แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย virgogun เมื่อ 2018-8-25 00:32
มาช้าหน่อยนะครับค่อยๆเขียนสะสมวันละนิดวันละหน่อย เขียนเพลิน มาดูอีกที่ ชะอุ่ย!! 16หน้า จะบ้าตาย ลงให้หมดเลยละกัน ส่วนกระทู้เก่าๆของเรื่องนี้ คลิกเข้าที่รูปโปรไฟล์ผม –คลิ๊กคำว่ากระทู้— ตามอ่านตอนเก่าๆได้เลยครับ . . . ก็เด็กมันหิว 10 . . หลังจากได้รู้จักความโศกเศร้าในการรับรู้ถึงการพลัดพรากในครั้งนั้น ก็ดูเหมือนว่าเด็กแอมจะโตขั้นภายในข้ามคืน ความคิดความอ่าน การกระทำหลายอย่างที่บ่งบอกถึงการมีวุฒิภาวะมากขึ้นจนเกินอายุ เสียแต่จากที่เคยเจื้อยแจ้วช่างพูด ช่างต่อล้อต่อเถียง ก็กลายเป็นเด็กที่เงียบขรึมไปนิดหน่อย ความสดใสตามวัยที่เคยมีเลยพลอยลดลงไปด้วย ตลอดหนึ่งเดือนก่อนที่ทิดต้อมจะเข้ากรมทหาร ชายหนุ่มได้ถ่ายโอนหน้าที่หลายอย่างให้เด็กน้อยได้รับผิดชอบแทนตัวเอง เช่นการตักน้ำใส่ตุ่มบนชานบ้าน ซึ่งเมื่อก่อนจะเป็นหน้าที่ทิดต้อม เค้าก็สอนให้เด็กน้อยทำแทนให้เป็น เพื่อแม่ใหญ่จะได้ไม่ลำบากตักน้ำเอง ปกติทิดต้อมจะหิ้วถังน้ำทีละสองถัง ตักน้ำวันเว้นวันสบายๆ แต่เด็กแอมตัวยังเล็ก เค้าก็สอนให้มันหิ้วน้ำทีละค่อนถังก็พอ อาจจะต้องหิ้วหลายเที่ยวหน่อย แต่ถ้าหิ้วทุกทุกวันไม่เว้นก็จะไม่เหลือบ่ากว่าแรงของมันเท่าไหร่
เสื้อผ้าที่มันเคยทิ้งให้เป็นหน้าที่แม่ใหญ่ซัก เค้าก็สอนให้มันซักเอง ทำเป็นแค่สองอย่างนี้ มันก็จะแบ่งเบาแรงของแม่ใหญ่ได้มากโขแล้ว ช่วงเวลาท้ายๆงวดๆนี้เอง ที่เด็กน้อยทำตัวติดไอ่ทิดแจ ทั้งที่แต่ก่อนมันไม่ได้ติดเขาขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะเป็นช่วงปิดเทอมของมันด้วยนั่นแหละ ปกติสายๆมันก็จะหายไปเล่นกับเด็กวัยเดียวกันแถวบ้าน กลับเข้าบ้านอีกทีก็พลบค่ำแล้ว แต่ช่วงก่อนทิดต้อมเข้ากรมหนึ่งเดือนนี่เอง ที่มันอยู่ติดบ้านเป็นพิเศษ เด็กๆมาตามไปเล่นถึงบ้านมันก็ไม่ไป หรือไปอย่างเสียไม่ได้ แล้วรีบกลับบ้านไม่เกินเที่ยง ถ้ากลับมาแล้วไม่เจอไอ่ทิด ก็จะเที่ยวถามคนให้วุ่นวายว่าไอ่ทิดอยู่ไหน ไม่ว่าชายหนุ่มจะอยู่ที่ไหน เถียงนา จับปลาที่แม่น้ำยัง ไปหาหน่อไม้ที่ป่าโคก ฯลฯ เด็กแอมจะตามไปจนเจอ แล้วไปวนเวียนอยู่ข้างๆเขาเสมอ เคยมีที่ไอ่ทิดจะเข้าป่าไปตีผึ้งกับไอ่โต้งพร้อมเพื่อนบ้านสองสามคน เด็กแอมจะตามไปด้วย แต่ด้วยความอันตรายจึงถูกห้ามจากแม่ใหญ่ ไอ่ทิดก็เห็นดีด้วย มันจะตามไปด้วย ทั้งร้องไห้ ทั้งวิ่งถือรองเท้าแตะตามทุลักทุเล ใครห้ามก็ไม่ฟัง วิ่งได้จนครึ่งทาง ทุกคนก็ไล่มันกลับบ้าน แม่ใหญ่ก็เดินมาตามอยู่ข้างหลังอยู่ไวไว พอขัดทุกคนไม่ได้มันก็นั่งลงดิ้นกับพื้นดิน จนในที่สุด ไอ่ทิดก็ต้องเดินย้อนกลับมารับให้มันไปด้วยเช่นเดิม เด็กน้อยทำราวกับว่า ถ้าไอ่ทิดคลาดสายตาไปซักครึ่งวัน แล้วจะแอบหนีมันไปตลอดกาล ในสายตาคนอื่นๆ เด็กแอมกับทิดต้อมก็คือพี่น้องที่ผูกพันกันมากจนน่าหนักใจแทน ถ้าไอ่ทิดจะจากไปเป็นทหารเกณฑ์ มีแค่คนเดียวที่เห็นความผิดปกติในความสัมพันธ์นี้คือชำนาญที่เฝ้าสังเกตอยู่เงียบๆ แต่ไม่เคยปริปากว่าอะไร
ด้วยความเจนโลก และออกจากบ้านมาปากกัดตีนถีบตั้งแต่วัยแรกหนุ่ม ชำนาญจึงผ่านโลกมาเยอะกว่าทุกคนในอาณาบริเวณบ้านสามหลังนี้ เรื่องดีร้าย เรื่องขาว เทา ตลอดจนดำสนิท ชำนาญผ่านมาหมดอย่างลึกซึ้งเลยด้วยซ้ำ ความรู้เท่าทันคนนี้แหละที่ทำให้เขาเกลียดตัวเองที่กลายเป็นคนมองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อนตลอดเวลา ในกรณีทิดต้อมกับลูกพี่ลูกน้องตุ๊ดเด็ก ชำนาญไม่อยากมองเป็นอื่น แต่ก็ยากที่จะเชื่อว่ามันไม่มีอะไร เพราะเด็กอย่างเด็กแอม ไม่ใช่เด็กที่ทำตัวน่ารัก น่าเอ็นดูจนใครๆก็ต้องรักต้องถนอมมัน กรณีที่แม่ใหญ่รักและตามใจมัน จึงเป็นเรื่องปกติมาก เพราะเลี้ยงมาแต่แบเบาะ ความผูกพันย่อมมากกว่าใครๆ แต่ทิดต้อมไม่น่าจะต้องยอมเด็กแอมได้มากขนาดนั้น บางทีก็เหมือนยอมเด็กแอมอย่างเสียไม่ได้ ทั้งๆที่ดูเหมือนไม่เต็มใจ บางครั้งเลยดูเหมือนคนที่มีชะนักติดหลังให้เด็กคอยข่มขู่มากกว่า หรือคล้ายกับที่ทิดต้อมเอาใจเด็กน้อย เหมือนการไถ่บาปจากความผิดอะไรบางอย่าง แต่ก็นะ อาจจะเป็นตามนิสัยที่ชำนาญมองเห็นทิดต้อมก็เป็นได้ คือ เป็นคนง่ายๆ ช่างเกรงใจ สุภาพ เงียบขรึม เลยไม่ค่อยขัดเด็กแอม และถูกเด็กตัวเล็กจูงจมูกโดยง่าย........แต่ก็เป็นเฉพาะกับเด็กแอมนะ ทำไมทีกับไอ่โต้ง น้องชายแท้ๆ ทิดต้อมไม่เห็นจะเคยอ่อนข้อให้ขนาดนี้ก็ไม่รู้
