แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย virgogun เมื่อ 2019-1-13 22:03
.
.
.
กระทู้นี้มาช้าหน่อยนะครับ ภาระกิจเยอะ แถมยังต้องไปคอยถามข้อมูล "พี่แอม" ตัวจริงเป็นระยะๆด้วย
ขอถือโอกาส รวมลิงค์ตอนต่างๆไว้ให้เลย เผื่อจะหากันไม่เจอครับ
.
ก็เด็กมันหิว 01
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117028&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
ก็เด็กมันหิว...02
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117047&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
ก็เด็กมันหิว 03
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117127&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
ก็เด็กมันหิว 04
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117161&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
ก็เด็กมันหิว 05
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117288&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
ก็เด็กมันหิว 06
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117403&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
ก็เด็กมันหิว 07
http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=117535&fromuid=150129
(ที่มา: จีโฟกาย.คอม)
.
.
.
ก็เด็กมันหิว 08 . . . เมื่อเป็นอิสระจากปากเด็กแอมทิดต้อมก็ทิ้งตัวลงนอนหงายอย่างหมดท่า หอบกระเส่ารวยริน ราวกับคนพึ่งฟื้นจากไข้หนักส่วนเด็กแอมก็ทะลึงตัวขึ้นมานั่งพยายามกล้ำกลืนน้ำคาวที่ดูดมาอมพักไว้ในปากจนหมดสิ้นแม้จะรูสึกเหม็นคาวจนน้ำตาไหล โดยมีไอ่ทิดเฝ้าสังเกตการณ์อย่างพอใจ.......
เด็กแอมทำหน้าปุเลี่ยนๆเมื่อกล้ำกลืนน้ำคาวลงคอไปจนหมด แล้วก็ทำท่าว่าจะอ้วกอีกรอบ มันถ่มน้ำลายปริ๊ดๆลงข้างตัวอยู่หลายครั้ง ลงท้ายก็ไปหาน้ำมากลั๊วคอ บ้วนปากเองอย่างคนมีประสบการณ์มาก่อน ทิดต้อมรู้สึกผิดอีกแล้วว่าตนบังคับจิตใจเด็กน้อยมากเกินไปหรือเปล่า จากตอนแรกที่รู้สึกสะใจ เมื่อได้เห็นเด็กน้อยพะอืดพะอม เวลาที่ต้องฝืนใจทำในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการ เพื่อเวลาที่มันมาก่อกวนเขามันจะได้สำนึกได้ว่า บางครั้งชายหนุ่มก็ไม่ได้เต็มใจเช่นกัน แต่เด็กมันก็แค่เด็ก แถมมันยังพยายามเต็มที่ เพื่อให้เขามีความพอใจสูงสุดเวลาที่มันปรนนิบัติเขาด้วยปากไม่ใช่เหรอ? เด็กแอมแทบจะไม่ได้อะไรตอบแทนเลย หรือนี่เขากลายเป็นคนใจร้ายไปแล้ว
