สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
บรรยากาศรับสมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงวันแรกคึกคัก บรรดาผู้สนันสนุนพรรคการเมือง ตลอดจนสื่อมวลชนทุกสำนักแน่น ด้านตำรวจ รปภ. เข้ม
บรรยากาศที่สนามไทย - ญี่ปุ่น ดินแดง ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ระหว่างวันที่ 19-23 พฤษภาคม 2554 ในขณะนี้เป็นไปอย่างคึกคักโดยเริ่มมีบรรดากองเชียร์ของพรรคต่าง ๆ เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังชน เดินทางมาให้กำลังใจให้กับว่าที่ผู้สมัครจากพรรคที่ตัวเองชื่นชอบ พร้อมกันนี้ได้มีรถหาเสียงของพรรคต่าง ๆ จอดรอบริเวณด้านหน้าของสถานที่รับสมัครกันเป็นจำนวนมากเช่นกัน รวมไปถึงมวลชนจากหลายสำนักก็ทยอยเดินทางมาเพื่อเฝ้ารอการทำข่าวกันอย่างใกล้ชิด
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยนั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจวางกำลังตามจุดต่าง ๆ อย่างเข้มงวด รวมถึงมีการตั้งด่านตรวจความเรียบร้อยเพื่อป้องกันสิ่งแปลกปลอมและบุคคลที่อาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ได้
อย่างไรก็ตาม การจราจรบริเวณด้านหน้าสนามไทย - ญี่ปุ่นดินแดงในขณะนี้ยังมีปริมาณรถไม่มากนัก สามารถเคลื่อนตัวได้
ขณะที่ ขั้นตอนการเปิดรับสมัครเมื่อหัวหน้าของพรรคการเมือง หรือผู้ที่มาถึงการเปิดรับสมัครก่อนเวลา 08.30 น. จะมีการลงชื่อในสมุดลงเวลาตามลำดับก่อนหลัง แต่หากมีพรรคการเมืองที่มามากกว่า 1 พรรคการเมือง ที่มาก่อนเวลา 08.30 น.หลายพรรค ให้ถือว่า พรรคการเมืองเหล่านั้น มาถึงเวลาพร้อมกัน ซึ่ง กกต. จะจัดประชุมหัวหน้าพรรคการเมือง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเพื่อเป็นการตกลงว่า พรรคการเมืองใด จะยื่นบัญชีรายชื่อลำดับก่อนหลัง ซึ่งหากไม่สามารถตกลงกันได้ กกต. จะใช้วิธีในการจับสลาก โดยประธาน กกต. จะเป็นผู้จับสลากในภาชนะพลาสติกทรงกลม ที่มีชื่อของพรรคการเมืองอยู่ทุกพรรค ว่า พรรคใดจะได้ลำดับก่อนหลัง โดยหมายเลขของพรรคการเมือง จะเป็นหมายเลขเดียวกับ ส.ส. แบ่งเขตในพรรคการเมืองนั้น ๆ ด้วย
จากนั้นเมื่อพรรคการเมือง ยื่นบัญชีรายชื่อผู้สมัครและเอกสารครบถ้วนแล้ว ต้องมีการชำระค่าธรรมเนียมผู้สมัครรายละ 5,000 บาท เมื่อชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว กกต.ก็จะออกใบรับสมัครให้กับพรรคการเมือง เพื่อเป็นหมายเลขประจำพรรค ทั้งนี้ในกรณีที่พรรคการเมืองมายื่นบัญชีรายชื่อภายในเวลาปกติ คือ 08.30 น. - 16.30 น. จะเป็นลำดับหมายเลขของผู้สมัครต่อจากพรรคการเมือง ที่มีการจับสลากไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันนี้มีพรรคการเมืองเดินทางมาสมัคร 28 พรรค แต่พรรคพลังคนกีฬา และพรรคชีวิตที่ดีกว่ามีเอกสารการรับสมัคร รวมถึงค่าธรรมเนียมในการรับสมัครไม่ครบถ้วน ทาง กกต.จึงต้องตัดรายชื่อทั้ง 2 พรรคออก ให้เหลือจับสลากหมายเลขเพียง 26 พรรคเท่านั้น
ทั้งนี้ ผลการจับสลากในวันแรกปรากฏว่า พรรคเพื่อไทยได้เฮ เมื่อนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ จับสลากได้หมายเลข 1 ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จากพรรคประชาธิปัตย์ จับสลากได้หมายเลข 10 ส่วนพรรคอื่น ๆ พรรคการเมืองใหม่จับสลากได้หมายเลข 20 พรรคพลังมวลชนได้หมายเลข 9 ขณะที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย จับสลากได้หมายเลข 5 นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จับสลากได้หมายเลข 16 พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ จับสลากได้หมายเลข 26
โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดงว่า ขณะนี้เหตุการณ์ได้ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย โดยต่อจากนี้ ก็จะเป็นการมุ่งสู่การพูดคุยกับประชาชนว่า แต่ละพรรคจะเดินหน้าอะไร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์นั้น จะอาสาเดินหน้าประเทศไทย ในการที่จะเร่งแก้ปัญหาที่สำคัญ ทั้งปัญหาของปากท้องและปัญหายาเสพติด
ส่วนกรณีที่ตนเองจับฉลากได้หมายเลข 10 จะมีผลอะไรหรือไม่นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะประชาชนที่ติดตามข่าวสารอยู่ชอบพรรคไหน ก็จะรู้หมายเลขอยู่แล้วไม่ยาก โดยมองว่า พรรคที่ได้ตัวเลขต่ำกว่า 10 นั้น มันก็แค่ช่วยทำให้หาเสียงง่ายขึ้นเท่านั้นเอง
ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนรู้สึกพอใจกับหมายเลข 1 ที่ได้ โดยนับว่า เป็นนิมิตหมายที่ดีตามที่ตั้งใจไว้ ซึ่งก็จะช่วยทำให้การรณรงค์หาเสียงนั้นง่ายขึ้น ซึ่งเลข 1 สำหรับคนไทยถือว่าเป็นเลขที่ดี แต่ทั้งนี้ เรื่องหมายเลขก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการตัดสินใจของประชาชน
ด้านนายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวภายหลังจากการจับหมายเลขประจำพรรค เพื่อใช้หาเสียงเลือกตั้งว่า หมายเลข 21 ถือเป็นเลขที่ดี และยังเป็นลำดับที่ของนายบรรหาร ศิลปอาชา ที่เคยดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของไทย ทั้งนี้ ลำดับที่ 21 ไม่มีผลกับการหาเสียงการเลือกตั้ง เพราะขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัคร
อย่างไรก็ตาม พรรคตั้งเป้าที่จะได้ ส.ส.เท่าเดิม คือ ระบบบัญชีรายชื่อ 6 คน และระบบเขต 29 คน ขณะเดียวกัน เห็นว่าการเลือกตั้งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นไปสู่การยุติปัญหา โดยพรรคยืนยันจะเดินหน้าสร้างนโยบายปรองดองในชาติ และแก้ปัญหา 2 มาตรฐาน
ขณะที่นายสุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคกิจสังคม กล่าวว่า หมายเลข 14 ที่พรรคจับได้ถือว่าเป็นเลขดี และเป็นเลขมงคล ทั้งนี้ การเลือกตั้งพรรคส่งผู้สมัครระบบบัญชีรายชื่อครบ 125 คน และระบบเขตของกรุงเทพมหานคร 33 เขต ซึ่งมั่นใจว่า พรรคจะได้ ส.ส. มากกว่าครั้งก่อน ขณะเดียวกัน ระบุว่า พรรคจะทำการเมืองให้เดินไปข้างหน้า และอยากเห็นประชาชนเปลี่ยนแนวคิดทางการเมือง เพราะไม่เช่นนั้น การเมืองก็จะวนอยู่กับที่ ดังนั้นถ้าไม่อยากเห็นการเมืองเป็นแบบเดิม ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เช่นเดียวกับพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าพรรคมาตุภูมิ กล่าวว่า ไม่ได้ถือที่พรรคจับสลากได้ลำดับที่ 26 ซึ่งเป็นลำดับสุดท้าย เพราะไม่มีผลอะไร ทั้งนี้ ทางพรรคก็จะเดินหน้าลงพื้นที่หาเสียง โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครราชสีมา
สรุปหมายเลขประจำตัวพรรคการเมือง
หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย
หมายเลข 2 พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน
หมายเลข 3 พรรคประชาธิปไตยใหม่
หมายเลข 4 พรรคประชากรไทย
หมายเลข 5 พรรครักประเทศไทย
หมายเลข 6 พรรคพลังชล
หมายเลข 7 พรรคประชาธรรม
หมายเลข 8 พรรคดำรงไทย
หมายเลข 9 พรรคพลังมวลชน
หมายเลข 10 พรรคประชาธิปัตย์
หมายเลข 11 พรรคไทยพอเพียง
หมายเลข 12 พรรครักษ์สันติ
หมายเลข 13 พรรคไทยเป็นสุข
หมายเลข 14 พรรคกิจสังคม
หมายเลข 15 พรรคไทยเป็นไทย
หมายเลข 16 พรรคภูมิใจไทย
หมายเลข 17 พรรคแทนคุณแผ่นดิน
หมายเลข 18 พรรคเพื่อฟ้าดิน
หมายเลข 19 พรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
หมายเลข 20 พรรคการเมืองใหม่
หมายเลข 21 พรรคชาติไทยพัฒนา
หมายเลข 22 พรรคเสรีนิยม
หมายเลข 23 พรรคชาติสามัคคี
หมายเลข 24 พรรคบำรุงเมือง
หมายเลข 25 พรรคกสิกรไทย
หมายเลข 26 พรรคมาตุภูมิ