หลังจากที่ซื้อเสื้อผ้าเสร็จคุณอาก็พาผมมาทานร้านอาหารเกาหลีก่อนจะกลับบ้าน ทั้งที่ผมอยากจะกลับบ้านอยู่แล้วแค่เดินและพยายามไม่ให้มันไหลออกมานี่ก็เต็มกลืนละ แต่ดูเหมือนคุณอาจอมแกล้งจะรู้ตัวยิ้มปนขำเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ยอมให้ผมกลับง่าย ๆ จนผมเริ่มไม่ไหวคุณอาถึงยอมแพ้และพาผมกลับบ้าน แต่ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นรถ “พี่ไม้!!” เสียงหนึ่งที่คุ้นเคยไม่เจอกันมานานพอสมควร สน คนที่ผมเคยชอบวิ่งเข้ามาหาผม สวมกอดด้วยความคิดถึง “พี่ไม้เป็นไงบ้างไม่เจอ...” ฟึ่บ!! ยังไม่ทันพูดจบผมและสนก็เหมือนโดนใครบางคนดึงให้ออกห่างจากกันนั่นคือคุณอา และ...ลุงแสง ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองไหมแต่ดูทั้งสองคนไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ “ลุงแสงสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้แต่แน่นอน เขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ จึงได้ทำหน้าบึ้งตึงเวลาเจอผมตลอดดูท่าจะหวงลูกมาก กอดเอวไม่ยอมปล่อยเลย “พี่เป็นไงบ้างไม่เจอกันเลย” สนถามอย่างยิ้มแย้มดีอก ดีใจ สนยังเป็นเด็กน่ารักยังไงก็น่ารักอย่างนั้นไม่แปลกที่พ่อเขาจะหวงขนาดนี้ แต่ผมก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีบางอย่างที่เปลี่ยนไประหว่างสองคนนี้ “พี่...” “ไม้สบายดีและตอนนี้ฉันต้องขอตัวพาไม้กลับบ้านก่อน มีธุระที่ต้องไปทำ” “ฉันเองก็ขอพาสนไปธุระด่วนก่อน” ทั้งสองคนนี้นี่ดูเหมือนจะเข้าขากันได้ดีแฮะดูสิมีส่งยิ้มเล็ก ๆ เป็นนัยว่ารู้กันและขอบคุณให้กัน อะไรกันวะเนี่ยนี่ผมอยู่ในที่ ที่ต้องสื่อสารทางจิตเหรอ “มันเป็นใคร” พอขึ้นมาที่รถคุณอาก็เอ่ยถามขึ้นมาทันที ทำไมต้องดูหงุดหงิดไม่พอใจด้วย “สนครับเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่า” “แล้วเธอคิดอะไรกับมัน” ทำไมต้องถามอะไรแปลกๆ ด้วย “ก็ ก็” “ก็อะไร!” กรรมขึ้นเสียงใส่อีก แววตาคุณอาแสดงถึงความไม่พอใจสุด ๆ “เคยชอบครับ” “เคยชอบ?” ถามอะไรนักหนาก็ไม่รู้ตัวเองก็ไม่ได้ชอบผมสักหน่อย จะมาสนใจอะไร “ครับตอนนี้ไม่ได้ชอบแล้ว” “แสดงว่ามีคนที่ชอบใหม่แล้ว?” เก่งครับเก่งเดาใจเก่ง เอาแต่ใจเก่ง หื่นเก่ง เจ้าเล่ห์เก่ง “ครับ” “แล้วชอบใคร” คนข้างๆ “...” “ฉันสั่งตอบ! และห้ามโกหก!” แล้วทำไมถึงอยากจะรู้ด้วยล่ะครับถ้าเกิดบอกไปนี่ คิดไม่ออกเลยว่าผลจะเป็นยังไง “ถ้าไม่บอกฉันจะเพิ่มหนี้ของเธอ เพราะเธอไม่ทำ...” “นายท่านครับ” “!!” “ผมชอบนายท่าน” ผมหลับตาพูดอย่างเขินอายคุณอาเองก็ดูนิ่งไปก่อนจะสตาร์ทรถ ผมไม่กล้ามองไปยังคุณอาไม่รู้ว่าคุณอารู้สึกยังไง และแสดงท่าทีออกมายังไงบางทีคุณอาอาจจะไม่ได้รู้สึกดีกับผมด้วยก็ได้ พอคิดแบบนั้นก็ยิ่งเจ็บนี่ผมรักเขาข้างเดียวอีกแล้วใช่ไหม วันที่ต้องไปงานเลี้ยงก็มาถึงตั้งแต่วันนั้นคุณอาไม่ได้ให้ผมเข้าห้องปรนนิบัติและดูเหมือนคุณอาเองก็ไม่ได้เรียกใครมารับใช้เลยแต่ผมก็ยังคงรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกับคุณอาเสมอ แต่ดูเหมือนคุณอาไม่ค่อยพูดมองหน้าผมเท่าไหร่ นั่นสิครับ ผมมันเป็นแค่ทาสรับใช้คนหนึ่ง จะเอาอะไรไปสู้เขาได้เหมือนหมามองเครื่องบิน ที่ได้แต่เห่า ได้แต่มองหวังว่าเครื่องบินลำนั้นจะยอมลดตัวลงมาข้างกายแต่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเครื่องบินจะบินต่ำลงมาหาและถึงแม้จะอยู่บนดิน ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ เพราะความแตกต่างเกินไปไม่มีค่าคู่ควรที่จะอยู่ในสายตา และคุณอาเองก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกัน ช่างเถอะครับถึงจะรู้สึกเจ็บปวดมากเพียงใด แต่ผมก็ชินแล้วล่ะ ผิดหวังจากสนมาก่อนหน้านี้แล้วจึงพอจะมีภูมิคุ้มกันเรื่องนี้พอสมควร...พอสมควร ระหว่างทางไปงานเลี้ยง วันนี้มีคนขับรถไปด้วย นั่นคือ ลุงขจรส่วนผมกับคุณอานั่งอยู่ข้างหลัง คนละฝั่งเสื้อสูทสีขาวของผมกับสีดำของคุณอาให้ความรู้สึกแตกต่างแต่ลงตัวโดยไม่ทราบสาเหตุราวกับอีกหนึ่งเป็นเทวดา นางฟ้าจากสวรรค์ อีกหนึ่งเป็นซาตานจากนรกทั้งสองต่างเห็นค่า ความสำคัญของกันและกัน แต่ด้วยลิขิตฟ้าโชคชะตามิอาจทำให้ทั้งสองสามารถรักกันได้ จึงได้ต่างเก็บงำความรู้สึกนั้นไว้ส่วนลึกของจิตใจถ้าตำนานว่าอย่างนั้นจริง ก็คงไม่ใช่เรื่องราวของผมกับคุณอาในเมื่อมีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่คิดไปเองฝ่ายเดียว “เขยิบเข้ามา” “ครับนายท่าน” ผมเขยิบเข้าหาตามคำสั่งของคุณอาคุณอาหันมาหาผมก่อนจะจัดเนกไทบนเสื้อให้เข้าที่ “ในงานไม่ต้องเรียกฉันว่านายท่าน” “ครับ?” แล้วจะให้เรียกว่าอะไร “เรียกฉันว่าคุณก้องภพฉันไม่ชอบให้มองว่าฉันรังแกเด็ก” แล้วที่ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่รังแกเลยเหรอครับ “เรียกคุณอาไม่ได้เหรอครับ” “ฉันไม่ใช่คุณอาของเธอ” นั่นสินะผมโง่เองที่กล้าถามแบบนั้น รู้ก็รู้อยู่ว่าคุณอาเกลียดครอบครัวผมขนาดไหนไม่ว่ายังไงสถานะของผมก็เป็นได้แค่ทาสรับใช้คุณอา เป็นได้แค่ที่รองรับอารมณ์ยามเบื่อก็เขี่ยทิ้ง แค่นั้นเอง