ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 862|ตอบกลับ: 2

ทานมัย

[คัดลอกลิงก์]

นิสิตสัมพันธ์

อยากมีเพื่อนคุยกินเที่ยวกัน

กระทู้
594
พลังน้ำใจ
30581
Zenny
218329
ออนไลน์
3227 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

ทานมัย
     พุทธศาสนิกชนสนใจทำบุญ เข้าใจเรื่องการทำบุญมากน้อยแค่ไหน?
     คำว่า “บุญ” หมายถึง ธรรมชาติอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นที่ใจ ธรรมชาติที่ชำระจิตใจให้สะอาดให้ผ่องใส มีผลได้แก่ความสุขที่เกิดทางใจ
บุญเกิดได้หลายทาง บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ดังนี้
     ๑. ทานมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน ได้แก่ วัตถุสิ่งของให้ธรรมะเป็นทาน เรียกธรรมทาน, ให้อภัย เรียกอภัยทาน
     ๒. ศีลมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล ได้แก่ การปฏิบัติตามข้อห้ามตามที่ทรงบัญญัติในพระปาฏิโมกข์เพื่อกำจัดกิเลส
     ๓. ภาวนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา ได้แก่ การปฏิบัติใจเพื่อกำจัดกิเลส แบ่งเป็น สมถะภาวนา และวิปัสสนาภาวนา
     ๔. ไวยาวัจจมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือกิจการสงฆ์และภาระพระศาสนา
     ๕. อปจายนะมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการมีกิริยาอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณและคนทั่วไป
     ๖. ปัตติทานมัย คือ บุญสำเร็จด้วยการอุทิศส่วนบุญให้แก่ญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว
     ๗. ปัตตานุโมทนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการแสดงอนุโมทนาในส่วนบุญร่วมกับผู้อื่น
     ๘. ธัมมเทศนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม ได้แก่การอธิบายบรรยายธรรมะให้แก่ผู้ร่วมโลกที่ร่วมทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย
     ๙. ธัมมัสสวนามัย คือ บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม ได้แก่ การฟังธรรมและนำข้อธรรมมาประพฤติปฏิบัติให้พ้นทุกข์
     ๑๐. ทิฏฐชุกัมม์ คือ การทำความเห็นให้ตรงเป็นสัมมาทิฏฐิเชื่อในธรรมและการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
บุญย่อลงเป็นได้ ๓ ทางด้วยกัน คือ
๑. ทานมัย คือ บุญที่เกิดจากการให้ทาน
๒. ศีลมัย คือ บุญที่เกิดจากการรักษาศีล
๓. ภาวนามัย คือ บุญที่เกิดจากการเจริญภาวนา ให้ทานอย่างไรจึงจะได้ผลมาก?
     ทานที่ดีจะให้ได้ผลมาก ต้องประกอบด้วยเหตุ ๓ ประการ คือ
๑. วัตถุทานดี
๒. ผู้ให้มีเจตนาดี จิตใจเลื่อมใสแช่มชื่นเบิกบานทั้ง ๓ กาล คือก่อนให้ ขณะให้และเมื่อให้แล้ว
๓. บุคคลดี หมายถึง ผู้ให้และผู้รับทานเป็นผู้ทรงศีลธรรมเปรียบเสมือนผู้ปลูกข้าวบนเนื้อนาบุญที่ดี “อนุตตะรังปุญญักเขตตังโลกัสสะพระอริยสงฆ์เป็นเนื้อนาบุญของโลก”
นักปราชญ์ได้เปรียบเทียบการให้ทานด้วยการอาบน้ำ ๓ แบบ คือ
     ๑. เปรียบด้วยการเอาน้ำโคลนมาอาบตัว ได้แก่ ผู้ที่ปรารภทำบุญอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น บวชลูกบวชหลาน หรือทำบุญกุศลต่างๆ แล้วฆ่าสัตว์เอามาทำบุญ เลี้ยงเหล้าสุราสนุกสนาน ยิ่งทำยิ่งบาปเหมือนเอาน้ำโคลนมาอาบ ฉะนั้น ตายแล้วไปตกนรก
     ๒. เปรียบด้วยเอาน้ำหอมมาอาบตัว ได้แก่ ผู้ที่ทำทานยังปรารถนาเกิดเป็นมนุษย์รูปสวย รวยทรัพย์ หรือเกิดบนสวรรค์ เสวยทิพยสมบัติ และวัตถุทานนั้นดีได้มาโดยสุจริตไม่เบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ได้บุญดีแต่ยังไม่ดีแท้เหมือนเอาน้ำหอมมาอาบตัวฉะนั้นตายแล้วไปเกิดเป็นมนุษย์มีทรัพย์สมบัติมากหรือไปเกิดบนสวรรค์
