วันนี้เป็นวันที่คณะผมจัดงานรับน้องที่จังหวัดเลยภูกระดึง เพราะผมอยู่ปีสอง เลยเป็นหน้าที่ของพวกผมที่ต้องจัดงานรับน้อง วันแรกจะเป็นการทำกิจกรรมที่ทะเลหาดสวนหินสกลนคร ก่อนจะค่อย ๆ เดินทางไปไหว้พระที่อุดรหนึ่งวันและเดินทางไปยังยังภูกระดึงเพื่อปีนเขากันอีกวันหนึ่งจริง ๆ จัดแค่ในคณะก็ได้ครับ ของคณะก็จัดแต่ก็อยากจะกระชับความสัมพันธ์รุ่นน้องกับรุ่นพี่มากขึ้น จึงเลือกที่นี่ถือเป็นทริปภาคไปในตัวดังนั้นจึงมีพี่ปีสามถึงปีสี่มาร่วมด้วย เงินต้องเยอะขนาดถึงจัดขนาดนี้เล่นสะเงินเก็บแทบหมดตัวเป็นการป่ายปีนเพื่อขึ้นไปจุดยอดสุดที่แสดงให้เห็นถึงความพยายาม ความอดทนเพราะคนที่จะเข้ามาเรียนวิศวะได้ นอกจากจะเก่งแล้วต้องอดทนสุด ๆ ไม่ต้องถามถึงพี่แสงนะครับเพราะรายนั้นตามมาด้วยติด ๆ ไม่รู้จะหวงไปไหน งานการมีให้ทำก็ลาหยุดสะงั้นแถมยังบังคับกึ่งขอร้อง อ้อนวอนให้นั่งรถมาด้วยกันอีกด้วยผมจึงเป็นคนเดียวในรุ่นที่มีพี่แสง มีพ่อ มีแฟนมาด้วย หนึ่งในความโชคดีอย่างหนึ่งคือผมออกเดินทางมาก่อนเวลาทำให้มีเวลาเหลือเฟือที่จะเที่ยวเล่น ไหว้พระตามไรทาง มีเวลาอยู่กับพี่แสงมากขึ้นเดินจับมือ ถ่ายรูปกันราวกับคู่รัก ข้าวใหม่ปลามัน บางครั้งพี่แสงก็เอาแต่ใจขี้อ้อน หาเศษหาเลยจนผมได้แต่ส่ายหน้าอย่างอาย ๆ ผู้คนที่ผ่านไปมาต่างมอง ส่งยิ้มให้ผมอย่างยิ้มๆ รวมถึงพี่แสงเช่นกัน บางคนเข้ามาขอถ่ายรูป พี่แสงปฏิเสธตลอด เรียกได้ว่าช่วงเช้าเป็นช่วงเวลาของผมกับพี่แสงก็ว่าได้ ผมมาถึงที่พักก่อนเวลาก็เข้าบ้านพักที่พี่แสงจองเอาไว้ที่พักเป็นเชิงรีสอร์ท มีเป็นหลัง ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ จะแยกกันอยู่ หลังละประมาณสี่ถึงห้าคนมีเพียงแค่ผมที่แยกมานอนกับพี่แสงสองคนระหว่างที่เก็บเสื้อผ้าอยู่ก็มีมือดีกอดผมจากข้างหลัง เอาหน้ามาเกยไหล่ “พี่แสงจะทำอะไรครับ” “อยากกอดเมียอยากฟัดเมีย” คำตอบที่เล่นเอาผมอึ้งผมพยายามจะแกะมือกาวออกแต่ก็ไม่เป็นผล พี่แสงใช้ปากคลอเคลียอยู่ที่แก้มและซอกคอผมจนผมเริ่มมีอารมณ์ ~ถ้าหากว่ารักมันทำให้ใจต้องเจ็บก็ทิ้งมันไปตามหารักใหม่~ เสียงสวรรค์ช่วยชีวิตผมเมื่อโทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมจึงรีบผลักตัวและตรงดิ่งไปรับโทรศัพท์ทันทีทำเอาคนตัวใหญ่มองผมมาอย่างคาดโทษ “ผมต้องรีบออกไปแล้วเพื่อนกับรุ่นน้องมาถึงแล้วครับ” “shit! กิจกรรมบ้าไรวะ” เสียงคนเอาแต่ใจจอมหื่นกามบ่นตามหลังผม