tanya โพสต์ 2016-1-20 13:33:39

◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - 27

◊ C h a p t er 2 7 ◊
เ จ้ า ข อ ง
   “มึง…กูว่าอาการหนักแล้วนะ”
   “ใครวะ”
   “นั่นน่ะ”
   “สเปเชียล?”
   “หึ อีกคน”
   ขอบฟ้าและเพียวที่นั่งคุยกันอยู่ตรงบริเวณรับแขกคุยกันเสียงดังเพื่อให้คนบนเตียงได้ยินก่อนจะเบนสายตาไปทางคนข้างเตียงเมื่อจนประโยคสนทนาซีหันมามองตามเสียงคุยนิ่ง ๆ
   “พูดไรของพวกมึงไอ้เพียวไอ้ฟ้า” สเปเชียลเอ่ยถามหลังจากนั่งฟังมาได้ซักพัก
   “ซี มึงไม่ไปเรียนรึไงเฝ้าทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ดรอปเลยมั้ย”
   สเปเชียลได้ยินคำเพื่อนก็หันไปหาคนข้างตัว    “เออมึงไปเรียนได้แล้วไป”
   “…”
   “ไปเหอะพี่ซีเดี๋ยวผมดูพี่สเปเชียลให้”
   ระหว่างที่ซีปิดปากสนิททำเป็นไม่รับฟังเสียงเล็กๆ คุ้นหูก็ดังขึ้น พร้อมไอที่เดินเข้ามา
   “พอดีเลย ไปซี เลิกเรียนค่อยมา” เพียวว่าแล้วก็ลุกขึ้นกวักมือเรียกซี
   “ลุกเลยมึง” สเปเชียลตีเข้าที่หัวไหล่อีกฝ่ายเมื่อเห็นซียังคงนั่งนิ่งทำหน้ายุ่งอยู่ซีเหลือบมองคนตีก่อนจะยอมลุกขึ้นโดยดี
   “เดี๋ยวเย็นกูมาใหม่นะ ไปเข้าคาบบ่ายก่อนเดี๋ยวตามงานให้นะจ๊ะน้องเป”
   พูดจบเพียวกับขอบฟ้าก็พากันรุนหลังซีออกจากห้องไป
   เหลือแค่เขากับเด็กไอค่อกแค่กแล้วสินะ…
   “พี่สเปเชียลหิวมั้ย ผมทำข้าวต้มมา” ไอว่าเสียงใสก่อนจะเริ่มรื้อถุงอาหารออกมาจากกระเป๋า
   “ยังไม่หิว”
   ไอเลิกคิ้ว ขยับตัวมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง “เป็นไงบ้างฮะ”
   “ดีขึ้นแล้ว”
   สเปเชียลมองคนตรงหน้าแล้วก็รู้สึกขึ้นมาว่าเด็กนี่ก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรหรือไม่ได้มีส่วนไหนที่ดูแล้วจะน่าหมั่นไส้นัก…ก็อาจจะ น่าเอ็นดู เหรอ?
   คิดว่าไม่ขนาดนั้นมั้ง
   สเปเชียลมองไอที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้อยู่ก็เผลอยิ้มตามไม่ได้“อะไร”
   “นั่งเฝ้าไงฮะ”
   “ไม่เป็นไร ไปทำอะไรก็ทำเถอะ”
   “ไม่ได้หรอกฮะ ปกติพี่ซีทำไง ผมก็ต้องทำงั้นเป็นตัวแทนนี่”
   “…”
   ได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยเลยตามเลยสบายใจจะทำอะไรก็ทำไปเถอะแต่เอาเข้าจริงมีเด็กมานั่งจ้องหน้าอยู่ข้างๆนี่ก็อึดอัดใช่เล่นเลยนะ….
   “คือจะไปทำไรก็ทำเหอะ มานั่งจ้องแบบนี้แปลกๆ หวะ”
   “เห~ รู้สึกอะไรเหรอฮะ”
   ได้ยินเสียงกระตือรือร้นของอีกฝ่ายก็ต้องแปลกใจ “อะไรนะ”
   “พี่สเปเชียลรู้สึกอะไรเพราะผมจ้องเหรอ”
   “อึดอัดเว้ย”
   ไอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างแบบร่าเริงสุดๆ “ให้ผมช่วยมั้ย”
   สเปเชียลทำหน้าเซ็งก่อนจะพยักหน้าลงนิดๆ “จะดีมาก”
   ถ้าช่วยขยับไปนั่งที่อื่นหรือจะทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่นั่งจ้องหน้ากันแบบนี้
