เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 45
$ C9 E m' i7 C2 E9 q5 F' S
8 ?- M9 d z. `- v3 Q$ N1 N% P; V
เย็นวันศุกร์ที่บ้าน “บอลแม่ว่านานแล้วนะที่ลูกพูดไม่ออก แม่ว่ามันผิดปกติแล้วนะ” คำพูดนี้ทำให้ผมคิดกลัวกลัวว่าผมจะเป็นใบ้เลยอ่ะ “อย่าคิดมากนะลูก พ่อว่าเรารักษาที่โรงพยาบาลไม่หายหรอก” ใช่ครับผมเทียวเข้าเทียวออกจากโรงพยาบาลมาสองอาทิตย์แล้วผมยังพูดไม่ออกเลย พ่อพูดแบบนี้ ผมจึงรีบเขียนข้อความถามท่าน /พ่อครับรักษาแบบไหนครับ ผมอยากหาย/ “บอลพ่อก็ไม่แน่ใจนะว่ามันจะหายไหม” พูดจบพ่อของเบนซ์ก็ทำหน้าเศร้าซึ่งผมไม่เคยเห็นท่านเป็นแบบนี้มาก่อน “บอลถ้าบอลไม่หาย บอลก็คุยได้ลูก บอลเขียนหนังสือได้นี่ลูก” “ไม่นะพ่อบอลต้องหาย พาไปรักษาที่ไหนครับ”เบนซ์จับแขนพ่อเขย่าอยากให้พ่อบอกว่ารักษาที่ไหน “พรุ่งนี้พ่อจะพาไปนะลูก ไปวัด บอลอาจจะมีเวรกรรมเก่าก็ได้” “ใช่แม่ก็ลืมเสียสนิทใจ อาจารย์วัดนั้นเก่งมากเลยนะลูก” ผมเริ่มมีความหวังขึ้นมาหน่อย ผมลุ้นในใจว่าผมต้องหายอย่างแน่นอน คืนนั้นทั้งคืนผมนอนไม่หลับ เบนซ์ก็นอนไม่หลับ ขนาดน้องเดย์จอมนอนแต่หัววันก็ยังนั่งตาค้างรอให้สว่าง ครับแล้วเวลาที่เราคอยก็มาถึง เช้าแล้วพวกเราสามคนก็รีบอาบน้ำแต่งตัว เบนซ์ก็ขับรถพาผมไปที่บ้านแม่ของเขาเพื่อเดินทางไปพร้อมกัน “พี่บอลครับพี่บอลอย่าเสียใจนะครับ พี่ต้องหายครับ” เดย์กอดผม “อ่ะถึงแล้วครับ เบนซ์จะไปเร่งคุณแม่นะบอล” เบนซ์ก้าวลงจากรถแล้วก็รีบวิ่งเข้าบ้านทันที ไม่นานพ่อกับแม่ก็เดินหิ้วของมากมายออกมา คงจะเอาไปถวายพระ แต่ท่านไม่นั่งรถไปกับเรา ท่านนั่งรถท่านไปเอง เบนซ์ก็ถามทางว่าวัดนั้นอยู่ทางไหน ไม่ใกล้เลยครับอยู่จังหวัดมุกดาหาร ตั้งเกือบ300 กิโลมั้งจากบ้านผม เบนซ์ใจร้อนเมื่อรู้ที่ ก็พาขับรถออกหน้าพ่อกับแม่อย่างรวดเร็ว เมื่อไปถึงวัดพวกเราก็พากันเดินลงจากรถ แล้วเดินตามหาอาจารย์ “กุฏินี้ล่ะ มาทำไมกันหรือ” เสียงชายแก่ๆใส่ชุดขาวบอกพวกเรา “ขอบคุณครับลุง” เบนซ์ก็พาผมเดย์เดินไปที่ที่ลุงแกบอก เมื่อไปถึงเราสามคนก็เจอพระรูปหนึ่งหน้าตายังไม่แก่เลย อายุท่านซักประมาณ 26 นี่ล่ะมั้ง พวกเราสามคนก็ก้มลงกราบท่าน แล้วนั่งกำลังจะถามท่าน แต่ท่านก็พูดอกมาก่อน “โยม ไม่โทรบอกโยมพ่อโยมแม่ล่ะ มาไม่ได้ก็ไม่ต้องมาหรอก โยมมาถึงวัดแล้ว เดี๋ยวอาตมารักษาให้” เบนซ์ทำท่างงแต่เบนซ์ก็รีบโทรตามที่อาจารย์ท่านบอก “แม่ครับ อาจารย์ท่านบอกว่ามาไม่ได้ก็ไม่ต้อง พวกผมมาถึงแล้ว ท่านจะรักษาให้ครับ” ซักพักเบนซ์ทำท่าสงสัยเอามากๆ แล้วเบนซ์ก็พนมมือไหว้จากนั้นก็ถามอาจารย์ “พระอาจารย์ครับ พ่อกับแม่ยางรถแตกคงมาไม่ได้ อาจารย์รู้ได้อย่างไรครับ” เบนซ์ทำหน้าสงสัย “ไม่รู้สินะ เอาเป็นว่าเรามาเริ่มรักษาโยมคนนี้ดีกว่านะ” ท่านก็มองมาทางผม แล้วท่านก็ถามผม “ทำไมถึงอยากตายล่ะโยม” ผมอยากตอบมากแต่ผมไม่กล้าพูดเพราะผมกลัวว่าผมจะพูดไม่ออกเบนซ์จะตอบแทนผม แต่อาจารย์ท่านยกมือห้ามไว้ “ตอบมาสิโยม” ท่านหันมาทางผม ผมก็พยายามพูด “รู้...