ผมได้แต่ยิ้มปนขำอยู่อย่างนั้น เมื่อผมมาถึงจุดนัดพบหลังจากที่เด็ก ๆ และเพื่อน ๆ นำของไปเก็บเรียบร้อยก็มานั่งประชุมทำกิจกรรมนันทนาการก่อนจะแบ่งกลุ่มกันร่วมทำกิจกรรมที่ได้จัดขึ้นมา อาทิแข่งว่ายน้ำไปเอาธง หรือวิ่งวิบาก แต่ละเกมทั้งเหนื่อยและบนสนุก ผมอยู่ทีมสีแดงเป็นพี่เลี้ยงที่จำเป็นต้องเข้าร่วมเล่นกับน้อง ๆ ด้วย ส่วนพี่แสงก็นั่งมองมาที่ผมส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้ตลอด หลังจากที่สนุกกับกิจกรรมช่วงบ่ายต่างคนก็ต่างอาบน้ำอาบท่า เพื่อเตรียมตัวชุมนุมรอบกองไฟ กิจกรรมการแสดงจากปีสองและโหวตประธานรุ่น ขวัญใจ ดาว และเดือนของภาคโชคดีของผมที่ผมอ้างว่าต้องเตรียมตัวออกไปทำกิจกรรมจึงสามารถรอดพ้นจากการเป็นเหยื่ออันโอชะของเสือตัวร้ายที่กำลังมองผมอย่างคาดโทษไปได้มีหวังหลังจบรับน้องผมต้องโดนจัดหนักจัดเต็มจนไปเรียนไม่ได้อีกแน่ถ้าท้องได้เหมือนพี่ไม้ ผมคงลูกดกไปนานละ พูดถึงพี่ไม้ผมเคยเจอพี่เข้ากับคุณก้องภพเดินเล่นอยู่กับลูก ๆ สี่คน ผมได้ฟังก็ตกใจไม่คิดเลยว่าพี่ไม้จะสามารถท้องได้ และดูท่าพี่ไม้จะมีความสุขชีวิตคู่มากจนผมอิจฉา พี่แสงที่เห็นอย่างนั้นทำให้ความบาดหมางในใจหมดลงไปทันที กิจกรรมรอบกองไฟกับคุณแฟนขี้หวงที่ตามติดนั่งประชิดจนไม่มีใครสนใจเพราะชินกับพฤตกรรม พ่อหวงลูกชายดั่งไข่ในหิน กิจกรรมดำเนินไปอย่างหรรษาการแสดงที่ทำเอาพวกผมอายแทน หลังจากนั้นก็มีการเลือกประธานรุ่น และตำแหน่งต่าง ๆพวกผมกับรุ่นน้องบางคนก็มานั่งรอบกองไฟ ร้องเพลง เล่นเกมที่นิยมกัน โดยใช้ขวดเหล้าเปล่าๆ หมุน เมื่อหยุดที่ใคร คนนั้นจะโดนคนที่หมุนขวดถามคำถาม ถ้าไม่ตอบก็ต้องกินเหล้าที่ถูกผสมขึ้นมาหมดแก้วและแล้วขวดใบนั้นก็มาหยุดอยู่ที่ผม และคนถามก็ไม่ใช่ใคร เป็นน้องต้าน้องรหัสของเพื่อนผมที่ออกจะเป็นสาวนิด ๆ “พี่สนครับ ทำไมพ่อพี่สนถึงหวงพี่สนขนาดนี้ล่ะครับ” เป็นคำถามที่ทำเอาทุกคนนิ่งเงียบมันเป็นเรื่องน่าแปลกและไม่ควรถาม ทำเอาผมนิ่งเงียบ เป็นคำถามที่ผมไม่อยากจะตอบเลยการที่พี่แสงมานั่งคุมอยู่แบบนี้ตลอด ทำให้บางทีก็อดสงสัยไม่ได้ หวงจนเหมือนคู่รักตามติดแฟนก็ไม่ปานและดูท่าต้าจะสนใจพี่แสงมากเป็นพิเศษ บางทีก็ไปนั่งชวนคุย เหมือนพยายามเข้าหาตลอดเวลาทำเอาผมเริ่มหึงบ้าง แต่เพราะพี่แสงห่วงและหวงผมมากจึงไม่ได้สนใจอะไร ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบยังไงดีเพราะผมก็ปีสองแล้วด้วย