ตอนที่ 2 หลังจากวันนั้นทุกอย่างก็เหมือน ๆ เดิม ครับ ต่างกันตรงที่ใจผมไม่เหมือนเก่าครับ เพราะ "สวรรค์อยู่ที่อก นรกอยู่ที่ใจ" จริงมั๊ยครับ ก็กลัวๆ เพื่อนมันรู้ว่าเราเสร็จแฟนมันแล้ว (เอ๊ะ! หรือแฟนมันเสร็จเราแล้วกันแน่) เพราะพวกเราสนิทกันมาก โดยเฉพาะตอนสิ้นเดือนซึ่งตามปกติพวกเราจะกินเลี้ยงกัน เป็นประจำทุกเดือน ก็เฮฮากันตามประสาเพื่อนๆ (รวมแฟนของเพื่อนด้วย) แต่ผมก็พยายามเลี่ยงๆ ไม่อยากพบกับ นายพี เพราะผมเป็นคนโกหกไม่ค่อยเก่ง หนิงมันก็แปลกๆ ใจเหมือนกันนะครับที่ตามปกติ ผมจะยิ้มแย้มเล่นหัวกับแฟนมัน แต่พักหลังๆ ผมไม่ค่อยพูดกับแฟนมันเท่าไหร่(ก็จะให้พูดอะไรล่ะแก โดนไปตั้งดอกเบ่อเร่อ) มันก็ทำเป็นทีเล่นทีจริง ลองอ้อมๆ ถามนายพี ว่าไปพูดอะไรให้ผมโกรธหรือเปล่า แต่นายพีก็เอาแต่หัวเราะ ปากก็บอกว่าไม่มีอะไร ผมก็ตอกย้ำให้หนิงหายสงสัยว่าพวกเราไม่มีอะไรในกอไผ่ จริงๆ นะ เป็นเพราะว่าช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องคิดนิดหน่อย หนิงจึงเลิก เซ้าซี้ นายพีดิครับพอลับหลังยัยหนิง ก็ยักคิ้วให้ผม แล้วก็เลียริมฝีปากแบบกวนๆ ผมก็หยิวๆ เหมือนกันนะ แต่พยายามไม่สนใจ "เมื่อไหร่ กฤษจะมีเวลาให้ผมบ้างเนี่ย" "บ้าแล้วนายน่ะ เดี๋ยวหนิงก็........." ผมยังพูดไม่ทันจบ ยัยหนิงก็กลับมาพอดี เราเลยไม่ได้พูดไรกันอีก จนผ่านไปเกือบปี ผมก็ได้งานใหม่ แต่ผมกับเพื่อนๆ คนอื่นก็ยังติดต่อกันเป็นประจำ ก็ยังไปกินเลี้ยงกันเป็นประจำทุกเดือน และทุกครั้งที่เจอหน้า นายพีจะชอบยักคิ้วให้ผม ตางี้ โค-ตร เยิ้มเลย ไม่อยากคิด "แฟนเพื่อนนะท่าน" ผมก็บอกตัวเองในใจ จนวันนึงยัยหนิงก็มาชวนผมไปเที่ยวชะอำ เพราะทางบริษัทจัดรถท่องเที่ยวให้พนักงาน ได้ไปเที่ยว และพนักงานหนึ่งคนพาเพื่อนไปได้อีก 1 คน ส่วนน้องที่ทำงานอีกคนไม่มีเพื่อนไปด้วย ยัยหนิงก็เลยให้ชวนผม เพราะหนิงมันรู้ดีว่า เรื่องเที่ยวผมไม่เคยเกี่ยง ผมก็ตอบตกลงตามประสาคนชอบเที่ยวดิครับ และพอได้ฟังว่าต้องตื่นแต่เช้าและต้องไปนอนห้องยัยหนิงอีกผมก็หน้าเจื่อน ก็ไม่อยากให้เรื่องอย่างว่าเกิดอีกดิครับ ถึงจะมันส์ แต่มันไม่สบายใจ เผลอๆ ยัยหนิงมันรู้ขึ้นมาล่ะเสียเพื่อนแน่ๆ ผมปฏิเสธทันทีครับ บอกว่าจะตื่นแต่เช้าให้ได้ แต่ยัยหนิงมันรู้ครับว่าผมนอนขี้เซา มันก็ดักคอผมซะก่อน "ถ้ารอแกตื่นฉันก็ตกรถกันพอดี รถออก 6 โมงเช้านะแกไม่ใช่ 6 โมงเย็น ไม่ต้องพูดมากเก็บเสื้อผ้าแล้วมานอนห้อง