จนถึงวันที่ทิดต้อมต้องเข้ารายงานตัว 1 พ.ค. นั่นแหละ ไอ่ทิดแอบออกจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ของวันที่ 29เมษาฯแล้ว ญาติๆทุกคนออกมาส่งอย่างพร้อมเพียง มีเพียง ชำนาญ ไอ่โต้ง และเด็กแอมกระมัง ที่ไม่ได้ออกไปส่ง ชำนาญ กับไอ่โต้งก็แค่เห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ไม่ต้องออกมาส่งก็ได้ แต่เด็กแอมนี่คือเพราะไม่รู้ว่าทิดต้อมจะหนีออกไปแต่เช้ามืด ทุกคนในบ้านรวมถึงทิดต้อมด้วยตั้งใจจะปิดไม่ให้มันตองมารู้เห็นว่าทิดต้อมจะไปทหารแล้ว เพราะกลัวจะเกิดเหตุการเหมือนที่เด็กน้อยไปหลบในกอกล้วยอีก
แต่ก็ผิดคาด เมื่อเด็กแอมตื่นขึ้นมาไม่พบทิดต้อมก็ไม่ได้โวยวายอะไร เพียงแต่ซึมไปถนัดตา ทุกคนในบ้านต่างก็ลงความเห็นว่าเด็กน้อยคงจะเซื่องๆไปซักพัก พอทำใจยอมรับความจริงได้มันก็คงจะหายเป็นปกติ
เป็นจริงดังคาด เด็กแอมเซื่องซึมอยู่ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ แม้ว่าจะไม่ช่างพูดช่างเจรจาเหมือนเดิม และมีบ่อยครั้งที่แอบหนีไปเล่นอยู่เถียงนาเพียงลำพัง ชำนาญเคยผ่านไปเห็นตอนจะไปทำห้างดักยิงนกเปล้าในป่า ครั้งแรกก็นึกว่ามีใครแอบมาใช้เถียงนาน้อยของครอบครัว แต่กลายเป็นว่าเป็นเด็กแอมที่ทำอะไรกุกๆกักๆอยู่ พอเขยใหม่ไปส่องดูมันรู้ตัวก็แผ่นหนีเปะปากเปะตาใส่อีกต่างหาก เขยใหม่ได้แต่คิดว่า ปฏิกิริยาแบบนี้สิ ถึงจะสมเป็นเด็กแอมแก่แดดคนเดิม
หลังจากเหตุการณ์ที่เด็กแอมไปแอบในกอกล้วยกว่าสองเดือน เด็กน้อยไม่เคยย่างกลายไปใกล้บ้านของฝนอีกเลย แม้ว่ามันจะอยากดูโทรทัศน์มากเพียงใดก็ตามคงเป็นเพราะ 1. มัวตามตูดทิดต้อมต้อยๆ 2. เข้าหน้าชำนาญเขยใหม่ไม่ได้ จนกระทั่ง บ่ายวันอาทิตย์ในเดือน พ.ค.วันหนึ่ง ปี 2529 ชำนาญเสร็จจากการขายหมูให้คนที่มาซื้อถึงเล้าที่ปลายนา กะว่าจะกลับบ้านมาดูมวยไทย 7 สี เสียหน่อย ก็เห็นเด็กต้อมนั่งรวมกลุ่มกับคนอื่นๆในหมู่บ้านที่มาคอยเชียร์มวยหน้าจอทีวีเรียบร้อยแล้ว คนอื่นๆในหมู่บ้านมาดูมวย เขยใหม่ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลก เพราะมันเกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันอาทิตย์ แต่เด็กแอมนี่สิ ที่ชำนาญเห็นว่าแปลกเพราะ ก็รู้กันอยู่ว่าเด็กแอมเป็นตุ๊ด ไม่น่าจะชอบดูกีฬาหมัดมวย แล้วมันมาดูอะไร?
เขยใหม่มาถึงบางอ้อก็ตอนที่มีโฆษณาขั้นยกนั่นเอง เด็กแอมรามือจากสมุดและดินสอเล่มเก่าๆที่มันนำมาวาดรูปเล่นด้วย จ้องทีวีตาแป๋ว ในขณะที่คนอื่นๆใช้โอกาสนี้ไปเข้าห้องน้ำบ้าง เลือกซื้อของในร้านฆ่าเวลารอยกต่อไปบ้าง แต่เด็กแอมกลับหันมาจ้องดูจอทีวีตาไม่กระพริบ ชำนาญเดาว่าโฆษณาที่เด็กชายรอดูคือ โฆษณา “กางเกงชั้นในชาย” ที่เป็นสปอนเซอร์รายการมวยหลายยี่ห้อ ในโฆษณามีชายหนุ่มรูปร่างกำยำล่ำสันนุ่งกางเกงชั้นในตัวจิ๋วเพียงตัวเดียว ยืน เดิน วิ่ง พลิกคว่ำพลิกหงาย คงจะเป็นที่ถูกอกถูกใจเด็กแอม พอโฆษณาจบ ตัดเข้ารายการมวย เด็กน้อยก็ก้มลงวาดรูปการ์ตูนเจ้าของมันตามเดิม เขยใหม่เห็นดังนั้น ก็หัวเราะอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า ขำที่คาดเดาเด็กน้อยได้ถูก จนมีคนถามว่าขำเรื่องอะไร เขยใหม่ก็ไม่ตอบ สร้างความงุนงนให้กับคนอื่นรวมถึงเด็กแอมด้วย
เขยใหม่ไม่รู้ว่าตัวเองเอาจิตใจไปจดจ่อกับเด็กแอมตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่เริ่มสนุกกับการตอแยเด็กน้อยเหมือนงานอดิเรกไปแล้ว อาจเพราะเมื่อย้ายมาตั้งรกรากที่นี่กับฝน เวลาว่างมีเยอะ คนสนิทมีน้อย แม้จะพยายามปรับตัวให้เข้ากับผู้คนและสภาพแวดล้อม แต่ก็ยังเป็นเพียง “คนหน้าใหม่” ไม่ค่อยจะมีใครคบค้าสมาคมด้วย งานการวันๆหนึ่งก็มีแค่ เลี้ยงหมู ว่างจากเลี้ยงหมูก็ไปขึ้นห้างดักยิงนกเปล้าในป่าชุมชน หาปลาที่แม่น้ำยังเป็นกิจกรรมที่ผู้คนแถวนี้นิยมมาก แต่เขยใหม่กลับไม่ถนัดเอาเสียเลย ทำให้ขาดสังคม คนที่พอจะพูดคุยได้บ้างก็มีแค่ทิดต้อมกับ ไอ่โต้งน้องชายของทิดต้อม แต่เมื่อไอ่ทิดไปทหาร ก็ดูเหมือนจะขาดคนวัยเดียวกันไป ครั้นจะคุยกับไอ่โต้ง มันก็อยู่ในวัยรุ่น เรียนวิทยาลัยเทคนิคในตัวจังหวัด เสาร์-อาทิตย์ถึงกลับบ้านที แถมมันยังมีกลุ่มเพื่อนวัยเดียวกันแถวหมู่บ้านที่มันสนิทกลุ่มหนึ่งอยู่แล้ว ชำนาญเลยถูกทิ้งเดี่ยว ส่วนฝนผู้เป็นเมีย ตั้งแต่มีลูกและเปิดร้านขายของชำ เวลาทั้งหมดก็แทบจะทุ่มเทให้ลูกและร้านขายของชำแทบทั้งหมด
ลึกๆในใจแล้ว ชำนาญเลยรู้สึกว่าตัวเองกับเด็กแอมมีส่วนที่เหมือนกันอย่างหนึ่งคือ “ตัวคนเดียว” และ “แปลกแยก” เด็กแอมอาจจะแปลกแยกด้วยรสนิยมทางเพศ ส่วนชำนาญนั้นแปลกแยกเพราะเป็นคนต่างถิ่นที่นิสัยแตกต่างจากคนท้องถิ่น นี่เองอาจจะเป็นสิ่งเชื่อมโยงเล็กๆที่ทั้งสองคนโยงถึงกัน โดยเฉพาะเหตุผลอีกข้อซึ่งสำคัญมากที่สุดคือทั้งสองคนจะทำอะไรที่ไหนก็ตาม ต่าง “ไม่มีใครมาใส่ใจ” ในสิ่งที่ทั้งสองคนทำ