สึกสิ้นหวัง..” ผมยิ้มผมดีใจมากที่ผมพูดได้ มันรู้สึกโล่งปากมากๆ “บอลนายพูดได้แล้ว” เบนซ์กระโดดเข้ากอดผม “พูดได้ก็ไม่ได้ความว่ามันจะหาย” จริงของท่านผมพยายามจะพูดคำว่า ผมดีใจจัง ผมก็พูดไม่ออก พยายามแล้วก็มีแต่เสียงลมที่ออกมา “นั่นไง มันยังไม่หาย โยมอยากหายมั้ยล่ะ” ผมพยักหน้ารับ “จำได้มั๊ยที่โยมไปอธิฐานอะไรไว้ที่พระธาตุพนม” ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมเคยไปอธิฐานขอพรที่องค์พระธาตุ ผมขอให้เบนซ์หายดี จากอาการบาดเจ็บคราวก่อน ผมก็รีบพยักหน้ารับ แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าท่านอาจารย์ท่านรู้ได้อย่างไร “สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นั่นคงจะคิดถึงโยม ป่านนี้ท่านคงอยากรู้ว่าสิ่งที่โยมขอมันเป็นจริงหรือยัง” ผมอ๋อขึ้นมาในใจ “ไปเถิดโยม พากันไปไหว้องค์พระธาตุพนม แล้วบอกท่านว่าโยมได้สิ่งที่ต้องการแล้ว และท่านคงคุ้มครองโยมไปอีกนาน โยมมีบุญเก่าเกี่ยวข้องกัน” ผมก็กราบท่านด้วยความซาบซึ้ง ท่านพูดคำสุดท้ายว่า โยมมีบุญเกี่ยวข้องกัน ผมไม่แน่ใจว่าผมมีความเกี่ยวข้องกับองค์พระธาตุหรือเกี่ยวข้องกับเบนซ์ “ไปเถิด หากช้าจะไม่เป็นการดี โยมรีบไปเถอะ” อาจารย์ท่านย้ำอีกคำทำเอาผมใจร้อนอยากจะไปมากๆ พอดีว่ามีคนเข้ามาแปดคนคงจะมากราบอาจารย์ ผมกับเบนซ์เดย์เลยต้องกราบลาท่าน ออกเดินทางไปที่พระธาตุพนม ขณะที่นั่งในรถผมก็ยังพูดไม่ได้ ผมนั่งคิดทบทวนว่าแล้วที่ผมตอบอาจารย์ท่านผมพูดออกมาได้อย่างไรแล้วอาจารย์ท่านรู้เรื่องได้อย่างไร ส่วนเบนซ์ก็โทรบอกแม่เรื่องที่อาจารย์ท่านรู้เรื่องอย่างระเอียดแล้วเบนซ์ก็เล่าความเป็นมาให้ผมฟัง ฟังจากแม่มาอีกที “บอล อาจารย์ท่านนี้ท่านเก่งมาก ท่านมีตาทิพย์หูทิพย์” อาจจะจริงก็ได้ครับ แต่ถ้าผมไปพระธาตุพนมแล้วผมพูดได้จริงๆ ผมจะเชื่ออย่างสนิทใจเลยล่ะ ไม่นานเราก็เดินทางไปถึงพระธาตุพนม ผมรีบเดินอย่างรวดเร็ว ผมไม่รอเบนซ์รอน้องเดย์ ไม่รู้ผมเป็นอะไร ผมบังคับตัวเองไม่ได้ เมื่อผมเดินขึ้นบันไดบริเวณฐานองค์พระธาตุ น้ำตาของผมไหลออกมา ผมไม่ได้มีเรื่องเสียใจดีใจอะไร แต่ทำไมน้ำตาผมไหล ผมรีบเดินเข้าไปตรงที่ผมเคยมาอธิฐานเมื่อครั้งก่อนผมก็นั่งลงกับพื้นกราบ พอผมกราบได้สามครั้งก็มีพระสงค์องค์หนึ่งยื่นธูปกับเทียนให้ผมผมรับจากมือท่าน ท่านยิ้มให้ผมแล้วเอ่ยถาม “โยมยังเด็กอยู่เลยนะ แต่รู้จักกราบไหว้องค์พระเจดีย์”ท่านยิ้มให้ผมก็จับเอาธูปไปจุดแล้วปักธูปจากนั้นก็กราบอีกที พระรูปนั้นยังคงยืนอยู่ข้างหลังผม เมื่อผมกราบเสร็จท่านก็ถามผมอีก “โยมกล่าวคำบูชาพระเจดีย์ได้มั๊ย” ผมก็ส่ายหน้า เกิดมาผมก็ยังไม่เคยได้สวดมนต์ซักที “งั้นโยมว่าตามอาตมานะ” ท่านก็ว่าเป็นท่อนๆ ผมก็พูดตาม จนจบ แล้วท่านก็หันมายิ้มให้ผมอีก “โยม ต้องหมั่นทำบุญทำทานให้มากๆ นะ โยมจะได้มีโอกาสช่วยเหลือค้ำจุนมนุษย์ที่กำลังหลงทางอยู่บุญบารมีของโยมนั้นมีมากนัก ต้องรู้จักพัฒนาให้มันเกิดประโยชน์นะโยมนะ” (ผมงงมากกับคำที่ท่านพูดในตอนนั้น แต่ทุกวันนี้ผมเข้าใจอย่างละเอียดแล้ว) จากนั้นผมก็ถามท่านด้วยความอยากรู้สิ่งที่ท่านบอก “พระอาจารย์ครับ แล้วผมต้องทำอย่างไรบ้างครับถึงจะดี” “ทำบุญ ถือศีล ภาวนา โยมเอ้ย ต่อไปนี้โยมจะมีชีวิตที่ผิดแปลกไปจากคนอื่น โยมจะค่อยๆเกิดสัมผัสที่หก มันจะค่อยๆเกิดขึ้นทีละน้อยๆโยมต้องหมั่นทำสมาธิ แล้วจงเอารางสังหรณ์ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์” ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี แต่พอจะจำได้ตรงที่ท่านให้ผมทำสมาธิ เพราะคำนี้ท่านย้ำเหลือเกิน ผมก็เลยยกมือไหว้รับปากท่าน “ครับผมจะทำสมาธิ” ท่านก็ยิ้มให้ผมอีก “เอา ล่ะๆ รักษาตัวเองด้วยนะ อาตมาต้องไปก่อนล่ะ” ท่านยิ้มแล้วเอามือลูบหัวผมเหมือนกันท่านเขียนตัวอักษรอะไรซักอย่างใส่หัวผม ผมรู้สึกมึนๆ หัวมาก ผมนั่งพนมมือหลับตา ผมพยายามฟังดูอาการที่ท่านสัมผัส อยากรู้ว่าท่านเขียนตัวอักษรอะไร แต่ผมก็ไม่รู้ผมคิดไม่ออก ผมก็เลยลืมตาขึ้นดูกะจะถามท่าน แต่ผมไม่เจอท่านแล้ว มีคนยืนมองผมมากมาย ผมรีบกราบพระธาตุแล้วผมก็รีบเดินตามหาเบนซ์กับเดย์วันนี้คนเยอะมากผมตามหาสองคนนั่นหายังไงก็ไม่เจอ ผมเลยตัดสินใจไปรอเดย์กับเบนซ์ที่รถประมาณ10 นาทีเบนซ์กับเดย์เดินหน้าตาตื่นมาที่รถ ผมนั่งหลบอยู่ผมรีบยืนขึ้น “อ้าวบอล!นายมาเมื่อไหร่ เราไปเดินตามหานายตั้งนานแล้ว” “เรามารอนายพึ่งจะ 10 นาทีมั้ง นายสองคนไหว้พระธาตุหรือยัง” ผมเอ่ยถามเบนซ์ เบนซ์กับเดย์ยืนงงอ้าปากค้าง ผมเองก็งงว่าทำไมสองคนนั่นอึ้งทำไม แล้วผมก็คิดออก “เฮ้ย! เราพูดได้แล้ว เบนซ์เดย์เราพูดได้แล้ว” ผมตะโกนเสียงดัง ผมดีใจมากที่ผมพูดได้ สองคนนั่นเดินมากอดผมดีใจใหญ่ แต่ผมก็ต้องหุบปากเอาไว้ก่อนเมื่อคิดขึ้นมาได้ “เราทำไมไม่ดีใจตอนที่เราได้พบอาจารย์องค์นั้นก็เราพูดได้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนี่นา” “บอลนายพูดได้นานยังวะเนี่ย” เบนซ์ถามผมหน้าตาตื่น “ก่อนจะมาที่รถ เราพึ่งออกมาเองนะ เราไปไหว้พระธาตมาแล้ว” “นายไปอยู่ส่วนไหนของพระธาตุ” เบนซ์ทำท่าซักไซ้ผม “ก็ฝั่งตะวันออกที่เราเคยมากับนายไง” “บ้าหรอ เราไปยืนรอนายตรงนั้นเกือบสองชั่วโมง ถามน้องเดย์สิ” “จริงนะพี่บอล ผมกับพี่เบนซ์ไปยืนรอพี่สองชั่วโมงกว่าซะด้วยซ้ำ” เบนซ์กับเดย์พูดแบบนี้ทำให้ผม ต้องถกเถียงเขา เพราะผมกะเวลาที่ผมเดินเข้าไปกราบพระธาตุเจอพระอาจารย์จุดธูปและกล่าวคำไหว้ แล้วเดินมาที่รถ ไม่น่าจะถึง45นาที “ไม่จริงเราไปแป๊บเดียวเอง” ผมยืนยัน “บอลนายว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว” เบนซ์เอามือเท้าเอวแล้วถามผมท่าทางจะไม่ยอมเรื่องเวลาผมก็บอกเบนซ์ตามที่ผมกะเอาไว้ “บ่าย โมงครึ่งดิ ก็เราออกจากวัดนั้น10.30 น. ไม่ใช่หรอ นั่งรถมาถึงนี่ก็เที่ยง45นาทีนี่ ตอนนี้ก็ประมาณ 13.45 อาจจะไม่ถึงซะด้วยซ้ำ” ผมยืนขึ้นตอบเบนซ์อย่างมั่นใจ “บอลครับนายบ้าไปแล้ว โอเค เรามาถึงนี่ เที่ยง45 น้องเดย์ดูนาฬิกาสิครับ” เดย์รีบเดินไปดูแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาเอาเวลาให้ผมดู ผมพูดไม่ออกแต่เบนซ์พูดบอกเวลาก่อน “ตอนนี้ มันบ่ายสามโมงแล้วคุณ” “ไม่เชื่อหรอกนายสองคนอำเราใช่ไหม” “บอลนายเดินไปถามแม่ค้าก็ได้นะว่าตอนนี้กี่โมงแล้ว” ผมต้องการตัดสินผมมั่นใจว่าผมต้องชนะเบนซ์แน่ๆ ผมรีบเดินไปถามแม่ค้า “ยายครับตอนนี้กี่โมงแล้วครับ” “15.10 นาทีจ๊ะ” ผมเดินหน้าซีดมาหาเบนซ์ เออจริงของเขานี่ผมโง่ขนาดนี้หรอ กะประมาณเวลายังผิด แต่มันก็เกิดคำถามกับผมขึ้นมากมาย ทำไมผมต้องเจออะไรที่มันแปลกๆ ตั้งสองสามอย่างด้วย ผมพยายามนั่งทบทวนตลอดทางเพื่อไขปริศนาที่ผมได้รับในวันนี้แต่ผมก็คิดไม่ออก เบนซ์กับน้องเดย์พยายามถามว่าผมเดินหายไปไหนผมก็ไม่มีคำตอบ ผมไม่อยากเล่าสิ่งที่ผมพบเห็นให้เบนซ์ฟังผมรู้สึกอึ้งมากๆ แค่เรื่องไปเจอพระอาจารย์แล้วท่านบอกให้มาพระธาตุพนมก็เป็นสิ่งที่อลังการพอแล้ว ผมเองก็คงต้องเชื่อเรื่องบุญกรรมเรื่องชาติหน้าชาติหลังเรื่องโลกทิพย์ คงจะไม่มีเหตุผลถ้าผมไม่เชื่อเรื่องนี้ “บอลครับต่อไปนี้เบนซ์จะไม่เป็นเหมือนเดิมอีกแล้วนะ” “จริงหรือเบนซ์ เบนซ์จะไม่เป็นเหมือนเดิมแน่นะ” “ครับ” เบนซ์รับปากผมอย่างมั่นใจ “เบนซ์ครับ บอลไม่ได้เป็นคนดีอะไรนะครับ” “ไม่เป็นไร เราพอจะทำใจได้แล้วล่ะ ในเวลาที่ผ่านมาเห็นบอลมีคนอื่นเบนซ์เห็นจนชินแล้ว เบนซ์จะมาหึงมาหวงกันเหมือนเดิมคงไม่ได้ แล้วก็บอลเป็นคนมีเสน่ห์เอามากๆ เรายอมให้บอลมีคนอื่นดีกว่าเสียบอลไป” ผมก็งงกับคำๆ นี้ ผมไม่สบายใจเลยที่เบนซ์จะไม่หึงผมอีกผมอยากให้เบนซ์หึงผมเหมือนเดิม “ทำไมพูดแบบนี้ บอลไม่อยากยุ่งกับคนอื่นอีกแล้วนะ” “อย่าพูดสิครับ ถึงบอลไม่ยุ่งเขาก็มายุ่งอยู่ดี” “เราจะห้ามใจตัวเองให้ได้” “บอลทำไม่ได้หรอก เชื่อเบนซ์สิ รู้ไหมทำไมเบนซ์ทำใจได้ที่บอลมีคนอื่น” “ไม่รู้สิครับ” ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าเบนซ์ไปมีคนอื่นผมทำใจไม่ได้ “บอกให้ก็ได้ครับ” เบนซ์เงียบไม่พูดต่อ “บอกมาดิ” ผมเอามือหยิกที่เอวเบนซ์ “บอกให้ก็ได้ คนอื่นเขาไม่ได้รักบอลนี่ครับมีเบนซ์คนเดียวที่รักบอลถ้าใครที่มารักบอลเหมือนที่เบนซ์รักอันนี้ไม่ยอมหรอกเบนซ์ขอสู้ตาย” ผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าเบนซ์ไม่แคร์จริงหรอเรื่องที่ผมมีหลายคน “เรามีอะไรกับหลายคนมากเลยนะเบนซ์” “บอกเรามาดิ นายจะได้สบายใจขึ้น” “พี่กอล์ฟ ตั้ม เอ็ม โอ๋ โต้ บอย เคนและน้องเดย์อีกคน นายไม่แคร์จริงๆหรอ” ผมถามเพื่อให้แน่ใจ “เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้เลย เราทำไมต้องแคร์เพราะคนทั้งหมดที่มีไรกับบอลเขาไม่ได้รักบอลเหมือนเรารัก เขาต้องการความเป็นเพื่อน ต้องการเซกส์จากตัวบอลทั้งนั้น ไม่ได้เหมือนเรา” “เบนซ์ต้องการอะไรครับ” ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่เบนซ์ต้องการจะเป็นเหมือนผมไหม “ต้องการให้บอลเป็นคนรักเป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง เป็นกำลังใจ เป็นคนที่ดูแลเป็นคนที่เราต้องดูแล เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา” “อ้าวแล้วเรื่องเซกส์เบนซ์ไม่ต้องการหรอกหรือ” ผมแกล้งแซวเบนซ์ “เรารวมอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้วครับ” เบนซ์ทำท่าเขินนิดๆ แต่สิ่งที่เบนซ์พูดตรงใจผมมาก ผมคิดเช่นนั้นเบนซ์คือคนที่ผมรักที่สุด รักยิ่งกว่าชีวิต ผมรักเบนซ์หาที่เทียบไม่ได้แต่ผมก็ยังไม่สบายใจอยู่ดีผมมีคนอื่นต่อไปนี้ผมก็จะพยายามหักห้ามตัวเองให้ได้ “เบนซ์ครับ บอลจะพยายามไม่ยุ่งกับใครอีกแล้ว” “อย่าพูดแบบนั้นถ้าทำไม่ได้ บอลก็ยิ่งจะเป็นทุกข์กว่าเดิมนะครับ” “นี่เบนซ์ทำใจได้จริงๆ หรอครับ” “ทำใจได้ ถ้าเบนซ์ไม่ทำใจเบนซ์ก็ต้องทะเลาะกับบอลไม่มีวันสิ้นสุดสิครับ” อาจจะจริงของเบนซ์ ผมอึ้งพูดไม่ออก “ทุกคนที่มีไรกับบอลส่วนมากแล้วเป็นเพราะเบนซ์นะบอลถึงมีคนอื่น” ผมเริ่มงงที่เบนซ์พูดแบบนี้ “เพราะอะไรหรือทำไมถึงว่าเป็นเพราะเบนซ์ครับ” “ก็เบนซ์ไม่ดูแลบอลไงครับ” มีบางครั้งที่ผมนอกใจเพราะทำใส่เบนซ์แต่จริงแล้วผมนี่ล่ะอยากนอกใจเบนซ์เองผมก็คิดได้ผมอยากถามเรื่องเอ๋ “เบนซ์บอลขอถามอะไรหน่อยได้ไหม” “ถามมาดิ” “เรื่องเอ๋ครับ” “ถามมาเลยเราก็อยากจะพูดเรื่องเอ๋มากๆ ด้วย” “ทำไมเบนซ์ถึงไปกับเอ๋ตอนนั้น เพราะอะไรเบนซ์ยังไม่บอกบอลเลยนะ” “อ๋อเราโดนเอ๋โกหกนะสิครับ เอ๋บอกว่าบอลไม่รักเราแล้ว เอ๋บอกว่าบอลรักเคนมีอะไรกับเคนเราก็โง่เชื่อทั้งที่ตอนนั้นเคนยังไม่สนิทกับบอลเลยเราหึงมาก