ผมเป็นทีมงานคนหนึ่งในวงดนตรีลูกทุ่งหมอลำชื่อดังที่สุดในจังหวัดขอนแก่นไม่ต้องพูดถึงว่างานแสดงจะวิ่งชนกันเข้ามาเยอะแยะขนาดไหน จนพวกเราชาววงดนตรีต้อง “เดินสาย”กันจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ถ้าลำพังเดินสายอย่างเดียวน่ะชีวิตก็ดูจะไม่มีอะไรตื่นเต้นนักหรอก ผมจึงถือโอกาส “เดินสาย เดินเซ็กซ์” ไปด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมันเลยเบาบางลงไปเยอะเชียวครับ วันหนึ่งถึงคิวที่เราต้องออกนอกจังหวัดเพราะรับงานเยอะเลยข้ามไปถึงตัวจังหวัดอื่นด้วย เป็นการท้าทายหมอลำเจ้าถิ่นเราจึงเดินทางกันในตอนกลางคืน หลังจากเสร็จงานจากที่หนึ่งแล้ว เวลาตอนนั้นก็ประมาณ3 ทุ่ม เดินทางถึงบ้านที่เราจะแสดงก็ประมาณ 3 โมงเช้าของวันใหม่จึงมีเวลาพักผ่อนกันตลอดทั้งวันก่อนจะถึงงานแสดงในตอนค่ำพวกเราก็จัดแจงเตรียมตัวกันและปรึกษางานกับทีมงานเจ้าถิ่นผู้ว่าจ้างถึงคิวการแสดงต่างๆ พวกเขาหลายคนยังเป็นหนุ่ม ๆ กันทั้งนั้นหาข้าวหาปลามาเลี้ยงรับรองเราเป็นอย่างดี
“มากับหมอลำหรือครับ?” ผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อหนุ่มรูปหล่อในชุดเสื้อกล้าม กางเกงขาสั้น คนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายเนื้อตัวเขาที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้าม มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดเป็นมันเยิ้มผมเพิ่งเห็นเขาปืนติดไฟเวทีอยู่เมื่อสักครู่ เขาคงเป็นทีมของเจ้าของงานนั่นเอง
“ครับ” ผมตอบเขาไป รีบอิ่มและวางจานข้าวในมือลงข้างตัวเพราะไม่อยากเสียโอกาสในการชวนเขาคุยด้วย เขารีบหันไปตักน้ำดื่มมาให้ผมแล้วยื่นให้ด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
“ผมชื่อนอมนะ เป็นลูกบ้านที่จัดงานนี่แหละ” เขาบอกกับผมอย่างนั้นหลังจากเรานั่งลงคุยกัน ผมก็แนะนำตัวผมไป สักพักเมื่อการสนทนาชักออกรสออกชาติเราก็เริ่มคุยกันอย่างถูกคอ นอมเป็นคนหล่อมาก เพิ่งจะพ้นวัยรุ่นมาได้ปีสองปีกล้ามเขาจึงดูเต็มเนื้อเต็มหนุ่ม เสียอยู่นิดที่ผิวคล้ำไปหน่อยเท่านั้นนอมคงสังเกตจากสำเนียงท่าทีการพูดจาและกิริยากรีดกรายของผมตลอดจนสายตาของผมที่มองเป้ากางเกงตุง ๆ ของเขาอย่างไม่เกรงใจเขาจึงถามคำถามผมออกมาตรง ๆ จนผมตั้งตัวไม่ติด
“เป็นกะเทยรึเปล่า? ชอบผู้ชายเหร” ผมอึกอักยังตัดสินใจว่าจะรับดีหรือไม่รับดี ในที่สุดก็ตอบเขาไปว่า “ใช่” เพราะไหน ๆเขาก็ดูผมรู้ ไม่มีประโยชน์ที่ต้องฟอร์มแมน ปิดบังอะไรอีกต่อไปผมคิดว่านอมต้องลุกหนีออกไปแน่เลย แต่ผิดคาดเขากลับมีท่าทางคึกคักขึ้นและขยับเข้ามาใกล้ ๆ กระซิบกระซาบกับผม
“เพื่อนผมนะ มีแต่คนหล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย ควยใหญ่ ๆ ทั้งนั้นด้วยพวกมันชอบกะเทยกัน สนใจบ้างมั้ยล่ะ?” เขาถามผมด้วยแววตาเป็นประกายผมกระหยิ่มยิ้มย่องตอบเขาไปว่า
“ทำไมจะไม่สนใจล่ะ กะเทยน่ะเขาอยากได้ผู้ชายเป็นผัวกันทั้งนั้นกี่คนก็รับไหว ขอให้พามา”