บ่ายวันหนึ่ง ในวันเสาร์ หลังจากเสร็จภารกิจของวันแล้ว เขยใหม่กะจะไปดักนกเปล้ามาทอดกระเทียมเช่นเคย ชำนาญคุ้นๆว่าที่เถียงนาของทิดต้อมมีแหเก่าๆอยู่ เหมาะสำหรับไปขึงทำตาข่ายพอดี เลยกะจะไปยืมมาใช้ก่อน ชายหนุ่มเคยเห็นมันถูกทิ้งไว้แถวใต้เถียงนั่นแหละ แล้วก็เป็นอย่างที่คิด แหเก่าชำรุดนั้นยังถูกทิ้งไว้ที่เดิม เขยใหม่ไม่ลืมยกมือไหว้ปะหลกๆ ขออนุญาตพ่อของทิดต้อมผู้ล่วงลับไปแล้ว แม้จะไปออกปากขอกับแม่ทิดต้อมที่ยังมีชีวิตอยู่แล้วก็ตาม พอกำลังจะหยิบมันมาเท่านั้นเอง ก็ได้ยินเสียงกุกกักดังขึ้นจากบนเถียงนา เขยใหม่ใจหายวาบ นึกในใจว่าตัวเองคงจะโดนผีหลอกกลางวันเข้าแล้ว เสียงนั้นยังดังคล้ายมีคนเดินอยู่บนเถียงนา ชายหนุ่มพนมมือท้วมหัวตัวสั่นเทา พอได้สติจึงนึกว่ามันออกจะทะแม่งๆไปหน่อยที่ผีจะมาหลอกตอนกลางวัน
ชำนาญเริ่มหารอยแยกของฝาเถียงนา ซึ่งถูกตีด้วยไม้ปีกต้นยางเป็นแผ่นห่างๆราวหนึ่งฝ่ามือ ก็พบว่าเป็นเด็กแอมนั่นเองที่อยู่บนเถียงนา เขานึกขำตัวเอง น่าจะนึกได้แต่แรก เพราะเด็กน้อยชอบแอบมาเล่นที่เถียงนาคนเดียวเป็นประจำอยู่แล้ว กำลังจะทักอยู่แล้วเชียว แต่เขยใหม่ก็ต้องหุบปากเสียสนิท
เด็กแอมที่อยู่บนเถียงนานั้น ยังไม่รู้ตัวว่ามีใครลอบมองตัวเองอยู่ เลยไม่ทันได้ระมัดระวังตัว สิ่งที่ได้เห็น ทำเอาเขยใหม่อึ้งไปพักใหญ่ เด็กแอมกำลังเอาหน้าคลุกเคล้าเข้ากับเป้ากางเกงชั้นในผู้ชายสีดำโทรมๆตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ต้องเดาเลยว่าเป็นของใคร มันน่าจะเป็นกางเกงในของทิดต้อมอย่างไม่ต้องสงสัย เด็กชายสูดดมเป้ากางเกงในอย่างหลงใหล บางครั้งก็เอามาคลุกเคล้ากับใบหน้าเล็กๆของมันสลับกับการใช้ลิ้นเลียเป้ากางเกงในตัวโทรมตัวนั้น เขยใหม่เกือบจะหลุดอุทานออกมาแล้ว เพราะตกใจ แต่เมื่อคิดได้ก็แทบอยากจะกัดลิ้นตนเองสีย
เขยใหม่หาที่กำบังตัวที่มิดชิดยิ่งขึ้น และแอบดูพฤติกรรมของเด็กแอมเงียบเชียบ เมื่อเด็กน้อยสูดดมกางเกงในของทิดต้อมจนหนำใจแล้ว ก็เก็บมันใส่ถุงพลาสติกแล้วมัดปากถุงเสียดิบดี เรื่องก็น่าจะจบแค่นั้น และชำนาญน่าจะจากไปเงียบๆไม่ให้เด็กแอมรู้ตัว ถ้าหากว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาจะทำให้ชำนาญตกใจมากขึ้นกว่าเดิม
เด็กแอมใช้มือควานเข้าไปในถุงพลาสติกอีกใบหนึ่ง และสิ่งที่เด็กน้อยนำออกมาก็คือกางเกงในอีกตัว เด็กแอมยังทำเช่นเดิมคือ สูดดมคลุกเคล้าที่เป้ากางเกงในอย่างหลงไหล เขยใหม่จะไม่ตกใจเลย หากว่ากางเกงในตัวใหม่ที่เด็กแอมกำลังสูดดมและใช้ลิ้นเลียชิมคราบที่ติดเป้าตัวนั้น มันไม่ใช่กางเกงในตัวเขาเอง ชำนาญใจเต้นระทึก ทั้งรู้สึกขยะแขยง ปน ภาคภูมิใจ โกรธและเร้าอารมณ์ทางเพศแปลกๆจนสบสนไปหมด เขยใหม่ผู้เคยเสเพลมามากและเคยผ่านประสบการณ์ทางเพศกับเหล่าบุคคลเพศทางเลือก ตั้งแต่ตอนเป็นเด็กใจแตกหนีออกจากบ้าน จนกระทั่งในค่ายทหารตอนเป็นทหารเกณฑ์ แม้ว่าเค้าจะชอบเพศหญิงเหมือนอาหารหลัก แต่กับเกย์ กะเทย เค้าก็ไม่ปฏิเสษหากว่ามีปัจจัยหนุนนำ เช่นเรื่องเงินทอง การเอาตัวรอด หรือแค่ดับอารมณ์ทางเพศเวลาจวนตัว เรียกได้ว่าหากผู้หญิงคือข้าวซึ่งเป็นอาหารหลัก เพศทางเลือกก็คือทางเลือกที่สองหากไม่มีข้าวจะกิน แต่ต้องประทังชีวิตเหมือนคนป่าที่ขุดกลอย เผือกมันมาทดแทน
มันจะไม่เป็นปัญหาอะไรเลย หากเขยใหม่ไม่แทนที่ตัวเองลงไปในกางเกงชั้นในของเขา แต่ทุกครั้งที่เด็กแอมสูดดม ดูดเลียตรงเป้ากางเกงในที่แอบไปฉวยมาจากตะกร้าผ้า ชำนาญเห็นภาพเด็กแอมกำลังกระทำแบบนั้นกับกึ่งกลางลำตัวของเขาเช่นกัน ความรู้สึกโกรธหัวเสียมันมีมาแน่นอน แต่ท่อนเอ็นที่แข็งตุงกางเกงของเขาตอนนี้มันคือความรู้สึกอะไรกันแน่? เขยใหม่สับสนไปหมด ก่อนที่ความคิดจะเลยเถิดไปไกลกว่านี้เขยใหม่เลือกที่จะเดินจากไปอย่างเงียบๆ และปล่อยให้ความคิดฟุ้งซ่านตีกันอยู่ในหัวของเขาอย่างนั้นตลอดบ่าย เมื่อดักนกเปล้าเสร็จ ชำนาญก็คิดจนตกว่า จะเก็บงำเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ ไม่คิดจะแพร่งพรายให้ใครฟัง แม้แต่ฝนเมียของเขา เพราะเกิดเห็นใจเด็กแอมขึ้นมาเฉยๆเสียอย่างงั้น แต่ทีประหลาดใจคือ เด็กอายุเกือบเก้าขวบ มีความคิดต่อเรื่องทางเพศได้เท่าเด็กแอมแล้วหรือ สมองของชำนาญเริ่มมองหาความน่าจะเป็น เชื่อมโยงอะไรหลายๆอย่างเข้าด้วยกัน ในที่สุดก็คิดอกุศลไปถึงทิดต้อม......ขออย่าเป็นอย่างที่คิดเลย....