     ๓. เปรียบด้วยเอาน้ำบริสุทธิ์มาอาบตัว ได้แก่ ผู้ที่ทำทานด้วยสติปัญญา คือ วัตถุทานนั้น ได้มาโดยสุจริต ผู้ทำทานตั้งเจตนาว่า “สุทินนัง วะตะเมทานัง อาสะวักขะยาวะหัง นิพพานังโหตุ ขอผลทานนี้จงเป็นปัจจัยแก่ความสิ้นไปแห่งอาสวะกิเลส คือ พระนิพพานเทอญ” ปรารถนาความดับทุกข์อย่างนี้ เปรียบด้วยเอาน้ำบริสุทธิ์มาอาบร่างกายก็สะอาด ผู้มีปัญญาจึงสมควรทำประเภทที่ ๓ นี้ ตายแล้ว มีหวังบรรลุนิพพานเป็นเบื้องหน้าในอนาคตกาล
นิทานชาดกเรื่องนางปัญจปาปา
     (หญิงผู้มีความอันลามก ๕ แห่ง) หญิงที่มีความขี้เหร่ ๕ แห่ง คือมือเก เท้าเก ตาเข จมูกแฟบ ปากเบี้ยว สาเหตุที่นางปัญจปาปา มีความขี้เหร่ถึง๕ แห่ง พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงบุพพกรรม คือ กรรมแต่ปางก่อนของนางไว้ว่า
      ในสมัยอดีตกาลในชาติที่ล่วงมาแล้ว นางปัญจปาปาเกิดเป็นลูกสาวนายช่างหม้อ มีอาชีพปั้นหม้อขาย วันหนึ่งพระปัจเจกพุทธเจ้าไปขอบิณฑบาตดินเหนียวเพื่อเอาไปฉาบทาที่อยู่ของท่าน นายช่างหม้อไม่อยู่ อยู่แต่
      ลูกสาว ลูกสาวไม่ศรัทธาเลื่อมใสไม่อยากจะให้ พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ยืนรออยู่อย่างนั้น เพราะคิดสงสาร ควรจะช่วยอนุเคราะห์ลูกสาวนายช่างหม้อให้รู้จักบำเพ็ญทานเสียบ้าง เมื่อเห็นพระปัจเจกพุทธเจ้ายืนรอก็นึกรำคาญ แล้วก็มาคิดว่าเราเอาดินเหนียวให้ไปเสียก็จะหมดเรื่องไปให้พ้นๆ เสียที นางก็จับดินเหนียวได้ก้อนหนึ่งแล้วก็โยนดินเหนียวใส่ลงไปในบาตร พลางบอกว่า “เอ้าเอาไปไปให้พ้นๆ” ผลกรรมที่นางทำบุญด้วยความโกรธจับดินเหนียวโยนใส่บาตรจึงเป็นเหตุให้มือเก นางเดินลงส้นเท้าด้วยความโกรธ เป็นเหตุให้เท้าเก นางพูดกับพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยความโกรธ เป็นเหตุให้ปากเบี้ยว นางมองค้อนให้ด้วยความโกรธ เป็นเหตุให้ตาเข ทำจมูกฟิตๆ ด้วยความโกรธ เป็นเหตุให้จมูกแฟบ อานิสงส์แห่งความโกรธ และโกรธพระปัจเจกพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระอรหันต์ นางจึงมีความชั่วช้าถึง ๕ อย่าง
      พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงไว้ว่า การให้ทานนั้นหากให้ด้วยตนเองก็จะเป็นเหตุให้ได้ทรัพย์สมบัติ ถ้าชักชวนบุคคลให้ให้ทานก็จะเป็นเหตุให้ได้บริวารสมบัติด้วย บุคคลใดให้ทานด้วยตนเองแต่ไม่ชักชวนบุคคลอื่นให้ให้ทาน เมื่อเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหน้าจะมีแต่ทรัพย์สมบัติไม่มีบริวารสมบัติ
      บุคคลใดชักชวนบุคคลอื่นให้ทาน แต่ตนเองไม่ให้ทาน บุคคลนั้นเมื่อเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหน้าจะมีแต่บริวารสมบัติ แต่ไม่มีทรัพย์สมบัติ
      บุคคลใดชักชวนบุคคลอื่นให้ให้ทานด้วยและให้ทานด้วยตนเองด้วยบุคคลผู้นั้นเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหน้าจะมีทั้งทรัพย์สมบัติและบริวารสมบัติ
      ส่วนบุคคลใดให้ทานด้วยตนเองก็ไม่ให้ ชักชวนบุคคลอื่นให้ให้ทานก็ไม่ชักชวน บุคคลผู้นั้นไปเกิดเป็นมนุษย์ในชาติหน้า จะเป็นคนอนาถาหาที่พึ่งมิได้ จะเป็นคนยากไร้แสนเข็ญเพราะเหตุที่ว่าไม่เคยทำทานมาก่อน
      คนมีมักเหี่ยวแห้ง      หวงแหน
กินอยู่สู้ขาดแคลน            พร่องท้อง
คนกากยากไร้แกน            โกยกอบ กินแฮ
เป็นวิบัติขัดข้อง              คิดแล้วหลากเหลือ
โคลงโลกนิติ

