หลังจากวันนั้นผมก็ยังคงขยันทำงานมาตลอดผมยังคงรอคอยคุณอากลับมาถึงบ้านเสมอ ทุกคืนผมต้องคอยปรนเปรอคุณอาของผมเมื่อพอใจผมถึงจะได้กลับมานอนตามปกติ คุณอายังคงใช้ถ้อยคำพูดเสียดแทงใจผมเสมอแต่ผมพยายามไม่คิดอะไร ตอนนี้ผมกลายเป็นพ่อครัวประจำบ้านไปเรียบร้อยแล้วครับมีบ้างที่แม็คกับมิ้นท์เข้ามาก่อกวนผม แต่โชคดีที่มีพี่รัน พี่กัน กัปตัน และฟ้าคอยช่วยเหลือทำให้ทั้งสองคนไม่สามารถทำอะไรผมได้ วันนี้ก็อีกเช่นกันผมยังคงมาทำหน้าที่ ปรนนิบัติคุณอาตามที่ได้รับคำสั่งไว้ “ซี๊ดดด...อ๊ากกก” คุณอายังคงเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศสูงทุกวัน ในแต่ละคืน กว่าจะออกจากห้องไปได้ก็เกือบตีหนึ่ง ถ้าถามถึงรอยบนตัวนั้นแน่นอน รอยเก่ายังไม่ทันจาง รอยใหม่ก็เข้ามาแทนทุกวันหลังจากที่คุณอาเสร็จสมอารมณ์หมาย ผมก็ใส่เสื้อผ้า เตรียมตัวจะออกจากห้อง “เดี๋ยวก่อน” “ครับ” “พรุ่งนี้ฉันจะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าวันมะรืนเธอต้องไปเรียนแล้ว” จริงด้วยสิผมลืมไปสนิทเลยว่าผมต้องไปเรียนด้วยนี่นา แต่ว่า ถ้าผมไม่อยากจะสร้างหนี้เพิ่มล่ะถ้าผมปฏิเสธไปคงจะดีกว่า “ผมว่า...” “ฉันสั่ง!!” “ครับนายท่าน” ผมเอ่ยตอบเสียงเศร้าก่อนจะเดินออกมาด้วยความรู้สึกหนักหน่วง หลังจากผมอาบน้ำเสร็จ ผมออกมาข้างนอก ยืนมองพระจันทร์ที่ลอยเด่นในนภาถึงแม้ผมจะเศร้า ผมจะเครียด เพราะการที่มาอยู่ที่นี่ เหมือนผมไร้ศักดิ์เป็นแค่นายบำเรอเพื่อให้คุณอาสบายตลอดชีวิตของผมอิสรภาพที่ผมปรารถนากลับถูกตรึงด้วยโซ่ตรวน โซพันธนาการที่ไม่มีทางหลบหนีได้โซ่ที่พันไปด้วยหนามอันแหลมคม ยิ่งดิ้นก็ยิ่งเจ็บ เจ็บลึกลงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ถึงแม้จะมีเพื่อนมากมายมีพี่รัน พี่กัน กัปตัน ฟ้า ป้าสมร ป้าแม่บ้าน ลุงคนสวน ลุงคนขับแต่ผมก็ยังรู้สึกเหงา โดดเดี่ยวอยู่ดี หรือว่าบางทีคุณอาเองก็รู้สึกเหมือนกับผมมาตลอด ท่ามกลางม่านสีดำอันมือมิดมีเพียงแสงจันทร์นวลส่องสว่างท่ามกลางหมู่ดาวมากมายแสงสีเหลืองถักทอยามราตรีให้สวยเด่นสง่า ปัดเป่าความเงียบเหงาในใจผมให้ผมรู้สึกว่า อย่างน้อย ถึงโชคชะตาจะกลั่นแกล้ง ถึงจะไม่ได้เป็นอย่างที่หวังแต่ก็ยังมีดวงจันทร์ที่ยังหนักแน่น คอยส่องสว่างเป็นเพื่อนผมตลอดเวลาทำให้ผมรู้อบอุ่น ยิ่งมองผมก็ยิ่งนึกถึงพ่อกับแม่ ป่านนี้พวกท่านจะเป็นยังไงบ้างพอคิด น้ำตาก็ไหลออกมา ผมได้แต่หวังว่าจะมีสักวันที่ผมได้เจอพวกท่านอีกได้กลับไปใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป เช้าวันใหม่ก็มาถึงวันนี้เป็นวันที่ผมต้องมาซื้ออุปกรณ์ เสื้อผ้ากับคุณอา แต่ก็แปลกใจทำไมถึงพามาที่ห้างสรรพสิ้นค้า อีกอย่างคนขับรถก็ไม่ให้ติดตาม แทนที่จะพาไปตลาดของก็ถูกกว่าด้วย พวกคนรวยนี่ไม่เสียดายเงินกันจริง ๆเลย เมื่อมาถึงห้างสรรพสิ้นค้าคุณอาก็พาผมมาเดินที่ร้านขายชุดนักเรียน พอเข้ามาถึงก็มีพนักงานต้อนรับมา...