) s" C3 Z% n N# u) w4 `& t
: D8 H0 i0 u/ X
: k6 c* K z* S
$ i( D, k$ F8 w. y, x% o+ x" v) g# C( I24 ******************* หากจะชีวิตของชาย2 คน 2 วัยที่มาจากต่างฐานะ ต่างที่กันแต่ก็กลับมาอยู่ด้วยกัน...คนหนึ่งรักอีกคนหนึ่งแทบไม่เหลือความรักไว้ให้กับตัวเอง...อีกคนหนึ่งที่ณ เวลานี้ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นอะไรดี เป็นชายแท้หรือเป็นเกย์...การอยู่ร่วมกันกับนัทนั้น นนท์คิดเสมอว่าเหมือนกับได้แต่งงานกันแล้ว...ใช่ว่าเขาไม่อยากแต่งจริง ๆมีใครที่เป็นคู่รักคู่ไหนบ้างที่ไม่คิดอยากจะแต่งงาน...เพื่อประกาศให้คนอื่นรู้ว่าเป็นคู่ผัวตัวเมียกัน...แต่สถานะของนนท์กับนัทที่อยู่กันแบบนี้....ถ้าจะต้องแต่งงานกันคงออกข่าวกันครึกโครม...อยู่ไปแบบนี้ดีกว่า...ไม่จำเป็นต้องประกาศให้ใครรู้...ลองดูอย่างพวกดาราทั้งหลายซิ...แค่รักกัน...ก็เที่ยวป่าวประกาศบอกคนอื่น...สร้างข่าวสร้างเรทติ้งให้ตัวเอง....พอเลิกกันก็เป็นข่าว....ยังมีดาราอีกหลายคู่ที่ไม่รู้จักเจียมตน...ขอน้ำสังข์พระราชทานเพื่อเอามาในงานแต่งงานของตน....แต่ที่สุดแล้วคู่แล้วคู่เล่าก็ต้องเลิกรากัน...กี่คู่แล้วก็ลองนับๆ กันดู...บุญบารมีไม่ถึงยังบังอาจไปอาจเอื้อมขอน้ำสังข์พระราชทาน...ตัวมาจากไหน...ราชนิกูลก็ไม่ใช่...ทำไมไม่รู้จักเจียมเนื้อเจียวตัวของตนกันซะบ้าง... “พี่นนท์....พี่นนท์จะไปเรียนต่อจริงๆ เหรอ...” นัทถามหลังจากเห็นจดหมายภาษาอังกฤษที่มาถึงนนท์ “พี่ยังไม่รู้เลยเพราะพี่สอบได้ทุนไปเรียนต่อ...ถ้าไปพี่ก็ต้องทิ้งทุกอย่าง...เพราะตอนนี้นัทเองก็รู้ว่าพี่ไม่มีอะไร...นอกจากข้าวของที่ยังพอขายได้...เพื่อเอาไปเป็นค่าตั๋วเครื่องบิน...ค่าที่อยู่...ค่ากินสักระยะหนึ่ง...พอไปอยู่ที่นั่นเริ่มเรียนและเริ่มทำงานก็คงจะมีเงินได้บ้าง....นัทจะไปด้วยกันมั้ย...นัทเรียนทางนี้มา...ยังพอไปหางานทำที่นั่นได้ได้ค่าแรงดีด้วย” “ไม่ไหวมั้ง...ภาษาอังกฤษผมไม่ได้เลยนะไปแล้วจะไปพูดกับเขายังไง” “อยู่ไปก็ได้เองแหละ...พี่ว่าอย่างนัทพอไปอยู่เข้าจริงๆ นัทจะเข้าใจและเรียนรู้ได้เร็วกว่าพี่อีกนะ...