   ไอได้ยินแบบนั้นก็เริ่มขยับตัวขึ้นมาบนเตียงเพื่อจะนั่งคร่อมตัวสเปเชียลทันที
   สเปเชียลสะดุ้งยันตัวหนีด้วยความตกใจ
   “เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย ลงเลย !”
   ไอเลิกคิ้วเอียงคอมองคนตกใจ “อ้าว ก็ช่วยไงฮะ”
   เมื่อรับรู้ถึงความหมายของอีกฝ่ายก็ต้องทำหน้าเหวอ“อะ...” สเปเชียลยกมือลูบหน้าอย่างเหนื่อยใจ“ไม่ใช่อึดอัดแบบนั้น ลงไปก่อน”
   ได้ยินแบบนั้นไอก็ทำหน้างงแต่ก็ยอมขยับตัวลงจากเตียงตามคำบอกของสเปเชียลแล้วไปนั่งที่เดิมมองหน้ารอ
   สเปเชียลเงยหน้าหันไปมองคนที่นั่งจ๋องรออยู่
   ให้ตายสิ…อายุเท่าไหร่กันเนี่ย
   “อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
   “ทำ? ทำอะไรฮะ”
   “ทำแบบที่ทำเมื่อกี้”
   “หา?”
   สเปเชียลเห็นท่าทางไม่คิดอะไรของอีกฝ่ายก็ต้องกุมขมับ
   สอนเรื่องนี้กับซารายด์ไม่ได้สินะ…
   “...” สเปเชียลเหลือบมองใบหน้าของไอที่ยังนั่งตาแป๋วจ้องเขาอยู่
   วันนั้นมีอะไรกับซีสินะ...
   “ไปไกลๆ ก่อนไป”
   “เห~ ทำไมล่ะฮะขอผมนั่งใกล้ๆ ไม่ได้เหรอ”
   “……………..” เจอแบบนี้จากที่จะหงุดหงิดก็บิ้วอารมณ์ไม่ค่อยจะขึ้นเลย
   สเปเชียลขมวดคิ้ว ทึ้งหัวตัวเองด้วยความสับสนไอที่มองอาการแบบนั้นก็ต้องเอียงคอด้วยความแปลกใจ และขยับยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
   ปฎิกิริยาน่าสนุก…
   “พี่สเปเชียลหิวยังฮะ”
   “อืม”
   ไอยิ้มรับก่อนจะผุดลุกไปเตรียมอาหารสเปเชียลมองตามไปแล้วก็แอบนึกในใจ
   ไม่มีพิษมีภัยเลยนะ…ท่าทางแบบนี้ไม่เหมือนซารายด์เท่าไหร่เลยแหะดูแล้วก็เหมือนเด็กผู้ชายธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นเท่าซีกับคิวแต่แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า...น่ารัก
   “นี่ฮะ”
   ไม่นานชามข้าวต้มร้อนๆ ก็ถูกวางลงบนโต๊ะล้อเลื่อนแล้วลากมาเสริฟให้คนป่วยถึงบนเตียง
   “นี่”
   สเปเชียลตักข้าวเข้าปากไม่กี่คำก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงไม่ไปไหนก่อนจะส่งเสียงเรียกออกไป
   “ฮะ?”
   “…ไม่เกลียดมนุษย์เหรอ”
   “ก็ไม่ได้ชอบหรอกฮะ”
   ได้ยินแบบนั้นคนถามก็ถึงกับต้องเม้มปากนิ่งไป
   “...กูเป็นมนุษย์นะ”
   ไอเลิกคิ้วแล้วพยักหน้ารับ “ฮะ” ขานรับไปก่อนจะยิ้มกว้าง“แต่ผมก็ไม่ได้ไม่ชอบพี่สเปเชียลหรอกนะฮะ”
   “.....หะ”
   “ก็พี่สเปเชียลช่วยพี่เอ็กซ์ไว้นี่มนุษย์ที่ช่วยซารายด์อย่างผมเนี่ย ผมเกลียดไม่ลงหรอกฮะ”
   สเปเชียลฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว…เอ็กซ์เหรอ
   เขาลืมเรื่องไอ้หมอนั่นไปซะสนิทตกลงวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ไอ้ชุดดำนั่นเป็นใคร
   ใครกันที่ยิงเขา
   “พอจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่สลบไปมั้ย”