“ ทีหลังแอมไม่ต้องกินลงไปก็ได้นะ ไปบ้วนทิ้งก็ได้ ” ไอ่ทิดบอกเสียงอ่อน แต่ไม่รู้ว่าเด็กแอมจะได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่า เมื่อเด็กน้อยบ้วนปากเสร็จก็ตลบมุ้งเข้ามานอนกับไอ่ทิดแล้วก็ควานมือมาคว้าเป้าไอ่ทิดกุมไว้เหมือนครั้งก่อน ตั้งแต่เสร็จกิจ ไอ่ทิดไม่ได้ใส่ใจจะเก็บของของตัวเองให้เรียบร้อยมันจึงห้อยต่องแต่ง ลอดขากางเกงในรอท่าเด็กแอมอยู่แล้วทั้งพวงเด็กชายคว้าท่อนเนื้อน่วมๆมากำไว้ บีบๆกำๆ ไปมาก็พล็อยหลับไป ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในใจชายหนุ่มเริ่มลดทอนลงเมื่อแน่ใจแล้วว่า ไม่ใช่เขาฝ่ายเดียวที่ล่อลวงให้เด็กแอมบำบัดความใคร่ให้เด็กแอมเองก็เหมือนได้รับการบำบัดเช่นกัน เวลาที่มันได้เล่นแท่งเนื้อของเขา
อันที่จริง ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมามีความคิดสองด้านตีกันในหัวของไอ่ทิดอยู่ตลอดเวลา ใจหนึ่งอยากให้เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่าเขากับเด็กแอม จบลงในครั้งเดียวที่เผลอตัวไปเมื่อวันพระใหญ่ครั้งก่อน อีกใจหนึ่งก็เฝ้าแต่หมกมุ่นกับปากเล็กๆที่เด็กน้อยใช้ทำรักให้เขาอย่างตั้งอกตั้งใจตอนที่เห็นหัวบานของตัวเองเข้าไปอยู่ในปากของเด็กแอมครั้งแรก ไอ่ทิดรู้สึกตื่นเต้นและเกิดความเร้าอารมณ์ขึ้นในใจอย่างสุดขีด ภาพปากเล็กๆของเด็กแอมที่กำลังดูดดุนหัวบานใหญ่อย่างเอาเป็นเอาตายแม้ว่ามันจะไม่ได้สร้างความสุขให้เขาอย่างสูงสุด เหมือนอย่างเฒ่าทองผู้เชี่ยวชาญแต่มันกลับทำให้ทิดต้อมตื่นเต้นได้อย่างประหลาด เด็กชายที่ดูโหยกระหายขย้ำดูดกินท่อนเอ็นขนาดที่ไม่สมดุลกับปากของตน มันแสดงให้เห็นถึงความหลงใหลทุ่มเทของเด็กแอม ที่พยายามจะทำให้เขาพอใจไอ่ทิดรู้สึกเหมือนตนเองเป็นเจ้าชีวิตของเด็กน้อยที่พร้อมจะทำตามคำส่งเขาทุกอย่างถ้าเขาต้องการ ต่างจากเฒ่าทอง ที่ความตื่นเต้นของทิดต้อม คือการที่ควบคุมตาแก่ไม่ได้และตื่นเต้นตลอดเวลา ว่าตาเฒ่าจะมาไม้ไหน เดี๋ยวดูดดุนอย่างดุดันบางครั้งก็เชื่องช้า แต่หนักหน่วง สุดแต่ฝีปากแกจะนำพาเขาไป