เพราะนัทจะใช้ภาษาพูดแต่พี่ซิต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด” “ผมก็ไม่อยากให้พี่ไปลำบากคนเดียวนะ...ถ้าผมไปด้วยไหนจะค่าตั๋วเครื่องบินอีก...แล้วพี่ได้หอพักในมหาลัยไม่ใช่เหรอ...ผมไปก็ต้องออกมาเช่าอยู่ข้างนอก...จะเข้าไปอยู่กับพี่ในหอพักได้ยังไง” “เรื่องนี้พี่ก็ยังไม่ได้คิด...แต่พี่จะลองส่งอีเมล์ไปถามทางโน้นดูก่อน...ช่วงนี้พี่ส่งไปคุยกับProfessor ที่เขารับพี่บ่อยดูว่าจะมีทางไหนที่จะได้ไหม...เพราะพี่ไปเรียนก็ไม่ได้เรียนอะไรมาก...เรียนไม่กี่วิชาก็ทำวิจัยแล้ว...เวลาที่เหลือตอนนี้ทางนั้นเขาก็อาจจะให้พี่เป็นTeacher Assistance พี่ก็กะว่าจะทำงานในห้องสมุดด้วยเพื่อจะได้มีค่ากินอยู่...ส่วนนัทก็ทำงานของนัท....” “พี่ลองถามดูให้เรียบร้อยก่อนดีกว่า...ก็ดีเหมือนกันไปอยู่เมืองนอก...หาเงินได้เยอะดีจะได้ส่งมาให้พ่อกับแม่ใช้” “แต่เราก็ต้องเก็บของเรากันด้วยนะ....ถ้าเกิดมีไรขึ้นมาแล้วเราไม่มีเงินเก็บกันเหมือนตอนนี้จะลำบาก...นี่ยังดีที่พี่มีข้าวของที่พอขายได้...อย่างรถนี่พี่คงขายแน่ๆเพราะไม่รู้จะเอาไว้ทำไม....คอนโดก็ขายไปได้เงินมาอาจจะไปตั้งหลักทำอะไรทางนั้นได้” “พี่ว่าอย่างผมจะไปอยู่ได้หรือ่ปาว...ผมก็กลัวเหมือนกันนะ...แต่ผมก็ห่วงพี่เพราะพี่จะอยู่อย่างไงคนเดียว” “ก็ถ้าเราไปกันสองคนได้...เราก็ไป...ถ้าไม่ได้พี่ก็ไม่ไป...เพราะพี่จะลองสอบเรียนต่อที่เมืองไทยดูก่อนด้วยเหมือนกันว่าจะได้หรือป่าว” “แล้วถ้าได้...พี่ก็เสียโอกาสที่จะไปอะซิ...ไปเรียนเมืองนอกจบมามันดีกว่าเมืองไทยนะพี่” “ก็ลองดูก่อน...ถ้าได้ก็เรียนที่เมืองไทย...ไม่ได้ก็ค่อยว่ากันอีกที...ว่าจะมีทางยังไง” นนท์กลับมาคิดมากอีกครั้ง...เพราะชีวิตเขาปรารถนาที่อยากจะเรียนต่อ...แม้ว่าตอนนี้ชีวิตความรักของทั้งสองจะไม่มีปัญหาหนักๆอะไรก็ตามแต่ก็ยังมีบ้าง...นนท์ก็คิดว่าช่างมัน...คนอยู่ด้วยกันยังไงก็ต้องมีปัญหาบ้างเรื่องเล็กเรื่องน้อยก็อย่าไปสนใจมัน...ลิ้นกับฟันก็ต้องมีการกระทบกระทั่งกัน...ขึ้นอยู่กับว่าจะแรงหรือเบาแค่ไหน ในปีนั้น...นนท์ก็พยายามอ่านหนังสือโดยใช้เวลาว่างที่ไม่ได้ทำงานในช่วงเวลานั้นอ่านอย่างเต็มที่...เพื่อที่จะสอบเรียนต่อให้ได้...