แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย naakaa เมื่อ 2019-1-29 06:45
แล้วอย่าพูดไปนะ...เขาเล่าว่า...ตอน ชีวิตรักของณรา หลังจากหายไปนาน พอมีเวลาว่างจากงานก็รีบกลับมาเขียนผลงานเรื่องใหม่ทันที แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกว่าตอนที่เขียนค้างไว้ ขอยกนะครับฝากติดตามตอนใหม่นี้แทน และอยากจะบอกว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายแล้ว คงไม่ได้เขียนต่อ เพราะด้วยเหตุผลส่วนตัว แต่สัญญาว่าจะพยายามเขียนตอนนี้ให้จบเรื่องแน่นอน ซึ้งเรื่องราวก็จะนำเสนอโดยใช้บุคคลที่สามเล่าเรื่องเหมือนตอนก่อนหน้า ผมพยายามจะเขียนเรื่องให้แปลกเสนอมุมมองอีกด้านหนึ่ง ถ่ายทอดออกมาในลักษณะแอบดูหรือบังเอิญเห็นแล้วเอามาเล่าต่ออีกที โดยหวังว่าผู้อ่านจะได้อรรถรสแปลกใหม่ แต่เสียดายด้วยสาเหตุจากงานเป็นส่วนหนึ่งจึงทำให้มีเวลาน้อยมาก เลยตัดสินใจว่าจะเขียนจบตอนนี้แล้วหยุดไปเลย ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ แล้วอย่าพูดไปนะเขาเล่าว่า ตอน ชีวิตรักของณรา สวัสดีครับผมชื่อณรา ที่ใครๆชอบเรียกสั้นๆว่านะ อายุตอนนี้ก็ปาเข้าเลขสี่แล้ว วันนี้ผมมีเรื่องเล่าสนุกๆเกี่ยวกับความรักของผมและสาเหตุที่ทำให้ผมเกิดรักใคร่ในตัวผู้ชายด้วยกันเอง มาให้อ่านกันแต่ต้องเล่าย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นผมอยู่ในวัยกำลังจะแตกเนื้อหนุ่ม เติบโตมาในชนบทอันห่างไกลความเจริญอยู่ในยุคสมัยที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเกมส์คอมพิวเตอร์ให้เล่นเหมือนเด็กๆในยุคปัจจุบัน ชีวิตในแต่ละวันคือไปเรียนหนังสือแล้วกลับบ้าน ถ้าเป็นวันหยุดก็จะออกไปยิงนกตกปลา เล่นซ่อนหาหรือออกไปเล่นบอลกับเพื่อนๆจนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าถึงจะกลับเข้าบ้าน นั้นละครับชีวิตผม ก็ดูเหมือนจะเป็นชีวิตที่เรียบง่ายและมีความสุขปกติดีเหมือนคนธรรมดาทั่วไป แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นสิครับ มันมีเรื่องราวแปลกๆที่ไม่อาจเล่าให้ใครฟังได้ ถ้าไม่สนิทและไว้ใจกันจริงๆผมจะไม่ปริปากพูดถึงเรื่องที่บ้านของผมให้ใครฟังเลยสักนิด และยิ่งที่บ้านมักจะตอกและย้ำเสมอว่า อย่าบอกใคร อย่าบอกใคร ผมจึงได้แต่ปล่อยให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันจางหายไปพร้อมกับกาลเวลา จะว่าไปคงต้องเริ่มจากบ่ายวันหนึ่ง ซึ่งก็เหมือนกับทุกวันหลังเลิกเรียนผมปั่นจักรยานกลับถึงบ้านตามปกติ หากแต่วันนี้ครูปล่อยเร็วเพราะจะมีงานอะไรสักอย่าง และที่สำคัญวันนี้ผมมีเพื่อนตามด้วยคนหนึ่งชื่อเอก