ผมได้รู้จักกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง อายุของเราค่อนข้างจะห่างกันมาก แรก ๆผมยังไม่รู้จักเด็กหนุ่มคนนี้หรอก แต่เนื่องจากเราอาศัยอยู่ในซอยเดียวกันประกอบกับเขาเป็นคนหน้าตาสดใส ท่าทางร่าเริง ผิวพรรณขาวสะอาด เป็นลูกครึ่งจีน-ไทยที่มีบิดาเป็นคนจีนและมารดาเป็นคนไทยดังนั้นความขาวตามเผ่าพันธุ์และความสมบูรณ์ด้วยรัยแรกรุ่นจึงไม่ต้องพูดถึงเรียกได้ว่า Perfect ไปหมด ตรงตามสเป็กผมทุกอย่างว่างั้นเถอะ กว่าจะได้รู้จักกันจริงๆ ก็ผ่านไปนาน โดยผมเป็นฝ่ายให้ความสนใจเขาก่อน มีโอกาสเมื่อไรผมเป็นต้องจ้องเอา ๆมองจนเขารู้สึกตัว เพราะสังเกตเห็นเขาเหลียวมามองผมเช่นกันเมื่อเขามองตอบผมก็เลยยิ้มให้ ตอนนี้เองที่ผมคิดว่าการลงหลักปักเสาคงไม่ผิดหวังแน่เพราะเขาก็ยิ้มตอบให้เหมือนกัน ผมจึงถือโอกาสตีสนิท เมื่อเราสนทนากันมากขึ้นชื่อเสียงเรียงนามก็เป็นอันไม่มีปัญหา น้อยเป็นชื่อเล่นของเขาหลังจากความสนิทสนมของเราเริ่มเป็นปึกแผ่นดีแล้ว ผมก็เริ่มมีนัดกับน้อยเรานัดกันไปเที่ยวในสถานที่หลาย ๆ แห่งของกทม. ในเมืองบ้าง นอกเมืองบ้างแต่ส่วนใหญ่มักเป็นห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะในวันหยุด แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมคาดหวังไว้ก็บังเกิดขึ้น วันนั้นผมพาน้อยไปที่ห้องอาหารแห่งหนึ่งในวันหยุดซึ่งเป็นห้องอาหารที่ขึ้นชื่อมีบรรยากาศโรแมนติกเป็นส่วนตัวเหมาะจะพาคนรักมาด้วยเราสนุกสนานหัวร่อต่อกระซิกกันด้วยความสุขตลอดเวลาบางสิ่งบางอย่างที่ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของน้อยเขาก็เล่าให้ผมฟังทุกเรื่อง น้อยบอกว่าไม่เคยมีใครให้ความสนใจเขามาก่อนเลยพอมีผมก้าวเข้ามาในชีวิต เขารู้สึกอบอุ่นบอกไม่ถูกเราเผลอใจสารภาพรักกันวันนั้นเอง ยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไหร่ ยิ่งดูเขาน่ารักมากขึ้นไม่เคยผิดสังเกตในความเป็นผู้ชายของเขาเลย บางครั้งดูจะทะลึ่งกวน ๆ ด้วยซ้ำผมแอบนิยมในความซื่อบริสุทธิ์ของหนุ่มน้อยหน้ามนคนนี้ น้อยไม่ยอมห่างผมเลยบางครั้งเกาะแขนผมแจ กระเซ้าเย้าแหย่เช่นกับคู่รักอื่น ๆ ทั่วไป บรรยากาศที่มีน้อยคลออยู่เคียงข้างผมตลอดเวลานี้เองชวนให้ความเป็นชายของผมคึกคัก