อืมม โอยย ปวดเมื่อยตัวไปหมด ทำไมถึงได้รู้สึกปวดหัวแบบนี้ “ตื่นแล้วเหรอ” เสียงปริศนาดังขึ้นข้างๆ พอผมลืมตาขึ้นมาดู ไม่ต้องเดา เป็นคุณอา มองผมด้วยสายตาอ่อนโยน ไม่ต้องมองไปรอบๆ ก็พอจะเดาได้ว่าผมอยู่ที่ไหน ผมพยายามจะลุกขึ้นแต่ดูเหมือนคนตัวใหญ่จะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้น “นายท่านครับผมต้อง...” “เมื่อวานฉันบอกให้เธอเรียกฉันว่าไง” เอ๋? แต่นั่นมันแค่ในงานไม่ใช่เหรอ “แต่ว่า...อื้อ!!” คุณอาปิดปากผมด้วยปากของเขาถึงแม้จะแปบเดียว แต่ผมกลับรู้สึกร้อนที่หน้าขึ้นมา “อยากโดนฉันลงโทษก็ไม่บอก” คุณอาส่งยิ้มให้ผมอย่างมีเลศนัย “ขอโทษครับนาย...คุณก้องภพ” ดูเหมือนคนตรงหน้าจะพอใจมากยิ่งขึ้น “แต่ผมต้องไปเรียน” “หยุดสักวันหนึ่งจะเป็นไรไป” เอาแต่ใจยังไงก็เอาแต่ใจแบบนั้น แต่ผมก็ไม่อยากจะขาดเรียนนี่นา “ทีเมื่อคืนเธอไม่เห็นจะดื้อแบบนี้เลยออกจะว่าง่าย” เมื่อคืน...จริงด้วย! นึกออกแล้ว! บ้าจริง! นี่ผมทำอะไรออกไปเนี่ยโอยยย น่าอายสุด ๆ ต่อไปนี้จะไม่ดื่มอีกแล้ว ฮือ ๆ ไม่น่าเลยไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน “ถ้านึกไม่ออกฉันจะช่วยรื้อฟื้นให้เอาไหม” คุณเอ่ยออกมาพร้อมกับพลิกตัวทับร่างผมมือลูบไล้ที่หน้าขาขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ “ผมนึกออกแล้วครับไม่ต้องแล้วครับ” “ดีใจจังที่นึกออก” สีหน้าไม่บ่งบอกความดีใจเลยสักนิด “เป็นไงบ้างปวดหัวหรือเปล่า ตัวร้อนไหม” คุณอาพูดพร้อมกับเอาหน้าผากมาสัมผัสกับหน้าผากผมถ้าคุณอาไม่ออกห่างผม มีหวังผมไข้ขึ้นสูงแน่ “ปวดหัวนิดหน่อยครับ” “ตัวไม่ร้อนงั้นวันนี้หยุดอยู่บ้านกับฉันสักวันหนึ่ง” “แต่ว่า...” “เธอเป็นของฉันไม่ใช่หรือไงต้องตามใจฉันสิ” ได้โปรดอย่ารื้อฟื้นเรื่องเมื่อคืนได้ไหม ยิ่งนึกยิ่งอายไม่คิดเลยว่าตัวเองจะกล้าทำอะไรแบบนี้ด้วย “ค ครับ” “เฮ้อดูท่าฉันต้องทบทวนความทรงจำให้เธอใหม่หน่อยแล้วมั้ง” “ม ไม่เป็น...อุ๊บ!!!” ไม่ทันได้โต้แย้งอะไรก็ถูกคุณอาจู่โจมอีกครั้งหนึ่ง กักตัว ไม่ยอมให้ผมปฏิเสธเลยสักนิด สุดท้ายตลอดทั้งเช้าผมกับคุณอาก็มีอะไรอีกครั้งแล้วครั้งเล่าดูท่าคนที่มีความสุขมากที่สุดคงจะเป็นคุณอาผู้เอาแต่ใจคนนี้ หลังจากนั้นดูเหมือนความสัมพันธ์ของผมกับคุณอาจะดีขึ้นมาก คุณอาดูแลเอาใจใส่ผมมากขึ้นแต่ก็หนีความเอาแต่ใจของเขาไม่พ้นเขาบังคับกึ่งอ้อนวอนให้ผมย้ายมานอนที่ห้องเขาถาวร ผมเองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้แต่ที่ทนไม่ได้ และไม่อยากจะทนก็คือ คุณอาชอบลวนลาม หาเศษหาเลยกับผมตลอดเวลาคนในบ้านต่างกันมองมาอย่างเอ็นดู มีแต่ผมคนเดียวที่อาย ไม่กล้าสบตาคุณอาไม่ให้ผมทำงานบ้านอะไรเลย ผมทักท้วง แต่คุณอาก็บอกว่าหน้าที่ใหม่ของผมคือการอยู่กับเขา