“แล้วตอนค่ำ ๆ จะหามาให้” เขาพูดได้แค่นั้น แล้วลุกไป
จนตกค่ำผมก็อาบน้ำ พอเสร็จออกมาเขาก็เดินมาหาผมที่เวทีหมอลำในขณะที่หางเครื่องผู้หญิงเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่พอดีหางเครื่องพวกนี้ไม่อายเลยเวลาที่ผู้ชายมายืนดู พวกเธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าโชว์เนื้อโชว์นมอวดให้นอมเห็นอยู่อย่างนั้นผมแกล้งยังไม่เข้าไปคุยกับเขา เพราะอยากให้เขานั่งรอดูนมต้มของพวกหางเครื่องไปก่อนเขาคงเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาแน่ ๆ เพราะเพื่อนผมมาบอกว่าเห็นเขาเดินหายเข้าไปยืนรูดของตัวเองเล่นอยู่ในห้องน้ำ ผมจะตามเข้าไปก็ไม่กล้าเพราะมีหางเครื่องเห็นและพูดต่อ ๆ กัน ไปแล้วหลายคนว่ามีผู้ชายมาดูเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไป ต้องไปชักว่าวแน่ ๆเลยอะไรทำนองนี้ ผมจึงแกล้งทำเป็นไม่สนใจเพราะไม่อยากให้พวกหางเครื่องเอาไปนินทาว่า “อยาก” มากขนาดตามผู้ชายเข้าห้องน้ำ
พอตกกลางคืน งานแสดงเลิก นอมก็เข้ามาหลังเวทีอีกครั้ง ดูเขาจะเมานิด ๆยืนประจัญหน้าพูดกับผม พร้อม ๆ กับกำแก้มก้นผมไว้แน่นในอุ้งมือ
“จะเอากับเพื่อนผมไหม? เขาอยากเอาคุณน่ะ”นอมถามผมพร้อมพยักเพยิดให้ดูเพื่อนเขาที่ยืนรออยู่ไม่ห่างกันนักผมมองดูเพื่อนของนอมแล้วนึกชอบใจ เพื่อนของนอมรูปร่างอย่างกับนายแบบตัดผมสั้นเกรียนเหมือนคีนู รีฟ แต่หน้าตาธรรมดา ๆ เท่านั้น ไม่หล่อมากเหมือนนอมความที่ผมดูผู้ชายที่หุ่นมากกว่า ผมจึงตอบตกลงเขาไปทันที
“โธ่! ดูหุ่นสิอึ้มอยู่แล้ว”เขาพยักหน้าตอบแล้วดุนหลังผมให้ออกไปหาเพื่อนเขา เขาเดินตามผมว่าโดยบอกว่ามีข้อแลกเปลี่ยนว่าผมต้องหาหางเครื่องให้เขาฟันคนหนึ่ง เรื่องแบบนี้สบายผมอยู่แล้วเพราะรูปหล่อ ๆ อย่างนอมไม่ต้องหา แค่มาเดินด้อม ๆ มอง ๆ แถวหลังเวทีแม่พวกหางเครื่องร่านสวาททั้งหลายก็แทบจะออกมาให้ท่าเอานอมไปปล้ำอยู่แล้วผมยังไม่ทันได้คุยกับเพื่อนเขา เพียงแต่ ยิ้ม ๆ ให้กันเท่านั้น
ผมขอตัวเข้าไปข้างในหลังเวทีอีกครั้งเพื่อติดต่อสาวหางเครื่องให้นอมเอาไปฟันพักเดียวพอผมไปบอกพวกเธอว่ามีหนุ่มอยากนอนด้วย พวกสาว ๆ ถามกันใหญ่ว่าคนไหนพอผมบอกว่าคนที่มาเดินด้อม ๆ อยู่ แอบดูพวกเธอเปลี่ยนเสื้อผ้านั่นแหละ พวกเธอกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ ผมเลยได้ของแถมมาให้นอมอีกคนแป๊บเดียวพอพูดกันไม่กี่คำ นอมก็หิ้วปีกแม่สองสาวเดินกลับบ้านไปส่วนผมก็เลยได้อยู่กับเพื่อนของนอมสองคนและเริ่มคุยกันเสียที
“ไปเดินเล่นกันมั้ย?” เขาถามผมด้วยท่าทางสุภาพ
“ไม่เอาหรอก...กลัวผี แถวนี้มีแต่ดงแต่ป่า”ผมกระบิดกระบวนดีดดิ้นตามสไตล์กะเทยไทยพอให้ดูน่ารัก เขาเดินโอบไหล่ผมไว้แน่น
“ไม่น่ากลัวหรอก สนุกเสียอีก เดินไปคุยไปก่อนเถอะ”เขาช้อนมือเข้ามาบีบนมผม แล้วประคองผมเดินออกจากบริเวณนั้นไปผมระริกระรี้อย่างสุขใจในอ้อมแขนของเขา เราเดินไปคลำกันไป กอดกันไปบีบกันไปตลอดทางจนอารมณ์ใคร่อัดตุงด้วยกันทั้งคู่ ดูเขาจะไม่อายสายตาใครต่อใครเวลาที่เดินสวนคนเลย