   “ไม่รู้หรอกฮะ รอพี่ซีมาแล้วค่อยถามน่าจะดีกว่า”
   ไอว่าแล้วเดินไปรับกระบอกยาจากพยาบาลสาวที่เดินนำเข้ามาให้ในห้องแล้วเอามาวางไว้ที่ข้างๆ ชามข้าวต้ม
   สเปเชียลเห็นแบบนั้นก็ทำหน้าแหยง
   “ไม่กิน”
   “ฮะ?”
   “ก็บอกว่าไม่กินไง”
   “อ้าว…แต่คุณพี่สาวเอามาให้นะฮะไม่กินก็เสียน้ำใจแย่”
   “ไม่กินก็คือไม่กิน”
   ไอพยักหน้ารับอย่างงงๆก่อนจะหยิบกระบอกยาขึ้นมาแล้วเดินไปวางไว้ไกลๆ
   ไอยกกระบอกยาขึ้นมาส่องดูด้วยความสงสัย
   สีก็สวยดีทำไมไม่กิน
   “ส่องอะไรอยู่น่ะไอ” เสียงข้าวปั้นดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวและลมกับเพียวที่กำลังเดินเข้ามา
   “คุณพี่สาวเอาเข้ามาเมื่อกี้ฮะ”
   ข้าวปั้นรับมาดู “ยาหนิ”
   “พี่สเปเชียลไม่กินฮะ”
   “อ๋อ”
   ข้าวปั้นยกยิ้มลากเสียงยาวพลางเหลือบไปมองเพื่อนตัวดีที่นั่งขมวดคิ้วยุ่งอยู่บนเตียง
   ของมันแน่ล่ะ…บังคับให้ไอ้สเปกินยานี่ไปหยุดสึนามิยังง่ายกว่า คนแข็งแรงแบบสเปเชียลไม่ค่อยป่วยง่ายๆเรื่องกินยายิ่งไม่จำเป็น...เจ้าตัวเกลียดยาเม็ดยิ่งกว่าอะไรดีตอนคุณปู่ที่รักยัดยาครั้งแรก เม็ดยาไปติดอยู่ที่โคนลิ้นให้ได้รสขมเสียนาน จนเจ้าตัวขยาดพยายามไม่ป่วยเสียจนกลัวใจมันจริงๆ
   “ให้กูตำเป็นผงละลายน้ำให้มั้ยไอ้สเป” ข้าวปั้นว่าขำๆ แล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
   “ไม่!”
   “หึ วันนี้ไอ้ฟ้าไอ้เวลมันไม่มานะ ไปทำงานกลุ่ม”
   “มีงานไรให้กูทำมั่งปะวะ รู้สึกผิดหวะ”
   เพียวยกมือผลักหัวคนป่วยเบาๆ อย่างหมันเขี้ยว “มึงไม่ต้องมารู้สึกบ้าไรเลย หายไวๆ ก็พอละ”
   “แล้วก็แดกยาซะ” ลมเอ่ยบอกพลางหยิบกระบอกยามาวางข้างหัวเตียง
   “ไม่ !”
   “กูจะฟ้องพ่อมึง”
   ระหว่างที่ทั้ง 4 คนเล่นหัวกันอยู่ไอก็ขอตัวกลับคอนโดไป ไม่นานนักซีก็เปิดประตูเข้ามา
   ข้าวปั้นหันไปมองตามเสียงเปิดประตูก็ยิ้มร่า
   “นี่ไงพ่อมึงมาละ”
   สเปเชียลได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้าง “ไอ้ปั้น !”
   “มีอะไร” ซีเดินเข้ามาข้างเตียงก่อนจะเอ่ยถาม
   “ไอ้สเปไม่ยอมกินยา”
   ซีขมวดคิ้วแน่น มองไปที่กระบอกยาในมือข้าวปั้น “ทำไมไม่กิน”
   “จะกินทำไม ขมก็ขม ไม่มีอะไรน่ากินซักนิด”สเปเชียลว่าเสียงแข็งจนซีเองก็ชักแปลกใจ
   “งั้นก็ไม่ต้องกิน”
   เพียวได้ยินแล้วก็ต้องกุมขมับ “เฮ้ย มันเป็นยานะเว้ย กินแล้วจะได้หาย ร่างกายจะได้ปกติ”
   ซีคิดตามก่อนจะหันมาทางสเปเชียล “งั้นก็กิน”
   “ฝันเลยมึง”
   ลม เพียว ข้าวปั้นเห็นท่าทีแบบนี้ของสเปเชียลแล้วก็ยกยิ้ม มองหน้ากันอย่างรู้ความนัยก่อนจะพุ่งเข้าจับตัวสเปเชียลเตรียมจะกรอกยา
   “เฮ้ย! พวกมึงหยุดเลยนะ!” สเปเชียลโวยวายขยับตัวดิ้นไปมาถ้าไม่ติดที่ขายังไม่หายดีเขาคงจะเตะพวกมันไปแล้ว
   “หยุด” เสียงทุ้มดุของซีดังขึ้นทำเอาคนในห้องชะงักนิ่งกันหมด หันไปมองหน้าต้นเสียงอย่างงงๆแล้วก็ยอมขยับออกมาแต่โดยดี
