เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 36 " e* A! Z" G$ B5 {1 I8 F
: k" T" J& u6 J0 C G- ^ l
(ต่อจากความเดิม) “บอลนอนเหอะ” “บอลนายเป็นไรหรอ” “นายคิดมากเรื่องจะต้องกลับไปอยู่บ้านใช่มะ” เคนเอาแขนมากอดผม เอ็มก็มองตาไม่กระพริบ “อือ” ผมก็พยายามพูดให้น้อยที่สุด ที่ผมนอนไม่หลับวันนี้เพราะผมคิดเป็นห่วงเบนซ์ “นายนอนไม่หลับเราก็ไม่หลับว่ะ” เคนพูดอีก “ช่าย งั้นเราไปเดินเล่นกันมั้ย”เอ็มออกความเห็น “บ้าหรอ ดึกแล้ว แม่เรารู้เรื่องเอาเราตายเลย” เคนทำหน้าตากลัว “เราล้อเล่นใครจะกล้าไปเล่า น้องเราหลับแล้วไม่กล้าทิ้งน้องหรอก” จริงของเอ็มน้องเดย์ยิ่งบ้าๆ อยู่ “เอ็ม เคน เราคงจะได้เจอกันแต่ช่วงเสาร์อาทิตย์นะ” “ทำไมพูดงั้น เจอกันทุกเย็นก็ได้นี่บอล” เคนท่าจะไม่ยอม “ถ้าเราว่างพอ” “บอลจะไปอยู่บ้านสวนคงจะยุ่งมากสินะ”เอ็มถามต่อ “ยุ่งมาก” “บอลแล้วเรื่องเราล่ะ” เอ็มกระซิบถามผม “เรื่องอะไร” “เรื่องความรักของเรา” เอ็มตอบแต่ดูเหมือนเคนจะฟังอยู่ “คุยกันเรื่องรักเรื่องใคร่ อย่าบอกนะว่านายสองคนเป็นเกย์” “เปล่าซะหน่อยเคน เอ้อ..เราพูดว่าบอลรักใครหรือยัง” “ไม่ใช่เราได้ยินเต็มหูเรา” เคนก็ลุกขึ้นมาถกเถียงกับเอ็ม “ถ้าเป็นเกย์แล้วเป็นแฟนกับบอล เราว่ามันก็น่าลุ้นอยู่นะ” เอ็มพูดใส่เคน “งั๋ยเป็นงั้นล่ะ” เคนทำหน้างง “อ้าวก็มันเหมาะสมกันนี่หว่า” “เออพูดเข้าไปเดี๋ยวเราก็ใจแตกหรอก” ผมเอาคำโต้มาพูดเพื่อลองเชิงเคน เมื่อตอนค่ำเคนบอกว่าไม่ชอบเกย์ ผมเลยอยากรู้ว่าเคนรู้จักเกย์ดีแค่ไหน “ไอ้บอลถ้าแกเป็นเกย์จริง แกจะชอบใครวะระหว่างเรากับเอ็ม” นี่แสดงว่าเคนเขาอยากให้ผมชมเขาหรือเปล่าไม่รู้ผมก็เลยเอามือล้วงเข้าไปที่เป้าของเอ็มเพื่อบอกสัญญาณว่าอย่าโกธรนะถ้าผมพูดอะไรไป “ให้เราถามนายก่อนได้ไหมเคนแล้วเราจะตอบนาย” “ได้ ถามมาเลย” เคนก็นอนตะแคงมองหน้าผม “ถ้าเราเป็นเกย์แล้วเราชอบนาย เรารักนาย นายจะรักเราไหม” ผมก็เอามือรูดเจ้าโลกของเอ็มเล่น “ขอคิดดูก่อนนะ” “อย่าคิดนานล่ะ” ผมก็ย้ำและรอคำตอบจากเคน หนุ่มหน้าตี๋ตาหวานคนนี้ก็นอนคิดไปคิดมา แล้วก็พูดออกมาอย่างไม่คาดฝัน “รักสิ แต่จะรักแบบแฟนไม่ได้หรอกว่ะ ทุกวันนี้เราก็รักนายนะ” “แล้วเรื่องบนเตียงนายจะยอมไหม” ผมหน้าด้านถามเคนอีกครั้ง “ถามงี้ได้ไง บอลนายเป็นอะไรของนายวะถามในสิ่งที่เราไม่ชอบว่ะ” ผมก็หน้ามุ่ยไปเลย เป็นผู้ชายคนแรกที่ดูถูกผม มันรู้สึกเจ็บลึกๆ เข้าไปข้างในนิดๆมือผมที่จับเจ้าโลกเอ็มอยู่ตอนนี้ผมปล่อยแล้ว