เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 35
1 D5 k I$ l8 \
9 p# F2 q# ~2 {
(ต่อจากความเดิม) “อ้าวบอลโอ๋กับเดย์กลับมาแล้วหรือ” “กลับมาแล้วครับ” ผมก็ลุกขึ้นไปช่วยหิ้วของที่เอ็มถือมา แล้วผมก็เอาไปใส่จานเอ็มก็ช่วยผมเราสองคนกระหนุงกระหนิงกันตามประสาคนที่รักกันใหม่ ผมก็ยิ่งแกล้งทำเป็นรักเอ็ม แล้วผมก็เริ่มพิสูจน์เบนซ์เขาจะรู้สึกอย่างไร ผมแอบมองลอดแขน เขาคุยโทรศัพท์อยู่ คงจะเป็นเอ๋ที่โทรมา ผมก็พอจะรู้ว่าสิ่งที่ผมทำเบนซ์ไม่แคร์เลย ผมจึงรีบยกอาหารมาวางที่โต๊ะ แล้วเอ็มก็ไปเรียกน้องทั้งสองคนให้ลงมาทานข้าว ผมรีบไปดักเดย์ที่บันได ผมกลัวว่าเดย์จะแกล้งเบนซ์ “เดย์อย่าไปแกล้งพี่เบนซ์นะ” “พี่อะไรกัน พี่เบนซ์ทำกับพี่ขนาดนั้นพี่ยังใจดีอยู่อีกหรือ” “ช่างมันเถอะถ้าเขาแกล้งเราเราค่อยแกล้งตอบแต่วันนี้เบนซ์มาดีนะ” “ก็ได้ แต่เท่าที่ผมจะอดได้นะพี่” เดย์ก็เดินหน้ามุ่ยไปนั่งข้างโอ๋ เราก็เริ่มทานอาหารกันวันนี้มีอาหารสี่อย่าง มีย่างเป็ด คอหมูย่าง ไข่เจียว ต้มยำรวมมิตร เอ็มไปซื้อมา บังเอิญมากมีแต่อาหารโปรดผมทั้งนั้น เอ็มก็ตักอาหารให้ผม ผมก็ตักให้เอ็ม ส่วนเบนซ์ยังไม่เริ่มทานเลย ผมก็เลยบอกเขาให้ทาน “เบนซ์ทานสิ....คิดถึงเอ๋หรอ” ผมก็เริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ “เปล่า” แล้วเบนซ์ก็ตักอาหารใส่จาน ทานเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก นี่ไม่ใช่นิสัยของเบนซ์ เพราะปกติเบนซ์จะเป็นคนที่ทานอาหารเก่ง ชอบทานคำใหญ่ๆกินจุอีกตางหาก แต่วันนี้เอาช้อนเขี่ยจานเล่นเหมือนเขาไม่หิว ผมก็ไม่ค่อยมีเวลาสนใจเบนซ์นัก เพราะเอ็มจะเอาใจผมตลอด เมื่อเราทุกคนทานอิ่มแล้ว ก็อยู่คุยกัน จนสามทุ่มเอ็มก็ขอกลับส่วนเบนซ์ผมไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่กลับซักที นั่งไม่พูดไม่จา จะให้ผมถามผมก็ไม่รู้จะถามอะไร ผมเลยปล่อยให้เขานั่งฟังเราคุยกัน “บอลเราว่าเราจะกลับแล้วละ” เอ็มก็กอดผม ส่วนน้องของเอ็มอยู่กับเดย์ที่หน้าบ้านพากันนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนหัวเราะคิกคักกันอยู่ “แล้วพรุ่งนี้มาทานข้าวด้วยกันอีกนะครับ” ผมสั่งลาเอ็มเหมือนกับที่เคยพูดกับเบนซ์ “ครับอย่าเบื่อเราซะก่อนล่ะ” “ไม่เบื่อหรอก” ผมยิ้มให้เอ็ม แล้วเอ็มก็เรียกน้องชายให้มาลาผม ผมก็ได้เห็นหน้าน้องโอ๋ชัดก็คราวนี้ ตอนทานข้าวมัวแต่ไปยุ่งเรื่องเบนซ์เลยลืมดูหน้าโอ๋ให้ชัดเด็กคนนี้น่ารักพอๆ กับเดย์เลย แต่ดูรูปร่างใหญ่กว่าเดย์นิดหนึ่งเวลายิ้มบาดใจนักแล สองพี่นัองนี่น่ากินทั้งสองคนเลยครับ “แล้วมาใหม่นะครับน้องโอ๋” “ครับพี่บอล” ผมก็กอดโอ๋ แล้วสองพี่น้องนั่นก็กลับไป ส่วนเดย์วิ่งขึ้นบนบ้านแล้ว ผมรู้เดย์ไม่ชอบขี้หน้าเบนซ์ เหลือผมกับเบนซ์สองคน ผมเขินมากไม่รู้ผมจะคุยอะไรดี ผมก็เลยหาเรื่องคุยแก้เขินไป “เบนซ์จะกลับบ้านยังไงล่ะ” “อ๋อเดินกลับ ไม่ไกลหรอก” “เหรอ” ผมก็เมินหน้าหนี “งั้นเรากลับก่อนนะ” อยู่ตั้งนานไม่กลับ พอเขากลับหมดดันจะกลับผมก็งง แล้วเบนซ์ก็เดินออกจากบ้าน ก่อนจะไปก็ยังหันหน้ามามองผมอีก ผมก็ไปปิดประตูหน้าบ้านอย่างไม่สนใจว่าเบนซ์จะไปถึงไหน ผมเดินไปเดินมา ใจหนึ่งก็คิดสงสารเพราะเบนซ์ไม่มีรถมอเตอร์ไซ พ่อกับแม่ไม่ยอมซื้อให้ เข็ดแล้วที่เบนซ์โดนรถชน เอาวะไปก็ไปวะ ผมคิดขึ้นมาได้จึงตัดสินใจเปิดประตูบ้านออกรถขี่ตามเบนซ์ แล้วผมก็ไปเจอเบนซ์ที่ตู้โทรศัพท์ ที่เดียวกับเอ๋เคยนั่งซึมคราวก่อน ผมก็จอดรถตรงหน้าเขา “เบนซ์นายยังไม่กลับหรอ” “ยัง...อยากนั่งรับอากาศเย็นๆ ก่อน” ผมก็ไม่มีคำพูดจะออกรถกลับบ้านก็ยังเป็นห่วงอยู่ “แล้วนายออกมาทำไม ยังไม่นอนอีกหรอ” “อ๋อเราว่าจะมาซื้อน้ำหวานๆ กินที่เซเว่นหน่อย” ผมต้องโกหกเพราะกลัวเบนซ์รู้ว่าผมอยากไปส่งเขา “เอางี้เราไปส่งนายดีกว่า มาขึ้นรถ” เบนซ์มองหน้าผมแล้วเขาก็ขึ้นซ้อนท้ายผม เบนซ์ก็บอกที่อยู่ให้ผม เมื่อไปถึงเอ๋นั่งรออยู่หน้าหอเลย หอนักศึกษานี้เป็นตึก6 ชั้น เอ๋รีบเดินมาผมก็รีบจอดรถ เบนซ์ก็ลงจากรถทันที แต่ไม่เห็นประจบประแจงเหมือนเมื่อก่อนเลย ผมก็รีบออกรถกลับทันทีเช้าวันนี้ผมก็เดินทางไปโรงเรียนแต่เช้า น้องเดย์ก็แยกไปหาเพื่อน ผมก็มาคุยสับเพเหระกับเพื่อนตามเคย “ไอ้บอล!” “อะไรเรียกน่าตกใจจังวะ” ผมรีบขานรับกับคำเรียกเมื่อเจอหน้าเพื่อนๆ “ไหนแกบอกว่าแกจะไม่มีแฟนไง” “อะไรพูดอะไรเรามีแฟนกันที่ไหน” ผมงงที่เพื่อนพูดแบบนี้ “ไม่มีแฟนแล้วไปโดนใครเขากัดมา บอกมาเลยนะมึง” “กัดกึดอะไรกัน พูดเรื่อยเปื่อย” ผมก็เอามือลูบดูก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นรอยอะไรเลย “บอล นายส่องกระจกหรือยังวันนี้” เพื่อนอีกคนที่จ้องหน้าอยู่ก็เดินเข้ามาแล้วยื่นกระจกให้ผม “นายส่องกระจกดูซิว่ารอยอะไรอยู่ที่คอ” ผมตกใจเมื่อเห็นรอยแดงๆห้าหกรอยที่อยู่ที่ลำคอ ผมก็จำได้ทันทีว่าเป็นฝีมือของเอ็มผมนึกอายเพื่อนมาก แต่ผมก็ต้องโกหกเพื่อนว่ามดกัด เพื่อนๆ ก็พากันเชื่อ ได้ไอ้เฉื่อยเอายาหม่องมาทาให้ผม “แกน่ะเป็นคนขาว เวลาโดนมดกัดหรือเป็นผื่นคันก็อย่างนี้แหละข้าก็เคยเป็น” จิ๊บเพื่อนคนหนึ่งที่ผิวขาวพอๆ กับผมพูดขึ้นกลางวงเลยค่อยยังชั่วหน่อย ผมมองหาโต้ ผมอยากคุยเรื่องเบนซ์ไปบ้านให้โต้ฟังแต่โต้ก็มาสายเหมือนทุกวัน “ ขอบคุณแกว่ะเฉื่อย” ผมก็รีบเดินไปห้องน้ำสำรวจดูตัวเองอีกทีผมก็ได้ยินเสียงถกเถียงกันลั่นที่ห้องน้ำ ผมจำได้ดีมันคือเสียงของเอ๋กับเบนซ์ ผมก็หมั่นไส้เพราะเขากำลังถกเถียงกันเรื่องผม ผมรีบเดินเข้าไปที่ห้องน้ำทันที “มึงมาก็ดีแล้วไอ้บอล” เป็นครั้งแรกที่เอ๋พูดคำหยาบกับผม ผมรีบจ้องหน้ามัน ผมรู้สึกโกธรมาก “เมื่อคืนมึงทำอะไรกับเบนซ์” เอ๋ยิ่งดูจะหนักขึ้น เห็นทีผมต้องเอาเรื่องบ้างละ “เฮ้ย ! กูจะทำอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึงวะ” ผมทำหน้าดุ มีเบนซ์เท่านั้นที่รู้ว่าอาการดุของผมเป็นไง มันยิ่งกว่าหมาบ้าซะอีก “อ๋อ มึงนี่หน้าด้านนะไอ้บอล มึงก็รู้ว่ากูกับเบนซ์เป็นแฟนกัน ดูคอมึงดิ มึงทำกันขนาดนี้” เอ๋ก็มาเปิดคอเสื้อผมจ้องมองที่ลำคอผม ผมรีบสะบัดมือเอ๋ออก ผมพูดไม่ออกเพราะผมก็ไม่มีคำตอบกับรอยช้ำนี่ “ไอ้เฮี้ยกูว่าแล้วมึงต้องหลงรักเบนซ์ ตลอดมากูก็คิดว่าเป็นแค่เพื่อนกัน มึงอย่ามักง่ายไปหน่อยเลย” ไอ้เอ๋ก็กำหมัดชกผม ผมก็หลบทัน มีหรือคนอย่างผมที่กำลังโกธรจัดๆ จะยอมให้มันต่อยฝ่ายเดียว ผมรีบใช้หมัดชกเข้าไปที่หน้าเต็มๆ เบนซ์ยืนมองเอ๋โดยไม่พูดอะไร