สวัสดีครับ เรื่องที่ผมจะเล่าไม่ใช่ประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ แต่เกิดจากได้คุยกับน้องวัยทำงานที่รู้จักกันในฟิตเนส เขาเรียนจบโรงเรียนชายล้วนและอยู่หอประจำเขาเล่าประสบการณ์ได้น่าสนใจดีแต่เขียนไม่เป็น ผมเลยเขียนประสบการณ์ของเขาจากที่ได้ฟังมาให้อ่านกันดู รวมถึงส่งให้เจ้าตัวอ่านเป็นบันทึกความทรงจำด้วย หอโรงเรียนชายล้วนที่อื่นอาจจะเหมือนหรือต่างกันก็ได้มีเรื่องเสียวแน่นอนครับแต่เป็นช่วงท้ายเลย
ส่วนน้องในเรื่องขอใช้ชื่อแฝงว่าพัทนะครับ ส่วนไทม์ไลน์ช่วงที่พัทเป็นนักเรียนม.ปลาย ก็เป็นช่วงที่เริ่มมีอินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลาย มีการแชร์ภาพเน็ตไอด้อลหนุ่มหล่อสาวสวยตามโรงเรียนต่างๆ
พัทถูกที่บ้านส่งมาให้อยู่หอประจำโรงเรียนชายล้วนแห่งหนึ่งครับ บุคลิกพัทเป็นคนหน้าตาดี สุภาพ ไม่ถึงกับลูกคุณหนูแต่เป็นพวกพ่อแม่หน้าที่การงานดี (ปัจจุบันน้องโตอยู่ในวัยทำงานแล้วก็จัดว่าเป็นเกย์ที่ดูดีเพราะดูแลตัวเองดีคนหนึ่งเลยทีเดียว) เข้ามา ม.4 พร้อมกับความสับสนทางเพศ พัทยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นเกย์หรือเปล่าแบบ100% แต่ความที่เขาหน้าตาดีตั้งแต่เด็ก ก็จะทำให้มีเด็กนักเรียนทั้งเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามมาปลื้ม หรือแสดงความสนใจที่ไม่มีพิษภัยในแบบเด็กๆ เช่น ซื้อของให้ในวันวาเลนไทน์หรือวันเกิด
พัทเล่าให้ฟังว่า ก่อนอื่นต้องแยกคอนเซปต์ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือผู้ชายคบเกย์/ไบกับคบตุ๊ด/กะเทย เพราะจุดประสงค์และการแสดงออกจะแตกต่างกัน แบบแรกมีทั้งปิดและเปิดเผยครับ ส่วนแบบหลังส่วนใหญ่จะเปิดเผยเพราะคนดูออก ในเรื่องของพัทจะขอเล่าแบบแรกที่เป็นการคบกันแบบปิดนะครับ
พัทเข้ามาประจำที่หอครั้งแรกก็โดนพวกรุ่นพี่คุมหอหมายหัวครับ เหตุผลคือ เด็กหอประจำที่หน้าตาดีจะต้องมีสังกัดครับ จะลอยไปลอยมาโดดๆ ไม่ได้ คล้ายระบบในคุกต้องตอบให้ได้ว่าสนิทกับพี่คนไหน ห้ามอยู่เป็นรัฐอิสระ ก็เพื่อเอาไว้ใช้งานที่เป็นหน้าตาในกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนได้ รวมถึงโปรโมตโรงเรียนเช่น ไว้ถ่ายวิดีทัศน์และโบชัวร์ของโรงเรียน และก็เพื่อไม่ให้เด็กพวกนี้ไปอยู่ในอิทธิพลของครูมากครับ ต้องอยู่ข้างนักเรียนด้วยกัน ยุคก่อนหน้านี้นักเรียนชายหน้าตาดีอาจถูกเขม่น แต่สมัยนี้ถือเป็นสมบัติของโรงเรียนครับเวลาออกสื่อ หรือแชร์ภาพตามโซเชี่ยล โรงเรียนไหนมีเด็กหน้าตาดีจะดูมีสง่าราศีกว่าโรงเรียนที่ควานหาทั้งโรงเรียนก็ไม่เจอสักคนที่หน้าตาไปวัดไปวาได้