มันยากที่จะมีผู้ปกครองตามไปทุกที่แบบนี้ “ลูกชายคนเดียวพ่อหวงเป็นธรรมดา” เสียงพี่แสงตอบแทนผมแต่บางสิ่งบางอย่างกลับไม่ทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้น “แต่พี่สนโตแล้วนะครับพ่อไม่ลองหาคนรู้ใจสักคนเหรอครับ อีกหน่อยพี่เขาต้องแต่งงานระวังอยู่ตัวคนเดียวนะครับบบ” ถ้าให้พูดตรงๆ นะครับ คือ คำว่า ยุ่ง! ไม่หน้าด้านก็ถามไม่ได้นะเนี่ยผมพอจะรู้ชื่อเสียงเรียงนามของน้องมาบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นจริงแต่พอเริ่มสังเกตอากับกิริยาแล้วดูท่าว่าจะเป็นจริง น้องเป็นคนที่ค่อนข้างแรงและชอบอ่อยหลายคนไม่เว้นแม้แต่เพื่อน และรุ่นพี่ในคณะ บางคนก็เสร็จน้องเขาไปแล้วหลายคนเล่าให้ฟังว่า น้องคนนี้อันตรายใช่ย่อย ใครที่มีแฟนแล้วอย่าไปเข้าใกล้เพราะหลายคู่ต้องเลิกราไปเพราะน้องเขา ผมเองก็เริ่มหวั่นใจ “ใครกล้ามาจีบก็ลองดูพ่อจะฆ่าให้” พี่แสงพูดจริงจังไม่ล้อเล่น ยิ่งทำให้บรรยากาศดูผิดแปลกขึ้นไปอีก ดูเหมือนสถานการณ์ไม่เป็นใจเพื่อนผมจึงอาสามาร่วมกันร้องเพลง สนุกเฮฮา แทนการเล่นตอบคำถามเมื่อกี้แต่สิ่งที่ผมรู้สึกตะหงิดมากที่สุดคือการที่ต้าเข้าไปใกล้ ตีตัวสนิทกับพี่แสงของผมพยายามอ่อย เวลาที่พี่แสงไปตักอาหาร เจ้าเด็กนั่นก็ลุกขึ้นไปตัก แกล้งทำเป็นมือชนทำเป็นเบียดจนผมรู้สึกหงุดหงิด เพื่อนผมที่เห็นก็บอกว่าดูเหมือนมันจะถูกใจพ่อมาก หลังจากนั่งดื่มนั่งเล่นเกมกันอย่างสนุกสนานก็ถึงเวลาที่ต้องแยกย้ายกลับที่พัก พี่แสงที่แยกตัวไปคุยโทรศัพท์เรื่องธุรกิจโรงแรมบังเอิญตอนที่เจอกับคุณก้องภพ ได้ถามไถ่เรื่องงาน พ่อจึงเสนออยากจะเป็นหุ้นส่วนด้วยซึ่งคุณก้องภพก็อนุญาตเพราะเห็นว่าพี่แสงเองก็ดูเหมือนจะมีหัวการค้าพอสมควร ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยได้เจอไม้พี่เขาต้องคอยเลี้ยงลูก แต่ดูแล้วคุณก้องภพท่าจะหวงและห่วงพี่ไม้มาก น่าจะมากกว่าพี่แสงด้วยซ้ำไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ง่าย ๆ เลย ขนาดผมสนิทกับพี่ไม้ยังโดนสายตาหวงก้างส่งมาต่างจากพี่แสงที่ไม่ได้ว่าอะไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ไม้และพี่เขาก็เช่นกัน ผมเดินหาพี่แสงไปสักพัก ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนปกติถ้าคุยเสร็จจะโทรหาแล้ว ผมพยายามติดต่อแต่ก็ขึ้นฝากข้อความตลอดเวลา “อ่า...