แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย mynamemax1 เมื่อ 2017-4-10 02:41
ตอนอื่นๆ
พวกเราทั้งหมดได้รับเชิญเข้ามาในบ้านมีการพูดคุยกับพ่อแม่ของไอ้ป๊อบ ไอ้ป๊อบมีพี่ชายและพี่สาว มันเป็นคนเล็กสุดพี่ชายมันอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 พี่สาวมันอยู่ปี 1 มันทิ้งห่างมาอยู่ ม.1 เวรกรรมจริงๆ ที่มาเจอมันเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา อาจารย์สั่งให้พวกเราไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อคลุมส่วนตัวอาจารย์เองก็เดินไปกับพ่อแม่ของไอ้ป๊อบ
เพื่อไปหาสถานที่กันหนูและนายนางแบบที่เหลือก็เดินเข้าไปในห้องที่เจ้าของบ้านจัดเตรียมให้แล้วต่างคนก็ต่างถอดเสื้อผ้าออก โดยพี่นายแบบคนนั้นก็มองมาที่หนูอยู่บ่อยๆเด็กคนนั้นก็แก้ผ้าด้วย ไม่นานนักพวกเรา 4คนก็เปลือยกายล่อนจ้อน หนูล่ะอายเด็กคนนั้นจริงๆ เด็กกว่าแท้ๆ มาดูของผู้ใหญ่แม้มันจะแก้ผ้าด้วยแต่ก็ได้กำไรคืนสุดคุ้มเลย ห้องนี้ค่อนข้างมืดเพราะปิดม่านไว้ค่อนข้างหนาเลยเห็นอะไรไม่ค่อยชัด
หนูรีบใส่เสื้อคลุมเลยเพราะอายเด็กพวกเราทั้งหมดเดินออกมานอกห้อง เจออาจารย์พอดีอาจารย์เดินนำไปทางหลังบ้าน เป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ปานกลาง มีสนามหญ้าร่มๆพร้อมทั้งต้นไม้ใหญ่พอให้ร่มเงาได้ พวกเราเดินไปยืนอยู่ตรงผ้าที่ถูกปูเตรียมไว้มีพวกเก้าอี้ สิ่งของที่ถูกวางเป็นองค์ประกอบเรียบร้อยพี่สาวพี่ชายและไอ้ป๊อบเองนั่งคอยอยู่ก่อนแล้วพร้อมด้วยพ่อแม่ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างพี่ชายคนโตของมัน ดูเป็นมืออาชีพกว่าใคร สงสัยเรียนศิลปะมาแน่ๆไอ้ป๊อบเลยได้ผลพลอยได้ไปด้วย แต่ที่เวรกรรมคือทำไมหนูจะต้องมาแก้ผ้าให้มันดูด้วย
อาจารย์ได้ให้พวกเราแนะนำตัวกับผู้ว่าจ้างทั้งหมดซักเล็กน้อยเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยกัน หนูเองคุ้นเคยกับไอ้ป๊อบดีอยู่แล้ว จริงๆไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลย แต่ที่ไม่เป็นปัญหานั่นแหละคือปัญหา
แล้วนาทีระทึกใจก็มาถึง เมื่ออาจารย์สั่งปลดเสื้อคลุมทุกคนทำตามอย่างว่าง่าย ยกเว้นหนู ที่ลังเลและรออยู่ จนอาจารย์ทักหนูจึงจำต้องถอดออก หนูล่ะก้มหน้าไม่กล้ามองไอ้ป๊อบเลย ลองคิดดูสิคะถ้าได้เห็นเพื่อนต่างเพศในห้องเรียนแก้ผ้าต่อหน้าต่อตาแบบนี้ จะรู้สึกยังไงในแง่กลับกัน ถ้าต้องแก้ผ้าให้เพื่อนต่างเพศในห้องเรียนดูจะรู้สึกยังไงมันเป็นความรู้สึกคู่ตรงข้ามกันมากๆ เลย