“อย่าลืมเติม-อย่าอยู่อย่างกินบุญเก่า”
      เงินเก่ามีอยู่อย่างมาก หากใช้บ่อย
เงินก็น้อยลงได้ใช้หมดสิ้น
บุญเก่ามีอยู่มากมายใช้อยู่กิน
บุญก็สิ้นหมดลงได้หากไม่เติม
"ความรัก!เกิดจากความเข้าใจของคนสองคนและมักจบลงด้วยค ...

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
473
พลังน้ำใจ
40883
Zenny
206866
ออนไลน์
36627 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2012-7-23 21:36:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ชีวิตมีขึ้นลง      อีกหน่อยปลงดับสังขาร ความสุขในวันวาน    อีกไม่นานก็จางไป วันก่อนเคยสนุก      วันนี้ทุกข์กลับพลักไส เพื่อนฝูงเคยอำไพ    บัดนี้ไร้แม้คนมอง

นิสิตสัมพันธ์

อยากมีเพื่อนคุยกินเที่ยวกัน

กระทู้
594
พลังน้ำใจ
30581
Zenny
218329
ออนไลน์
3227 ชั่วโมง

สมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

 เจ้าของ| โพสต์ 2012-7-24 10:44:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย moo2010 เมื่อ 2012-7-23 21:36
ผมใส่บาตรประจำครับ

วัตถุทานนั้น ได้มาโดยสุจริต ผู้ทำทานตั้งเจตนาว่า “สุทินนัง วะตะเมทานัง อาสะวักขะยาวะหัง นิพพานังโหตุ ขอผลทานนี้จงเป็นปัจจัยแก่ความสิ้นไปแห่งอาสวะกิเลส คือ พระนิพพานเทอญ”  สาธุ ๆ

แสดงความคิดเห็น

สาธุ สาธุ สาธุ ขอบคุณครับ  โพสต์ 2012-7-24 14:02
"ความรัก!เกิดจากความเข้าใจของคนสองคนและมักจบลงด้วยค ...
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-21 17:55 , Processed in 0.083497 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้