แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2020-7-19 20:00
เนื้อหาในตอนที่ 11 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=127244&fromuid=155129
เวลา16.52 น. เจ้าเติร์กที่กำลังเดินมาจากทางหอประชุมตรงไปยังโรงจอดรถโรงเรียนหลังจากเล่นบาสเสร็จมันได้เหลือบไปเห็น เจน และ เคนที่นั่งคุยกันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่โดยมีเจมส์นั่งก้มเขี่ยโทรศัพท์ด้วยสีหน้าอาการเศร้าสร้อยอยู่ข้างๆทั้งสองทันทีที่เจนกับเคนเห็นเจ้าเติร์กเดินมาทั้งสองถึงกับเรียกเอ่ยปากเรียกเจ้าเติร์กให้เดินเข้ามาหาขึ้นพร้อมกัน “เห้ยเติร์ก เติร์ก มานี่ก่อน มาๆๆ” เจมส์ที่ได้ยินทั้งคู่เรียกชื่อเจ้าเติร์กมันถึงกับสะดุ้งงึกขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะค่อยๆหันไปมองเจ้าเติร์กที่กำลังเดินเข้ามาด้วยความรู้สึกกล้าๆกลัวๆ “เห้ยเติร์ก!!ไงมึงแล้วมึงไปทำไรมาเนี่ยเหงื่อโชกไปทั้งตัวเลย” “อ๋อเราไปเล่นบาสกับพวกไอ้เฟิร์ส ไอ้ตี๋มาน่ะ เจน” “แหน่ๆแน่ใจนะว่ามึงดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวไม่ใช่ว่าเป็นหนักขึ้นกว่าเดิมอีกนะมึง” “อืม กูโอเค กูบอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรมากแค่ไม่สบายนิดหน่อยกับพักผ่อนน้อยเท่านั้นที่กูต้องไปเล่นบาสให้มันเหงื่อออกแบบนี้ ก็เพราะว่ากูอยากให้มันหายไวๆไงเจน” “เอ่อๆก็เอาที่มึงสบายใจล่ะกัน อืมเติร์กนี่ก็ผ่านงานใหญ่ของโรงเรียนมาแล้วนะมึงจะเริ่มติวพิเศษให้ไอ้เจมส์ได้อีกวันไหนวะ” คำถามของเจนทำเติร์กถึงกับนิ่งไปครู่ใหญ่ก่อนที่มันจะหันมองเจมส์ที่นั่งก้มหน้าตัวสั่นๆ หลบสายตาของเจ้าเติร์กอยู่ข้างๆเจน “เอ่อช่วงนี้เราขอพักๆก่อนนะเจน ไว้ถ้าเราสะดวกเมื่อไหร่เดี๋ยวเราบอกให้ว่าจะติววันไหน ช่วงนี้เจนก็ให้น้องลองกับไปทบทวนเนื้อหาที่เรียนๆมาดูนะถ้าไม่ไหวก็ลองพักสมองก่อน ไว้ถ้าดีขึ้นแล้วค่อยไปต่อ” เจนพยักหน้าและยิ้มเจือนพร้อมกับเอามือไปตแขนของเจมส์ “อ่าๆได้ๆ มึงฟังพี่เค้าไว้นะไอ้เจมส์ ทบทวนน่ะทบทวนแม่งกลับไปก็เล่นแต่เกมส์นะมึง” “งั้นถ้าไม่มีไรเราขอตัวกลับก่อนนะวันนี้น้าเอมโทรมาบอกว่าให้เรากลับเร็วหน่อยน่ะ” “อื้มๆงั้นมึงก็ขับรถดีๆละ ไว้เจอกันพรุ่งนี้” ทันทีที่เจ้าเติร์กกำลังจะหันหลังกลับเจมส์รีบเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยปากถาม “พะ พะพี่เติร์กครับ พี่เติร์กยังจะติวให้ผมอยู่ใช่ไหมครับ” “อืมมมม ไงพี่ขอดูก่อนนะเจมส์พี่ยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้ ไว้เดี๋ยวพี่จะบอกอีกทีครับ เจมส์ก็ เอ่อออ อย่าลืมที่พี่บอกไปเมื่อตี้กี้ล่ะกัน”คำพูดของเจ้าเติร์กทำให้เจมส์รู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดๆถึงกระนั้นมันพยายามกลั้นความรู้สึกเศร้าจนอยากจะร้องไห้ของมันไว้ก่อนที่จะตอบไปด้วยน้ำเสียงปกติ“ครับพี่เติร์ก ไงพี่ก็ดูแลตัวเองให้ดีๆนะครับ” เจ้าเติร์กพยักหน้าขานรับเบาๆก่อนที่จะหันหลังเดินตรงไปที่โรงจอดรถและขับรถออกจากโรงเรียนไปเจมส์ถึงกับรีบหันไปมองเจนกับเคน “พี่เจน พี่เคนเดี๋ยวผมไปห้องน้ำแปปนะครับ” เจมส์รีบดิ่งตรงไปยังห้องน้ำนักเรียนอย่างรวดเร็วทันทีมันวิ่งมาถึงเจมส์ถึงกับร้องไห้ปล่อยโฮ ยกใหญ่ที่อ่างล้างหน้าพร้อมกับกำมือทั้งสองไว้แน่นปึก “อยากได้พี่เติร์กคนเดิมกลับมา เราต้องทำไง ต้องทำยังไง” เจมส์ใช้มือขวาชกไปที่กำแพงห้องน้ำจนเกิดเสียงดัง ตึ้งงงงง!!! ฮือๆๆพี่เติร์ก ไปยังฝั่งบ้านของน้าเอมอาปลื้ม ในขณะที่เจ้าบิวกับเจ้าบอลกำลังเพลินกับการแข่งประกอบหุ่นอยู่ที่โซฟาหน้าทีวีกันนั้นเสียงรถมอเตอร์ไซด์ของเจ้าเติร์กได้ขับมามาจอดที่โรงรถหลังบ้านเหมือนเช่นเคยสองพี่น้องไม่รอช้ามันรีบผละจากของเล่นตรงหน้าและวิ่งไปแอบซ่อนคนละฝั่งตรงข้างๆตู้เก็บของใกล้กับประตูทางเข้าหลังบ้านทันทีที่เจ้าเติร์กก้าวเข้ามา สองพี่คนถึงกับรีบกระโจนตัวเข้ามากอดเข้าที่ขาเจ้าเติร์กจากทั้งสองฝั่งเล่นเอาเจ้าเติร์กถึงกับสะดุ้งโย่ง “เย้ เย้ เย้พี่เติร์กกลับมาแล้ว พี่เติร์กกลับมาแล้ว พี่เติร์กคิดถึงบิวไหมค๊าบบบิวคิดถึงพี่เติร์กมากๆเลยนะ” “บอลก็ด้วยพี่เติร์กบอลก็คิดถึงพี่เติร์กเหมือนกานนน คิดถึงมากกว่าพี่บิวอีกด้วยยยย” เจ้าบิวถึงกับทำหน้าหงิกขึ้นมา “แต่พี่คิดถึงพี่เติร์กมากกว่าบอลอีกนะคิดถึงมากพอๆกับน้ำทะเลเลย” บอลยิ้มและเถียงกลับ “บอลคิดถึงพี่เติร์กมากพอๆกับท้องฟ้าเลย” “แต่พี่ก็คิดถึงพี่เติร์กมากพอๆกับอวกาศซะอีกนะบอล!!!” เจ้าเติร์กที่ได้เห็นเช่นนั้นมันถึงกับยิ้มหัวเราะในความคิดแบบเด็กๆของทั้งสองก่อนที่มันจะรีบพูดตัดบทสองพี่สองขึ้นมา “อ่าอ่าอ่า โอเคครับ บิว บอล พี่ก็คิดถึงบิว บอล เหมือนกันนะคิดถึงพอๆกันเลย” บิวกับบอลถึงกับยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเติร์กตาเป็นประกายพร้อมกับออกแรงกอดขาทั้งสองของเข้าเติร์กแน่นยิ่งกว่าเดิมน้าเอมกับอาปลื้มที่นั่งมองอยู่ถึงกับหัวเราะชอบใจ พร้อมกับเอ่ยปากแซว บิวกับบอล “น้อยๆหน่อย บิว บอล กอดรัดซะแน่นแบบนั้นน่ะระวังพี่เติร์กจะขาหักซะก่อนล่ะ” เจ้าเติร์กยิ้มด้วยความเอ็นดูทั้งสองก่อนที่จะหันไปยกมือไหว้น้าเอมกับอาปลื้มโดยยังมีสองพี่น้องยืนกอดรัดขาทั้งสองข้างอยู่แบบนั้น “สวัสดีครับน้าเอม อาปลื้ม กลับมาถึงเมื่อไหร่กันหนิครับ” “อากลับมาถึงเมื่อตอน บ่าย 2 โมงกว่าๆล่ะอาเสียดายนะที่เติร์กไม่ได้ไปด้วย แพทลูกสาวของไอ้ม่อนเพื่อนของอาน่ะสวยน่ารักมากเลยล่ะรู้ไหม” “แห่มพี่ปลื้มก็อย่าไปชวนหลานให้ออกนอกลู่นอกทางสิ เติร์กมันเรียนใกล้จะจบแล้วนะไว้ไปตอนมหาลัยยังทันอยู่พี่” “แหม่ๆเอมก็ เติร์กมันหล่อซะขนาดนี้ พี่ก็อยากให้มันมีบ้างเสียดายหน้าตามัน” เติร์กได้แต่ยิ้มๆ “เดี๋ยวถึงเวลาผมก็มีเองแหละครับอาปลิ้ม ว่าแต่เห็นวันนี้น้าเอมบอกผมให้กลับมาไวๆ มีธุระด่วนอะไรรึป่าวครับน้า”น้าเอมที่นั่งพับชุดอยู่ถึงกับยิ้มหร่า “อืมถามมาก็ดีล่ะลูก วันนี้สัก 6 โมงนะ เดี๋ยวน้าขอวานเติร์กพาน้าไปซื้อของที่บิ๊กซีในเมืองหน่อยนะลูก” “อ๋อ ได้ครับน้า แล้วน้าเอมจะไปซื้ออะไรเหรอครับ” น้าเอมถึงกับถอนหายใจยาว “เฮ้อ ก็บิวกับบอลน่ะสิรบเร้าอยากจะได้รถบังคับไต่หินไรก็ไม่รู้ตั้งแต่วันที่ไปสุพรรณฯโน่นล่ะถ้าไม่ซื้อให้ก็ยังไงๆอยู่ เพราะอาปลื้มดันไปรับปากบิว บอลไว้ซะก่อน” ระหว่างที่เจ้าเติร์กคุยกับน้าเอมอยู่นั้นบิวที่ยืนกอดขาซ้ายเจ้าเติร์กไว้มั่น กลิ่นเหงื่ออ่อนๆที่ลอยโชยออกจากเสื้อและกางเกงวอมทำเอาเจ้าบิวที่ได้กลิ่นรู้สึกดีอย่างที่มันบอกไม่ถูกถึงกระนั้นมันเงยหน้าขึ้นไปมองที่เป้ากางเกงของเจ้าเติร์กพร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่ทำเอาเจ้าบอลที่ยืนมองๆอยู่อีกฝั่งถึงกับทำหน้างุนงงในการกระทำของเจ้าบิว “แล้วอาปลื้มไม่ไปด้วยกันกับผมหรอครับ” “เอิ่มไม่ล่ะเติร์ก วันนี้อาขับรถมาไกลและเหนื่อยมาทั้งวัน ไงขออาได้ชิลๆสักหน่อยเถอะเติร์กเอ้ย” เจ้าเติร์กถึงกับหัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆไม่นึกเลยว่าอาปลื้มจะคำพูดแบบนี้ออกมาด้วย ปกติผมเห็นอานี่ขยันสุดๆแล้ว” “แหมอาก็คนนิน่าเติร์กเอ้ย ไม่ใช่เครื่องจักรหรือหุ่นยนต์ที่จะทำงานได้ตลอด 24 ชม.นิน่า” “ปะเติร์กเดี๋ยวขึ้นเอาของไปเก็บเลยลูกนี่ก็ 17.39 น. ล่ะ วันนี้กินข้าวนอกบ้านนะ พี่จะฝากซื้อกับข้าวอะไรมาด้วยไหม” “ไม่ล่ะเอม กับข้าวที่เอามาด้วยยังมีเยอะอยู่ ถึงเวลาเดี๋ยวพี่อุ่นกินเองได้” “จ๊ะพี่ปลื้ม บิวกับบอลเองก็ปล่อยขาพี่เติร์กได้แล้วลูกเดี๋ยวระวังพี่เติร์กจะรำคาญเอานะ เล่นกอดนานๆแบบนั้นน่ะ” ทั้งสองทำหน้าจ๋อยพร้อมกับค่อยๆปล่อยขาทั้งสองของเจ้าเติร์กออกเจ้าเติร์กที่เห็นเช่นนั้นถึงกับรีบย่อยตัวลงและเอามื้อไปยีๆที่หัวของทั้งสองไปมา “เดี๋ยวพี่ขึ้นเอาของไปเก็บก่อนครับบิวกับบอลก็เล่นกันอยู่ข้างล่างรอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ลงมา” เจ้าเติร์กค่อยๆยืนขึ้นและเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองทันที เมื่อมาถึงห้องเจ้าเติร์กกดล็อกประตูก่อนที่มันจะเอากระเป๋าเป้สีดำของมันไปวางที่โต๊ะคอมก่อนจะเปิดซิบหยิบเอากระดาษโพสอิทสีเขียวของหนิงที่มีรอยยับๆอยู่บ้างมาติดไว้ที่โคมไฟอันเล็กตรงโต๊ะคอม เจ้าเติร์กเดินถอยห่างออกมาสองก้าวและจ้องมองอ่านข้อความบนกระดาษอีกครั้งด้วยรอยยิ้มที่ปิติสุขจากนั้นมันจึงถอดเสื้อและกางกางของมันออกโยนใส่ตระกร้าและเดินเข้าไปที่ตู้อาบน้ำในห้องน้ำทันใด ในขณะที่เจ้าเติร์กยืนหน้าฝักบัวและกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดก๊อกเพื่ออาบน้ำล้างตัวนั่นเองสายตาของมันได้สังเกตุเห็นปลายท่อนลำที่โผล่พ้นจากหนังหุ้มปลายออกมานิดๆ มีสีแดงเรื่อๆซึ่งผิดปกติกว่าทุกครั้งเจ้าเติร์กไม่รอช้ามันรีบเอามือดึงรูดหนังหุ้มปลายลงเพื่อดูสิ่งผิดปกติภายใน ซึ่งสิ่งเจ้าเติร์กเห็นคือน้ำใสๆลื่นๆเหนียวๆ เป็นฟองนิดๆ ติดอยู่ตามร่องหัวเงี่ยงทีแรกเจ้าเติร์กคิดว่าคงเป็นน้ำเงี่ยนของมันที่ชอบไหลออกมาตอนนอนเป็นบางครั้งแต่พอมันได้ลองเอานิ้วชี้ไปแตะของเหลวดังกล่าวและเอามาถูๆกับนิ้วโป้งของมันมันรู้ได้เลยทันทีว่าเจ้าของเหลวดังกล่าวคือน้ำลายจากปากทำเอามันถึงกับอุทานขึ้นมา “เห้ยยย แม่ง นี่กูโดนเจมส์อม K อีกหรอวะ แสดงว่าที่มันมาหาเมื่อกลางวันที่ห้องพยาบาล คือกูโดนอีก!!!เชี้ยยยย” เจ้าเติร์กถึงกับนึกเคืองๆเจมส์ขึ้นมาอีกทันใดถึงกระนั้นมันทำได้แค่ถอนหายใจแบบปลงๆก่อนที่จะบิดเปิดก๊อกฝักบัวเพื่อล้างตัว จากนั้นมันจึงเปลี่ยนชุดและเดินลงไปหาน้าเอมที่กำลังนั่งคอยท่าเจ้าเติร์กอยู่ที่หน้าทีวีพร้อมกับเจ้าบิวและเจ้าบอล เวลา 18.23น. “แม่เอม พี่เติร์ก บอล รีบเดินหน่อยสิ เดี๋ยวร้านมันจะปิดก่อนนะ” เสียงบ่นของเจ้าบิวที่เร่งให้เจ้าเติร์กและแม่ของมันที่กำลังเดินจูงมือเจ้าบอลให้รีบเดินตามบิวที่เดินนำหน้า “บิวลูก เดี๋ยวก่อนสิจะรีบไปทำไมล่ะ ร้านเค้าปิด 1 ทุ่มโน่นนะ” “อืออออ ไม่เอา แม่เอมกับน้องเดินช้าอะ” น้าเอมรีบหันไปคุยกับเจ้าเติร์กที่เดินอยู่ข้างๆ “เติร์ก ไปดูบิวหน่อยปะลูก เดี๋ยวนี้ชักเริ่มดื้อล่ะ ไม่ไหวๆ” เจ้าเติร์กพยักหน้าขานรับและเดินตรงไปหาเจ้าบิวพร้อมกับเอามือขวาคว้ามือซ้ายของเจ้าบิวไว้มั่น“พี่เติร์ก พาบิวไปที่ร้านของเล่นหน่อยนะ แม่กับน้องเดินช้าอะค๊าบบ”เจ้าเติร์กค่อยๆย่อตัวนั่งลงพร้อมกับเอามือลูบหัวของบิวไปมา “บิวครับ ใจเย็น เอางี้บิวมาเดินกับพี่มะ” บิวทำหน้าตาไม่พอใจนิดๆถึงกระนั้นมันก็ยังยื่นมือไปจับแขนเจ้าเติร์ก“พี่เติร์กเดินเร็วหน่อยนะค๊าบ บิวกลัวร้านจะปิดอะค๊าบบบ”เจ้าเติร์กพยักหน้าและยิ้มๆให้บิวก่อนที่มันจะลุกยืนพร้อมกับหันไปหาน้าเอมที่เดินตามหลังมาติดๆ “น้าครับ เดี๋ยวผมกับบิวขอล่วงหน้าไปที่ร้านก่อนนะครับ” “จ๊ะ เติร์กก็ระวังน้องวิ่งล่ะ” “ครับน้าเอมไม่ต้องห่วงครับ เอ้ย!! บิวเดี๋ยวๆๆ” ไม่ทันที่เจ้าเติร์กจะพูดจบบิวมันได้ออกแรงดึงแขนเจ้าเติร์กให้เดินตามมันไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ทั้งสองกำลังจะถึงร้านขายของเล่นนั่นเองจู่ๆสายตาเจ้าบิวได้ไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งในร้านเครื่องเกมส์ที่ตั้งอยู่ก่อนร้านขายของเล่น “ไงบิวหมดแรงแล้วหรอ” “ป่าวสักหน่อยพี่เติร์กแรงผมยังเหลือเฟือยค๊าบบบ” บิวแหงนมองเจ้าเติร์กพร้อมกับอมยิ้มและหันไปมองตู้โชว์สินค้าของร้านดังกล่าวที่กั้นด้วยแผ่นกระจกใสอยู่ตรงทางเข้าร้าน “ถ้างั้น มีอะไรที่บิวถูกใจเป็นพิเศษรึไงถึงมาหยุดที่หน้าร้านขายเครื่องเกมส์เนี่ย” เจ้าบิวหันมายิ้มให้เจ้าเติร์กอีกครั้งก่อนที่มันจะชี้นิ้วไปยังเครื่องเกม PSP สีดำที่วางโชว์อยู่บนชั้นของตู้ “พี่เติร์กครับเกมนั้น!!! บิวอยากได้มากๆเลยค๊าบบ บิวเห็นพวกรุ่นพี่ป.6เค้าเอามาเล่นกัน บิวก็ไปเล่นด้วยนะพี่เติร์ก มีแต่เกมสนุกๆทั้งนั้นเลยค๊าบบพี่เติร์ก”เจ้าเติร์กถึงกับเดินเข้าไปใกล้ๆเพื่อดูเครื่องเกมดังกล่าว “โหบิว หัวสูงนะเรา เกม PSP3000 อื้มมมบิวรู้ป่าวเนี่ยว่าราคาเท่าไหร่” บิวได้แต่ส่ายหน้าไปมา “บิวไม่รู้ค๊าบบ” “3,500 บาทครับบิว” “แพงจังเลยค๊าบบแต่บิวก็ยังอยากได้อะค๊าบพี่เติร์ก บิวจะได้เอาไว้เล่นแก้เหงา พี่เติร์กซื้อให้บิวได้ปะค๊าบบ นะค๊าบพี่เติร์ก” เจ้าบิวทำสายตาและใบหน้าอ้อนวอนใส่เจ้าเติร์ก “บิวเพิ่งป.2 เองนะครับ พี่ว่ามันยังเร็วไปนะที่บิวจะมีของแบบนี้มาไว้เป็นส่วนตัว พี่ว่าไว้บิวโตกว่านี้อีกหน่อยดีไหมแล้วค่อยซื้อ” “ทามมมายต้องรอให้โตด้วยอะพี่เติร์กซื้อตอนนี้เลยไม่ได้หรอ ขืนรอแบบนั้น ของมันก็หมดพอดีอะดิพี่เติร์ก” “ถึงตอนนั้นมันก็มีรุ่นใหม่ๆที่ดีกว่านี้ออกมาขายเยอะแยะเลยแหละบิวถ้าบิวซื้อไปตอนนี้ บิวไม่กลัวหรอว่าจะกลายเป็นเด็กติดเกมส์ จนเรียนหนังสือไม่รู้เรื่องและยังกลายเป็นเด็กที่ขี้เกียจไปอีก” “ไม่เห็นเกี่ยวกันเลยพี่เติร์ก เวลาเล่นเกมส์กับเวลาเรียนหนังสือมันคนละเวลากันนะค๊าบบ” “พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ แล้วนี่บิวเคยขอแม่ซื้อยังอะ พี่ขอถาม” “เคยค๊าบบพี่เติร์ก” “แล้วแม่ว่าไงบ้าง” “แม่เอมก็ ก็แม่เอม แม่เอมไม่ยอมซื้อให้บิวเลยอะครับ” “แล้วบิวถามเหตุผลแม่ไหมว่าทำไม?” “แม่บอกแค่ว่ามันยังไม่ถึงเวลา” “นั่นแหละเห็นไหมคำพูดของแม่เอมมันก็ความหมายเดียวกันกับที่พี่บอกบิวไปเมื่อตะกี้แหละนะ” “แต่บิวอยากได้จริงๆนะค๊าบพี่เติร์ก เนี่ย เวลามาบิวบิ๊กซีกับแม่เมื่อไหร่บิวก็ชอบแว็บมาดูเครื่องเกมส์ที่หน้าร้านนี่ตลอดเลยค๊าบอย่างน้อยก็เป็นของขวัญวันเกิดให้บิวสักครั้งก็ยังดี” ทันใดนั้นเสียงของน้าเอมได้พูดดังขึ้นมาจากทางข้างหลัง “อ้าวววว สองคนทำไรกันอยู่น่ะ เห็นรีบๆกันนึกว่าอยู่ที่ร้านกันล่ะ” “เอ่อ โทษครับน้า พอดีบิวเจอเครื่องเกมส์ที่อยากได้น่ะครับก็เลยยืนคุยกันเพลินไปหน่อย” น้าเอมถึงรับทำหน้างอใส่บิวทันที “เอาอีกแล้วนะบิวเรื่องเครื่องเกมที่อยากได้นี่ยังไม่จบอีกหรอ ไหนว่าบิวกับแม่คุยกันรู้เรื่องแล้ว” “แม่เอมอะ บิวอยากได้จริงๆนะบิวของเปลี่ยนจากรถบังคับเป็นเกมได้ไหมครับแม่” น้าเอมถึงกับรีบส่ายหน้าไปมาอย่างรวดเร็ว “ไม่ได้บิว ยังไงก็ไม่ได้ เรื่องนี้แม่คงยอมให้บิวไม่ได้ถ้าบิวจะขอเปลี่ยนเป็นเครื่องเกมแทน แม่จะถือว่าบิวสละสิทธิ์นะงั้นแม่จะซื้อรถบังคับให้น้องเลย 2 คัน” บอลที่ยืนจับมือน้าเอมอยู่ถึงกับยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แต่เจ้าบิวรีบกลับชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ “อืออออ แม่เอม ชอบพูดแบบนี้ตลอดเลย” “บิวก็รู้เหตุผลนิว่าทำไมก่อนมานี่ไหนรับปากแล้วไงว่าจะซื้อแค่รถบังคับ บิวจำที่ตัวเองพูดไว้ได้ไหม” เจ้าบิวทำหน้างิกงอและกระโดดดิ้นไปมาด้วยความไม่พอใจ “อืออออ แม่เอม อืออออ บิวอยากได้จริงๆอะแม่ บิวอยากได้” เมื่อเห็นเช่นนั้นเจ้าเติร์กถึงกับรีบย่อตัวนั่งลงพร้อมกับเอื้อมมือทั้งสองจับยังไหล่ของบิว “บิวครับ มองพี่ มองหน้าพี่ก่อนบิว” แววตาอันอ่อนโยนเจ้าเติร์กที่จ้องเข้าไปยังนัยต์ตาของบิวทำให้อาการที่เจ้าบิวแสดงอยู่นั้นค่อยๆสงบลงถึงกระนั้นเสียงรบเร้าอ้อนวอนของมันยังคงดังออกจากปากอย่างเนืองๆ “บิวอยากได้อะ บิวอยากได้อะค๊าบบบ ซื้อนะแม่เอม” น้าเอมถอนหายใจออกมาเบาๆด้วยความรู้สึกเซ็งก่อนที่จะเอ่ยปากพูดขึ้นมา “บิวอยากได้มากขนาดนั้นเลยหรอ แม่ถามจริง” “ค๊าบแม่เอม” “งั้นเอางี้บิว เออเติร์กลูกไอเกมส์ที่ว่านั้นมันราคาเท่าไหร่ช่วยดูให้น้าหน่อย” “ 3,500 บาทครับน้า” “อืมมมงั้นแม่มีข้อเสนอให้บิวนะ ถ้าบิวอยากได้เครื่องเกมส์นี้จริงๆ มีแม่ 2 ทางเลือกให้บิวนะ 1.ถ้าบิวได้เกรดสี่วิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และสังคม ทั้งสามวิชานี้ แม่จะยอมซื้อให้บิว” เจ้าบิวที่ยืนเช็ดน้ำตาอยู่นั้น มันรู้โดยทันทีว่าข้อเสนอแรกคงยากเกินสำหรับมันเพราะทั้งสามวิชาดังกล่าวเป็นวิชาที่เจ้าบิวเรียนไม่ค่อยเก่ง “แล้วอีกอันล่ะแม่เอม” “2.ถ้าบิวหยอดเงินกระปุกจนได้เครื่องหนึ่งของราคาเครื่องเกมส์นี้แล้วแม่จะออกให้อีกครึ่งหนึ่ง และค่อยมาซื้อกัน ส่วนบิวจะเลือกข้อเสนอไหนอันนี้แม่จะไม่ขอถามนะแต่ถ้าบิวยังพูดไม่รู้เรื่องและงอแงแบบเมื่อตะกี้อีกคราวนี้แม่คงต้องตีบิวจริงๆนะ ที่แม่พูดนี่เข้าใจใช่ไหมบิว” เจ้าบิวที่เห็นสีหน้าของแม่มันเริ่มเคร่งครึมมันเลยรีบพยักหน้างึกๆตอบตกลงด้วยความหวาดหวั่นทันทีพร้อมกับหันไปหาเจ้าเติร์ก เจ้าเติร์กที่นั่งย่อตัวยิ้มอยู่ข้างมันได้แต่เอามือลูบหัวเจ้าบิวและพูดด้วยน้ำเสียงปลอบโยน “ไม่เป็นไรนะบิวอย่าทำหน้างอแบบนั้นครับ ดูเป็นเด็กไม่น่ารักเลยนะ พี่ว่าบิวกับพี่เราไปเดินดูรถบังคับที่บิวอยากได้ก่อนดีไหม ระหว่างนั้นบิวก็ลองคิดทบทวนคำพูดของแม่เอมดูว่าบิวจะตัดสินใจยังไงแบบนี้พี่ว่ามันน่าจะดีกว่านะ ว่าไหมบิว ถ้าบิวมัวแต่งอแงแบบนี้พี่ว่าบิวจะไม่ได้อะไรสักอย่างเลยนะ เชื่อพี่ครับบิว” เจ้าบิวได้แต่พยักหน้าตอบรับมันเลยค่อยๆเดินตรงไปที่ร้านของของเล่นทันที” น้าเอมรีบเดินมาสะกิดแขนเจ้าเติร์ก “เติร์กลูกขอบใจมากนะที่ช่วยพูดให้น้องเข้าใจปกติถ้าเป็นเมื่อก่อนนี่คงมีร้องไห้โวยวายเสียงดังลั่นห้างแน่ๆ” “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับน้าเอมบิวเองก็โตแล้วของแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับน้า” เจ้าบอลที่ยืนอยู่ข้างแม่ของมันรีบพูดแทรกขึ้นมา “บอลก็โตแล้วเหมือนกานนนะพี่เติร์ก” “แหมโต๊โตจริงบอล แบบนี้นี่กลางคืนคงเดินไปเข้าห้องน้ำคนเดียวได้แล้วสิ” บอลถึงกับส่ายหัวไปมาอย่างรวดเร็ว “ม่ายยยยยเอาเดี๋ยวผีมาหลอก” น้าเอมถึงกับพูดแซวบอลขึ้นมาอีกคน “งั้นคืนนี้แม่ให้บอลนอนคนเดียวอะมะ” “ม่ายยยยยเอาแม่เอมอย่างพูดง้านนจิ” คำพูดบวกกับท่าท่างบิดไปมาของเจ้าบอลทำเอาน้าเอมกับเจ้าเติร์กหัวเราะขึ้นพร้อมกันด้วยความชอบใจ “ปะเติร์กน้าว่าเรารีบตามบิวไปเถอะ เดี๋ยวร้านจะปิดไปซะก่อน” ในขณะที่เจ้าเติร์กกำลังยืนดูรถบังคับรุ่นต่างๆที่วางขายอยู่บนชั้นโดยมีบิวยืนเลือกอยู่ใกล้ๆนั่นเอง สายตาของเจ้าเติร์กได้มองผ่านกระจกเห็นหนิงที่เดินถือของมาแต่ไกลมันถึงกับยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “บิว! บิวเลือกรถบังคับอยู่นี่นะเดี๋ยวพี่มา” เจ้าเติร์กรีบเดินออกจากร้านไปทันทีโดยที่เจ้าบิวไม่ทันได้เอ่ยปากถาม เจ้าเติร์กเดินตรงไปหาหนิงที่กำลังเดินก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์พร้อมกับถือถุงผ้าใส่ของมาจนตุง “แหม ระวังน้า เดินวิถีสังคมก้มหน้าแบบนั้นระวังจะมีคนมาฉุดไปซะล่ะ” หนิงถึงกับตกใจจนรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้าเติร์กทันควัน “อ้าวว!! เติร์ก?? มาได้ไงเนี่ยย” “ดูทำหน้าเข้าให้ นี่ตกใจขนาดนั้นเลยรึไงหนิง” “ก็นิดหน่อยน่ะ พอดีเรากำลังแชทถามแม่เราอยู่น่ะว่าจะเอาอะไรเพิ่มอีกไหม” “อ๋อ แล้วนี่หนิงมากับแม่หรอ แล้วแม่อยู่ไหนล่ะ” “ฮ่าๆก็อยู่บ้านน่ะสิเติร์ก เรามาซื้อของคนเดียวน่ะ เลยเอารถเก๋งของแม่มา” “ของอะไรหรอหนิง มาซื้อซะไกลถึงตัวเมืองเชียว” เจ้าเติร์กพูดพร้อมกับแอบชำเลืองสายตามองไปยังของที่อยู่ในถุงผ้าของหนิง ทันทีที่เจ้าเติร์กเห็นอุปกรณ์ทำขนมในถุงผ้านั่นทำให้เจ้าเติร์กรู้ได้ทันทีว่าหนิงคงมาซื้ออุปกรณ์ทำขนมเค้กในวันเกิดที่จะถึงอีกไม่กี่วัน “มันก็ของทั่วๆไปแหละนะเติร์กพอดีแถวระแวกบ้านมันหาซื้อไม่ค่อยได้น่ะ อย่าสนใจเลย แล้วเติร์กล่ะมาซื้อไร” “ก็พวกน้องๆที่บ้านของเราน่ะสิอยากได้รถบังคับกัน น้าเอมเลยให้เรามาเป็นโชเฟอร์ให้น่ะ” “แหมแค่เราได้ฟังก็รู้สึกเหนื่อยแทนเติร์กแล้วเนาะ” “มันก็สุดๆไปเลยอะหนิง” ทันใดนั้นหนิงสังเกตเห็นบิวเดินออกจากร้านขายของเล่นตรงเข้ามาหาเจ้าเติร์ก “อืมมใช่เด็กคนนั้นรึป่าวเติร์ก ที่กำลังเดินมาเนี่ย” เจ้าเติร์กถึงกับรีบหันไปมอง “บิว!! เจอรถบังคับที่อยากได้แล้วหรอ” เจ้าบิวไม่ตอบมันได้แต่ทำหน้างิกและตรงเข้ามาพร้อมใช้มือตีไปที่ขาของเจ้าเติร์กอย่างจัง “โอ๊ยยยบิว!! ตีพี่ทำไมเนี่ย พี่เจ็บนะ” บิวเงยมองเจ้าเติร์พร้อมทำหน้าบูด “พี่เติร์กอะ ปล่อยให้บิวยืนอยู่คนเดียว” หนิงที่ยืนมองอยู่ถึงกับอมยิ้มในคำพูดและการกระทำของเจ้าบิว “พี่ไม่ได้ปล่อยให้บิวอยู่คนเดียวนะ แม่กับน้องก็อยู่ใกล้ๆบิวนิน่า” “ไม่เอา ก็บิวอยากให้พี่เติร์กอยู่ด้วยนิน่า” หนิงที่ยืนฟังอยู่รีบพูดแทรกขึ้นมา “อืม เติร์กงั้นเดี๋ยวเราขอตัวกลับก่อนนะ นี่เราก็ได้ของที่ต้องการครบล่ะ” “เอ่อ เดี๋ยวๆ หนิง คนนี้บิว ลูกของน้าเอมที่เราพักอยู่ด้วยน่ะและบิว นี่พี่หนิงนะ เพื่อนที่รร.ของพี่เอง” หนิงยิ้มและก้มยื่นมือมาทักทายเจ้าบิว “ดีจ้าบิวพี่ชื่อหนิงนะ” บิวยังคงทำหน้าบูดใส่หนิงและรีบสวมกอดขาของเจ้าเติร์กไว้มั่น “เอ่อหนิง อย่าถือสาบิวเลยนะ คือบิวน้องเราไม่ค่อยคุ้นกับคนแปลกหน้าเท่าไหร่น่ะ” “ไม่เป็นไรจ๊ะเติร์กอย่าคิดมาก เราว่าเติร์กอยู่ดูน้องดีกว่านะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้” เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าเจือน “ให้เราช่วยถือของไหมหนิง ดูท่าคงหนักน่าดู” “ไม่เป็นไรเติร์กเราถือเองได้” เจ้าเติร์กชักสีหน้าเซ็งทันที “เติร์ก....ไงเราต้องเดินผ่านหน้าร้านขายของเล่นอยู่แล้วให้เราเดินไปส่งเป็นเพื่อนมะ” สีหน้าเซ็งๆของเติร์กแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มขึ้นมา “โอเค ได้ๆ ปะบิว” เจ้าเติร์กยื่นมือให้กับบิวที่ยังคงยืนกอดขาขวาของเจ้าเติร์กไว้มั่น “ปะบิว ไปกันเดี๋ยวร้านจะปิดซะก่อน” เจ้าบิวยังทำหน้าบูดมันครุ่นคิดสักพักก่อนจะเอื้อมไปจับมือของเจ้าเติร์ก เมื่อหนิง เติร์ก และบิว เดินมาถึงหน้าร้าน น้าเอมกับบอลรีบเดินตรงเข้ามาหาทั้งสาม “น้าก็ว่าบิวกับเติร์ก หายไปไหน น้ามองหาอยู่ซะตั้งนาน” “ผมขอโทษครับน้าคือพอดีผมเห็นหนิงเพื่อนที่เรียนด้วยกันที่โรงเรียนมาซื้อของน่ะครับ ผมเลยออกไปทักทายนิดหน่อย” “สวัสดีค่ะน้าเอม” หนิงยิ้มและยกมือไหว้น้าเอม” “จ๊ะลูก อืมมเติร์กเป็นไงบ้างเวลาอยู่ที่รร.” หนิงถึงกับหันไปมองเติร์กพร้อมทั้งยิ้ม “ก็ดีค่ะน้าเอม เติร์กเค้าเรียนเก่ง ขยันและเป็นเด็กกิจกรรมของโรงเรียนด้วย หนูว่าเติร์กเค้าทำตัวดีสุดๆแล้วค่ะ ที่สำคัญเลย เติร์กเค้ายังเป็นหนุ่มฮอทสุดในโรงเรียนด้วยนะคะน้าเอม” เจ้าเติร์กที่ยืนยิ้มด้วยความเขินอยู่ข้างๆรีบพูดแทรก “โถ่ หนิงก็ พูดเกินไป เราไม่ขนาดนั้นหรอก” น้าเอมถึงกับหัวเราะขึ้นมา “แหม ถ้าเป็นงั้นจริงตัวของน้าก็คงไม่ห่วงเติร์กล่ะ น้าเองก็ยังอยากให้บิวกับบอลได้สักครึ่งหนึ่งของเติร์กบ้างจัง” เจ้าบิวที่ยืนฟังอยู่รีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “แม่เอม.....