ฟุ้งซ่านเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหนแต่ถ้าจะให้บอกตามตรงแล้วรูปร่างของน้อยและท่าทางร่าเริงของเขานั้นแหละเป็นตัวกระตุ้นให้ผมนึกอยากเชยชมความเป็นหนุ่มของน้อยมากขึ้นทุกทีเรื่องอย่างนี้คนที่เคยผ่านวัยนี้มาแล้วคงรู้ดี อย่าว่ากันนะครับ ดังนั้นแทนที่ผมจะสนุกสนานอย่างเดียวผมกลับคิดแต่เรื่องอกุศลกับน้อยตลอดเวลา หลายครั้งยามปลอดคนผมลองหยั่งเชิงแกล้งกอดนิดจูบหน่อย น้อยก็ไม่ว่าอะไร จะมีก็แค่เบี่ยงตัวหลบไปบ้างตามมารยาทซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา ผมจึงเริ่มแผนพิชิตน้อยทันทีโดยเอ่ยปากชวนน้อยไปนอนที่โรงแรมมีระดับแห่งหนึ่ง น้อยออกความเห็นว่า “จะดีเหรอ....เกิดมายังไม่เคยนอนโรงแรมเลยเราผู้ชายด้วยกัน จะเหมาะหรือ?” ผมตัดบทไปว่า “ไม่ต้องห่วงไม่ต้องกลัวอะไร ทำตัวให้ปกติ ไว้เป็นหน้าที่ผมจัดการเอง” แล้วในที่สุดเราก็เข้ามาอยู่ในห้องส่วนตัวที่ค่อนข้างหรูดูน้อยตื่นเต้นพอสมควร ยังไม่ทันได้เปิดโอกาสให้น้อยตั้งตัวร่างของน้อยก็ปลิวเข้าสู่อ้อมแขนของผมในนาทีนั้น ผมระดมจูบทั่วใบหน้าของน้อยน้อยพยายามเบี่ยงตัวหนีจากการกระทำของผมอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อผมเลื่อนริมฝีปากไปประกบกับน้อยสอดลิ้นดุนดันเข้าไปในกระพุ้งแก้ม อาการขัดขืนแต่แรกก็สะดุดหยุดทันทียิ่งกว่านั้นน้อยยังจูบตอบใช้ลิ้นตวัดรัดลิ้นผมด้วยเท่านั้นผมก็พอจะรู้แล้วว่าน้อยมีความรู้สึกชนิดใดเกิดขึ้นแล้ว ผมถอนใบหน้าจากน้อยดึงแขนให้ไปนั่งที่เตียง แล้วรั้งร่างน้อยแอนราบลงกับพื้นที่นอนขาวสะอาดคราวนี้ทั้งมือทั้งปากผมเริ่มโจมตีทันที ผมรอคอยเวลานี้มานานแล้วฉะนั้นไม่ว่าส่วนไหนบนร่างกายของน้อยสุดแต่ว่ามือผมจะควานไปถึงจนน้อยครวญครางออกมาเป็นระยะ ยิ่งผมเน้นทั้งมือทั้งปากหนักหน่วงเท่าไหร่น้อยก็ยิ่งสั่นสะท้านมากขึ้นเท่านั้น จึงเป็นโอกาสให้ผมปอกเปลือกน้อยออกจนหมดเหลือแต่ตัวล่อนจ้อนที่ขาวเหมือนหยวกต้องยอมรับว่ารูปร่างของน้อยงดงามได้สัดส่วน กล้ามเนื้อแน่นปั๋งเหมือนนักกีฬาหลังจากจัดการกับน้อยแล้ว ผมรีบหันมาจัดการกับตัวเองบ้างจนมีสภาพไม่ต่างจากกันผมไม่ปล่อยนาทีทองให้ผ่านไปอย่างไร้ค่าร่างเปลือยของเราเบียดเสียดแทบจะเป็นร่างเดียวกัน มือผมป่ายเปะปะไปทั่วเรือนร่างแล้วลูบไล้บริเวณ แก้มก้นทีตึงแน่นของน้อยตรงบริเวณหน้าขาของน้อยกระทบเข้ากับความแข็งแกร่งของท่อนลำขนาดมหึมาของผมน้อยเอื้อมมือมาสัมผัสกับความเป็นชายที่สมบูรณ์แบบนั้น ถึงกับหลุดปากออกมาว่า “ทำไมใหญ่จัง” พร้อมกับเหลือบสายตาขึ้นดูคะเนจากสายตาท่อนลำของเราสองคน ขนาดต่างกันมาก ของน้อยช่างน้อยสมชื่อแต่จะว่าไปแล้วของน้อยนั้นไม่ผิดขนาดเท่าไหร่หรอกคงเป็นท่อนลำที่เหลือเฟือขอผมมากกว่าเราต่างจับท่อนลำรูดเล่นจนปลายมีน้ำเยิ้มออกมา เป็นสัญญาที่บอกให้รู้ว่าพร้อมเต็มที่แล้วผมปลดไกเตรียมยิงเป้าทันทีโดยใช้ขาตัวเองปัดขาน้อยให้ถ่างออกจากกันพอเป็นที่วางพาดท่อนทมิฬกระบอกโตให้เข้าที่เข้าทางได้ถนัดผมกดปากกระบอกยักษ์ทิ่มลงที่เป้า ปากประตูที่ปิดสนิทของน้อยบุ๋มบู้ไปตามแรงน้อยสะดุ้งขยับตัวหนีเมื่อรู้ว่าผมจะปฏิบัติการอะไรต่อไปพยายามดันร่างของผมออกคล้ายไม่ยินยอมให้ผมสอดเจ้าท่อนโตเข้าไป น้อยบอกว่า “ไม่ไหวมั่งผมเจ็บ มันใหญ่เกินไปเข้าไม่ได้หรอก” ผมรู้ว่าน้อยต้องเจ็บแน่เพราะยังไม่เคยกับเรื่องนี้ ผมจึงหยุดยั้งเอาไว้ จากนั้นผมก็เริ่มบทใหม่หันมาใช้วิธีช้อนก้นของน้อยให้สูงขึ้นแล้วแยกขาออกให้กว้างขึ้นจนผมเห็นปากประตูสวรรค์ของน้อยเด่นชัดบอกตามตรงว่ารอยเจาะที่หมอลืมเย็บตรงส่วนนั้นของน้อยช่างชวนมองเหลือเกินไรขนทีไล่กันบาง ๆ ไปชนกันโดยรอบที่ปากประตูสีชมพูเรื่อ ๆ นั้นสีจะเข้มขึ้นเมื่อผมใช้นิ้วมือทั้งสองข้างแบะช่องทางให้บานประตูเผยอออกมาผมแอบกลืนน้ำลายด้วยความตื่นตา ทำให้อดใจไม่อยู่ก้มลงละเลงลิ้นและปากเวียนตรงเป้าสวยนั้น น้อยเจอเข้าวิธีนี้ถึงกับหายใจฟืดฟาดใบหน้าสะบัดส่ายไปมา ในห้องนั้นแม้จะเย็นด้วยแรงของแอร์ แต่ตอนนั้นน้อยเหงื่อแตกพลั่กรวมทั้งผมด้วยอาการของน้อยเริ่มรุนแรงขึ้นทุกที พร่ำเรียกชื่อผมไม่ขาดปากและนาทีต่อมาต้นคอผมก็ถูกมือน้อยจับกดจนมันแนบแทบจะจมหายลงไปในความชุ่มฉ่ำของปากประตูเหนียวลื่น ดำกฤษณาทำให้ผมทนไม่ไหวรีบจับแท่งทวนของผมจ่อที่ปากช่องทางของน้อยกะให้พอดิบพอดีอีกทีคราวนี้ผมไม่ฟังอีร้าค่าอีรมต่อไป ค่อย ๆ ดันปากกระบอกโตเข้าไปอย่างบรรจงเป็นผลให้มันจมหายลงไปทีละนิดจนมิดคอหยักขอบบานของผมผลพวงมาจากน้ำลายที่ลื่นเหนียวผสมกับบานประตูที่ยอมเปิดกว้างพร้อมรบนั้นกระมังจึงทำให้ไม่ยากอย่างที่ใจกังวลในทีแรก แต่น้อยก็ยังบอกให้ผมค่อย ๆอยู่นั้นแหละไม่ว่าผมจะหยุดหรือขยับ เพราะยังมีความฝืดเกินพอดีอยู่ผมปลอบน้อยไปครั้งสุดท้ายว่า “เชื่อสิ...