เขาคิดว่าถ้าเรียนในเมืองไทยก็ไม่ต้องเอาข้าวของที่มีขาย....และถ้านัทไม่ไปเมืองนอกด้วย...ก็จะยังได้อยู่ด้วยกันอีก... นนท์สอบเข้าเรียนได้ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง...ชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนใหม่เพราะจบปริญญาโทมานับสิบปี...ห่างเหินจากการเรียนมานาน...นนท์ต้องปรับตัวอย่างมากในการเรียน “เฮ้ย...นนท์ดีใจด้วยนะที่สอบได้” เสียงแจ๊คส่งมาตามสาย วันที่นนท์ไปสอบสัมภาษณ์แจ๊คก็ไปด้วย...แต่ก็ยังไม่แน่นอนว่าจะได้หรือป่าวต้องรอจนกว่าจะถึงวันที่ติดประกาศรายชื่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนั้น “เออ...เมิงเป็นคนแรกเลยนะเมิง...แล้วเมิงรู้ได้ไง” “ก้อตอนนี้กรูอยู่ที่บอร์ดรายชื่อ...กรูผ่านมาเลยแวะมาดูเห็นมีชื่อเมิงกรูเลยรีบโทรมา...เดี๋ยวกรูจะไปหาเมิงที่คอนโด...ไปหาไรกินกัน” “เออ..งั้นกรูรอละกัน”นนท์วางสายไป ก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ทั้ง ๆที่เขาเพิ่งออกไปดูรายชื่อประกาศเมื่อเช้าและเพิ่งกลับเข้ามา… นนท์ดีใจเหมือนกันที่สอบเรียนต่อได้...แต่เขาเองก็ไม่ได้หวังว่าเขาจะเรียนได้หรือไม่ได้...ขอแค่รู้ว่ามีความรู้ความสามารถพอที่จะสอบเข้าไปได้ก็พอแล้วนนท์ต้องการวัดความรู้ของตัวเองหลังจากที่ห่างหายไปจากการเรียนมานาน ไม่ถึงชั่วโมงแจ๊คก็โทรมา.. “กรูมาถึงแล้ว...กรูรอข้างล่างนี่ละกัน” “เออ...เดี๋ยวกรูจะรีบลงไป”นนท์รีบปิดห้องลงลิฟต์ไปเจอแจ๊คที่รถ “เอ้า...แม่กรูจะแสดงความยินดีกับเมิงแน่ะ” “ครับแม่...ขอบคุณคับ...ก็ไม่รู้เหมือนกันคับว่าจะเรียนได้จนจบหรือป่าว...แต่นนท์ไม่ได้หวังหรอกคับ...ถึงตอนนี้ก็คิดถึงพี่วุฒิเขาเหมือนกันนะคับ...ผมลองฮึดอ่านหนังสือดูคับ...คิดถึงพี่เขาด้วยเพราะเขาคงอยากให้ผมสอบได้ด้วยแหละ” “ก้อลองดูลูก.... ตั้งใจเรียนนะแล้ววันนี้จะไปเที่ยวไหนกัน...เห็นแจ๊คเค้าบอกว่าจะพานนท์ไปเลี้ยงฉลองแม่ไม่ได้ไปด้วย ไม่เป็นไรนะ” “คับ... นี่นัทก็ยังไม่รู้เพราะผมก็ยังไม่ได้บอกเค้า...” “กรูโทรบอกนัทไปแล้ว”เสียงแจ๊คพูดขึ้นมา “ดูดู ลูกแม่คนนี้...มันเจ้ากี้เจ้าการไปทุกเรื่อง” “ไม่เป็นไรหรอกแม่...