4 ชีวิตยืนแก้ผ้าอลึ่งฉึ่งอล่างฉ่างกลางแจ้งอาจารย์เข้ามาจัดท่าทางเช่นเคย และหนูได้ท่านอนตะแคงเอาศอกยันพื้นโชคดีที่มีหมอนรองใต้รักแร้ ทำให้ไม่ต้องเมื่อยมาก แขนอีกข้างวางไว้แนบลำตัวขาข้างหนึ่งเหยียดตรง อีกข้างหนึ่งยกชันเข่าไว้ ท่านี้ทำไอ้ป๊อบน้ำลายหกแน่เพราะมันเห็นชัดทั้งนมทั้งจิ๋มเลย พี่สาวหนูได้นั่งเก้าอี้ เด็กอีกคนได้ยืนพี่นายแบบได้นอนบ้าง
หนูล่ะอายจนหน้าแดงอย่างเห็นได้ชัดจนพ่อแม่เขาแซวเลยว่าสงสัยมือใหม่ เลยอาย เดี๋ยวให้รางวัลแก้อาย ซึ่งที่อายน่ะเพราะอายไอ้ป๊อบต่างหาก นี่มันคงยังไม่ได้บอกพ่อแม่มันสิว่าหนูเป็นเพื่อนในห้องและหนูก็ยังไม่ได้บอกใครเหมือนกัน
หนูฝืนใจมองหน้าไอ้ป๊อบบ้างเป็นครั้งคราวเห็นมันทำหน้าตาลามกๆ แต่ก็พยามข่มไว้ให้เป็นปรกติ คงกลัวพ่อแม่ว่าสิ หนูแอบมองลงต่ำก็เห็นกางเกงมันดูตุงๆแปลกๆ เป็นอย่างที่คิดไว้เลย มันเกิดอารมณ์จนจู๋แข็งแล้วสิส่วนหนูนั้นไม่ได้เกิดอารมณ์เหมือนมันซักนิด ระหว่างนอนเปลือยเป็นแบบอยู่นั้นก็คิดอะไรไปเรื่อย ถ้าหนูเป็นมันนะ คงรู้สึกดีพิลึก เป็นเด็กเป็นเล็กมีโอกาสได้ดูผู้หญิงรุ่นพี่เปลือยกายสดๆ ต่อหน้าโชคดีแถมเข้าไปอีกที่ได้เห็นเพื่อนสาวร่วมห้องแก้ผ้าด้วย สะใจเสียยิ่งกว่าสะใจไม่รู้พี่ดาจะคิดยังไงบ้าง แต่พี่เค้าคงชินแล้วล่ะ
หนูนอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยพยามไม่คิดถึงเหตุการณ์ตรงหน้า แต่ทำไมเวลาผ่านไปช้าจังนะตอนอยู่ที่โรงเรียนสอนพิเศษมันผ่านไปเร็วกว่านี้นี่นาพักหนึ่งหนูเห็นไอ้ป๊อบเดินออกไป หนูโล่งใจที่มันไปซะได้มันหายไปนานพอสมควรทีเดียว ไม่รู้เท่าไหร่เพราะไม่ได้ดูนาฬิกา แล้วมันก็กลับมาใหม่หนูล่ะเซ็ง แต่เห็นกางเกงมันไม่ตุงแล้ว สงสัยไปชักว่าวมาแน่ๆ เหอๆๆหนูรู้จักการชักว่าวจากเพื่อนๆ ในห้องมันคุยกันมันเป็นการเรียกการช่วยตัวเองของผู้ชาย ถ้าเกิดอารมณ์ทางเพศมากๆ จนทนไม่ไหวก็มักจะไปชักว่าวเพื่อเป็นการผ่อนคลาย นี่คงทนไม่ไหวล่ะสิ
และแล้วเวลาที่หนูรอคอยก็มาถึงทุกคนวาดรูปเสร็จ พวกเราจึงได้พัก หนูรีบลุกไปคว้าเสื้อคลุมมาใส่เลยพ่อไอ้ป๊อบบอกว่า ไปทานข้าวกลางวันกันก่อนด้านในบ้าน พวกเราจึงเดินเข้าไปแต่ก็ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้า นุ่งแต่เสื้อคลุมน่ะแหล่ะ หนูเดินตามคนอื่นๆ เข้าไปสังเกตเห็นไอ้ป๊อบมันยิ้มๆ ให้ แต่เป็นการแอบยิ้มแอบทำท่าทางเพื่อไม่ให้คนอื่นเห็น หนูยิ่งอายไปใหญ่
