่าน่าจะสร้างขึ้นราวหลังพุทธศตวรรษที่ 17 แต่อย่างไรก็ตาม จิตร ยังบอกว่าบริเวณแห่งนี้มีชนชาติไต-ไท ตั้งถิ่นฐานกันอยู่เรื่อยมาอย่างไม่ขาดสาย แต่มีศูนย์กลางทางการเมืองอยู่ทางน้ำแม่สายซึ่งอยู่เหนือขึ้นไปเล็กน้อย
ชนชาติไทที่ลุ่มน้ำกกแห่งนี้มีอาชีพทำนา ปลูกข้าวโดยอาศัยน้ำจากท่า หรือน้ำจากฟ้า พอถึงราวพุทธศตวรรษที่ 19 ศูนย์กลางทางการเมืองก็เริ่มย้ายจากน้ำแม่สายมาอยู่ที่น้ำแม่กก อำนาจทางการเมืองเริ่มขยายตัวลงทางใต้มากขึ้น
จนกระทั่งราว พ.ศ.1805 พญาเมงราย กษัตริย์หิรัญนคร (เงินยาง) ก็มีอำนาจแล้วสร้างเมืองเชียงรายขึ้น ครั้นถึง พ.ศ.1839 พญาเมงรายก็ย้ายศูนย์กลางของเมืองลงมาที่ลุ่มแม่น้ำพิง (แม่น้ำปิง) สร้างเมืองขึ้นใหม่ เรียกว่านครพิงเชียงใหม่ ตั้งแต่นั้นมาศูนย์กลางของสังคมไทยล้านนาก็ย้ายมาจากลุ่มแม่น้ำกกอันเก่าแก่ลงมาอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำพิง แล้วหยั่งรากอารยธรรมลึกตราบจนทุกวันนี้

http://image.ohozaa.com/i/6eb/qIF2fV.gif

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:10:34

แม่น้ำตรัง

:มีต้นกำเนิดที่ทิวเขานครศรีธรรมราช   ในเขตอำเภอทุ่งสง   จังหวัดนครศรีธรรมราช   ไหลเข้าเขตตรัง    ไปออกสู่ทะเลที่ช่องมะละกาที่อำเภอกันตัง   แม่น้ำตรังมีความยาวประมาณ   175    กิโลเมตร

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:10:11

แม่น้ำหลังสวน

:มีต้นกำเนิดจากทิวเขาภูเก็ตบริเวณเส้นแบ่งเขตจังหวัดชุมพร   และระนองไหลผ่านชุมพรแล้วไหลออกสู่อ่าวไทยที่บริเวณอำเภอหลังสวน   จังหวัดชุมพรนั้นเอง    แม่น้ำหลังสวนมีความยาว   100    กิโลเมตร

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:09:35

แม่น้ำตาปี   

:   เดิมเรียกว่าแม่น้ำหลวงงำ   มีต้นกำเนิดจากเขาใหญ่ยอดต่ำ   ซึ่งอยู่ในอำเภอทุ่งใหญ่   จังหวัดนครศรีธรรมราช   แล้วไหลไปทางทิศเหนือ   เพื่อไปรวมกับแม่น้ำคีรีรัฐที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี   แล้วออกสู่อ่าวไทย   ที่อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีนั้นเอง   แม่น้ำตาปีมีความยาวประมาณ   232   กิโลเมตร
      แม่น้ำตาปีจะถูกเรียกว่า   แม่น้ำหลวงในช่วงจากต้นน้ำถึงจุดที่มารวมกับแม่น้ำคีรีรัตน์และจะถูกเรียกว่า   แม่น้ำบ้านดอนในช่วงจากจุดที่บรรจบกับแม่น้ำคีรีรัตน์   จนจุดที่ไหลสู่อ่าวไทย

nokky โพสต์ 2013-4-13 17:09:07

แม่น้ำคีรีรัฐ หรือแม่น้ำพุมดวง

: มีต้นกำเนิดจากเขานมสาวกับเขาสก( ส่วนหนึ่งของทิวเขาภูเก็ต ) ไหลไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือแล้วย้อนไปทางทิศตะวันออกอีกครั้งแล้วไปร่วมกับแม่น้ำตาปีที่อำเภอพุนพินแม่น้ำคีรีรัฐ   
มีความยาวประมาณ   120กิโลเมตร

Isen โพสต์ 2013-4-12 23:55:45

น้ำจิตน้ำใจ หมายถึง การเอื้อเฝื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือแบ่งปัน

{:5_119:}

lomphu โพสต์ 2013-4-12 21:45:12

ผมก็มีน้ำเยาะครับที่บ้าน
หน้า: 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 [18] 19 20 21 22 23 24 25 26 27
ดูในรูปแบบกติ: น้ำคือชีวิต (S-1400)