เมื่อมาถึงในงานเป็นห้องโถงกว้างขวาง มีเวทีอยู่ข้างหน้า อาหารวางเรียงราย มากหน้าหลายตาโต๊ะถูกจัดวางเต็มไปหมด แขกที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นศิษย์เก่านายร้อยทั้งนั้นบ้างก็พ่วงครอบครัว ภรรยา ลูกชายมาทั้งนั้น ส่วนใหญ่ถ้าคนที่มีคู่มีครอบครัวจะพามา แต่ทำไมคุณอาถึงพาผมมาล่ะ แต่ละคนดูภูมิฐาน เสื้อผ้าราคาแพงมากมายถึงบางคนหน้าตาจะไม่ได้สวยหล่อ แต่ออร่าที่แผ่ออกมากลับน่าดึงดูดพอสมควร “ไปนั่งที่โต๊ะรอฉัน เดี๋ยวฉันมา” “ครับคุณก้องภพ” ผมทำตามที่คุณอาสั่งแต่ประเด็นอยู่ที่ว่า โต๊ะที่วางนี่สิ เยอะแยะไปหมดไม่รู้ว่าคุณอาอยากจะนั่งตรงไหน ผมสังเกตไปรอบ ๆตัดสินใจนั่งตรงกลางห้องน่าจะดีสุด เป็นที่นั่งที่เห็นเวทีได้ชัดและไม่ใกล้ชิดเกินไป ที่งานมีวงดนตรีมากมายมาแสดง ถึงแม้จะยังไม่เริ่ม แต่ก็ยังมีนักดนตรีขับร้องเพลงคลาสสิคเพื่อเป็นสีสันตลอดทั้งงานผมมองไปทางคุณอา ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายแต่ออร่ากลับเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัด ลุคดูเหมือนเข้าชายรัตติกาล ลึกลับแต่น่าค้นหา มืดมนแต่น่าเข้าใกล้ คุณอาพูดคุยกับเพื่อนของเขาอย่างสนุกสนานมีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาหาคุณอา พยายามอ่อย จีบสารพัด เห็นแบบนั้นก็รู้สึกเจ็บ “นั่งคนเดียวเหรอครับ” ผมหันไปตามเสียงปริศนาเจอผู้ชายคนหนึ่ง น่าจะอายุน้อยกว่าคุณอา เรือนผมสีน้ำตาลเข้มใบหน้าจัดว่าหล่อเหลาเอาการ ชุดสูทสีดำยิ่งขับให้เขาดูเด่นมากยิ่งขึ้น “ค ครับ” “ผมขอนั่งด้วยคนนะครับ” “ครับ” ผมไม่ได้พูดอะไรเขาเข้ามานั่งข้าง ๆ ผม วางจานอาหารและเครื่องดื่ม “ชื่ออะไรครับพี่ชื่อเชฟนะครับ” “ชื่อไม้ครับ” ชื่อเชฟ?ลูกครึ่งเหรอ “ทำไมมานั่งคนเดียวล่ะครับไม่กินอะไรเหรอ อาหารเยอะแยะเลยนะ” “ผมไม่กล้าอ่ะครับ” ดูเหมือนคำตอบของผมจะเผลอทำให้คนข้างๆ ยิ้มปนขำอยู่อย่างนั้น ก็ใครจะไปกล้าล่ะครับ ผมไม่เห็นจะเหมาะกับงานนี้สักหน่อยเป็นทาสรับใช้กลับมางานใหญ่โตแบบนี้ จู่ ๆ ก็มีคนเอาจานอาหารมาวางให้ผม พร้อมกับน้ำอัดลมผมเงยหน้ามองเป็นคุณอานั่นเอง “กินสะ” “อ้าวน้าก้องภพ สวัสดีครับ” ห้ะน้า?? “อืมแล้วครอบครัวนายไปไหนแล้ว” “เห็นไปคุยกับคุณอาณรงค์ครับ” จากการที่ได้ฟังบทสนทนาสักพักสรุปก็คือ คุณเชฟ ไม่ได้เรียนนายร้อย แต่มีพ่อจบจากนายร้อย คุณเชฟเป็นลูกครึ่งแม่เป็นคนสวิตเซอร์แลนด์ ตอนแรกคุณเชฟเรียนอยู่ที่ต่างประเทศแต่ต้องกลับมาที่ไทยด้วยเหตุผลบางอย่าง “ก้องภพเป็นไงบ้าง” แขกคนใหม่ที่มาเยือนคุณอาก็กล่าวคำทักทาย ผู้มาใหม่เป็นคุณทรงยศ พ่อของคุณเชฟ พ่วงภรรยาของเขาคุณมิร่า เพิ่งจะเคยเห็นคุณอาพูดดี ๆ ก็วันนี้ล่ะครับ ดูออร่าออกมากไม่เหมือนอยู่ที่บ้าน -*- “แล้วนี่พาใครมาด้วยจ้ะ” คุณมิร่าหันมาหาผม “สวัสดีครับผมชื่อไม้ครับ เป็น...” “เป็นเด็กที่ผมเก็บมาเลี้ยงครับ” ขวับ!ผมหันไปมองค้อนใส่คุณอา แต่ดูท่าจะไม่สะทกสะท้าน ยิ้มอย่างชัยชนะจากนั้นก็มีครอบครัวคุณณรงค์ พร้อมลูกสาวและภรรยามาร่วมโต๊ะด้วย แต่ดูท่าเจตนาของครอบครัวคือการดันลูกสาวให้มาเป็นครอบครัวเดียวกับคุณอามากกว่า -*- ผมเพิ่งรู้ว่าตอนเรียนนี่คุณอาเป็นคนขยันขันแข็งมาก เรียนเก่งแถมยังได้รับการยกย่องว่าเป็นคนที่เพอร์เฟคมาก ไม่ว่าจะหน้าตา การเรียน การกีฬาคุณอาฟาดเรียบหมด พอได้ยิน ผมก็ยิ่งเข้าใจว่าทำไมคุณอาถึงจงเกลียดจงชังครอบครัวผมขนาดนี้คุณอาเป็นคนขยัน และพยายามมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้และผมก็ได้ยินเรื่องตลกของคุณอามากมายเรื่องที่น่าอายมากที่สุดคือการที่คุณอาแอบโดดเรียนไปเที่ยวข้างนอกและโดนทำโทษโดดการให้วิ่งรอบสนามกับเพื่อนแต่บังเอิญเพื่อนสะดุดล้ม ทำให้ไปดึงกางเกงพร้อมกางเกงในคุณอา และนั่นล่ะครับตั้งแต่วันนั้นมาคุณอาไม่กล้ามาเรียน รูปถ่ายปลิวว่อนทั่วโรงเรียนเป็นข่าวอึกทึกคึกโครมหลายสัปดาห์ คุณอานี่มองค้อนมาทางคุณณรงค์ที่เล่าเรื่องนั้นให้ผมฟังทำเอาเฮฮากันทั้งโต๊ะ คุณอาก็ยังดูแลผมดีเพื่อไม่ให้เสียเชื่อเสียงแก่ตัวเข้าเอง เขาให้ผมนั่งที่เดิมแต่คอยเรียกเด็กเสิร์ฟให้ตักอาหารและเครื่องมาให้ ส่วนฝั่งลูกสาว คุณณรงค์ก็พยายามออดอ้อนคุณอาตลอด แต่ดูเหมือนคุณอาจะไม่เล่นด้วยเลยสักครั้งคุณเชฟเองก็คุยเล่นกับผมบ่อยครั้งจนรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตแปลก ๆ จากคุณอา หลังจากงานแสดงจบลงพิธีกรบนเวทีก็เชิญคุณอาขึ้นไปปราศรัยเล็ก ๆ น้อย ๆ และจังหวะนั่นเองครับด้วยความที่ผมอยากลอง ไวน์ที่คุณอาเอามาดื่ม เพราะผมไม่เคยลองเลยจึงอยากจะรู้ว่าเป็นยังไง ผมเคยกินเหล้ากินเบียร์บ้าง แต่คอก็ไม่ได้แข็งถึงขนาดนั้นแต่ไวน์นี่ได้ข่าวว่าแอลกอฮอลล์ไม่แรงมาก ผมจึงอยากลอง หลายครั้งที่ดูเหมือนคุณอาไม่ให้ผมดื่มมีเหรอที่ผมจะเชื่อฟัง ก็คนมันอยากลอง มีโอกาสก็ต้องลองสิครับ... จบบันทึกพิเศษ: ไม้ หลังจากที่ก้องภพปราศรัยบนเวทีเสร็จก็เดินกลับมาที่โต๊ะตามปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่แปลกใจ คือไวน์ในแก้วของเขาหายไปไหนหมด