## เรื่อง "เรื่องของเค้ากะแก" ##(17)ต่อ
****************##เรื่อง “เรื่องของเค้ากะแก” ๑๗(ต่อ)##
เรามาต่อตอนนี้ให้จบนะ.....................
เริ่มกันเลยดีก่ะ................................................
*********************************************************************
พอเย็นๆพ่อถึงกลับเข้ามาบ้านเราก็เลยเล่าให้พ่อฟังเรื่องที่เจมส์รถคว่ำแล้วเราจะขอไปเยี่ยม พ่อก็เห็นว่าเราไม่เป็นไรแล้วแต่ท่านก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีเพราะเราไปโรงพยาบาลไม่ค่อยได้ คือประมาณว่าเวลาเราไปโรงพยาบาลแล้วเห็นคนเจ็บเราก็จะเป็นลมท่านก็เลยเป็นห่วง เราก็รับปากพ่อว่าจะดูแลตัวเองดีๆท่านก็เลยยอมให้เราไป
เราใช้เวลาขับรถมาที่โรงพยาบาลไม่นาน พอไปถึงเราก็เดินไปถามที่เค้าเตอร์ว่าเจมส์อยู่ห้องไหนแล้วเราก็รีบไปเยี่ยมเจมส์ทันที พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเพื่อนๆอยู่ประมาณสามสี่คนก็คือภีมโอ๊ตยูแล้วก็หนึ่งซึ่งก็เป็นเพื่อนในกลุ่มเรานั่นแหละแต่พวกนี้มันค่อนข้างจะสนิทกันเป็นพิเศษมันก็เลยยังไม่กลับกัน
“อ้าวปอ...... มาไงนะ” ภีมเป็นคนทักเราคนแรก
“ก็มาเยี่ยมเจมส์นะสิ”
“ไม่กลัวโรงบาลแล้วเหรอ”ภีมอีกนั่นแหละที่ถามมันคงเป็นห่วงเรานะ
“ก็กลัวๆแหละแต่อยากมาเยี่ยมเจมส์นะ”
จากนั้นเราก็เดินไปดูเจมส์ว่าเป็นไงบ้างแล้วก็ถามอาการต่างๆนานา แล้วก็นั่งคุยกันอยู่พักนึงจนค่ำ ไอ้โอ๊ตกะภีมก็บอกว่าจะกลับแล้วเพราะเดี๋ยวจะถึงบ้านค่ำเกินไปเดี๋ยวจะโดนที่บ้านดุ (อย่างที่เคยบอกนะ...... ว่าบ้านภีมกะไอ้โอ๊ตไม่ได้อยู่อำเภอเมือง)พอไอ้โอ๊ตกะภีมจะกลับยูกะหนึ่งก็เลยจะกลับพร้อมกันเลยส่วนเราก็กะว่าจะกลับเลยเหมือนกันตอนที่เรากำลังจะเดินออกจากห้องเจมส์ก็พูดขึ้นว่า.............
“ปอจะกลับแล้วเหรอ???”
“อืม..... เจมส์มีไรรึป่าว???”
“อยู่เป็นเพื่อนเราก่อนดิ” เจมส์พูดแล้วทำหน้าเศร้าๆเราก็เลยหันไปมองหน้าภีมมันก็ทำหน้าไม่พอใจ มันคงเป็นห่วงเรานะคงอยากให้เรากลับเร็วๆ (ตอนนั้นไร้เดียงสาอยู่...)
“เออ......ก็ดีเหมือนกันว่ะไอ้เจมส์จะได้มีเพื่อนอยู่ด้วย เดี๋ยวแม่มันก็มาแล้ว....” ไอ้โอ๊ตพูด
“งั้นพวกกูไปก่อนนะไอ้เจมส์........... แล้วกูจะมาเยี่ยมใหม่” ยูพูด
สามคนนั้นเดินออกไปแล้วเหลือแต่ภีมที่ยังยืนอยู่แล้วภีมก็พูดกับเราว่า..........
“แม่เจมส์มาแล้วรีบกลับเลยนะ.......อย่าขับรถเร็วล่ะ”ภีมพูดด้วยท่าทางอารมณ์ไม่คอยดีเราก็ไม่รู้อ่ะว่าภีมเป็นไรแต่ก็ตอบกลับไปว่า.......