ผมไม่มีอารมณ์จะทำ ผมนอนเงียบไม่พูดจา เคนก็หันหน้าหนี ซักสิบนาทีได้ผมก็นึกว่าเคนหลับแล้วซะอีก เคนหันหน้ามา “บอลเรามาคิดดูแล้วนายเหมือนเกย์มากๆ” ผมรีบถามเขา “เราเหมือนมากใช่ไหม” “ใช่เราดูมาหลายวันแล้วเพื่อนเราก็เป็นเหมือนนายนี่ล่ะ ทีแรกเราก็คิดว่าเป็นผู้ชาย แต่มารู้ตัวอีกทีไม่ใช่ เราโคตรเกลียดเลยพวกนี้” “หรอ” “นายก็เริ่มจะเหมือนกับเพื่อนเรา” เคนเงียบไปสักครู่ ผมเลยเอ่ยถามอีก “เหมือนยังไง” “ก็นายเริ่มรักเรา” ผมก็นึกหมั่นไส้เคน ผมยังไม่ได้รักเคนเลย แค่ผมชอบๆ และเคนก็ยังเป็นคนสุดท้ายซะด้วยซ้ำที่ผมจะยุ่งด้วย “ถ้าเรากำลังรักนายล่ะ” ผมแกล้งถามเคน “การมานอนบ้านนายวันนี้ ทำให้เราได้รู้ว่านายไม่ใช่เพื่อนเราอีกต่อไป” เคนก็เอาผ้าห่มคลุมหัว ผมก็นอนหงาย เริ่มจะคิดมากเข้าทุกที แต่ก็คิดหมั่นไส้เคนมากๆ ที่เคนหลงตัวเองขนาดนี้ตีโพยตีพายไปอย่างไม่น่าเชื่อ ผมเริ่มคิดขยะแขยงถึงเคนจะหน้าตารูปร่างหล่อจนบางครั้งผมก็อยากมีเซกส์ด้วย วันนี้เมื่อเคนพูดแบบนี้ ทำเอาผมเบื่อไปเลยทีเดียว “เอ็มนายมานอนตรงนี้ได้ไหมวะ” “อ้าวทำไมล่ะ” เอ็มที่เงียบฟังสองคนเราคุยกันนานก็พึ่งจะพูดนี่ล่ะ “เราไม่อยากนอนใกล้บอล” ผมก็ซาบซึมเอาความน้อยใจเข้าไปเต็มที่ ไม่รู้มันอะไรนักหนา เอ็มก็มองหน้าผม ผมก็พยักหน้ารับให้เอ็มทำตามที่เคนต้องการ “ถ้าไม่ดึกเราคงจะกลับไปนอนบ้านเราแล้วล่ะ” “ขนาดนั้นเชียว” เอ็มก็ถามเคน “ยิ่งกว่านั้นเราเกลียดพวกเกย์ที่สุดรู้ไหม” “นายรู้ได้ไงว่าบอลเป็นเกย์เท่าที่ฟังมาบอลยังไม่ได้บอกเลยว่าเขาเป็นเกย์” “ไม่บอกเราก็รู้ว่าบอลเป็น” “ดูจากตรงไหนอัจฉริยะจัง” เอ็มคงจะหาทางให้เคนเปลี่ยนคำพูด “ดูจากสายตาบอลไม่เคยละสายตาจากเป้ากางเกงเราเลย” “จริงหรอ” เอ็มหัวเราะเบาๆ “บอลนี่อาจจะเป็นคำพูดสุดท้ายที่เราจะพูดกับนายนะ” “ทำไมเคนพูดอย่างนั้นวะ” เอ็มก็แทรกก่อนที่เคนจะถามผม “เราจะไม่คบบอลอีก” “อะไรกันเคน นายจะเอาแค่ความสงสัยของนาย ความคิดของนายฝ่ายเดียวมาเป็นการตัดสินหรอ เพื่อนไม่ใช่มีกันง่ายๆนะ ไม่งั้นคนเดินบนถนนเขาก็เป็นเพื่อนกันหมดสิ” เอ็มเริ่มจะซีเรียสบ้างแล้ว “ก็นี่ล่ะเราถึงจะถามบอล” ผมก็เริ่มจะลำคาน จึงพูดออกมา “ถามอะไรก็ถามมา” ผมก็พูดน้ำเสียงสั้นเพราะเริ่มจะรำคาญ “นายเป็นเกย์ใช่ไหมบอล” “แล้วแต่จะคิด” ตอบแม่งแบบนี้ล่ะ “จริงอย่างที่ญาตินายบอกเลยเอ็ม” เคนพูดคำนี้ผมเริ่มสนใจ “อะไรญาติเราบอกอะไรนาย” “ก็คนที่ชื่อเอ๋ วันนี้มาหาเราที่บ้านบอกว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องนายเขามาเตือนเราไม่ให้เราคบบอล เขาบอกบอลเป็นเกย์” “นายเชื่อหรอ ไอ้เอ๋ต๋อแหลจะตาย” คำนี้ถูกของเอ็ม “ไม่เชื่อได้ไง ก็ดูรอยจูบที่คอบอลดิ รู้ไหมไปจูบกับใครมา” “จูบกับใคร” เอ็มขึ้นเสียงถาม เพราะเอ็มเป็นเจ้าของจูบนี้ “กับคนชื่อเบนซ์ นายคงจะยังไม่รู้จัก”ผมยิ่งคิดเกลียดเอ๋มากขึ้นทวีคูณ ดีนะที่น้องเดย์หลับซะก่อนไม่งั้นจะยุ่งไปกว่านี้ผมต้องอดกลั้นไม่พูดอะไร เพราะถึงแม้เคนจะเข้าใจอะไรผิดแต่ก็เข้าใจถูกว่าผมเป็นเกย์ “เคน นายเชื่อมากขนาดนั้นเลยหรอ” เอ็มย้ำอีก “แน่นอนเราโคตรเสียดายเวลาที่อยู่กับบอล เสียดายมากๆ ถ้าเราย้อนได้เราจะไม่รู้จักบอลเลย” เคนพูดแบบนี้ผมก็ฉุน ผมเลยตอบคืนมั่ง “อย่าว่าแต่นายเลยเคน เราก็เสียดายเหมือนกัน เราไม่น่าไปกินของที่นายเอามาให้เลย ถ้าเราอ้วกออกมาได้ เราจะคืนนายให้หมด” “เอากองไว้ตรงนั้นแหละ” เคนพูดจบเอ็มก็เอามือมาจับมือผมบีบมือผมเบาๆบอกความรู้สึกปลอบใจผม และเหมือนจะห้ามผม จากนั้นเราต่างก็หันหลังให้กัน ต่างคนต่างนอนจนถึงเช้า เมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ ผมก็ไปไหว้ลาพ่อแม่ของเคนที่บ้าน ท่านก็คิดถึงผม และท่านบอกจะไปเยี่ยมผมที่บ้าน ถึงแม้ว่าเคนจะรังเกลียดผม แต่ผมก็ต้องมาบ้านเขาอีก ผมตัดขาดจากผู้ใหญ่ไม่ได้ เอ็มกับโอ๋ก็กลับบ้านเช่าเพราะกลัวว่าแม่จะมาเยี่ยมแล้วไม่เจอผมกับน้องเดย์ก็สะพายกระเป๋าขึ้นรถมอเตอร์ไซกลับบ้านสวน เมื่อถึงบ้านผมเห็นเบนซ์กำลังทำความสะอาดหน้าบ้านอยู่ พอผมเห็นหน้าเบนซ์ ผมก็คิดโกธรเรื่องเอ๋ขึ้นมา ผมก็เลยตัดสินใจไม่ทักเบนซ์ดีกว่าหมั่นไส้ ส่วนน้องเดย์ก็คงยังโกธรเบนซ์ไม่หายเราสองคนเดินเข้าบ้าน “พี่นายคนนั้นมาแต่เมื่อไหร่ครับ” “มาเมื่อคืนนี้ครับ” “พี่ไม่คุยกับพี่เบนซ์หรอพี่” “ไม่พี่ไม่มีไรคุยครับ” น้องเดย์เดินไปที่ครัวไปเจออาหารที่เบนซ์ทำวางไว้ที่โต๊ะน้องเดย์ก็เปิดชิมทันที ผมรีบเดินไปห้าม “เดย์อย่าไปยุ่งกับอาหารนั่น เขาไม่ได้ทำไว้ให้เรา” “แล้วทำไว้ให้ใครล่ะ” “ก็ทำให้แฟนเขานะสิ” “งั้นดีสิ ผมจะทานให้หมดเลย” “บ้า ทานมาจากบ้านยังไม่อิ่มหรอ” “ถึงอิ่มก็จะทานอีก มันอร่อยนะพี่ นานแล้วไม่ได้กินฝีมือพี่เบนซ์ เอามะพี่” ข้าวเต็มปาก เดย์ก็ยังพูดแถมตักอาหารจะมาป้อนผมอีก “ไม่ แกทานไปคนเดียวเถอะ” “ดีเลยไม่มีใครแย่ง” ผมรีบเอาเสื้อผ้าไปเก็บเข้าที่เข้าทาง ผมก็มองเห็นลุงกับป้าท่านมาตัดกล้วย ผมก็อยากสนุกเลยรีบเดินออกมา กะจะชวนเดย์ไปช่วยงานลุงกะป้า แต่ผมก็ต้องเดินกลับเข้าห้องเพราะเบนซ์เดินเข้ามาบ้านพอดีผมก็แอบดูอยู่ห่าง ๆ เห็นเบนซ์เดินไปหาเดย์ที่ห้องครัว ผมรีบเดินย่องไปแอบดูว่า เมื่อสองคนเจอกันเขาจะทำไง “พี่ดีใจนะที่น้องเดย์ทานอาหารนี่” เบนซ์พูด เดย์ก็ไม่สนตักเอาอาหารเข้าปากไม่สนใจ “อร่อยไหมครับ” เบนซ์ดูเหมือนจะเริ่มเอาใจเดย์ “อร่อย” เดย์ตอบแบบไม่มีหางเสียง “พี่ทำให้นายทานนะเนี่ย” เบนซ์ก็เดินไปที่ตู้เย็นหยิบจานใบหนึ่งออกมา “แล้วนี่ขนมหวาน เจ้าเก่าที่เดย์ชอบ กับกล้วยแขกของโปรดพี่บอลไงครับ” เดย์ก็จ้องมอง แล้วเดย์ก็หลงกลเบนซ์ มือเดย์หยิบเอาขนมหวานนั่นมาชิม “อร่อยจัง เหมือนเดิมเลย ไม่ได้กินมาสิบวันแล้ว” เดย์ลืมแล้วมั้งเรื่องโกธรแค้นที่มีต่อเบนซ์ “ต่อไปน้องจะได้กินทุกวัน” “พี่ครับตลาดตั้งไกล พี่ไปไงล่ะครับ” “พี่ถีบจักรยานไปครับ” “ตั้ง5 กม.นี่นะครับ” “อือ” “ถ้าเป็นเดย์คงไปไม่ได้หรอก เหนื่อยตายเลย” “ก็พี่ไม่มีรถนี่ครับ” เบนซ์ก็ถือจานไปวางที่โต๊ะ เดย์ก็เดินตามไปเหมือนกับนกที่เจ้าของเลี้ยงเชื่องแล้วตามกินอาหาร “เดย์พี่ขอโทษนะวันนั้น พี่จะไม่เป็นแบบนั้นอีก” เดย์เงียบชั่วคราว แล้วเดย์ก็เอ่ยขึ้นมา “พี่ครับ พี่จะไม่เป็นเหมือนเดิมจริงๆ นะครับ” “จริงสิ พี่เข็ดแล้วพี่จะไม่ไปจากนายอีก พี่จะดูแลน้องเหมือนเดิม” เจ้าเดย์วางช้อนแล้วก็กระโดดกอดเบนซ์ เอออย่างน้องเดย์ก็ยังรักเบนซ์อยู่ ที่เดย์พูดว่าเกลียดๆ เขาลรอกตัวเองมาตลอด ผมเกิดคำถามว่า แล้วเราล่ะเกลียดหรือรักเบนซ์ ผมก็สรุปได้ว่า เกลียด เบนซ์มันมีแฟนแล้วนะบอล แกจะไปคิดเรื่องมันทำไม แกเองก็มีเอ็มแล้วไง แกจะไปยุ่งกับมันอีกหรือ แกบ้าไปแล้วลืมมันได้แล้ว ใจบ้าๆ ของผมเริ่มชี้ทางให้ผม ผมก็มองดูเดย์กับเบนซ์คุยกันต่อ “นี่เงินค่าขนมพี่แบ่งไว้ให้น้อง” เบนซ์ยื่นเงินให้เดย์คงจะเป็นเงินที่แบ่งให้วันละ20 บาท เดย์ก็รับเอา เดย์ก็โอบเข้ากอดเบนซ์ “พี่ยังไม่ลืมผม พี่เป็นพี่ชายผมเหมือนเดิมใช่ไหมครับ” “พี่เป็นพี่ของน้องเหมือนเดิมรู้ไหม” เบนซ์ก็หอมเดย์ “ไปล่ะ พี่จะไปเอาเสื้อผ้าพี่ก่อนนะครับ” “พี่จะไปยังไงล่ะครับ” “จักรยานครับ” “ผมไปด้วยครับ” “ไม่ได้พี่ต้องไปเคลียเรื่องเอ๋” เมื่อพูดคำนี้เดย์ก็คงนึกขึ้นได้ เดย์ก็เลยเงียบไม่พูดจา แต่เดย์ก็ยื่นกุญแจรถมอไซให้เบนซ์ “แล้วพี่บอลจะไม่ใช้รถหรอ” “ไม่หรอกครับ พี่เอาไปเถอะมันไกล ขับรถระวังด้วยนะครับ” เบนซ์ก็เดินออกจากบ้าน