เราทั้งสองสนิทกันมาก มากชนิดที่ว่าตัวเราแทบจะติดกัน ไปไหนมักจะไปด้วยกันเสมอ ถึงขนาดที่ผมมักจะไปนอนค้างบ้านมันบ่อยๆและมันก็จะมานอนค้างที่บ้านผมเป็นประจำเช่นกัน หรือบางครั้งมันจะอยู่ค้างกับผมติดๆกันหลายคืนหลายวันและนั้นก็คือจุดเริ่มต้นที่เอกเข้ามามีความสัมพันธ์อันซับซ้อนกับครอบครัวผม ไม่สิต้องบอกว่าเอกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของผม...เพราะความใกล้ชิดของเรามากเกินไป ตอนที่หนึ่ง ความสัมพันธ์อันซับซ้อนของพ่อกับลุงเขยของพ่อ “ไม่ได้กินมาเกือบ2อาทิตย์แล้ว โคตรคิดถึง แพร๊บๆบ๊วบๆม๊วมๆ” “อะ อา อืม ม อะ เสียว ว โอว ดี ละลุงง กะ จ จะ เอาให้น้ำอออ ออก ในดูดเดียวเลยหรออ โอ๊ยๆจะทนไม่ไหวแล้วว โอ๊ะ อะ อา อา ซี๊ดดด อาๆ” นั้นคือเสียวครวญครางอันแสนรัญจวนชวนสุขสมของพ่อบังเกิดเกล้าของผมเอง เสียงที่แสนจะคุ้นหูดังแว่วออกจากภายในตัวบ้าน เมื่อเอาหน้าแนบกับผนังมองผ่านรูแตกของไม้เข้าไป ก็จะพบกับภาพชินตาของชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆดีกรีนักมวยเก่าหน้าคมคายคล้ายๆนักมวยดัง ศิริมงคล ก็ไม่ปาน ผิวเข้มตัวสูงหุ่นนักกีฬาไหล่กว้าง กล้ามแขนขาใหญ่เป็นมัดๆบวกกับซิกแพคหน้าท้องแกร่งสมส่วนนั้นละพ่อผม เขากำลังนอนเปลือยกายอยู่บนที่นอนกับชายแก่วัยห้าสิบหุ่นหมีขาวอวบหัวล้านเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นลุงเขยของพ่อนั้นเอง เขาทั้งสองที่อยู่ในห้องต่างก็ไม่สวมเสื้อผ้าใดๆเลย ผู้ที่ดูว่ามีอายุมากกว่านั้นกำลังก้มหน้าอยู่ตรงระหว่างขาของหนุ่มรุ่นลูกพลางผงกหัวขึ้นๆลงๆ เมื่อจ้องดูให้ดีจะเห็นว่าเขากำลังใช้ปากดูดอมท่อนลำอันใหญ่โตตรงหน้าอยู่เต็มปาก สองมือกำท่อนสากสีเนื้อแน่นให้ตั้งตรงแล้วบรรจงลิ้นเลียจนทั่วหัวบานใหญ่ สลับกับอมมันให้หายเข้าปากแล้วดูดอย่างเอร็ดอร่อย “อา โอว อา” เสียงร้องของเจ้าของท่อนเอ็นอันใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะๆ เมื่อโดนปากอุ่นๆกับแรงดูดมหาศาล นอนแอ่นร่างงามให้ชายที่อยู่ด้านบนดูดดื่มอย่างเต็มใจ มันคงน่าแปลกและตกใจใช่ไหมถ้าใครๆจะบังเอิญผ่านมาเห็นแบบนี้ แต่กับผมไม่รู้สึกอะไรแน่นอนด้วยผมเห็นบ่อยๆจนเป็นเรื่องปกติของผมไปเสียแล้ว จึงไม่ได้ตกใจอันใด ยกเว้นแต่ที่นี้ยังมีเด็กชายอีกคนที่เขาเพิ่งได้พบเจอเป็นครั้งแรก เขาจึงดูตื่นเต้นมากเป็นพิเศษจ้องมองภาพเบื้องหน้าตาค้างไปเลย “บ๊วบๆ” เสียงปากดูดรุดลำดังบ๊วบๆชัดเจนมากเพราะที่นี้เงียบสงบ อยู่กลางดงสวนผลไม้ขนาดใหญ่ บ้านหลังนี้สร้างไว้สำหรับให้คนงานเฝ้าสวนอย่างพวกเราอยู่แบบเรียบง่าย