◊ C h a p t er 2 7 ◊
เ จ้ า ข อ ง
“มึง…กูว่าอาการหนักแล้วนะ”
“ใครวะ”
“นั่นน่ะ”
“สเปเชียล?”
“หึ อีกคน”
ขอบฟ้าและเพียวที่นั่งคุยกันอยู่ตรงบริเวณรับแขกคุยกันเสียงดังเพื่อให้คนบนเตียงได้ยินก่อนจะเบนสายตาไปทางคนข้างเตียงเมื่อจนประโยคสนทนา ซีหันมามองตามเสียงคุยนิ่ง ๆ
“พูดไรของพวกมึงไอ้เพียวไอ้ฟ้า” สเปเชียลเอ่ยถามหลังจากนั่งฟังมาได้ซักพัก
“ซี มึงไม่ไปเรียนรึไงเฝ้าทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ดรอปเลยมั้ย”
สเปเชียลได้ยินคำเพื่อนก็หันไปหาคนข้างตัว “เออมึงไปเรียนได้แล้วไป”
“…”
“ไปเหอะพี่ซีเดี๋ยวผมดูพี่สเปเชียลให้”
ระหว่างที่ซีปิดปากสนิททำเป็นไม่รับฟังเสียงเล็กๆ คุ้นหูก็ดังขึ้น พร้อมไอที่เดินเข้ามา
“พอดีเลย ไปซี เลิกเรียนค่อยมา” เพียวว่าแล้วก็ลุกขึ้นกวักมือเรียกซี
“ลุกเลยมึง” สเปเชียลตีเข้าที่หัวไหล่อีกฝ่ายเมื่อเห็นซียังคงนั่งนิ่งทำหน้ายุ่งอยู่ ซีเหลือบมองคนตีก่อนจะยอมลุกขึ้นโดยดี
“เดี๋ยวเย็นกูมาใหม่นะ ไปเข้าคาบบ่ายก่อนเดี๋ยวตามงานให้นะจ๊ะน้องเป”
พูดจบเพียวกับขอบฟ้าก็พากันรุนหลังซีออกจากห้องไป
เหลือแค่เขากับเด็กไอค่อกแค่กแล้วสินะ…
“พี่สเปเชียลหิวมั้ย ผมทำข้าวต้มมา” ไอว่าเสียงใสก่อนจะเริ่มรื้อถุงอาหารออกมาจากกระเป๋า
“ยังไม่หิว”
ไอเลิกคิ้ว ขยับตัวมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง “เป็นไงบ้างฮะ”
“ดีขึ้นแล้ว”
สเปเชียลมองคนตรงหน้าแล้วก็รู้สึกขึ้นมาว่าเด็กนี่ก็ไม่ได้มีพิษมีภัยอะไรหรือไม่ได้มีส่วนไหนที่ดูแล้วจะน่าหมั่นไส้นัก…ก็อาจจะ น่าเอ็นดู เหรอ?
คิดว่าไม่ขนาดนั้นมั้ง
สเปเชียลมองไอที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้อยู่ก็เผลอยิ้มตามไม่ได้ “อะไร”
“นั่งเฝ้าไงฮะ”
“ไม่เป็นไร ไปทำอะไรก็ทำเถอะ”
“ไม่ได้หรอกฮะ ปกติพี่ซีทำไง ผมก็ต้องทำงั้นเป็นตัวแทนนี่”
“…”
ได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยเลยตามเลยสบายใจจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่เอาเข้าจริงมีเด็กมานั่งจ้องหน้าอยู่ข้างๆนี่ก็อึดอัดใช่เล่นเลยนะ….
“คือจะไปทำไรก็ทำเหอะ มานั่งจ้องแบบนี้แปลกๆ หวะ”
“เห~ รู้สึกอะไรเหรอฮะ”
ได้ยินเสียงกระตือรือร้นของอีกฝ่ายก็ต้องแปลกใจ “อะไรนะ”
“พี่สเปเชียลรู้สึกอะไรเพราะผมจ้องเหรอ”
“อึดอัดเว้ย”
ไอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มกว้างแบบร่าเริงสุดๆ “ให้ผมช่วยมั้ย”
สเปเชียลทำหน้าเซ็งก่อนจะพยักหน้าลงนิดๆ “จะดีมาก”
ถ้าช่วยขยับไปนั่งที่อื่นหรือจะทำอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่นั่งจ้องหน้ากันแบบนี้
ไอได้ยินแบบนั้นก็เริ่มขยับตัวขึ้นมาบนเตียงเพื่อจะนั่งคร่อมตัวสเปเชียลทันที
สเปเชียลสะดุ้งยันตัวหนีด้วยความตกใจ
“เฮ้ย! ทำอะไรเนี่ย ลงเลย !”