ผมรีบเดินไปหาน้องชายผมกะจะแซวซะหน่อย “ว่าไงไอ้ตัวป่วน ดีกันแล้วหรอ” “ครับพี่เบนซ์น่าสงสารจังครับ พี่ก็น่าจะดีกับพี่เบนซ์ได้แล้ว” “ไม่หรอก เบนซ์ทำพี่หนักเกินที่จะให้อภัยได้” “ตามใจ” เดย์ก็ทานขนมหวานต่อ ผมก็มองเห็นกล้วยแขก น้ำลายผมไหลเลยครับ เอาก็เอาวะเจ้าของมันไม่อยู่แล้วทานเลยดีกว่า “นั่นไง ระวังติดเสน่ห์พี่เบนซ์นะครับ” ผมกำลังจะยัดกล้วยเข้าปาก เดย์ก็แซวซะก่อน ผมก็เลยเอาจานกล้วยลอดไต้ขา “ทุเรศจังพี่อะ ไม่กระโดดข้ามเลยล่ะครับ” เดย์ทำตาโต ผมก็หัวเราะแล้วก็ยัดกล้วยเข้าปากเดย์ “พี่อ๊า..ผมทานเองก็ได้” “พูดมากนักเอากล้าวยัดปากเลย” ผมกับเดย์ก็ทานกล้วยแขกจนหมดจาน แล้วผมก็ไปที่สวนช่วยลุงกับป้าท่านหามกล้วยไปวางที่ริมน้ำ “ลุงครับทำไมต้องเอากล้วยมาไว้ตรงนี้ด้วยครับ” “จะเอาข้ามไปขายที่ตลาดฝั่งโน้น” “อ้าวแล้วกล้วยดิบนี่ล่ะครับ” “เอากลับบ้าน ต้องรอให้สุกก่อนถึงจะเอาไปขายได้” “ใส่เรือกลับทุกวันหรอครับ” “ใช่ก็เราไม่มีรถยนต์นี่ เรือดีกว่า ไม่เปลืองน้ำมันดี” “งั้นกว่าจะเสร็จก็ค่ำสิครับลุง” “ก็คงงั้นแหละ” ผมก็เลิยเกิดความคิดในเมื่อไม่มีอะไรทำ เอากล้วยพวกที่สุกแล้วไปขายช่วยลุงดีกว่า ผมจึงขอท่าน กว่าท่านจะยอมอ้อนกันแทบตาย ได้น้องเดย์พายเรือเป็นท่านถึงยอม เพราะต้องพายเรือไปไกลมาก อีกฝั่งหนึ่งเลยทีเดียวที่นั่นเป็นตลาดชุมชน ผมกับเดย์ช่วยกันขนกล้วยขึ้นเรือ เกือบสองร้อยหวีครับ ตั้งนานแล้วยังไม่ครึ่งเลย พอดีว่าเบนซ์เดินมาหน้าเบนซ์ดูไม่ค่อยร่าเริงนักผมรู้ต้องทะเลาะกับเอ๋มาแน่ๆ “จะเอากล้วยไปขายเหรอ” ไม่รู้ว่าเบนซ์ถามใคร แต่น้องเดย์ก็ตอบเสียก่อน “ครับพี่เบนซ์ไปด้วยกันนะครับ” เบนซ์ก็ขนกล้วยขึ้นเรือช่วยไม่นานก็เสร็จ คุณลุงท่านก็เอากระเป๋าเงินมาให้ผม “ไม่เท่ห์เลยกระเป๋าลุง เดี๋ยวผมไปเอาที่บ้านครับ” ผมนึกได้ว่ามีกระเป๋าใบหนึ่งที่เบนซ์ซื้อให้ผมตอนที่เราขายผ้าด้วยกันแต่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน เบนซ์ก็เลยพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังยืนคิด “เราไปเอาเอง” เบนซ์ก็เดินไป “พี่บอลครับ ขึ้นเรือรอพี่เบนซ์ก่อนเถอะครับ เงี่ยนอยากพายเรือแล้ว” ไม่นานเบนซ์ก็มาแล้วเบนซ์ก็ขึ้นเรือไปนั่งตรงข้ามกับผมเราต้องหันหน้าใส่กัน ผมต้องหันหน้าหนีไม่กล้ามองหน้าเบนซ์บอกตรงๆ ผมอายเบนซ์มากครับ ผมก็เลยต้องมองไปที่ขอบเรือมองสายน้ำกระทบกับเรือ ไม่นานผมก็อ้วกออก ผมเมาเรือครั้งแรกในชีวิตที่ผมเมาเรือ ทรมานมากครับ ข้าวปลาอาหารที่ผมทานตั้งแต่เช้าตอนนี้อ๊วกออกหมดน้องเดย์ต้องวางไม้พาย มาลูบหลังใหผม ผมค่อยยังชั่วหน่อย “สมน้ำหน้า เป็นเพราะเอาจานกล้วยแขกไปลอดใต้ขามั้งถึงเป็นแบบนี้” น้องเดย์พูดคำนี้ผมก็เลยเหลือกตาไปมองเบนซ์ เบนซ์ทำท่ากระเสือกกระสนเหมือนเป็นห่วงผม แต่ผมก็แค่คิดมันอาจจะไม่ห่วงผมก็ได้ ผมรีบเอาน้ำล้างปากเอาน้ำลูบหน้า แล้วเบนซ์ก็โยนผ้าเช็ดหน้ามาให้ผม ผมกลัวว่าผ้าจะตกน้ำก็เลยรับผ้าน้ำ “แม่นนี่ครับ” “สบมยห. พี่เป็นประตูฟุตบอลเก่าไอ้น้อง พายเรือได้แล้ว หิวจะตายอยู่แล้วจะรีบไปกินข้าวที่ตลาด” ผมทำเสียงดุใส่เดย์ เมื่อถึงตลาดผมรีบเดินไปดูแผงที่คุณลุงท่านบอก แล้วผมก็มาพาเดย์เบนซ์ขนกล้วยไปวางที่แผง ยังไม่ทันเสร็จเดย์ก็ไล่ให้ผมไปหาซื้อกับข้าวเพราะตอนนี้บ่ายสามโมงแล้วแต่ผมกับเดย์ยังไม่ได้ทานข้าวเที่ยงเลย เบนซ์ไม่รู้ว่าเขาทานมาหรือยัง แต่ผมก็ต้องทำตามที่น้องสุดที่รักบอก ซื้อข้าวมาสามกล่อง “มาทานกันได้แล้ว” ผมรีบทานก่อนโดยไม่สนใจมันหิวมากครับ แล้วเบนซ์ก็เดินถือข้าวกล่องกินไปก็เดินไปที่ร้านค้าอีกฝั่งหนึ่งเมื่อมาถึงเบนซ์ก็ยื่นถุงกล้วยแขกให้เดย์ เบนซ์ก็ไปยืนทานห่างๆคงเกรงใจผม หรือไม่เต็มใจให้ผมกินก็ไม่รู้ “อะพี่ แล้วไม่ต้องเอาลอดขาอีกล่ะ ไม่ได้ใส่เสน่ห์อะไรหรอก ไปซื้อที่ร้านโน่นมา” “เข้าใจพูดตอกย้ำจังนะแก” ผมหิวจนตาลายมีหรือจะปฏิเสษ กินยังไม่ทันอิ่มก็มียายแก่ๆ คนหนึ่งเดินมาถามซื้อกล้วย “หวีนี้เท่าไหร่จ๊ะ” ยายถามเบนซ์ “เท่าไหร่ครับหวีนี้” เบนซ์ไม่อยู่ตอนที่ลุงท่านบอกราคาเบนซ์เลยไม่รู้ ผมก็ไม่อยากพูดกับเบนซ์ จึงมองไปหาน้องเดย์ “25 บาทครับ” เดย์ก็ตอบยายคนนั้นก็ดูแล้วดูอีก หยิบดูหลายหวี “หวีนี้23 ครับ ส่วนหวีนั้น 18 ครับ” เดย์ก็เป็นคนบอกราคา แต่ดูเหมือนแกจะยังชอบกล้วยหวีใหญ่อยู่ “ลดให้ยายหน่อยไม่ได้หรือ ยายจะเอาไปวัด” ยายท่านถามเบนซ์ เบนซ์ตัดสินใจไม่ได้ เบนซ์ก็มองมาที่ผม ผมก็ไม่พูดอีกเบนซ์ก็เลยชี้มาทางผม “ต้องไปต่อกับเจ้าของนะครับยาย” เบนซ์ก็ทำเป็นจัดเรียงกล้วยให้เข้าที่เข้าทาง เขินหรือเปล่าไม่รู้ ผมก็คิดขึ้นมาได้ว่าผมเป็นเจ้าของกล้วย ก็เลยคุยกับยาย “ ยายจะซื้อเท่าไหร่ละครับ” “23 บาทได้ไหมล่ะ” “ครับ” ยายแกก็ยิ้มดีใจที่ผมลดให้2 บาท “เดย์หยิบกล้วยหวีนั้นฝากป้าไปทำบุญหน่อย” เบนซ์ก็ทำหน้าที่แทนเดย์เพราะเบนซ์นั่งอยู่หน้าแผง ยายก็จ่ายเงินให้เบนซ์ เป็นแบงค์ร้อย เบนซ์ก็ส่งเงินให้ผม ผมก็ต้องรับเงินแล้วส่งเงินทอนให้เบนซ์ เขินจังมาตอนนี้ มือผมสัมผัสกับมือเบนซ์ ผมรู้สึกหวิวๆ แปลกมาก “กล้วยสวยจัง เปร่งปั่งพอๆ กับคนขายเลยนะย๊ะ”กระเทยคนหนึ่งหุ่นแกใหญ่มากเดินมายืนข้างเบนซ์ แล้วจ้องมองเราสามคน เบนซ์ทำท่าหลบ ผมก็ต้องสะดุดแววตาของแก ดูเหมือนจะกัดกินผม “ยังสู้ผมไม่ได้หรอกป้า” “ตายแล๊ว!