ตำนานวันไหว้พระจันทร์ (S-1152)

sand

ตำนานวันไหว้พระจันทร์ (S-1152)

                เทศกาลที่มีความสำคัญ สำหรับคนจีนมากเป็นอันดับสองรองจากเทศกาลตรุษจีน คือ เทศกาลแห่งความกลมเกลียวหรือที่รู้จักกันดีว่า “เทศกาลวันไหว้พระจันทร์” ซึ่งตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ ของทุกปีตามปฏิทินจันทรคติของจีน ซึ่งปีนี้ก็เวียนมาบรรจบอีกคราในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ นี้

                เทศกาลไหว้พระจันทร์ มีตำนานและเรื่องเล่าที่เกี่ยวพันกันไม่น้อย แต่ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ได้แก่ตำนาน “เทพธิดาฉางเอ๋อเหินสู่ดวงจันทร์” (嫦娥奔月)

                 ตำนานดังกล่าวปรากฏครั้งแรกในยุคต้นของสมัยจั้นกว๋อ ( ยุคสงคราม ๔๗๕ – ๒๒๑ ก่อนคริสต์ศักราช ) เป็นเรื่องราวของฉางเอ๋อ สาวงามผู้กินยาอายุวัฒนะของเจ้าแม่ซีหวังหมู่ แล้วกลายเป็นเทพธิดาอมตะแห่งดวงจันทร์ ตำนานเกี่ยวกับฉางเอ๋อผู้นี้ ได้ถูกแต่งเติมรายละเอียดออกไปอีกในราชวงศ์ต่อมา

      
                 เล่ากันว่า เมื่อครั้งโบราณกาล โลกเรามีดวงอาทิตย์อยู่ถึงสิบดวง นำมาซึ่งภัยพิบัติแก่โลกมนุษย์ทุกหย่อมหญ้า ร้อนระอุเป็นแผ่นดินเพลิง ส่วนที่เป็นน้ำก็เหือดแห้ง ส่วนที่เป็นภูเขาก็ถล่ม แผ่นดินแยก ต้นไม้ใบหญ้าแห้งกรอบ ผู้คนไม่มีที่หลบซ่อนอาศัย
      
                 ในครั้งนั้น ได้ปรากฏวีรบุรุษนามว่า “โฮ่วอี้” เป็นผู้ที่มีฝีมือในการยิงธนูได้แม่นยำอย่างอัศจรรย์ เขายิงธนูขึ้นสู่ฟ้าเพียงดอกเดียว ก็ยิงถูกดวงอาทิตย์ถึงเก้าดวง ทำให้เหลืออยู่เพียงดวงเดียว ถือเป็นการขจัดทุกเข็ญให้กับบรรดาประชาราษฎร์ ผู้คนจึงพากันยกย่องให้เขาเป็นกษัตริย์

      
                 ทว่า เมื่อโฮ่วอี้ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ ก็ลุ่มหลงในสุราและนารี ฆ่าฟันผู้คนตามอำเภอใจ กลายเป็นทรราช ราษฎรล้วนแต่โกรธแค้นและชิงชังเขาเป็นที่สุด โฮ่วอี้รู้ตัวว่า คงจะอยู่เป็นสุขเช่นนี้ไปได้อีกไม่นาน จึงเดินทางไปที่ภูเขาคุนหลุน (คุนลุ้น) เพื่อขอยาอายุวัฒนะจากเจ้าแม่หวังหมู่มากิน แต่ฉางเอ๋อ ภรรยาของเขากลัวว่า ถ้าสามีของนางมีอายุยืนนาน ไม่มีวันตายเช่นนี้ อาจจะนำความเดือดร้อนมาสู่ราษฎรเป็นแน่ คิดได้ดังนี้ นางจึงตัดสินใจแอบขโมยยาอายุวัฒนะนั้นมากินเสียเอง เมื่อกินเข้าไปแล้ว ร่างของฉางเอ๋อก็เบาหวิว และลอยขึ้นไปสู่ดวงจันทร์ นับแต่นั้นมา บนดวงจันทร์ก็ปรากฏภาพเทพธิดา ที่เชื่อกันว่าเป็นฉางเอ๋อนี้เอง
     
                 ส่วนที่มาของพิธีเซ่นไหว้พระจันทร์นั้น ตามบันทึกโบราณ โจวหลี่ ระบุว่า จีนเริ่มเซ่นไหว้พระจันทร์เมื่อสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งที่มาของพิธีในเทศกาลนี้ มีส่วนเกี่ยวเนื่องกับตำนานความฝันของกษัตริย์ถังหมิงหวง เสด็จประพาสพระราชวังบนดวงจันทร์ เรื่องเล่ามีอยู่ว่า ในกลางดึกของคืนเดือนเพ็ญ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ กษัตริย์ถังหมิง หวงบรรทมหลับไปแล้วทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบเทพธิดาบนดวงจันทร์กำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม ในฝันนั้น พระองค์ทรงเพลิดเพลินและเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเมื่อตื่นพระบรรทมและทรงโปรดให้ฝันนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาในฝัน

                 ตั้งแต่นั้นมาทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๘ พระองค์ก็รับสั่งให้จัดเครื่องเซ่นไหว้พระจันทร์ และทอดพระเนตรความงามของพระจันทร์ไปพร้อมกับการร่ายรำของนางสนม
      