บิวก็ตั้งใจเรียนเหมือนกันนะ” “บอลก็ด้วยแม่เอม บอลไม่ดื้อเหมือนพี่บิวสักหน่อย” เจ้าบิวรีบหันมองบอลพร้อมทั้งชักสีหน้าด้วยความขุ่นเคือง “พูดอะไรน่ะบอล บอลเองก็ชอบขี้แยเหมือนกันนั่นแหละ” น้าเอมรีบพูดปรามทั้งสองขึ้นทันที “พอเลย พอๆ บิว บอล ปะบิว ตอนนี้น้องเลือกรถที่อยากได้แล้วนะ เหลือแค่ของบิวเนี่ย เจอคันที่บิวอยากได้ยังลูก” “ยังเลยแม่เอมบิวกำลังจะเลือกแต่พี่..” “งั้นก็รีบเลยบิวร้านเค้าจะปิดแล้ว” “งั้นน้าเอมไงหนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ เติร์กเราไปนะ” หนิงยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้บอกลาและเดินจากไปทันทีที่หนิงเดินออกไปเจ้าเติร์กถึงกับแสดงอาการลุกลี้ลุกลน “เอ่อ น้าเอมครับ คือ คือ ถ้าน้าไม่ว่าอะไรผมขอเดินไปส่งเป็นเพื่อนหนิงหน่อยได้ไหมครับ” น้าเอมถึงกับชักสีหน้าถามด้วยความสงสัย “ไปส่งหรอทำไมล่ะ เพื่อนเค้าก็กลับเองได้ไม่ใช่หรอ” “ก็ใช่ครับ น้าแต่หนิงเค้ามาคนเดียว และก็ เค้า เค้า เป็นผู้หญิงด้วยผมก็เลย….” เจ้าเติร์กก้มหน้าพูดด้วยน้ำเสียงตะกุตะกักและแสดงท่าทางลุกลี้ลุกลนน้าเอมที่สังเกตุเห็นอาการและท่าทีของเจ้าเติร์ก เลยทำให้น้าเอมรู้ทันทีว่าเจ้าเติร์กต้องมีใจให้หนิงแน่นอน ซึ่งนั่นทำให้น้าเอมยิ้มขึ้นมาทันที “งั้นเติร์กรีบไปรีบมาละเดี๋ยวไปเจอกันที่ลานจอดรถนะลูก” “น้าเอม ขอบคุณครับน้า” เจ้าบิวที่ยืนฟังๆอยู่รีบพูดขึ้นมาพร้อมกับเดินไปจับมือเจ้าเติร์กไว้ “พี่เติร์กอยู่ช่วยบิวเลือกรถบังคับหน่อย” “มะบิว มานี่เดี๋ยวแม่ช่วยบิวเลือกเอง จะได้ไม่ต้องไปรบกวนพี่เติร์กเค้า” “แต่แม่เอม บิวอยากให้….” “บิวจะเอาไหมรถบังคับเนี่ยย” “เอาค๊าบบแม่เอม” “ถ้าบิวจะเอางั้นรีบไปเลือกเลยลูกเดี๋ยวแม่ช่วยดูให้” คำพูดและสายตาของแม่ที่ทำให้มันรู้สึกกดดันเลยทำให้เจ้าบิวตกในภาวะจำยอมและปล่อยมือของเจ้าเติร์กไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยเต็มใจนักมันทำหน้าเศร้าและจ้องมองตามหลังเจ้าเติร์กที่ก้าวเดินออกไปจากร้านด้วยความอาลัยอาวร เจ้าเติร์กวิ่งตามหลังหนิงที่กำลังจะเดินลงบันไดเลื่อนเพื่อไปยังลานจอดรถ “หนิง หนิง เดี๋ยว เดี๋ยว!!” เสียงเรียกของเติร์กทำหนิงถึงกับตกใจและหยุดเดินพร้อมหันกลับไปมองยังต้นเสียง“เติร์ก ไง จะมาส่งเราหรอ” “แฮ่กๆชะใช่ แฮ่กๆ นะหนิง หนิงรู้ได้ไงอะว่าเราจะมาส่ง” “จริงดิเติร์ก!! นี่เราพูดเล่นๆนะเนี่ย” “จริง....ก็หนิงมาคนเดียวไม่ใช่เหรอ ค่ำๆแบบเนี่ยเดินคนเดียวมันอันตรายนะ” “แหมเติร์กก็โอเวอร์เกิ้น อันตรายที่ไหนกัน คนผ่านไปมาตั้งเยอะแยะ” “เอาน่า อย่างน้อยเดินสองคนก็ยังดีกว่าเดินคนเดียวนะหนิง มะเดี๋ยวเราช่วยถือ” เจ้าเติร์กรีบเอื้อมมือไปคว้าถุงจากมือของหนิง หนิงถึงกับขยับตัวหนีเล็กน้อย “ไม่เป็นไรเติร์กเราไม่อยากรบนายน่ะ เราถือเองได้” “รบกวนเหอะ มะมะ ของมันหนักนะหนิง” หนิงได้แต่ยืนยิ้มก่อนจะส่งถุงใส่ของในมือให้กับเจ้าเติร์ก “ถ้าไม่ไหวบอกเรานะเติร์ก ปะ ค่อยๆเดินล่ะ อืมเติร์กไข้ที่เป็นอยู่เติร์กหายดียัง” “ก็หายแล้วล่ะ” “คราวหลังนะเติร์ก มีไรขอให้บอกอย่าฝืนตัวเอง เรารู้มาว่าเติร์กน่ะนั่งเรียนและทำงานโดยที่ยังเป็นไข้และที่สำคัญเลยเติร์กไม่บอกใครเลยว่าเติร์กไม่ไหวคราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะรู้ไหม เราเป็นห่วง” เจ้าเติร์กถึงกับอึ้งสตั้นไปชั่วครู่ก่อนที่มันจะยิ้มดีความดีใจและทำวันทยาหัต์ใส่หนิง“เอิ่มม รับทราบครับผม” “แล้วเติร์กมาส่งเราเนี่ย น้าเอมและพวกเด็กๆจะไม่ว่าเติร์กเอาหรอ” “ก็เราบอกแล้วล่ะว่าเราจะเดินมาส่งหนิง” “แล้วบิวล่ะเติร์กเค้ายอมด้วยหรอ” “ก็มีทำหน้างอนๆนิดหน่อยนะแต่หนิงอย่าไปถือสาบิวเลยนะ” “อื้มมม!! เราไม่ถือสาหรอก” หนิงตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “เป็นไรหนิง โอเคป่าว หนิงไม่ชอบบิวหรอ” “ป่าวเติร์ก ไม่ใช่ เราแค่คิดไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ” “หนิงนี่ชอบทำไรให้เราแปลกใจอยู่เรื่อยนะ” “ก็นะบางครั้งชีวิตมันก็ต้องมีไรให้ตื่นเต้นบางสิเติร์ก มันจะได้ไม่เบื่อ” “หรอ ฮ่าๆ เห็นแบบนี้นี่หนิงก็เป็นคนที่คุยสนุกเหมือนกันนะเรานึกว่าหนิงจะเป็นคนเข้มงวด” “แหมเติร์กก็ สรุปที่ผ่านมานี่เติร์กมองเรามาแบบนั้นมาโดยตลอดเลยนินะ” “ก็นะ ก็หนิงหากมองดูผิวเผินมันก็เป็นอย่างงั้นจริงๆนี่น่า” “อ้อ จร้า ขอบใจสำหรับคำติชมเติร์กเองก็เป็นคนร่าเริงและคุยสนุกเช่นกันนะ ไอเราก็นึกว่าเติร์กจะมาสายเด็กเนิร์ดเคร่งเรียน” “โห่ๆหนิงก็….” ทั้งสองเดินคุยกันจนมาถึงรถของหนิงที่จอดไว้ตรงลานจอดรถ“โห หนิง แม่หนิงนี่ขับรถราคาแพงเหมือนกันนะเนี่ย” เจ้าเติร์กยืนมองรถเก๋งสีขาวของหนิงด้วยความทึ้งพร้อมกับกวาดสายตามองไปมารอบๆ “แหมเติร์ก รู้จักด้วยหรอว่าแม่เราใช้รถรุ่นอะไร” “ก็ฮอนด้า แอคคอร์ดอืมมมว่าแต่พ่อกับแม่หนิงทำงานอะไรหรอ” “พ่อเราเป็นเชฟน่ะอยู่ร้านอาหารที่อัมสเตอร์ดัมโน่น นานๆครั้งจะกลับมาทีส่วนแม่ของเราเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาอยู่ที่ม.รังสิตน่ะ” “ฮืมมม มิน่าล่ะถึงว่าหนิงใช้ของแต่ล่ะอย่างนี่ มีราคาทั้งเลย” “แหมๆๆ นี่เติร์กกำลังจะบอกว่าเราใช้เงินฟุ่มเฟือยงั้นหรอ” “เอ้ย ไม่ใช่นะหนิง เราหมายถึง….” “แล้วพ่อกับแม่ของเติร์กล่ะทำงานอะไร” “พ่อกับแม่เราหรอ....