“อืม......ภีมก็กลับดีๆแล้วกัน ถึงแล้วโทรมาบอกด้วย”จากนั้นภีมก็เดินออกไปเราก็เลยเดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆเตียง แล้วเจมส์ก็พูดขึ้นว่า.........
“ภีมมันดูเป็นห่วงปอดีเนอะ....”เราก็เลยหันไปมองหน้าเจมส์ ตอนนั้นรู้สึกตกใจนิดหน่อยเพราะกลัวว่าเจมส์จะรู้เรื่องของเรากะภีม เราก็เลยพูดว่า..........
“ก็ไม่หรอก......... มันแค่กลัวเราจะเป็นลมชักนะ”เราพยายามทำหน้าเป็นปกติ
“แค่นั้นจริงๆเหรอ....... แต่เราว่ามันมากกว่านั้นนะ”เจมส์พูดแล้วก็จ้องหน้าเราเขม็งเลย
“ไม่นิ...... ก็แค่เพื่อนกันธรรมดา”เราตอบแล้วพยายามทำน้าให้เป็นปกติมากที่สุดเหมือนเดิม
“อย่าโกหกเราเลย........ รู้มั้ยว่าทำไมเราถึงรู้??”เราก็เลยมองหน้าเจมส์ประมาณว่าอยากรู้พูดต่อดิ เจมส์ก้เลยพูดต่อว่า........
“ก็เพราะเราคอยมองปออยู่ตลอดไง เราเลยรู้...”พอเจมส์พูดมาแบบนี้เราก็เริ่มใจไม่ดีกลัวว่าเจมส์จะไปบอกคนอื่น เจมส์เหมือนจะรู้ความคิดเราเจมส์ก็เลยพูดต่อว่า.......
“ไม่ต้องกลัวเราไปบอกใครหรอก.......เราไม่ทำร้ายคนที่เรารักหรอก” อึ้งเลยดิทีนี้......ถึงก่อนหน้านี้เราจะเคยคิดเหมือนกันว่าเจมส์ชอบเรารึป่าว แต่เราก็บอกตัวเองว่าคงไม่ใช่มันคงแกล้งเราเล่นเฉยๆและอีกอย่างมันก็มีคนมาชอบเยอะแยะมันคงไม่คิดไรกับเราหรอก ตอนนั้นเราพูดไรไม่ออกเลยแล้วเจมส์ก็พูดว่า............
“เราแค่อยากให้ปอรู้ไว้เฉยๆว่าเรารู้สึกยังไง.... เราจะคอยปออยู่ห่างๆ” เจมส์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“อย่าเลย....... เราไม่อยากให้ใครมาเสียเวลากะเรา”
“เรารู้ว่าปอรักไอ้ภีมมันมาก......... แต่เรารอได้ถ้าไอ้ภีมมันทำไม่ดีกะปอเมื่อไหร่ เราอยากให้ปอรู้ว่า..ปอยังมีเราอยู่อีกคนนึงนะ.... ” เจมส์ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเหมือนเดิมเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงก็เลยเงียบไว้ดีกว่า เจมส์คงรู้ว่าเราอึดอัดเจมส์ก็เลยเปลี่ยนเรื่องคุย....
“ปอ......ปลอกสาลี่ให้เรากินหน่อยดิ...” เราก็เลยปลอกสาลี่ให้เจมส์กิน เจมส์ขอให้เราป้อนให้เพราะข้อศอกเป็นแผล ตอนแรกเราก็ไม่ยอมเพราะรู้สึกว่ามันจะไม่ดีถ้าเราจะทำแบบนั้นทั้งๆที่รู้ว่าเจมส์คิดยังไงกับเรา แต่สุดท้ายก็ต้องยอมเพราะเจมส์บอกว่า...ขอให้ตัวเองได้มีโอกาสแบบนี้บ้าง....
เราป้อนสาลี่ไปคุยจะเจมส์ไปเรื่อยๆเจมส์ก็พยายามชวนเราคุยเรื่องตลกๆซึ่งก็ทำให้เราไม่อึดอัดอย่างตอนแรกเราก็เลยถามเจมส์ว่า.............
“เจมส์ขี่รถยังไงเนี่ย??ถึงรถคว่ำนะ...”