เราอยากหาทางแก้แค้นนาย เราจึงขอเอ๋เป็นแฟน เอ๋เขาแอบรักเราตั้งแต่แรกเห็นอยู่แล้ว เราว่าเราจะแค่แกล้งแต่เรื่องมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเรื่องมันไปกันใหญ่อยู่ต่อมาเราก็รู้ว่าเคนกับบอลไม่ได้มีอะไรกัน เราจะมาง้อนายแต่มันก็สายไปแล้วเราเริ่มเกลียดเอ๋ตั้งแต่นั้นมา เขาโกหกได้แนบเนียนมาก” “ทำไมเบนซ์ไม่บอกบอลตั้งแต่แรกครับ บอลรักเบนซ์จะตาย วันๆทำใจไม่ค่อยได้” “ก็เราพยายามจะบอกหลายครั้งแต่บอลไม่ยอมฟังนี่ครับ” “อ๋อตอนนั้น เราไม่อยากฟังเรื่องเอ๋มากๆ เราอยากได้ยินคำเดียวว่าเบนซ์ยังรักบอลอยู่หรือเปล่า” “เรากลัวว่าเราจะผิดหวัง เลยไม่กล้าบอกครับ” “เหมือนกันแหละ บอลก็ไม่กล้าถามเบนซ์กลัวผิดหวังครับ” “บอล เบนซ์ขอโทษมากๆนะครับวันนั้น” “วันไหนหรอครับ” “วันที่เราขืนใจบอลไงครับ” “แล้วทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย” “ก็เบนซ์ได้ยินเสียงบอลกับเคนเล่นเสียวกัน เบนซ์ทนไม่ไหวสองเดือนเต็มนะครับที่เบนซ์ไม่ได้เล่นเสียวกับใครเลยเราทนไม่ได้ แล้วเราหึงบอลด้วย” “อ้าวแล้วต่อไปเบนซ์จะไม่หึงบอลอีกหรอ” “ไม่หรอกแต่เวลาที่เล่นเสียวก็น่าจะชวนกันมั่ง นี่เล่นแอบไปทำคนเดียว” เบนซ์ไม่เคยพูดแบบนี้มาก่อนเลยครับวันนี้เบนซ์เขาพูดแบบนี้จนผมต้อง ย้อนถามเขาเพื่อทวนคำถาม “เบนซ์พูดแบบนี้แน่ใจแล้วหรอ” “แน่ใจดิ บอลทำอะไรเบนซ์ก็อยากทำบ้าง” “เล่นเสียวสามคนสี่คนนี่นะ” ผมงงมากที่เบนซ์ต้องการแบบนี้ “อืออยากลองมั่งอ่ะ” เบนซ์ทำท่าเขินนิดๆ แต่ผมก็ยังดีใจที่เบนซ์ไม่โกธรผมเรื่องที่ผ่านมาผมก็เลยถามอีก “เบนซ์ครับ” “ครับ” “เบนซ์กล้าหรอ ถ้าเราสองคนเล่นเสียวพร้อมกับโต้” “กล้าดิไม่มีปัญหาหรอกครับ เพื่อนกัน” “แล้วกับนายเอ็มล่ะครับ” “กล้าครับเรายิ่งหมั่นไส้มันอยู่นะ” เบนซ์ยิ้มอย่างมั่นใจ “แล้วกับเคนล่ะครับ” “กล้าชัวร์ว่าแต่เคนเขาจะยอมหรอ” “กับโอ๋ล่ะ” “สบายครับ น้องโอ๋น่ารักครับ” “ตั้มล่ะครับ” “ชัวร์ครับ” เบนซ์เริ่มยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ใส่ผม ผมก็ยิ้มแบบเจ้าชู้ตอบ “บอลครับ” “ครับ” “บอลเก่งมากรู้ไหม บอลไปมีอะไรกับคนอื่นแล้วบอลก็ยังยึดมั่นในรักของเรา” “ก็เรารักเบนซ์มากนะครับ รักมากๆ ด้วย” “ขอบคุณครับ ว้าาเบนซ์สบายใจจังเบนซ์ได้ทุกอย่างที่อยากได้กลับคืนมา แล้วบอลก็พูดได้แล้ว” เบนซ์ทำท่าเหมือนกับว่าเขามีความสุขจริง “น้องเดย์ไปบ้านแม่ทำไมยังไม่มานะ” “นั่นดิไปนานแล้วนะเดี๋ยวเบนซ์ไปตามครับ” “อ้าวนั่นเสียงรถใครเข้ามาไม่น่าใช่เสียงรถเดย์” มีเสียงรถวิ่งมาจอดที่หน้าบ้าน ผมรู้สึกไม่ค่อยชินหูว่าเป็นรถใคร “เดี๋ยวเบนซ์ออกไปดูเองครับ” เบนซ์ก็เดินออกหน้าบ้านไปดูผมก็ไปจัดเตรียมอาหารวางโต๊ะรอน้องเดย์กลับมาแล้วจะทานพร้อมกันแต่วันนี้นานมากกว่าทุกวัน เดย์ไม่ยอมกลับก็น่าแปลกนะ “บอลคร้าบ” เสียงเบนซ์เรียกผมซะดังลั่น ผมก็รีบเดินออกไปดูตามเสียงเรียก “อะไรครับเบนซ์” “มีคนเขามาหาญาติเขาอ่ะบอล เจ้าของบ้านหลังเก่านี้คงจะไม่รู้หรอกมั้งว่าเจ้าของบ้านเขาขายบ้านให้บอลแล้ว” “ไปเชิญเขาเข้ามาบ้านก่อนสิ” “งั้นเบนซ์ไปบอกเขานะ” ไม่นานเบนซ์ก็เดินนำหน้าเอาเด็กหนุ่มสองคนเข้ามาผมก็ตลึงกับภาพที่เห็นอะไรกันนี่!