ความเสียวซ่านจากการทำรักด้วยปากของคนต่างวัยสองคนจึงต่างกันที่ คนหนึ่งเป็นผู้ควบคุมทิดต้อม ส่วนอีกคน ทิดต้อมเป็นผู้ควบคุมซึ่งมันสร้างความตื่นเต้นในเพศรสให้กับไอ่ทิดได้ดีเท่าๆกัน คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเพลินๆจนทิดต้อมเองก็ไม่รู้เผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน อาจเพราะเหนื่อยจากกรำงาน และอากาศหนาวเหน็บชวนง่วง แล้วยังมาโดนรีดพิษอีกจึงทำให้ไอ่ทิดเพลีย จนหลับไปง่ายดาย แม้ว่าสถานที่อย่างเถียงนา ที่ชายหนุ่มไม่คุ้นเคยซักทีแม้ว่าจะอาศัยนอนมาร่วมเดือนเศษๆแล้ว
ไอ่ทิดมารู้สึกตัวอีกครั้งก็เมื่อท้องฟ้าเริ่มขาวไม่ใช่เพราะแสงแยงตา แต่เป็นเพราะโดนลิ้นเล็กๆแยงรูน้ำหวานที่ตรงหัวเอ็นบานกลางลำตัว ลิ้นที่รัวละเลงก่อกวนไอ่ทิดอยู่นั้นไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นเด็กแอม ทิดต้อมรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์นัก เพราะยังอยากนอนต่ออีกสักหน่อยจึงงัดหัวของเด็กน้อยออกจากไอติมเนื้อแท่งโปรดของมัน ซึ่งบัดนี้มันแข็งกระโด้กตามธรรมชาติในเวลาเช้าตรู่ เด็กแอมขืนสุดตัว แถมมือยังกำยึดลำข้อไว้แน่น แม้ชายหนุ่มจะงัดค้างเด็กน้อยจนหงายสองสามครั้งแต่ทุกครั้งเด็กแอมก็วกกลับมาเอาปากทำร้ายเขาเช่นเดิมทุกที จนสุดท้าย ไอ่ทิดก็ป่อยเลยตามเลย เด็กแอมได้ใจ จึงงับส่วนหัวบานไว้เต็มคำแล้วเริ่มบัลเลงเพลงชิวหาพาเพลินอีกรอบ ไม่ถึงนาทีดี ท่อนเอ็นของชายหนุ่มก็กระดกหงึกๆเป็นเหมือนสัญญาณให้เด็กแอมเตรียมตัวดูดกินน้ำหวาน เพียงเท่านั้น น้ำอุ่นๆก็กระฉูดทะลักทะลายเป็นสายยาวต่อเนื่องอย่างกับเขื่อนแตก เด็กน้อยตาเหลือกเมื่อเผลอกลืนไปอึกหนึ่งใหญ่ๆและรู้ได้ในทันทีว่าที่ตนกลืนลงไป ไม่ใช่น้ำหวานคาวข้นอย่างเมื่อคืนหากแต่เป็นน้ำเยี่ยวหัวเช้าของไอ่ทิด ที่ทั้งเฟื่อน เค็มแหลมๆ ร้อน และ ฉุนจัด เนื่องจากเป็นน้ำในกระเพาะปัสสาวะ ที่ไอ่ทิดเก็บสะสมมาทั้งคืน
เด็กแอมรีบถอนปากออกจากท่อนลำโดยไววิ่งตื๋อไปยังชานเถียงนา บ้วนถุยทิ้งลนลาน พลางล้วงคออ้วกออกมาให้หมดสิ้นได้ยินเสียงหัวเราะขบขันของไอ่ทิดจากในมุ้งแว่วๆ รู้สึกโกรธและอายขึ้นมาอย่างกะทันหัน ยังไม่ทันจะล้วงคออ้วกเสร็จ เด็กน้อยก็รู้สึกว่าไอ่ทิดมายืนเทียบอยู่ข้างๆตัว กำลังจะแหงนไปต่อว่าพลันก็ได้เห็นทิดต้อมจากมุมเสย ยืนแอ่นจับท่อนลำโง้งราวกับคมเคียว ปล่อยน้ำเยี่ยวเหลืองเป็นสายอยู่ข้างตัว