อ่อยคุณอา “สวัสดีค่ะดิฉันชื่อเจน ไม่ทราบว่ามีอะไรให้รับใช้คะ” เจนเดินเข้ามาหาคุณอาพร้อมกับส่งสายตายั่วยวนมาให้ แต่คุณอาก็ไม่ได้สนใจอะไร “ขอดูชุดนักเรียนให้เด็กคนนี้หน่อย” เจนมองมาทางผมก่อนจะเดินไปหยิบสายวัดมาวัดตัว แต่สายตากับจดจ่ออยู่กับคุณอาก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ผม “ไปลองดู” “ครับ” ผมเข้าไปลองเสื้อได้แปบหนึ่งพอออกมาก็เจอกับ... คุณอาที่กำลังจูบกับเจนอย่างดูดดื่ม เฮ้อ นี่สรุปพาผมมาที่นี่เพื่อเจอคู่ขาหรือไงพอพวกเขาเห็นผมเดินออกมาก็แยกจากกัน “เดินมานี่” ผมเดินไปหาตามคำสั่งคุณอาสำรวจชุดผม ดูว่ามันหลวมไปหรือเปล่า จริง ๆแล้วไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นะ “เอาไซส์นี้7ชุด แล้วปักชื่อให้ด้วย ที่อยู่ตามนี้” คุณอาพูดพร้อมกับให้นามบัตรไปส่วนชื่อนามสกุลผมก็เขียนให้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นก็เดินตามคุณอาออกมาข้างนอก “เดี๋ยวไปกินข้าวแล้วค่อยไปซื้อกระเป๋าอุปกรณ์เครื่องเขียน” คุณอาพูดอยู่ฝ่ายเดียวผมได้แต่พยักหน้า อยากจะขัดอยู่เหมือนกัน แต่เดี๋ยวโดนทำโทษ คุณอาพามมาที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนสั่งอาหารให้ผมและของเขาเองเสร็จสัพ ก่อนจะมองมาที่ผม ไม่เข้าใจ ทำไมจู่ ๆ เหมือนมาทำดีด้วยทั้งที่เรื่องพวกนี้ผมทำเองก็ได้ “มีอะไร” “ครับ?” “ฉันถามว่ามีอะไรสีหน้าแบบนั้น เหมือนมีอะไรอยากจะพูดกับฉัน” ใครจะไปกล้าบอกล่ะเดี๋ยวก็ตอบกลับมาอีกว่า นี่เป็นคำสั่ง เฮ้อ เอาเวลานี้ไปเสพสมกับสนมที่บ้านเถอะครับ “พูดมานี่คือคำสั่ง” คุณอาพูดเสียงมีอำนาจ “คือ...ของพวกนี้ จริง ๆ ผมทำเองก็ได้นะครับ ไม่ต้องให้นายท่านมาลำบาก อีกอย่างถ้าเกิดไปตามตลาด มันจะถูก...” “ฉันเป็นคนตัดสินใจเธอไม่มีสิทธิ์มาขัด นี่คือคำสั่ง” นั่นไงบอกแล้ว “ฉันเป็นคนฝากเธอเข้าเรียนฉันไม่อยากให้ใครมาดูถูกว่าเป็นเด็กยากจน ฉันไม่มีเงินส่งเสีย” ที่แท้ก็ห่วงชื่อเสียงตัวเองนี่เอง “แต่เธออย่าลืมที่ฉันเคยสั่ง” “ครับ” ผมตอบทันควันไม่อยากได้ยินคำสั่งที่กำหนดอิสรภาพของผมซ้ำแล้วซ้ำซาก และแล้วสวรรค์ก็ทรงโปรดอาหารมาเสิร์ฟในช่วงเวลาที่น่าอึดอัด ผมนั่งตักอาหารกินอย่างเอร็ดอร่อย ไม่เคยกินอะไรอร่อยอย่างนี้มาก่อน “เธอไม่เคยกินอะไรแบบนี้เลยเหรอ” “ครับ” “ฮึก็สมละ” อยากจะขว้างซ้อมไปจิ้มปากเขาจริงๆ แต่ละคำนะ แรงกว่าผู้หญิงอีก “ทำไมนายท่านถึงพาผมมาเองล่ะครับจริง ๆ แล้วให้คนขับรถพามาก็ได้” “ฉันแค่เบื่อ” ห้ะ?