สวรรค์ส่งเทพบุตรรูปงามมาให้ผมได้เชยชมอีกแล้วหรอนี่อย่านะมึงไอ้บอลอย่าคิดลึกผมทั้งอ่านกินทั้งห้ามใจตัวเองผมต้องสะดุ้งเมื่อเบนซ์เรียกผม “บอลครับช่วยเอาน้ำมาให้เพื่อนหน่อยสิครับ” แล้วชายหนุ่มรูปงามนั้นก็มองมาที่ผม ผมเห็นแววตาของเขามันเต็มไปด้วยความเศร้าเขาสบตากับผม ผมรู้สึกแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนนายคนนี้มีอะไรมากมายที่ต้องค้นหารูปร่างน่าตาของเขาช่างเป็นอะไรที่หน้ามองแต่แววตาของเขานั้นมันบ่งบอกว่าเขาเศร้ามากๆผมต้องยืนตาลอยมองด้วยความรู้สึกที่อยากรู้อยากค้นหา “บอลครับบอลครับ” “อ้าวนายเอาน้ำมาแล้วหรอเบนซ์” ตายจริงเบนซ์เขาเอาน้ำมาตั้งแต่เมื่อไหร่ผมเขินมากที่ผมมัวแต่ยืนมองเขาผมจึงรีบเดินไปที่ห้องครัวเพื่อนดูผลไม้จะเอามาเสิร์พแก้เขินซะหน่อยเบนซ์ก็เดินตามผมมา “บอลเป็นอะไรหรือตั้งแต่กลับจากพระธาตุบอลไม่เหมือนเดิมเลยนะครับ” “ไม่รู้ครับเบนซ์แต่นายคนนั้นดูน่าสงสารมาก ไม่รู้เราเป็นไรเรารู้สึกว่าเขาเหมือนมีปัญหาอะไรซักอย่าง” “เหรอครับงั้นเบนซ์ไปนั่งคุยกับเขาก่อนนะครับ” “ครับ เดี๋ยวบอลเอาผลไม้ตามไปครับ”ผมไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ผมรู้สึกหวั่นไหวมากเมื่อผมได้เห็นหนุ่มรูปงามคนนี้ยิ่งสายตานั้นมันมีแววที่ทำให้ผมอึ้งมากๆตอนนี้ผมรู้สึกสั่นไปทั้งตัว ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมเป็นแบบนี้เพราะผมหลงรักหรือไม่ก็เขินยามได้เห็นคนหล่อเป็นครั้งแรก แต่วันนี้ผมไม่ได้เขินไม่ได้หลงรักผมรู้สึกอะไรที่ไม่ได้รู้สึกมาก่อนแต่ผลไม้ที่ปอกอยู่มันก็เสร็จและวางใส่จานเรียบร้อย ผมไม่เคยเหม่อลอยอะไรขนาดนี้มาก่อน ดีนะที่มีดไม่บาดมือเอาผมรีบยกเอาจานผลไม้ไปที่โต๊ะรับแขก “บอลนายนั่งคุยเพื่อนใหม่เราหน่อยสิครับ” ผมก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดูแล้วผมก็เกิดอาการเหมือนเดิมอีกเลยตัดสินใจไม่มองหน้าเขาดีกว่าจึงได้แต่นั่งฟังเบนซ์คุยกับเขา “พูดเรื่องครอบครัวนายต่อสิครับ” “เราคิดว่าลุงกับป้ายังอยู่บ้านนี้ครับเราไม่มีที่ไปเราเลยมาตามหาครับมากับน้องสองคนนี่ล่ะ” “อ้าวแล้วที่บ้านรู้เรื่องไหม” “รู้สิครับ ก็เขาพึ่งไล่ผมออกจากบ้าน” “ใช่ครับ” นายคนที่ตัวเล็กกว่าสงสัยว่าจะเป็นน้องชายพูดจบก็ร้องไห้โฮ ผมต้องเงยหน้าไปมองเขาเห็นคนพี่น้ำตาคลอ “อย่าเสียใจนะครับ ชีวิตนี้เราต้องสู้” เบนซ์ก็พูดปลอบเขาทั้งสอง “ครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะดีขึ้นซักที” “น้องครับไม่ต้องร้องไห้แล้วครับน้องทานผลไม้นี่เร็วครับอย่าคิดมากนะครับ” เบนซ์ก็ทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดีเบนซ์เอามือมาแหย่ที่เอวผมเพื่อเป็นสัญญาณว่าให้ช่วยพูดปลอบใจเขาหน่อยผมก็เลยต้องเริ่มคิดอยู่ตั้งนานว่าจะพูดอะไรก็คิดได้ “นายชื่อไรครับ เราชื่อบอลครับ” และสายตาคู่นั้นก็จ้องมาทำให้ผมหวั่นไหวอีกครั้ง “ชื่อสามครับ” คนไรไม่รู้ชื่อสามชื่อเขาดูแปลกดีผมก็เลยส่งยิ้มมหาเสน่ห์ให้แก่เขาเขาก็ยิ้มตอบผม เบนซ์มองหน้า ผมเห็นสามเขายิ้มเบนซ์ก็ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้แก่สามเหมือนกันสามเขายิ้มสวยมากใบหน้าที่เศร้าของสามตอนนี้กลายเป็นหน้า ที่หวานเยิ้มหล่อคม “เฮ้ยนาย นายหายเศร้าแล้วเราดีใจจังอ่ะครับ” เบนซ์ทำท่าดีใจให้บรรยากาศดีขึ้น แล้วผมก็รู้ว่าสามกับน้องชื่อต๋องเขาหนีออกจากบ้านพ่อเขามักจะไล่สามกับน้องออกจากบ้านบ่อยครั้งพ่อกับแม่สามแยกทางกัน