ไอ่ทิดหันมาหัวเราะเยาะเด็กแอมอย่างสะใจ เด็กน้อยกำกำปั้นทุบขาไปสองสามทีอย่างขึงเคียด แล้วก็เปลี่ยนเป็นจับจ้องกิริยาอาการของไอ่ทิด อย่างไม่วางตา ร่างเพียวแกร่งสมชายชาตรีของทิดต้อม ที่กำลังแอ่นยืนปัสสาวะอยู่ริมชานทำให้ดวงใจเล็กๆของเด็กแอมเต้นไม่เป็นจังหวะ จากที่แค่หลงใหลในท่อนลำของผู้ใหญ่ เพราะมันดูแปลกออกไปจากของเด็กชายเช่นตน แต่วันนี้ เด็กแอมกลับรู้สึกแตกต่างออกไปอีกเมื่อรู้สึกลึกซึ้งอย่างประหลาด เมื่อเห็นทิดต้อมจากอีกมุมมองหนึ่ง พี่ชายใจดีที่เด็กแอมไว้ใจและรักที่สุดในบ้านรองจากแม่ใหญ่ ก็เห็นจะเป็นพี่ทิดต้อมของมันนี่แหละ เด็กน้อย ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการมีพ่อมันจะรู้สึกอย่างไร เพราะโตมากับแม่ใหญ่ แม้แต่แม่จริงๆก็ห่างเหินกันเพราะไม่ได้เลี้ยงมันมา แม่ใหญ่จึงเป็นที่รักของเด็กแอม และเด็กแอมรักมากกว่าแม่แท้ของมัน ซึ่งเลิกรากับพอ ตั้งแต่เด็กแอมยังไม่ลืมตาดูโลก หากจะมีมนุษย์สักคน ที่ใกล้เคียงกับความเป็นพ่อในความคิดของเด็กแอม ก็คงจะเป็นพี่ทิดต้อมของมันคนนี้ นี่เอง
“เบิ่งหยัง ไม่เคยเห็นคนเยี่ยวเหรอ?” อ้ายทิดต้อมของมันถาม ทำหน้าทะลึ่งใส่เด็กน้อยค้อนประหลับประเหลือก เพราะยังคงโกรธที่โดนหลอกให้กินน้ำเยี่ยวไปเมื่อครู่
“โคยแข็งอีกแล้ว..อ้ายต้อมบ่ปวดบ่?” เด็กแอมถามด้วยความซื่อ ทำให้ไอ่ทิดนึกได้ว่า ตัวเองเคยหลอกให้เด็กรีดพิษเพราะโกหกว่าปวดโคย อีตุ๊ดเด็กเวร ..วันๆจะหาดูดช่องทางกินโคยอยู่นั่นล่ะ ไอ่ทิดนึกขำ
“ถ้ามันแข็งเพราะปวดเยี่ยว พอเยี่ยวเสร็จ มันก็หายปวดแล้ว” ไอ่ทิดแก้ตัวไปพอรอด แต่พอเยี่ยวหยดสุดท้ายโดนสะเด็ดน้ำออกจากปลายหัว ท่อนเอ็นโง้งของมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลงแต่อย่างใด
“ย้งแข็งอยู่เลย มา ให้แอมดูดพิษให้อีกนะ” เด็กน้อยเชื้อเชิญด้วยความเป็นห่วงทิดต้อมที่ยังมีท่อนลำแข็งโด่ กลัวว่าจะปวดทรมานเหมือนกับครั้งแรกที่ไอ่ทิดเคยปั้นเรื่องหลอกให้เด็กน้อยดูดให้
“ไม่..ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวมันก็หายแล้ว มันแค่เพราะปวดเยี่ยวเฉยๆไม่ใช่เพราะ...” ไอ่ทิดเว้นวรรคไม่รู้จะหาคำไหนมาแทนคำว่าเงี่ยนดี