มีมันนี่แหละที่นนท์ยังมีคนให้คุยด้วย” “งั้นแม่แสดงความยินดีอีกรอบนะ” “คับ”แล้วแม่ของแจ๊คก็วางสายไป... “ไปหาไรกินกัน...แล้วกรูอยากไปไหว้พระว่ะไปไหว้กันที่ไหนดี” “แล้ววันนี้เมิงโดดงานเลยเหรอ” “เออ...กรูออกมาพบลูกค้าแล้วแวะดูรายชื่อเมิงนี่แหละ...กรูขี้เกียจกลับเข้าไปออฟฟิสล่ะ” “งั้นขับรถไปหัวหินม่ะ...กรูอยากไปไหว้หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ที่นั่นว่ะ” “เออไปดิ...ไปนั่งเล่นริมทะเลด้วยละกัน..กรูโทรบอกนัทแล้วนะว่าไม่ต้องห่วงเมิง....ว่าเมิงไปกะกรูอาจจะกลับมืด” “เมิงนี่เจ้ากี้เจ้าการไปทุกเรื่องเจงๆ” แจ๊คพานนท์ขับรถไปถึงหัวหิน ไปไหว้พระกันแล้วก็ไปหาชายหาดที่สงบ ๆเพื่อนั่งเล่นพักผ่อนกัน คุยกันตามประสาเพื่อนซี้ ขณะที่กำลังนั่งเล่นนั่งคุยกันอยู่ก็มีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งประมาณ 4-5 คนเดินตรงเข้ามาที่แจ๊คกับนนท์ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงผ้าใบ....นนท์มองดูแล้วกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นจึงกระซิบบอกให้แจ๊คระวังตัว “เฮ้ย....แจ๊คท่าจะไม่ดีว่ะ” “ไม่มีไรหรอกน่า....” “ดูดิหน้าตาดูน่ากลัวทั้งนั้นเลย” พูดยังไม่ทันจบวัยรุ่นกลุ่มนั้นก็เดินตรงเข้ามา คนหนึ่งในกลุ่มนั้นควักมีดออกมาจากกางเกงด้านหลัง...ที่เหลือก็เดินมาล้อมนนท์กับแจ๊คไว้...นนท์ไหวตัวทันล้วงกระเป๋ากดโทรศัพท์ออกไปยังเบอร์นัทเพราะเป็นเบอร์สุดท้ายที่โทรออก “มากันสองคนอย่างนี้ดีว่ะ...ไอ้พวกหน้าจืด”คนนึงพูด “แหม๋...แม่เจ้าโว้ย...ดูสะอาดซะด้วย...มีสร้อยทองด้วยว่ะพวกเมิง”คนนึงในนั้นมันคงเหลือบเห็นสร้อยทองที่แจ๊คใส่อยู่...ดีนะที่นนท์ไม่ได้ใส่มาเพราะตั้งแต่นนท์เริ่มเบื่อหน่ายกับความฟุ้งเฟ้อ...ความไม่แน่นอนของชีวิตแก้วแหวนเพชรทองที่นนท์มีอยู่...นนทืก็ไม่เคยหยิบออกมาใช้อีกเลย....เอาไปฝากไว้ในตู้เซฟที่ร้านเพื่อนของนนท์คนหนึ่งที่ขายทอง.... “จะเอาก็บอกดีดีนะ...ไม่เสียดายหรอก...แต่อย่าทำอะไรกัน”แจ๊คใจดีสู้เสือตอบกลับไป “แม่งขาวทั้งคู่เลยว่ะ...เชี้ย...พวกเมิงเป็นกะเทยหรือป่าวว่ะนี่” “ใช่จ๊ะ”อีนังแจ๊คตอบกลับทันที.. “ทำไมเหรอจ๊ะ....