“ปื้น ๆๆ ปื้น ๆๆ นี่มันเสียงแตรรถ” จิตสำนึกของชายหนุ่มที่กำลังนอนนิ่งอยู่นั้นได้ยินเสียงอึกทึกของล้อรถที่บดขยี้ไปกับพื้นถนนที่ขรุขระเนื่องจากมีการก่อสร้างปรับปรุงทางใหม่ฝุ่นควันคละคลุ้งไม่อาจกลบเสียงแตรที่บาดหูได้ ไม่รู้จะบีบจะกดอะไรกันนักหนา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเสียงแตรนั้นช่วยอะไรไม่ได้ นอกเสียจากจะทำให้บรรยากาศแย่ลงไปอีก “ปิ๊ด ๆๆปื้ดดดด...นั่นมันเสียงนกหวีดจากปากผมเอง แต่มันก็ช่วยอะไรไม่ได้รถมันติดแทบไม่ขยับเลย” หนุ่มน้อยจราจรนอนบ่นพึมพำอย่างไร้สติบนโซฟาสีเขียวอ่อนซึ่งเป็นที่รองรับความเครียดให้คลายอารมณ์คลั่งในส่วนลึกของจิตใจเขาเดินทางมาพบกับจิตแพทย์หนุ่มตามคำแนะนำของเพื่อนหลังจากที่พอจะรู้ตัวว่าเขาเครียดกับงานจนไม่มีเวลาหรืออารมณ์เป็นของตัวเอง “คุณพตคุณเป็นแค่ตำรวจจราจร คุณทำหน้าที่ของคุณอย่างดีที่สุดแล้ว คุณก็รู้ รถมันมากถนนมันน้อย ยังไงมันก็ต้องติด หรือคุณปล่อยให้รถทุกทางแล่นไปพร้อม ๆ กันได้ไม่มีใครทำได้หรอก” จิตแพทย์พูดเนิบนาบ “แต่ผม...ผมเป็นตำรวจจราจรนะครับ” นายตำรวจหนุ่มผู้รักหน้าที่ยืนยันถึงสิ่งที่เขาพยายามทำ “ใช่ คุณเป็นตำรวจจราจรคุณไม่ใช่เทวดา” บางครั้งหมอหนุ่มรูปหล่อก็ใช้วิธีการโต้แย้งไปพร้อม ๆ กับการชี้แจงเหตุผลเพื่อคนไข้จะได้มีระบบความคิดที่ไม่หลงไปสะเปะสะปะหากบางครั้งก็ปล่อยให้คนไข้ได้ระบายออกถึงปัญหาที่เขาประสพมาเพื่อให้ความเครียดนั้นเบาบางลง หรือหมดไปอย่างง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียแรงเลยสักนิด ปัญหาสุขภาพจิตที่หมอได้พบเห็นจากคนไข้นั้นมีทั้งปัญหาเล็ก ๆ ที่ดูเหมือนไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่บางปัญหานั้นสลับซับซ้อนเป็นปัญหาที่ซ่อนอีกปัญหาหนึ่งไว้ภายในที่ลึกล้ำกว่าจะขุดคุ้ยถึงต้นตอนั้นได้ก็เล่นเอาปวดหัวจนจะกลายเป็นอีกปัญหาของหมอไปเสียเองแต่รายนี้ปัญหาเริ่มต้นนั้นเกิดมาจากความเครียดจากหน้าที่การงาน นำไปสู่ความรู้สึกอึดอัดไม่แน่ใจในวิถีชีวิตของตนเองจิตแพทย์หนุ่มมีหน้าที่ที่จะค้นหาสาเหตุที่แท้จริงแล้วนำมาแก้ไขจิตแพทย์เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง “คุณพต คุณเป็นใคร” หมอหนุ่มถามเบา ๆด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม “ผมเป็นตำรวจจราจร” หนุ่มพตตอบกลับมาเบา ๆเหมือนกำลังละเมอ “ใช่แล้วคุณเป็นตำรวจจราจร แล้วคุณมีอะไรจะเล่าให้ผมฟังไหมล่ะเกี่ยวกับการเป็นตำรวจจราจรของคุณน่ะ” “มีสิครับ ก็วัน ๆมีแต่ปัญหา ไหนจะควันพิษที่ผมต้องสูดดมเข้าไป ไหนจะแดดที่ร้อนเปรี้ยงในตอนกลางวันแถมรถก็ติด เสียงแตรก็เหลือเกินดังจนแสบแก้วหูเสียงนกหวีดที่ผมต้องเป่าให้สัญญาณอีกล่ะ ผมจะทนไม่ไหวแล้ว” “ใช่เมื่อคุณเป็นตำรวจจราจร หน้าที่ของคุณหนักหนาอยู่ คุณก้มดูสิว่าคุณอยู่ในชุดอะไร” “อย่าหลอกผมเลยผมอยู่ในชุดตำรวจจราจรอยู่” “นั่นมันแค่เปลือกนอกเท่านั้นคุณพตถ้าคุณถอดเสื้อผ้าของคุณออก คุณก็จะเป็นชายหนุ่มธรรมดา ๆ คนหนึ่งคุณรู้ตัวหรือเปล่าว่า คุณไม่ได้ใช้วัยหนุ่มของคุณให้คุ้มค่าเลยนะ” “นั่นสิ....วัยหนุ่มของผมอยู่ไหน” หรือนี่คือปัญหาที่แท้จริงที่จิตแพทย์กำลังชี้ให้เขาเห็น “อยู่นั่นไงอยู่ตรงกึ่งกลางกายของคุณ” “อย่ามาล้อผมเล่นเลยผมไม่เชื่อหรอก” “ทำไมคุณถึงไม่เชื่อในเมื่อมันก็มีอยู่ให้คุณเห็นให้คุณได้สัมผัสเมื่อคุณต้องการผ่อนคลาย และใช้ชีวิตที่แท้จริง” “แต่มันอยู่ในชุดทำงานของผมนะผมต้องทำงาน” “ก็ถอดมันออกเสียสิ” จิตแพทย์หนุ่มเชิญชวน “ถอดออก....” พตพึมพำเบา ๆอย่างไม่แน่ใจในความรู้สึก แต่ด้วยความต้องการหลุดพ้นจากปัญหาหน้าที่การงานหนุ่มจราจรค่อย ๆ รูดซิปกางเกงออกอย่างช้า ๆ เขาไม่รู้ตัวหรอกว่ากำลังทำอะไรลงไปรู้เพียงแต่ว่าเมื่อได้ทำแล้วจิตใจของเขาเริ่มถูกปลดปล่อยจากความเครียดที่เขาได้รับจากท้องถนน ซิปกางเกงถูกปลดปล่อยเผยให้เห็นชุดชั้นในสีขาวสะอาดที่ถูกท่อนลำหยุ่นขนาดเขื่องของเจ้าของดันอยู่มันท้าทายสายตาของหมอหนุ่ม “นั่นแหละ อย่างนั้นคุณทำถูกต้องแล้ว” จิตแพทย์หนุ่มยิ้มที่มุมปากเมื่อเล่ห์แรกสำเร็จเขาคิดต่อไปว่าจะต้องทำอย่างไรให้หนุ่มพตคนนี้ตกเป็นของเขาในห้วงแห่งอารมณ์ฝันให้ได้นั่นเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา “ดีแล้ว...