“เพราะหยัง?” เด็กแอมซักต่อ “เออ..โตแล้วก็รู้เองน่า..” ชายหนุ่มรีบตัดบท
เกือบสายวันนั้น ทิดต้อมก็พาเด็กแอมกลับเข้าบ้าน ตลอดอาทิตย์ต่อมา เรื่องราวความลับต่างๆที่ไอ่ทิดกับเด็กแอมทำบัดสีกัน ก็ไม่มีทีท่าว่าเด็กน้อยจะเอาไปปูดกับใคร ความไว้เนื้อเชื่อใจกันและกันจึงเกิดขึ้นแล้วตอนนั้น ไอ่ทิดมอบหน้าที่คนดูดพิษที่ถาวรให้เด็กแอม ส่วนเด็กแอม ก็สนุกสนานกับการฝึกฝีปากกับท่อนลำของทิดต้อมเรื่อยมา
ระยะก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับไปนอนบ้านเหมือนเช่นเดิมเพราะยังนอนเฝ้านาข้าว เด็กน้อยเมื่อเลิกจากโรงเรียน ก็จะเดินเกาะกลุ่มกับพวกพี่ๆน้องๆ เด็กเล็กเด็กโตในหมู่บ้านที่เรียนโรงเรียนประถมที่เดียวกันกลับบ้านทุกวัน โดยบอกแม่ใหญ่ว่าไม่ต้องไปรับ แต่พอจะถึงบ้าน ก็มักจะแยกตัวออกจากกลุ่มแวะไปหาทิดต้อมที่เถียงนาก่อนเสมอๆ สองสามวันครั้ง เพื่อแวะไปกินไอติมเนื้อ ไอ่ทิดเมื่อเห็นเด็กน้อยเดินมาตามคันนา ก็รู้ทันที ว่าจะต้องเสียน้ำ เหตุมักเกิด ไม่ใช่แค่ที่บนเถียงนา แต่บางทีก็ในป่าโคก ชายหนอง หาดทรายริมแม่น้ำยัง สร้างความตื่นเต้นให้ทั้งทิดต้อมและเด็กแอมเป็นอย่างมาก และเมื่อหมดฤดูเก็บเกี่ยวทิดต้อมกลับไปนอนบ้านตามปกติ เด็กน้อยก็ได้ฝึกปรือริมฝีปากแทบทุกคืน โดยเฉพาะคืนวันพระใหญ่ ที่แม่ใหญ่จะไปจำศีลที่วัดการที่ได้ฝึกปรือฝีปากอย่างต่อเนื่อง ทำให้เด็กแอมคล่องแคล้ว จนรู้ใจทิดต้อมไปแทบทุกอย่าง เช่น ถ้าคืนไหน ที่ไอ่ทิดกดหัวลงต่ำเด็กแอมจะรู้ทันทีว่าพี่ทิดของมัน “ปวด” มันก็จะจัดการดูดพิษออกให้จนเสร็จคาปากแต่ถ้าวันไหนที่มัน ก้มลงไปดูดเล่นของมันเอง แล้วจู่ๆได้ยินเสียงกรนดังขึ้น แปลว่าไอ่ทิดหลับไปแล้ว ไม่ต้องดูดให้เสร็จ แค่ได้ดูดเด็กแอมก็พอใจ แล้วเก็บท่อนลำเข้ากางเกงให้พี่ทิดตามเดิม
บางคืนที่ทิดต้อมไม่ “ปวด”ไอ่ทิดก็จะหันหลังให้เด็กแอมเลย ก็หมายความว่า จะไม่มีการยุ่งกัน แต่บางวัน ตีสี่ครึ่ง เด็กต้อมหลับๆอยู่ กฌรู้สึกว่ามีหัวมนๆเยิ้มน้ำฉ่ำมาเขี่ยริมฝีปากไปมาเด็กน้อยก็รู้โดยอัตโนมัติว่าต้องอ้าอม และดูดกิน บางทีเด็กน้อยง่วงมากก็ดูดๆไปแล้วหลับ ไอ่ทิดก็จะไม่ยุ่งต่อ เก็บไว้คิดทบต้นดอกในเวลาก่อนนอคืนถัดไป เหตุการณ์เช่นนี้ดำเนินอยู่เป็นปีๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติของคนทั้งคู่ จากตื่นเต้น