ไม่ห้ามด้วย เอ๋เซไปตั้งหลักแล้วเข้ามาใหม่ เท้าเบอร์ 42 ของผมก็เหวี่ยงซะเต็มตีน เอ๋เซล้มลงกับพื้นตัวมันเปลื้อนหมด เบนซ์เห็นว่าเอ๋เจ็บก็ไปจับตัวเอ๋ไว้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ผมก็ชกไปที่หน้าเอ๋ซ้ำไปอีกที คราวนี้เลือดกำเดาของเอ๋เริ่มไหลออกมา ผมก็รีบพูด “มึงอ่ะ โง่ มึงคิดหรือว่าคนอย่างกูจะยอมมีอะไรอย่างมึงสองคน มึงรู้ป่ะพวกมึงน่าขยะแขยงไอ้บ้า ถึงกูคิดจะเป็นเกย์ กูก็จะเลือกโว้ย ของที่ผ่านมือใครมากูไม่ต้องการหรอก” ผมพูดคำนี้ ทำเอาผมเองก็นึกถึงตัวเองที่ไม่ได้ดีไปกว่าเบนซ์ เบนซ์ก็ก้มหน้าไม่พูดจา “มึงลุกขึ้นมาดิกูจะเอาให้มึงเข้าโรงบาลไปเลย” เห็นมันไม่พูดผมก็ย้ำอีกไปอีกรอบ ผมเดินไปจ้องหน้ามันเหมือนจะไม่ยอมหยุดแค่นี้ “เออให้มันจริงเหอะ มึงอย่ามายุ่งกับเบนซ์แล้วกัน” ไอ้เอ๋เริ่มเอามือมาเช็ดเลือด แล้วก็นั่งอยู่กับพื้นห้องน้ำนิ่งเงียบ “ต่อ ไปอย่ามาหาเรื่องกูอีกก็แล้วกัน คนอย่างกูญาติก็ไม่มีกูไม่แคร์อะไรโว้ย ต่อไปนี้ความเป็นเพื่อนขาดกัน” ผมหมายถึงเอ๋ แต่เบนซ์นั่งก้มหน้าไม่พูดจาคงจะคิดว่าหมายถึงเขาด้วย ผมรีบเดินออกจากห้องน้ำทันที โคตรสบายใจเลยครับที่ผมได้ระบายอารมณ์ใส่ไอ้เอ๋มันผมเดินอย่างมาทมั่นไปเข้าแถว แต่ไม่เห็นสองคนนั่นเข้าแถวคงจะอ้อนกันอยู่ห้องน้ำ แล้วเวลาเข้าเรียนก็ไม่เห็นเข้าเรียน ผมจึงไม่ต้องกดดันอะไร “ไอ้บอล แกทำไมหน้าเข้มจังวะ” เพื่อนมาทักผม “ช่ายเหมือนไปโดนหมามันกัดมาซะอย่างงั้น” โต้ก็เสริมอีก “เหมือนไปกัดใครมามากกว่าว่ะ” “เออถูกของมึงไอ้เฉื่อย” แล้วโต้กับเฉื่อยก็หัวเราะลั่น ผมก็เผลอหัวเราะด้วยเหมือนกัน ผมต้องอึ้งเมื่อแปลงลบกระดานปลิวมา เอาเข้าแล้วไง เราสามคนนั่งปากค้าง “นี่ ! เธอสามคนไม่อยากเรียนแล้วใช่ไหม อยากหัวเราะนักใช่ไหม มาตรงนี้ มาหัวเราะซัก10 นาที ไม่เอาดีกว่าเธอสามคนไปวิ่งรอบสนามบอล 15 รอบ” “ซวยแล้วกู ลืมไปว่าเป็นชั่วโมงอาจารย์ประไพรว่ะ” โต้กระซิบบอก ผมกับเฉื่อย ขณะเดินออกนอกห้องเรียน จากนั้นอาจารย์ประไพรก็เดินไปดูพวกเราวิ่ง พอวิ่งได้ 5 รอบไอ้เฉื่อยก็พูดขึ้นให้ต้องหัวเราะอีก “ไอ้โต้ไอ้บอล” “ไรเฉื่อย” “กูใจจะขาดแล้วว่ะ” เฉื่อยเป็นคนที่ไม่ค่อยจะแข็งแรง “โต้บอล” เฉื่อยก็เรียกอีก “อะไรอีกวะ” โต้ถาม “กู ว่าอาจารย์ประไพรแก่ตั้งชื่อผิดว่ะ แกน่าจะชื่อแวมพาย”ผมกับโต้หัวเราะจนต้องเอามือกุมท้องเอาไว้ มันจุกไปหมด ก็จริงมันของเฉื่อย แกจะชอบกลั่นแกล้งพวกเราสามคนมาก หนึ่งอาทิตย์ไม่ต่ำกว่าสองครั้งที่แกลงโทษผม บางครั้งผมเรียนไม่รู้เรื่อง ก็จะแอบไปถามเพื่อนในข้อที่สงสัย เพื่อนก็จะบอกผม แกจับได้ทุกที ทีอาจารย์คนอื่นไม่มีใครจับผมได้ สมแล้วที่เฉื่อยตั้งชื่อว่าแวมพายไม่รู้มันคิดได้ไงกว่าจะครบ15 รอบไอ้เฉื่อยหน้ามันเหมือนสาวญี่ปุ่นแก้มแดง ล้มลงนอนกับสนามหญ้า ส่วนผมกับโต้ไม่มีปัญหาวิ่งได้อยู่แล้ว แล้วอาจารย์ก็มาไล่เข้าห้องเรียน “เหม็นกลิ่นสาบสางเธอจังบอล” เพื่อนนักเรียนหญิงคนหนึ่งพูดขณะที่หมดชั่วโมงอาจารย์ประไพรผมเองก็รู้สึกเหม็นตัวเองจริงๆ “มาเดี๋ยวทำให้ ไปเข้าห้องน้ำเช็ดตัวก่อนทาน้ำหอมด้วย” เธอชื่อขิม ขิมส่งผ้าเช็ดหน้ากับน้ำหอมให้ผมแล้วเพื่อนนักเรียนหญิงอีกคนก็ส่งแป้งให้ด้วย “เอาไปทาด้วยเหม็นฉิบหาย เหลืออีกตั้ง 2ชั่วโมงกว่าจะเลิกเรียน” แล้วขิมก็หยิบเอางานที่อาจารย์ประไพรให้ผมทำ มันเยอะมาก เพื่อนนักเรียนหญิงหลายคนจะช่วยผมตลอด ผมกำลังจะไปก็มีคนอิจฉาซะก่อน “แหมมันน่าน้อยใจนัก ให้แต่ไอ้บอลคนเดียว” โต้ทำท่างอน “ก็ไปด้วยกันสิ” “ใช่ เอาผ้าชุบน้ำแล้วก็เช็ด เป็นผู้ชายด้วยกันเข้าห้องเดียวกันแก้ผ้าแก้ผ้าออกหมดด้วยล่ะ เช็ดไม่ทั่วกลับมาก็เหม็นอีก ไปรีบไปเดี๋ยวอาจารย์ก็มาอดไปนะพวกแก” เธอชื่อแป้งเป็นคนปากจัด เวลาพูดก็จะพูดหมดเปลือกอย่างนี้แหละ ผมกับโต้ก็รีบวิ่งออกจาห้องชวนไอ้เฉื่อยมันก็ไม่ยอมไป เมื่อถึงห้องน้ำ ผมก็เข้าห้องเดียวกัยโต้ ไปถึงผมก็รีบถอดกางเกงถอดเสื้อเอาถอดกางเกงใน เอาผ้าชุบน้ำแล้วรีบเช็ด เช็ดได้ครึ่งตัวหันมามองโต้ โต้ยืนทื่ออยู่ “โต้รีบถอดสิ จะได้รีบไป” โต้ก็ถอดออกจนหมดเหมือนกัน ผมเช็ดตัวจะเสร็จแล้วผมก็เลยส่งผ้าให้โต้ก่อน ผมอยากล้างหน้า “บอลเราชอบนายจัง” ผมมองหน้าโต้ที่โต้พูดคำนี้ “จะมาชอบเราทำไมกัน” ผมตอบแบบที่เคยตอบ “บอลเราอยากมีเซกส์กับนายจัง” โต้พูดตรงๆ ทำเอาผมไม่รู้จะตอบยังไง “โต้เราค่อยคุยเรื่องนี้ทีลังได้ไหม” โต้ทำหน้าเหมือนน้อยใจ ผมก็กลัวว่าจะเสียเพื่อนที่ดีๆไป “โต้แค่อยากมีเซกส์กับเรา หรือโต้รักเราจริง”ผมถามเพื่อจะได้ตอบในสิ่งที่โต้ต้องการได้ “เรารักนายจริง” “ถ้ารักเราจริง เราต้องเอาเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์นะ” “นายไม่รักเราใช่ไหม” โต้ทำท่าจะร้องไห้ “ไม่ใช่ แต่นายน่าจะให้เวลาเรามั่ง เราพึ่งจะเลิกกับเบนซ์มา” “เราเข้าใจ ยังไงเราก็สู้ไอ้เบนซ์มันไม่ได้” ความคิดที่ผมห่วงโต้ก็บังเกิดขึ้น โต้เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่ง โต้ไม่เคยได้อะไรกับผมแม้แต่อย่างเดียว ผมเกิดความรู้สึกใจอ่อน ผมก็ไปกอดโต้ โดยไม่รู้ตัว ผมจูบที่ปากโต้ โต้ตอบกลับอย่างรุนแรงและกอดผมแน่น เจ้าโลกโต้ที่เป็นหนึ่งในความยาวก็ผงาดขึ้น ผมรีบสะบัดหน้าออกจากโต้ก่อนที่จะมีอะไรไปมากกว่านี้ บอกตรงๆ ว่าผมรักโต้เหมือนเพื่อน ถ้าจะเป็นแฟนกันจริงๆผมก็จะไปเคลียเรื่องเอ็มเรื่องเบนซ์ให้จบก่อนผมจึงจะกล้ารักโต้ แต่วินาทีนี้ผมสามารถรับรักโต้ได้ เพราะความดีที่โต้มีต่อผมมันก็พอๆ กับเบนซ์ เมื่อผมปล่อยกอดจากเขา โต้ก็ยืนก้มหน้าเหมือนเสียใจ “โต้เรายังไม่พร้อม ถ้าเราจะเป็นแฟนกันจริงๆ ให้เราจัดการเรื่องเบนซ์กับเอ็มให้จบก่อนได้ไหม” “จริงหรือบอล” ผมพยักหน้าผมรู้ว่าเขาดีใจมาก ผมก็เช็ดตัวให้โต้ ผมมองเห็นเจ้าโลกของโต้ ผมแทบจะอดไม่ได้ที่จะมีเซกส์ โต้เองก็มีอารมณ์อย่างมาก แต่ต่างฝ่ายต่างอดกลั้นเอาไว้ ผมไม่อยากมีอะไรกับโต้ ผมกลัวว่าผมจะไม่รักโต้จริง เสร็จจากเข้าห้องน้ำ ผมก็เดินเข้าห้องเรียนพร้อมกับโต้ ตอนนี้ไม่มีใครบ่นเรื่องเหม็นแล้ว ผมส่งผ้ากับน้ำหอมให้โต้คืนให้ขิม ขิมก็รับจากโต้ “โต้จ๊ะน้ำหอมนี่ขิมให้โต้ พึ่งจะเปิดใช้วันนี้นะ” “ให้เราทำไมขิม” “โต้เป็นผู้ชายกลิ่นตัวแรงเอาไปเถอะนะ” “แต่มันของแพงนะขิม” โต้ท่าจะไม่อยากรับ “งั้นโต้ค่อยเอาอะไรมาแลกก็ได้” “รับไปเถอะโต้ เร็วสาวให้แล้วต้องรีบรับ” เพื่อนก็บอกโต้ โต้ก็ต้องรับเอาน้ำหอมนั้น