   สเปเชียลนึกขอบคุณอีกฝ่ายในใจแต่ก็ต้องทำหน้าเซ็งเมื่อ ซียื่นกระบอกยาพร้อมแก้วน้ำมาตรงหน้า“กิน”
   “ไม่ !”
   “...”
   “...”
   “...”
   “...”
   ลม เพียว ข้าวปั้นยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย…..แม่ง
   สงครามประสาทชัดๆ
   พวกเขารู้ดีว่าสเปเชียลเกลียดการกดดันด้วยความเงียบสุดๆระเบิดก่อนจบทุกที….พอมาอยู่กับซีแล้ว ก็เหมือนแม่เหล็กคนละขั้ว มีแต่พุ่งเข้าหากัน               
   “โว้ย ไม่กิน!” ไม่นานเจ้าตัวก็หมดความอดทนโวยวายอย่างเอาแต่ใจ
   “สเปเชียล” ซีเรียกชื่ออีกฝ่ายนิ่งๆสเปเชียลเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะหลุบตาหลบ
   ฮึ้ย! ใครก็ได้เอามันไปเก็บที
   “กินเถอะ”
   อ้าก! ไอ้คำว่า เถอะที่ต่อท้ายมาด้วยเนี่ยไม่ต้องใส่มาก็ได้ บังคับสั้นๆ เหมือนปกติก็พอแล้ว บอกกูว่า ‘กิน!’ คำเดียว ดุๆโดดๆเลยก็ได้!
   เพื่อนรักทั้ง 3 ที่ยืนมองคนทั้งคู่ตรงหน้าอยู่ๆ ก็นึกอยากจะหายแวบออกจากห้องไปทันทีเมื่อเห็นคนอย่างซียืนถือกระบอกยาแล้วเอ่ยเสียงเหมือนจะอ้อนให้อีกฝ่ายที่ฮึดฮัดอยู่กินเข้าไปแต่โดยดีแล้วภาพต่อมาคือคนอย่างสเปเชียลทำหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยอมคว้ากระบอกยาเทใส่ปากก่อนจะกลืนน้ำตามจนหมดแก้ว…
   มันยอมกิน?!
   ใครมองไม่ออก ให้กระทืบเลย
   “กูรู้สึกถึงบรรยากาศสีชมพูหวะ” ลมพูดขึ้นมาลอยๆ ตายังมองไปข้างหน้า
   “กูว่าสีม่วง” เพียวเอ่ยเสริม
   “แอบมีไอดำๆ อยู่รอบตัวไอ้สเปด้วยนะ” ข้าวปั้นเหลือบมองสเปเชียลที่กำลังแยกเขี้ยวใส่
   “พวกกูกลับก่อนดีกว่า ไว้มาเยี่ยมใหม่นะ ตามสบาย” ทั้ง 3 คนว่าแล้ว ก็หายออกจากห้องไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของคนบนเตียงเลยซักนิด
   “พวกมันแม่ง…” สเปเชียลพึมพำด่าต่ออีกหน่อยก่อนจะหุบปากฉับเมื่อหันไปเห็นซีนั่งจ้องมาอยู่
   “...”
   “...”
   “เออ...มึง”
   ซีเลิกคิ้ว “ว่าไง”
   “เล่าเรื่องตอนที่กูสลบไปให้ฟังหน่อยดิ”
   “…”
   ประโยคนี้จากสเปเชียลทำเอาซีต้องขมวดคิ้วแน่นนิ่งไป… แล้วเขาจะเล่าว่ายังไงดีล่ะนอกเสียจากเรื่องเขาเป็นซารายด์แล้ว อย่างเรื่องเลือดนี่ก็ไม่ได้บอกใครนอกจากพ่อแม่สเปเชียล กับ คิว
   “อืม พวกชุดดำนั่นเป็นคนจากองค์กรล่าซารายด์”
   “หะ?! องค์กรล่าซารายด์มันถูกยุบไปแล้วนี่”
   “อืม มันถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างลับๆคิดว่าเป็นองค์กรใต้ดิน”
   “ไม่ใช่ของรัฐเหรอ”
   “ไม่ใช่”
   “งี้ก็ทำแบบผิดกฎหมายน่ะสิพวกกลุ่มที่มีอิทธิพลอะไรนั่นรึเปล่า”
   “อืม”
   “แล้วมันยิงเอ็กซ์เพราะจะเอาตัวไปเหรอ”
   ซีจ้องตาสเปเชียลนิ่งไป…
   เขาไม่อยากโกหก
   “เรื่องที่นายแทงขาตัวเองเป็นเรื่องจริง”
   “หะ?”