ก็กลายเป็นเคยชิน จากเคย 7 วัน อย่างต่ำ ก็ประมาณ 3 น้ำ กลายเป็นอาทิตย์ละ 2 ครั้ง หรือ ครั้งเดียวคืนวันพระใหญ่ ไฟท์บังคับก็มี จากที่รู้สึกว่าน้ำคาวข้นคลั่กของพี่ทิดเป็นสิ่งน่าแขยง กลายเป็นดูดกลืนกินได้ทุกหยาดหยดไม่มีเหลือ หรือน้ำข้นของทิดต้อมที่เคยพุ่งราวน้ำพุและเยอะจนแทบล้นออกมาครึ่งปากครึ่งจมูก บางวันก็กลายเป็นน้ำใสๆ รสชาติจืดจางกร่อยๆก็มี แต่พัฒาไปไกลคือ ฝีปากของเด็กแอม วัยย่าง 8 ขวบที่บางที ทำให้ไอ่ทิดแปลกใจได้ด้วยการกลืนท่อนลำได้มิด จนริมฝีปากมันจมหายไปในดงขนโคนหัวหน่าว
รุ่งขึ้น ปีใหม่ปีถัดมาอีกปีกว่า เด็กแอมอายุแปดขวบจะครบเก้า ในเวลาอีกไม่กี่เดือนส่วนไอ่ทิดอายุกำลังจะครบ 21 ปีเต็มเรื่องราวทุกอย่างยังดำเนินไปตามปกติ เด็กน้อยยังคงนอนกับพี่ต้อมของมันทุกคืนยังรีดน้ำให้ทิดต้อมประจำ ที่เปลี่ยนไปคือความคุ้นเคยกันมากขึ้นความตื่นเต้นเริ่มหายไป มีทั้งการปฏิเสธ มีทั้งการรุกรานอย่างไม่เต็มใจเช่นมีบางวันเด็กน้อยขี้เกียจ เพราะเมื่อยปากก็ผลัดไปเฉยๆ ไอ่ทิดก็เข้าใจจัดการกับตัวเองในห้องน้ำด้วยฟองสบู่เป็นที่เรียบร้อย ก็พออยู่ตัวไปอีกสองสามวันหรือ บางที เด็กแอมเกิดอยากกินน้ำกระทันหัน พอลับตาคน ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมมันก็จะล้วงควักไอ่ทิดให้ได้ดังใจเดี๋ยวนั้น จนต้องดุกันก็มีบ่อยไปถ้าสะเทือนใจเด็กแอมมากๆ ตกกลางคืน แม้ไอ่ทิดจะเว้าวอนแค่ไหนเด็กแอมก็จะหันหลังให้ไม่ยอมท่าเดียว
จนบางทีเด็กน้อยนอนๆอยู่แล้วรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนของที่นอนนั่นแหละจึงรู้ว่าไอ่ทิดกับลังจับกระเจี๊ยวด้วยความเร็วสูงอยู่ บางทีไอ่ทิดชักๆอยู่เด็กน้อยเกิดหายงอน ก็เอาปากมาครอบซะอย่างงั้น แล้วจัดการต่อจนเสร็จคาปาก แต่บางทีทิดต้องถอกท่อนเอ็นจนจะพุ่งอยู่มะรอมมะร่อ เด็กน้อยยังไม่หายงอนก็มี ในกรณีนี้ทิดต้อมจะถือวิสาสะ จับหัวเด็กแอมกดลงหาเป้าหมาย แล้วบีบแก้มให้อ้าปากเสือกท่อนเอ็นพรวดเข้าไป แล้วกระฉูดอัดคอโดยที่เด็กน้อยปฏิเสธไม่ได้เด็กแอมก็จะแก้เผ็ดโดยการ ดูดกินน้ำจนหยาดหยดสุดท้าย แล้วไม่ยอมหยุดดูดยังคงทำร้ายไอ่ทิดต่อไปด้วยการดูดหัวบานเปลือยด้วยความรุนแรงจนไอ่ทิดตัวกระตุกน้ำตาเล็ด ดิ้นกระแด่วๆ แต่ไม่กล้าส่งเสียงเพราะแม่ใหญ่นอนอยู่ในห้องด้านใน ไม่ไกลกันนัก