- p' P5 n+ L% c4 S6 R( A# o( i% f( K) W
7 f1 o/ t. h$ T6 I
คนงานท่าเรือเถื่อน
+ y6 R( a& Q6 s- L
- @" F0 [ h) M0 [ c! F1 ~6 h
( U4 p' s5 I) n# `5 M
7 Z) w2 O! h2 C* U. n. Z9 k! m
; r/ b: }/ q, j/ ^, F( e# Q
ผมก็มีประสบการณ์จะมาเปิดให้เพื่อนๆอ่านครับซึ่งเป็นเรื่องสมัยเข้าทำงานในบริษัทส่งออกนี้ ในตำแหน่งพนักงานบัญชี ผมชื่อ กาวอายุ 27 ปี ผิวขาว รูปร่างอวบๆ ขาวๆจบปริญญาตรีจากมหาลัยเอกชน หลังจากจบการศึกษาออกมาก็เข้าทำงานมาหลายบริษัทมีผู้ชายมาจีบก็มาก แต่กาวรู้ว่าพวกผู้ชายเหล่านี้หวังอะไรในตัวกาว ถึงเข้ามาทำดีด้วยกาวก็ยังระมัดระวังตัวมาตลอด ไม่กล้าไปไหนมาไหนกับใครตามลำพัง สองต่อสองถ้าจะไปจะต้องมีเพื่อนไปเป็นกลุ่ม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมากาวได้ย้ายที่ทำงานใหม่มาอยู่ที่ท่าเรือคลองเตยกาวกลับบ้านค่ำเกือบทุกวัน เพราะบ้านของผมอยู่บางแคพอเลิกงานก็ต้องรีบขึ้นรถกลับบ้าน เดินทางอย่างนี้มาโดยตลอด และระวังตัวตลอดจะไม่กลับบ้านดึกถ้ากลับดึกก็จะนั่งแท๊กซี่เข้าบ้านตลอด เส้นทางคลองเตยไปที่พัก เป็นถนนสายใหญ่ไม่มีไฟมันเลยมืดและต้องต่อรถเมย์ถึง2 กว่าถึงจะถึงบ้านได้และเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่จะทำให้ผมต้องติดใจจนถึงทุกวันนี้เพราะไอ้ชั่วจับกังที่ท่าเรือคลองเตยที่พวกมันทำให้ผมต้องมีมลทินในวันนั้น แล้วเป็นวันเงินเดือนออกด้วยครับ เพื่อนๆคนอื่นก็มีนัดหมายกับแฟนๆและครอบครัวส่วนที่ยังไม่มีครอบครัวก็จะไปหาร้านอาหารดื่มกินกันเป็นประจำส่วนตัวผมนั้นต้องมานั่งทำงานปิดบัญชีสิ้นปีอยู่คนเดียวเพราะทำงานไม่ทันเพื่อนที่ทำงานบัญชีอีกคนก็ลาคลอด งานทั้งหมดก็หนักอยู่ที่ผมคนเดียววันนั้นผมเร่งทำงานในช่วงกลางวันอย่างเร่งรีบ โดยที่ไม่ไปพักทานข้าวกลางวันข้างนอกบอกเพื่อนว่าต้องรีบปิดบัญชีให้หมดเพื่อจะได้ไม่กลับบ้านดึกมาก ผมนั่งทำงานจนลืมเวลาไปเลยว่านี้กี่โมงแล้ว พอทำงานเสร็จรีบเก็บข้าวของและหันไปดูนาฬิกาเป็นเวลา3 ทุ่มครึ่งแล้ว ผมกำลังจะเดินออกจากบริษัท ฝนก็ตกลงมาอย่างหนักผมก็มองหายามที่เฝ้าบริษัท แต่ก็ไม่เห็น ผมคิดว่ายามคงจะไปกินเหล้ากับเพื่อนยามแถวโกดังท่าเรือแน่ผมก็บ่นยามในใจว่า ...ถ้าเกิดขโมยเข้ามาลักทรัพย์แล้วจะทำอย่างไรว่ะ... ยิ่งในบริษัทมีของมีค่าหลายอย่าง ผมก็นั่งรอให้ฝนหยุดตก ยิ่งนั่งรอนานเท่าไหร่ฝนก็ยังตกอยู่และยิ่งแรงขึ้นแรงขึ้นและอยู่ดีดีผมก็ได้ยินเสียงฟ้าผ่าลงมาหลังตึกถัดไป จนทำให้ไฟฟ้าดับทั้งตึกผมคิดว่าเดี๋ยวก็ติด เพราะเคยเป็นอย่างนี้ประจำ แต่ครั้งนี้ไม่เป็นอย่างนั้นผมกลัวก็กลัว จะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ฝนตก ผมนั่งอยู่ในห้องแอร์พอไฟดับอากาศในห้องก็อบอ้าว ร้อนหายใจไม่ออก