๓
หลังจากจับกุมหมอผีกำมะลอได้ หมวดชัยได้รับคำชมเชยจากสารวัตรจุมพลที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ได้ ในส่วนของผู้กองคันธงกับหมวดเวทย์เพื่อนร่วมงานนั้น ได้พักรักษาอาการอยู่ในโรงพยาบาลในพื้นที่ ส่วนหมอผีที่หมวดชัยจับกุมมาได้ ก็ถูกปฐมพยาบาลขั้นต้น และนำตัวมาฝากขังเพื่อรอการสอบสวนต่อไป ผ่านมาสองวันแล้ว หมวดชัยได้เดินทางไปเยี่ยมผู้กองเพื่อถามไถ่อาการ และสอบถามสิ่งที่ตัวเองสงสัยในระหว่างปฏิบัติการจับกุมที่ผ่านมา “ก๊อก ๆ ๆ” หมวดชัยเคาะประตูห้องที่ผู้กองพักรักษาตัว “สวัสดีครับผู้กอง อาการเป็นอย่างไรบ้างหรือครับ” หมวดชัยสอบถามด้วยความห่วงใยในตัวผู้บังคับบัญชา “ยังมึน ๆ อยู่เลยหมวด ผมตกใจมากเลยนะว่า อยู่ ๆ ก็มาฟื้นที่โรงพยาบาลนี้” ผู้กองตอบไปก็ครุ่นคิดว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น “สงสัยไอ้หมอผีมันเล่นของมั้งครับ ผมไปเจอก็พบว่าผู้กองกับหมวดเวทย์สลบอยู่ในห้องนั้น” หมวดชัยแจกแจงแกมติดตลก แต่บอกไม่หมดว่าก่อนผู้กองจะสลบ ผู้กองทำอะไรไว้ เพราะไม่มั่นใจว่า นั่นคือผู้กองจริงหรือมันหูตาฝาดไปเอง “ผมก็ทบทวนความคิดตัวเหมือนกันนะว่าวันนั้น ผมเจอไอ้หมอผีนั่นแล้วอยู่ ๆ ก็ดับวูบไป จำอะไรก่อนหน้านั้นไม่ได้เลย” ผู้กองคันธงพยายามทบทวนความจำซ้ำไปซ้ำมา “ยังไง ผู้กองพักผ่อนและอย่าไปคิดอะไรมาก หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ค่อยสอบสวนไอ้หมอผี้เก๊นั่นกันครับ” หมวดชัยพูดถึงงานถัดไปที่จะต้องทำ “อ้าว หมวดชัยยังไม่สอบสวนหรือ นี่ผ่านมากี่วันแล้วหละ” ผู้กองถามด้วยความฉงน “สองวันแล้วครับ ก็มีลากเข้าห้องสอบสวน แต่มันนิ่งเงียบมาก ไม่ตอบอะไรเลย ขู่เข็ญยังไงก็เงียบเป็นเป่าสาก ตอนนี้ขออำนาจฝากขังต่ออยู่ครับ พวกหน่วยอื่นพยายามหาหลักฐานมามัดตัวไอ้หมอผีนี่กันอยู่” หมวดชัยอธิบายต่อ “อืมม ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากปรึกษาหมอที่ดูแลอาการผมว่า จะให้ผมออกวันนี้ได้หรือไม่ พรุ่งนี้ผมจะได้ร่วมการสอบสวนด้วย” ผู้กองตอบไปด้วยความเป็นห่วงว่างานในหน้าที่ กลับต้องให้ลูกน้องดูแลอยู่เพียงผู้เดียว “อ้อ เรื่องนั้น ก่อนผมมาหาผู้กอง เผอิญเดินส่วนกับหมอวีรยุทธ ที่ดูแลผู้กองนะครับ หมอยุทธบอกว่าถ้าผู้กองรู้สึกโอเคแล้ว ขอกลับช่วงบ่ายก็ได้ แต่ถ้ายังมึนและสับสนอยู่ อาจจะให้นอนดูอาการอีกคืนครับ” “อืมม งั้นผมขอกลับเลยดีกว่า” แล้วผู้กองต่อสายไปยังห้องพยาบาล เพื่อแจ้งความประสงค์ขอกลับ “เออ แล้วหมวดเวทย์หละ อาการเป็นยังไงบ้างหละ” ผู้กองถามต่อ “ไอ้รายนั้นหรือครับผู้กอง อย่าให้นินทาเลย ระริกระรี้กับนางพยาบาลตั้งแต่เมื่อวานหลังจากฟื้นแล้วครับ” หมวดชัยได้ที จัดหนักเพื่อนซะ “อืมม ก็ยังดีปลอดภัยกลับมากัน หน้าที่การงานอย่างพวกเราแขวนไว้บนเส้นด้าย ผมไม่อยากให้ลูกน้องต้องมามีอันเป็นไปหรือพิการในหน้าที่นะ” ผู้กองพูดพลางนึกถึงเพื่อนร่วมงานในสายอาชีพที่จบชีวิตในหน้าที่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ “งั้นผมขออนุญาติกลับไปทำงานที่สน.ก่อนนะครับ ส่วนเรื่องสอบสวนไอ้หมอผีนั่น ผมจะจัดเตรียมห้องสอบสวนให้พร้อม และจะแจ้งผู้กองให้ทราบอีกครั้งครับ” หมวดชัยพูดเสร็จ ก็ขอตัวลากลับไปทำงานต่อ ระหว่างที่หมวดชัยกำลังเดินออกไป หมอวีรยุทธก็เดินสวนไปหาผู้กองที่นอนอยู่บนเตียง “สวัสดีครับผู้กองคันธง เห็นแจ้งว่าจะขอออกเย็นนี้ อาการดีขึ้นมากแล้วสิครับ” หมอยุทธสอบถามอาการเพิ่มเติม “ครับ ไม่รู้สึกเพลียหรือมึนอะไรแล้ว แต่หมอครับ ผมถามทีครับว่า สาเหตุที่ผมกับหมวดเวทยาสลบไปเกิดจากอะไร” ผู้กองรีบสอบถามถึงอาการของตน “ตรงนี้หมอยังหาสาเหตุไม่ได้ครับ อาจจะโดนยาสลบ หรือโดนอะไรกระแทกหรือเปล่า แต่จากการตรวจสอบร่างกายของผู้กอง ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บอะไรนะครับ” หมอยุทธบอกพลางดูผลตรวจที่ส่งเข้ามา “ส่วนผลเลือด ยังไม่ได้ คงต้องรออีกวันสองวัน คงพอจะทราบอะไรบ้าง” “ขอบคุณมากครับหมอ แต่ตัวผมก็จำอะไรไม่ได้ อยู่ ๆ มันมืดดับไปเลย พอฟื้นมาอีกทีก็นอนในห้องนี้หละ” ผู้กองยังขมวดคิ้วพลางเค้นความทรงจำก่อนหน้า “ยังไง ก่อนผู้กองกลับ ผมจัดยาเผื่อไว้ซักหน่อย ถ้ามีอาการมึนงงหรือเครียด ก็ทานนะครับ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่จำเป็น” หมอยุทธกล่าวพร้อมจดยาที่จะจ่ายให้ผู้กองก่อนกลับบ้าน “ได้ครับ ยังไงก็ขอบคุณคุณหมออีกที ส่วนเรื่องผลเลือด ไว้ผมจะโทรสอบถามวันหลังครับ” “โอเคครับ งั้นผมขอตัวก่อนครับ” หมอยุทธกล่าวลาพร้อมเดินออกจากห้องไป ====== วันรุ่งขึ้นหมวดชัยมาถึง สน. แต่เช้า พร้อมไปยืนหน้ากรงขังที่มีหมอผีอยู่ “ไง ยังอยู่ดีนะมึง