ที่นี้คุณบอกซิว่าคุณรู้สึกยังไงบ้าง” “สบายดีครับมันเหมือนกับมีบางสิ่งกำลังหลั่งไหลออกไปจากแก่นกลางกายของผม” “ยังหรอก มันยังไม่ถึงขนาดนั้นแต่ผมก็ดีใจนะที่คุณรู้สึกได้อย่างนั้น” หมอหนุ่มอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมหนุ่มพตถึงรู้สึกได้ลึกขนาดนั้น ทั้ง ๆที่มันเป็นเพียงบทเริ่มต้นเท่านั้น “เอาล่ะ ทีนี้คุณบอกสิว่าคุณรู้สึกอึดอัดที่ส่วนใดบ้าง บอกผมช้า ๆ ไม่ต้องรีบร้อน ช้า ๆ ช้า ๆ” “หน้าอก ผมอึดอัดครับ มันมีตราโล่ห์เหล็กมันเหมือนกดทับที่หัวใจผมตลอดเวลาที่ผมต้องปฏิบัติหน้าที่” “ใช่แล้วผมเห็นด้วยกับคุณ แต่ปัญหามีอยู่ว่าคุณอยากจะละทิ้งสิ่งเหล่านั้นหรือเปล่าล่ะ” “โถ...ผมอยากจะขว้างมันไปให้พ้นๆ แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ มันต้องติดบนเสื้อของผมอยู่ตลอดเวลาและทุกครั้งที่ผมมองมัน มันก็คือเครื่องหมายแห่งความสำเร็จของผม” “คุณเข้าใจผิดแล้วคุณพตมันเป็นเครื่องหมายที่กดทับหัวใจคุณต่างหาก แน่นอน...คุณจำเป็นต้องมีสิ่งนั้นแต่มันไม่ใช่ตลอดเวลาหรอกนะ ตอนนี้คุณจะถอดมันออกก็ได้ มีเพียงผมกับคุณเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้” “ถอดออก...ไม่...ไม่...ถ้าผมจะถอดผมขอเพียงแค่ปลดปล่อยกระดุมเสื้อแล้วให้หน้าอกของผมได้มีอิสระบ้างเท่านั้น” “ได้สิถ้าคุณต้องการอย่างนั้น ในเวลานี้ผมอยากบอกคุณว่า คุณจะทำอะไรก็ได้ที่คุณอยากทำหลุดพ้นจากความวิตกกังวลเพราะมีเพียงแค่เราสองคน จำไว้...แค่เราสองคน” “แค่เราสองคน....” ชายหนุ่มนอนพึมพำแทบไม่ได้ยินแต่จิตแพทย์หนุ่มก็รู้ความหมายดี จราจรหนุ่มปลดกระดุมเสื้อของตนเองทีละเม็ดแล้วแบะเสื้อออกเผยให้เห็นหน้าอกแกร่งสมกับเป็นชายหนุ่มที่ได้รับการฝึกฝนสมรรถภาพร่างกายมาอย่างดี “เป็นไงบ้าง...รู้สึกดีขึ้นแล้วใช่ไหม” “ครับ...เหมือนกับว่าผมได้หายใจเต็มปอดอีกครั้ง” “เอาเลยพ่อหนุ่ม...หายใจให้เต็มที่ช้า ๆ ช้า ๆ สูดให้เต็มปอด” หน้าอกของชายหนุ่มกระเพื่อมขึ้นลงช้าๆ ตามแรงหายใจ หัวนมสีชมพูเม็ดงามสองเม็ดชูเด่น” “ใช่แล้ว....อย่างนั้นแหละถูกต้องแล้ว” จิตแพทย์หนุ่มรู้ได้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น นี่อาจจะเป็นสาเหตุแรกที่ทำชายหนุ่มเกิดความเครียดจนชีวิตไม่ปกติแต่เขารู้ดีไปกว่านั้น ความเป็นหนุ่มที่ไม่เคยถูกใช้กับใครน่าจะเป็นสาเหตุที่คนไข้คิดไม่ถึง“มันสลับซับซ้อนเกินไป มิเช่นนั้นจะมีจิตแพทย์ไว้เพื่ออะไรเล่า”จิตแพทย์มองเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า “บอกผมได้ไหมว่าคุณรู้สึกอึดอัดในส่วนใดอีก” “ผมบอกไม่ถูกนะครับผมรู้สึกดีขึ้นแล้ว แต่ผมยังมีบางอย่างที่บอกไม่ได้ ไม่ใช่ผมไม่อยากบอกแต่ผมไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี” “ทำไมล่ะทำไม...