หอประจำที่พัทอยู่ มีหัวหอกพี่ ม.5 คนครับ ชื่อพี่เคนพี่ธาม และพี่เจ เหตุที่ ม.5 ใหญ่ในหอ เพราะว่าพี่ม.6 ส่วนใหญ่จะเตรียมตัวต่อมหาลัยกันครับ ไม่ค่อยมีเวลาทำกิจกรรม จนกล่าวกันว่าพี่ ม.6 ให้มองเหมือนของบูชาขึ้นหิ้ง เดินผ่านแล้วไหว้อย่างเดียว ไม่ต้องไปเซ้าซี้ชวนเขามาร้องเล่นเต้นละครกิจกรรมหนักๆ อีกอย่างระบบนี้จะทำให้คู่บัดดี้พี่น้องมีเวลาสนิทกันได้2 ปี นานกว่าเอา ม.6 ประกบ ม.4 ปีเดียวแล้วจากกันไปครับ
พี่เคนเป็นแนวบ้านมีเงิน ซัมเมอร์เมืองนอก เรียนดี เป็นประธานนักเรียนความรับผิดชอบสูง คำพูดหนักแน่นเหมือนผู้ใหญ่ พวกครูจะให้ความเชื่อถือ
พี่ธามเป็นแนวแบดบอยครับ เป็นนักกีฬา มีภาวะผู้นำกับเด็กทุกคนตลกแบบกวนๆ บุคลิกเปิดเผย
ส่วนพี่เจเป็นสายอาร์ตติสตัวพ่อครับ แต่งตัวเก่ง เซทผมเก่ง จีบสาวเล่นดนตรี เล่นกล้อง
รุ่นพัทมีเด็กหอ ม. 4 ที่จัดว่าเป็นหน้าตาให้โรงเรียนได้ 4 คน แต่ละคนก็จะมีสายมาทาบทามให้ครับ ของพัทได้เป็น การ์ดข้อความครับ เขียนประมาณมาว่า “เห็นหน้าน้องแล้วตกหลุมรักเลยอยากมีพี่ชายไว้พึ่งพาซักคนมั้ยครับ…..” แล้วก็มีคนส่งขนมมาให้แบบไม่บอกว่าเป็นใคร
การได้เด็กหน้าตาดีมาอยู่ในสังกัดก็เหมือนเสริมบารมีให้ตัวรุ่นพี่นั่นเองครับ เพราะพวกเด็กหน้าตาดีจะมีประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ถ้าไม่เป็นเด็กหออาจมีอิสระหน่อยแต่ถ้าเป็นเด็กหอประจำที่นี่ ถึงอย่างไรก็ต้องมีพี่ต้นสังกัดครับ ถ้าไม่คุมไว้ว่าใครเป็นเด็กใคร อาจมั่นใจคิดว่าตัวเองเท่เหนือกว่าใคร เป็นกบฎตั้งกลุ่มก้อนของตัวเองขึ้นมา โครงสร้างที่โรงเรียนพัทใช้กันจึงให้อำนาจรุ่นพี่จีบน้องใหม่หล่อๆ ให้มาอยู่ใต้อาณัติเป็นประเพณีครับ และต้องหวานเหมือนจีบสาว ห้ามหยาบคายชวนทะเลาะ ผู้ชายไม่ชอบให้หยามกันอยู่แล้ว
พัทมีคนสนใจเยอะ แต่สุดท้ายก็เลือกเป็นเด็กพี่เจ ช่วงที่พัทเป็นเด็กติดตามพี่เจก็ต้องช่วยเรื่องกิจกรรมเป็นหลักครับ พี่เจนี่ก็ตัวแสบในรุ่นเหมือนกัน เป็นอาตี๋ตาชั้นเดียว หน้ายาว หัวทุย ตัวสูงโปร่ง ไม่ค่อยถนัดเรื่องออกแรง แต่พลิ้วเรื่องจีบสาว ดนตรี ศิลปะ ถ่ายรูป แต่งตัว วัฒนธรรมในโรงเรียนชายล้วนจะมีความอัดอั้นอย่างนึงคือ เอาเสน่ห์ความเก่งกาจอะไรไปโชว์สาวไม่ได้ครับ ไม่มีสาวให้โชว์ จะเท่มั่นใจได้ก็ต้องทำตัวให้ได้รับการยอมรับจากพี่น้องผู้ชายด้วยกัน ให้ดูดีมีคุณค่าไปกว่านั้นคือมีนักเรียนชายมาบอกรักขอคบเป็นแฟน