พวกเราเดินไปที่ห้องอาหาร เป็นโต๊ะใหญ่ๆทุกคนนั่งประจำที่ ไม่นานนัก แม่ไอ้ป๊อบก็ยกอาหารมาพวกเราทุกคนก็รับประทานอาหารร่วมกัน อร่อยมากๆ หรือเพราะหนูหิวก็ไม่รู้ทานเสร็จก็ได้พักอีกจนถึงบ่าย ซึ่งระหว่างนั้นก็ให้เข้าไปนั่งในห้องนั่งเล่นได้มีทีวีจอใหญ่มาก มีชุดโฮมเธียร์เตอร์ด้วยนะ น่าอิจฉาจริงๆ พวกเรานั่งคุยกันนั่งบนโซฟาที่นุ่มมากๆ พี่หนูล่ะคุยเก่งเชียว แถมออกท่าออกทางได้อรรถรสมากออกซะจนเสื้อคลุมหลุด แต่ก็ไม่ได้เอามือปิดทันทีนะ ยังโชว์ต่ออีกจนหนูต้องสะกิด
“เออนี่ดา พี่ขอดูหุ่นหน่อยได้มั้ยรู้จักกันมานานแล้วยังไม่เคยดูชัดๆเลย” พี่นายแบบเอ่ยขึ้นหนูล่ะเชื่อเลยว่าเค้ากล้าขอกันตรงๆ แบบนี้ “แหมพี่... หนูอายนะ” พี่สาวหนูตอบบ้าง
“อายอะไร เป็นนางแบบก็ต้องกล้าสิสอนน้องไว้แบบนี้ไม่ใช่เหรอ” “ก็ใช่ แต่มาโชว์กันซึ่งหน้าแบบนี้ก็อายสิคะ”
“เหอะน่า... แลกกันดูก็ได้” “หวาย.. ไม่เอาอะ อะๆๆๆ ให้ดูก็ได้” เชื่อเค้าเลย พี่สาวหนูก็บ้าบอไปด้วย แบบนี้มันเหมือนอยากโชว์เองชัดๆ ขาดคำก็ลุกขึ้นมาถอดเสื้อคลุมออกโชว์หุ่นให้พี่นายแบบดู ไอ้เด็กอีกคนนั่นตาลุกวาวเลย หนูล่ะอายแทนจริงๆพี่นายแบบกวาดสายตาจากหัวจรดเท้าแล้วเอ่ยชมออกมา
“แหมดา แกนี่ก็หุ่นดีนะ ขาวสวยด้วย..เอ่อ... หัวนมก็สวยนะ หน้าท้องก็เรียบเนียนดี....” “แล้วมีอะไรดีอีกมะ”
“แหมอุตสาห์ไม่พูดแล้วนะ ก็จิ๋มแกก็สวยดีนีไปแต่งขนมาสิเนี่ย” “ว้ายพี่พูดจาลามก ฮิๆๆ”
หนูเห็นไอ้เด็กคนนั้นนั่งเสื้อคลุมตุงเลยเป็นเด็กเป็นเล็กหัดจู๋แจ็ง เด็กสมัยนี้มันโตเร็วจริงๆ พี่สาวหนูก็นะ สงสัยมั่นใจในหุ่นจัดแล้วหนูก็ตกใจอีกครั้ง “นี่ดรีม ไหนลองลุกขึ้นมายืนบ้างซิ”
“หา... ทำไมอะ” “ให้พี่เขาดูหน่อย ว่าหุ่นดีไหมเทียบเท่าพี่ได้เปล่า” “ไม่อะพี่ หนูเด็กอยู่”
แต่พี่ดาก็ฉุดหนูลุกขึ้นมาทั้งยังพยายามถอดเสื้อคลุมหนูให้ได้ หนูก็ขัดขืนเต็มที่ แต่ก็ถูกพี่ดาดึงปลายเสื้อคลุมขึ้นข้างบนจนช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปไร้สิ่งปิดบังในท่ายืนแบบนี้หนูไม่สามารถเอาอะไรมาปิดบังของลับหนูได้
“พอเถอะดาน้องเค้าไม่เล่นด้วยก็ยังไปแกล้งอีก” พี่นายแบบเอ่ยปากห้ามพี่ดาจึงหยุดมือ เหมือนสวรรค์โปรด “ก็แค่แหย่มันเล่นน่ะ อิอิ” พี่ดาหัวเราะ