เบื่อ? เบื่อแล้วไม่เรียกนางสนมมาล่ะครับ “แล้วทำไมนายท่านไม่เรียกคนมาคอยปรนนิบัติล่ะครับมีออกตั้งเยอะ หรือว่าจะมาหาเหยื่อเพิ่ม” นั่นไงปากพาซวย พอได้กินอาหารอร่อย ได้ออกมาข้างหน่อย เหลิงเลยคุณอาหยุดกินและมองมาที่ผม จ้องจะกินเลือดกินเนื้อ “เธอไม่คิดจะกลัวฉันเลยหรือไง” เอาแล้วไงถ้าผมตอบความจริงไปว่า ไม่กลัว จะเป็นไรไหม หรือจะตอบว่ากลัวดี “บอกความจริงมาไม่งั้นอาหารตรงหน้าจะอยู่ที่หน้าแทนอยู่ที่ปาก” โอเคพูดตรง ๆ ก็ได้ “ไม่กลัวครับ” “ทำไม” “เพราะผมเข้าใจคุณอาเอ้ย นายท่าน” “ฮึเข้าใจยังไงไม่ทราบ” “ผมเข้าใจว่านายท่านรู้สึกโดดเดี่ยวมาตลอดที่ผ่านมานายท่านพยายามมาตลอดเพื่อที่ให้คนเห็นคุณค่าในตัวนายท่าน แต่กลับไม่มีใครเห็นนายท่านต้องแบกรับความรู้สึกมาตลอด เพราะหวังมาก จึงเจ็บมาก ทำให้นายท่านไม่อยากจะได้รับความรักจากใครนายท่านกลายเป็นคนแข็งกระด้าง แต่ลึก ๆ แล้วนายท่านเป็นคนใจดี ไม่อย่างนั้นทุกคนคงไม่อยากจะอยู่กับนายท่านหรอกครับ นายท่านนั่งกินอาหารคนเดียวแต่อาหารกลับเยอะมากมาย เพราะนายท่านคิดถึงคนอื่นเสมอ ผมว่านายท่านจริง ๆ เป็นคนดีครับแต่ก็น่าสงสารในเวลาเดียวกัน” เฮือกแย่แล้ว พูดเยอะไปหรือเปล่า นายท่านจ้องมองมาที่ผมเงียบกริบ ไม่พูดอะไรแล้วผมก็เดาอาการไม่ออกด้วย “ทั้งหมดนั่นก็เป็นเพราะ...” “เพราะพ่อของผมผมรู้ครับ เพราะงั้นผมจะพยายามทำทุกอย่าง ให้ทุกอย่างจบลงที่ผม” “ฮึเด็กเพียงคนเดียวจะทำอะไรได้” “ผมก็จะทำเท่าที่ผมทำได้ผมจะทำให้นายท่านเห็นว่าอย่างน้อยนายท่านก็ยังมีใครหลายคนเป็นห่วง และรักนายท่าน ผมจะทำให้นายท่านได้รู้ว่าอย่างน้อยนายท่านก็ยังมีผมอยู่” “ด้วยการนอนรอฉันที่โซฟาทุกวันที่ฉันกลับดึกงั้นเหรอ” “เพราะมันคือบ้านไม่ใช่เหรอครับอย่างน้อยถ้ากลับมานายท่านจะได้รู้ว่ายังมีผมรออยู่เสมอ” ผมพูดตรงๆ ในเมื่อนายท่านบอกให้ผมพูดสิ่งที่ผมคิด ผมรู้สึกออกมา แต่ไม่รู้ว่านายท่านจะรู้สึกยังไงตอนนี้ผมเดาไม่ออกเลย แน่นิ่งเป็นหินไปละ “ฉันอิ่มละ” อ่าวอิ่มเฉย ยังกินอาหารไม่หมดเลย คุณอาไม่พูดพร่ำทำเพลง วางเงินสดไว้ที่โต๊ะประมาณสามพันและเดินออกจากร้านไปทันที ทำให้ผมต้องรีบวิ่งตามออกไป จากนั้นคุณอาไม่ได้พูดอะไรอีกเลยผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ก็ผมพูดไปตามตรง เฮ้อ คนแก่อะไรเข้าใจยากจริง หลังจากที่เดินซื้อของเสร็จก็กลับมาที่บ้านประมาณบ่ายสาม คุณอาบอกว่า วันนี้ไม่ต้องไปเขาที่คฤหาสน์จากนั้นก็ตรงดิ่งขึ้นห้องไปเลย “ไปซื้อของเตรียมตัวไปโรงเรียนเหรอ” พี่กันเห็นผมก็เดินเข้ามาหาทักทายอย่างเป็นมิตร “ใช่ครับ” “ดีจังเลยนะพี่ไม่เคยเห็นคุณก้องภพพาใครไปซื้อของให้สักเท่าไหร่” “ก็แค่ไม่อยากให้คนในโรงเรียนมองว่าเขาไม่มีเงินดูแลก็เท่านั้นครับ” “ไม่จริงมั้งพี่ว่า” “พี่พูดอะไรก็ไม่รู้ผมไปดีกว่า” ผมพูดตัดบทไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองจึงเดินกลับไปที่ห้อง แต่แล้วก็ดันเจอ...