ไอเลิกคิ้วเอียงคอมองคนตกใจ “อ้าว ก็ช่วยไงฮะ”
เมื่อรับรู้ถึงความหมายของอีกฝ่ายก็ต้องทำหน้าเหวอ “อะ...” สเปเชียลยกมือลูบหน้าอย่างเหนื่อยใจ “ไม่ใช่อึดอัดแบบนั้น ลงไปก่อน”
ได้ยินแบบนั้นไอก็ทำหน้างงแต่ก็ยอมขยับตัวลงจากเตียงตามคำบอกของสเปเชียลแล้วไปนั่งที่เดิม มองหน้ารอ
สเปเชียลเงยหน้าหันไปมองคนที่นั่งจ๋องรออยู่
ให้ตายสิ…อายุเท่าไหร่กันเนี่ย
“อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“ทำ? ทำอะไรฮะ”
“ทำแบบที่ทำเมื่อกี้”
“หา?”
สเปเชียลเห็นท่าทางไม่คิดอะไรของอีกฝ่ายก็ต้องกุมขมับ
สอนเรื่องนี้กับซารายด์ไม่ได้สินะ…
“...” สเปเชียลเหลือบมองใบหน้าของไอที่ยังนั่งตาแป๋วจ้องเขาอยู่
วันนั้นมีอะไรกับซีสินะ...
“ไปไกลๆ ก่อนไป”
“เห~ ทำไมล่ะฮะขอผมนั่งใกล้ๆ ไม่ได้เหรอ”
“……………..” เจอแบบนี้จากที่จะหงุดหงิดก็บิ้วอารมณ์ไม่ค่อยจะขึ้นเลย
สเปเชียลขมวดคิ้ว ทึ้งหัวตัวเองด้วยความสับสนไอที่มองอาการแบบนั้นก็ต้องเอียงคอด้วยความแปลกใจ และขยับยิ้มอย่างไม่รู้ตัว
ปฎิกิริยาน่าสนุก…
“พี่สเปเชียลหิวยังฮะ”
“อืม”
ไอยิ้มรับก่อนจะผุดลุกไปเตรียมอาหารสเปเชียลมองตามไปแล้วก็แอบนึกในใจ
ไม่มีพิษมีภัยเลยนะ…ท่าทางแบบนี้ไม่เหมือนซารายด์เท่าไหร่เลยแหะดูแล้วก็เหมือนเด็กผู้ชายธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นเท่าซีกับคิวแต่แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า...น่ารัก
“นี่ฮะ”
ไม่นานชามข้าวต้มร้อนๆ ก็ถูกวางลงบนโต๊ะล้อเลื่อนแล้วลากมาเสริฟให้คนป่วยถึงบนเตียง
“นี่”
สเปเชียลตักข้าวเข้าปากไม่กี่คำก็หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างเตียงไม่ไปไหนก่อนจะส่งเสียงเรียกออกไป
“ฮะ?”
“…ไม่เกลียดมนุษย์เหรอ”
“ก็ไม่ได้ชอบหรอกฮะ”
ได้ยินแบบนั้นคนถามก็ถึงกับต้องเม้มปากนิ่งไป
“...กูเป็นมนุษย์นะ”
ไอเลิกคิ้วแล้วพยักหน้ารับ “ฮะ” ขานรับไปก่อนจะยิ้มกว้าง “แต่ผมก็ไม่ได้ไม่ชอบพี่สเปเชียลหรอกนะฮะ”
“.....หะ”
“ก็พี่สเปเชียลช่วยพี่เอ็กซ์ไว้นี่มนุษย์ที่ช่วยซารายด์อย่างผมเนี่ย ผมเกลียดไม่ลงหรอกฮะ”
สเปเชียลฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว…เอ็กซ์เหรอ
เขาลืมเรื่องไอ้หมอนั่นไปซะสนิทตกลงวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น ไอ้ชุดดำนั่นเป็นใคร
ใครกันที่ยิงเขา
“พอจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่สลบไปมั้ย”
“ไม่รู้หรอกฮะ รอพี่ซีมาแล้วค่อยถามน่าจะดีกว่า”
ไอว่าแล้วเดินไปรับกระบอกยาจากพยาบาลสาวที่เดินนำเข้ามาให้ในห้องแล้วเอามาวางไว้ที่ข้างๆ ชามข้าวต้ม
สเปเชียลเห็นแบบนั้นก็ทำหน้าแหยง
“ไม่กิน”
“ฮะ?”
