ตำนานความรักระหว่างชายกับชาย หรือที่ปัจจุบันเรียกว่าคู่เกย์ หรือคู่วายนั้น ใครจะรู้บ้างว่า มีขึ้นตั้งแต่ในสมัยอาณาจักรอียิปต์โบราณ หรือประมาณ 2,400 ปีก่อนคริสตกาลมาแล้ว! ซึ่งคู่รักร่วมเพศคู่แรกของโลก ที่ได้ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ เป็นคู่วายชาวอียิปต์ ชื่อ นัมโฮเทป และนิอังค์คานุม ซึ่งทั้งสองคนเป็นบริวารของฟาโรห์ ในราชวงศ์ลำดับที่ 5 แห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณ
(https://www.pinterest.com/pin/224546731398085462) หลักฐานชิ้นเอกที่นักประวัติศาสตร์ยืนยันนอนยันว่าทั้งคู่เป็นคู่วายกันแน่ๆ คือหลุมศพของคนทั้งคู่ที่ถูกฝังไว้ด้วยกัน พร้อมกับข้อความแสนโรแมนติกเป็นเป็นภาษาเฮียโรกลิฟฟิก จารึกไว้ว่า "อยู่ด้วยกันในชีวิต และอยู่ด้วยกันในความตาย" นักประวัติศาสตร์กล่าวว่า ประเพณีการฝังศพร่วมกันนี้ เปรียบเสมือนกับการแต่งงานในสมัยนั้น และข้อความที่จารึกไว้ก็เสมือนคำสาบานของคนทั้งคู่ อันที่จริงนิอังค์คานุมมีภรรยาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ภาพสลักบนฝาผนังในหลุมศพของเขา ในตำแหน่งที่ควรจะเป็นภาพของภรรยา กลับปรากฏแต่ภาพของนัมโฮเทปเต็มไปหมด ทั้งยังมีภาพสวีตหวานที่ทั้งคู่จับมือ โอบไหล่ และเอาจมูกชนกันแนบชิด โรแมนติกชนิดที่สาววายในสมัยนั้น เห็นแล้วต้องจิ้น ร้องกรี๊ดๆลั่นพีระมิดกันเลยทีเดียว กรีก-โรมัน อาณาจักรบ่มรักคู่วาย หลังจากคู่ของนิอังค์คานุมและนัมโฮเทป ได้สร้างตำนานรักวายคู่แรกในสมัยอียิปต์แล้ว เมื่อเข้าสู่ยุคอาณาจักรกรีก-โรมัน ความเฟื่องฟูของคู่รักวายก็เกิดขึ้นทั่วอาณาจักร คู่วายต่างได้รับการยอมรับ มีการแสดงออกที่เปิดเผย ตั้งแต่สามัญชนคนธรรมดาไปจนถึงผู้ครองอาณาจักรอย่างอเล็กซานเดอร์มหาราช ดังนั้นศิลปะรูปปั้นในยุคนี้ จึงนิยมทำรูปสลักผู้ชายขณะร่วมเพศกัน หรือเรือนร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายโดยไม่ปิดบัง นอกจากนั้น คนกรีกโบราณยังมีอารยธรรมที่เชื่อว่า ผู้ใหญ่สามารถถ่ายทอดความเป็นชายไปสู่เด็กหนุ่มได้ด้วยการร่วมเพศ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ ส่วนผู้หญิงเป็นเพียงแค่ปัจจัยในการสืบพันธุ์เท่านั้น ทำให้ในสมัยนี้เกิดความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างศิษย์กับอาจารย์ขึ้น หรือระหว่างแม่ทัพกับพลทหารโรมันที่ร่วมออกศึกด้วยกัน (รูปปั้น Nisos Euryalos ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ประเทศฝรั่งเศส ที่มา: wiki) (ตำนานรักต้องห้ามของจักรพรรดิจีน ที่มา: http://board.postjung.com) หลังจากนั้นคู่รักวายก็เกิดขึ้นต่อๆมาในทุกอาณาจักรทั้งฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออก อย่างเช่นจักรพรรดิจีนบางพระองค์ ซึ่งกลายเป็นตำนานรักต้องห้าม เช่นเดียวกับในสมัยโบราณของไทย ที่คู่รักชายรักชาย และหญิงรักหญิงมีกฎหมายห้ามอย่างเด็ดขาด มีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตมาแล้ว
เครดิต : http://www.tunwalai.com/blog/158/%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%87-%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81
|