ในเมื่อมีแค่เราสองคนเท่านั้นที่จะรู้ และช่วยกันแก้ไข” “แค่เราสองคน” หนุ่มพตพึมพำคำนี้ขึ้นมาอีกครั้ง “เอาล่ะถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะบอกในตอนนี้ ขอให้คุณหลับ หลับ หลับ หลับ ช้า ๆ ช้า ๆ” ชายหนุ่มวนเวียนอยู่ในความคิดกับความเครียดที่เริ่มจะเบาบางลงหลังจากได้ยินเสียง “หลับ....หลับ...ช้า ๆ...ช้า ๆ...”หนุ่มพตก็ดิ่งจิตสู่ก้นลึก จิตแพทย์หนุ่มมองนายตำรวจจราจรอย่างหลงใหลเขาเป็นคนหน้าตาดี เรื่องรูปร่างไม่ต้องพูดถึง หนุ่มวัยนี้ สูง ล่ำสันขนาดนี้มันมีพลังอำนาจที่จะทำให้เรื่องร้อนเกิดขึ้นได้เสมอจิตแพทย์หนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตของตนเองออกช้า ๆ แล้วโยนไปข้าง ๆ เก้าอี้ ส่วนกางเกงนั้นถูกถอดกองอยู่ที่ข้อเท้าเนคไทยังคงค้างอยู่ที่คอ จิตแพทย์หนุ่มคิดพร้อมกับปลุกเร้าตนเองด้วยมือจนแก่นกลางกายพร้อมทำหน้าที่ดับร้อน“เอาล่ะ คงได้เวลาแล้ว” “คุณพต...คุณพตขอให้คุณพูดกับผมอีกครั้ง ช้า ๆ...ช้า ๆ” หนุ่มเครางามเรียกเบา ๆให้หนุ่มพตหลุดจากการหลับลึก “อืม...ครับ...ผมพร้อมแล้วครับ” หนุ่มพตตอบโต้แค่เพียงเบาๆ “เอาล่ะทีนี้คุณบอกผมได้หรือยังล่ะว่าอะไรคือสิ่งที่คุณอยากหลุดพ้น” มันเป็นคำถามง่าย ๆที่เขามักจะใช้กับคนไข้เสมอ ๆ แต่กับรายนี้ เขาเชื่อว่าจะต้องมีอะไรอยู่ลึก ๆเกินปัญหาปกติทั่วไปอย่างที่เขาพอจะเห็นแล้ว “หน้าที่ผมเบื่อมันไม่ประสพความสำเร็จเลย” “ทำไมคุณถึงคิดเช่นนั้น” จิตแพทย์หนุ่มกำลังหาเหตุผลในใจของคนไข้หนุ่มอีกครั้ง “ไม่มีทางที่จะแก้ไขได้ผมช่วยอะไรใครไม่ได้ รถยังติด สภาพแวดล้อมยังแย่และยิ่งจะแย่ขึ้นทุก ๆ วัน” พตเห็นภาพตัวเองในชุดจราจรฟิตเปรี๊ยะที่ชุ่มเหงื่อมือหนึ่งโบก มือหนึ่งห้ามรถอีกฝั่ง แดดแผดร้อนกระทบใบหน้า ในหมวกอับชื้นเหงื่อปากเป่านกหวีดดังปื๊ด ๆ ควันพาลอยเข้าจมูกที่แม้จะมีหน้ากากป้องกัน แต่มันก็ยังทนสภาพเลวร้ายแบบนี้ไม่ได้เขาเห็นตัวเองล้มตัวลงนอนหลับเป็นตายในทุกคืน ตื่นแต่เช้าก็อยู่บนท้องถนนภาพเดิม ๆหมุนเวียนไปมาอย่างยากจะหลีกเลี่ยง “แต่มันไม่ใช่ความผิดของคุรจำได้ไหมที่ผมบอกว่า คุณเป็นเพียงแค่ตำรวจจราจร ไม่ใช่เทวด” “ใช่ครับ แต่ผมไม่อยากเป็นแม้แต่ตำรวจจราจร” “ได้สิ คุณจะหลุดพ้นจากการเป็นตำรวจจราจรเพียงแค่คุณฟังผม” “ครับ ผมจะฟัง” “ถอดชุดที่คุณสวมอยู่โยนมันทิ้งซะ อะไรที่มันอึดอัด รัดแน่น ให้คุณปลดปล่อย แล้วปลดเปลื้องภาระในแก่นกายของคุณออกให้หมดสิ้น” “ครับ ถอด...