ผมจึงเดินไปเปิดหน้าต่างออก 1 บาน ทางด้านหลังบริษัท เป็นห้องที่ผมทำงานอยู่ และผมก็มองออกไปที่รั้วเห็นเงาคนอยู่ที่รั้ว ผมก็นึกว่ายามบริษัท จึงตะโกนถามว่านั้นยามใช่ป่าว เสียงฝนก็ดังผมได้ยินเสียงตอบกลับมาแว่วว่าใช่ แต่เสียงแปลกๆ ผมคิดว่าคงกินเหล้ามากจนเสียงแหบสักครู่คนที่ผมคิดว่าเป็นยามก็เดินเข้ามาถึงตัวผม เมื่อผมมองไปที่รูปร่างหน้าตาที่ไม่คุ้นหน้า ผมถึงกับตกใจแทบเป็นลม พวกมันก็คือจับกังที่ทำงานอยู่ที่ท่าเรือนี้เองซึ่งทุกครั้งที่ผมเดินผ่านก็จะถูกพวกมันแซวอยู่เป็นประจำ และผมก็ยังด่าพวกมันกลับไปตลอดแต่ในคืนนี้พวกมันมากัน2คน ผมไม่อาจเดาได้ว่าพวกมันจะเข้ามาทำอะไรแต่ที่แน่ๆ ถ้าคืนนี้ผมหนีมันไม่พ้น ก็ต้องโดนมันรุมโทรมแน่ๆ พอไอ้คนที่ชื่อสมมันกระชากเสื้อผมจนล้มกลิ้งแล้วมันก็ด่าว่าไอ้สัตว์มึงจะหนีกูไปไหน ยังไงคืนนี้มึงต้องเป็นเมียพวกกูอยู่ดีๆถ้าไม่อย่างนั้นตาย มันยิ่งพูดอย่างนี้ผมยิ่งกลัวมากขึ้น ผมตะโกนร้องดังๆเท่าไหร่ก็ไม่มีใครได้ยินเสียงผมพวกมันลากตัวผมเข้าไปในห้องทำงาน พวกมันช่วยกันกวาดกองเอกสารบนโต๊ะลงกับพื้นและอุ้มตัวผมขึ้นไปบนโต๊ะ แล้วไอ้สมมันก็รูดซิบกางเกงสีดำของผมออกและดึงออกโยนไปกับพื้นห้องแต่ผมมองไม่เห็นเพื่อนมันอีกคนว่ากำลังทำอะไรอยู่ รู้แต่ว่าไอ้สมมันกำลังขยำนมผมอย่างแรงจนผมร้องออกมาจนแทบไม่มีเสียงและร้องขอให้ปล่อยตัวผมไป ผมก็พยายามดิ้นหนีมืออันสากดำของไอ้สมและใช้เท้าถีบมัน ไอ้สมมันเลยตะคอกใส่ผมและตบเข้าที่หน้ายังจังจนเลือดซิบแล้วมันก็กระชากเสื้อ มันก็เอาขึ้นมาดมและยังกระซิบข้างหูผมว่าขนาดเปียกอย่างนี้ยังหอมอยู่เลย แล้วตูดของมึงจะหอมขนาดไหนยังพูดไม่ทันขาดคำมันก็ดึงกางกางในตัวจิ๋วของผมติดมือมันขึ้นมาดมและเอามายัดใส่ปากผม สักพักผมไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรที่อยู่ในปากผมมีกลิ่นเหม็นคาวมากและเค็ม ผมได้กินแล้วแทบอ๊วก ไอ้สมมันบอกว่าของมึงเองไม่อมอย่างนั้นมึงอมของกูแล้วกัน แล้วอยู่ดีๆไฟฟ้าก็สว่างขึ้นจนทำให้ผมตกใจยิ่งกว่าเดิม เมื่อสิ่งที่ฉันเห็นมันเป็นไอ้สมยืนเปลือยอยู่ที่ขอบโต๊ะแต่ไม่เห็นเพื่อนมันอีกคน แล้วไอ้สมมันก็เข้ามาเลียตามตัวผม จนผมรู้สึกขยะแขยงผมก็พยายามดิ้นให้พ้นมันให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ แถมมันยิ่งโมโหมากขึ้นด้วย จนมันต่อยเข้าที่ท้องน้อยอย่างแรงจนผมจุกหมดแรงต่อสู้ มันจึงจับขาผมถ่างออก แล้วก็หัวเราะ แล้วพูดว่า มาเป็นเมียพี่สมเสียเถอะที่รักแล้วมันก็ยัดท่อนเนื้อสีดำ ขนาดเท่ากับกระบอกไฟฉายผมร้องบอกว่าเจ็บให้เอาออกและข่วนหลังมันจนหนังติดเล็บ แต่มันก็ยังไม่หยุด มันยิ่งกระแทกท่อนเนื้อของมันอย่างไม่ปราณีเข้าไปอีกจนมิดท่อนเนื้อเจ็บมากครับ เหมือนร่างจะแตก พอมันเริ่มชักเข้าชักชักออกจนน้ำของมันแตกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้และมีเลือดไหลออกมากับน้ำรักด้วย ยิ่งทำให้มันหึกเหิมไปใหญ่แล้วมันก็พ่นน้ำรักใส่ผมจนล้นออกมาเปื้อนโต๊ะทำงานมันก็ชักท่อนเนื้ออกมาถูที่หน้าอกผมจนแฉะไปหมด แล้วมันก็เรียกเพื่อนมันว่าหาเจอหรือยังเพื่อนมันก็เดินออกมาจากห้องผู้จัดการพร้อมกับขวดน้ำอดลมขวดเล็ก1ขวด และเดินแก้ผ้ามายังผม และผมเหลือบมองไปที่ท่อนเนื้อของมันที่มีสีดำมันเหมือนกับไอ้สมแต่ใหญ่กว่าและรอบท่อนเนื้อมันมีเม็ดตุ่มๆขึ้นรอบท่อนเนื้อของมัน ผมคิดว่ามันเป็นโรคแน่ๆผมจึงบอกให้มันใส่ถุงยางเถอะเดียวผมติดโรค โดนพวกมันข่มขืนแล้วยังมาติดโรคอีกก็ตายเสียดีกว่าผมบอกพวกมันอย่างนั้น มันก็บอกว่ากูไม่ได้เป็นโรคเว้ย ที่มึงเห็นมันเรียกว่า มุกกูอุสาห์ฝั่งไว้ตั้งนานแล้วยังไม่เคยใช้กับใครเลย มึงเป็นคนแรกที่ลิ้มลองของกูไอ้สมมันก็บอกกับเพื่อนมันว่า มันจะรับไหวหรือขนาดมึงไปเที่ยวกระหรี่ขนาดกระหรี่โคกใหญ่ๆ มันยังร้องลั่นห้องเลย แล้วไอ้นี่มันยังใหม่ พึงโดนกูไปทีเดียวเดี๋ยวตูดมันก็พังหมดหรอกเพื่อนของไอ้สมมันไม่สนใจ มันก็เอาขวดน้ำอัดลมในมือมันดันเข้ามาในรูของผมแต่มันก็เข้าง่ายเพราะเมื่อกี้โดนของไอ้สมนำร่องแล้วยังไม่หุบเลยแล้วมันก็ชักเข้าชักออกอย่างเร็วจนผมเสียวไปหมดแล้วจึงร้องบอกมันว่าอย่าแกล้งผมเลย ปล่อยผมไปเถอะ มันก็บอกว่าเดี๋ยวกูปล่อยแน่ แต่ขอพวกกูสนุกกันอีกคนละ2รอบ ผมถึงกับตกใจ นี้ขนาดของมันยังไม่เข้าเลยมันจะเอาอีกหลายรอบแล้วมันก็ดึงขวดน้ำอัดลมออกและฉีกขาผมออกจนกว้างไม่เหลืออะไรอีกเลย เพื่อนไอ้สมมันก็จับท่อนเนื้อของมันดันเข้าตูดผมยังไม่เข้าไปข้างในแค่จ่อไว้ที่ปากถ้ำ ผมก็กลัวจนตัวเกร็งจนไม่อยากจะคิดอะไรแล้วมันก็ดันท่อนเนื้อที่ฝังมุกไม่รู้กี่เม็ดเข้ารูผมทีเดียวมิดด้ามจนสุดแบบไม่ปราณี ผมถึงกับตะโกนร้องลั่น ว่าแหกแล้วตูดกู เอาออกๆๆๆๆๆๆๆ กูเจ็บบบบบมันก็ได้ใจชักเข้าชักออกอย่างเมามัน เม็ดมุกที่มันฝังไว้มันครูรูดรูตูดผมอย่างแสบๆคันๆจนผมทนไม่ไหวขมิบตูดโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังมีอารมณ์ร่วมกับมันไปด้วยมันเอาอย่างนี้จนน้ำแตกแต่ของมันยังไม่ออก ตูดผมก็ทั้งร้อนทั้งเจ็บ เกือบ10 นาทีมันก็ชักท่อนเนื้อของมันออกมาที่หน้าผมและพ่นพิษใส่หน้าผมมากมายหลังจากนั้นผมก็ไม่มีแรงที่จะสู้มันพวกมันก็ผลัดกับหมุนเวียนอยู่กับตูดผมอยู่เกือบเช้าและมันจึงปล่อยผมมันขู่ผมว่าอย่าเอาเรื่องนี้ไปแจ้งตำรวจหรือใครๆรู้ ถ้าแจ้งมันจะกลับมาฆ่าผมหลังจากวันนั้นมาผมก็ไม่กล้าไปทำงานที่นั้นอีกและขอลาออกไปอยู่ต่างจังหวัดอื่นทันที
% w2 N7 {# M' t+ \0 j. z
/ |1 d: K ` H( c2 |1 Y
* U% l: Y% n5 L
' a( F' U+ m- A! O( p3 V
. Q& \+ A+ r4 R5 ^( f3 t0 u: d O
|