พ่อแต่งงานใหม่ แม่ใหม่ของสามใจร้ายมาก มิน่าล่ะผมถึงรู้สึกว่าสามเขาเศร้าตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตานี่อาจจะเรียกว่าสัมผัสที่หกได้ไหมนะผมเกิดคำถามขึ้นในใจ “สามนายอย่าคิดมากนะ น้องต๋องก็ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะครับ” “ขอบคุณพี่บอลครับ” ต๋องเป็นเด็กชาย อายุก็คงจะ 11-12 นี่ล่ะ “บอลเบนซ์เราว่าเราจะไปแล้วนะ” สามเขาเริ่มทำเสียงที่เศร้าอีกครั้งดูเหมือนเขาเกรงใจผมกับเบนซ์ไม่น้อย “นายจะไปไหนล่ะครับ” เบนซ์จ้องหน้าถาม “จะพาน้องกลับบ้าน” “จะบ้าหรือครับกลางคืนอากาศหนาวจะตายอย่าพาน้องกลับเลยนะครับบ้านนายอยู่ไกลนะ”บ้านสามอยู่หนองคาย ครับห่างกันมากกับบ้านผม แล้วสองพี่น้องเล่นนั่งรถมอไซมาจนถึงคิดแล้วเหนื่อยแทน “แต่ที่นี่เราไม่มีญาตินะครับ” สามพูดเสียงอ่อยๆ “สามครับบอลขอเป็นญาติสามได้ไหมครับ” “ใช่เบนซ์เองก็ขอเป็นญาตินายนะครับ” “นายสองคนคิดดีแล้วหรือที่จะเป็นญาติกับเรา” “คิดดีแล้ว” ผมกับเบนซ์ก็เข้าโอบกอดสามกับต๋องพร้อมกัน “ขอบคุณนะครับ” “วันนี้นายค้างที่บ้านเรานะไม่ต้องกลับหรอกนะครับ” ผมเป็นเจ้าบ้านผมก็เอ่ยชวนเขาทั้งสอง “ไม่ได้หรอกเกรงใจตายเดี่ยวเรากับน้องไปนอนที่ศาลาริมถนน เช้าก็กลับไม่เป็นไร” “มันลำบากนะครับ” เบนซ์แซงพูดก่อนผม “เรากับน้องเคยนอนที่ศาลาริมถนนมาตั้งหลายครั้งแล้วไม่ต้องห่วงเราสบายมากครับ” ผมเริ่มจะน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงครอบครัวที่มีปัญหาที่ผ่านมาผมเกือบจะเป็นเช่นนั้นผมรู้สึกเศร้าแทนสามมากๆ “ไม่ได้นายกับน้องต้องค้างบ้านเรานะ” เบนซ์ยื่นคำขาด “ไม่ได้หรอกเกรงใจพ่อแม่นายตายเลย เรายังไม่เจอท่านเลย” “นายสบายใจได้ ที่นี่เราอยู่กันเองเราไม่มีพ่อมีแม่” ผมพูดจบน้ำตาผมก็ล่วงแต่ผมก็เช็ดทันผมไม่อยากให้สามเห็นน้ำตาของผมผมอยากให้สามเข้มแข็งกว่าผมไม่อยากให้ยึดติดอยู่กับปัญหา “บอลครับ นายก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนเราหรอ” “นายยังดีกว่าเรานะเพื่อน นายยังมีพ่อมีแม่ ถึงแม้ตอนนี้ท่านจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่วันข้างหน้าไม่แน่นะครับ” โอ้เป็นครั้งแรกมั้งที่ผมพูดได้ดีมากๆ สามยิ้มได้แล้วก็เอ่ยปากให้เราสบายใจ “เราจะขอรบกวนค้างที่บ้านนายนะครับ” “โอ๊ยไม่มีปัญหาครับ” ผมตอบสามพอดีว่าเจ้าตัวป่วนวิ่งเข้ามาพอดีเดย์ชอบวิ่งและตะโกนเสมอเวลาที่เข้ามาบ้าน “พี่บอล พี่เบนซ์ ผีกำลังจะดึงขาผมคร้าบ” เสียงแบบนี้ประจำครับเวลาที่เข้าบ้านบางทีผมกับเบนซ์ก็จะรีบวิ่งไปซ่อนแกล้งให้เดย์ตามหาสนุกครับแต่วันนี้มีแขกมาบ้านทำให้ผมหยอกน้องไม่ได้เ ดย์เองเข้ามาก็เบรกอย่างกะทันหันแล้วเอาปากอมนิ้วมือยืนเขิน “ไปไหนมาไอ้เด็กกะโปโล” เบนซ์รีบพูดแซวเพื่อให้เดย์หายเขิน “มารู้จักพี่เขาหน่อยสิครับ” เดย์ก็เดินมาอย่างช้าๆ มาถึงเดย์ก็ยืนจ้องหน้าสามซักพักแล้วเดย์ก็ชี้มือใส่หน้าสามอย่างเสียมารยาท “เฮ้ย!