                 ประเพณีปฏิบัติเช่นนี้ ภายหลังได้แพร่หลายไปทั่วประเทศ และเป็นเทศกาลที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับ เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลไหว้ขนมจ้าง (ขนมบ๊ะจ่าง)

GunGuy

อยากกินขนมไหว้พระจันทร์ซะแล้วซิ... ไปเซเว่นด่วน  หุหุ

soso2007

ความรู้มากมาย

mind19mindPSU

ขอบคุนนะครับ

moo2010

เป็นอย่างนี้นี่เอง ขอบคุณครับ

kalamardum

อ่านสะสม ความรู้รอบตัวหน่อยครับ

annopwichai

ขอบคุณครับ

ยาอายุวัฒนะของเจ้าแม่ซีหวังหมู่ นี่หาได้ที่ไหนครับ :)

play001

ขอบคุณคราบบบบ

thefriday

ใกล้ถึงแว้วว
แถวเยาวราช บางรัก แม่แต่กระทั้ง 7-11 แถวบ้าน มีขนมไหว้พระจันทร์วางขายกันเพียบเลยฮะ ^^

ขอบคุณที่นำมาเล่าสู่กันฟังค้าบ {:6_174:}

Jac_K

ขอบคุณมากมายครับ

guygoldy

ขอบคุณมากครับ

porxv

ขอบคุณมากคับ

vagon

ขอบคุณครับ

meteexp

ขอบคุณมากครับที่เอาของดีๆมาแบ่งบันตลอยเลยครับ

nokky

เทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของชาวจีน ซึ่งพระจันทร์นั้น ชาวจีนเปรียบเสมือนว่าเป็นเพศหญิง การไหว้พระจันทร์ก็ถือเป็นการบูชาเพศแม่ และเปรียบเสมือนการไหว้เจ้าแม่กวนอิมได้อีกด้วย

สำหรับการไหว้พระจันทร์นั้น มีพิธีการต่าง ๆ และสิ่งของที่จะใช้ในการเซ่นไหว้ดังนี้

• น้ำชา  4  แก้ว
• อาหารเจ 4 อย่าง
• ขนมหวาน 4 อย่าง
• ขนมไหว้พระจันทร์ 4 ลูก
• ผลไม้ 4  อย่าง
• ของใช้ส่วนตัวของผู้หญิง
• กระดาษไหว้พระจันทร์ กระดาษเงิน กระดาษทอง
  

โดยเริ่มจากการตั้งโต๊ะ ที่ทำซุ้มโค้งไว้แขวนของด้วยต้นอ้อยแลดูสวยงาม ไหว้หลัง 6 โมงเย็นไปแล้ว ส่วนใหญ่มักจะตั้งโต๊ะหันไปทางหน้าบ้าน แต่ก็จะมีบ้างที่ตั้งโต๊ะไหว้ตามทิศทางฮวงจุ้ยของแต่ละปีเกิด ซึ่งก็อยู่ที่ความเหมาะสมและอยู่ที่ความเชื่อของแต่ละบุคคล ใช้ธูปไหว้ 5 ดอก หรือ 3 ดอกก็ได้ตามสะดวกค่ะ จากนั้นอธิษฐานต่อดวงจันทร์ หรืออาจจะใช้บทสวดพระคัมภีร์แม่พระจันทร์ก็ได้ครับ

นอกจากนี้สาว ๆ บางคนจะไหว้เพิ่มด้วยเครื่องสำอาง  เครื่องแป้งร่ำ เพื่อเป็นการเสริมเรื่องเสน่ห์ ความงดงาม บ้างก็ไหว้ด้วยกระเป๋าสตางค์  แก้วแหวนเงินทอง เพื่อให้มีความอยู่ดีกินดีมีเงินทองมากมาย แต่ที่ขาดไม่ได้คือโคมไฟ  เพื่อให้มีชีวิตชีวา สว่างไสว

แต่สำหรับใครที่ไม่สะดวกเตรียมของสำหรับจัดพิธีแบบชุดใหญ่ เดี๋ยวนี้มีหลาย ๆ บ้าน เน้นจัดชุดเล็กโดยใช้ขนมและผลไม้เป็นหลัก ในขณะที่สาว ๆ ยังสามารถนำเอาเครื่องสำอาง เครื่องแป้งร่ำ กระเป๋าสตางค์ แก้วแหวนเงินทอง มาร่วมไหว้ได้ด้วยเช่นกัน

เพิ่มเติมอีกนิด สำหรับใครที่ไหว้พระจันทร์เพื่อขอโชคขอลาภ ตามคติเค้าว่าหลังจากที่คุณอธิษฐานจบลงไปแล้ว ให้อยู่เฝ้าโต๊ะที่บูชาสักพัก อย่าเพิ่งหนีไปไหน จากนั้นค่อยกล่าวคำลา จากนั้นค่อยแบกสมบัติไปเก็บ ใครแบกเข้าไปเก็บ (ด้วยท่าทาง) หนักมากก็รวยมาก ใครแบกเข้าไปเก็บ (ด้วยท่าทาง) หนักเล็กน้อยก็รวยแบบเบา ๆ กันไปครับ

sand

ฝากกิจกรรมส่งท้ายปีครับ http://www.g4guys.com/thread-54683-1-1.html
ฝากโหวตด้วยนะครับ http://www.g4guys.com/thread-54554-1-1.html
โปรโมชั่นพิเศษดูฟรีปีใหม่ครับผม http://www.g4guys.com/thread-54499-1-1.html

Best112233

ขอบคุนมากคับ