อีกนิดเดียวเดี๋ยวก็หายเจ็บ” น้อยยังมีเสียงอึกอักอยู่แต่เพียงครู่เดียวก็หายไปกลายมาเป็นเสียงครวญครางแทนที่ เมื่อผมขยับสะโพกยัด เยียดท่อนลำส่งเข้าไปได้เท่าครึ่งทางอาการเกร็งตัวต่อต้านของน้อยผ่อนคลายลงส่วนหัวที่ถูกบีบรัดแน่นแต่แรกค่อยหายใจหายคอสะดวกขึ้นเมื่อหน้ากระจังพองตัวได้เต็มที่แล้วผมเดินหน้าต่อ ความมันไปทั่วแดนสวรรค์เดี๋ยวชนกับหลืบลึก เดี๋ยวสะดุดปุ่มปมภายในที่กระชับแน่นตลอดทางของน้อยมันเป็นรสชาติแห่งความสุขอย่างเหลือล้น ซึ่งคงไม่ต่างไปจากน้อยและจากท่าทางที่ยืนเกร็ง ในตอนแรกเปลี่ยนมาเป็นตอบรับการกระทำของผมอย่างเต็มใจ ในที่สุดประตูของน้อยก็สามารถเปิดรับท่อนยักษ์ของผมมันมุดจมหายเข้าไปจนสุดลำยาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพระเท่าที่ผ่านมาแทบพูดได้ว่ายังไม่เคยพบใครจะรับของผมได้สุดโคนมาก่อน แต่ประตูของน้อยผมสามารถดันได้จนมิดไม่เหลือช่องว่างเลยรู้สึกปิติยินดีที่ผมพบแล้วในความลงตัวแบบสุด ๆ ผมกดแช่ทิ้งไว้อย่างนั้นให้น้อยผ่อนคลายลงหน่อย กลิ่นสาบเนื้อหนุ่มประกอบกับความฝืดกระชับแน่นไปด้วยหนั่นเนื้อของน้อยเพิ่มความเสียวซ่านให้ผมทุกขณะ ความฝืดในช่วงแรกค่อย ๆ หายไปกลับมีความลื่นเข้ามาแทนที่ทำให้คล่องตัวขึ้นทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางธรรมชาติที่เอื้ออำนวยให้สุขสบาย ผมค่อย ๆเร่งเครื่องตัวเองจากช้าเป็นเร็วขึ้นตามจังหวะที่คละเคล้ากันมันทำให้น้อยกระแดะตัวขึ้นร่อนลงตามจังหวะการเคลื่อนไหวของผมไปด้วยโดยอัตโนมัติทุกครั้งที่ผมกดลงไปแล้วดึงขึ้นมาคล้ายว่าท่อนทมิฬถูกเกี่ยวรัดดึงดูดตามขึ้นมาด้วยทุกครั้งเสียงผมหอบหายใจคล้ายคนเหน็ดเหนื่อยเสียเต็มประดาแต่จังหวะการโจมดีของผมก็ยังไม่ผ่อนคลายลงเลยสีหน้าของน้อยบ่งบอกถึงความรัญจวนใจหลับตาพริ้มทำให้ผมย่ามใจโหมกระหน่ำอย่างเมามันเอาตายความซ่านซ่าเสียวสยิวยังมีระคนกันอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าผมจะทำรุนแรงหนักเบาแค่ไหน เสียงหอบหายใจของผมกระชั้นถี่หนักขึ้นเรื่อยๆ พร้อม ๆ กับพละกำลังที่โถมเข้าใส่น้อยอย่างบ้าคลั่งจังหวะนั้นเองความอดทนของผมก็พังทลายแหนบกระสุนบีบกระชับเข้าหากันก่อนจะถูกเหนี่ยวไกลั่นกระสุนจากลำกล้องจนหมดน้อยถึงกับครางกอดร่างผมกระชับแน่นทีเดียว ผมลั่นกระสุนจนถึงนัดสุดท้าย น้อยบอกว่าเขามีความสุขที่สุด และผมเป็นผู้ชายคนแรกที่พิชิตความบริสุทธิ์ เราต่างไปทำความสะอาดในห้องน้ำในเวลาต่อมาความสดชื่นที่ได้ชำระเหงื่อไคลและความคาว ทำให้เรากระปรี้กระเปร่าขึ้นมาอีกผมนึกได้ว่าน้อยยังไม่สำเร็จสมอะไรเลย จึงถามไปว่ามีความสุขบ้างไหม น้อยพยักหน้ารับแทนคำตอบผมจึงถามต่อไปว่า “จริงหรือไม่เห็นปืนพกของน้อยสาดกระสุนสักนิด” คราวนี้น้อยตอบมายาวเหยียดว่าความรู้สึกครั้งแรกมันเจ็บแทนทนไม่ไหว แต่ความรู้สึกครั้งสุดท้ายน้อยอยากให้มันกลับมาเกิดขึ้นอีก มันอบอุ่น ดื่มด่ำอย่างบอกไม่ถูก น้อยยอมรับว่ารสสวาทที่ผมป้อนให้นั้นน่าถวิลหาร่ำร้องให้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าไม่รู้เบื่อ มีความสุขที่สุดนึกไม่ถึงว่าน้อยจะรู้จักวิเคราะห์แยกแยะความรู้สึกที่สลับซับซ้อนได้เก่งเหมือนกัน ผมยังอ้อยอิ่งจูบน้อยด้วยความเสน่หาอีกพักใหญ่น้อยเผลอตัวขึ้นมาจูบตอบแล้วเอื้อมมือไปเขื่ยท่อนทวนของผมเล่นไปมาซึ่งตอนนี้มันนอนสงบนิ่งเป็นท่อนเอ็นธรรมดาพอๆ กับท่อนแท่งของน้อยเวลาขยายตัวเต็มที่ เสียงน้อยพึมพำว่าเข้าไปหมดได้ยังไงไม่น่าเชื่อประตูผมนิดเดียว น่าอัศจรรย์จริง ๆ เลือดลมผมเริ่มระอุขึ้นมาอีกเช่นเดียวกับข้อลำของผมเริ่มพองตัวเป็นท่อนทมิฬทันทีคราวนี้น้อยมีโอกาสจ้องมองมันอย่างเต็มตา ซึ่งมันดูน่ากลัวมากกว่าน่ารักแต่ก็มีความสง่างามน่าเกรงขามอยู่ในที เมื่อมันพร้อมรบอีกแล้วน้อยก็ไม่ได้ขัดขืนอีกต่อไป ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับผมเต็มที่ผมจึงจัดการเผด็จศึกลั่นไกยิงประตูของน้อยเสียจนชุ่มโชกรวมถึง 4ครั้งติดต่อกันตลอดคืนนั้น จนน้อยต้องอุทธรณ์ออกมาว่าประตูระบบไปหมดน้อยบอกกับผมว่าเขาบอบช้ำมากถึงกับเลือดไหลออกมาทีเดียว รุ่งเช้าผมรีบพาน้อยกลับบ้านสังเกตเห็นน้อยเดินขาถ่างพิกล คงเป็นเพราะด้วยความระบมและบาดแผลที่เกิดขึ้นนั้นเองส่วนผมก็โผเผกลับบ้านพักที่อยู่ถัดไปไม่ไกลนัก พอถึงเตียงนอนได้ก็หลับเป็นตายเลย
# n1 _- @% l4 } X) i |