ฉันคืนนี้ แล้วก็ไม่ต้องต่อรองอะไรอีก แค่นี้นะ" "..................?" มันวางสายก่อนที่ผมจะพูดอะไรได้อีก โอ้ยๆๆๆๆๆ ผมตายแน่ๆ เลยคราวนี้ผมคิดในใจ ผมรู้สึกอยู่ลึกๆ ในใจว่ามันต้องเกิดแน่ๆ ไอ้เรื่องแบบนี้ แล้วนี่ถ้าไม่ไปยัยหนิงโกรธตายเลย ยัยคนนี้มันยิ่งเป็นคนรักษาคำพูดอยู่ด้วย และในขณะเดียวกันก็เกลียดคนพูดไม่จริง ด้วยดิ แต่ผมก็ต้องไปครับ เป็นไงเป็นกัน ผมไปถึงห้องยัยหนิงตอนเกือบ 1 ทุ่ม เพราะผมเลิกงาน 5 โมงเย็น ส่วนยัยหนิงเลิกงาน เกือบ 4ทุ่ม พอถึงห้อง พล น้องของพีก็เปิดประตูผมก็พอรู้จักกับพลบ้างแต่ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ เพราะพลไปๆ มาๆ ระหว่างห้องของพี กับบ้านของพี่ชายอีกคน แต่วันนี้พลมีสายตาแปลกๆ ดูมีเลศนัยชอบกล พลเรียนอยู่ ปวช.2 เทคนิค หน้าตาคล้ายๆ กับพี แต่คล้ำกว่า และตัวเล็กกว่า "หวัดดีพี่กฤษ..." "อ้าววันนี้ พลนอนกับพีเหรอ..." "ครับพอดีวันนี้อยากมานอนกับพี่พี...พี่พีชวนมากินเหล้า...บอกว่ามีเรื่องสนุกๆ..." หางเสียงแปลกๆ ผมคิดมากไปป่าววะ พอเข้าไปในห้องนายพีก็กำลังดวดเหล้าอยู่พอดี พอเห็นผมนายพีก็ยักคิ้ว(อีกแล้วครับ) "ว่าไงที่รัก...มาเหนื่อยๆ ดื่มหน่อยไหม..." มันก็ยังปากไวเหมือนเดิมครับ "ไม่เอา...ไม่ชอบกินเหล้านายก็รู้นี่" "ใช่ๆ ที่รักไม่ชอบกินเหล้าเพราะชอบ...กินไอติมไง..." แล้วนายพีกับนายพลก็หัวเราะกันยกใหญ่ ดูท่าทางนายพลก็คงจะรู้เรื่องแล้วแน่ๆ ผมว่า มิน่า พูดจาแปลกๆ "พี่กฤษไม่ลองกินหน่อยเหรอครับ ดื่มเป็นเพื่อนกันมันดี!!!.." แล้วสองคนก็หัวเราะคำรบสอง อย่างกวนส้นน่ะครับ และพอเห็นสีหน้าผมไม่เล่นด้วยนายพี จึงหยุดเห่า เข้ามาโอบผมไปนั่งแล้วรินโค๊กให้แก้วนึง "ขอโทษคร้าบ...ก็หยอกที่รักเล่นแค่เนี้ยเอง...นะๆๆ ...อย่าโกรธนะคนดี.." "นายพูดอะไรก็อายน้องมันหน่อยดิ" ผมชักยั๊ว คิ้วเริ่มขมวดเป็นเส้นขนมจีน เพราะตอนนี้หิวข้าวมากด้วย "อายมันทำไมไอ้พล...มันรู้แล้วว่าเรากะกฤษน่ะแลกเปลี่ยนน้ำเชื้อกันมาแล้ว...ไม่มีอะไรต้องปิด...จะปิดก็แต่หนิงเท่านั้น..." "................." ผมพูดไม่ออกครับ พี่น้องคู่นี้มันนิสัยเหมือนกันจริงๆ แม้แต่เรื่องอย่างนี้ก็เล่าให้กันฟังไม่อายปาก "ไม่เป็นไรหรอกน่าพี่กฤษ มันไม่เห็นแปลก แต่ถ้าจะให้ดีถ้าอยากให้ผมเงียบๆ พี่ช่วยสงเคราะห็ ผมอีกคนได้ไหมครับ..." "ถ้ายังพูดเล่นอีกเรากลับแล้วนะ ยิ่งหิวข้าวอยู่ด้วย..." ผมระอาสุดๆ เลยครับ เมื่อมาอยู่ท่ามกลางพี่น้องกวน ทีน แบบนี้ "โอเคๆ เดี๋ยวให้ไอ้พลมันลงไปหาซื้ออะไรมาให้กิน...