และตามใจเขาทั้งวัน ทุกวัน ผมได้แต่เหนื่อยใจแต่ก็มีความสุขมากในเวลากัน ถึงแม้บางครั้งผมจะรู้สึกว่ามันไม่ถูกเพราะผมเป็นลูกหนี้ของคุณอา และคุณอาเป็นเจ้าหนี้ผมผมเป็นคนในครอบครัวที่คุณอาเกลียดชัง คุณอาเองก็พอจะรู้จึงพยายามปลอบโยนและบอกผมว่า ผมไม่ผิด ผมแค่เลือกเกิดไม่ได้ คุณอาใจดีกับผมเสมอแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมปฏิเสธ หรือแม้แต่คำปลอบโยนของคุณอาจะไม่ได้ผลคุณอาก็มักจะมีวิธีส่วนตัวของเขา ไม่ต้องถามนะครับว่าทำไม สุดท้ายผมก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี ตั้งแต่วันพรุ่งนี้คุณอาจะไม่อยู่บ้านหนึ่งสัปดาห์เต็มเพราะถูกเชิญให้ไปเป็นครูฝึกที่โรงเรียนเตรียมทหาร ตอนแรกคุณอาไม่ยอม และจะพาผมไปด้วยแต่ทำไงได้ ในเมื่อผมมีเรียนนี่ครับ จะให้หยุดเรียนไปดื้อ ๆ แบบนั้นได้ไง “ไปกับฉันเถอะนะ” เสียงออดอ้อนราวกับเด็กดึงมือผมมากุมมือ ส่งสายตาวิงวอน ให้มันได้ยย่างนี้สิครับ เวลานั้นไม่ได้ดั่งใจก็อ้อนผมจนผมใจอ่อนทุกที แต่เวลาที่ผมเอาแต่ใจบ้างก็จบบนเตียงทุกครั้ง “อย่าดื้อสิครับผมต้องไปเรียน” “ชิฉันไม่น่าส่งเสียเธอเรียนเลย” นั่นไงคนพาลถือกำเนิดแล้ว และบอกเลยนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาพาลด้วย เขาพาลและขี้หึงสารพัด ขนาดไปเรียนนะครับ เขายังไปรับผมถึงห้องเลยด้วย แค่สนิทกับเพื่อนกอดคอเขาก็ไม่ชอบ มีโอกาสก็ลงโทษผมอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ToT ผมและคนอื่นๆ เดินออกมาส่งคุณอา คุณอาไม่ได้ให้ลุงขจรขับรถไปรับไปส่งบอกว่าให้คอยดูแลผมที่บ้าน ไปส่งและไปรับผมที่โรงเรียนเสมอผมอุ่นใจมากนะครับที่เขาคอยเป็นห่วงผม แต่ผมก็ไม่อยากจะจากเขาไปนาน “ดูแลตัวเองดีๆ ทานข้าวทุกมื้อ อาหารเช้าอย่าให้ขาด ก่อนนอนอย่าลืมกินนมแล้วอย่าให้ใครเข้าใกล้มาก ฉันไม่ชอบ” “ครับคุณพ่อ” ผมนึกขำกับบทบาทผู้ปกครองจำเป็นของเขา เขาก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่วันนั้นห่วงผมมากขึ้นเรื่อย ๆ คุณอาดึงผมเข้ากอด “ถ้าเกิดอดใจคิดถึงฉันไม่ไหว อย่าลืมช่วยตัวเองล่ะ” “คุณก้องภพ!!” ผมขึ้นเสียงตกใจตีแขนเขาแรง ๆ แต่ดูท่าจะไม่ได้ผลแถมยังขำอีก อยากเอามีดมาผ่าสมองเขาจริง ๆ ว่าในหัวเขามีอะไรอย่างอื่นบ้างไหมนอกจากเรื่องแบบนี้ “ดูแลตัวเองดี ๆ โทรหาฉันได้ตลอดนะ” “ครับ” “บอกหน่อยสิว่าเธอรู้สึกยังไงกับฉัน ให้ฉันชื่นใจหน่อย” “เอ่อระ รักครับ ผมรักคุณอา” ผมไม่กล้าพูดเสียงดังมากกลัวคนอื่นได้ยิน คุณอาดูเหมือนจะชอบใจใช้มือเชยคางผมขึ้นมาก่อนจะประทับจูบที่อีกไม่นานจะกลายเป็นความคิดถึงและความถวิลหา เนิ่นนานกว่าจะถอนออก หลังจากที่คุณอาเดินทางไปโรงเรียนเตรียมทหารผมก็กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองปกติ แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือทุกคนยังคงให้ความเคารพผม ทั้งที่ไม่จำเป็นเลย ซึ่งคราวนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่า แม็คกับมิ้นท์ นี่ก็ดีอย่างหนึ่ง ที่อย่างน้อยก็ทำให้ผมไม่ได้รู้สึกพิเศษถ้าไม่รวมพวกจิกกัดอ่ะนะ ผมกลับมาเรียนตามปกติตั้งใจเรียน ระหว่างนั้นก็ช่วยป้าสมรเตรียมกับข้าว ทำงานบ้านตามปกติไม่อยากจะเอาเปรียบใคร และทุกเช้า ผมก็ใช้ทุกคนมาทานอาหารร่วมโต๊ะกับผมทำไมล่ะครับ ก็ในเมื่อผมเป็นลูกหนี้เหมือนกับพวกเขานี่นาเพราะงั้นต้องเท่าเทียมสิครับ อีกอย่างคุณอาก็ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เพราะปกติ หลังจากทานเสร็จทุกคนก็มาโต๊ะทานต่อนึกแล้วก็ขำนิด ๆ นะครับ ส่วนพี่รัน พี่กันก็ยังเป็นพี่ที่แสนดีของผมคอยช่วยผมเรื่องการบ้าน แบ่งเบาภาระไม่ให้ผมต้องทำงานหนักให้ตั้งใจเรียนได้เต็มที่ ส่วนน้องคนเล็กสองคน จอมดื้อครับมีครั้งหนึ่งมาขอผมเล่นโทรศัพท์ ผมก็ไม่ได้ห้ามอะไร แต่เผลอเอาไปเล่นในสระว่ายน้ำ-*- ดีนะที่มันกันน้ำได้ ไม่งั้นถ้าเกิดคุณอากลับมาล่ะก็มีหวังผมไม่ได้ออกจากห้องหนึ่งสัปดาห์แน่ ๆ ถึงแม้ผมจะใช้ชีวิตปกติแต่บางครั้ง รอบตัวผมก็กลายเป็นเรื่องจำเจ น่าเบื่อ เมื่อไม่มีคุณอาผมกลับรู้สึกโดดเดี่ยวมาก ผมนอนที่ห้องคุณอาทุกคืน นอนกอดหมอนข้างพลางคิดว่ามันคือคุณอา ออกกำลังกาย ว่ายน้ำแต่ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่สามารถบรรเทาความเหงาได้ผมได้แต่รอว่าเมื่อไหร่คุณอาจะกลับมาสักที จบบันทึกพิเศษ: ไม้ วันเวลาผ่านไปเหลือเพียงวันสุดท้ายก่องก้องภพจะกลับคฤหาสน์ แสงสุริยาถักทอ เลื่อนลอยลับขอบฟ้าสีครามถูกแต่งแต้มด้วยสีดำสนิทก่อนที่ดวงดาราจักลอยเด่นส่องแสงสีนวลท่ามกลางดวงเดือน หลายคนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานจากปัญหาชีวิตต่างหลับใหล แต่ใครจะรู้ว่ามีเพียง แม็ค กับ มิ้นท์ ที่ตื่นมากลางคันพร้อมกับแบกร่างของกัน เด็กรับใช้ที่มีอายุมากที่สุด มาที่ห้องของก้องภพซึ่งมีเพียงไม้ที่นอนอยู่ ก่อนหน้านั้นเวลาอาหารเย็น สำรับอาหารถูกยกมาวางบนโต๊ะมากมาย บรรดาคนรับใช้ แม่บ้าน คนขับรถหรือแม้กระทั่งคนสวนต่างมานั่งรับประทานอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย จวบจนเวลาผ่านไปไม้ได้ขึ้นมาบนห้อง เพื่อทำการบ้าน และทำความสะอาด เตรียมตัวต้อนรับก้องภพ แต่จู่ ๆก็มีควันลอยเข้ามาในห้องทำให้ไม้เกิดอาการมึนหัวขึ้นเล็กน้อยภาพที่มองเห็นจากชัดกลายเป็นภาพเบลอ และมืดมิดลงในที่สุด ไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้แม็ค และมิ้นท์ตัดสินใจคิดแผนนี้ขึ้นมาเพื่อกำจัดไม้ออกไปจากคฤหาสน์ ตั้งแต่ที่ไม้เข้ามาในที่แห่งนี้ทั้งสองคนกลายเป็นคนไร้จุดยืน ปกติจะคอยออดอ้อนก้องภพตลอดเวลา แต่ตั้งแต่วันที่ไท้เข้ามา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ก้องภพไม่สนใจใครอื่น กลับให้ความสนใจไม้เป็นพิเศษอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนรอยยิ้ม เสียงหัวเราะที่ไม่เคยได้ยิน กลับปรากฏขึ้นบ่อยครั้งนั่นก็เป็นเครื่องการันตีชั้นดีว่าก้องภพรู้สึกกับไม้แบบไหนพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งก้องภพไปจากเขา พวกเขามาก่อน แล้วไม้มีสิทธิ์อะไรเป็นแค่ลูกหนี้ และเป็นถึงลูกของครอบครัวที่ก้องภพเกลียดมาตลอดทำไมก้องภพต้องไปหลงมันด้วย ทั้งสองแบกร่างกันเข้ามาในห้องและจัดแจงถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออก แน่นอน เพื่อความสมจริงทั้งสองตัดสินใจปลุกเร้ากัน ให้แก่นกายตั้งชัน จากนั้นใช้มือ ต่างปรนเปรอให้กันและตัวเองเพื่อให้เกิดกลิ่นคาวสวาทคละคลุ้งไปทั่วห้องก่อนจะรีบออกมาจากห้องแต่โชคกลับไม่เข้าข้างมากนัก เมื่อสองเด็กเล็กอย่างฟ้าและกัปตันมาเห็นจึงได้ขู่และสั่งห้ามไม่ให้บอกเรื่องที่เจอพวกเขากับใคร ไม่งั้นจะโดนกลั่นแกล้งไม่ให้สามารถอยู่ในคฤหาสน์นี้ได้อีกด้วยความที่ทั้งสองเกรงกลัว แม็คและมิ้นท์ อยู่แล้วจึงทำให้ยอมจำนนแต่โดยดีก่อนจะถูกสั่งให้ไปนอนที่ห้องของตน อีกไม่นานเมื่อก้องภพมาถึง และเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มั่นใจได้เลยว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะได้เห็นไม้ในคฤหาสน์แห่งนี้ บันทึกพิเศษ: ไม้ “ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!!” นี่มันเสียงอะไรกันผมจำได้ว่าผมกำลังทำความสะอาดรอคุณอากลับมา แต่จู่ ๆ ก็มีหมอกควันทำให้ผมเสียสติหัวผมที่ยังหนักอึ้งอยู่ จู่ ๆ ก็มีความเย็นท่วมตัวอย่างเฉียบพลันทำให้ต้องรีบลืมตาตื่นขึ้นมา สิ่งที่ผมเห็นเป็นอย่างแรกคือคุณอา ใบหน้าแดงก่ำเส้นเลือดขึ้นตรงลำคอ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมรู้สึกถึงความโกรธ ความอำหิตนานแล้วที่ไม่ได้เห็นคุณอาเป็นแบบนั้น ล่าสุดก็วันแรกที่เข้ามาที่นี่แต่อะไรทำให้คุณอาต้องโกรธถึงขนาดนี้ ผมลองมองไปรอบ ๆพบเห็นร่างของใครบางคนที่กำลังกอดเกี่ยวผมอยู่ร่างที่เปลือยเปล่าของผมและเขาทำให้ผมเบิกตากว้าง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับผม!! และคนข้างกายผมไม่ใช่คุณอาแต่เป็นพี่กัน!!! จบบันทึกพิเศษ: ไม้
สั้นไปหน่อยนะครับ พอดีพรุ่งนี้ไปเรียนแล้ว ขอไปทำการบ้านก่อน เดี๋ยวมาต่อตอนหน้านะครับ ตอนนี้อยู่กลางเรื่องแล้ว ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและติชมนะครับ
|