ผมก็ลุ้นอยากให้ขิมชอบโต้ ผมจะได้เป็นเพื่อนโต้เหมือนเดิม หลังเลิกเรียนโต้ก็กลับบ้าน ผมก็รอจนโต้ไปพ้นตา ผมค่อยกลับ “พี่ผมรักพี่จัง” “อ้าวแล้วเมื่อวานนี้แกไม่รักพี่หรอกหรือ” ผมหยอกเดย์ไม่รู้ว่าเดย์จะมาไม้ไหนอีกวันนี้ “พี่จริงเปล่าที่เขาว่าพี่ไปมีเรื่องที่ห้องน้ำ” “อ้าวเดย์รู้ได้ไง” “ผมได้ยินนักเรียนม.1เขาพูดกันเห็นว่าไอ้พี่เอ๋เลือดไหล” “อือ” ผมก็ไม่อยากบอกน้องหรอกว่าผมต่อยเอ๋ แต่พยานรู้เหตุการณ์อย่างระเอียดจึงต้องบอก “พี่มันต้องอย่างนี้เดะ” น้องเดย์ทำท่าดีใจ “เดย์น้องอย่าเรียนแบบพี่นะ มันไม่ดีเลยที่เราทำร้ายคนอื่น” “ครับ” ผมพาน้องกลับถึงบ้าน ผมก็เห็นสองพี่น้องนั่นรออยู่ที่หน้าบ้าน “อ้าวมานานแล้วหรือ” “พึ่งมา” เอ็มตอบ โอ๋ยื่นน้ำนมเย็นให้เดย์ “แหมไม่ซื้อมาเผื่อพี่เลยนะ” ผมแซวโอ๋ “พี่ก็ทานกับผมไงครับ” โอ๋เอามาป้อนผม ผมก็ดูดกินน้ำ เอาอีกแล้วผมเริ่มจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมจ้องมองไปที่เป้าของโอ๋ แล้วก็คิดในใจว่าซักวันหนึ่งผมต้องเห็นเจ้าโลกโอ๋ให้ได้ ผมก็ต้องหยุดคิดทุกอย่างเมื่อโทรศัพท์ผมดังขึ้น “หวัดดีครับ” ผมรีบรับสายเพราะเป็นสายของคุณแม่ของเบนซ์ “บอลกลับบ้านเดี่ยวนี้” “แม่อยู่ไหนครับ” “อยู่บ้านสวน” “ครับ” “รีบมาตอนนี้เลยนะ” “ครับ” ผมรีบวางสายแล้วผมก็บอกกับเดย์ “เดย์พี่ต้องไปบ้านสวนก่อน เดย์อยู่รอพี่ที่นี่นะครับ” “อ้าวแล้วพี่จะกลับมากี่โมงล่ะ” “คุยธุระเสร็จ” “เรื่องพี่เบนซ์แน่เลย” ผมก็ขี่มอไซไปที่บ้านสวนทันที เมื่อไปถึงเห็นเบนซ์นั่งอยู่หน้าบ้านส่วนคุณแม่กับคุณพ่ออยู่ในบ้าน ท่านก็เรียกผมกับเบนซ์เข้าไปคุย “เราสองคนเป็นอะไรกัน” ผมเงียบเบนซ์ก็เงียบผมเลยต้องตอบ “เปล่าครับ” “แล้วทำไมไม่อยู่บ้าน” “ผมไปดูบ้านในเมืองครับ” “แล้วเบนซ์ล่ะทำไมย้ายไปอยู่หอพัก” “บอลไม่อยู่ ผมเลยย้ายไปอยู่หอพักครับ” โกหกชัดๆ ผมเมินหน้าหนี ความจริงเบนซ์ไปก่อนผมซะอีก “แม่ให้เวลา 1 วันพรุ่งนี้ลูกสองคนต้องมาอยู่ที่บ้าน”ทั้งเบนซ์ทั้งผมเงียบก็ไม่รู้จะขัดยังไง “บอลลูกต้องเชื่อแม่นะ ให้มาอยู่บ้าน บ้านในเมืองไว้มีอะไรทำค่อยไปอยู่ แม่ห่วงลูกนะ” “ทะเลาะกันแล้วอีกใช่ไหม” พ่อที่ยังไม่พูดก็ปริปากออกมา “ว่าไงเบนซ์” พ่อย้ำคำถามเบนซ์ก็ก้มหน้าตอบ “ครับ” “ทำไม ถึงทะเลาะกันก็ไม่รู้ แม่ว่าเบนซ์เป็นฝ่ายผิดอีกล่ะสิ”เบนซ์ไม่ตอบ แล้วแม่ก็เริ่มบ่นบ่นเรื่องเบนซ์ตั้งแต่ 1 ปีย้อนหลังจนมาถึงตอนนี้ เบนซ์ก็นั่งร้องไห้ ผมก็ไม่มอง คิดสมน้ำหน้าที่เบนซ์ทำผมเสียน้ำตามาหลายครั้ง “เอาล่ะ ต่อไปเบนซ์ต้องอยู่ที่บ้านกับบอล ดูแลบอลนะลูก คิดมั่งสิตอนที่เบนซ์เข้าโรงบาล บอลดูแลเป็นอย่างดี เกิดเป็นคนมันต้องเอื้ออารีต่อกัน ไม่ใช่ว่าโกธรเรื่องนิดเดียวแล้วลืมความดีที่มีมากมาย ต่อไปรู้จักชั่งน้ำหนักซะมั่งโตแล้ว” เบนซ์ยังไม่หยุดร้อง จนผมเริ่มสงสารเบนซ์ แต่ผมก็ต้องทนเอาก่อน ผมสัญญากับตัวเองว่าผมจะไม่คุยกับเบนซ์อีก เพราะผมเกลียดที่เบนซ์ไปคบกับเอ๋ แต่ที่ผมรับปากจะทนอยู่ที่บ้านนี้กับเบนซ์ก็เพราะพ่อกับแม่ท่านต้องการแบบนี้ “เอาล่ะแม่กลับแล้ว พรุ่งนี้แม่จะมาใหม่” เมื่อพ่อกับแม่กลับ บ้านผมก็ซิ่งมอไซออกจากบ้านเลย