“อายคนเขา” ผมแกล้งทำเป็นปัดไม้ปัดมือเขาออกทั้งที่อยากให้จับให้คลำจะตาย แต่ก็จำใจทำเพื่อให้ดูเป็นสาวบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ผู้ไม่เจนกาม
“ช่างเขาสิ อยากมองก็มองไป อายทำไม ก็เรารักกันนี่”เขาพูดออกมาอย่างนั้น เราเดินไปจนถึงหลังสถานีอนามัยซึ่งเป็นที่เปลี่ยวมากและลับตาคน แต่เหมือนมีคนเตรียมสถานที่ไว้เสร็จสรรพเพราะมีแคร่ไม้ไผ่ตั้งรับลมจากท้องทุ่งอยู่ที่ตรงนั้นพอดิบพอดีเขาฉุดผมลงไปกอดรัดฟัดปล่ำกันอยู่บนแคร่นั้น เราประกบปากกัน ดูดดุนลิ้นเขาจะได้กลิ่นส้มตำปลาร้าที่ผมเพิ่งกินเมื่อหัวค่ำหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่ดูเขาจะดูดดื่มกับรสจูบมาก รวมทั้งผมด้วย สยิวสั่นไปทั้งร่างอ่อนปวกเปียกให้เขาคร่อมบดขยี้เอาอย่างเมามัน
“โอ้ว! พี่ อย่าค่ะ...” ผมครางกระเส่าเมื่อเขาจูบไซ้ซอกคอติ่งหูแล้วดูดนมที่พอมีอยู่บ้างของผม ผมสุดจะทนทาน พลิกตัวขึ้นถอดเสื้อผ้าของเขาออกจนหมดเมื่อร่างคีนู รีฟตรงหน้าเปลือยเปล่า ไอ้นั่นของคีนู รีฟก็ดีดผึงออกมาโด่เด่โดยพ่อคีนู นอนราบอยู่บนแคร่อย่างทานแรงปล้ำกะเทยไม่ไหวแต่มีท่อนเอ็นยืนตรงดิ่งขึ้นมาผงาดง้ำหัวบานแดงเถิกผมถลาลงไปจูบมันอย่างกับขย้ำอะไรสักอย่าง ทันทีที่ผ้าชิ้นสุดท้ายถูกปลดออกหมดร่างกายผมใช้ฝีปากอย่างสุด ๆ ทั้งดูด ดุนลิ้น ขบ เลียลูกตุ้มทั้งสองของเขาจนมันเปียกโชกไปหมด พ่อคีนู รีฟครางไม่เป็นภาษาคนแยกขากว้างออกสุดหล้าดิ้นเร่า ๆ กระเส่าเหมือนแคร่เป็นเหล็กร้อนรนไฟผมเล็มเลียขบฟันเบา ๆ ไปตามความยาวของลำกระโดงทองนั่น ของเขามันทั้งใหญ่ทั้งยาวขนเยอะอีกต่างหาก ยังกับยกป่าดงดิบมาไว้ที่ไข่ดูเขาจะมีความสุขมากทั้งเด้งทั้งกดหัวจนผมแทบสำลัก แต่ก็เสียวสุข ใช้มือช่วยรูดไอ้อันเล็กๆ เท่าไม้จิ้มฟันของตัวเองไปด้วย ไม่นานนักเขาก็ร้องออกมาจนลั่นทุ่งกระแทกแท่งเนื้อ ยกสะโพกแอ่นจนหน้าผมลอย แล้วน้ำอร่อย ๆก็ถูกฉีดเค้นเข้าปากไปอยากกับน้ำพุผมรีบกลืนกินมันไม่ให้เหลือแม้แต่หยดเดียวตามประสากะเทยไทยเมื่อสะโพกลอยของเขาตกลงไปบนแคร่ เพราะฉีดออกมาหมดแท่งลำแล้วผมก็ยังดูดเลียมันไม่หยุดปากจนมันอ่อนปวดเปียกลง และผมเสร็จตามเขาไปผมถึงหยุดดูดและลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้า นั่งคุยกับพ่อคีนู รีฟที่ยังไม่รู้จักชื่อคนนี้
เขาบอกว่ากำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนนายสิบที่กรุงเทพฯเขากลับมาบ้านครั้งนี้เพื่อจะบวช แต่ก่อนบวชขอสุด ๆ กับไอ้พวงตรงหว่างขาซะก่อนก่อนที่จะสงบจิตสงบใจเข้าใฝ่หารสพระธรรม ก่อนบวชเขาจึงออกเที่ยวทุกคืน ทั้งผู้หญิงทั้งกะเทย ผมเตือนเขาถึงเรื่องโรคให้เขาระวังตัวและใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์กับใครเขาหัวเราะกับคำเตือนของผม
“รู้แล้วล่ะ ก็ดูอย่างวันนี้ ผมลืมเอาถุงยางมา ผมก็ไม่เอาข้างหลังคุณปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า จริงมั้ย?” ผมยิ้มให้แทนคำตอบ
|