แต่น้อง ๆ ก็หล่อกันทุกคนเลยนะ” “เอากับมันซิว่ะ...ดูมันช่างกล้า” “เอางี้มั้ย...อย่าทำไรพวกพี่นะ....น้องอยากได้อะไร...บอกมา...พี่มากันสองคนไม่ได้เอาไรมามากหรอก...นั่งกินเหล้ากันตรงนี้มั้ย...”นนท์เสนอเพื่อต้องหาทางป้องกันตัวเองกับแจ๊คแล้วในตอนนี้.. “พี่มีเหล้าอยู่ท้ายรถ2 ขวด เหล้านอกด้วยนะพอดีพี่จะซื้อไปให้ลูกค้าแต่ยังไม่ได้ให้...เดี๋ยวพี่เดินไปเอาให้อยู่ที่รถตรงโน้นเอง”แจ๊คชี้ไปที่รถ... “เฮ้ยไอ้เป้....เมิงเดินไปกับมันไปเอาเหล้ามา”เสียงคนนึงที่น่าจะเป็นหัวหน้าก๊วยสั่ง ...คนชื่อเป้ก็เดินมาที่รถกับแจ๊ค เป้อายุประมาณ 19 ผิวคล้ำ ๆ หุ่นผอมบาง...หน้าตาคมเข้ม ท่าทางห่าม ๆ ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์รัดเป้าจนเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในนูนเด่นออกมา....พอเดินถึงรถแจ๊คก็กดรีโมทประตู เพื่อดึงฝากระโปรงท้ายที่อยู่ข้างเบาะแล้วปิดประตู...เด็กหนุ่มเป้...เดินตามแจ๊คไปทางด้านหลังรถซึ่งเมื่อฝากระโปรงเปิดออก...จากตรงชายหาดก็จะมองไม่เห็นอะไร...ทันทีนั้น...แจ๊คก็รีบจับหน้าเด็กคนนั้นประกบปากจูบเด็กพยายามดิ้นหนี... “เฮ้ยทำไรว่ะ” “แหม๋น้องจ๋า...จุ๊ จุ๊ อย่าเสียงดังไป...พี่รู้ว่าน้องอยากกินเหล้าแต่พี่อยากกินน้ำควยน้องก่อนได้ป่าว...” หนุ่มเป้นิ่ง...แจ๊คประเมินสถานการณ์แล้วว่า เด็กหนุ่มเป้ คงเคยมีไรกับเกย์กับกะเทยมาแน่ๆจึงเอ่ยปากชวน “น้องเดินไปประตูอีกข้างนะ....พี่จะดูดให้บนรถก่อนดีมั้ย”เหมือนมนต์สะกดที่ทำให้เป้เดินไปตามที่แจ๊คบอก...ระหว่างที่เป้เดินหันหลังให้แจ๊ครีบกระชากสร้อยทองแค่เส้นละสลึงเดียวที่แจ๊คใส่อยู่ออก...พอเปิดประตูรถแจ๊คก็แกล้งทำเป็นก้มลงไปหยิบของที่พื้นรถแต่ป่าวเลย...แจ๊คเอาสร้อยยัดใส่ไว้ใต้ที่ปูพื้น...พร้อมกับเอาเงินสดออกจากกระเป๋ากางเกงยัดไว้ด้วย….เป้ลงมานั่งที่เบาะไม่รอช้า แจ๊คก็รีบจัดการดึงชายเสื้อขึ้นเพื่อให้พ้นนม...แจ๊คจัดการดูดนมเด็กหนุ่มคนนั้น.... มือก็ขยำเป้าของเป้อย่างแรง....เพื่อให้ของ ๆเป้ลุกชันขึ้น....แจ๊คพยายามปลดกระดุมสามสี่เม็ดที่เป็นเป้ากางเกงของเด้กหนุ่มเพื่องัดเอาท่อนลำนั้นออกมา.... สิ่งที่ผงาดออกมาจากกางเกงของเด็กหนุ่มเป้....