ไอ้พี่สาม มาได้ไงเนี่ย” “ไอ้น้องเดย์” สามลุกขึ้นแล้วกอดเดย์แน่น เดย์ก็กอดสามแน่นทั้งกระโดดดีใจผมกับเบนซ์ก็งงแต่ก็โล่งอกเพราะอย่างน้อยก็มีเดย์ที่รู้จักสาม “เดย์แกยังอยู่ที่บ้านนั้นอยู่หรอนี่” “ครับ แล้วพี่อ่ะหนีออกจากบ้านอีกล่ะดิ” “เออสิวะ ไม่เจอแกเกือบสองปีดูแกเปลี่ยนไปมากเลยนะเนี้ยแทบจำไม่ได้” “เอาล่ะทานข้าวกันนะครับ เดย์พาพี่เขาไปอาบน้ำก่อนเลยแก” เบนซ์ออกคำสั่ง ส่วนผมกับเบนซ์ก็พากันไปทำกับข้าวเพิ่มดีจนะครับที่มีแขกมาบ้านนานแล้วที่บ้านผมวังเวงเราทุกคนก็คุยสามเรื่องระทุกข์สุขดิบกันจนดึก ผมก็ต้องหาที่นอนให้สามกับน้อง แต่เด็กเขาก็อยากนอนกับเด็กอย่างว่าแหละครับน้องเดย์ก็เลยต้องนอนกับน้องต๋องที่ห้องอีกห้องหนึ่งส่วนผมกับเบนซ์ก็ต้องนอนสองคน ห้องที่เดย์นอนเป็นห้องเล็กเตียงนอน ก็เล็กกลัวว่าจะอึดอัดเบนซ์ก็เลยเอ่ยชวนให้สามไปนอนห้องเดียวกับเรา “สามนายไปนอนห้องกับเรานะ” “จะดีหรอครับ” “ดีสิครับ ดีกว่าจะไปแย่งน้องเขานอนห้องนี้เล็ก” “ใช่ครับพี่สาม พี่ไปเหอะผู้ใหญ่ก็นอนห้องเดียวกันสิครับเด็กเขาจะอยู่ส่วนเด็ก” เดย์ก็เข้าห้องปิดประตู สามก็โดนเบนซ์ดึงแขนให้ไปนอนห้องนอน ผมโอ๊ยกลุ้มใจจังเลยคร้าบ ไม่รู้คืนนี้ความเจ้าชู้ของผมจะหลุดออกมาอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ผมกลุ้มมากๆ ผมกลัวอดไม่ได้สามไม่ใช่คนที่ขี้เหล่อะไรนะครับตัวผอมสูงน่าตาหล่อคมยิ้มนี่บาดใจเอามากๆ แล้วเวลาที่สามเดินไปมาผมก็มองเห็นว่าเจ้าโลกเขาแกว่งไปแกว่งมาก็สามไม่ได้ใส่กางเกงในนี่ครับยังไงซะสายตาผมก็ไม่เคยหยุดอ่านกินเขาซักที ผมก็เลยเดินตามหลังเบนซ์กับสาม ผมไม่อยากเลือกที่นอนก่อนผมอยากให้เบนซ์เป็นคนเลือกที่นอนก่อน “สามนายนอนตรงกลางนะเราจะนอนริมบอลนายก็นอนตรงนั้นแหละ” “บอลน่าจะนอนตรงกลางนะครับ” สามว่าอย่างนี้ เบนซ์ก็ยิ้ม “เออใช่เนาะเราลืมไป” เบนซ์แอบสบตาผม ผมรู้ว่าเบนซ์อยากจะแอบเล่นเสียวกับผม เพราะวันนี้ยังไม่ได้เล่นเสียวเลยผมก็เลยล้มตัวนอนเลยเบนซ์ก็ชวนสามคุยเรื่องชีวิตเราสามคนก็แลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน “บอลนายน่ารักมากนะ เบนซ์ก็เหมือนกัน เราไม่เคยเจอใครที่มีน้ำใจอย่างนายสองคนมาก่อนเลยนะ” “นายก็เป็นคนดีนะ นายเก่งนะที่ทนอยู่กับปัญหานี้ได้” “ใช่” “บอลเราขอกอดนายกับเบนซ์หน่อยซิ” “เอาดิ” ผมก็เริ่มใจสั่นหวั่นไหวอีกครั้ง “กอดนายสองคนแล้วรู้สึกเหมือนไม่เดียวดายอีกแล้วชีวิตเรา” เสียใจจังสามเขาปล่อยกอดไปซะแล้วไม่รู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ผมจะเอาชนะใจตัวเองได้หรือไม่ได้ ผมอยากหยุดเรื่องเล่นเสียวกับคนอื่นเสียที แต่ร่างกายผมมันเริ่มจะเรียกร้องมันร้อนวูบวาบไปทั้งตัวลมหายใจผมเริ่มผ่านออกมาเป็นทางยาวผมรู้ว่าผมมีอารมณ์แบบสุดๆแต่หน้าที่ของผมตอนนี้ผมต้องอดทนต่อความอยากให้ได้ ผมไม่ต้องการทำแบบที่ผ่านมา แต่โชคชะตาเริ่มเล่นตลกกับผมเมื่อสามหันหน้ามาแล้วสบตาผมผมกับสามจ้องตากันอย่างจัง “บอลนายเป็นไรของนายครับตัวนายร้อนไปหมด” สามเขาถามผม “เปล่านี่” ทำไมผมต้องสั่นเวลาที่ผมตอบสามด้วย “ไม่จริงบอลเป็นอะไรครับ” สามเอามือมาลูบที่หน้าผากผมเบาๆ แค่นี้ผมก็เสียวจะแย่แล้วตอนนี้เบนซ์เขาหลับซะแล้วผมพยายามที่จะเอามือสามออกแต่สามก็ทำท่าเป็นห่วงผม
5 }1 b9 y6 ~7 w) @2 [; \
& l, q1 U: g& W& B* E0 _' b2 C J3 H4 ~6 F9 B
-------------------- จบตอนที่ 45 --------------------8 q: H* t9 I/ [" N$ C. }0 i0 |
6 a5 ~: {) W. v. p; K
เห้อออ!!! รู้สึกใจหายจัง ในที่สุดก็ใกล้มาถึงโค้งสุดท้ายของเรื่องนี้แล้วนะครับ เหลือแค่อีกไม่กี่ตอนแล้วน๊า T T
; F; k) K' E$ p5 n( m3 pฝากติดตามเรื่องราวชีวิตของบอลและเบนซ์ด้วยนะครับ จุ๊บๆ 9 l5 g' F3 q$ R
|