ถอด” หนุ่มพตถอดชุดของเขาออกทั้งส่วนบนและส่วนล่างจิตแพทย์เริ่มใจเต้นแรงถี่ไม่เป็นจังหวะเมื่อได้เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่างดงามของชายหนุ่มที่กำลังนอนเหยียดยาวบนโซฟาของเขา “ดีมากคุณพต ทีนี้คุณบอกสิว่าคุณรู้สึกยังไง” “ครับ...ผมสบายดีไม่มีอะไรมาทับใจผม ทับกายผมแต่ผมรู้สึกร้อนอยู่ข้างใน...ผมไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร” “มันไม่ใช่หน้าที่หรอกคุณพตมันไม่ใช่การเป็นตำรวจจราจรของคุณสิ่งที่เป็นเปลือกนอกนั้นได้ถูกทำลายลงหมดสิ้นแล้ว เหลือเพียงความเป็นหนุ่มของคุณที่ยังไม่ถูกใช้เท่านั้นที่ทำให้คุณรุ่มร้อนและอัดอั้น” “ความเป็นหนุ่ม...ใช่ครับ...ชีวิตวัยหนุ่มของผมมันหายไปไหน” “มันไม่ได้หายไปไหนเพียงแต่มันอยู่ลึกเกินไป เกินกว่าที่คุณจะหยิบมันออกมาใช้ด้วยตัวเอง คุณต้องการให้ใครสักคนช่วยคุณและตอนนี้ก็มีแค่เราสองคน” จิตแพทย์หนุ่มค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่ชายหนุ่มขาดหายไป “ครับ...แค่เราสองคน” จิตแพทย์หนุ่มลูบไล้หน้าอกแกร่งของชายหนุ่มช้าๆ ทุกอย่างเป็นไปตามคาดหมาย ผู้ควบคุมหนุ่มยังคงพูดเพียงเบา ๆ “ช้า ๆ ช้า ๆผมจะทำให้คุณช้า ๆ ปล่อยตัวตามสบาย ขอให้รู้เพียงว่าคุณกำลังได้ใช้วัยหนุ่มของคุณปัญหาต่าง ๆ กำลังจะถูกปลดปล่อยกับความเป็นหนุ่มของคุณและมีแต่เราเท่านั้นที่จะรู้” “ครับ...วัยหนุ่มของผม” พตพึมพำเกร็งตัวแน่นเมื่อมือที่เร่งเร้าแก่นกายมาถึงจังหวะสุดท้ายในขณะที่อีกมือหนึ่งของหมอหนุ่มนั้นก็กำลังกระตุกแรงกับสิ่งชูชันของตนเองชายหนุ่มทั้งสองปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นออกมาในที่สุดเพียงแต่ว่าคนหนึ่งกำลังรู้ตัว แต่อีกคนนั้นอยู่ในอีกห้วงหนึ่ง “มันไม่มีความหมายอะไรหรอก”จิตแพทย์หนุ่มยิ้มและกระซิบที่ข้างหูของหนุ่มจราจรอย่างแผ่วเบา “ถูกต้องแล้ว มีเราที่รู้จำไว้ว่า แค่...เราสองคน” “ครับ แค่..เราสองคน”
|