“ก็บอกว่าไม่กินไง”
“อ้าว…แต่คุณพี่สาวเอามาให้นะฮะไม่กินก็เสียน้ำใจแย่”
“ไม่กินก็คือไม่กิน”
ไอพยักหน้ารับอย่างงงๆก่อนจะหยิบกระบอกยาขึ้นมาแล้วเดินไปวางไว้ไกลๆ
ไอยกกระบอกยาขึ้นมาส่องดูด้วยความสงสัย
สีก็สวยดีทำไมไม่กิน
“ส่องอะไรอยู่น่ะไอ” เสียงข้าวปั้นดังขึ้นพร้อมกับเจ้าตัวและลมกับเพียวที่กำลังเดินเข้ามา
“คุณพี่สาวเอาเข้ามาเมื่อกี้ฮะ”
ข้าวปั้นรับมาดู “ยาหนิ”
“พี่สเปเชียลไม่กินฮะ”
“อ๋อ”
ข้าวปั้นยกยิ้มลากเสียงยาวพลางเหลือบไปมองเพื่อนตัวดีที่นั่งขมวดคิ้วยุ่งอยู่บนเตียง
ของมันแน่ล่ะ…บังคับให้ไอ้สเปกินยานี่ไปหยุดสึนามิยังง่ายกว่า คนแข็งแรงแบบสเปเชียลไม่ค่อยป่วยง่ายๆเรื่องกินยายิ่งไม่จำเป็น...เจ้าตัวเกลียดยาเม็ดยิ่งกว่าอะไรดีตอนคุณปู่ที่รักยัดยาครั้งแรก เม็ดยาไปติดอยู่ที่โคนลิ้นให้ได้รสขมเสียนาน จนเจ้าตัวขยาดพยายามไม่ป่วยเสียจนกลัวใจมันจริงๆ
“ให้กูตำเป็นผงละลายน้ำให้มั้ยไอ้สเป” ข้าวปั้นว่าขำๆ แล้วลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง
“ไม่!”
“หึ วันนี้ไอ้ฟ้าไอ้เวลมันไม่มานะ ไปทำงานกลุ่ม”
“มีงานไรให้กูทำมั่งปะวะ รู้สึกผิดหวะ”
เพียวยกมือผลักหัวคนป่วยเบาๆ อย่างหมันเขี้ยว “มึงไม่ต้องมารู้สึกบ้าไรเลย หายไวๆ ก็พอละ”
“แล้วก็แดกยาซะ” ลมเอ่ยบอกพลางหยิบกระบอกยามาวางข้างหัวเตียง
“ไม่ !”
“กูจะฟ้องพ่อมึง”
ระหว่างที่ทั้ง 4 คนเล่นหัวกันอยู่ไอก็ขอตัวกลับคอนโดไป ไม่นานนักซีก็เปิดประตูเข้ามา
ข้าวปั้นหันไปมองตามเสียงเปิดประตูก็ยิ้มร่า
“นี่ไงพ่อมึงมาละ”
สเปเชียลได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากค้าง “ไอ้ปั้น !”
“มีอะไร” ซีเดินเข้ามาข้างเตียงก่อนจะเอ่ยถาม
“ไอ้สเปไม่ยอมกินยา”
ซีขมวดคิ้วแน่น มองไปที่กระบอกยาในมือข้าวปั้น “ทำไมไม่กิน”
“จะกินทำไม ขมก็ขม ไม่มีอะไรน่ากินซักนิด”สเปเชียลว่าเสียงแข็งจนซีเองก็ชักแปลกใจ
“งั้นก็ไม่ต้องกิน”
เพียวได้ยินแล้วก็ต้องกุมขมับ “เฮ้ย มันเป็นยานะเว้ย กินแล้วจะได้หาย ร่างกายจะได้ปกติ”
ซีคิดตามก่อนจะหันมาทางสเปเชียล “งั้นก็กิน”
“ฝันเลยมึง”
ลม เพียว ข้าวปั้นเห็นท่าทีแบบนี้ของสเปเชียลแล้วก็ยกยิ้ม มองหน้ากันอย่างรู้ความนัยก่อนจะพุ่งเข้าจับตัวสเปเชียลเตรียมจะกรอกยา
“เฮ้ย! พวกมึงหยุดเลยนะ!” สเปเชียลโวยวายขยับตัวดิ้นไปมาถ้าไม่ติดที่ขายังไม่หายดีเขาคงจะเตะพวกมัน ไปแล้ว
“หยุด” เสียงทุ้มดุของซีดังขึ้นทำเอาคนในห้องชะงักนิ่งกันหมด หันไปมองหน้าต้นเสียงอย่างงงๆแล้วก็ยอมขยับออกมาแต่โดยดี
สเปเชียลนึกขอบคุณอีกฝ่ายในใจแต่ก็ต้องทำหน้าเซ็งเมื่อ ซียื่นกระบอกยาพร้อมแก้วน้ำมาตรงหน้า “กิน”
“ไม่ !”