กูไม่รู้นะเมื่อวันก่อนมึงเล่นของอะไรกับพวกกู มึงเตรียมโดนสอบสวนต่อได้เลยวันนี้” “.....” หมอผีไม่ตอบอะไร แต่มองหน้าพลางคิด ถ้าวันนั้นควันของว่านรำจวญไม่หมดฤทธิ์ไปก่อน ไอ้หมวดคนนี้ไม่ได้ยืนปากดีตะคอกใส่หน้ากูแน่นอน ไว้วันหลังนะมึง กูจะเอามึงให้กลายเป็นหมาเลียตีนกูแน่ “ไอ้นี่ แม่งเงียบอย่างนี้ตั้งแต่วันแรก แม่งมีปากมั้ยวะ” หมวดชัยบ่นใส่ต่อเพื่อนนายตำรวจที่นั่งด้วยกัน แต่ตัวหมอผีก็ไม่สนใจ ทำเสมือนหนึ่งไม่มีใครพูดอะไร แปดโมงเช้า ผู้กองคันธงก็มาถึง สน. เข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานของตนเอง พร้อมดูกองเอกสารต่างๆ พลางคิดไปว่า แค่หยุดไปสองวันงานกองขนาดนี้เลยหรือ แถมวันนี้ต้องสอบปากคำหมอผีอีก ไม่รู้คนอื่นสอบสวนไปถึงไหนแล้ว คิดไปก็ค่อยๆ หยิบเอกสารมาตรวจสอบ ส่วนหมวดชัยพอเห็นว่าผู้กองคันธงมาแล้ว ก็เข้าไปแจ้งว่าจะเริ่มสอบปากคำเมื่อไหร่ ซึ่งผู้กองก็มีถามกลับไปว่าได้เบาะแสอะไรหรือไม่ “ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรครับ ไอ้หมอผีมันเงียบเป็นเป่าสาก ไม่ยอมพูดยอมจาอะไรเลย” หมวดชัยรายงาน “อืมม งั้นเดี๋ยวผมสอบปากคำเอง จะดูว่ามันจะเล่นของอะไรกันอีก” ผู้กองว่า “เออ แล้วมีผู้เสียหายจากหมอผีคนนี้บ้างมั้ย เผื่อจะได้รู้ว่ามันหลอกลวงอะไรไปบ้าง” ผู้กองถามคำถามออกไป “ที่เคยมาแจ้งความไว้ ตอนนี้พวกผมติดต่อกลับไปไม่ได้เลย ส่วนรายอื่น ๆ กำลังสืบค้นครับ” หมวดชัยตอบกลับ “โอเค เดี๋ยวเราเค้นจากหมอผีนี่ก่อน” “รับทราบครับ” ณ ห้องสอบสวน หมวดชัยพาตัวหมอผีเข้ามานั่งรออยุ่ภายในห้องได้ซักพักใหญ่ โดยปล่อยมันอยู่ลำพัง ส่วนตัวหมวดชัยเดินไปแจ้งแก่ผู้กองคันธงว่านำตัวหมอผีมาไปที่ห้องสอบสวนหมายเลขสามเรียบร้อยแล้ว “ขอบคุณมากหมวดชัย เดี๋ยวผมจบเอกสารกองนี้แล้วจะเข้าไปคุยกับมันดู” ผู้กองที่กำลังเร่งจัดการเอกสารตกค้าง หันไปบอกหมวดชัยก่อนงมกับเอกสารต่อ “เฮ้อ กว่าจะหมด เสียเวลาไปพักใหญ่เลย” ผู้กองบ่นกับตัวเองแล้วลุกเดินไปที่ห้องสอบสวนหมายเลขสาม ประตูห้องเปิดกว้างออกมา พร้อมทั้งผู้กองคันธงที่เดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามหมอผี ก่อนที่ผู้กองคันธงจะพูดอะไร หมอผีแอบยิ้มอย่างมีเลศนัย พร้อมเอ่ยทักผู้กองออกมาอย่างสุภาพก่อน “เจอกันอีกแล้วนะครับผู้กอง” พร้อมทั้งคิดไปว่า