หากเป็นกรณีนี้ไอ่ทิดก็จะต้องชักกระตุกแทบหัวใจวาย จนกว่าเด็กแอมจะพอใจจึงจะยอมคายท่อนเนื้อออกมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคนก็ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรงและพี่ต้อม ยังเป็นที่หนึ่งในใจเด็กแอมเสมอ ส่วนเด็กแอม สำหรับทิดต้อมก็คือคนที่ชายหนุ่มผูกพันใส่ใจและห่วงใยมากที่สุดอยู่เช่นเดิม
และแล้ว ในอาณาจักรรั้วบ้านสามหลังนั้นก็มีโอกาสได้ต้อนรับสมาชิกหน้าใหม่ เป็นเขยหนุ่มของน้าชายทิดต้อมซึ่งถือว่าเป็นน้องเขยของไอ่ทิด และพี่เขยของเด็กแอม ญาติคนใหม่นี้ เป็นสามีของพี่ฝนของเด็กแอม หรือน้องฝนของพี่ต้อม และ อีฝน ของแม่ใหญ่ “พี่ชำนาญ” ชำนาญที่พี่ฝนเรียกชื่อเล่นว่า หนุ่ย หรือบางทีคนแถวๆบ้านก็เรียก นาน แล้วแต่สะดวกไม่ว่าจะเรียกอะไร หนุ่ยก็จะรู้ว่าเรียกตัวเอง
หนุ่ยกับฝนเจอกันที่โรงงานหลังจากที่ฝนจบ ปวช. แล้วเข้าไปหางานทำที่ สมุทรปราการ ส่วนชำนาญ จบเพียง ม.สามเพราะค่อนข้างเกเร ไม่เอาไหน ถึงแม้ที่บ้านจะมีสวนมะพร้าวที่ประจวบฯฐานะเข้าขั้นมีอันจะกิน แต่ก็เหมือนถูกตัดหางปล่อยวัด เพราะความเกเร ไม่รู้จักโตปีนั้น ชำนาญอายุ ย่าง 24 ปีแล้ว เมื่อปลดจากทหารเกณฑ์ ก็ไปหางานโรงงานทำก็เผอิญไปเจอกับฝน สาวหน้าใสจากแดนอีสาน ความรักก่อตัวอย่างรวดเร็วจนแอบลักลอบได้เสียกัน จนฝนเกิดตั้งท้องขึ้นมา โชคยังดี ที่ชำนาญไม่ได้ทิ้งขว้างแม้จะพาเข้าบ้านที่ประจวบไม่ได้ เพราะที่บ้านไม่ได้ใยดีกับชำนาญนักแต่ก็ให้ทุนก้อนนึงมาตั้งตัว
ทั้งคู่จึงตัดสินใจลาออกจากโรงงานหลังจากที่ฝนคลอดลูกชายแล้ว เมื่อลูกอายุได้สามเดือนเศษๆฝนก็หอบลูกหอบผัวกลับมาบ้าน ซึ่งทำเอาน้าชายของเด็กแอมและทิดต้อม ช๊อคตาตั้งแต่ก็น้ำท่วมปากทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไงก็ลูกก็หลาน
ถึงแม้พ่อของฝนจะไม่ค่อยชอบใจ ชำนาญมากนัก เพราะอย่างแรกคือ อคติว่าเป็นคนใต้(ในสมัย30กว่าปีก่อน มายาคติเรื่องภูมิภาคชัดเจนกว่านี้มาก) อย่างที่สองคือชำนาญมีรอยสัก ซึ่งไม่ใช่การสักเลขยันต์ หรือเสือเผ่นแบบพวกมีวิชาเขาทำกันรอยสักประเภท ตรานาซีอันเบ้อเริ่มที่สีข้างลำตัวทำให้คนในสมัยก่อนอดคิดไม่ได้ว่าเคยผ่านคุกผ่านตารางมาก่อนหรือเปล่าถึงไปได้รอยสักประเภทนี้มา ในสมัยนั้น ถ้าไม่ใช่การสักยันต์แล้ว รอยสักประเภทอื่นๆน้อยคนที่จะนึกอยากสักเพราะไม่ได้เป็นที่นิยม แถมสังคมก็รังเกียจ สมัครงานหลายประเภทไม่ได้เลย โดยเฉพาะข้าราชการ