ร่างสูงกวาดตามองอย่างสงสัยสุดท้ายก็ไปสะดุดเข้ากับร่างเล็กที่นั่งข้าง ๆ เขา ในมือถือแก้วไวน์ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน ดูท่าจะดื่มไปเยอะพอสมควร ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ สีแดงระเรื่อขัดกับแก้มยิ่งดูเพิ่มเสน่ห์เข้าไปใหญ่ “นี่เธอ...” “ครับ” คนตัวเล็กตอบมาพร้อมกับส่งสายตาเยิ้มยิ้มหวานเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์ น่าจับมาตีก้นสะให้เข็ดหลาบ คนอะไร ชอบดื้อรั้นไม่มีใครเกิน สั่งไว้แล้วว่าห้ามแตะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์เพราะห่วงว่าคนตัวเล็กจะเมาไม่ได้สติ ห่วงใช่ไหม ในใจบอกเลยว่าใช่ เมื่อก่อนชมว่าเป็นเด็กน่าสนใจแต่พอมาเจออะไรแบบนี้น่าจะจับเด็ดปีกไม่ให้ไปไหนได้อีก “ดูท่าน้องจะเมามากแล้วนะครับ” เชฟเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าแดงฉานของไม้โอบไหล่คนตัวเล็กจนน่าหมั่นไส้ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันแน่แต่เขาก็ไม่พอใจที่จะมีใครมาแตะต้องไม้ของเขาดูก็รู้ว่าเชฟเองก็สนใจคนตรงหน้าไม่มากก็น้อย แต่อยากจะบอกให้เขาได้รู้ว่าคนตรงหน้าที่โอบไหล่อยู่นั้น เป็นของเขา อยู่ด้วยกันกับเขาทุกคืนมีอะไรกันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง เพราะฉะนั้น คนอื่นก็ไม่มีสิทธิ์! ความหึงหวงเริ่มก่อตัวขึ้นมาในใจก้องภพปัดมือของเชฟออกและดึงไม้เข้ามากอดอย่างแสดงความเป็นเจ้าของก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาไม่สนใจเสียงทักท้วงใด ๆ “ผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” ก้องภพพูดพร้อมกับก้มศีรษะทำความเคารพท่ามกลางความประหลาดใจของผู้พบเห็น บันทึกพิเศษ: ไม้ “คุณก้องภพผมยังไม่อยากกลับ” “เงียบสะฉันสั่งแล้วไม่ใช่เหรอว่าห้ามดื่มของพวกนี้” “ก็มันน่ากินน่าอร่อยจะตาย อึก” ตอนนี้ผมอยู่ในรถ กำลังจะกลับบ้านไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณอาต้องพาผมกลับด้วย ผมไม่ได้เมาสะหน่อย แค่รู้สึกร้อนที่หน้าเท่านั้นเอง “ถ้าเธอยังไม่หยุดเถียงฉันจะ...” “จะลงโทษษเอะอะก็ลงโทษ คนแก่หื่นกาม!!” “นี่เธอ!!” “แบร่!...อุ๊บ!!!” คนหื่นกามยังไงก็หื่นกามอยู่วันยังค่ำคุณอาดึงผมเข้าไปจูบ สอดลิ้นเข้ามาความหาความหวานผสมไวน์จากผมและผมก็ตอบสนองคุณอาอย่างอดไม่ไหว แต่อย่าหวังเลยครัวว่าคราวนี้คุณอาจะเอาเปรียบผมได้ง่าย ๆ ผมจะเป็นคนเอาเปรียบคุณอาเอง! ผมใช้มือลูบไล้ส่วนนูนเบื้องล่างก่อนจะค่อยๆ ปลดซิปออกมา ควักเจ้าตอปิโดนั่นขึ้นมาและใช้มือผมปรนเปรอจนคุณต้องร้องออกมาในลำคออย่างพอใจ “ผมไม่ยอมให้คุณอาเอาเปรียบผมหลอกแบร่!” คุณอาดูจะตกใจกับสิ่งที่ผมทำรู้สึกเสียเปรียบล่ะสิ ฮ่า ๆ ๆ ผมก้มลงไปใช้ลิ้นแตะลงส่วนหัว แลบเลียอย่างช้า ๆมือที่ว่างล้วงเข้าไปหยอกล้อกับเจ้าถุงอัณฑะทั้งสอง ก่อนจะค่อย ๆ ใช้ปากครอบเจ้าแก่นกายมหึมาไปให้สุดโดน “โอ้ว...