หลังจากที่แอบไปเห็นเด็กแอมทำมิดีมิร้ายกับกางเกงในของตนเองในวันนั้น ความคิดในทางสกปรกกับเด็กน้อยก็จู่โจมสู่สมองของเขยใหม่อยู่เนืองๆ แต่เขาสะกดไว้ด้วยการเสไปคิดเรื่องอื่นๆแทน กลายเป็นว่าเมื่อได้เผชิญหน้ากับเด็กแอมทีไร ชำนาญจะมีภาพที่เด็กแอมสูดดม ดูดเลียเป้ากางเกงในของเขาผุดขึ้นมาในหัวทุกที จนต้องเลี่ยงการพบเจอเด็กน้อยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่เหตุการณ์จะไม่เลยเถิดไปกว่านี้เลย หากว่าวันหยุดเข้าพรรษาปีนั้นฝนและพ่อแม่จะไม่หอบเอาลูกเล็กๆไปให้ครูบาที่มีชื่อเสียงของภาคอีสานตั้งชื่อให้ใหม่ เพราะป่วยบ่อยเลี้ยงยากเหลือเกิน แล้วให้ชำนาญเฝ้าร้านของชำเพราะกลัวขาดรายได้ และ ตัวปัญหาที่แท้จริงคือ เด็กแอม ที่มาปักหลักหน้าโทรทัศน์ที่บ้านแต่เช้า รอดูรายการพิเศษที่สถานีโทรทัศน์ออกอากาศทั้งวัน นั่นเท่ากับว่า บ้านทั้งหลังมีแค่เขยใหม่ กับ เด็กแอม แค่2คน.........
ชำนาญออกจะแปลกใจด้วยซ้ำที่เด็กแอมไม่มีปฏิกิริยาใดๆให้เป็นพิรุธ เมื่อเผชิญหน้ากัน กลายเป็นตัวเขาเองซะอีก ที่สุภาพกับมันขึ้นนิดๆ เหมือนเกือบจะญาติดีกัน ไม่หาเรื่องแขวะเช่นเดิม ซึ่งข้อนี้เด็กน้อยเองก็แปลกใจ ความเฉยชาเกินไปของเด็กแอมทำให้ชำนาญเกิดหงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น คล้ายๆกับว่าสิ่งที่แอบภาคภูมิใจมาตลอดว่าเด็กแอมลุ่มหลงตัวเองอยู่อย่างลับๆ จากการแอบขโมยกางเกงในไปดม จริงๆแล้วเด็กน้อยคิดแบบนั้นหรือไม่?
ผีห่าซาตานตนไหนดลใจก็ไม่อาจรู้ แต่ชำนาญเลือกที่จะเรียกร้องความสนใจเด็กแอมด้วยการไปเปลี่ยนใส่กางเกงในตัวที่ย้วยที่สุดจนแทบจะเก็บอะไรไม่มิด รวมถึงนุ่งผ้าขาวม้าผืนบางและเล็กจิ๋วที่สุด เพื่อปล่อยให้อะไรๆ มันเล็ดลอดออกมาวับๆแวมๆท้าทายสายตาเด็กน้อย
เด็กแอมนั่งอยู่ที่ประจำ คือพิงเสากลางบ้านหน้าโทรทัศน์ เขยใหม่ก็แกล้งเอาหมอนไปตอนตรงข้างๆเด็กน้อย โดยกะให้เสาที่เด็กน้อยนั่งพิง อยู่ตรงระดับกึ่งกลางลำตัวของเขาพอดี ในขณะที่ล่อสายตาเด็กน้อยอยู่นั้น เขยใหม่ก็สังเกตปฏิกิริยาเด็กแอมจากด้านหลังได้ด้วย
ได้ผลอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเด็กน้อยเริ่มหันรีหันขวางอย่างไม่เป็นสุข สักพักมองจอทีวี สักพักก็ชำเลืองทางซ้ายมือของตัวเอง ในขณะที่เขยใหม่ก็ขยันขยับสับเปลี่ยนท่าทางการนอน เพื่อให้อะไรๆที่ว่ามันเปิดเผยออกมาล่อตาล่อใจเด็กแอม และท่าไม้ตายชองเขยใหม่คือ นอนหงายชันเข่าขึ้นข้างหนึ่ง จงใจให้รอยแหวกของผ้าขาวม้าเปิดอ่าซ่า เผยให้เห็นกางเกงชั้นในตัวโทรม ที่ห่อหุ้มอะไรๆแทบจะไม่มิด ครั้งนี้เอง ที่ทำให้เด็กแอมเลิกสนใจภาพในจอโทรทัศน์ไปเลย เด็กน้อยทอดสายตามาทางซ้ายมือนิ่งนานราวกับโดนมนต์สะกด เขยใหม่ได้เห็นอย่างนั้นถึงกับนึกกระหยิ่มในใจ จนลืมนึกไปว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่ แค่กะจะยั่วเด็ก หรืออยากให้ปลายทางมันไปถึงตรงไหน
แต่การที่ได้รู้ตัวว่ามีคนแอบจ้องในแบบที่แกล้งไม่รู้ตัวรวมกับนิสัยหลงตัวเองนิดๆ...มันทำให้ชำนาญตื่นเต้นจนถึงขีดสุด และความตื่นเต้นนั้นทำให้เขยใหม่หน้ามืด จนควบคุมท่อนเอ็นกึ่งกลางลำตัวไม่ได้ และดูเหมือนตอนนี้มันจะค่อยๆเหยียดตัวออกมาทุกขณะทุกขณะ...ในที่สุดก็ขึ้นลำเป็นท่อนชัดเจน จนเหยียดค้ำกางเกงในตัวโทรมที่เขาใส่อยู่ ชายหนุ่มเตลิดไปไกลแล้ว และอยากรู้ว่าเด็กแอมจะทำยังไงกับเขาต่อไป
เด็กน้อยรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่น่าจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาเสียแล้วแต่นอกจากลอบมองแล้ว เด็กแอมก็ไม่กล้าทำอะไรอีกเพราะความที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับชำนาญมาตลอด ทั้งๆที่ใจน้อยๆของมันตอนนี้เต้นตุ้มๆต่อมๆไม่เป็นจังหวะ จับความจากรายการทีวีไม่รู้เรื่องแล้ว เพราะท่อนเนื้อแข็งที่ทอดตัวยาวเหยียดในกางเกงในตัวโทรมนั้นเอง ตราบจนกระทั่งเสียงกรนแผ่วเบาดังขึ้นมาจากเจ้าของแท่งเนื้อ เด็กน้อยถึงรู้สึกหายใจคล่องจมูกมากขึ้น หากแต่น้ำลายเหนียวๆในลำคอนี้ทำไมมันถึงกลืนยากยากกลืนเย็นนัก ยิ่งพยายามกลืนให้แผ่วเบาเท่าไหร่กลับกลายเป็นเสียงดัง“เอื้อก”ขึ้นมาเสียอย่างนั้น ความคิดฝ่ายสูงกับฝ่ายต่ำของเด็กน้อยวัยเกือบ 9 ขวบตีกันวุ่นในหัวไปหมด