“...”
“...”
“...”
“...”
ลม เพียว ข้าวปั้นยืนมองสถานการณ์ตรงหน้าก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย…..แม่ง
สงครามประสาทชัดๆ
พวกเขารู้ดีว่าสเปเชียลเกลียดการกดดันด้วยความเงียบสุดๆระเบิดก่อนจบทุกที…. พอมาอยู่กับซีแล้ว ก็เหมือนแม่เหล็กคนละขั้ว มีแต่พุ่งเข้าหากัน
“โว้ย ไม่กิน!” ไม่นานเจ้าตัวก็หมดความอดทนโวยวายอย่างเอาแต่ใจ
“สเปเชียล” ซีเรียกชื่ออีกฝ่ายนิ่งๆสเปเชียลเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะหลุบตาหลบ
ฮึ้ย! ใครก็ได้เอามันไปเก็บที
“กินเถอะ”
อ้าก! ไอ้คำว่า เถอะที่ต่อท้ายมาด้วยเนี่ยไม่ต้องใส่มาก็ได้ บังคับสั้นๆ เหมือนปกติก็พอแล้ว บอกกูว่า ‘กิน!’ คำเดียว ดุๆโดดๆเลยก็ได้!
เพื่อนรักทั้ง 3 ที่ยืนมองคนทั้งคู่ตรงหน้าอยู่ๆ ก็นึกอยากจะหายแวบออกจากห้องไปทันทีเมื่อเห็นคนอย่างซียืนถือกระบอกยาแล้วเอ่ยเสียงเหมือนจะอ้อนให้อีกฝ่ายที่ฮึดฮัดอยู่กินเข้าไปแต่โดยดีแล้วภาพต่อมาคือคนอย่างสเปเชียลทำหน้าบูดบึ้งแต่ก็ยอมคว้ากระบอกยาเทใส่ปากก่อนจะกลืนน้ำตามจนหมดแก้ว…
มันยอมกิน?!
ใครมองไม่ออก ให้กระทืบเลย
“กูรู้สึกถึงบรรยากาศสีชมพูหวะ” ลมพูดขึ้นมาลอยๆ ตายังมองไปข้างหน้า
“กูว่าสีม่วง” เพียวเอ่ยเสริม
“แอบมีไอดำๆ อยู่รอบตัวไอ้สเปด้วยนะ” ข้าวปั้นเหลือบมองสเปเชียลที่กำลังแยกเขี้ยวใส่
“พวกกูกลับก่อนดีกว่า ไว้มาเยี่ยมใหม่นะ ตามสบาย” ทั้ง 3 คนว่าแล้ว ก็หายออกจากห้องไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของคนบนเตียงเลยซักนิด
“พวกมันแม่ง…” สเปเชียลพึมพำด่าต่ออีกหน่อยก่อนจะหุบปากฉับเมื่อหันไปเห็นซีนั่งจ้องมาอยู่
“...”
“...”
“เออ...มึง”
ซีเลิกคิ้ว “ว่าไง”
“เล่าเรื่องตอนที่กูสลบไปให้ฟังหน่อยดิ”
“…”
ประโยคนี้จากสเปเชียลทำเอาซีต้องขมวดคิ้วแน่นนิ่งไป… แล้วเขาจะเล่าว่ายังไงดีล่ะนอกเสียจากเรื่องเขาเป็นซารายด์แล้ว อย่างเรื่องเลือดนี่ก็ไม่ได้บอกใครนอกจากพ่อแม่สเปเชียล กับ คิว
“อืม พวกชุดดำนั่นเป็นคนจากองค์กรล่าซารายด์”
“หะ?! องค์กรล่าซารายด์มันถูกยุบไปแล้วนี่”
“อืม มันถูกสร้างขึ้นใหม่อย่างลับๆคิดว่าเป็นองค์กรใต้ดิน”
“ไม่ใช่ของรัฐเหรอ”
“ไม่ใช่”
“งี้ก็ทำแบบผิดกฎหมายน่ะสิพวกกลุ่มที่มีอิทธิพลอะไรนั่นรึเปล่า”
“อืม”
“แล้วมันยิงเอ็กซ์เพราะจะเอาตัวไปเหรอ”
ซีจ้องตาสเปเชียลนิ่งไป…
เขาไม่อยากโกหก
“เรื่องที่นายแทงขาตัวเองเป็นเรื่องจริง”
“หะ?”