ไม่ต้องใช้ว่านหาเหวอะไรหละทาสชั้นเยี่ยมมาหากูถึงนี่แล้ว “ก่อนจะเริ่มสอบปากคำ ผมขอแจ้งข้อกล่าวหาเสียก่อน มีคนมาแจ้งความว่าถูกคนที่อ้างว่าเป็นหมอผีหลอกเอาเงิน แถมเกือบถูกข่มขืนที่บ้านหลังนั้น ซึ่งจากพยานผู้กล่าวหา มีคลิปที่กำลังจะถูกล่วงเกินทางเพศอยู่ด้วย” ผู้กองเริ่มแจ้งข้อกล่าวหา แล้วก็พูด ๆ ๆ ไป แต่หมอผีกลับจ้องมองใบหน้าผู้กองหนุ่มอย่างมีเลศนัย และอยู่ ๆ มันก็พูดสวนขึ้นมา “กูรำคาญสิ่งที่พวกตำรวจอย่างมึงพูดหวะ ไอ้พวกที่มาขอทำคุณไสย ขอยาเสน่ห์ ก็เพราะอยากมีอยากได้ไม่ใช่หรือ ข้าก็แค่ช่วยพวกมันให้ได้สิ่งที่มันต้องการ แต่พวกมันก็ควรจ่ายค่าตอบแทนด้วยสิ ไม่ใช่หรือครับคุณผู้กองคันควย” หมอผีพูดคำสั่งลับที่เคยไว้ให้กับนายตำรวจระหว่างที่มาจับกุมตัวมันเมื่อสามวันก่อน ทันทีที่ผู้กองคันธงได้ยินคำสั่งลับ สติของผู้กองตกอยู่ในภวังค์ พร้อมจะรับฟังนายมันอย่างทันที “ด้านนอกมีใครมองการสอบสวนมั้ย” หมอผีถามผู้กองเบา ๆ “มีครับท่าน” ผู้กองตอบเสียงราบเรียบ “งั้น กูให้มึงพูดต่อในฐานะตำรวจตามปรกติ แล้วอย่าให้ด้านนอกสงสัยว่ามึงอยู่ภายใต้อำนาจกูหละ” หมอผีกระซิบบอกแผ่วเบา “ครับนายท่าน” ผู้กองคันธงตอบกลับ “พอมึงนับถอยหลัง 3 2 1 แล้วมึงจะกลับเป็นปรกติ แต่มึงจะฟังและทำตามในสิ่งที่กูสั่ง โดยตัวมึงจะคิดว่าเป็นความคิดของมึงเอง” หมอผีสั่งออกมา “ผมจะฟังและทำตามที่นายท่านสั่งโดยถือว่าเป็นความคิดของผมเอง” ผู้กองตอบออกมา “ไม่ว่ากูจะทำอะไรกับตัวมึง มึงจะถือว่าเป็นเรื่องปรกติ เข้าใจมั้ย” ผู้กองพยักหน้าแทนการตอบ “งั้นนับถอยหลังได้” หมอผีสั่งต่อ “3 2 1” ผู้กองนับถอยหลังเสร็จ ก็กลับมาเป็นปรกติ และเริ่มการสอบสวนต่อไป การสอบสวนดำเนินไปร่วมชั่วโมง ส่วนคำถามก็เป็นการสอบสวนการกระทำของหมอผีที่ผ่านมา ระหว่างการสอบสวนหมอผีได้สั่งให้ผู้กองมาหามันทุกเช้าหลังจากมาที่สน. ให้ทำทีว่าเดินมาสอบสวนหรือคาดคั้นตามปรกติ แต่จริง ๆ แล้วหมอผีมันสั่งให้ผู้กองมารับคำสั่งหรือมาส่งของบางอย่างให้แก่มันนั่นเอง นอกจากผู้กองจะสอบหมอผีแล้ว ตัวหมอผีก็ทำเช่นกัน แต่ไม่ใช่เรื่องที่มันทำ แต่เป็น ความยาวของควยผู้กองทั้งตอนนอนหลับสงบ ทั้งตอนแข็งเต็มที่ วันนึงชักว่าวกี่รอบ มีแฟนหรือยัง เย็ดกับแฟนท่าไหนบ้าง ซึ่งผู้กองตอบคำถามโดยไม่สงสัยอะไร นอกจากนี้ เท้าไอ้หมอผีก็ยื่นไปเขี่ยเป้ากางเกงผู้กอง ซึ่งตัวคนถูกเขี่ยก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังพูดคุยตามปรกติ “มึงควักควยออกจากกางเกงออกมาโชว์ไว้ใต้โต๊ะ และทำตัวให้ดูปรกติ” หมอผีสั่ง ผู้กองใช้มือข้างที่ว่าง รูปซิปกางเกงแล้วคว้าควยที่อ่อนตัวออกจากกางเกงมาโชว์อยู่ภายใต้โต๊ะสอบสวน “หึหึหึ เวลาที่ตัวกูโดนตัวมึง ไม่ว่าส่วนไหน มึงจะเริ่มรู้สึกเงี่ยน แต่ก็จะปล่อยให้กูทำต่อไป” หมอผีกระซิบบอกต่อ พอผู้กองได้ฟัง พร้อมกับเท้าของหมอผีมาเขี่ยควยมัน ผู้กองถึงกับเงี่ยน ควยที่อ่อนตัวเริ่มขยาย น้ำเงี่ยนเริ่มปริ่มที่หัวควย แต่หน้าตาท่าทางยังปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หมอผีเริ่มเอานิ้วเท้าหนีบควยผู้กอง แล้วรูดขึ้นรูดลง น้ำเงี่ยนที่เยิ้มออกจากหัวควย เริ่มเปื้อนนิ้วเท้าของหมอผี แต่มันก็ไม่ว่าอะไร มันค่อย ๆ รูดช้า ๆ จนผู้กองที่พูดอยู่ถึงกับร้องซี้ดด้วยความเสียว “อ่าๆๆ อยู่ ๆ ทำไมเสียวควยอย่างนี้ อ่า ๆ ใกล้หละ ๆ อ่าๆ”
“มึงครางเบาๆ เดี๋ยวข้างนอกจะตกอกตกใจว่าผู้กองสุดสมาร์ท กำลังน้ำจะแตกระหว่างสอบปากคำ” หมอผีพูดไป พร้อมกับเอาขาอีกข้างเขี่ยหัวควยต่อ “อ่า ๆ “ เสียงครางเบาๆ ของผู้กอง และในที่สุด ผู้กองที่เจอท่าดัชนี้เท้าเปล่าของหมอผี ถึงกับน้ำแตกออกมา “ซี้ด ๆ แตกแล้ว ๆๆ อ่า สุดยอดๆ” ผู้กองครางอย่างไม่รู้ตัว “ดีมาก มึงทำทีทำปากกาตก เอาเลียน้ำเงี่ยนน้ำควยจากตีนกู ก่อนเงยขึ้นมา เอาน้ำเงี่ยนมึงบางส่วนรองใส่มือแล้วเอามาเลียให้กูเห็นซะ” อยู่ ๆ ผู้กองก็ทำปากกากับหนังสือตกลงพื้นกระจาย พอก้มลงไปเก็บ และเห็นน้ำขาวขุ่นที่ปลายตีนหมอผี จู่ ๆ ผู้กองก็รู้สึกกระหายน้ำขึ้นมาทันที พร้อมกับก้มลงดูเลียปลายนิ้วเท้าอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนน้ำขาวข้นที่กระเด็นลงพื้น ก็ใช้มือปาดจนพื้นแห้งแล้วลุกขึ้นมานั่งที่เก้าอี้ ส่วนมือที่เปื้อน ก็เอาลิ้นมาเลียให้หมอผีเห็น “หึหึหึ ดีมากไอ้ทาสของกู” ก่อนการสอบสวนจะจบ หมอผีสั่งให้ผู้กองกลับไปเอากระปุกว่านจากในบ้านหลังนั้นมาให้ เพื่อที่ว่ามันจะสามารถควบคุมคนอื่น ๆ ในสถานที่แห่งนี้ได้ รวมถึงสั่งให้ผู้กองฝันถึงการมีเซ็กส์อันเร่าร้อนกับตัวมันเอง เพื่อที่จะค่อย ๆ เปลี่ยนจิตใจผู้กองให้มาเป็นทาสเซ็กส์ของมันโดยไม่ต้องใช้คำสั่งลับแต่อย่างไร