ชายรักชาย ตอนนี้เราว่ามันเป็นเรื่องปกติแล้วล่ะ
เพราะมองไปทางไหนเจอผู้ชายก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าเป็นชายแท้รึป่าว
เพื่อนชายของเราส่วนใหญ่ก็ชายรักชายกันเกือบหมด
ทำใจได้แล้วค่ะ
แต่ก็สนุกดีนะค่ะมีเพื่อนต่างเพศที่แตกต่าง
วันก่อนได้ไปโรงพยาบาลเพื่อผ่าฟันคุด
ระหว่างที่นั่งรอคุณหมอ
ก็เห็นแผ่นพับที่สะดุดตามากค่ะ ชายรักชายก็มีสุขภาพดีได้
ก็เลยเอาเรื่องน่ารู้และควรจะรู้มาให้อ่านกันค่ะ
อย่างนี้สิ
เสี่ยงต่อการติดโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรุกหรือฝ่ายรับ
หรือแม้แต่การมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งภายนอก
ล้วนมีความเสี่ยงสูง
เพราะเชื้อโรคเหล่านี้จะอยู่ในเลือดหรือสารคัดหลั่งต่างๆ
เช่น
น้ำอสุจิ การมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
หรือออรัลเซ็กซ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
มีโอกาสสัมผัสกับสารคัดหลั่ง
หรือน้ำอสุจิ
เนื่องจากเยื่อบุในปากมีความบอบบางอาจมีบาดแผลที่มองไม่เห็นที่เชื้อผ่านเข้าไปได้ การมีเพศสัมพันธ์กับคนที่มีสุขภาพดีโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
อาจจะติดโรคเอดส์ได้
เนื่องจากในระยะเริ่มแรกของโรคเอดส์มักจำไม่ปรากฏอาการให้เห็น
แต่สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ การสวนล้างน้ำทางทวารหนักก่อนมีเพศสัมพันธ์
ไม่ได้ป้องกันโรคเอดส์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
แต่อาจทำให้เกิดบาดแผลได้ ทำอย่างไร
ปลอดภัยจากโรคเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์-
การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง -
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการสอดใส่ -
การใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ อย่างนี้ไม่เสี่ยงต่อเอดส์-
การถูกยุงที่กัดผู้ติดเชื้อเอดส์กัด -
การรับประทานอาหารร่วมกับผู้ติดเชื้อเอดส์ -
การสัมผัสหรือถูกเนื้อต้องตัวหรือการจูบปากกับผู้ติดเชื้อเอดส์
มาดูแลสุขภาพทางเพศกันดีกว่า -
ล้างมือและอวัยวะเพศทุกครั้งก่อนและหลังมีเพศสัมพันธ์ -
สวมกางเกงในที่ไม่รัดเกินไป
ไม่อับชื้น
และเปลี่ยนกางเกงในทุกวัน -
ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอเพื่อป้องกันการขีดข่วนถุงยางอนามัย
หรือเยื่อบุภายในทวารหนักขณะมีเพศสัมพันธ์ -
ห้ามใช้สารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมัน
เช่น
โลชั่นทาผิว
น้ำมันพืช
เพราะจะทำให้ถุงยางอนามัยรั่วหรือแตกได้ -
ไม่ควรแปรงฟันก่อนมีเพศสัมพันธ์ทางปาก
เพราะอาจเกิดแผลในปาก
ซึ่งติดเชื้อได้ง่าย
หากไม่ใส่ถุงยางอนามัย -
ตรวจสุขภาพทางเพศอย่างน้อยปีละ
2
ครั้ง
เพราะผู้ที่ติดเชื้อเอดส์หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่มักจะไม่แสดงอาการในระยะแรก
ถ้าสงสัยว่าติดเอดส์ การตรวจเลือดหาการติดเชื้อเอดส์มิใช่การตรวจหาตัวเชื้อเอดส์
แต่เป็นการตรวจหาปฏิกิริยาที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคที่เรียกว่าภูมิต้านทาน
ซึ่งสามารถตรวจพบได้หลังจากรับเชื้อ
6
สัปดาห์ขึ้นไป
ดังนั้นถ้าสงสัยว่าอาจจะติดเอดส์ก็ไม่ควรตรวจเลือดในทันที
ควรตรวจภายหลังจากวันที่สงสัยว่าจะไปติดเชื้อมา
6
สัปดาห์ขึ้นไป ในกรณีที่ผลเลือดเป็นลบ
หมายถึงบุคคลนั้นยังไม่ได้รับเชื้อเอดส์
หรือบุคคลนั้นอาจมีเชื้อเอดส์อยู่ในร่างกายแล้ว
แต่ยังตรวจไม่พบ
เพราะอาจยังรับเชื้อมาไม่ถึง
6
สัปดาห์
***อยากให้เพื่อนชาย
ที่รักชายหรือ
เพื่อนหญิง
ที่รักหญิง
ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ******
|