กลับทำให้แจ๊คต้องตลึงกับท่อนลำที่แจ๊คไม่เคยเจอกับขนาดนี้มาก่อน....แจ๊คเคยใช้บริการเด็กขายตามบาร์เกย์...ที่เหล่ากัปตันต่างเชียร์ว่าขนาดใหญ่แล้วเป็นดาวของที่บาร์แล้ว...ต้องชิดซ้ายกับขนาดของเด็กหนุ่มเป้คนนี้...แถมฝังมุกอีก 4เม็ด....แจ๊คครอบปากลงไปที่ท่อนลำที่กะด้วยสายตาต้อง 9 นิ้วแน่ ๆเด็กห่....ไรว่ะนี่...เอามาทำไมตั้งมากมาย.... “เฮ้ย...ไอ้เป้....เมิงมัวทำเชี้ยไรอยู่ว่ะ...ไปหยิบเหล้าแค่นี้ไปตั้งนาน”เสียงคนนึงจากกลุ่มตรงนั้น...ตะโกนแว่วมา ทำให้เป้ต้องชะงัก... “พอแล้ว...เดี๋ยวพวกนั้นมันว่าเอา...เดี๋ยวถ้าเมิงอยากดูดของกรูต่อกรูจะให้ดูด ...เมิงดูดซะใจดีว่ะ....พวกผู้หญิงที่มาดูดให้กรูแม่งไม่เห็นดูดเสียวขนาดนี้...” “นี่แค่ปากเอง....ลองรูตูดพี่ด้วยป่าว...จะได้รู้ว่ามันส์ขนาดไหน...ว่าแต่น้องมีแฟนหรือยัง”เป้จับท่อนลำของตัวเองยัดกลับลงในกางเกง “ถามไรว่ะ...อย่างกรูไม่มีหรอกหน้าตาแบบนี้ใครแม่งจะมาเอากรู” “ถ้าพี่บอกว่า...พี่ชอบละหน้าตาแบบน้องอ่ะ...น้องชื่อไรนะ...เป้ใช่ป่าว....แล้วตอนนี้เป้ทำไร...หรือจับกลุ่มกับพวกนั้น....เอางี้มั้ย...พี่ให้คิดดูก่อนละกัน...ไปอยู่กับพี่ที่กรุงเทพ...พี่ให้งานทำให้เงินเดือนละหมื่น....แต่ต้องเป็นผัวพี่ด้วย...” “เอ่ออออออ” “ยังไม่ต้องตอบพี่ตอนนี้...เอาเบอร์โทรพี่ไว้...ถ้าวันนี้พวกนั้นเขาจะพยายามทำร้ายพี่...พี่อยากให้เป้คอยช่วยพูดกับพวกนั้น...ไปอยู่นี่ไปอยู่ที่บ้านพี่เลยนะ...พี่ให้ข้าวกินให้ที่อยู่ให้เงินเดือนด้วย” แจ๊คพยายามยื่นข้อเสนออย่างน้อยก็ทำให้เด้กหนุ่มคนนี้คิด “เงินตั้งหมื่นเลยเหรอ...ที่จะให้” “จ้า...พี่ให้หมื่นนึงเลย...กินอยู่กับพี่เลยค่าข้าวก็ไม่ต้องเสีย....ไปคิดเอาละกันระหว่างกินเหล้า...ไปพวกนั้นรอ...เดี๋ยวพี่จะพลอยเจ็บตัวไปด้วย” ด้านนนท์ที่อยู่กับพวกนั้นอีก 4 คน...นัทได้ยินเสียงที่นนท์พูดกับคนที่เหลือ “พี่จะไปไหนได้ละ...ก็เพื่อนพี่เดินไปเอาเหล้าที่ท้ายรถกับพวกน้องอีกคน” “แม่งไปนานชิบ....เฮ้ยไอ้ม้า...เมิงตะโกนเรียกมันดิ...แล้วเมิงเอาเงินมาเท่าไหร่” ม้า...