หนูเห็นพี่นายแบบนั่งอ้าขาสาบเสื้อคลุมช่วงล่างเปิดอ้าออกเมื่อมองเข้าไปก็เห็นขนสีดำรกรุงรังพร้อมไอ้จู๋ของพี่เค้าที่กำลังแอบซุ่มอยู่หว่างขาหนูรู้สึกว่ามันมีอาการบวมใหญ่ขึ้นนิดๆ แม้ไม่ถึงกับแข็งขึ้นมาเป็นลำแต่ก็ดูออกว่าไม่ใช่อาการปกติแน่ สงสัยจะพยามข่มอารมณ์อยู่ “อื้มมม น้องดรีมก็น่ารักดีนี่แม้จะไม่โค้งเว้าเร้าใจเท่าพี่สาว แต่ก็เนียนใช้ได้นะ มีแฟนยังล่ะเราน่ะ”
“ยังไม่มีค่ะ” หนูตอบไปทั้งที่ยังหน้าแดง “ดาล่ะ มีแฟนยัง”
“ก็ยังค่ะ ใครจะสนใจคนอย่างหนูล่ะ” พี่ดาพูดเชิงขำ “แหม... แต่ถ้าได้มาเห็นหุ่นดาแบบนี้นะรับรองยอมเป็นทุกคน ฮ่าๆๆๆ” “แน่ะๆๆ รู้นะพี่คิดอะไร” พี่ดาทำท่าเหมือนรู้ไต๋พี่นายแบบ “อะไรเหรอ” พี่นายแบบถามหน้าซื่อ
“ดูๆๆๆ ไอ้จู๋พี่สิ ทำไมมันชูคอแบบนั้นเสื้อเส้อเปิดหมด นี่แกล้งโชว์รึเปล่าเนี่ย” “อุ้ย บ้าดิ ใครเค้าจะไปโชว์” พี่นายแบบยิ้มเจื่อนๆ แล้วทำเป็นดึงเสื้อคลุมมาปิดให้เข้าที่เข้าทางแต่ก็ไม่สามารถปิดบังความโด่ของความแข็งแรงด้านในได้
หนูมองไปทางน้องนายแบบที่นั่งข้างๆ พี่นายแบบเห็นนั่งนิ่งตัวแข็ง เอามือปิดเป้า คงแข็งไม่น้อยหน้ากัน ผู้ชายนี่ก็นะเห็นผู้หญิงแก้ผ้าเป็นไม่ได้ เรานั่งคุยนั่งเล่นกันต่ออีกพอสมควรพอถึงเวลาบ่ายเราก็ออกไปที่สนามหญ้าอีกครั้ง คราวนี้เป็นการวาดทีละคน รวมกับของอะไรก็ได้ 1 ชิ้น ผู้เป็นแบบจะมีเพียงคนเดียว ผลัดกันนั่ง พูดง่ายๆ คือผู้วาดจะได้วาดตัวแบบทุกคน ตัวแบบแต่ละคนก็จะใช้เวลาน้อยลงนั่นเอง
อาจารย์บอกให้เรียงคิวกันตามอายุ แต่ว่าถ้าแบบนั้นตัวหนูจะต่อจากพี่ดาซึ่งเป็นผู้หญิงเหมือนกัน จะกลายเป็นตัวแบบผู้หญิงต่อกันไปเลยจึงสลับให้น้องนายแบบมาแทนหนู และหนูเป็นคนสุดท้าย
เมื่อทุกอย่างพร้อม พี่นายแบบก็ประเดิมก่อนท่าทางเค้ามืออาชีพมาก เพราะไม่มีการเขินอายใดๆ แม้จะเป็นการโชว์เดี่ยว พวกเราที่เหลือก็นั่งใส่เสื้อคลุมดูกันด้วยความสนใจพี่นายแบบได้ท่านั่งเก้าอี้ พิงพนักแล้วถือพลองไม้ตั้งขึ้น แค่นั้นเองท่าไม่ยากแต่คงวาดยากแหละ ต่อมาเป็นคิวพี่สาวหนู
พี่ดาก็ไม่ใช่ย่อยถึงจะอิดออดว่าอายในห้องพัก แต่พอต้องแก้จริงก็ไม่เห็นจะเคอะเขินอะไร ทุกคนได้เห็นหญิงสาวม.ปลาย วัยกำลังโต นั่งเก้าอี้ตัวเดิมและมีช่อดอกไม้วางอยู่บนหน้าขาหุ่นพี่ดาดูดีอยู่แล้ว เมื่อมองขากด้านหน้าจะเห็นส่วนโค้งเว้าที่เอวได้ดีแต่ถ้ามองลงต่ำไปอีกจะเห็นช่อดอกไม้ซึ่งน่าจะเป็นส่วนที่วาดยากที่สุดเพราะมีรายละเอียดเยอะแยะเต็มไปหมด