เป็นบ้านไม้หลังเล็กมุงสังกะสีมีห้องเดียวโล่งๆ มีมุ้งสองหลังกับที่นอนแบบเสื่อพับเก็บได้วางติดพื้น แบบที่ไม่เคยเก็บสักที พ่อนอนอันหนึ่งกับผมอันหนึ่ง และยังมีตู้เสื้อผ้าเก่าๆอีกสองใบตั้งอยู่มุมห้อง ห้องโล่งๆแบบนี้จึงเห็นภายในทุกซอกมุม และยิ่งเป็นช่วงกลางวันแสกๆแบบนี้ทำให้ทุกอย่างชัดเจน “อา อะ ขอแรงอีก อา เสียว อา” พ่อจับหัวลุงเขยด้วยสองมือกดใส่ตักตัวเองถี่ๆพร้อมร้องเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่เกรงกลัวว่าใครจะมาได้ยิน มันก็ใช่จริงๆนั้นแหละ กลางดงกลางสวนแบบนี้ต่อให้ร้องเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครมาได้ยิน และยิ่งพ่อร้องพ่อดิ้นนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เอกเขาจ้องดูตาแทบไม่กระพริบ ยิ่งเขาทำท่าทางกระสับกระส่ายยุหยิกด้วยนั้น ทำให้ผมหันมามองเพื่อนชายท่าทางของเขาน่าสนใจกว่าข้างในนั้นตั้งเยอะ ย้อนกลับไปเมื่อยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้ เวลาบ่ายๆนิดๆผมกลับจากโรงเรียนก่อนเวลาปกติกับเพื่อนสนิทมากๆคนหนึ่ง บังเอิญเจอพ่อที่หน้าบ้านพอดีเลยถือโอกาสขอไปตกปลาที่บ่อในสวน เมื่อคุยกันเรียบร้อยดีแล้ว ผมกับเอกจึงผละจากตรงนั้นไปช่วยกันเตรียมอุปกรณ์ตกปลา และขณะกำลังง่วนอยู่กับการขุดไส้เดือนเอาไปทำเป็นเหยื่อล่อปลาอยู่นั้น เสียงรถกระบะลุงรงของพ่อและมีศักดิ์เป็นปู่ของผม แต่ผมมักจะเรียกแกตามใครๆที่เรียกกันว่าลุงผู้ใหญ่มากกว่า รถคันนั้นแล่นเข้ามาจอดนิ่งสนิทที่หน้าบ้าน พ่อที่กำลังนั่งดูดบุหรี่อยู่ก็รีบเข้าไปต้อนรับอย่างเคย “เฮ้อ ทำไมต้องวันนี้ด้วยวะ”ผมถอนหายใจแล้วบ่นกับตัวเองเบาๆ “มีอะไรหรอวะเพื่อน” “เปล่าๆแค่บ่นกับเอง”สงสัยจะบ่นดังไปหน่อยเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆจึงได้ยิน ผมก็ไม่รู้จะบอกมันอย่างไงจึงได้แต่ตอบปัดๆไป แล้วสิ่งที่ผมคิดไว้ก็เริ่มขึ้นเมื่อเสียงพ่อตระโกนมา “ไอ้นรา มึงวางมือจากตรงนั้นแล้วมาช่วยกันขนของลงจากรถเร็วๆ” เสียงร้องของพ่อดังจากจากหน้าบ้าน ผมจึงรีบออกมาโดยไว หากช้าไปกว่านี้พ่อจะตะคอกเสียงดังตามมาแน่ๆ ผมรีบออกมาขนของที่ลุงเขาเอาหลายอย่างเอาเข้าบ้าน เมื่อจัดการเสร็จพ่อก็เรียกผมกับเอกเข้าไปหา “ไอ้นะบุหรี่พ่อหมดไปชื้อให้หน่อยสิ เอานี้ไปชื้อขนมมากินกันด้วย แบ่งให้เอกด้วยนะ” “ไม่ไปไม่ได้หรอพ่อ ผมจะไปตกปลา” “ไม่ได้ มึงก็รู้อยู่ ไป ไป๊” และนั้นก็ใช่อย่างที่ผมคาด เวลาลุงมาที่สวนคนเดียวผมต้องออกจากบ้านทันที แต่ถ้ามีลูกน้องมาทำงานด้วยก็ไม่ต้องไปไหน และผมก็รู้เหตุผลดีละว่าทำไม