หลังจากการสอบสวนเสร็จ ผู้กองที่ยังคงไม่รู้ตัวว่าตกอยู่ภายใต้อาณัติหมอผีนั้น ก็สรุปสิ่งที่สอบปากคำ ซึ่งที่จริงคือสิ่งที่หมอผีป้อนข้อมูลให้แก่เบื้องบนอีกที ระหว่างนั้นหมวดชัยก็เดินมาคุยกับผู้กองคันธงว่าได้อะไรคืบหน้าหรือไม่ "เป็นไงบ้างครับผู้กอง เห็นไอ้หมอผีมีตอบผู้กองด้วย พวกผมถามอะไรไป แม่งเงียบเป็นเป่าสาก" "ก็จากเท่าที่ตอบมา ดูแล้วแทบไม่มีประโยชน์อะไรเลย ตอนนี้แค่รู้ว่าชื่ออาคม มันบอกว่ามันไม่ได้เป็นหมอผี แค่คนดูดวงธรรมดา แถมปฏิเสธข้อหาลวนลามหญิงสาวด้วย" ผู้กองก้มมองรายละเอียดที่หมอผีอาคมป้อนให้ "มีชื่อด้วยหรือนี่ อยู่กรงขังมาหลายวันเพิ่งจะรู้จักชื่อ" "ฮ่าฮ่า คนนะเว้ย ไม่ใช่ลูกประคำ" ผู้กองผู้ติดตลก "แล้วเจ้าทุกข์ที่มาร้อง ติดต่อได้แล้วหรือยังหละ" ผู้กองถาม "ยังติดต่ออะไรไม่ได้ครับ เบอร์ติดต่อที่ให้มารวมถึงที่อยู่ พอไปตรวจสอบแล้ว ไม่มีใครอยู่เลยครับ" หมวดชัยที่พยายามติดต่อเจ้าทุกข์มาชี้ตัว แต่ก็ติดต่อไม่ได้ "ก็ดีแล้ว" ผู้กองพึมพำออกมาเบาๆ หมวดชัยที่ไม่ทันได้ฟัง ก็หันไปถาม "ว่าอะไรนะครับผู้งกอง" "หืมม ผมมีว่าอะไรหรือ" "ก็เมื่อกี้เห็นผู้กองพูดอะไร ดี ๆ ออกมา แต่ถ้าไม่มีอะไร ผมก็ขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ" หมวดชัยเอ่ยปาก "งั้นวันนี้ผมก็คงขอตัวกลับก่อน รู้สึกมึน ๆ เหมือนกัน" "พักผ่อนก่อนครับผู้กอง เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาล" ระหว่างที่ขับรถกลับบ้าน อยู่ ๆ ผู้กองรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่าง ซึ่งเป็นเรื่องด่วนกว่าที่จะกลับไปพักผ่อน จึงกลับรถแล้วขับไปคนละเส้นทางที่จะกลับบ้านของตน แต่กลับมุ่งหน้าไปบ้านหมอผีที่เกิดเหตุ หลังจากขับมาได้พักใหญ่ก็ถึงบ้านหลังที่เกิดเหตุ ผู้กองเดินขึ้นบ้านเพื่อไปหยิบของตามคำสั่งที่ได้รับ โดยไม่รู้สึกว่าทำไมตนเองต้องมาที่นี่ เพียงแค่รู้ว่ามันเป็นภารกิจที่สำคัญ เมื่อหาของที่ต้องการเรียบร้อย ก็ขับรถออกจากบ้านหลังนั้น พร้อมกับเริ่มกลับมารู้สึกตัว “เอ๊ะ ทำไมเราขับออกนอกเส้นทางกลับบ้านเนี่ย” แต่เนื่องจากคำสั่งที่หมอผีฝังไว้จิตใต้สำนึกนั้น ทำให้ไม่รู้สึกเป็นเรื่องประหลาดอะไร ผู้กองยังคงขับรถอย่างปรกติเพื่อกลับบ้านไปพักผ่อนโดยไม่คลางแคลงใจหรือสงสัยของที่อยู่หลังรถแม้แต่น้อย
|