โชคดีที่ท่านี้จะทำให้มองไม่เห็นจิ๋มเพราะถูกบดบังไปกับท่อนขาและช่อดอกไม้นั่นเองตาน้องนายแบบ เด็กชายวัยประถมที่อ่อนกว่าหนูไม่น่าจะเกินสองปี ขนยังไม่ขึ้นเลยแต่ตอนอยู่ในห้องพักก็เหมือนจะใช้งานได้นิดหน่อยแล้วมั้งน้องนายแบบนี้ได้ท่านั่งที่เก้าอี้ตัวเล็กที่มีผ้าขาวคลุมอยู่อาจารย์จัดท่าให้นั่งเหยียดขาตรงตามสบายข้างหนึ่ง งอเข่าขึ้นชันข้างหนึ่งแล้วกอดเข่าไว้ มีลูกฟุตบอลวางไว้ที่ปลายเท้าเอนตัวมาข้างหน้าเล็กน้อยจะได้ไม่เมื่อยซึ่งท่านี้มันทำให้คนที่นั่งข้างหน้าเห็นจู๋และพวงไข่ของเด็กชายเต็มๆ เลยยิ่งช่วงนี้อากาศร้อน ถุงไข่นี่ห้อยออกมาชัดเจนทีเดียวหนูไม่รู้ว่าน้องเค้าอายรึเปล่า แต่คิดว่าคงมีบ้าง ถึงจะเด็ก แต่ก็ไม่ใช่เด็กเล็กๆที่ไม่ประสีประสาอะไร โตขนาดนี้ก็ต้องคิดต้องรู้สึกแล้วล่ะ
“ด้วยว่าแบบที่เหลือยังอายุไม่มากร่างกายยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ ส่วนกล้ามเนื้อของฝ่ายชายและส่วนโค้งเว้าของฝ่ายหญิงจะยังไม่เห็นชัดเต็มที่ผมจึงจัดท่าให้ตัวแบบมีแอ็คติ้งหรือท่าทางที่ดูน่าสนใจนะครับ” อาจารย์กล่าวอธิบายให้กับกลุ่มผู้ว่าจ้าง ทุกคนพยักหน้ารับรู้
ในที่สุดก็ถึงคิวของหนูแล้วน้องนายแบบใส่เสื้อคลุมกลับไปนั่งพัก หนูมองไปทางพี่ดาและพี่นายแบบเห็นทุกคนส่งยิ้มให้แบบขำๆ ส่วนน้องนายแบบก็ยิ้มอ่อนๆ ไม่แสดงออกอะไรมาก
เสื้อคลุมถูกถอดออกไปหนูเดินมายังพื้นที่เป้าหมาย อาจารย์ก็จัดท่าให้หนู ซึ่งหนูก็เสียวๆ อายๆอยู่ว่าจะออกมาเป็นท่าไหน ปรากฎว่าท่าที่ได้คือ หนูได้ท่านั่ง คล้ายๆนั่งพับเพียบนอนทับแขนฟุบกับเก้าอี้ หันมามองหน้ากับผู้วาดน้ำหนักตัวจะทิ้งไปที่ก้นกับแขนที่วางบนเก้าอี้มากกว่า ทำให้ไม่ค่อยเมื่อยขาท่านี้หนูจะต้องก้มตัวลงเล็กน้อย เพื่อไปนอนทับแขน ทำให้เต้านมน้อยๆ ของหนูจะหย่อนตัวลงจึงเห็นส่วนโค้งของเต้านมได้ง่าย หนูคิดว่าเพราะเหตุนี้อาจารย์จึงจัดท่านี้ให้หนู