ที่สุดมือน้อยๆอันสั่นเทาก็ไปวางแหมะอยู่ตรงท่อนเอ็นแข็งโป้กภายนอกกางเกงในตัวโทรมของเขยใหม่จนได้ ราวกับจะได้ยินเสียงถอนหายใจโล่งอกจากชำนาญอย่างงั้นแหละ แต่ทว่าเสียงกรนยังคงตามปกติ ส่วนเขยใหม่เองก็ใจระทึกพอๆกัน ยิ่งเมื่อรู้ว่าเหยื่อที่ดักล่อไว้ถูกเด็กแอมฮุกเข้าอย่างจัง เขาค่อยๆหรี่ตาลอบมองการกระทำของเด็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
“พี่หนุ่ย!....พี่หนุ่ย!...” เด็กแอมตัดสินใจเขย่าตัวเขยใหม่เพื่อตรวจสอบว่าหลับลึกแค่ไหน แต่ปลุกคนแกล้งหลับมีหรือเขาจะตื่น....เมื่อสมองน้อยๆของเด็ก9ขวบประมวณผลได้ว่าชำนาญหลับไปจริงๆ ปฏิบัติการรุกฆาตจึงดำเนินต่อ เด็กแอมค่อยๆใช้มือดันเบียดท่อนเอ็นซึ่งบัดนี้มีน้ำหล่อลื่นซึมเยิ้มเต็มปลายหัว ให้ค่อยๆเผยตัวออกมาจากขากางเกงในย้วยๆทีละนิดๆ อย่างเบามือที่สุด คนที่รู้สึกอยากให้พ้นขั้นตอนนี้เร็วๆกลับเป็นคนแกล้งหล้บ ที่พยายามแขม่วพุงช่วยสุดชีวิต เพื่อให้น้องชายขนุนหนังของตัวเองโผล่ออกมาให้เด็กแอมเชยชม จนแล้วจนรอด มันก็ออกมาได้เพียงแค่ครึ่งหัว และเด็กน้อยไม่กล้าดันมันออกมาให้มากกว่านั้น
เด็กแอมสมาธิจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า จนลืมสังเกตไปเลยว่าเสียงกรนมันหายไปนานพักหนึ่งแล้ว ดังเหมือนมีแรงดึงดูดจากท่อนเอ็นแข็งๆนั้น เด็กน้อยโน้มหน้าลงไปจนใกล้ ได้กลิ่นคาวปนเค็มและหอมอับที่คุ้นเคย อำนาจแห่งโคยสะกดให้เด็กขายเลียกินน้ำใสเหนียวที่ไหลเปรอะตรงปลายหัวเอ็นออกให้หมด พอน้ำสัมผัสกับลิ้นเท่านั้นแหละ ราวกับไฟถูกจุดแฝดเผาร่างทั้งร่างของเด็กแอม ทั้งความสมใจทั้งความซาบซ่านประเดประกังเข้าหาเด็กแอมจนควบคุมตัวเองไม่ได้ จากที่แค่คิดจะเลียกินน้ำนิดหน่อยแล้วจะพอ กลายเป็นจูบเข้าที่รูหัวเอ็นแล้วดูดน้ำหล่อลื่นดัง“ซร๊วบบบ” ราวกับซดน้ำแกง ปลายลิ้นน้อยๆของมันชอนไชแยงลงรูน้อยๆที่ปลายยอดเอ็นโดยอัตโนมัติเหมือนอย่างที่พี่ทิดต้อมเคยสอน
พอโดนปลายลิ้นแยงรูเท่านั้น คนแกล้งหลับก็ถึงกับเอวกระตุกเล็กน้อยและเกือบเผลอครางออกมาเสียแล้ว ชำนาญต้องบังคับร่างกายตัวเองให้ได้ เพราะกลัวไก่จะตื่นเสียก่อน ชายหนุ่มจึงทำได้แค่เพียงทำตัวเองให้นิ่งเหมือนคนนอนหลับมากที่สุดและขบฟันแน่นจนกรามนูนด้วยความเสียว สิ้นความสงสัยเสียที เขยใหม่ฟันธงในใจตัวเองว่า เด็กแอมกับทิดต้อม ต้องเคยทำกันอย่างนี้แน่นอน
เด็กแอมที่ห่างหายจากการกินท่อนเอ็นของทิดต้อมมาร่วมเดือน รู้สึกโหยหาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วลืมตัวงับหัวเอ็นคล้ำๆเข้าไปถึงคอหยัก โดยไม่สนใจว่าเขยใหม่จะรู้สึกตัวหรือเปล่า แต่ความหิวมันทำให้เด็กชายยอมเสี่ยงทุกอย่างแล้วดูดดื่มหัวเอ็นอย่างไม่ปราณี แรงดูดแรงลิ้นจากเด็กน้อยทำเอาเขยใหม่เกร็งไปทั้งตัวเพื่อควบคุมให้ร่างกายของตนเองอยู่ในสภาพเดิม เขยใหม่ไม่โดนปากโดนลิ้นมานานมากแล้ว แม้จะมีฝนเป็นภรรยา แต่ฝนก็ไม่เคยใช้ปากให้ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสกปรก พักหลังๆยิ่งตอนมีลูกน้อย เรื่องทางกายยิ่งไม่ค่อยได้ยุ่งเกี่ยวกันเลย เมื่อได้มาโดนเด็กชายจับกินอย่างไม่คาดฝันความเสียวจึงเพิ่มเท่าทวีคูณ อาจจะเพราะห่างหายไปนาน
ตั้งแต่ปากเล็กๆจูบรูหัวเอ็นจนดูดเข้าไปถึงคอหยัก ผ่านไปยังไม่ถึงสามสิบวินาทีดี และดูเหมือนว่ามันกำลังจะเลยเถิด
“ ซื้อยาสูบสามมิตสิบสี่แหน่ซองหนึ่ง “
เสียงนั้นดังมาจากทางประตูบานเฟี้ยมที่หน้าร้านค้า ซึ่งทำให้เขยใหม่และเด็กน้อยผงะออกจากกันโดยอัตโนมัติ เด็กแอมหน้าเสียเมื่อได้ประสานสายตากับชำนาญ ครู่เดียวเท่านั้นที่สบตากันเด็กน้อยก็ลนลานวิ่งหายออกไปจากบ้าน
วันนั้นทั้งวัน เด็กแอมก็หมกตัวอยู่แต่ในบ้านแม่ใหญ่ ไปโผล่หน้ามาให้ชำนาญได้เห็นอีกเลย เหตุการณ์วันนั้นทำเอาเด็กแอมใจแกว่งไปนาน ในหัวคิดแต่ว่า ไม่น่าเลย ไม่น่าทำเลย ซ้ำไปซำมา อีกใจก็คิดว่าชำนาญไม่รู้หรอก เพราะพอมีเสียงคนเรียกซื้อของ มันก็คายท่อนเอ็นออกจากปากเลยก่อนที่ชำนาญจะลืมตาด้วยซ้ำ หรือไม่ก็ เขาต้องรู้ตัวสิ ถึงแม้ตอนที่มันแอบดูดของเขา เขาจะหลับอยู่ แต่พอรู้ตัวว่าทำไมหัวท่อนลำมันถึงโผล่ออกมาจากขากางเกงใน ชำนาญต้องรู้แน่นอนว่ามันเป็นคนควักมันออกมา