ที่รักใจเย็นๆ นะ..." แล้วพลก็ลงไปซื้อกับข้าว พอเหลือผมกับพี เขาก็เริ่มออกลวดลาย เข้ามาโอบกอดผม แล้วหอมแก้ม มือไม้ก็เริ่มเคล้นตามตัวผม "พี...ไม่เอา...มันไม่ดี...นายไม่สงสารหนิงบ้างเหรอ.." "พูดถึงหนิงทำไมเล่า...พีรู้นะว่ากฤษก็ยังไม่ลืมเรื่องคืนนั้น " แล้วพีก็จูบปากผม ผมก็เริ่มมีอารมณ์แล้วล่ะครับ ยิ่งไม่มีใครมาขัดขวางด้วยแล้ว อีกอย่างก็เป็นอย่างเขาว่านั่นแหละ ว่าผมไม่เคยลืมเรื่องคืนนั้นเลย เราแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน เหมือนคนตายอดตายอยาก แล้วพีก็ถอดกางเกงบอลออก งัดขอให้รวยหัวบานแดง ให้ผมดูดโดยที่ผมนอนหงายแล้วเขาก็จัดการกระเด้าขอให้รวยลำใหญ่เข้าปากผม ไวเป็นลิง พอได้เห็นจะๆ ผมก็ถึงกับมีอารมณ์ร่วมอย่างมากเพราะวันนั้นเห็นไม่ค่อยชัด แต่วันนี้เห็นชัดเจนเลยว่าขอให้รวยของเขาทั้งหัวบานเป็นดอกเห็ด ทั้งท่อนเอ็นก็ใหญ่ยาว พีดูจะมีอารมณ์มากๆ ครางเสียงดังลั่นห้อง เอวก็ซอยพับๆ สวนลำขอให้รวยเข้ามาในปากผม จนบางคั้งผมเกือบสำลักท่อนลำอันใหญ่ของพี แล้วเขาก็ถอดกางเกงผมออกแล้วพีก็นอนหงาย ขอ ให้รวยตั้งเป็นลำ แล้วพีก็ให้ผมขึ้นนั่งแล้วกดเอวผมให้ตรงขอให้รวยของเขา แม้ว่าจะใส่ครีมวาสลีน เพื่อหล่อลื่นแต่ผมก็ไม่ได้ให้ใครเอามานานเต็มที มันจึงเข้าค่อนข้างยาก จนผมเจ็บจนครางออกมา นายพีก็ประกบปากผมเพื่อให้ผมคลายความเจ็บ พอเข้าสุดลำพีก็กดเอวผมให้ขย่มขอให้รวยเขา เป็นจังหวะจากช้าๆ ก็เริ่มกระเด้า สวนเร็วขึ้นๆ "อ้า!......มันฉิบหาย....ซี้ดดดด! .....ขย่มลงมาแรงๆ ...นั่นแหละ..ๆๆ" ผมก็เริ่มมันจึงตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่ มือก็ขยำอกแน่นๆ ของพีอย่างแรงตูดก็ขย่มๆๆ แล้วพีก็เปลี่ยนท่า ให้ผมคลานโดยที่ขอให้รวยไม่หลุดออกมาจากตูดผมเลย พอเขากระเด้าเองใจผมจะขาดรอนๆ ซะให้ได้ครับ เขาซาดิสม์นิดๆ มีจิกผมด้วยแต่ไม่แรงมาก ฟันก็ขบที่ติ่งหูและลำคอเล่นเอาผมยิ่งมันไปกันใหญ่ ไม่อยากเชื่อว่าหนุ่มใต้จะมีลีลาเด็ดขาดขนาดนี้ และในขณะที่ผมกำลังถูกอัดตูดอย่างเอาเป็นเอาตาย นายพลก็กลับมาพร้อมกับข้าวถุงใหญ่ ผมอายมาก แต่พีไม่ยอมหยุด "ไม่เป็นไรน่า กำลังมัน..." แล้วพลก็ไม่พูดมากครับถอดกางเกงบอลออก แล้วเอาขอให้รวยขนาดไม่เป็นรองพีมาให้ผมดูด "
9 q/ }* @% v4 V$ t' K |