อยู่ๆ ซีพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาให้เขางงเล่นจากที่เคยสงสัยก็ลืมไปหมดแล้ว ตอนนี้ดันมาบอกก็ทำให้เขาสงสัยหนักเข้าไปอีก
“ตอนนั้นเลือดจากบ่าหยดลงที่แผลนาย…แล้วนายชัก” ซีถอนหายใจ “ปกติแล้วเลือดซารายด์มีคุณสมบัติในการรักษาตัวเองทำให้มนุษย์ต้องการมันมากแต่ไม่มีมนุษย์คนไหนที่รับเลือดซารายด์เข้าร่างกายตัวเองแล้วยังรอดชีวิต...แต่นายรอดซ้ำแผลยังหายไปราวกับไม่เคยมี”
“.................” สเปเชียลขมวดคิ้วพยายามรับข้อมูลจากคนตรงหน้า
“แต่ตอนนั้นมันแค่หยดเดียว”
“งั้นก็หมายความว่าต้องลองในปริมาณที่มากกว่านี้?”
“ไม่ต้องลองแล้ว…” ซีเอ่ยเสียงเรียบใบหน้าปราศจากอารมณ์
สเปเชียลเลิกคิ้ว “หมายความว่าไง”
ซีขยับยกมือแตะที่ใบหน้าของอีกฝ่ายสเปเชียลสะดุ้งนิดๆ แต่ก็ไม่ได้ถอยหนี
“ตอนนี้ในตัวนายมีเลือดซารายด์ไหลเวียนอยู่”
สเปเชียลเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “เลือดมึง?”
“อืม”
ซีว่าแล้วก็ขยับตัวกอดสเปเชียลแน่น
คนโดนกอดดิ้นหนีนิดๆ อย่างตกใจ “เฮ้ย!”
แต่อีกฝ่ายกลับขยับวงแขนแน่นเข้าไปอีก “พวกมันต้องการตัวนาย”
สเปเชียลได้ยินแบบนั้นก็หยุดนิ่งไป “อะไรนะ”
“นายรับเลือดซารายด์ได้องค์กรพวกนั้นต้องการตัวนายไปวิจัย”
“…กูว่ากูพอจะรู้ว่าจะหาเหตุผลที่ร่างกายกูรับเลือดมึงได้ยังไง”
“ยังไง?”
“ไว้จะพาไปที่ที่นึง”
สเปเชียลเอ่ยพลางคิดไปถึงที่ที่เขาเข้าไปรื้อค้นอยู่ทั้งคืน…
ห้องวิจัยในห้องคุณปู่
“อืม” ซีตอบรับแล้วกระชับอ้อมกอด
“แล้วมึงล่ะ…ไม่ฆ่ากูรึไง”
สิ้นคำสเปเชียล ซีก็ถอยตัวออกมามองหน้าคนพูด…ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองมั้ยว่าน้ำเสียงที่เอ่ยคำนั้นออกมามีความเศร้าแฝงอยู่ลึกๆ ไม่ทันได้คิดอะไรมาก ซีก็กดจูบลงที่ขมับสเปเชียลเบาๆ
“ไม่มีวัน”
เสียงทุ้มที่เอ่ยออกไปฟังดูอ่อนโยนที่สุดเท่าที่สเปเชียลเคยได้ฟังจากคนตรงหน้าด้วยมนต์ของนัยน์ตาสีทองคู่เดิมที่คุ้นเคยหรือด้วยความรู้สึกอ่อนโยนที่โอบล้อมรอบกายก็ไม่ทราบทำให้ใบหน้าของคนทั้งคู่ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันจนประกบแนบชิดที่ริมฝีปาก
เนิ่นนานจนลืมหายใจร่างใหญ่ก็ละริมฝีปากออกเอ่ยคำที่ชัดเจนที่สุดในความคิด ชิดข้างหูอีกฝ่าย
“รัก”
|