เด็กน้อยหลบหน้าชำนาญอยู่เป็นอาทิตย์ แม้แต่โทรทัศน์รายการโปรดก็ไม่ยอมไปดูเหมือนเคย จนในที่สุด เมื่อไม่เกิดอะไรเลวร้ายตามมาเหมือนอย่างที่เด็กแอมจินตนาการไว้เด็กแอมจึงกลับมาทำตัวปกติ แต่ก็ยังพยายามหลบเลี่ยงเขยใหม่อยู่ดี ส่วนเขยใหม่ ตั้งแต่โดนปากฝากรักไว้ในวันนั้น อารมณ์ราคะกลับเร่าร้อนกว่าเดิมมาก แต่หาทางระบายออกไม่ได้เลย เมียก็ไม่ให้ยุ่ง เด็กแอมก็หลบหน้าหลบตา แม้ชายหนุ่มจะพยายามส่งสัญญาณด้วยการเดินผ่านบ้านแม่ใหญ่ เข้าไปทำทีเป็นสำราจป่ากล้วยให้เด็กชายได้เห็นบ่อยครั้ง บางทีเด็กแอมอยู่ตรงชานบ้านแม่ใหญ่คนเดียวเขยใหม่ก็จงใจปล่อยเบาให้เด็กน้อยเห็นจะจะ เด็กแอมก็แอบลอบมองความเป็นชายของเขยใหม่ตาเป็นมัน แต่แล้วก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆเลย
บ่ายวันเสาร์ของเดือน พฤษภาคมในอาทิตย์ถัดมา เมฆหนาทึบอากาศอบอ้าวเป็นสัญญานของฤดูฝนอีกครั้งหนึ่ง เขยใหม่เตรียมของไปนั่งห้างเพื่อยิงนกเปล้าอย่างเคย หลังจากเสร็จภารกิจที่ฟาร์มหมูแล้ว แต่เมื่อเดินผ่านเถียงนาของทิดต้อมก็เหมือนจะเห็นอะไรไหวๆอยู่ตรงใต้ถุน เมื่อมองชัดจึงรู้ว่าเป็นเด็กแอมมานั่งเล่นที่เถียงนาเหมือนที่พักหลังๆมันทำบ่อยๆ ดูเหมือนสถานการณ์จะอำนวยเขาแล้ว ชำนาญเปลี่ยนเส้นทางจากป่า วกกลับเข้าไปเถียงนาอย่างกระหยิ่มใจ
“ทำอะไรแอม!” เขยใหม่ทำลายความเงียบด่วยเสียงทักกึ่งตะคอก เพื่อกะว่าเด็กน้อยจะตกใจ ซึ่งก็ได้ผล เด็กแอมสะดุ้งโหยงจนตุ๊กตากระดาษในมือหล่นพิ้น เมื่อหันขวับกลับไปดูเจ้าของเสียงทักทายก็เจอเขยใหม่ยิ้มกริ่มให้ที่มุมปากอย่างมีเลศนัย
เด็กแอมลนลานเก็บตุ๊กกระดาษหน้าขาวซีดอย่างกับคนเจอผี พยายามก้มหน้านิ่งไม่ยอมสบตาเชยใหม่ราวกับมีความผิด ชำนาญรั้งขื่อเถียงนา ค้อมตัวลอดเข้าสู่ใต้ถุนมาใกล้เรื่อยๆ จนประชิดตัวเด็กน้อยซึ่งนั่งก้มหน้าสั่นเทาอยู่ตรงขอบแคร่
“เป็นไรตัวสั่น..กลัวพี่เหรอ?” ชายหนุ่มถามหัวเราะหึๆในลพคอ เสียงหัวเราะเยือกเย็นจนเด็กแอมขนหัวตั้ง “กลัวทำไม ถ้าไม่ได้ทำอะไรผิด หึ? “ เขยให่ลูบบ่าเด็กน้อยอย่างใจเย็น แต่เด็กแอมกลับหายใจติดๆขัดๆยังกับจะร้องไห้ “เอะ! หรือแอมทำอะไรพี่ไว้....พี่รู้นะว่าวันนั้นแอมแอบทำอะไรพี่” เขยใหม่ถามขณะที่ประชิดตัวเบียดเด็กชายเข้ามาเรื่อยๆ ชายหนุ่มบีบหัวไหล่เล็กๆของเด็กแอมแผ่วเบา ละเลื้อยมือมาลูบท้ายทอยอย่างปลอบประโลมสร้างความคุ้นเคย เด็กชายรูสึกถึงก้อนอะไรบางอย่างแข็งๆอุ่นๆ เบียดดุนไปมาอยู่ตรงหัวไหล่ ร่างเล็กของมันสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ก้มหน้างุด ปล่อยให้ชำนาญรังควาญได้ตามใจ ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงรูดซิบดังแคว่ก ถึงหันมามองหัวไหล่ตัวเองซึ่งเป็นที่มาของเสียง
เด็กชายตาลุกวาว เมื่อได้เห็นเป้ากางเกงชั้นในสีเทาอัดแน่นด้วยท่อนเนื้อพองก่าเป็นลำโค้งนูน เบียดทะลักช่องซิปกางเกงยีนส์ตัวโทรมของเขยใหม่ออกมา ชายหนุ่มรั้งขื่อเถียงนาไว้แน่น แอ่นตัวเอาเป้าแข็งๆดุนทักทายหัวไหล่ของเด็กชาย จนเด็กแอมรู้สึกอุ่นวาบๆตรงหัวไหล่ ท่อนเนื้อแข็งๆที่มันเคยได้ลองชิมเมื่ออาทิตย์ก่อน บัดนี้เจ้าของของมาใช้มาดุนดันหัวไหล่เด็กน้อยเหมือนกำลังออดอ้อนให้เด็กชายเล่นกับมันหน่อย เมื่อเด็กน้อยยังนิ่งเฉย เขยใหท่ก็รุกเร้าดันแท่งเนื้อใต้กางเกงในเข้าไปอีกมันมันมาดุนอยู่แถวๆพวงแก้มใสของเด็กชาย ใกล้เสียจนเด็กแอมได้กลิ่นขอบยางกางเกงในปนกลิ่นสาปหนุ่มที่มันหลงใหล เด็กชายช้อนตาขึ้นมองหน้าเขยใหม่ที่ก้มหน้ามองมันอยู่แต่เดิมก่อนแล้วก็พอดีจูกไปชนเข้าอย่างจังกับท่อนเนื้อ เด็กชายเผลอกลืนน้ำลายเอื้อกเลยแก้เก้อด้วยการหลับตาค้อนแต่ก็อดยิ้มออกมาอย่างเอียงอายไม่ได้
ชำนาญเห็นอย่างนั้นก็ยิ้มมุมปากท้าทายเด็กแอม แล้วพยักหน้าให้ทีหนึ่งเป็นการเชื้อเชิญ แกมอนุญาติให้เด็กชายทำอะไรกับท่อนเอ็นของเขาก็ได้ตามใจ เด็กแอมยังคงลังเลและใส่จริตเอียงอายอยู่จนเขยใหม่ต้องทำสายตาเว้าวอนออดอ้อนแล้วพยักหน้าชวนซ้ำอีกรอบ หน้าเล็กๆของมันถึงหันมาซุกเป้าโด่งๆแล้วสูดดมกลิ่นสาปชายเข้าไปเต็มรัก พอได้กลิ่นอับคาวเค็มของเขยใหม่เท่านั้นแหละ ความเอียงอายขวยเขินของเด็กน้อยก็หายไปสิ้น มันคลุกเคล้าไปหน้าสูดดมอย่างบ้าคลั่ง มือน้อยๆปล่อยตุ๊กตากระดาษที่ถืออยู่แล้วเลื่อนขึ้นไปรั้งสะโพกเขยใหม่ให้แอ่นโด่งเพื่อให้ท่อนลำแข็งภายใต้กางเกงในสีเทาเบียดกระชับแนบแน่นเข้ากับใบหน้าและจมูกของมันมากยิ่งขึ้น