ซี๊ดดด...” เสียงครางดังกระเส่ามาแถวโขดหินไม่ต้องเดาน่าจะรู้ว่ามีกิจกรรมอะไรกันแต่เสียงที่ครางออกมากลับเป็นเสียงที่ผมคุ้นเคย หัวใจเริ่มสั่นไหวมากขึ้นเรื่อย ๆไม่รู้อะไรดลใจให้ผมค่อย ๆ ก้าวเท้าเข้าไปช้า ๆ ชะโงกหน้าออกไปเห็นเงาสองร่างร่างหนึ่งยืนขึ้นพิงโขดหิน อีกร่างคุกเข่ากำลังปรนเปรอให้อีกฝ่ายอย่างเต็มที่ “พี่แสง” เสียงรอยแตกค่อยๆดังขึ้นที่หัวใจ สิ่งที่ผมเห็นคือพี่แสงกำลังโดนเจ้าต้าดูดควยอยู่ฝ่ามือจับที่หัวของต้าขยับเข้าออกอย่างเร็วและแรง คำว่ารักที่พร่ำบอก คำสัญญาที่ให้ไว้จนทำให้ผมเชื่อใจและมั่นคง ทุกอย่างกลับพังทลายลง ที่ผ่านมามันคืออะไรกัน ในหัวผมหนักอึ้งหัวใจได้แต่ร่ำไห้ที่เห็นคนที่ผมรักหมดหัวใจกำลังแอบมาพลอดรักกับรุ่นน้องปีหนึ่งที่ร่ำลือกันเหมือนเลือดภายในร่างกายค่อย ๆ จางหาย เรี่ยมแรงถูกสูบออกไปหมด น้ำตาผมค่อย ๆไหลลงมาเรื่อย ๆ ผมไม่เข้าใจ พ่อเห็นผมเป็นตัวอะไรกันแน่ถึงได้ทำกับผมแบบนี้ผมมีค่าอะไรในสายตาพ่อบ้าง ทุกคำที่พูดออกมาเป็นเพียงแค่เสียงเป็นเพียงแค่ลมปากใช่ไหม หรือว่าเพราะผมเป็นลูก พ่อก็เพียงอยากจะให้ผมอยู่กับพ่อกลัวตัวเองไม่มีใครงั้นเหรอ เราเป็นพ่อลูกกัน คำ ๆ นี้วนเวียนกลับเข้ามาอีกซ้ำสองผมไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาพ่อแอบไปมีอะไรกับใครมาอีกหรือเปล่า แค่คิด ความโกรธความเจ็บปวดก็หลั่งออกมาจนผมไม่สามารถยืนอยู่ได้ ผมค่อย ๆ เดินออกมาจากตรงนั้นและวิ่งไปออกไปให้ไกลที่สุด จนมาชนกับใครบางคนก่อนจะถูกดึงข้อมือรั้งเอาไว้ “ไอ้สน!มึงเป็นอะไร!!!” เสียงเจ้าต่อเพื่อนสนิทที่สุดของผมตั้งแต่เรียนโรงเรียนและสอบเข้ามหาวิทยาลัยและคณะเดียวกันมันเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องระหว่างผมกับพ่อพ่อแสงเป็นคนบอกมันและให้มันช่วยจับตาดูว่ามีใครมายุ่งหรือมาจีบผมบ้างพอผมเห็นมันผมกอดมันและร้องไห้ใช้ไหล่มันซับน้ำตาอย่างหนัก มันไม่ได้พูดอะไรได้แต่เงียบกอดปลอบอยู่อย่างนั้น บันทึกพิเศษ: พ่อแสง ช่วงทำกิจกรรมของสนผมได้แต่นั่งมองใบหน้านั้นอย่างหลงใหล รอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสุขที่ทำให้ผมหลงรักถ้าไม่ติดว่าเสื้อผ้าที่ใส่มันเริ่มบางทำให้เห็นเลือนร่างจนผมเริ่มโมโห หงุดหงิด ร่างนั้นเป็นของผมคนเดียวและผมไม่ต้องการให้ใครอื่นมองด้วย รู้งี้ผมจัดเสื้อผ้าให้เองดีกว่าขนาดบอกให้ใส่มิชิดเสื้อก็ยังบางอีก อยากจะลงโทษให้เข็ด สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมไม่สบอารมณ์คือผมถูกเจ้าตัวห้ามมีอะไรด้วย