ซี๊ดด...นี่เธอ...อ่า...รู้ตัวไหม...อืม...ว่าทำอะไรอยู่...อ่า” “รู้ตัวสิครับก็จะเอาคืนคุณอาไง” ผมถอนออกมาและตอบคำถามอย่างกวนสุดๆ ก่อนจะค่อย ๆ ใช้ปากหยอกย้อกับควยเก้านิ้วของคุณอาขยับขึ้นในขณะที่ภายในก็ใช้ลิ้นให้เป็นประโยคบางทีผมก็หยุดและใช้มือที่ยังว่างขึ้นมาชักพร้อมกับลิ้นที่แหย่ตรงรูส่วนปลายคุณอาถึงกลับเกร็งเลยทีเดียว “ซี๊ดดด...อ่า...เธอนี่มัน...อืมม...” คุณอาพูดพร้อมกับจับหัวผมให้ขยับเข้าออกแต่ผมไม่ยอมให้คุณอาเอาเปรียบหรอกผมปัดมือคุณออกก่อนจะใช้มือเคล้นพวงไข่ทั้งสองหนัก ๆ เป็นการทำโทษคุณอาถึงกับครางสั่น สุด ๆ เลยครับ เป็นไงล่ะ โดนผมเอาเปรียบบ้างจะรู้สึกผมเร่งจังหวะดูดเข้าดูออกจนรู้สึกถึงพวกแก้มที่ยุบเข้ายุบออกผมขยับเร็วขึ้นและแรงขึ้น มือยังคงทำหน้าที่ได้ดีตามจังหวะคุณอาได้แต่ครางกระสับกระส่าย “ซี๊ดดด...อ่า...จะแตกแล้ว...อืม...แตกแล้ว...อ๊ากก!!!” ในที่สุดคุณอาก็พ่ายแพ้ปล่อยน้ำอสุจิเข้ามาทางปากผม และผมก็ไม่จำเป็นต้องกลืนเลยสักนิดเพราะเข้ามาทีเดียวถึงท้องเลย จากนั้นผมก็เลื่อนตัวขึ้นไปจูบกับคุณอาอย่างเร่าร้อนและเผ็ดมัน แลกลิ้น น้ำลายที่ผสมผสานกับอสุจิของคุณอาเมื่อกี้ในขณะที่มือของคุณอาลูบไล้ไปบนตัวผม หลงเสน่ห์ผมแล้วล่ะสิ วะ ฮ่า ๆ ๆผมก็ใช้มือข้างหนึ่งนวดควยที่ยังไม่อ่อนของคุณอาอีกข้างก็พยายามถอดกางเกงของตัวเองออกจนถึงเข่า แล้วค่อย ๆจับเจ้ายักษ์นั่นให้ตรงรู จากนั้นก็สอดใส่เข้ามาเรื่อย ๆ “อ่า...ช้าๆ ...ซี๊ดด...เด็กน้อย...อืม...โอ้วว...ซี๊ดดด” ถ้าคุณอาบอกว่าช้า ๆ ผมก็จะทำสวน กดเข้ามาพรวดเดียวจมลำเลย ถึงแม้จะจุก และเจ็บจนต้องผวากอดกันแต่ผมไม่ทำแค่นั้น ผมขยับตัว ขย่มควยคุณอาอย่างแรง “ซี๊ดดด...อ่า...โอ้วว...ของคุณอา...อืม...สุดยอด...” “อ่า...แม่ง...ซี๊ดดด...” “เป็นไงครับคุณอา...อืม...ซี๊ดดด...โดนผมเอาเปรียบ...อ่า...รู้สึกยังไง...ซี๊ดด” ผมกระแทกขึ้นลงอย่างสนุกสนานและเร่าร้อน เอาให้คุณอาหงายเงิบไปเลย คุณอาพอได้ยินกลับแปลกใจและยิ้มมุมปากสะงั้น “รู้สึกแย่มากเลย...อ่า...แย่สุดๆ ...ซี๊ดดด...