ชำนาญตื่นเต้นจนถึงขีดสุดนานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้เจอเรื่องน่าตื่นเต้นทางเพศแบบนี้ ยิ่งเห็นเด็กชายแสดงออกถึงความคลั่งไคล้ ท่อนลำยิ่งแข็งขึ้นเรื่อยๆ ชำนาญเหลียวมองไปรอบตัวอย่างระแวดระวัง กลัวว่าใครจะมาเห็นการกระทำของพวกเขาทั้งสองคนเข้า เดชะบุญที่บ่ายนี้ไม่มีใครอยู่แถวนั้นเลย แถมฝนยังเริ่มปรอยสายลงมาแล้ว ฟ้าคำรามเปรี้ยงปร้างอันเป็นธรรมาดาของฝนต้นฤดู แข่งกับเสียงเด็กแอมสูดดมเป้ากางเกงในเขยใหม่ดังฟืดฟาด มันยิ่งทำให้อารมณ์ของเขยใหม่กระเจิดกระเจิง ท่อนเอ็นที่โดนใบหน้าเด็กชายซุกดุนไปมาแข็งจนปวดร้าวไปหมดแล้ว
เมื่อเขยใหม่เปิดทางขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรจะฉุดรั้งเด็กแอมไว้ได้อีกต่อไป เด็กแอมใช้มือน้อยๆของมัน งัดเอาท่อนลำของเขยใหม่ออกมาทางขากางเกงใน เห็นไกลๆหลายครั้งแล้วตอนที่เขยใหม่งัดออกมาเยี่ยวโชว์ ครั้งนี้นี่เองที่มันจะได้ดูใกล้ๆ
ท่อนลำแข็งจัดจนเส้นเอ็นปูดโปนนั้นดีดผึงออกมาโงนเงนด้านนอกกางเกงในแล้ว ปลายหัวมีน้ำหล่อลื่นซึมยืดยาวเป็นสาย สำหรับคนอื่นๆที่โตแล้วคงคิดว่าเจ้าชำนาญน้อยมันมีสัญฐานประหลาด เพราะมันออกแนวผอมยาวและโง้งช้อนขึ้นด้านบน ส่วนหัวโตและบานจัดเหมือนดอกเห็ดจึงดูไม่ค่อยสมดุล และมีกลิ่นแรงกว่าของทิดต้อมมากนัก แต่เป็นกลิ่นที่ออกแนวเย้ายวนมากกว่าจะออกแนวเหม็น และเด็กแอมที่โหยหิวมาพักนึงแล้วก็หน้ามืดจนอะไรมาฉุดไม่อยู่ อ้าอมหัวบานเข้าไปเต็มคำก่อนออกแรงดูดดังจ๊วบบบยาวๆ
ชำนาญสะดุ้งโหยงตั้งแต่ดูดแรก ยิ่งลิ้นสากๆของเด็กน้อยจู่โจมคอหยักแบบไม่ทันตั้งตัวก็ยิ่งทำให้ร่างของชายหนุ่มกระตุกหงึกความเสียวพุ่งจี๊ดขึ้นสมองจนเขยใหม่เกร็งรั้งขื่อเถียงนาแน่น ก้นถดหนีความเสียวโดยอัตโนมัติ
“อวูยยยยยี๋!!!!!!!” เขยใหม่ครางจับไม่ได้ภาษาใบหน้าเหยเกราวกับคนทรมานหนัก เด็กแอมเห็นแบบนั้นยิ่งได้ใจใหญ่รูดหนังหุ้มปลายลงจนตึงแล้วรูดปากเน้นๆใส่ส่วนหัวบานๆอย่างไม่ปราณี
“อะอ๊าววว อะแอมม..ซี๊ดดเสียวววแอม เสียว” ชำนาญทั้งเสียวทั้งทรมานจนบอกไม่ถูก เมื่อเจอลูกเล่นแบบวัวน้อยหิวนมของเด็กแอมเข้าไป เขยใหม่ช่ำชองทางเพศเรียกว่าผ่านมาสารพัดรูปแบบ แต่ไม่เคยเจอกับใครที่มี passion ขนาดนี้มาก่อนเลย ความตื่นเต้นระคนประหลาดใจที่ไม่นึกว่าเด็กชายวัยเท่านี้จะมีฝีปากดีมากกว่าทุกๆคนที่เขาเจอมา ไอ่ทิด มึงสอนมันมาดีจริงๆ เขยใหม่คิดในใจ
“อะแอมม แอม เสียววว พี่เสียวพอก่อน..โอ้ยยยประเดี๋ยวก็แตกกันพอดี ใจเย็นๆ ไอ่น้อง” ชำนาญงัดหน้าเด็กชายออกจนหน้าแหงน เสียงท่อนเอ็นหลุดจากปากที่หิวโหยดัง บ๊อก!!ไอ่หนุ่มหอบแฮ่กๆ รู้สึกเหมือนคนรอดตายหวุดหวิด เด็กแอมแหงนหน้ามองด้วยสายตาเว้าวอน แล้วก็ทำท่าว่าจะงับท่อนลำเข้าปากอีก
“พอก่อนๆ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า...ขึ้นไปข้างบนดีกว่า” ชำนาญบอกเสียงกระเส่าพร้อมลุนหลังให้เด็กชายขึ้นไปบนเถียงนา โดยตัวเขาขึ้นตามหลังไปติดๆ ฟ้าร้องเปรี้ยงปร้าง พร้อมฟ้าแล่บเป็นระยะ สายฝนเริ่มกระหน่ำเทหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตา เมื่อชายหนุ่มย่างเท้าสุดท้ายถึงด้านบนเถียงนา เด็กชายก็คว้ากำท่อนลำแข็งหมับเข้าให้พร้อมลากให้เขยใหม่เข้าสู่ที่กำบังหลบเร้น ชำนาญตั้งตัวไม่ทันเอวแอ่นก้าวเท้าตามอย่างเร็วให้ทันแรงฉุดดึงของเด็กแอม
รวดเร็วดังสายฟ้าฟาด เด็กชายทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าเขยใหม่ แล้วเขมือบกินท่อนเอ็นตายอดตายอยาก
“โอ๊ะ โอ้ววใจเย็นแอมใจเย็น!” เขยใหม่รีบปรามเพราะดูเหมือนเด็กชายจะรีบร้อนเกินไป เขายังอยากเสียวไปนานๆอยู่ ถ้าขืนเด็กน้อยยังใจร้อนแบบนี้เห็นทีจะล่มปากอ่าวเป็นแน่แท้ แต่ก็ดูเหมือนจะห้ามไม่เป็นผล เด็กชายยังมุมมามไม่สนใจชำนาญเลยแม้แต่น้อยว่าจะเป็นอย่างไร เพราะถ้าเด็กแอมสนใจสักนิดก็คงจะเห็นอยู่หรอกว่าเขยใหม่หน้าตาเหยเก ร่างสั่นสะท้านไปหมดเพราะความเสียวร้อนที่เกิดขึ้นจากปากและลิ้นของมัน
ชำนาญเข่าอ่อนจนแทบทรุดจากการจู่โจมของปากเล็กๆแต่ทรงอานุภาพเหลือเกินนั้น เมื่อยั้งไม่อยู่ ห้ามไม่ไหว ก็ทรุดตัวลงนั่งกึ่งนอนบนฟูกที่นอนเก่าของไอ้ทิดต้อมที่ถูกกู้พับไว้ชิดฝาเถียงนา โดยเด็กแอมไม่ยอมให้ท่อนเอ็นของชำนาญหลุดออกจากปากให้เสียเวลาแม้แต่น้อย ตามดูดจนชายหนุ่มทรุดลงนั่งนั่นเลย เขยใหม่รู้สึกทึ่งกับเด็กแอมมากที่มันหลงใหลการใช้ปากกับผู้ชายได้ขนาดนี้ ตั้งแต่อายุน้อยเท่านี้ ทั้งเสียว ทึ่งและสยองที่เห็นเด็กชายดูดกินอย่างบ้าคลั่ง แต่ตอนนี้ชายหนุ่มหน้ามืดเพราะตัณหาไปหมด ทุกเสียงจ๊วบบ จึงกลายเป็นเสียงปลุกอารมณ์อย่างช่วยไม่ได้