   อยู่ๆ ซีพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาให้เขางงเล่นจากที่เคยสงสัยก็ลืมไปหมดแล้ว ตอนนี้ดันมาบอกก็ทำให้เขาสงสัยหนักเข้าไปอีก
   “ตอนนั้นเลือดจากบ่าหยดลงที่แผลนาย…แล้วนายชัก” ซีถอนหายใจ “ปกติแล้วเลือดซารายด์มีคุณสมบัติในการรักษาตัวเองทำให้มนุษย์ต้องการมันมากแต่ไม่มีมนุษย์คนไหนที่รับเลือดซารายด์เข้าร่างกายตัวเองแล้วยังรอดชีวิต...แต่นายรอดซ้ำแผลยังหายไปราวกับไม่เคยมี”
   “.................” สเปเชียลขมวดคิ้วพยายามรับข้อมูลจากคนตรงหน้า
   “แต่ตอนนั้นมันแค่หยดเดียว”
   “งั้นก็หมายความว่าต้องลองในปริมาณที่มากกว่านี้?”
   “ไม่ต้องลองแล้ว…” ซีเอ่ยเสียงเรียบใบหน้าปราศจากอารมณ์
   สเปเชียลเลิกคิ้ว “หมายความว่าไง”
   ซีขยับยกมือแตะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายสเปเชียลสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ถอยหนี
   “ตอนนี้ในตัวนายมีเลือดซารายด์ไหลเวียนอยู่”
   สเปเชียลเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “เลือดมึง?”
   “อืม”
   ซีว่าแล้วก็ขยับตัวกอดสเปเชียลแน่น
   คนโดนกอดดิ้นหนีนิดๆ อย่างตกใจ “เฮ้ย!”
   แต่อีกฝ่ายกลับขยับวงแขนแน่นเข้าไปอีก “พวกมันต้องการตัวนาย”
   สเปเชียลได้ยินแบบนั้นก็หยุดนิ่งไป “อะไรนะ”
   “นายรับเลือดซารายด์ได้องค์กรพวกนั้นต้องการตัวนายไปวิจัย”
   “…กูว่ากูพอจะรู้ว่าจะหาเหตุผลที่ร่างกายกูรับเลือดมึงได้ยังไง”
   “ยังไง?”
   “ไว้จะพาไปที่ที่นึง”
   สเปเชียลเอ่ยพลางคิดไปถึงที่ที่เขาเข้าไปรื้อค้นอยู่ทั้งคืน…
   ห้องวิจัยในห้องคุณปู่
   “อืม” ซีตอบรับแล้วกระชับอ้อมกอด
   “แล้วมึงล่ะ…ไม่ฆ่ากูรึไง”
   สิ้นคำสเปเชียล ซีก็ถอยตัวออกมามองหน้าคนพูด…ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองมั้ยว่าน้ำเสียงที่เอ่ยคำนั้นออกมามีความเศร้าแฝงอยู่ลึกๆไม่ทันได้คิดอะไรมาก ซีก็กดจูบลงที่ขมับสเปเชียลเบาๆ
   “ไม่มีวัน”
   เสียงทุ้มที่เอ่ยออกไปฟังดูอ่อนโยนที่สุดเท่าที่สเปเชียลเคยได้ฟังจากคนตรงหน้าด้วยมนต์ของนัยน์ตาสีทองคู่เดิมที่คุ้นเคยหรือด้วยความรู้สึกอ่อนโยนที่โอบล้อมรอบกายก็ไม่ทราบทำให้ใบหน้าของคนทั้งคู่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันจนประกบแนบชิดที่ริมฝีปาก
   เนิ่นนานจนลืมหายใจร่างใหญ่ก็ละริมฝีปากออกเอ่ยคำที่ชัดเจนที่สุดในความคิด ชิดข้างหูอีกฝ่าย
   “รัก”


tonyair โพสต์ 2016-1-20 23:30:34

ขอบคุณครับ

nong0987 โพสต์ 2016-1-22 20:35:39

ขอบคุณก๊าบบบบบบ

4_NAY โพสต์ 2016-6-5 18:03:12

มดขึ้นเตียงปะนั่น

arrung โพสต์ 2018-5-4 23:51:59

ขอบคุณครับ

tong111222 โพสต์ 2019-4-21 15:03:33

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: ◈ S A L Y E ◈ น า ย ต่ า ง พั น ธุ์ C o m p l e t e d - 27