จึงไม่ขัดสักครั้งและนั้นก็หมายถึงเงินค่าขนมจำนวนมากจะตามมาด้วย แต่วันนี้เอกอยู่ด้วยเลยต้องพาเพื่อนออกไปให้ไกลจากบ้านหน่อย พ่อให้เงินผมแล้วหันไปยื่นให้เอกด้วยเป็นค่าขนม เอกรับมาอย่างดีใจ เพราะไม่รู้อะไรอยู่ๆก็ได้เงินมาชะงัน จากนั้นพ่อก็เร่งให้พวกผมขี่จักรยานเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ้งห่างจากที่นี้ราวสิบกว่ากิโลนับเวลาไปกลับก็ชั่วโมงหนึ่งเห็นจะได้ แต่ถ้าช้าๆไม่รีบก็ชั่วโมงกว่าๆ “เห้ย! กูลืมหมวก ถ้าไม่มีหมวกกูก็ไม่เท่สิวะ วกกลับไปเอากันเถอะ” พอปั่นออกมากำลังจะพ้นเขตสวนไอ้เอกก็หยุดรถพร้อมกับหันมาบอกผมว่าลืมหมวกแก๊ปประจำกาย ก่อนจะวกหันหน้ากลับแล้วปั่นจักยานกลับไปบ้านทันที ไอ้นี้มันติดหมวกมากติดหัวไปไหนมาไหนด้วยเสมอ จะถอดก็แต่ตอนเข้าห้องเรียนเท่านั้นแหละ เมื่อกี้มันคงเผลอถอดทิ้งไว้ตอนไปขุดไส้เดือน หากแต่พอผมนึกอะไรขึ้นมาได้ ผมก็รีบปั่นจักรยานของผมตามมันเข้าไปในทันที และมันก็ใช่อย่างที่คิด แม้เพียงระยะทางจากบ้านถึงทางเข้าสวนใช้เวลาไปกลับแค่สิบนาที พอพ้นแนวต้นไม้มาถึงลานหน้าบ้าน ก็พบว่าพ่อกับลุงผู้ใหญ่ก็หายไปจากตรงนั้นแล้ว “พ่อมึงกับลุงผู้ใหญ่หายไปไหนแล้ววะนะ”เอกจอดจักรยานข้างรถกระบะแล้วมองไปรอบๆอย่างสงสัย บ้านที่เปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้ก่อนที่เราจะออกไป ตอนนี้มันถูกปิดลงทั้งหมด นั้นทำผมก็พอจะรู้ได้ในทันทีว่าพ่อกับลุงหายไปอยู่ไหน “อยู่ไหนละหมวกมึง กูว่าไอ้เอกเราไปกันเถอะ ไม่ต้องเอาแล้ว”ผมดึงเสื้อเอกหวังพามันให้วนกลับออกไป แต่นั้นยิ่งทำให้มันสงสัยแล้วหันมามองหน้าผม “กูจำได้ว่าวางไว้แถวแคร่หน้าประตูบ้านนั้นแหละ มึงเป็นอะไรลุกลี้ลุกลน” “กูว่าเราเข้าไปในหมู่บ้านชื้อของกันเถอะ ไม่ใส่แค่วันเดียวไม่เป็นไรหรอก”ผมพยายามโน้มน้าวมันแบบไร้เหตุผล และยิ่งชวนทำให้มันสงสัยเข้าไปอีก “เป็นสิวะ ก็มันไม่เท่ไง ถ้าไม่ได้ใส่หมวก เห้ย นั้นไง วางอยู่ตรงแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านจริงด้วย”แล้วมันก็ตรงรี้ไปหยิบหมวก “ได้แล้วก็ไปเถอะ” “เสียงอะไรวะ มึงได้ยินมะ กูว่าดังมาจากในบ้านของมึง เสียงเหมือนคนกำลังครางเบาๆ”แล้วมันก็ยืนนิ่งเงี่ยงหูฟังต้นเสียง แล้วเดินตามเสียงไปแนบหูฟังที่ประตูบ้าน “อา อะ อาว ซี๊ดๆๆอา” “ไม่มีอะไรหรอกมึง เราไปเถอะ”ผมเดินเข้าไปดึงแขนมันให้เดินตาม แต่เสียงครางของคนในบ้านกลับดังขึ้นมาอีก เหมือนพวกเขาคงไม่รู้จริงๆว่ามีคนมาอยู่หน้าบ้าน อีกอย่างด้วยเราสองคนก็ไม่ได้คุยกันเสียงดังนัก “กูว่ามันต้องมีอะไร