อืม แม็คกับมิ้นท์ทั้งสองคนมองมาที่ผมด้วยสายตาอาฆาตรุนแรง แต่ผมทำเป็นไม่สนใจอะไรทั้งนั้นต่างกับสองคน “แกน่ะรีบออกไปจากที่นี่สะ” มิ้นท์เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน “ทำไมผมต้องออก” “ฮึทีตอนแรกทำเป็นดื้อรั้น ที่ไหนได้แค่เล่นตัว จริงก็อยากได้คุณก้องภพจนตัวสั่นน่ะสิ” ถ้าเทียบกับคำพูดที่คุณอาเคยพูดกับผมคำพูดพวกนี้ไม่ระคายผมแม้น้อย “นี่แกฉันพูดด้วยทำไมไม่ตอบ” เป็นแม็คเดินเข้ามากระชากผมอย่างแรงแต่มีไม่ได้ตอบโต้ ผมเป็นนักกีฬามาก่อน ยังไงมันก็สู้แรงผมไม่ได้อยู่แล้ว ผมเดินนิ่งทำให้พวกมันโมโหมากขึ้น “มีเรื่องอะไรกัน” เสียงพี่กันดังขึ้นมาทำให้ทุกคนหันไปมอง พี่กันเป็นผู้ชายหน้าตาหล่อพอสมควร ร่างกายสูงแข็งแรงเพราะทำงานมานาน ทำให้ทุกคนรู้สึกยำเกรง รวมถึงสองคนนั้น “ไม่มีอะไรครับแค่มาทักทายเฉย ๆ” แม็คพยายามหาข้ออ้าง “พี่ว่าแชสภาพนี้ไม่ได้มาหาข้ออ้างล่ะมั้ง” พี่กันรู้ทันทำให้ทั้งสองคนหน้าเจื่อน ผมไม่สนอะไร เดินข้าห้องไปเงียบๆ อยากจะนอนพักเอาแรงก่อนจะออกไปทำงานบ้านดูแลสวนต่อ บันทึกพิเศษ: ก้องภพ บ้าจริง! ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคำพูดของเด็กนั่นจะมีอิทธิพลกับผมขนาดนี้เด็กนั่นพูดถูกทุกอย่าง ใช่ครับ ผมรู้สึกโดดเดี่ยว เดียวดายมาตลอดความรักที่ถูกพรากจาก ความฝันที่ถูกขโมย ปกติแล้วเรื่องพาเด็กนั่นไปซื้อของอะไรนั่นผมไม่จำเป็นต้องไปด้วยอย่างที่ไม้บอก แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงไปด้วยสะงั้น ไม่เคยมีใครคนไหนกล้าปากดี แข็งข้อกับผมมาก่อน พอได้เจอ ก็น่าสนใจดี แถมตอนที่มีอะไรกันนั่นล่ะครับ ยิ่งทำให้ผมสลัดภาพเด็กคนนั้นไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเวลาอยู่ใกล้ผมรู้สึกปรารถนาตลอด ยิ่งคำพูดเมื่อช่วงบ่ายนั่นอีกทำไมผมถึงได้รู้สึกใจเต้นแปลก ๆ บางทีเด็กคนนั้นจะล้ำเส้นมากเกินไป เพราะงั้นผมถึงได้ตัดสินใจบอกไปว่าไม่ต้องมาหาผมจะได้รู้สึกไปเลยว่าอย่ามาสอนผม แต่ว่า...โธ่เว้ยย!!นี่มันบ้าไรวะเนี่ย ผมเป็นไรไปกันแน่ หลังจากกลับมาผมก็ขึ้นมาในห้องทำงาน อยากจะจัดการกับความรู้สึกที่ผมไม่เคยรู้สึกมาก่อนแต่ดูท่าจะยิ่งยากขึ้นกว่าเดิม ผมไม่เคยรู้สึกสนใจคนไหนมาก่อน แต่ตั้งแต่ผมมีอะไรกับเขาครั้งแรก พอผมได้สัมผัส ผมไม่เคยรู้สึกพอเลยสักนิดเด็กคนนั้นทำอะไรกับผมกันแน่ ขนาดผมมีอะไรกับกัปตันก็ยังเห็นภาพไม้ลอยเข้ามาทำให้ผมสั่งให้ไม้มาหาผม ปรนนิบัติผมทุกคืน และนั่นจึงทำให้ผมเลิกฟุ้งซ่านได้ไม่รู้ทำไม ผมเดินมาที่หน้าต่างมองไปทางที่พักของไม้ ก็เห็นว่า แม็ค กับ มิ้นท์เข้าไป พยายามทำร้าย แทนที่จะรู้สึกสะใจแต่กลับรู้สึกโมโหสองคนนั้นแทน เด็กนั่น รู้ทั้งรู้ว่าสู้ได้ เป็นนักกีฬาแต่กลับไม่สู้เลยสักนิด แต่แล้วกันก็เข้ามาห้ามไว้ได้ผมจึงถอนหายใจก่อนจะเดินกลับมาที่โต๊ะทำงาน กำลังดูพื้นที่ วางแผนจะสร้างโรงแรมรีสอร์ทขึ้นมาสักแห่ง การลงทุน ทำให้ผมมีเงินมากมายเข้ามา แต่ผมก็ต้องดูอย่างละเอียดเพราะเรื่องพวกนี้จะประมาทไม่ได้ แต่แล้วสายตาผมก็ไปหยุดเอกสารฉบับหนึ่งเอกสารที่ผมจ้างคนไปสืบเรื่องไม้ ข้างในมีทั้งรูปมีทั้งเอกสารที่เจ้าเด็กนั่นไปทำงานพิเศษ ดูท่าเจ้าตัวจะทำงานส่งตัวเองเรียนไม่ได้ขอเงินพ่อแม่ และพอมองรูปถ่าย สิ่งที่ทำให้ผมตะลึง คือรอยยิ้มรอยยิ้มของเด็กนั่น จู่ ๆ ก็ทำให้โลกเหมือนหยุดหมุน ว่าแต่...ผมไม่เคยเห็นเด็กนั่นยิ้มเลยสักนิด ตั้งแต่มา มีแต่ทำหน้าเศร้า จู่ ๆ ก็อยากจะเห็นรอยยิ้มของเด็กนั่นขึ้นมานี่ผมเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม พอ ๆ ๆ ไปนอนพักแปบหนึ่งดีกว่า เผื่อจะทำให้ผมเลิกคิดอะไรที่ผมไม่เข้าใจตัวเองแบบนี้ได้ “คุณก้องภพคะอาหารพร้อมแล้วค่ะ” เสียงฟ้าปลุกให้ผมตื่น ผมจึงค่อย ๆลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่านี่เป็นเวลาห้าโมงเย็นแล้วผมจึงลุกขึ้นล้างหน้าล้างตา ลงไปทานอาหารเย็น ผมไม่แม้แต่จะมองหน้าเจ้าตัวเลย ท่องไว้สิมันคือลูกของคนที่ผมเกลียดมากที่สุด ผมต้องเกลียดมันสิ ใช่ ผมต้องไม่สนใจมัน “กันฟ้า คืนนี้มาที่ห้องฉันด้วย” “ครับ/ค่ะคุณก้องภพ” ผมลุกขึ้นและพูดกับสองคนนั้นก่อนจะเดินขึ้นห้องไป ผ่านไปสักพักทั้งสองคนก็เคาะประตู และเข้ามาหาผม ใช่ผมแค่เห็นไม้เป็นเหมือนนายบำเรอคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อหมดเวลา ก็ต่างคนต่างแยก ผมยันตัวพิงกับหัวตียงและเรียกกันกับฟ้าให้เข้ามาใกล้ผมถอดกางเกงออก เพราะปกติผมใส่แค่กางเกงตัวเดียวนอน จากนั้นทั้งสองก็รู้หน้าที่ขยับหน้าเข้ามาโลมเลียควยของผมอย่างออกรสผมมองและครางอย่างพึงพอใจ “อ่า...ซี๊ดดด...นั่นล่ะ...อืม...” ผมดึงตัวฟ้าขึ้นมาก่อนจะบดจูบแลกลิ้นกับเด็กผู้หญิงวันสิบสามปีใช้มือบีบเนินอกที่ยังเล็ก แต่ก็ไม่มีปัญหา ผมลดใบหน้าลงมาไซ้ซอกคอและหยอกล้อกับเนินอกนั้นมือข้างหนึ่งยังคงบีบเคล้น ส่วนอีกข้างหนึ่งเลื่อนลงมาข้างล่างใช้ปลายนิ้วมือขีดเขี่ยอยู่ตรงร่องกลีบ ก่อนจะค่อยๆใส่เข้าไป “อ่า...คุณก้องภพ...ซี๊ดดด...ฟ้าเสียว...อืมม...” จากเด็กinnocent ตอนนั้น กลายเป็นเด็กที่ดีในวันนี้ ในขณะที่กันเองก็กำลังอมควยผมเข้าออกมือยังคงหยอกล้อกับพวงไข่ผมทั้งสองจนผมต้องร้องคราง “อ่า...