เพราะไม่อยากให้ใครเห็นรอยแดง และมันจะดูผิดปกติผมได้แต่ทำใจ ข่มใจเอาไว้ รอวันกลับถึงบ้านจะเอาให้น่วมไม่ต้องไปเรียนสักอาทิตย์สองอาทิตย์เลย ระหว่างที่ทำกิจกรรมรอบกองไฟเจ้าต้ารุ่นน้องสนพยายามเข้ามาทำตัวลุ่มล่าม อ่อยผมสารพัดทั้งวัน แต่ผมไม่เล่นผมบอกแล้วว่าผมเลิก ผมมีแค่สนคนเดียวเท่านั้นและเป็นคนเดียวที่ทำให้ผมมีความสุขและอุ่นใจจนใครอื่นก็ไร้ความหมายเมื่อกี้เจ้าต้าก็เล่นถามคำถามที่คนปกติไม่ควรถาม ผมพอจะรู้ว่าเด็กนี่เป็นยังไงพอมองคนออก ยิ่งได้มาทำธุรกิจร่วมกับก้องภพ ทำให้ผมได้รู้อะไรมากขึ้นผมเห็นเจ้าตัวเล็กของผมกำลังสนุกสนานจึงขอตัวเดินออกไปคุยเรื่องธุรกิจโรงแรมที่กำลังคิดโปรโมชั่นสร้างรายได้ให้กับธุรกิจมากขึ้นคุยไปได้สักพัก ก้องภพก็ขอตัวไปดูแลไม้ที่ตอนนี้เริ่มตั้งท้องลูกคนที่ห้ากำลังแพ้ท้องอย่างหนักใครจะไปคิดว่าผู้ชายจะท้องได้ ถ้าสนท้องได้ก็ดีสิครับ ลูกดกพอ ๆ กันแน่นอน ฮ่า ๆ ๆ โทรศัพท์ผมแบตหมดพอดีผมจึงเก็บและกำลังจะกลับไปหาเจ้าตัวเล็ก แต่ก็มาเจอกับต้า เด็กแก่แดดเกินตัวแต่งตัวกางเกงขาสั้น เสื้อกล้ามสีขาวเดินมาหาผม “เรามาทำอะไรที่นี่ไม่ไปกินกับเพื่อน ๆ พี่ๆ เหรอ” ผมเอ่ยถามอย่างมีมารยาท “ผมเบื่อครับเลยออกมาสูดอากาศข้างนอก” ต้าพูดพร้อมกับส่งสายตามาให้ผมอย่างเย้ายวนแต่ผมไม่ได้คิดอะไรด้วยจึงเดินผ่านแต่ก็ถูกมันรั้งเอาไว้ด้วยการแกล้งเซล้มทำให้ผมต้องรีบคว้าเอาไว้ “ไม่เป็นไรนะ” มันไม่ได้พูดอะไรสบตากับผมก่อนจะค่อย ๆ เอาริมฝีปากแตะปากผม ผมไม่ยอมให้มันมากไปกว่านี้จึงผลักออกทันที “อย่าทำแบบนี้พ่อไม่ชอบ” “ทำไมล่ะครับพ่อแสงยังไม่มีใคร ให้ผมช่วยพ่อแสงก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” “พ่อไม่ได้อยากหาแม่ใหม่ให้สน” “แต่ควยพ่อก็นูนขึ้นมาแล้วนะครับ” มันพูดพร้อมกับเอามือมาลูบคลำที่ควยของผมจนมันลุกขึ้นมาผมเริ่มรู้สึกเสียงมากขึ้นฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ผมนั่งดื่มกับเพื่อนสนและดื่มแทนเพราะไม่อยากให้สนเมากลับเริ่มแสดงฤทธิ์ด้วยความที่ผมไม่ได้มีอะไรกับสนมาสองสามวัน จึงทำให้อารมณ์ผมถูกปลุกเรื่อย ๆจนไม่ทันได้รู้ตัว ผมก็ถูกเจ้าต้านั่งคุกเข่าดูดควยผมอย่าเสียวกระเส่า “อ่า...ซี๊ดดด...” ผมเริ่มใช้มือจับที่ศีรษะมันขยับเข้าออกและเริ่มแอ่นควยเข้าไปช้าๆ “ควยพ่อแสงโคตรใหญ่แบบนี้เย็ดมันแน่นอน” มันพูดก่อนจะก้มไปดูดเลียต่อที่พวงไข่สองข้างมือเริ่มชักเข้าชักออก และก็กลับมาครอบควยผมอีกครั้ง ลิ้นยังคงหมุนวนภายในปากควยผมเสียดสีในโพรงจนทำให้ผมเสียวมาก ไม่ได้แปลกใจเพราะผมพอจะทราบว่าเด็กคนนี้ผ่านงานมาเยอะมาก ผมกระแทกเอวเข้าออกอยู่อย่างนั้นเสียงครางดังขึ้นเรื่อย ๆ แต่ชั่วแวปหนึ่งใบหน้าของสนกลับลอยเข้ามาในหัวจนผมต้องรีบชะงักมองลงไป เด็กคนนี้ไม่ใช่สน ทำให้ผมเริ่มหมดอารมณ์และรีบผลักไอ้เด็กนี่ออกไปอย่างแรงจนลมอยู่บนพื้นทรายที่มีคลื่นไหลผ่านไปผ่านมาเรื่อยๆ ควยที่ตั้งตระหง่านเริ่มหดลงและผมก็รีบเก็บมันเข้ากางเกงทันที รู้สึกผิดเป็นบ้า “พ่อแสงต้าเจ็บ...” “อย่ามายุ่งกับกูอีก!! ไม่ต้องมาช่วยกู!!อย่าหาว่ากูไม่เตือน!!” ผมตะคอกเสียงดังทำเอาไอ้เวรนั่นเงียบผมไม่สนอะไรเดินออกมาจากที่แห่งนั้นทันที ในใจคิดถึงแต่สน รู้สึกผิดที่เผลอไผลเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้อารมณ์ผมเริ่มพลุกพล่านผมรู้สึกผิดอย่างเต็มอก ทั้งที่สัญญากับสนเอาไว้ว่าจะรักและจะซื่อสัตย์กับสนคนเดียว ผมกลับไปที่เดิมปรากฏว่าเด็ก ๆ ต่างเข้าที่พักหมดแล้ว ผมจึงรีบกลับมาที่พักของผมประตูยังล็อคอยู่ทำเอาผมแปลกใจจึงใช้กุญแจไขเข้าไปก็เจอแต่ความว่างเปล่าสนยังไม่กลับมาที่ห้องหรือว่าจะไปกินต่อที่บ้านเพื่อน พอคิดอย่างนั้นก็เริ่มร้อนรนโทรศัพท์ก็ดันแบตหมด ผมจึงรีบเดินออกมาตามหา และคงจะมีที่เดียวสนจะไป...ห้องต่อ!! จบบันทึกพิเศษ: พ่อแสง ผมเล่าให้ต่อฟังเรื่องที่เจอทำเอาต่อโมโหหนักแต่ก็พยายามสะกดอารมณ์และอนุญาตให้ผมมานอนค้างกับมันคืนนี้ผมไม่ได้ไปเอาเสื้อผ้าจากห้อง เพราะไม่อยากจะเห็นหน้าคนหลอกลวงคนนั้นอีก ผมนั่งซึมกินเหล้ากับเพื่อน ๆ ในห้อง ห้องหนึ่งสำหรับรุ่นพี่จะมีประมาณห้าถึงหกคนโชคดีที่มีต่ออยู่ด้วย ไม่งั้นผมคงเผลอหลุดพูดอะไรไปเพราะความเมาแน่ ๆแต่อย่างน้อยเหล้า แอลกอฮอล์น่าจะช่วยให้ผมลืมความเจ็บไปได้ ผมดื่มไปได้สักพักก็มีเสียงเคาะประตูต่อจึงเดินไปเปิด “พ่อแสง!” “สนอยู่ที่นี่ใช่ไหม” เสียงจากคนหลอกลวงดังขึ้นมาผมไม่กล้าหันไปมอง ไม่อยากเจ็บปวดครั้งแล้วครั้งเล่ากับคำพูดจอมหลอกลวง แต่แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกมีคนมายืนข้างหลังผม ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นใคร บรรยากาศในวงเริ่มตึงเครียดมากขึ้น “สนเลิกกินกลับได้แล้ว” “ไม่เอาสนไม่กลับ” “สน” พ่อเริ่มดุผมทีผมจะทำอะไรก็ห้าม แต่ทีตัวเองทำกลับไม่รู้สึก “สนไม่กลับ” “สนอย่าดื้อสิพ่อบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ดื่ม” พ่อเริ่มกดเสียงต่ำมากขึ้นเรื่อยๆ แต่มันไม่เป็นผลสำหรับผมหรอก ทีพ่อยังแอบไปมีอะไรกับต้า นอกใจผม หลอกใช้ความรักความเชื่อผมครั้งแล้วครั้งเล่า ผมควรจะมาสำนึกอะไรแบบนี้เหรอ นี่มันชีวิตผมนะ “พ่อไม่ต้องมาสนใจผมผมว่าพ่อรีบไปหาต้าดีกว่า” คำพูดนั้นทำเอาพ่อเงียบพอถูกจับได้ ไปไม่เป็นเลยล่ะสิ แต่แล้วจู่ ๆก็รู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้ก่อนจะรู้ว่าผมโดนพ่อแสงช้อนตัวขึ้นมา “พ่อจะทำอะไรปล่อยสน!” “พ่อขอพาสนกลับก่อนนะและทีหลังอย่าให้สนดื่มอีก ไม่งั้นพ่อจะเอาเรื่อง” พ่อพูดข่มขู่ไม่ได้ล้อเล่นก่อนจะเดินพาผมออกมาโดยไม่ฟังเสียงประท้วงใด ๆ เลยทั้งสิ้น สุดท้ายผมก็โดนพ่อแสงวางลงที่เตียงอย่างเบามือก่อนจะถูกคนหลอกลวงตรึงมือทั้งสองข้างและทับตัวผมไว้ “เราเห็นใช่ไหม” ผมไม่ตอบยิ่งพูดก็ยิ่งนึกถึง น้ำตาผมเริ่มคลอ “เข้าใจผิดแล้ว” “เข้าใจผิด?เข้าใจผิดอะไรเหรอครับ เข้าใจผิดเรื่องที่พ่อบอกว่ารักผม มีแต่ผมงั้นเหรอครับ” “ไม่ใช่...” “ไม่ใช่เรื่องโกหกใช่ไหมครับ” “เราเมาใหญ่แล้วนะบอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ดื่ม” “พ่อไม่ต้องมายุ่งพ่อเอาเวลาไปหา...อื้อ!!” ยังไม่ทันพูดจบผมก็โดนพ่อบดจูบสอดลิ้นเข้ามาหยอกล้อข้างในปากผมอย่างดุดัน แต่กลับรู้สึกเจ็บปวดน้ำตาไหล “พ่อทำแบบนี้ทำไมพ่อไม่ควรจะจูบผม” “พ่อไม่ได้มีอะไรกับต้า” “เหรอครับแต่สิ่งที่ผมเห็นไม่ใช่ มันกำลังดูดควยและพ่อก็กำลังเคลิ้มแบบนั้นเรียกว่าอะไรครับอุบัติเหตุเหรอ? หรือเพราะเมาไม่ได้สติ?” “สนตั้งสติฟังพี่ก่อน ตอนนั้นพี่กำลังจะกลับแต่เจ้าเด็กนั่นเข้ามาอ่อยพี่ พี่ขอโทษแต่พี่กับมันไม่ได้มีอะไรกัน พี่ขาดสติ แต่สุดท้ายพี่ก็ผลักมันออก...” “ขาดสติเหรอครับแล้วพ่อจะขาดสติอีกกี่ครั้งเหรอครับถึงจะได้มีสติ” “พี่ขอ...” “ไม่ต้องมาขอโทษผมได้ยินมามากเกินพอแล้ว ปล่อย! ผมจะไปนอนกับเพื่อนเชิญพ่อหาความสุขใส่ตัวเองให้พอเถอะ” ผมพูดเสร็จก็ใช้แรงทั้งหมดผลักพ่อออกไปทันทีและวิ่งออกจากห้องไปพักที่ห้องของต่อโดยไม่สนใจว่าพ่อจะเป็นยังไงทั้งนั้นในเมื่อพ่อเป็นคนเลือกที่จะเป็นอย่างนี้ อยากจะหลอกลวงผมต่อไปแบบนี้ผมไม่มีทางกลับไปหา ต้องตัดใจให้ได้ ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเขาแค่ต้องการที่ระบายอารมณ์ก็เท่านั้น
|