อายุน่าจะประมาณร่วมๆ 21 สูงประมาณ 175 หนัก 57 สูงผอม...ดูเหมือนคนติดยา...แต่มีหนวดเคราเฟิ้ม...ผิวแทนออกไปทางดำอาจจะเพราะคนพวกนี้อยู่ชายทะเลเลยโดนลมโดนแดดเผาผิวจนออกดำ...ม้าใส่เสื้อกล้ามแบบรัดตัว...ทำให้ดูร่างฟิตไม่มีส่วนใดในร่ากายที่จะมีไขมัน “พี่จะเอามาเท่าไหร่...พี่มีติดตัวมาพันเดียวเอง...พี่ตกงานอยู่นะน้อง....เอาเงินที่ไหนล่ะ...หรือจะเอาเงินพี่ไปซื้อน้ำแข็งโซดาพี่ก็ยอมนะ....แต่อย่าทำไรพี่ละ” “งั้นส่งเงินมา...จะได้เอาไปซื้อน้ำแข็งโซดาไว้”นนท์หยิบเงินในกระเป๋าเสื้อส่งไปให้ด้วยดี....คนที่ออกคำสั่งนี่คงเป็นหัวหน้ากลุ่ม..แต่ยังไม่รู้จักชื่อและยังเหลืออีก2 คนที่ยังไม่รู้จักชื่อคนที่ออกคำสั่งดูจะหน้าเหี้ยมสุดในกลุ่ม...กะอายุน่าจะราว ๆ 24ใส่เสื้อกล้ามที่เผยให้เห็นกล้ามแขนเป็นมัด ๆ เหมือนคนเล่นกล้าม มีรอยสักที่แขนเจาะหู และริมฝีปาก ผิวคล้ำ คราที่ยกแขน เห็นขนรักแร้ดำพรึบ...มีกลิ่นกายโชยมาเพราะตอนที่หัวหน้าแก๊งค์คนนี้เดินเข้ามาใกล้นนท์และพยายามจะล๊อคตัวนนท์เอาไว้.... “พี่เดินไปซื้อให้เอาป่าว....คับ”นนท์เสนอ “เออ..ก็ดีเหมือนกันแต่อย่าตุกติกนะเมิง....เฮ้ยไอ้เปี๊ยกเมิงไปกับมันดูด้วยนะโว้ยอย่าให้มันตุกติก...เดี๋ยวมันเรียกพวกพ่อเมิงมา” “คับลูกเพ่”เปี๊ยกตัวเตี้ยกว่านนท์เล็กน้อย...รูปร่างสันทัด...ดูออกจะล่ำนิด ๆแต่ก็ไม่มาก...เด็กคนนี้ใส่กางเกงboxer ที่ส่วนใหญ่เรียกกันว่ากางเกงเจเจ...นนท์ไม่เห็นว่ามันจะสวยเลยสักนิด เพราะเห็นวัยรุ่นในกรุงเทพที่ใส่กันแล้วก็ยังกล้าใส่ที่เป็นลายดอก ๆ ส่วนใหญ่ถ้าผู้ชายใส่ ก็จะเป็นพวกวัยรุ่นชายที่ตัวผอมๆ ดูเหมือนพวกติดยา ผิวดำ แถมยังมีแผลเป็นที่ขาแข้งเยอะแยะหรือไม่ก็มีลายอะไรไม่รู้ที่เกิดจากความสกปรก แถมหน้าตาก็งั้น ๆส่วนถ้าผู้หญิงก็จะหน้าตาเฮ่ยสุด ๆ ผิวดำ ขาลายบางคนที่ใจกล้าหน้าหนาหน่อยก็ยังดันใส่เสื้อสายเดี่ยวอีก ถ้าผิวพรรณสวยเต่งตึงก็ว่าไปอย่างแต่นี่ผิวดำกร้าน...มีรอยมีลายเต็มไปหมดยังกล้าใส่เปิดให้คนอื่นเห็นอีก...นนท์เคยเรียกกางเกงแบบนี้ถ้าเป็นผู้ชายใส่ก็เป็นกางเกงไอ้ดอก ถ้าเป็นหญิงก็จะเรียก กางเกงอีดอก....
; j5 x' P/ Q* Q& I5 g0 u4 h& ~ |