ซี๊ดดด...” ผมดึงตัวกันขึ้นมาบดจูบและใช้มือหยอกล้อกับรูหลัง สอดนิ้วเข้าไปเรื่อย ๆ จากจูบกลายมาเป็นขบกัดที่กล้ามอก “อ่า...คุณก้องภพ...ซี๊ดดด...โอ้วว...” ผมแหย่นิ้วเข้าไปลึกขึ้นสะกิดข้างใน และบิดนิ้วบ้าง ก่อนจะชักออกอย่างเร็ว ส่วนฟ้าตอนนี้กำลังปรนเปรอผมอยู่ บ้าจริง! จู่ ๆ ภาพเจ้าเด็กนั่นก็ลอยเข้ามาไม่ได้ ผมจะนึกถึงมันไม่ได้ มันก็แค่นายบำเรอ พอคิดแบบนั้นทุกอย่างก็กลับมาปกติตอนนี้ฟ้ากำลังนำถุงยางมาครอบที่ควยผม ปกติผมมักใส่ถุงยางตลอดเพราะผมไม่อยากมีพันธะกับใคร และกลัวติดโรค มีก็แต่... พอ!! ห้ามพูดถึงเจ้านั่นอีกฟ้าค่อย ๆ ลุกขึ้น ใช้มือจับกลีบของตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ย่อลง ใส่ควยผมเข้าไป “อ่า...คุณก้องภพ...ซี๊ดดด...” “อืมม...อ่า...ใจเย็น...ซี๊ดดด...” ผมเอามือออกจากรูของกันไปจับสะโพกของฟ้าค่อย ๆ ดันควยเข้า ในขณะที่กันหันไปจูบ บีบนมฟ้าเพื่อให้ผ่อนคลายมากขึ้นในที่สุดควยผมก็เข้าไปครึ่งลำ ก่อนจะค่อย ๆ ขยับสะโพกกระเด้าขึ้นช้า ๆ และเร็วขึ้นเรื่อยๆ “โอ้ยย...อ่า...คุณก้องภพ...อืมม...ซี๊ดดด...” ฟ้าร้องครวญครางอย่างเสียวกระสันกันเองก็ลุกขึ้น จับหัวของฟ้า พร้อมกับส่งควยหกนิ้วกระเด้งเข้าออกอย่างเมามัน “อ่า...ซี๊ดดด...ปากน้องฟ้าโคตรตอด...อ่า...” ผมเย็ดกับเธอในท่านั้นกระแทกเข้าไป เพียงแค่ครึ่งลำก็ทำให้ผมเสียวไม่แพ้กัน “ซี๊ดดด...ยังคับไม่เปลี่ยนเลยนะ...อ่า...” ผมกระแทกอยู่อย่างนั้นจนในที่สุดเหมือนฟ้าเสร็จก่อนผม แต่ไม่สามารถส่งเสียงได้เพราะควยกันยังคงเข้าออกอย่างลดละ ผมจึงเปลี่ยนท่า ให้กันมานั่งขย่มผม มันค่อย ๆ เอาควยผมใส่เข้าไปช้าๆ จนสุดลำ “โอ้ยย...ซี๊ดดด...ควยคุณก้องภพ...หมดแล้ว” จากนั้นมันก็ขย่มผมอย่างเอาเป็นเอาตาย “อ่า...แรงๆ ...อ่า...แน่นล่ะ...อ่า...ซี๊ดดดด...” “อ่า...คุณก้องภพ...อืม...ซี๊ดดด...โอ้วว...ซี๊ดดด...” กันร้องดังลั่นเมื่อผมกระแทกสวนขึ้นไปอย่างแรงผมเรียกฟ้า ให้มานั่งคร่อมหน้าผม จากนั้นผมก็จัดการเลียดข้างในอย่างเร็ว และกดน้ำหนักที่ปลายลิ้น “อ่า...คุณก้องภพ...ซี๊ดดด...โอ้วว...” เสียงฟ้าครางสนั่นในขณะที่ผมเองยังคงกระแทกสวนขึ้นอย่างไม่ลดละ ทั้งสองคนครางออกมาไม่เป็นภาษามือผมขึ้นไปขยำนมฟ้าเล่น กันเองก็ใช้มือตัวเองหยอกล้อกับหัวนมของตัวเองเสียงเตียงกระแทกกับพื้นดังเป็นจังหวะที่ผมสวนขึ้นและกันกระแทกลงมา “ซี๊ดดด...คุณก้องภพครับ...ผมไม่ไหวแล้วโอ้วว....อ่า...แตกแล้ว....อ่า ๆ ๆ” “คุณก้องภพคะ...อ่า...ฟ้าเองก็...