เบนซ์ก็คงจะหารถกลับเอง หรือไม่ก็เอ๋สุดที่รักเขามารับ ผมรีบไปที่บ้าน เมื่อไปถึงเห็นเคนอยู่กับเอ็มสองคน “อ้าวสองคนนี่รู้จักกันแล้วหรอ” “เรียนอยู่ห้องเดียวกัน” เอ็มบอก ผมก็มองหาน้อง “เอ็มน้องๆ ล่ะไปไหน” “อ๋อไปเดินเล่นที่โต้รุ่งเดี๋ยวคงกลับ” พูดยังไม่ทันขาดคำน้องเดย์ก็พาโอ๋เข้ามาในบ้าน “ผมเอาของมาฝากพี่ครับ” “อะไรครับน้องโอ๋” “น้ำชาเย็นครับ เดย์บอกว่าของโปรดพี่” “ขอบคุณครับ” แล้วผมก็ต้องหัวเราะเมื่อท้องน้องเดย์ร้อง “หิวมากขนาดนั้นเลยหรือเดย์” ผมรีบถาม “ครับ” เดย์คงหิวมากเพราะตอนนี้จะสองทุ่มแล้ว “ไปเอาอาหารกันดีกว่า” เคนก็พาเอ็มกับเดย์ไปยกอาหารที่บ้านของเคนเหลือผมกับโอ๋สองคน โอ๋เขาจะมาหยอกล้อผม กอดผมเหมือนกันกับเดย์ แต่น่าสงสารโอ๋มากที่โอ๋กำลังจะเป็นเหยื่อผม ผมยอมรับว่า ผมอ่านกินเด็กคนนี้มาก คนที่ผ่านมาอย่าง พี่กอล์ฟตั้ม เอ็ม เดย์ ผมไม่เคยคิดจะมีอะไรด้วยเลย แต่มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าที่นำทาง ผมถึงได้มีอะไรกับพวกเขา แต่น้องโอ๋คนนี้ ผมอยากรู้อยากเห็น อยากสัมผัสมาก ผมจึงหาโอกาสกับเวลาที่มีน้อยนิดนี้นำร่องดู “โอ๋ครับ” “ครับผม” “น้องเป็นคนขี้อายไหมครับ” “อายมากๆ ครับ” “แล้วอายพี่มั้ย” “ไม่รู้” “อ้าว ถ้างั้นก็แสดงว่าน้องไม่อายพี่สิครับ” “ไม่อายก็ได้ครับ” ผมตื่นเต้นที่จะพูดคำต่อไป แต่ก็กลั้นใจพูด “พี่อยากจับตรงนี้จังเลย” “ไม่ได้ผมอาย” โอ๋เอามือกุมเป้าไว้แล้วถอยห่างจากผม ผมก็ตั้งใจพูดใหม่อีกครั้ง “อุตส่าห์จะสอนอะไรดีๆ ให้หน่อยอายก็อดสิ” “อะไรหรอพี่” เด็กน้อยเริ่มหลงกลผม “โอ๋มีน้ำหรือยังล่ะ” “น้ำ น้ำอะไรพี่” “น้ำอสุจิ” “ยัง ไม่รู้ด้วยว่ามันคืออะไร” “แล้วมีขนขึ้นยังล่ะ” “ขนอะไรอีกล่ะ” “ขนตรงนั้น” ผมชี้ใส่เป้าของโอ๋ โอ๋ส่ายหัว “มานี่ก่อนให้พี่ล้วงดูหน่อย” โอ๋เดินเข้ามาอย่างว่าง่าย ผมก็ล้วงเข้าไป ผมตื่นเต้นมากเมื่อมือผมได้สัมผัสกับเจ้าโลกที่กำลังนอนหลับอยู่ผมเอามือบี้เบาๆ โอ๋มองหน้าผม แล้วหลับตา คงจะเคลิ้มไปกับความเสียว เจ้าโลกเขาก็เริ่มแข็งตัว ขนาดก็เกือบจะเท่าของเดย์ ผมก็รีบกำแล้วรูดขึ้นลง โอ๋ครางเบาๆ ผมได้ยินเสียงเอ็มคุยกับเดย์ ผมรีบเอามือออก “อย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ” ผมกระซิบบอกโอ๋ ผมเสียดายมากที่ต้องอดทำต่อ แต่โอกาสมันไม่มีจริงๆ โอ๋ยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนอาหารจัดเสร็จ ผมก็เลยเรียก “โอ๋มาทานข้าว เร็วครับ” โอ๋ก็เดินมา แต่ท่าทางยังอืดอาดอยู่ อาจจะเป็นเพราะผมหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมก็เลยเรียกให้เดย์กับโอ๋มานั่งด้วยกัน เดย์จะได้คุยกับโอ๋ให้หายจากอาการดังกล่าว แล้วเดย์ก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง ผมก็สบายใจขึ้น ผมก็เล่าเรื่องที่ผมจะต้องกลับบ้านให้เอ็มกับเคนฟังเอ็มกับเคนก็เลยจะมานอนเป็นเพื่อนผม เพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ทานข้าวเสร็จหมด เอ็มก็ชวนน้องกลับบ้านเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่โอ๋ไม่กลับด้วย จะรอที่บ้านกับผม “อ้าวพี่ก็ไม่มีเพื่อนกลับดิ” “พี่ผมไปเป็นเพื่อนก็ได้ครับ” เดย์ออกตัว “งั้นเราไปขอคุณแม่ก่อนนะบอล” ทุกคนไปกันหมด เหลือผมกับโอ๋สองคน ผมก็คิดแผนการเผด็จศึกต่อ “พี่ครับผมอยากรู้เรื่องน้ำอสุจิ” เอาแล้วไงโอกาสเป็นของผมแล้ว “น้องไม่อายพี่แน่นะ” “ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ผมไม่อายแล้ว” เจอกันแค่สองวัน แต่ไม่รู้ว่าอะไรบันดานให้เด็กคนนี้เชื่อใจผมนัก “ตกลงน้องอยากเห็นน้ำอสุจิใช่ไหม” “ครับ” “ก่อนจะเห็นน้ำ น้องผ่านความเสียวก่อนนะครับ” “ความเสียว เป็นไงครับ เหมือนกับจั๊กจี้หรือเปล่าพี่” “มันยิ่งกว่าซะอีก” “ว้าวน่าเสียวจัง” “นั่นแหละคือความเสียว” “พร้อมยัง” “พร้อมครับ” “งั้นตามพี่ขึ้นบนห้อง” เมื่อถึงห้อง ผมเริ่มปลดกระดุมเสื้อเขาออก แล้วผมก็หอมที่แก้มเขาเบาๆจูบมาที่คอ เสียงหายใจโอ๋เริ่มแรงขึ้นๆ ผมก็ถอดเสื้อเขาออก ผมจูบนมโอ๋ นมสองเต้าของโอ๋กำลังบวมเปล่ง บอกสัญยาลักษณ์ว่าเขากำลังเริ่มจะเป็นหนุ่มผมเอาลิ้นเลียเบาๆแค่นั้นแหละครับ เสียงครางก็เริ่มดังขึ้นๆผมเลื่อนใบหน้าไปที่เป้ากางเกง ผมจูบเบาๆ ที่เป้าตอนนี้มันมีร่องรอยของเจ้าโลกที่กำลังแข็ง แล้วเจ้าโลกเขาก็ดีดขึ้นกระทบกับจมูกของผม ทำให้ผมตื่นเต้นมาก มือของโอ๋ก็เริ่มขยับมาที่เข็มขัดนักเรียน โอ๋ปลดมันออกแล้วโอ๋ก็ปลดตะขอกางเกง รูดซิบออก เจ้าโลกที่ขาวสะอาดของก็โผล่มาให้เห็น เจ้าโลกของโอ๋ดูอ่อนเยาว์มาก เห็นเส้นเลือดแทบจะทุกเส้นส่วนปลายพึ่งจะเปิดครึ่งหนึ่งเป็นสีชมพูเข้มบอกอาการว่าต้องการความเสียวมาก ผมรีบถอดกางเกงเขาออก โอ๋ก็ช่วยยกขาขึ้นเพื่อให้ถอดกางเกงได้ง่ายขึ้น ผมมองเห็นไข่สองใบนั้นกับรู้สวรรค์ มันช่างน่าเลียน่ากินอะไรอย่างนี้ ผมก็เริ่มสำรวจดูขนเขา มันยังไม่ขึ้นจริงๆ แต่ก็น่าแปลกที่เจ้าโลกมันเติบใหญ่ก่อนขน ผมเอามือจับเจ้าโลกของโอ๋ หวังจะเปิดดูปลายเจ้าโลกว่าสะอาดไหม แต่ผมก็ผิดหวัง เมื่อเจ้าโลกโอ๋เปิดได้ครึ่งเดียว เพราะมันยังติดอยู่ ผมก็เลยเอาลิ้นเลียตวัดไปมารอบๆ ปลายเจ้าโลกของโอ๋ คราวนี้โอ๋ก็ครางลั่นเหมือนกับทุกคนที่เจอ ผมก็เลื่อนใบหน้าไปเชยชมที่รูสวรรค์สีชมพูโอ๋ แล้วลิ้นผมก็ไปโลมเลียอย่างไม่ทันคิด มันมีรสชาติหวานๆ ผมรู้สึกเสียวลิ้นแปล๊บๆ ผมก็พยายามเกร็งลิ้นของผมแล้วแหย่เข้าที่รูสวรรค์ของโอ๋ โอ๋ถึงกับเอามือมาจับหัวผมขยี้ ผมรู้ว่ามันเสียวมาก ผมก็เลยเปลี่ยนมาเป็นเลียที่ไข่สองใบนั้นแทน ผมลากลิ้นขึ้นมาที่เจ้าโลก วนไปวนมาไม่หยุด สักพักโอ๋ก็เกร็งสุดๆ ไข่สองใบนั้นก็หดเข้าอย่างกะทันหัน ผมก็เร่งลิ้นย้ำที่ไข่กับรูสวรรค์หนักขึ้น หนักขึ้น แล้วผมก็ได้ยินเสียงน้ำเขาพุ่งออกปุ๊ดๆ มันชัดหูมาก แต่แปลกที่โอ๋ไม่คราง แล้วน้ำก็นองที่หน้าท้องของเขา ผมก็จ้องมองน้ำนั่น ไม่มีน้ำใครเหมือนน้ำโอ๋ น้ำของโอ๋ที่ออกเป็นน้ำใสมาก แทบจะไม่มีสีขาวปนอยู่เลย “นี่ไงล่ะน้ำอสุจิ” ผมรีบบอกโอ๋ “นี่หรือครับ ก่อนจะออกผมเสียวจริงๆ ครับเสียวมาก” “เสียวตรงไหนมากที่สุด” “ก้นครับ” ผมเกิดความโลภขึ้นมา จึงหาทางให้ได้มัน “จะเอาอีกรอบไหมล่ะ” “เอาครับเอา” โอ๋ตอบอย่างดีใจ แล้วผมก็ถอดผ้าผมออกจนหมด “พี่ใหญ่จังครับ” โอ๋เอามือมาจับเจ้าโลกผม “พี่จะเอาของพี่แหย่เข้าไปนะ” ผมก็นอนลงข้างโอ๋มือหนึ่งกอดเอว อีกมือก็ยกขาเขาขึ้น โอ๋ก็ช่วยพยุงขาเขาไว้ ผมรีบเอามือไปลูบเอาน้ำอสุจิของโอ๋แล้วเอามาทาที่เจ้าโลกของผมทาที่รูของโอ๋ด้วย ผมรีบจ่อแล้วก็ค่อยๆ ยัดเข้าไป มันเข้าไปได้เพียงส่วนหัวโอ๋ก็ร้อง “พี่ผมเจ็บ ผมเจ็บ” ผมก็จูบโอ๋ที่ซอกหู แล้วเสียงร้องโอ๋ก็หายไป ผมก็พยายามยัดเข้าไปอีก แต่มันก็แน่นเสียจนเข้าไม่ได้ โอ๋ก็ไม่ยอมให้ยัดเข้า โอ๋เจ็บมาก ผมเลยต้องโยกเท่าที่โยกได้ แต่มันก็เสียวไปอีกแบบโอ๋เริ่มร้องครางลั่นผมเอามือไปจับเจ้าโลกของโอ๋ มันแข็งอีกแล้ว ผมทำได้ไม่นานนัก น้ำผมจะออก ผมก็รีบกอดโอ๋ เพราะตอนนี้โอ๋พยายามดิ้นให้เจ้าโลกผมหลุด ผมกอดโอ๋ไว้แน่น แล้วผมก็กระเด้าอย่างแรง จนเจ้าโลกผมเข้าไปมิด้าม โอ๋ร้องเจ็บผมไม่สนใจโยกสี่ห้าทีมันเสียวมากครับ ผมปล่อยน้ำออกทันทีเมื่อน้ำผมออกหมด ด้วยความเสียดายความเสียวอยู่ ผมก็โยกสั่งลาอีกสี่ห้าที โอ๋ครางเบาแล้วเสียงน้ำโอ๋ก็ดังปุ๊ดๆ อีก ตัวโอ๋เริ่มอ่อนปวกเปียก ผมก็ค่อยๆ ถอดเจ้าโลกผมออก โอ๋ก็ร้องว่าเบาๆ สุดท้ายมันก็ออกมาได้ โอ๋ก็บอกผม “พี่ครับ ทั้งเสียวทั้งเจ็บ” “ทนได้ไหมล่ะ” “ครับ” “น้องอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ” “ครับ” “สัญญานะ” “ครับ” เหงื่อโอ๋ออกท่วมตัว ผมก็พาน้องไปอาบน้ำ ขาโอ๋สั่นจนเกือบหกล้ม แล้วผมก็ต้องดูดเจ้าโลกโอ๋เอาน้ำออกอีก เพราะโอ๋ต้องการมันมาก เมื่อทุกอย่างจบสิ้น ผมก็เริ่มกังวล อะไรกันเนี่ยรู้จักกันได้แค่สองวัน ก็ฟันทั้งพี่ทั้งน้อง ลืมบอกไปว่าของสองพี่น้องนี้คล้ายกันมาก จะแตกต่างก็ตรงปลาย ผมก็พาโอ๋ลงจากบ้าน โชคดีที่ทุกคนยังไม่มา ไม่งั้นคงมีคนสงสัยผมแน่ ซักพักที่ผมนั่งคุยกับโอ๋ค่อยเห็นเคนวิ่งระรื่นเข้ามาในบ้าน เคนใส่กางเกงบอลขาสั้น ผมคิดในใจ มึงอย่ามายั่วกูนะไอ้เคน แล้วผมก็ต้องอึ้งเมื่อเคนพูดขึ้นมา “ไม่ได้ยั่วโว้ย” ยังกะเคนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ “มองไรบอล” เคนยิ้มอารมณ์ดี “เปล่า มองกางเกงนาย” “โถ่นึกว่ามองของเราซะอีก เราไม่ได้เป็นเกย์นะ” “อ้าวแล้วเราเป็นเกย์หรือ” “เปล่าคิดมากน่ะ” เคนเข้ามากอดคอผม “บอล เราดีจัยว่ะ พ่อปล่อยเรามานอนบ้านนาย” ผมเสียดายก่ะว่าจะเอาเคนเป็นของแถมในคืนนี้ซะหน่อย ผมก็เลยตัดใจจะไม่ยุ่งกับเคนอย่างเด็จขาด รออยู่ตั้งนานเอ็มก็ไม่เห็นมาซักที ผมก็เลยให้โอ๋โทรตาม เอ็มก็บอกว่าเดย์ชวนไปเที่ยว ทำให้ผมคิดได้ว่า เดย์อาจจะรู้เรื่องโอ๋ จึงหาทางถ่วงเวลาหรือเปล่า แต่แปลกที่จู่ๆ ผมก็คิดถึงเบนซ์ขึ้นมา คิดกลัวว่าเบนซ์รออยู่บ้านสวน กลัวเบนซ์ไม่กลับหอพัก ผมต้องสดุ้งเมื่อน้องเดย์วิ่งเข้ามาหอมผม “พี่ผมเจอไอ้พี่เอ๋ในตลาด” เท่านั้นแหละผมรู้เลยว่าเบนซ์อยู่ที่บ้าน แล้วที่บ้านผมก็ล๊อกทุกห้อง จะต้องนอนก็ห้องรับแขก นอนกับพ่อแม่เดย์ แต่ถ้าท่านเห็นเบนซ์อยู่ ท่านก็คงไม่เฝ้าบ้านให้ โอ๊ยคิดมากคิดมาก เป็นห่วงว่าเบนซ์จะหิวด้วยเพราะที่บ้านไม่มีอะไรเลยซักอย่าง
: r. Q$ J8 j' m3 D
-------------------- จบตอนที่ 35 ------------------- 8 d. f: I4 y a- q
' s+ Q. ?( L! U7 }7 m4 _
กลับมาแล้วคร้าฟฟฟ!!! คิดถึงเพื่อนๆ จังเลย ^^ เรื่องราวของบอลจะเป็นยังไงต่อไป ฝากติดตามและให้กำลังใจกันเยอะๆ ด้วยนะครับ จุ๊บๆ 5 P4 |* m" \: V6 J- r7 D
|