ชำนาญในเวลานั้นคือชายหนุ่มหน้าตาคมคาย ผิวเข้ม ผิดแผกจากคนละแวกบ้านอย่างเห็นได้ชัด ริมฝีปากได้รูปกระจับชัดมุมปากยก เมื่อมารวมกับตาคมๆ แม้จะดูหล่อเหลาเอาการ แต่ภาพลักษณ์กลับดูเหมือนตัวร้ายในหนังไทยสมัยนั้นไม่มีผิดชำนาญเป็นผู้ชายตัวบาง สูงไม่เกิน 175 เซนติเมตรเมื่อเทียบกับทิดต้อมที่ดูสูงโปร่ง รูปร่างล่ำสันเพราะกรำงานนาผิวถึงจะไม่ได้ขาวมาก แต่ก็จัดว่าขาวเหลืองๆแบบคนอีสานกลางทั่วๆไปหน้าตาของทิดต้อม ถึงแม้จะจัดว่าคมคาย แต่ก็ไม่ได้คมบาดเท่ากับชำนาญและดูเป็นมิตรกว่ามาก
ขั้นแรกเมื่อกลับมาอยู่บ้านสองผัวเมียลูกอ่อนก็ตั้งใจว่าจะนำทุนที่ทางฝ่ายชายได้มา ลงทุนเลี้ยงหมูขายน้าชายของทิดต้อม เลยยกที่นาให้หนึ่งแปลงก่อน เพื่อทั้งคู่จะได้ไปเลี้ยงหมูอยู่ไกลชุมชนหน่อยเพราะกลิ่นที่เหม็นเอาการนั่นเอง ด้านฝน แม่ลูกอ่อนมือใหม่แรกๆก็พอทนกับกลิ่นคอกหมู แต่หลังๆ อ้างว่าสงสารลูกอ่อนก็แอบหนีมานอนในบ้านกับพ่อแม่ประจำ หลังๆถึงขั้นแค่เอาข้าวเอาน้ำไปส่งผัวหนักเข้าก็ให้ผัวเดินกลับมากินข้าวที่บ้านเอง เพราะแค่ได้กลิ่นขี้หมูฝนก็เวียนหัวแพ้ ได้เป็นวันๆ บางทีถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อ
เมื่อเมียใจออกขนาดนั้นผัวอย่างชำนาญก็ชักไม่ค่อยสู้ กลางวันกลับมาอยู่บ้านพ่อตาเมื่อถึงเวลาไปให้อาหารหมู แล้วค่อยกลับไปนอนเฝ้าคอกหมูเวลาพลบค่ำโน่นแล้วฝ่ายน้าชายของทิดต้อมและเด็กแอม ก็ค่อยใจอ่อนเห็นใจลูกเขยขึ้นมาในเวลานั้นอีกทั้งนิสัยทั่วไปของหนุ่มชำนาญ ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร ขันแข็งใช้ได้เสียแต่ชอบร่ำสุราเท่านั้น แม้ไม่มีเพื่อนกินสักคนชายหนุ่มก็ซื้อมากริ๊บเองคนเดียวจนเป็นกิจวัตน์
เข้าฤดูร้อนของปีนั้นเองที่หมายเรียกเกณฑ์ทหารมาถึงบ้านทิดต้อม ซึ่งทำเอาป้าของเด็กแอม หรือแม่ของไอ่ทิดใจคอไม่ดี เนื่องจากเวลานั้น ไอ่ทิดกลายเป็นเสาหลักของบ้าน อีกทั้งเป็นลูกคนโปรดและหลานรักของทั้งแม่ใหญ่ และน้าชาย ทำเอาทุกคนหาช่องทางวิ่งเต้นเรื่องทหารกันใหญ่ทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ให้ไอ่ทิดสุดที่รักของทุกคนต้องไปเป็นทหารเกณฑ์.............. . . แล้วจะมาต่อครับ . .
|