เธออย่ามาพูดให้ฉันใจหายสิย๊ะเดี๋ยวก็ซื้อเธอกลับบ้านซะหรอก” เธอก็ยื่นมือมาจับที่ริมฝีปากเดย์เขย่า เดย์ก็ยืนทื่อให้จับ “20 บาทค่าจับ” ผมอึ้งเลย น้องผมกล้าจริงๆ ครับ “เอาไปเลยร้อยหนึ่ง” แกยื่นเงินให้เดย์ เดย์ยิ้มดีใจ แล้วเอาเงินมาฟาดที่หน้าอกตัวเอง ต่อด้วยกล้วยที่กองอยู่ “เฮงๆๆๆรวยแน่วันนี้” เดย์ทำตลกมาก แล้วผมก็ต้องเผลอยิ้มออกมา ผมเจอยิ้มของเบนซ์ ที่นานแล้วผมไม่เห็นรอยยิ้มนี้ ผมตลึงแล้วผมก็ต้องสดุดเมื่อคุณกระเทยมาแซวผม “อกฉันจะแตกตาย คนนี้ก็น่ากิน คนนี้ก็น่าหม่ำ” ผมเขินมากต้องหุบปากอย่างกะทันหัน เบนซ์ก็เหมือนกัน “ป้า..นอกเรื่องแล้วตกลงจะเอากล้วยกี่หวีครับ” เดย์ทำงานอีกแล้ว “เรียกซะดูแก่เลยนะ ทีหลังเรียกต้องเรียกเจ้นะจ๊ะ” “เจ้อะไรครับเรียกเจ้คำเดียวไม่มันปากเลยขออีกคำสิครับ” “เจ้อึ่งจ๊ะ นางกระเทยที่เลิศที่สุดในปีสองพันสอง หรือเรียกอีกอย่างว่า สาวงามประเภทสองปีสองพันสองย่ะ น้อยคนที่ไม่รู้จักเจ้อึ่งขายเขียด” พวกผมทั้งสามคนพากันหัวเราะ แถมแกยังทำสะบัดหน้าไปมาทำเหมือนนางงามเดินประกวด แล้วเสียงหัวเราะก็ต้องหยุดชงัก “เฮ้ย!พวกแกสามคนหัวเราะอะไรนักหนาวะ” แกทำเสียงเหมือนผู้ชายดูเข้ม ผมขนลุกเลยน่ากลัวมาก “งั้นจะเอากี่หวีล่ะเจ๊อึ่ง” เดย์ไม่สะทกสะท้านกับอาการได ๆ ขายของหน้าตาเฉย “น่ารักจัง เอาสิบหวีหยิบใส่ถุงเลยไม่ต้องเลือกหรอกจ๊ะ” ขณะที่ผมกับเบนซ์กำลังหยิบกล้วยใส่ถุง เดย์ก็หยอกล้อกับเจ๊อึ่งต่อ “ตายห่าบาปตายเลย” เดย์พูด “บาปอะไรยะ” “เงินร้อยนี่ เงินขายเขียดหรองั้นผมไม่เอากลัวบาป” เดย์จะส่งคืนให้เจ๊ เพราะที่รับเงินเป็นการล้อเล่น (ที่บ้านนอกเขาจะมีขายเขียด กบ อึ่งอ่าง กิ้งก่า แล้วก็บลาๆๆๆ โอ้ยมีเกือบจะทุกอย่างครับคงเข้าใจนะครับ) “ให้แล้วก็เอาไปเถอะ ไม่ใช่เงินขายเขียดหรอกยย่ะ เงินฉันถูกหวยมาซื้อกล้วยก็จะเอาไปทำบุญ” “ได้แล้วครับ” เบนซ์ยื่นกล้วยให้แก “เท่าไหร่ล่ะจ๊ะพ่อหนุ่มหล่อ” แกหันมาถามผม “250 บาทครับ คิด 220แล้วกันครับ” ผมตอบ “ไม่ต้องลดหรอกย่ะ เป็นเด็กวัยกำลังกินกำลังนอน” “งั้นแถมให้ละกันครับ” ผมก็เกรงใจแก “น่าจะแถมคนนี้นะยะ เอานี่แหละเงินขายเขียดนั้นเงินถูกหวย” แกส่งเงินให้เดย์ แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาเรียกแก “อีอึ่ง!! มาซื้อกล้วยซื้อนานจังวะ เสร็จหรือยัง” ผู้หญิงคนนั้นก็เดินมา เราสามคนอมยิ้มที่เขาเรียกแกว่าอีอึ่ง “อีบ้ารีบมาเรียกกูจัง กูกำลังจีบหนุ่มๆ อยู่” “อีคางคกกลับได้แล้ว แขกเขาจะได้เข้าร้านดูตัวมึงซิมาบังร้านเขาหมด” ผมสามคนก็หัวเราะ หน้าแกก็เหมือนนะ รูปร่างแกก็ใหญ่ พอแกจะกลับแกก็ลาเราสามคน “ไปล่ะนะ ขอให้ขายดีดีนะจ๊ะ ถ้าขายตัวเมื่อไหร่บอกเจ้จะขอซื้อเป็นคนแรก” “ตัวผมราคาแพงนะเจ๊จ๋า” เดย์หยอกแกอีกรอบ “แพงเท่าไหร่ล่ะ ฉันเอาความสวยฉันถล่มทลายก็อยู่หมัดแล้ว” ดู้ดูแกพูดครับ “สวยตายละมึง อีอึ่งพร่ำอยู่นั่น” ผู้หญิงคนนั้นก็ดึงแขนแก “ไปล่ะ คนสวยไปนะจ๊ะ” เราสามคนก็ต้องยกมือไหว้ขอบคุณแกแต่น้องเดย์ก็ยังพูดล้อแกอยู่ “สวย ไป ไหน หมด” ก็ต้องหัวเราะแกอีกรอบ น่าขำจริงๆครับ เราขายจนบ่ายห้าโมงครึ่งก็มีคนมาเหมาหมดก็ได้กลับ กลับถึงบ้าน ผมก็ไปอาบน้ำ ส่วนเบนซ์หายเข้าเมืองไปกับเดย์ คงจะไปซื้ออาหารมาทำกับข้าวเย็น ผมก็เลยปั่นจักรยานเอาเงินไปแบ่งให้ลุงกับป้า “ไม่เอาหรอกจ๊ะ เอาเก็บไว้เถิดไว้ซื้อกับข้าวกินกัน” “งั้นป้าก็เหนื่อยฟรีสิครับ” “ก็บอกแล้วไงว่าช่วย เราต่างคนต่างช่วยกัน” “อย่างนี้ผมก็เกรงใจตายเลย” “ไม่ตายหรอก คุณบอลก็ช่วยเลี้ยงลูกให้ลุงดีๆ ก็พอ” “งั้นลุงเอาค่าแรงไปนะครับเอาเป็นรายเดือน” “เอาก็เอา มันก็ไม่ได้ยุ่งอะไรมากมายเดือนละพันก็แล้วกัน” สรุบว่าที่ผ่านมาลุงแกขายกล้วย แกไม่ได้เอาส่วนแบ่งเลย แกเอาทั้งหมดมาให้ผม มิน่าล่ะผมถึงว่ามันรายได้ดีจัง กล้วยเก็บขายได้อาทิตย์ละครั้ง ได้เงินอาทิตย์ละเกือบสามพันบาท ไม่นานนักเดย์ก็มารับผม และมีอาหารมาแบ่งให้พ่อกับแม่อีกตามเคย ผมก็กลับบ้านกับเดย์ เดย์บอกว่าเบนซ์ทำอาหารรอแล้ว ผมก็กังวลใจไม่รู้จะทำหน้ายังไงตอนทานข้าว แต่ผมจะไม่คุยกับเบนซ์เด็ดขาด % d' V1 |% d0 m3 w: D0 }+ C& @" B
-------------------- จบตอนที่ 36 -------------------
$ J3 D5 H1 [4 R& [% l1 P
( L; {) m7 P3 P" E4 w
& z( g ^5 s" r# F' B
เรื่องราวของบอลสิเป็นจังใด๋ต่อไป โปรดติดตามต่อในตอนต่อไปเด้อครับ.... ปล.ผมหยุดงาน 3 วัน (ส อ จ) ไว้พ้อกันใหม่อีกเทือ มื้อวันอังคารหน้าเด้อพี่น้อง บ๊ายบาย จุ๊บๆ & S* Z( O G4 Y* a$ F9 v6 c+ N
l7 c9 s. k1 l
" d1 c. p" N/ X/ }7 x) l) J% P, E |