ซี๊ดดด” ผมหยุดใช้ลิ้นและผลักให้ฟ้าหงายหลังและเอนสะโพกไปข้างหน้าก่อนจะใช้มือเร่งจังหวะในที่สุดฟ้าก็เสร็จออกมาเช่นกันแต่กับผม... มันยังไม่เสร็จ ไม่รู้ทำไม จู่ ๆ ในหัวก็มีภาพไม้โผล่ขึ้นมา ‘ผมว่านายท่านจริงๆ เป็นคนดีครับ แต่ก็น่าสงสารในเวลาเดียวกัน’ บ้าจริง! นี่ผมต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ “พวกเธอออกไปก่อน” ผมพูดออกคำสั่งในณะที่ทั้งสองกำลังเริ่มปรนนิบัติผมรอบสองก็หยุดมองหน้าผมอย่างตกใจ “แต่คุณก้องภพ...” “วันนี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยดีพวกเธอออกไปก่อน วันนี้พอแค่นี้” “คครับ/ค่ะ” ทั้งสองคนตกใจแต่ก็ทำตามที่ผมบอก ต่างคนต่างใส่เสื้อและเดินออกจากห้องไป นี่ผมเป็นอะไรไปแล้ว ผมเป็นบ้าอะไรทำไมมีแต่ภาพเด็กนั่นอยู่ในหัว ผมลุกขึ้นมามองไปยังห้องของไม้ พบว่าเจ้าตัวยังไม่หลับทำอะไรอยู่นะ ผมเพ่งมองไปที่ใบหน้าเศร้าของไม้ ดูท่าเจ้าตัวจะมองพระจันทร์อยู่ ฮึทำอะไรเป็นเด็กไปได้ แต่พอเห็นสายตานั่น เมื่อเทียบกับรูปภาพ ทำให้ผมรู้สึกใจหาย อยากเห็นรอยยิ้มของเด็กนั่นสักครั้ง...โอ้ย!! ผมต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! จบบันทึกพิเศษ: ก้องภพ เฮ้อคืนนี้โชคดีจริง ที่ผมไม่ต้องไปปรนนิบัติเขาที่ห้อง ถึงจะรู้ก็เถอะว่าทำไม แต่อย่างน้อยผมก็ยังสามารถนอนหลับไปสบาย ๆ ล่ะนะ ผมออกมาชมจันทร์ตามปกติ ก่อนจะเข้าห้องนอนผมเขียนจดหมายถึงพ่อแม่ด้วยนะ แต่ไม่มีแสตมป์ ไม่รู้ต้องทำยังไงผมอยากจะส่งให้พวกท่านไว ๆ อยากให้พวกท่านรู้ว่าผมสบายดี ไม่ต้องห่วงอีกไม่กี่วันผมก็จะได้ไปเรียน ถึงแม้จะไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่อย่างน้อยผมก็ได้เรียนบางทีผมอาจจะแอบไปทำงานหารายได้เสริมก็ได้ ผมอาบน้ำอาบท่า เขียนไดอารี่ปกติผมจะไม่ค่อยเขียนหรอก แต่อย่างน้อย ผมก็อยากเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำ เพื่อเตือนผมเสมอว่าครั้งหนึ่งผมเคยอยู่ในสถานะทาส มาก่อน ผมนอนหลับไปได้สักพักจู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครมาเปิดประตู ผมว่าผมล็อคประตูแล้วนะ หรือว่าจะเป็นโจร! ผมค่อยๆ หรี่ตาเพื่อดูว่าใคร แต่เพราะความมืด ทำให้ผมไม่สามารถรู้ได้ เห็นเพียงแค่เงาเท่านั้นแต่จู่ ๆ เงานั้นก็กระโจมเข้าหาผมทันที ผมตกใจ ตัดสินใจถีบเข้าที่หน้าท้องมัน “โอ้ย!” เสียงเจ้าโจรมันร้องขึ้นมาว่าแต่ทำไมเสียงคุ้น ผมรีบวิ่งไปเปิดไฟ...คุณอา!!! ทำไมคุณอาถึงมาทำอะไรห้องผมดึกๆ ดื่น ๆ “นายท่าน!! ผมขอโทษครับนึกว่าเป็นโจร” “นี่เธอหาว่าฉันเป็นโจรเหรอ!” เอาแล้วไงผมจะโดนไรคราวนี้ ไม่ตบ ต่อย ก็โดนกดน้ำเชื่อสิ “ก็นายท่านแอบมาเข้าห้องผมทำไมล่ะดึก ๆ ดื่น ๆ ใคร ๆก็คิดว่าเป็นโจรทั้งนั้น” เอาแล้วไงคุณอามองหน้าผมคาดโทษ ก่อนจะง้างมือขึ้น ผมรีบหลับตา รู้ชะตากรรมของตัวเอง... จู่ๆ ก็มีอะไรมาสัมผัสที่ปากผม ผมลืมตาขึ้น จูบ!! คุณอาจูบผมแทนที่จะตบผมเนี่ยนะ “ฉันจะลงโทษเธอโทษฐานที่ถีบฉัน” คุณอากระซิบที่ข้างหูก่อนจะปิดไฟและจูบผมอย่างหนักหน่วงสอดลิ้นร้อนเข้ามาข้างใน มือทั้งสองเริ่มซุกซนมาข้างในเสื้อของผม บีบ คลึงเล่นกับยอดอกผม จนผมครางในลำคอ คุณอาถอดเสื้อผมออกก่อนจะซุกไซ้ซอกคอขบเม้นจนเป็นรอยแดงและจับผมนอนลงบนเตียง ปากร้อนยังคงหมกหมุ่นอยู่กับหัวนมผม ทั้งฟันทั้งลิ้นทำงานอย่างขยันขันแข็งจนผมเสียวไปหมด “อ่า...ซี๊ดดด...นายท่าน” คุณอาเลื่อนมือไปยังรูทวารก่อนจะกดนิ้วเข้าไปเรื่อยๆ ปลายนิ้วสะกิดข้างในเล็กน้อย ชักเข้าชักออก หมุนวนจนทำให้ผมบิดไปบิดมา “อ่า...ซี๊ดด...นายท่าน...อืม...โอ้วว...” คุณอาไม่ได้พูดอะไรรีบถอดเสื้อผ้าออก สัมผัสได้ถึงควยมหึมากำลังจ่อมาที่รูของผมก่อนที่จะพรวดเข้ามาทีเดียวสุดลำทำเอาผมกับคุณอากอดกันแน่น “โอ้วว...ซี๊ดดด...อ่า...นายท่าน...” “อู้วว...ซี๊ดดด...โคตรแน่น...อ่า...” ไม่พูดพร่ำทำเพลงคุณอากระแทกเข้ามาเร็ว และเสียงดัง ตับ ๆ ๆ ๆ จนเตียงกระทบกับผนัง ผมกลัวเสียงครางผมจะทำให้ห้องข้างๆ ได้ยิน จึงเอามือมาปิดปาก แต่ดูเหมือนคุณอาไม่พอใจ จึงจับมือผมออก “อ่า...นายท่าน...ซี๊ดด...เดี๋ยว...ลุงชัย...ซี๊ดดด...จะ...ได้...ยิน...อ่า” ลุงชัยคือลุงคนสวน ผมกลัวจริง ๆ แค่เสียงกระทบของเตียงนี่ก็แน่ชัดแล้วถ้าเกิดเป็นเสียงผมอีก พรุ่งนี้ผมคงไม่กล้ามองหน้าแกแน่ คุณอากลับทำในสิ่งที่ผมอึ้งก้มลงปิดเสียงผมด้วยปากของเขา คุณอาจูบผมอย่างเร่าร้อน ดูดดื่มไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน ในขณะที่สะโพกยังขยับอย่างเร็ว เข้าสุดออกสุดจนผมเสียวไปหมด และในที่สุดผมก็แตกออกมาก่อนคุณอา และดูเหมือนคนตัวใหญ่ก็ใกล้เช่นกันคุณอาเร่งกระแทกเข้ามาอย่างดุดัน เสียงดังมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ “อ่า...ฉันจะแตกแล้ว...ซี๊ดดด...แม่ง...สุดยอด...อ่า...แตกแล้ว...อ๊ากกก” คุณอากระซิบบอกผมก่อนที่จะกดสะโพกเน้นเข้ามาจนควยคุณอาเข้ามาลึกที่สุดและปล่อยน้ำควยออกมาเต็มรูของผมจนรู้สึกมันเยิ้มออกมาแต่มีหรือที่จะพอแค่นี้ ผมรู้จักเขาดี เขาหันมาจูบผม เพราะความมืดทำให้ผมไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าเข้าเป็นยังไง แต่เชื่อเถอะ กว่าศึกครั้งนี้จะจบคงอีกนาน คนอะไร ไหนบอกว่าไม่ต้องมาหา และเรียกให้ฟ้า กับ พี่กันขึ้นไปปรนนิบัติ อุตส่าห์คิดว่าจะได้นอนสบายแต่ดูสิ สบายจนเหงื่อออกเลย
มาต่อแล้วนะครับ นั่งแต่งไป ตอนแรกแต่งยาว กะจะค่อยเป็นค่อยไป แบบ5ตอนค่อนรู้สึก แต่ลืมไปว่าหยุดแค่ไม่กี่วัน เลยตัดออกไปเยอะ55555 กะจะใส่ดราม่า ทรมานให้เยอะกว่านี้ ขอโทษด้วยนะครับ เวลาไม่ได้จริงๆ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ติชมได้นะครับ
|