“จุ๊ๆ โหแอมม เก่งมาเลยอะ..โอ้ว ทำไมแอมดูดเก่งขนาดนี้” ชำนาญรู้สึกทึ่งจัดจนต้องรำพึงออกมาขณะที่เด็กแอมปรนนิบัติเขาด้วยปากอยู่ พาลทำให้เขานึกไปถึงทิดต้อมว่าคงจะโดนแบบนี้แทบทุกคืน เครื่องระบายอารมณ์ชั้นดีเลย
ด้วยความเร่งเร้าและใจร้อนของเด็กแอมผนวกกับอารมณ์ของชำนาญที่ครุกรุ่นสะสมมาตั้งแต่สัปดาห์เข้าพรรษาที่โดนชิมไปก่อนหน้า น้ำนมข้นที่ชำนาญกลั่นเก็บไว้มาระยะหนึ่งจึงจวนเจียนจะพุ่งทะยานให้เด็กน้อยได้ดื่มกินแล้ว แต่เขยใหม่ยังรู้สึกไม่สะใจกับความเสียวสุขที่เกิดอยู่นี้ จึงอยากจะยืดเวลาออกไปอีกหน่อย
“พอก่อนแอม พักก่อน แอมพี่ก็เสร็จก่อนพอดี” ชำนาญทั้งบอกทั้งงัดหัวเด็กน้อย แต่ดูเหมือนเด็กชายจะไม่ฟังคำขอร้องของเค้าแม้แต่น้อย เดกแอมหลับหูหลับตาดูดกินอย่างหลงใหล มันดูดยังกับว่ามันได้ดูดไอติมที่อร่อยที่สุดในโลก ชำนาญเคยเจอแต่คนที่ใช้ปากห่อแล้วรูดขึ้นลงตามแนวยาวของท่อนลำ เพิ่งเป็นครั้งแรกที่เคยเจอคนที่ดูดจริงแบบเด็กดูดนมก็คราวนี้
“อูยยยแอมม พอก่อนนนน..อูยย” เด็กชายไม่ฟังคำร้องขอของชำนาญแต่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ ปากและลิ้นยังคงสร้างความสุขทางใจให้ตัวมันเองด้วยการดูดคั้นท่อนเอ็นอย่างเพลิดเพลิน
“ โอเค..เอาเลย ตามสบาย ตามใจมึงเลยไอ่หนู โอ๊ะ โอ้ยย อะออกแล้ว..อกกแล้วววว” สิ้นเสียงคราง ท่อนเนื้อโง้งๆหัวโตๆนั้นก็กระตุกหงึกๆแล้วกระฉูดหยาดน้ำรักออกมาเป็นชุดๆ ด้วยความเก๋าเกมส์ที่ดูดกินของพี่ทิดมาเป็นปี จากที่เกลียดจนอ้วก กลายเป็นชอบจนหยุดกินไม่ได้ ทำให้เด็กน้อยรู้วิธีรับมือกับการดูดซับได้เป็นอย่างดีเมื่อน้ำปรี๊ดแรกพุ่งเข้ามาเด็กชายก็ดูดกลืนลงคอไปจนหมดแล้วก็ตะวัดลิ้นตรงคอหยักแรงๆเพื่อกระตุ้นน้ำระรอกที่สองซึ่งก็พุ่งเข้าปากมาติดๆ เขยใหม่แหงนหน้าหลับตาปี๋ครางเสียงหลง ไม่สนใจว่าใครจะได้ยินเพราะเสียงฝนเสียงฟ้าดังกลบจนหมด กระตุกแอ่นตัวกระฉูดน้ำนมข้นคาวให้ลูกวัวน้อยแอมดูดกินลูกแล้วลูกเล่าจนหมดแม็ก มันเป็นการเสร็จครั้งใหญ่ที่สมใจชำนาญครั้งหนึ่งในชีวิตทีเดียว ส่วนเด็กชายก็ดูดไปกินไปครางในลำคอหงิงๆไปอย่างสมใจอยาก น้ำนมข้นคาวของชำนาญหลั่งไหลออกมาเยอะมาก คงเป็นเพราะกับเก็บมานานแตเด็กแอมก็ดูดกลืนได้จนหมด ไม่มีหกออกมาเรี่ยราดเหมือนของพี่ทิดต้อม ทั้งๆที่น้ำของชำนาญคาวกว่า ขมกว่าเพราะสูบบุหรี่ แต่เด็กแอมก็ดูดกลืนจนหมดทุกหยาดหยดและมันยังคงดูดไปเรื่อยๆแม้จะไม่มีน้ำอะไรออกมาให้กินแล้ว จากความเสียวกลายเป็นความทรมานเจียนขาดใจเมื่อยังโดนดูดไม่เลิกไม่แล้ว เขยใหม่พยายามผลักหัวเด็กแอมออกจากกลางตัว
“โอ้ยย พอแล้วแอมมันออกหมดแล้ว....แอมมมม...โอ้ยยยพอก่อน..หือ..ฮืออ” เสียงช่วงท้ายชายหนุ่มคราญราวกับร้องไห้ เด็กแอมเลยดูดห่างออกไปห่างออกไป..จนหยุดดูดแต่ยังอมไว้คาปาก แล้วเอียงตัวนอนราบไปกับหน้าขาของเขยใหม่ทิ้งระยะพักนึงก็ตวัดลิ้นดูดทีนึงอย่างหยอกเอิน ตวัดลิ้นทีไร ชำนาญก็ตัวกระตุกหงึกตามแรงลิ้นทีร้องอูยที
ชำนาญไม่เหมือนทิดต้อม น้ำอดน้ำทนก็มีไม่มากเท่า แต่ดีตรงที่ชำนาญไม่มีสำนึกผิดชอบชั่วดีใดๆเลย หลังจากที่เกิดความสัมพันธ์กับเด็กแอม แถมยังให้เด็กแอมเคล้าเคลียต่อได้โดยไม่ห้ามปรามสักนิด ดูเหมือนเขาจะชอบด้วยซ้ำไป เขยใหม่รู้สึกเหนื่อยอ่อนเนื่องจากเสียน้ำไปเยอะที่สุดที่เคยในชีวิตเผลอหลับไปในที่สุด ส่วนเด็กแอมก็ยังคงเคล้าเคลีย ดูดเล็มท่อนเอ็นที่ค่อยๆอ่อนตัวลงเรื่อยๆพร้อมๆกับเจ้าของของมันที่เริ่มกรนยาวขึ้น ดังขึ้น
ชำนาญหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ รู้แต่ตื่นขึ้นมาฝนก็ยังไม่หยุดตก แถมเด็กแอมก็ยังคงเพลิดเพลินกับการดูดเลียท่อนลำของเขาอยู่ และพอเขยใหม่รู้สึกตัวตื่น ท่อนเอ็นกลางลำตัวที่โดนก่อกวนอยู่ก็ค่อยๆตื่นตามเจ้าของมันด้วย มันค่อยๆผงาดขึ้นๆ จนเหยียดตัวขยายเต็มที่ เด็กแอมที่สาละวนกับการดูดอยู่ ช้อนสายขึ้นมามอง ก็เห็นเขยใหม่ยิ้มแฉ่งให้อยู่ก่อนแล้ว
“อีกรอบได้ไหมแอม?” ไอ่หนุ่มเขยใหม่ถามเด็กชายอย่างท้าทาย..... . . . ไว้มาต่อครับ
|