แต่ประเด็นคือท่านั่งพับเพียบนี้ไม่ใช่นั่งแบบหนีบขา แต่เป็นการนั่งอ้าขาเพื่อให้ก้นข้างหนึ่งเป็นตัวแบ่งรับน้ำหนักมาจากแขนที่ฟุบลงบนเก้าอี้ พูดง่ายๆคือการนั่งพับเพียบแบบกางขากว้างนั่นเอง ปลายเท้าข้างหนึ่งจะไปอยู่ใกล้ๆกับเข่าของอีกข้าง อ้าขนาดนี้เห็นร่องจิ๋มแน่นอน แต่ดีที่ยังไม่ใช่การอ้าแหกตรงๆไม่งั้นคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ระหว่างที่เป็นแบบนั้นหนูเห็นไอ้ป๊อบยิ้มแบบมีเลศนัยให้หนูเกือบตลอดเวลา ท่าทางมันคงตลกและสะใจไปพร้อมกันหนูก็พยามทำหน้าด้านๆ ไว้ทำตัวเองให้มืออาชีพไม่ว่าจะเกิดอะไรเราต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
ระหว่างการวาด อาจารย์จะคอยเดินดูเป็นระยะๆและให้คำแนะนำบ้าง หากเห็นสมควร จนเมื่อใกล้จะหมดเวลา อาจารย์บอกว่าเหลืออีก 5 นาที หนูดีใจเหลือเกินที่จะพ้นจากสภาพนี้ แต่แล้วหนูก็ต้องสะดุ้งสุดตัว
“ว้าย!” หนูร้องออกมาลั่นทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว พร้อมกับถามว่าเกิดอะไรขึ้น หนูรีบลุกขึ้นมา ทำท่าลุกลี้ลุกลน
“มด… มดกัดค่ะ”หนูพูดพลางก้มมองดูเบื้องล่าง “กัดตรงไหน เป็นไงบ้าง” แม่ของไอ้ป๊อบถามหนู “กัดตรง… ขาหนีบค่ะ”แล้วหนูก็บี้มดที่มันกัดหนูเขี่ยลงไปที่พื้น จึงเห็นว่ามันคือมดแดงตัวไม่ใหญ่แต่ก็ไม่เล็ก “ป๊อบ ไปหยิบยามาให้นางแบบหน่อยซิ” แม่ไอ้ป๊อบสั่ง
“เป็นไรมากมั้ย” อาจารย์ถามหนู “ไม่มากค่ะ แต่ก็เจ็บอยู่” “อืมม ก็ดีแล้ว งั้นไปพักก่อนละกัน”
จากนั้นอาจารย์ก็ขอเก็บงานจากผู้วาดทั้งหมดส่วนหนูก็เดินไปหาพวกพี่ๆ ที่นั่งรออยู่ หนูเดินไปนั่งเก้าอี้ แล้วหันหน้าหาแสงพยายามก้มดูว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งหนูมัวแต่ห่วงจุดที่มดกัด จนลืมใส่เสื้อคลุมไปเลย
ไม่นานนัก ไอ้ป๊อบก็วิ่งเอายามาให้หนูหนูรับยาจากมันมาด้วยท่าทีขอบคุณ แต่ไอ้ป๊อบไม่ได้สนใจเลยเพราะมันมัวแต่มองนมมองจิ๋มหนูอยู่อย่างกับจะกินเสียให้ได้
“ต่อไปจะวิจารณ์งานแล้วนะครับ” อาจารย์พูดขึ้น จากนั้นผู้วาดทั้งหมดก็หันไปนั่งฟังอาจารย์พูดส่วนหนูก็วุ่นอยู่กับการทายา “ไง โอเคมั้ย” พี่ดาเดินมาถามหนู
“ไม่รู้สิ เห็นไม่ชัดแต่ก็รู้สึกเลยว่าค่อนข้างบวม” “ไหนดูซิ” พี่ดาพูดพร้อมกับย่อตัวลงแหกขาหนูเพื่อที่จะดูรอยมดกัดซึ่งหนูพยามจะไม่คิดว่าพี่ดาแอบส่องร่องจิ๋มหนูเพราะมันอยู่ห่างกันไม่กี่เซนเท่านั้นเอง
“ก็บวมแดงนิดหน่อย ทายาก็คงดีขึ้นล่ะ”พี่ดาพูด แต่กลับยิ้มแปลกๆ หลังจากทายาไป ก็รู้สึกดีขึ้น เพราะยาเป็นสูตรเย็นทำให้กลบความรู้สึกปวดไปได้พอสมควร บางทีเย็นเกินไปด้วยซ้ำเพราะผิวหนังช่วงนั้นเป็นส่วนที่อ่อนบาง ทำให้แสบกว่าส่วนอื่นๆ