อืม...” เห็นไหมล่ะจะได้เข้าใจเวลาที่ผมโดนคุณอาแกล้งบ้างคุณอาใช้มือข้างหนึ่งจับหน้าผมมาจูบ แต่ผมปัดมือคุณอาออก ตอนแรกก็ดูตกใจแต่ทำไมถึงได้เหมือนพยายามกลั้นขำเมื่อผมเป็นคนดึงเข้าไปจูบเองรสจูบยังดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ส่วนล่างก็ยังขย่มคุณอาเองก็เหมือนจะเริ่มไม่ไหวใช้สองมือจับสะโพกผมและกำหนดจังหวะเองจนผมต้องถอนจูบและครางออกมาเสียงดัง “อ่า...โอ้ว...คุณอา...ผมจะไม่ไหวแล้ว...ซี๊ดดด...” คุณอาใช้มือข้างหนึ่งปลดกระดุมเสื้อของผมจนเผยเห็นหน้าอกและก้มหน้าลงให้ลิ้นขบเม้นอย่างบ้าคลั่งมืออีกข้างก็มากำของผมและขยับขึ้นลงเร็วตามจังหวะ “คุณอา...อ่า...อืม...ซี๊ดด...ผมจะ...” “อืม...พร้อมกันนะเด็กดี...อ่า...รู้สึกดีเป็นบ้า...ซี๊ดดด...” คุณอาเร่งจังหวะให้เร็วยิ่งขึ้นปากยังคงวนอยู่ที่หน้าอก และมือยังคอยชักให้ผมจนสุดท้ายผมก็ไม่ไหวและแตกออกมาเยอะมาก ในขณะเดียวกันคุณอาเองก็ฉีดอสุจิเข้ามาร่างผมอย่างทะลัก “แตกแล้วครับ...ซี๊ดดด...อ๊ากกก...” “ฉันเหมือนกัน...อ๊ากกก....อ่า...” คุณอาใช้มือที่เปื้อนน้ำของผมใส่ปากตัวเองแลบเลียจนสะอาด และไม่ลืมที่จะแบ่งให้ผมกินทางปากเช่นกัน “คุณหนูครับถึงคฤหาสน์แล้วครับ” เสียงลุงขจรดังขึ้นมาแต่ผมยังไม่อยากให้ถึงเลย ยังอยากจะแกล้งคุณอาต่อไปเรื่อย ๆเอาให้สาสมกับที่คุณอาทำกับผม ผมทำท่าจะลุกขึ้นแต่คุณอากลับใช้มือกดสะโพกผมลงมาจนมันเข้าไปลึกมาก “โอ้วว...คุณอา...ซี๊ดด...” “เธอจะเอาเปรียบฉันไม่ใช่เหรอก็ต้อง เอา ให้สุดสิ” คุณอาเน้นเสียงคำ คำนั้นแต่นี่มันถึงคฤหาสน์แล้วนะ ผมอาย แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าไม่ได้สนใจเมื่อมีคนเปิดประตู คุณอาก็ลงจากรถในขณะที่ยังอุ้มผมอยู่ท่าเดิมคุณอาเดินเย็ดผมในท่านั้น มีแต่เสียงผมที่ครางดังสนั่นจนมาถึงห้องนอนของเขาจากนั้นเขาก็วางผมลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ถอดเสื้อผ้าของผมและเขาออกอย่างรวดเร็วก่อนจะกระโจมใส่ผมเสียบควยเข้ามามิดลำในคราเดียวก่อนจะบดจูบ เนื้อแนบเนื้อและเปลี่ยนให้ผมอยู่ข้างบนขย่ม กำหนดจังหวะเอง “ซี๊ดดด...อ่า...แน่นล่ะ...อืม...เด็กดีของฉัน...” คุณอาเอ่ยชมผมแต่ผมไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด เมื่อกี้ถ้าเกิดมีใครมาเห็นเข้าแน่นอนว่าต้องมีอยู่แล้ว ไม่เข้าใจเลยทำไมคุณอาต้องทำแบบนั้น เกลียดผมมากใช่ไหม ผมหยุดการกระทำลงปล่อยให้น้ำตาที่จู่ ๆ ไหลออกมาเอง นี่สินะ หน้าที่ของคนเป็นทาสที่เผลอไปรักคนที่เราไม่ควรจะรัก “เป็นอะไร” คุณอาพูดอย่างตกใจและดึงผมเข้าไปกอด “คุณอาเกลียดผมมากใช่ไหม” “อะไรถึงทำให้เธอคิดแบบนั้น” น้ำเสียงอ่อนโยนที่ผมไม่เคยได้ยินจากคุณอาเลยสักครั้งทำไมกันนะ ทำไมรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอได้ถึงขนาดนี้ “ก็ ผมเป็นลูกของ...” “เธอไม่เกี่ยวเธอแค่เกิดผิดที่เท่านั้น” “แต่ผมก็เป็นทาส” ผมร้องไห้หนักซบอกคุณอา ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า “ฉันทำเหมือนเธอเป็นทาสเหรอฉันส่งเธอเรียน ฉันให้เธอนอนห้องเดียวกับฉัน ฉันพาเธออกงานแบบนี้ยังคิดว่าเธอเป็นทาสอีกเหรอ” คุณอาพูดปลอบปะโลมผมมือยังคงลูบหลังให้ผมเลิกร้องไห้ “ผมรักคุณอา” “ฉันรู้เด็กดี” “รักแบบคนรักทั่วไป” “ฉันรู้” “ผมมันน่ารังเกียจมันเป็นเรื่องไม่ควร” “มีอะไรที่บอกว่ามันไม่ควร” คุณอาหยุดลูบหลังและจับหน้าผมให้เงยหน้ามาสบตา “ก็ผมเป็นหลานหลานแท้...อื้อ!!” ยังไม่ทันพูดจบคุณอาก็ดึงผมขึ้นไปจูบปิดปากไม่ให้เอ่ยคำนั้นออกมา “ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นหลานฉันเห็นเธอเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่กล้าต่อกรกับฉัน ทั้งที่ไม่สำเร็จแต่ก็ยังดื้อรั้นอยู่แบบนั้น” คุณอาพูดเอามือมาลูบใบหน้าผม ส่งยิ้มที่แสนจะอ่อนโยนมาให้ “ฉันไม่ได้เกลียดเธอไม่มีทางเกลียดเธอ และเธอล่ะ เกลียดฉันไหม ที่ผ่านมาฉันทำกับเธอไว้เยอะ” “ไม่ครับเพราะผมรักคุณอา” ผมรีบส่ายหน้าตอบ “ฉันขอโทษแต่ต่อจากนี้ไป เธอต้องสัญญากับฉัน ถ้าเธอรักฉัน เธอต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น” คุณอาพูดพร้อมกับเอาริมฝีปากมาคลอเคลียที่แก้มของผมจากความรู้สึกเศร้า กดดัน และเสียใจ กลายมาเป็นความสุข เป็นครั้งแรกที่ผมได้รักใครและคนนั้นก็มีใจให้ผม ไม่เคยรู้เลยว่าจะรู้สึกดีขนาดนี้ “ครับผมสัญญา ผมเป็นของคุณอา เพียงคนเดียว” “เด็กดีของฉัน” คุณอาพูดพร้อมกับจูบซับน้ำตาทั้งสองข้างจมูก และปิดท้ายด้วยริมฝีปาก ก่อนจะเปลี่ยนมาอยู่ข้างบน “เตรียมใจไว้เลยจนกว่าฉันจะอิ่ม จนกว่าเราจะรวมกันเป็นหนึ่งฉันจะไม่ให้เธอลงจากเตียงเด็ดขาดฉันสัญญา” และคุณอาก็ทำอย่างที่พูดไว้จริงๆ ตลอดทั้งคืน บทเพลงได้ถูกบรรเลง อ่อนหวาน ละมุม และหนักหน่วงและเปี่ยมไปด้วยความสุข เสน่หา ผมได้แต่คร่ำครวญใต้อ้อมกอดของคุณอาเนินนานกว่าบทเพลงครั้งนี้จะจบลง ไม่รู้ว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง ขอแค่ให้ผมได้อยู่กับคุณอาได้เป็นของของคุณอาคนเดียวก็เพียงพอ
ยังไม่จบนะครับ ใจเย็น ๆ 5555555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน ติดตามนะครับ ติชมได้เสมอเลยนะครับ
|