เรื่องควง ช-ช ในโรงเรียน ถ้าเป็นแบบแมนๆ ทั้งคู่ จะแบ่งเป็นสองสายคือสายเปิด กับปิด พวกเปิดคือให้รู้ว่าสองคนนี้สนิทกุ๊กกิ๊กกันเป็นพิเศษ ตัวติดกันไปไหนมาไหนด้วยกันได้ และอาจมีงอนกันได้ เรียกว่าเป็นแฟนเลยก็ได้ แต่มักมองข้ามเรื่องมีอะไรกันไป ตรงกันข้ามกับพวกปิดคือไปแอบคบกันบางครั้งเนียนระดับที่เพื่อนไม่รู้เรื่องอะไรเลย มารู้อีกทีตอนเรียนจบไปแล้ว หรือถ้าเกิดมีฝ่ายใดก็รักเป็นพิษแล้วไประบายหรือแฉให้เพื่อนฟัง เรื่องก็อาจจะแดงไปทั้งโรงเรียนได้ พวกที่ถึงขั้นมีอะไรกันส่วนใหญ่คือคบกันแบบปิดครับ พวกควงเปิดเผยส่วนมากจะโชว์พาวเป็นแฟชั่นกันซะมากกว่า
พี่เคนไม่ค่อยมีเรื่องฉาวครับ เด็กในสังกัดจะเน้นเอาหล่อ เป็นศักดิ์ศรีเป็นตัวแทนของโรงเรียน ส่วนพี่ธามที่เป็นนักกีฬามีข่าวลือว่าได้ทั้งผู้ชายผู้หญิง หื่นๆ บ้าพลัง บ้ากล้าม ลือกันถึงขนาดว่ารุ่นน้องที่หน้าตาดีๆ หน่อยสามารถขอโม้คพี่ธามได้เลยพี่แกให้หมด ส่วนพี่เจเสือผู้หญิงแน่นอนครับ เฟี้ยวนอกโรงเรียน ในโรงเรียนจะปฏิบัติกับน้องแนวๆ เอ็นดูน้องชายที่เด็กกว่า
พัทเล่าให้ฟังว่าจริงๆก็แอบปลื้มพี่เจอยู่ครับเพราะพัทรู้ตัวเองตอนนั้นเองว่าตนเป็นเกย์ พัทมีเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่แอบชอบอยู่ครับแต่เพราะความเป็นเพื่อนทำให้ไม่กล้าแสดงออกอะไรไป มีลุ้นกับพี่เจมากกว่าอีกเพราะสนิทกัน แม้แต่หลังเลิกเรียนพี่เจชอบพาพัทไปเตะบอลครับ ถ้าเป็นช่วงวันหยุดก็จะพาไปร้านเกมใกล้ๆ ไปร้านเช่าหนังสือการ์ตูน พี่เจจะเรียกพัทว่ากูมึงตลอด อยู่ในหอ พัทเห็นพี่เจถอดเสื้อบ่อยมากหุ่นไม่สไตล์ปูครับ เป็นแนวลีนๆ กล้ามแน่นแบบหุ่นนักวิ่ง นักกรีฑา พี่เจจะสอนให้พัทดูแลตัวเองให้หล่อดูดีมีสไตล์อยู่เสมอ อย่าแต่งตัวเชยๆ พัทบอกว่าอยู่กับพี่เจแล้วชีวิตดีขึ้นมาก เพราะได้เรียนรู้อะไรที่ผู้ชายมีเสน่ห์ควรทำเป็นเยอะแยะก็จากพี่เจครับ พี่เจเป็นคนหัดทั้งขี่มอเตอร์ไซค์ทั้งขับรถยนต์ให้พัทด้วย
จนวันหนึ่ง เส้นบางๆ ที่เป็นรักใสๆ คู่จิ้นรุ่นพี่รุ่นน้องระหว่างพัทกับพี่เจก็ได้ข้ามเส้นไปเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นครับ