“ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย” เสียงตะโกนขอความช่วยเหลือสุดวิเวกวังเวง ดังก้องเข้ามาในหูทำให้คนที่ได้ยินขนลุกซู่ไปทั้งตัว “ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย สิริภัทรนาคี ช่วยข้าด้วย” นทีตกใจอีกครั้ง สิ่งที่เขาได้ยินไม่ใช่หูแว่วแน่นอน และดูท่าคงจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ได้ยิน "แม่ครับ...ข้างหน้ามีอะไรนะจอดรถก่อนได้ไหมครับ" นทีพูดขึ้นมา เมื่อมองไปข้างหน้ามีผู้คนจำนวนมากกำลังมุงดูอะไรบางอย่างอยู่.... “นที..แม่ว่าเราอย่าไปยุ่งเลยนะลูก” “แม่ครับผมอยากลงไปดู เผื่อจะได้ช่วยอะไรเขาได้บ้าง นะครับแม่” “นะครับแม่..นะครับผม” อะไรบางอย่างบอกให้ นที ต้องหยุดดูให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น “ก็ได้ แต่นทีห้ามทำอะไรบุ่มบามนะลูกในนั้นอาจมีมิจฉาชีพก็ได้” “ครับผม” “เดี่ยวแม่บอกน้า ให้จอดด้วยดีกว่า” ผู้เป็นแม่กดโทรศัพท์หาใครสักคนก่อนจะมองไปข้างหน้า มีคนจำนวนหนึ่งกำลังมุงดู...อุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักชนต้นไม้ข้างทางเธอไม่อยากให้ลูกชายลงไปดูภาพที่สะเทือนตา ติดตา ไม่รู้ว่ามีใครเป็นอะไรหรือเปล่า “แม่ว่าอย่าลงเลยนะลูก แม่ว่ามันอันตรายเกินไปดูสิ รถเละซะขนาดนั้น แล้วคนละ” “ช่วยข้าด้วย ช่วยข้าด้วย สิริภัทรนาคี ช่วยข้าด้วย” “แม่ครับ..” อยู่ๆ รถก็ดับวูบไปเฉยๆเครื่องยนต์หยุดทำงานอย่างกะทันหัน โดยที่เพียงขวัญเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร “อะไรเนี้ย รถเป็นอะไรอยู่ๆก็ดับ” ทันทีที่รถจอด นที บุตรชายของเธอก็เปิดประตูรถออกแล้ววิ่งพรวดไปยังกลุ่มไทยมุงดูอุบัติเหตุที่มีผู้คนนับสิบมุงดูอยู่ .. และเมื่อเข้าไปใกล้ๆ ก็แปลกใจไม่มีใครได้รับบาทเจ็บอะไรเลย เด็กหนุ่มมองไปที่รถกระบะในสภาพที่ชนต้นไม้จนแทบจะหักล้มลงไปและรถก็แทบไม่เหลือสภาพที่ดีเลย แล้วผู้คนมุงดูอะไรนะ กระบะหลัง...มีกรงเหล็กมากมาย ...เมื่อเข้าไปใกล้มากขึ้นก็แทบผงะ .. งูจำนวนมากหลายพันธ์ถูกขังไว้ในกรงที่นี่ .. น่าสงสารเหลือเกิน "ป้าคะ" มีใครเป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ " เพียงขวัญถามหญิงวัยกลางคนที่กำลังยืนดูอยู่ด้วยท่าทางหวาดกลัวแต่ก็ไม่ยอม….ไม่หนีไปไหน “ไม่มีใครเป็นอะไรเลยสักคนเดียว คนขับน่าจะวิ่งหนีไปแล้ว” “แล้วป้าดูอะไรกันค่ะ” “ก็นู้นไงนังหนู..เห็นไหมนั่นนะ” เพียงขวัญมองไปยังสิ่งที่ทอแสงประกายวาววับราวกับทองคำหลายกิโลกรัมเพียงแต่ขยับเขยื้อนไปมาได้ "งูทอง" เธออุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ
งูทองเหรอ .... เป็นยังไงนะ "ใช่แล้ว..ป้าเกิดมาก็พึ่งเคยเห็นงูที่สวยแบบนี้...งูเห่าตัวหนึ่งลำตัวสวยมาก .. เกร็ดของมันระยิบระยับ..ราวกับเป็นทองคำยังไงยังงั้นละจ๊ะนังหนูดูสิ สวยเหลือเกิน....ต้องไม่ใช่งูธรรมดาแน่นอน ต้องเป็นงูวิเศษแน่ๆ" ชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ก้มลงกราบงูตัวนี้ แล้วพูดภาษาอะไรก็ไม่รู้...ราวกับภาษาที่ว่านั้นเป็นภาษาที่ใช้สำหรับสะกดงูนั่นเอง หรือไม่ก็บูชางูหรืออะไรนี่แหละ เพียงขวัญเองก็ไม่เข้าใจ เธอมองไปหาบุตรชายของเธอที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักแต่ตอนนี้ไปไหนแล้วก็ไม่รู้ “นที” “นที มาหาแม่เดี่ยวนี้ลูก..นที” “ทำไมต้องสะกดมันด้วยครับ มันเจ็บปวดทรมานนะครับ” นที เดินไปปัดมือของชายแก่คนหนึ่งออก ที่กำลังทำพิธีอยู่...จนธูปเทียนที่อยู่ในมือของชายคนนั้นกระเด็นกระดอนกระจัดกระจายเต็มไปหมด “อ้าว มาทำลายพิธีของข้าเดี่ยวงูปีศาจก็จะออกอาละวาดหรอก ไอ้หนู” “สัตว์ทุกชนิดมันจะออกไปอาละวาดได้ยังไง ถ้าไม่มีใครไประรานมัน...ที่งูมันออกอาละวาดเพราะมีคนไปรบกวนมันต่างหากละครับ ” เด็กน้อยพูดขึ้นมาด้วยความรู้สึกโมโห พร้อมกับหันหน้าไปหางูนับไม่ถ้วน ที่ถูกขังอยู่ “เจ้างูเอ๋ย ผมจะช่วยเองนะแต่สัญญากับผมก่อนว่าจะไม่ทำร้ายชาวบ้านพวกนี้” “ว่าไง สัญญากับผมก่อนสิ” นทีพูดกับงู ราวกับกำลังคุยกับเพื่อนฝูง ทำเอาทุกๆคนที่อยู่ในนั้นตกใจเป็นอย่างมาก “น้ำ มานี่สิลูก” “น้ำจะไปไหน อย่าลูก อย่า” เพียงขวัญ ตกใจมากกว่าเดิม เมื่อบุตรชายของเธออยู่ๆ ก็เดินเข้าไปใกล้งูตัวสีทองนั้นมากขึ้นมากขึ้น ... เร็วไปกว่านั้น ...เด็กชายวัย 4 ขวบเปิดดึงกรงนั้นออก...แต่ด้วยแรงดึงยังมีไม่มากพอ กรงจึงเปิดไม่ออก "น้ำ ... ออกมาเดี่ยวนี้ ... น้ำออกมา" หัวอกคนเป็นแม่ แทบจะวิ่งกรูเข้าไปหาบุตรชายแต่ถูกชาวบ้านกันเอาไว้ซะก่อน "น้ำ... ออกมาสิลูก ... งูมันจะกัดเอา" เมื่อกรงเหล็กที่ขังงูเห่ายักษ์สีทองเปิดไม่ออกเด็กน้อยวัยสี่ขวบ ก็จัดการเปิดกรงอื่นๆทันที ... งูจงอางขนาดใหญ่เลื้อยออกมาจากกรงขัง เลื้อยผ่านขาน้อยๆ ของนที ก่อนจะเลื้อยออกไปทางชาวบ้านที่มุงดูอยู่ เหล่าบรรดาชาวบ้านต่างพากันหนีงูจงอางตัวนั้นด้วยความตื่นกลัวหากว่ามันกัดเข้า มีหวังเตรียมเผาสถานเดียว.. รวมทั้งเพียงขวัญที่ขยับถอยหนีแต่ก็ไม่หนีไปไหน ด้วยความที่เป็นห่วงลูกชาย แต่ก็ตกใจไปมากกว่านั้น เมื่องูจงอางขนาดใหญ่ แผ่แม่เบี้ยชูคอผงาดขู่ฟู่ๆต่อหน้าเธอ เพียงขวัญไม่ได้ห่วงตัวเองเลยสักนิดเดียวเธอห่วงแต่ลูกชายของเธอเท่านั้น “อย่านะ ... นั่นแม่ของผม สัญญาแล้วไงว่าจะไม่ทำร้ายคนอีก ไปสิ..บอกให้ไปไง” นทีพูดกับงูจงอางตัวนั้น และน่าประหลาดใจ งูตัวนั้นค่อยๆ คลายแม่เบี้ยลง และเลื้อยออกไป
|