ขอกูส่องดูให้หายข้องใจก่อนแปบเดียวนะ” มันกลับเป็นฝ่ายดึงแขนผมไว้แล้วพูดเบาๆก่อนจะหันกลับไป มันเดินตามเสียงไปยังด้านหลังของบ้าน ผมไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่เดินตามไอ้เอกไปยังส่วนด้านหลังของบ้าน มันเป็นฝั่งที่มีรูรอยแตกหลายรูยังไม่ซ่อมแซม เพียงเดินเข้าใกล้บริเวณก็ได้ยินเสียงพ่อดังชัดขึ้นกว่าที่หน้าบ้านมาก เพราะตรงนั้นเป็นที่พ่อนอนอยู่ประจำ มันก้มลงหารูแล้วส่องเข้าไปภายในห้อง ชั่วเพียงอึดใจทันทีที่ไอ้เอกมันแนบหน้าประกบกับรอยแตกของไม้ตีกำแพงห้อง มันก็ตาค้างตกตะลึงอยู่อย่างนั้น จนพักหนึ่งเห็นจะได้มันจึงหันกลับมามองหน้าผม ด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยข้อสงสัย ผมยกมือขึ้นจุปากให้ ก่อนมันจะหันกลับไปเบิกตาโพล่งดูภาพข้างในห้องต่อ ผมนั่งลงข้างๆมันแล้วมองผ่านรูเข้าไป ภาพชินตาของชายหนุ่มวัยสามสิบกว่าๆดีกรีนักมวยเก่าหน้าคมคายคล้ายๆนักมวยดัง ศิริมงคล ก็ไม่ปาน ผิวเข้มตัวสูงหุ่นนักกีฬาไหล่กว้าง กล้ามแขนขาใหญ่เป็นมัดๆบวกกับซิกแพคหน้าท้องแกร่งสมส่วนนั้นละพ่อผม เขากำลังนอนเปลือยกายอยู่บนที่นอนกับชายแก่วัยห้าสิบหุ่นหมีขาวอวบหัวล้านเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นลุงเขยของพ่อนั้นเอง เขาทั้งสองที่อยู่ในห้องต่างก็ไม่สวมเสื้อผ้าใดๆเลย ผู้ที่ดูว่ามีอายุมากกว่านั้นกำลังก้มหน้าอยู่ตรงระหว่างขาของหนุ่มรุ่นลูกพลางผงกหัวขึ้นๆลงๆ เมื่อจ้องดูให้ดีจะเห็นว่าเขากำลังใช้ปากดูดอมท่อนลำอันใหญ่โตตรงหน้าอยู่เต็มปาก สองมือกำท่อนสากสีเนื้อแน่นให้ตั้งตรงแล้วบรรจงลิ้นเลียจนทั่วหัวบานใหญ่ สลับกับอมมันให้หายเข้าปากแล้วดูดอย่างเอร็ดอร่อย “ลุงผู้ใหญ่กำลังเอาปากเล่นกับหนอนยักษ์ของพ่อมึง”มันเพ่งดูอยู่นานก่อนจะหันมากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ “อืม”ผมได้แต่พยักหน้าตอบสั้นๆเพราะไม่รู้จะพูดอะไรออกมาได้อีกเหมือนกัน “มึงตอบแบบนี้แปลว่ามึงรู้อยู่แล้วนะสิวะ”เสียงกระซิบเบาๆสั่นๆข้างหู ขณะที่เราทั้งคู่กำลังแอบดูผู้ใหญ่สองคนกำลังเล่นกันแบบแปลกๆ “ชู๊ววๆ เบาๆสิวะมึง ” “ไอ้นั้นของพ่อมึงโคตรใหญ่ ลุงผู้ใหญ่อมได้แค่เลยหัวไปนิดเดียวเอง นี้ๆไอ้นราน่าตกใจวะ”คนข้างๆยังสะกิดชวนสนทนาต่ออย่างสนใจ แม้ผมพยายามเตือนให้เขาเงียบๆด้วยการยกมือขึ้นปิดปากแล้วก็ตาม “ตกใจเรื่องอะไรวะ เรื่องที่ไอ้นั้นพ่อกูใหญ่หรอ” “เปล่า ไม่ใช่เรื่องนั้น เรื่องที่พ่อมึงก็เป็นผู้ชายแล้วลุงผู้ใหญ่ก็เป็นผู้ชาย มาทำอะไรกันแบบนี้ มันไม่ใช่วะ ผู้ชายต้องเอากับผู้หญิงสิ” “อ้าว แล้วผู้ชายกับผู้ชายทำอะไรกันแบบนี้ไม่ได้หรอวะ ต้องเอากับผู้หญิงได้อย่างเดียวหรอ” “เอ่อ กูก็ไม่รู้ กูไม่แน่ใจ กูเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก” แล้วคนข้างๆก็เงียบไป ผมก็ไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ทั่วๆไปเป็นแบบไหน แต่อยู่ที่นี้ผมเห็นพ่อกับลุงที่มักทำแบบนี้กันอย่างมีความสุขเสมอ และไม่เพียงเท่านั้นยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่ทำแบบพ่อกับลุงซึ้งผมได้เห็นกับตาตัวเองมาแล้ว แต่พอได้ยินจากปากเพื่อนผมก็แอบตกใจนะที่ว่าผู้ชายกับผู้ชายทำอะไรแบบนั้นกันไม่ได้ ผมรู้สึกผิดหวังและสับสนเพราะตอนนั้นผมก็แอบรู้สึกแปลกๆกับเพื่อนคนนี้มาก อยากอยู่กับมันตลอดเวลาและอยากทำกับเพื่อนแบบเดียวกับลุงรงทำกับพ่อบ้าง แต่ยังไม่มีความกล้าพอ และเมื่อพอได้ยินเพื่อนพูดออกมาแบบนั้น ก็ให้เกิดความสับสนและกังวนใจได้แต่มองเพื่อนชายที่อยู่ข้างๆพลางหาคำตอบในหัวเท่าที่จะคิดได้ในเวลานั้น “อร่อย สวบๆ” “อร่อยก็ดูดแรงๆเลย ลุง อา เสียว อา” ไอ้เอกหันไปดูพ่อกับลุงผู้ใหญ่ด้วยความสนใจ ต่างกับผมที่อยู่นี้มานานจึงได้รู้ได้เห็นเรื่องเสียวๆเรื่องกามคาวๆของพ่อกับลุงเขยของพ่อตั้งแต่ต้นจนถึงวันนี้ มันเกิดขึ้นที่บ้านหลังนี้แหละ บ้านไม้เก่าๆชั้นเดียวหลังคามุงสังกะสีหลังเล็กๆตั้งอยู่กลางดงสวนผลไม้ ผนังบ้านด้านหลังมีรูที่เกิดจากรอยแตกของไม้ที่ตีทับไม่สนิทกันนัก แต่ก็กั้นแดดกั้นฝนได้ดี และด้วยที่นี้มันเงียบสงบ กรอปกับเป็นที่ส่วนบุคคลไม่มีคนนอกเข้ามา บริเวณสวนก็มิดชิดรายล้อมด้วยต้นไม้สูง ต้นไม้พุ่มเตี้ย จึงทำให้ที่นี้เหมาะแก่การประกอบกิจกรรมเสียวเป็นอย่างดี ทั้งพ่อกับลุงผู้ใหญ่และคนงานคนอื่นๆมักทำอะไรไม่ระวัง ทำให้ผมเห็นบ่อยๆ “อา อะ ขอแรงอีก อา เสียว อา” พ่อจับหัวลุงเขยด้วยสองมือกดใส่ตักตัวเองถี่ๆพร้อมร้องเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่เกรงกลัวว่าใครจะมาได้ยิน มันก็ใช่จริงๆนั้นแหละ กลางดงกลางสวนแบบนี้ต่อให้ร้องเสียงดังแค่ไหนก็ไม่มีใครมาได้ยิน และยิ่งพ่อร้องพ่อดิ้นนั้นยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เอกเขาจ้องดูตาแทบไม่กระพริบ ยิ่งเขาทำท่าทางกระสับกระส่ายยุหยิกด้วยนั้น ทำให้ผมหันมามองเพื่อนชายท่าทางของเขาน่าสนใจกว่าข้างในนั้นตั้งเยอะ “โอว จะ ออ ออก แล้ว โอวว ซี๊ด อา เสียวปลายซิหาย โอ้ย อา“ “ไปเถอะเอก” เราสองคนดูพวกเขาเล่นกันสักพักจนพ่อโดนลุงรีดน้ำออกจากตัวไปสองน้ำติดๆ จนพ่อนอนแผ่หลา ผมก็ดึงแขนมันออกจากตรงนั้นขึ้นจักรยานปั่นออกมา
……………….ติดตามตอนที่สอง.......................
|