หลังหายวุ่นกับการทายาแล้วก็ถึงตอนที่อาจารย์กำลังวิจารณ์งานของไอ้ป๊อบพอดีแน่นอนว่าฝีมือมันห่วยแตกที่สุดในสามคน แต่มันก็ไม่อาจกลบเกลื่อนความหื่นของมันได้เมื่ออาจารย์บอกว่าไอ้ป๊อบเวลาวาดผู้ชาย จะวาดแบบมั่วๆแต่พอวาดผู้หญิงกลับลงเส้นหนัก เน้นเหมือนตั้งใจ โดยเฉพาะตรงนมกับตรงจิ๋มของหนูก็โดนลงเส้นเน้นที่ร่องจิ๋มซะเข้ม ทุกคนหัวเราะกันในความหื่นกามของมันแต่หนูสิอายนะ
เมื่อจบงาน พวกเราก็เดินกลับไปห้องพักเพื่อใส่เสื้อผ้าเตรียมตัวกลับ “นี่ ไม่ต้องใส่กางเกงในหรอกนะเดี๋ยวมันจะอับ” พี่ดาบอก “จริงดิ” หนูถาม
“ใช่ๆ พี่เคยโดนนะ ต้องปล่อยให้อากาศถ่ายเทถ้าอับแล้วมันจะไม่หาย” พี่นายแบบเสริมอีกคน หนูเริ่มหน้าเสีย เพราะวันนี้หนูใส่ชุดเดรสกระโปรงมาแล้วมันยาวพอดีเข่าเท่านั้นเอง ถ้าไม่ใส่กางเกงใน ก็ต้องระวังเป็นพิเศษเลยทีเดียวแต่ด้วยความกลัวว่ามันจะไม่หาย ก็เลยยอม
เย็นวันนั้นกลับถึงบ้านหนูก็มาคิดถึงเรื่องวันนี้ ยิ่งคิดยิ่งอาย ไอ้ป๊อบเป็นเพื่อนประถมห้องเดียวกันแต่พอขึ้น ม.1 ก็รู้ว่าได้เรียนที่เดียวกันห้องเดียวกันด้วยถ้าเจอมันจะทำหน้ายังไง แล้วมันจะไปบอกใครรึเปล่า ทั้งที่เราทำงานสุจริตแต่มันน่าอายก็ตรงแก้ผ้านี่แหละ พอค่ำหนูก็ไปอาบน้ำในห้องน้ำมีกระจกขนาดใหญ่อยู่ หนูยืนส่องเห็นถึงจิ๋มเลยแล้วก็คิดว่าหากเราเป็นคนอื่น มองมาเห็นตัวเรายืนเปลือย ก็คงเห็นแบบนี้เป็นแน่ทำไงได้นะ ทำงานแบบนี้มันก็ต้องทน
คืนนั้นหนูเลยไม่ใส่ชั้นในนอนเลยใส่แต่ชุดนอนอันบางเบา พี่ดาเองก็เช่นกัน พี่ดาใส่ชุดนอนแบบคลุมยาวลงมาถึงเข่าเห็นหัวนมดันเสื้อออกมาแต่ไกลเลย ตอนขยับไปมายกแข้งยกขา ก็แว๊บๆ เห็นขนดำๆส่วนหนูก็กางเกงเสื้อบางเบา ถ้าไฟสว่างพอและดูใกล้ๆ ก็เห็นหัวนมชัดๆ เลยล่ะอาจเพราะการต้องยืนแก้ผ้าให้ใครต่อใครดู ทำให้หนูอายน้อยลง หน้าด้านขึ้นประกอบกับอากาศร้อนบวกกับอยากระบายอากาศให้หว่างขา ทำให้หนูกล้าขนาดนี้แล้ววันต่อไปที่มีงาน หนูก็คงต้องโชว์ของลับเพื่อเป็นแบบวาดรูป
คิดไปคิดมามันทำให้หนูเริ่มมีความรู้สึกชอบและพอใจในการโชว์ขึ้นมาบ้างเล็กๆแม้จะมีติดอายอยู่บ้าง แต่เหมือนมันน้อยลงมากความตื่นเต้นและความเสียวกลับมากขึ้นมาแทน จนหนูเริ่มที่จะเข้าใจพี่ดาแล้วว่าทำไมพี่ดาถึงไม่ค่อยอายและกล้าแสดงออกขนาดนั้น หากคุณกล้าที่จะโชว์ของลับและอยากได้เงินใช้เหมือนหนู ก็ลองทำดูสิคะ
Cr.darkside
|