“พอดีวันนี้เราโดดเรียนพิเศษนะ....... แล้วไอ้โอ๊ตก็โทรมาบอกเราว่าปอเป็นลมชักอีกแล้วพวกมันกำลังจะไปเยี่ยมปอกันเลยโทรมาชวนเรา พอเรารู้ก็ตกใจมากเลยรีบขี่รถออกไป แล้วก็โดนหมาตัดหน้ารถนะ”นี่มันเพราะเราเหรอเนี่ย....พอมารู้แบบนี้เราก็เลยรู้สึกผิดเลยบอกเจมส์ว่า.......
“เพราะเราแท้ๆ....... เจมส์เลยต้องมานอนเจ็บอยู่ที่โรงบาล”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า....... เราไม่ระวังเองแหละ”
“แต่เราก็ยังผิดอยู่ดี....”
“งั้นก็มาดูแลเราสิ........ ” เจมส์พูดด้วยหน้าตายิ้มแย้ม........เราเลยพูดกลับไปความรู้สึกผิดที่มีอยู่ว่า....
“เอางั้นก็ได้.......แล้วอย่ามาบ่นว่าเบื่อล่ะ”ถ้าเอาจริงๆแล้วตอนนั้นก็รู้สึกผิดต่อภีมนะแต่มาคิดอีกทีเรารู้สึกว่าเราเป็นต้นเหตุให้เจมส์เป็นแบบนี้เราก็น่าจะทำไรเพื่อเป็นการไถ่โทษบ้างแล้วอีกอย่างนะ... แฮ่ๆเจมส์มันก็น่ารักจะตาย.....แถมยังมาบอกชอบเราอีก...ดูแลแค่นิดหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง(น่านะ....... แอบเป็นคนเลวนิดนึง)
“เอ้อ.... ปอ เรามีเรื่องจะรบกวนปออีกอย่างนึง”
“อะไรเหรอ????”
“ช่วงที่เราอยู่โรงบาลเนี่ย....ปอช่วยเก็บงานไว้ให้เราด้วยดิ”
“ได้.... เรื่องแค่นี้เองสบายมาก... ”
พอเราพูดไปแบบนั้นเจมส์ก็ดูจะอารมณ์ดีเกินเหตุชวนเราคุยโน่นคุยนี่จนตอนนั้นสามทุ่มแล้วแม่เจมส์ก็ยังไม่มา แล้วโทรศัพท์เราก็ดังขึ้น....ภีมโทรมานี่หว่า........
“เออภีม........ถึงบ้านแล้วเหรอ”
“อืม....... เค้าถึงบ้านจนอาบน้ำกินข้าวเรียบร้อยแล้ว...... ปออ่ะ...อาบน้ำกินข้าวยัง???” เอาแล้วไงจะบอกยังไงดีเนี่ย...................ตอนนั้นเจมส์ก็คอยมองเราอยู่ตลอด
“อ๋อ.....นี่เค้ากำลังจะกินข้าวน่ะ....แค่นี้ก่อนนะ” ไม่รู้ทำไมต้องโกหก....แต่แค่ไม่อยากให้ภีมเป็นห่วงนะ
“ไอ้ภีมโทรมาเหรอ”เสียงเจมส์ถามขึ้น
“อืม.......” แล้วเจมส์ก็พูดเบาๆเหมือนบ่นกับตัวเอง ว่า......... (แต่เราแอบได้ยินน่ะ.......หูดีมั้ยล่ะ)
“หวงจริงนะ..... ไอ้ภีม”จากนั้นแม่เจมส์ก็เปิดประตูเข้ามา พอแม่เห็นว่าเรายังไม่กลับท่านก็เข้ามาขอโทษเราที่ท่านมาช้าเราก็บอกไปว่าไม่เป็นไรแล้วก็ขอตัวกลับท่านก็เข้ามาขอบคุณเราเป็นการใหญ่ (ถ้าคุณแม่รู้ว่า.... ลูกชายคุณแม่คิดยังไงกะเราเนี่ย....ยังจะเอ็นดูเราแบบนี้มั้ย???? อันนี้คิดในใจ.... )เราก็ขับรถกลับมาบ้านถึงบ้านก็รีบกินข้าวอาบน้ำแล้วรีบเข้านอนทันที....เพราะพรุ่งนี้ต้องไปเรียน
#################################################################
ขอบคุณครับ ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]