พ่อเราเปิดร้านขายต้นไม้และสินค้าเกษตรภัณฑ์อยู่ที่เชียงใหม่น่ะส่วนแม่ของเราก็เป็นหมออยู่โรงพยาบาลสวนดอกน่ะ” “อืมมพ่อกับแม่ของเติร์กเองก็ทำงานดีทั้งคู่นิน่า แต่มีแม่เป็นหมอนี่เราว่าคงโดนกดดันน่าดูนะเวลาจะทำไร” “ใช่เลยหนิง รู้ได้ไงเนี่ย” “รู้จักหยกเพื่อนของเราใช่ปะมันชอบมาบ่นให้เราฟังตลอดเรื่องที่มันโดนพ่อกับแม่ของมันที่เป็นหมอ กดดันบีบบังคับมันสารพัด เอาเถอะเดี๋ยวเติร์กรบกวนเอาของที่เติร์กถือในมือใส่หลังรถให้เราหน่อยนะ ไงเราขอบใจเติร์กมากที่ช่วยถือของและเดินมาส่งเราน่ะ” “ไม่เป็นไรหนิง เราเต็มใจช่วยอยู่แล้วแหละ” “อืมเติร์กสิ้นเดือนนี้เป็นวันเกิดของเรานะ ถ้าเติร์กสะดวก เติร์กมางานวันเกิดของเราด้วยนะ” เจ้าเติร์กถึงกับอึ้งจนหน้าแดงด้วยความดีใจสุดๆ “เอิ่มมม จะดีเหรอหนิง เพื่อนๆของหนิงมีแต่ผู้หญิงนะและเราเป็นผู้ชายคนเดียวที่ไปร่วม มันจะไม่….” “ไม่ต้องห่วงหรอกเติร์ก ถ้าเรื่องนั้น เราชวนตี๋ กับ เจต ที่เป็นเพื่อนผู้ชายมาด้วยน่ะ งานวันเกิดมันจะได้สนุกๆ และมีหลากหลายบรรยากาศไปด้วย” “ได้ๆสิ้นเดือนใช่ไหม แต่เราไม่รู้จักบ้านหนิงนะ” “เดี๋ยวกลับถึงบ้านแล้วเราจะส่งโลเคชั่นให้ ไงขอบใจมากนะเติร์กเจอกันพรุ่งนี้ บาย” หนิงยิ้มและโบกมือให้กับเจ้าเติร์กพร้อมกับเดินขึ้นรถเก๋งและขับจากไปทิ้งให้เจ้าเติร์กยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความปิติสุขทำเอามันใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ มันยืนอยู่แบบนั้นได้ครู่ใหญ่จนน้าเอม บิวและบอลเดินตรงเข้ามา เวลา 20.34 น. น้าเอมพาเจ้าเติร์ก บิว และบอล แวะนั่งทานข้าวเย็นกันที่ตลาด AWAKE ในขณะที่น้าเอม เติร์ก บิวและบอลนั่งทานข้าวเย็นกันอยู่นั้นน้าเอมได้เอ่ยปากถามเจ้าเติร์กที่กำลังนั่งทานข้าวไปพลางกดโทรศัพท์ไปพลาง “เติร์กลูก น้าถามไรหน่อย หนิงกับเติร์กนี่รู้จักกันมานานยัง” เจ้าเติร์กถึงกับเงยหน้าขึ้นมามองน้าเอมด้วยความประหลาดใจ “ ผมกับหนิงหรอครับ ก็จริงๆแล้วผมรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนเรียนกวดวิชาก่อนเปิดเทอมโน่นแล้วแหละครับแต่ถ้าจะมาสนิทกันจริงๆนี่คงเป็นช่วงเตรียมงาน SAE Meeting ครับน้า” น้าเอมพยักหน้าและยิ้มๆที่มุมปาก “แล้วหนิงกับเติร์กนี่สนิทกันมากแค่ไหนลูก ใช่เพื่อนสนิทกันจริงๆป่าวน้าาา ถามจริง” คำพูดของน้าเอมทำเอาเจ้าเติร์กหว๋อไปไม่เป็นท่า “เออ น้าเอม เพื่อนกันจริงๆนะครับ ไม่มีไรมากกว่านั้น” “หื้มมมมเพื่อนกัน!! เติร์กลูกน้าเองก็เคยผ่านจุดๆเดียวกันเติร์กมาก่อนนะ ทำไมน้าจะไม่รู้ล่ะว่าเติร์กคิดไรอยู่น้าเห็นนะเวลาที่เติร์กมองหนิงเค้า ถ้าชอบหนิงเค้า เติร์กก็บอกน้ามาตรงเลยสิลูกน้าไม่ว่าไรเติร์กหรอก” เจ้าบิวที่นั่งตักข้าวใส่ปากอยู่ถึงกับผงะก่อนที่จะหันไปมองเจ้าเติร์กด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงเจ้าเติร์กที่สังเกตุเห็นถึงกับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมากระนั้นเจ้าบอลที่ฟังๆอยู่มันรีบพูดแทรกขึ้นมา “แม่เอมพี่เติร์กก็ชอบบอลเหมือนกันนะเวลาเล่นด้วยกันพี่เติร์กบอกว่าอยู่กับบอลแล้วไม่เครียด” น้าเอมกับเติร์กยิ้มขำขึ้นทันใด “จ๊ะบอล แบบนั้นพี่เติร์กคงชอบสุดๆไปเลย” “เย้ เย้ เห็นมะบอลพูดถูกด้วยพี่บิวว่างั้นไหมคัฟฟฟ พี่บิวคัฟฟ??” เจ้าบิวยังคงก้มหน้าเขี่ยข้าวในจานไปมา “บิว!เป็นไรน่ะลูก ตั้งแต่เมื่อตะกี้ล่ะ ถ้าแม่ทำอะไรให้บิวไม่พอใจอะไรยังไงไหนบิวลองบอกแม่หน่อยสิลูกว่ามันเรื่องอะไร” “ไม่มีไรค๊าบแม่เอมบิวไม่เป็นไรค๊าบ” ทันทีที่เจ้าบิวพูดจบ มันรีบเอาซ้อมพลาสติกจิ้มเอาบร๊อกโคลี่ชิ้นใหญ่จากจานตรงหน้าขึ้นมาพร้อมกับยัดเข้าปากและเคี้ยวกร้ามๆทันทีน้าเอม เติร์ก บอล ที่นั่งมองอยู่ถึงกับอึ้งเงียบไปชั่วขณะ “บิวลูกนี่บิวกินบร๊อคโคลี่ได้แล้วหรอ เมื่อก่อนนี่ปฏิเสธหัวชนฝายังกะอะไรนิ” “บิวกินได้ บิวเองก็โตแล้วนะแม่เอม” เจ้าบิวยังคงจิ้มเอาบร๊อคโคลี่เข้าปากและเคี้ยวกลืนลงท้องอย่างต่อเนื่องด้วยสีหน้าที่เริ่มผะอืดผะอมเจ้าบอลที่เห็นถึงกับนั่งหัวเราะด้วยความชอบใจ “ไม่ต้องมาหัวเราะพี่เลยบอลบอลเองก็ต้องกินด้วย” เจ้าบิวเอาช้อนตักบร๊อคโคลี่ขึ้นมาใส่ในจานของบอล“ไม่เอาพี่บิว บอลไม่กิน พี่บิวนั่นแหละที่ต้องกิน” บอลเอาช้อนตักชิ้นบร๊อกโคลี่คืนใส่จานให้กับเจ้าบิว “พอเลยบิว บอล ถ้าจะกินก็นั่งกินกันดีๆ อย่าเอาของกินมาเล่นกันแบบนั้นเดี๋ยวมันจะเลอะเสื้อผ้า มะ เติร์กตะกี้น้ายังคุยไม่จบเลย สรุปคือถ้าเติร์กชอบหนิงเค้าจริงๆ น้าเองก็อยากจะฝากให้เติร์กย้ำเตือนกับตัวเองให้ดีนะว่า ตอนนี้หน้าที่เราคืออะไร เป้าหมายของเราคืออะไร และมีใครบ้างที่คาดหวังกับเราอยู่ เติร์กอย่าลืม 3 อย่างที่น้าบอกไว้ล่ะ บางสิ่งบางอย่างในเรื่องของความรู้สึกน่ะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนนะเติร์ก สิ่งที่เราคิดว่ามันเล็กน้อยสำหรับเราแต่สำหรับอีกฝ่ายมันอาจเป็นเรื่องที่ใหญ่โตสำหรับเขาก็ได้ ดังนั้นเวลาจะทำอะไรต้องคิดก่อนทำนะเติร์ก หากพลาดพลั้งขึ้นมาแล้วเรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่ตรงจุดนี้เติร์กต้องระวังไว้ด้วยล่ะลูก” “ครับน้าเอม ขอบคุณนะครับน้า” “อันนี้น้าขอถามเติร์กโดยส่วนตัวนะทำไมเติร์กถึงชอบหนิงเหรอ น้าเห็นผู้หญิงคนอื่นๆในโรงเรียนดูดีและน่ารักมากกว่าหนิงอยู่ตั้งถมเถ” “ไม่รู้ซิน้าเอม ก็ เวลาผมคุยกับหนิงด้วยแล้วผมรู้สึกสบายใจและรู้สึกดีและอีกอย่าง หนิงเองก็ดูสวยในสายตาผมด้วยมั้งน้า” “อืมมมม เติร์กอันนี้น้าพูดตามตรงนะที่ผ่านมาน้าเห็นเติร์กเคร่งกับการเรียนและการทำงานมาโดยตลอด น้าเองก็นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำพูดแบบนี้ออกจากปากเติร์กเหมือนกันจริงๆ และตัวน้าเองก็มีอะไรหลายๆอย่างที่จะแนะนำให้เติร์กนะ แต่เอาเป็นว่าเรื่องแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไปนะลูกอย่ารีบร้อนล่ะ เฮ้ออออ เห็นแบบนี้แล้วไม่รู้ว่าบิวกับบอลโตมานิ จะยังไงต่อเนี่ย ปะเติร์ก บิว บอลรีบๆทานลูก ไม่งั้นเดี๋ยวจะกลับดึกกัน เวลา 21.44 น. รถฟอร์จูนเนอร์ของน้าเอมขับมาถึงบ้านทันทีที่รถจอด เจ้าบิวกับบอลไม่รอช้า ทั้งสองรีบคว้าถุงใส่กล่องรถบังคับของแต่ละคนพร้อมกับเปิดประตูรถวิ่งแข่งกันเข้าไปทางประตูหลังบ้านทำให้น้าเอมที่เพิ่งก้าวลงจากรถถึงกับตะโกนด่าเสียงดังทำเอาเจ้าบิวกับบอลรีบวิ่งหนีขึ้นไปบนบ้านทันที “ไม่ไหวเลยสองพี่น้องนินี่แหละเติร์กเอ้ยดูไว้นะถ้ามีลูกเมื่อไหร่ก็ต้องปวดหัวแบบนี้แหละ เดี๋ยวเติร์กเอารถเข้าจอดที่โรงรถได้ใช่ไหมลูก” “ได้อยู่ครับน้าเอม” “อะงั้นเดี๋ยวน้าจะเข้าบ้านก่อนล่ะถ้าเสร็จแล้วกุญแจรถเดี๋ยวเติร์กเอาห้อยไว้ที่เดิมนะและก็อย่าลืมล็อกหลังบ้านกับประตูโรงรถด้วยลูก” “ครับผม”หลังจากที่เจ้าเติร์กได้จัดแจงตามที่น้าเอมบอกเสร็จแล้วในขณะที่มันกำลังเดินจะขึ้นบันไดไปชั้นสองนั่นเอง จู่ๆเจ้าบอลมันกระโดดพรวดโผล่ออกมาจากหลังตู้ “แบร่ร่ร่ พี่เติร์กกก” เจ้าเติร์กถึงตกใจจนร้องอุทานขึ้นมา “เอ้ยยเชี่ย!!” พร้อมกับกระโดดถอยหลังและตั้งท่าจะเตะเจ้าบอล “แหน่ๆๆ บอล เกือบไปแล้วไหมล่ะน่ะ อย่าเล่นแบบนี้อีกล่ะพี่ตกใจจริงๆนะเนี่ย เห็นปะถ้าพี่เผลอเตะไปจริงๆมีหวังบอลได้เจ็บตัวฟรีๆเอานะ”เจ้าบอลได้แต่ยิ้มและกระโดดโลดเต้นไปมา “เย้เย้ บอลทำให้พี่เติร์กตกใจได้แล้ว เย้ๆ” เมื่อมันกระโดดโลดเต้นจนพอใจแล้วมันจึงรีบวิ่งไปหาเจ้าบิวกับแม่และพ่อของมันที่นั่งอยู่ตรงโซฟาหน้าทีวี “น้าเอม อาปลื้มถ้าไม่มีไรเดี๋ยวผมขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ เปลี่ยนชุดและเตรียมตัวไปรร.วันพรุ่งนี้นะครับ ถ้ามีไรล่ะก็เรียกผมได้นะครับ” น้าเอมที่กำลังก้มดูบิวกับบอลที่ง่วนอยู่กับการแกะกล่องของเล่นชิ้นใหม่อยู่ถึงกับรีบเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าเติร์ก“จ๊ะลูก วันนี้น้าขอบใจมากนะเติร์กที่เป็นธุระขับรถไปส่ง” “ยินดีครับน้า” เจ้าเติร์กรีบวิ่งขึ้นบันไดไปทันทีหลังจากที่เจ้าเติร์กจากไปน้าเอมรีบหันไปคุยกับอาปลื้มที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างๆ “พี่ปลื้ม วันนี้เอมเจอเรื่องที่ไม่คาดฝันด้วยล่ะพี่” อาปลื้มทำหน้างงด้วยความสงสัย “เรื่องอะไรเหรอเอมคงไม่ได้ไปเจอพวกของ SALE อีกนะ” “บ้าาาพี่ปลื้มก็....ไม่ใช่เรื่องนั้น ก็เรื่องของเติร์กน่ะสิ” “เติร์ก? เติร์กทันทำไมหรอเอม” “อื้มเอาไว้เอมคุยให้ฟังตอนนอนล่ะกันพี่เดี๋ยวเอมขอตัวเอาของขึ้นไปเก็บข้างบนก่อนล่ะ บิว บอลลูก อยู่เล่นกับพ่อข้างล่างนี่นะ แล้วก็รถบังคับที่ซื้อมาใหม่เนี่ยเล่นกันถนอมๆด้วยล่ะ ถ้าทำพังเหมือนของเล่นชิ้นก่อนอีกนี่แม่ไม่ซื้อใหม่ให้อีกล่ะนะ” หลังจากที่แม่ของมันเดินจากไปบิวที่นั่งแกะกล่องของเล่นอยู่กับพื้นมันรีบลุกขึ้นไปนั่งข้างๆพ่อของมันบนโซฟา “พ่อปลื้ม บิวมีไรอยากถามพ่อปลื้มหน่อยค๊าบบ” “จะถามไรบิวถ้าเป็นเรื่องเกมส์ ของเล่น กับตัวการ์ตูน ไว้ค่อยถามคราวหลังเอานะ ตอนนี้พ่อขอดูรายการนี้ก่อน เนี่ยกำลังถึงช่วงสำคัญๆเลย” “ไม่เอาพ่อปลื้มบิวจะถามตอนนี้เลยมันเป็นเรื่องสำคัญมากนะพ่อปลื้ม พ่อปลื้มฟังบิวพูดก่อน” เจ้าบิวพูดรบเร้าพร้อมกับเขย่าแขนของพ่อมันไปมาเบาๆ “อ่า อ่า ว่ามาบิว เรื่องไร?” “พ่อปลื้ม มีวิธีไหนบ้างค๊าบที่ทำให้คนที่เราไปคุยด้วยแล้วเขารู้สึกดีบ้าง”พ่อของมันถึงกับตกตะลึงในคำถามของเจ้าบิว “เฮ้ยเดี๋ยวก่อนนะบิว!! นี่ไปเอาคำถามแบบนี้มาจากไหนเนี่ย เอ่ออออวันนี้มาแปลกแหะ” เจ้าบิวทำหน้าซีเรียสพร้อมกับเขย่าแขนของพ่อมันไปมาอีกครั้ง “อืออพ่อปลื้ม ตอบบิวก่อนสิว่าต้องทำยังไงบ้าง” อันนี้ถามจริงหรือมาถามหยอกกันเล่นๆนิบิวแล้วก็คำถามแบบนี้มันไม่ใช่เด็กอายุรุ่นเลาคราวเดียวกับบิวเค้าถามกันนะ รู้ป่าว” “ก็ไม่เห็นแปลกเลยนิพ่อปลื้ม บิวอยากรู้นิน่า มันผิดด้วยหรอค๊าบบบ” “เอิ่ม มันก็…ไม่ผิดนะ แต่ว่าบิว..” “นะค๊าบพ่อปลื้ม” “พ่ออาจจะอธิบายไม่เก่งนะแต่เอาเป็นว่า บิวก็อย่าแต่คุยแต่เรื่องตัวเองมากเกินไป ให้พยายามคุยเรื่องของอีกฝ่ายไปด้วยโดยเริ่มจากการรับฟังเรื่องราวของคนๆนั้นและ จับจุดตรงส่วนที่น่าสนใจพร้อมทั้งปลอบโยนด้วยคำพูดที่ฟังแล้วมีกำลังใจก็ประมาณนี้แหละมั้ง บิวพอจะเข้าใจที่พ่อพูดใช่ไหม??” เจ้าบิวทำหน้าบึ้งตึงและงุนงงไปพร้อมๆกัน “บิวจะพยายามเข้าใจให้ได้เยอะๆค๊าบพ่อปลื้ม แล้วเราจะต้องทำให้ยังให้ตัวเองสวยได้ล่ะค๊าบพ่อปลื้ม” คำถามของบิวทำเอาพ่อของมันถึงกับขำยกใหญ่จนต้องเอามือขึ้นมาปิดปากทันใด เจ้าบอลที่นั่งเล่นรถบังคับอยู่ด้านล่างรีบเงยขึ้นมองมาด้วยความอยากรู้ “อือออ พ่อ ปลื้มมม มันไม่ตลกนะค๊าบบบ บอกกบิวหน่อย” “ฮ่าๆๆบิวลูก คำว่าสวยมันเอามาใช้กับผู้ชายไม่ได้หรอกนะลูก” “อ่าววแล้วทีผู้หญิงเรายังชมว่าสวยได้เลยนิค๊าบบ” “โถ่ๆบิวแล้วผู้ชายกับผู้หญิงมันเหมือนกันซะที่ไหนล่ะนั่น” “แล้วต้องพูดยังไงล่ะค๊าบบ” “ต้องพูดว่าหล่อ ดูดี อะไรทำนองนี้บิว” “นั่นแหละค๊าบบบิวก็หมายถึงแบบนั้นแหละค๊าบพ่อปลื้ม เราต้องทำยังไงหรอค๊าบบ” “ก็ต้องเริ่มจากการดูแลตัวเอง หัดกินผักให้เป็น หัดแต่งตัว ใส่เสื้อผ้าดีๆและที่สำคัญต้องทำตัวดีๆเข้าไว้” เจ้าบิวพยักหน้างึกๆด้วยความตั้งอกตั้งใจจนพ่อของมันที่รู้สึกประหลาดใจจนต้องรีบเอ่ยปากถาม “ถามจริงบิว วันนี้นึกคึกไรขึ้นเนี่ย มาแปลกนะลูกวันนี้” เจ้าบิวอมยิ้มและเบือนหน้าหนี “ก็บิวโตแล้วนิน่าบิวก็ต้องรู้ไว้บ้างซิค๊าบพ่อปลื้ม” “อ้าวหรอออบิว เอ่อแล้วก็อย่าอุตริไปถามไรแบบนี้กับใครคนอื่นเข้าให้ล่ะบิวเดี๋ยวเค้าจะหาว่าบิวน่ะเป็นเด็กแก่แดดแก่ลมเอา มันจะดูไม่ดีนะบิว เข้าใจที่พ่อบอกใช่ไหม” “ค๊าบบพ่อปลื้ม” ทันทีที่พ่อมันพูดจบเจ้าบิวรีบโถมพุ่งตัวลงไปนั่งเล่นรถบังคับข้างล่างกับเจ้าบอลอย่างรวดเร็ว เวลา 21.54 น. หลังจากที่เจ้าเติร์กอาบน้ำเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วมันจึงมานั่งแชทคุยกับหนิงอยู่ที่โต๊ะคอมในนั่งแชทคุยได้ครู่ใหญ่ ทันใดนั้นเอง เสียงเคาะประตูห้องพร้อมเรียกของอาปลื้ม “เติร์ก เติร์ก” เจ้าเติร์กรีบลุกจากโต๊ะคอมและเดินไปเปิดประตูห้อง “ครับอาปลื้ม” “เติร์กเดี๋ยวน้าของรบกวนเติร์กลงไปช่วยน้าหาของที่ห้องเก็บของชั้นล่างหน่อยล่ะ” “ของอะไรหรอครับอาปลื้ม” “เอาน่าเติร์ก ลงมาเดี๋ยวก็รู้เองปะเร็ว มาช่วยกันก่อน” เจ้าเติร์กรีบเดินตามอาปลื้มลงไปทันควัน ทันทีที่มันมาถึงหน้าห้องเก็บของมันเห็นน้าเอมที่กำลังช่วยกันรื้อๆของพร้อมกับเจ้าบิวและเจ้าบอลที่ยืนมองอยู่ใกล้น้าเอมถึงกับรีบหันมาคุยกับอาปลื้ม “พี่ปลื้มคราวหลังเวลาเอาไรมาเก็บที่ห้องนี่ จัดๆบ้างนะ อย่าสักแต่เอาไรมายัดๆกันมัวซั่วแบบนี้เห็นปะเนี่ยว่าเวลาจะหาของน่ะมันลำบากมาก โอ้ยบอล บอลออกไปนั่งที่หน้าทีวีโน่นก่อนปะ เห็นไหมว่าฝุ่นมันเยอะมาก” “เถอะน่าเอมอย่าบ่นเลย พี่เรียกเติร์กมาช่วยล่ะ เดี๋ยวพี่ช่วยอีกแรงจำได้ว่าพี่เอาเห็นไว้ใต้ชั้นตรงนั้นน่ะแหละเอม” เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าสงสัย “อาปลื้มหาอะไรอยู่หรอครับ บอกผมหน่อยผมจะได้ช่วยอีกแรงครับ” “คีย์บอร์ดไฟฟ้าของอานี่แหละ พอดีลืมไปว่าพรุ่งนี้เช้าจะเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านข้างๆนี่จะมายืมไปเล่นในงานขึ้นบ้านใหม่น่ะอาเลยต้องมารื้อเอาซะตอนนี้” “อาปลื้มเล่นคีย์บอร์ดไฟฟ้า เป็นด้วยหรอครับผมพึ่งรู้นะเนี่ยอา” “ก็ไอ้เปรม พ่อเอ็งนั่นแหละเติร์ก ที่บังคับและสอนให้อาเล่นตั้งแต่อยู่ม.1” “ทำไมพ่อผมต้องบังคับอาปลื้มด้วยล่ะครับ” “ก็ตอนมันอยู่ม.2 นั่นแหละ ไอ้เปรมมันอยากตั้งวงดนตรีเอาไว้ไปแข่งและเล่นที่ รร.แหละมั้ง มันเลยต้องมาเดือดร้อนอาที่ต้องไปร่วมวงกับมัน” “หรอครับอาปลื้ม พ่อก็เคยเล่าให้ผมฟังนะครับว่าเมื่อก่อนพ่อเคยเป็นนักดนตรีของโรงเรียนด้วย พ่อเล่นกีตาร์ไฟฟ้า” “อื้มมแล้วเติร์กล่ะ เล่นเป็นไหมคีย์บอร์ดไฟฟ้าเนี่ย” “เป็นสิครับอาปลื้มผมก็ชะตากรรมคล้ายๆกับอาปลื้มนั่นแหละครับ แต่ผมโดนพ่อบังคับให้เล่นและไปเรียนกับครูดนตรีตั้งแต่ตอนอยู่ม.2 เลยครับอา” “เอ่อ ดีมากเลยเติร์กคิดซะว่าเป็นประสบการณ์และทักษะชีวิตล่ะกัน เอาล่ะมาช่วยกันหา” ทุกคนช่วยกันหาได้ไม่นาน ก็เจอคีย์บอร์ดไฟฟ้าที่ถุงห่อด้วยถุงผ้าสีดำซึ่งถูกวางซ่อนอยู่ใต้ชั้นเก็บถุงผ้าของน้าเอมอีกชั้นหนึ่งทันทีที่หาเจออาปลื้มรีบยกออกจากห้องเก็บของพร้อมกับเอาคีย์บอร์ดไฟฟ้าดังกล่าวไปวางที่โต๊ะรับแขกตรงกลางบ้านโดยมีเจ้าเติร์กบิว บอล และน้าเอมเดินตามมาติดๆ อาปลื้มบรรจงแกะและดึงถุงผ้าสีดำออกช้าๆเผยให้เห็นคีย์บอร์ดไฟฟ้าสีดำที่ยังใหม่เอี่ยมปรากฏแก่สายตาของทุกคนทำเอาเจ้าเติร์กเพ่งมองไปมาด้วยความสนใจ “โห อาปลื้ม Casio CT-X700 อาซื้อมาเท่าไหร่นิครับ แล้วซื้อมานานยังครับอา” “ซื้อมาเมื่อ 4 ปีที่แล้วน่ะเติร์ก ราคาตอนนั้นก็ 7– 8 พันกว่าๆ” “หืมมมถ้าใหม่เอี่ยมแบบนี้แสดงว่าอานี่แทบไม่ได้เอามาใช้งานเลยสินะครับ” “ก็เห็นๆอยู่เติร์ก ทุกวันๆอามีเวลาว่างซะที่ไหนกัน ดูท่าคงจะเอาไว้ให้บิวกับบอลโน่นแหละมั้งอยากหัดเล่นไหมบิว บอล” อาปลื้มรีบหันไปมองบิวกับบอลที่ยืนดูข้างๆ “บิวว่ามันก็น่าสนใจอยู่นะค๊าบบพ่อปลื้ม” “แต่บอลชอบรถบังคับมากกว่าคัฟฟสนุกกว่าเยอะ ให้พี่บิวเล่นไปคนเดียวละกัน” น้าเอมที่ยืนฟังอยู่ใกล้รีบพูดแทรกขึ้นมา “พี่ปลื้มถ้าไม่มีไรแล้ว งั้นเดี๋ยวเอมไปจัดการที่ห้องเก็บของก่อนนะ ส่วนเติร์ก บิวกับบอลเองก็เตรียมตัวไปนอนได้แล้วปะ นี่ก็ดึกมากล่ะพรุ่งนี้เดี๋ยวตื่นสายกันพอดี” “เดี๋ยวผมไปช่วยครับน้าเอมที่ห้องเก็บของด้วยคนนะครับ” อาปลื้มรีบจับไหล่ของเจ้าเติร์กไว้มั่น “ไม่เป็นไรเติร์กเดี๋ยวอาไปช่วยเอง เติร์กก็ไปพักผ่อนได้ละ ไงอาขอบใจมากที่มาช่วย” “ครับอาปลื้ม ไหนๆก็ไหนๆแล้วไงผมขอดูคีย์บอร์ดไฟฟ้าอีกหน่อยนะครับ” “อาอ่า ได้ๆ งั้นก็ตามสบายล่ะกันนะเติร์กเสร็จแล้วก็อยากลืมเอาถุงผ้ามาห่อไว้เหมือนเดิมล่ะ” หลังอาปลื้มเดินจากไปเจ้าบิวกับเจ้าบอลรีบเดินเข้ามามุงดูคีย์บอร์ดไฟฟ้าพร้อมกับเจ้าเติร์กบอลที่ยืนอยู่ข้างๆจู่ๆมันก็เอ่ยปากพูดขึ้นมา “พี่เติร์กคัฟฟเล่นให้บอลฟังหน่อยจิ บอลอยากเห็นอะ” “ไม่ดีมั้งบอลของรักของหวงของพ่อเดี๋ยวพ่อบอลก็ว่าให้พี่เอาหรอก” “ไม่เห็นเปงไรพี่พี่เติร์ก ก็แค่เล่นให้ฟังเอง ใช่มะพี่บิว” เจ้าบิวที่ยืนอยู่อีกฝั่งของโต๊ะพยักหน้าขานรับเบาๆ “เห็นไหมพี่บิวก็ยังอยากฟังเบยยยย นะพี่เติร์กเล่นๆๆ” “อ่าๆ โอเค งั้นเด่ยวรอแปป บิว เสียบปลั๊กเครื่องนี้ให้พี่หน่อย” เจ้าบิวหยิบหัวปลั๊กขึ้นมาพร้อมกับเดินไปเสียบอย่างว่าง่าย “เอานะ เดี๋ยวพี่ของลดเสียงลงก่อน เอาล่ะ เดี๋ยวพี่จะเล่นเพลงให้บอลกับบิวฟังนะแล้วเดี๋ยวพี่จะถามว่าเพลงที่พี่เล่นชื่อเพลงอะไร” “คัฟฟ/ค๊าบบ” เจ้าบิวกับเจ้าบอลถึงกับรีบตอบขึ้นพร้อมกัน เจ้าเติร์กได้แต่ยิ้มๆและค่อยๆวางมือทั้งสองลงบนตัวกดก่อนมันจะบรรเลงเพลงให้ทั้งสองฟังอย่างใจเย็นเจ้าเติร์กเล่นได้ไม่ถึงครึ่งเพลง เจ้าบอลถึงกับรีบกระโดดโลดเต้นและพูดขึ้นมา “พี่เติร์กบอลรู้จักเพลงนี้ คุณครูที่โรงเรียนเคยเปิดให้บอลฟังบ่อยๆคัฟฟฟ เพลงนี้ชื่อหนูมาลี หนูมาลีมีลูกแมวเหมียว ลูกแมวเหมียว….” เจ้าเติร์กถึงกับหัวเราะชอบใจ “ฮ่าๆ เก่งๆ งั้นเพลงต่อไปอันนี้บิวกับบอลต้องรู้จักแน่นอน” ทันทีที่เจ้าเติร์กบรรเลงเพลงที่สองเจ้าบิวกับเจ้าบอลถึงกับร้อง “อ๋อ” ขึ้นมาพร้อมกัน มันทั้งสองถึงรีบเอ่ยปากร้องและเต้นทำท่าประกอบจังหวะทันควัน “เบบี้ ชาร์ค ดู๊ด ดู ดู่ ดุด เบบี้ชาร์ค ดู๊ด ดู ดู่ ดุด” “พี่เติร์กเก่งจังเลยคัฟฟฟ เล่นได้ทุกเพลงเลย” “ไม่ขนาดนั้นหรอกบอลก็เพลงนี้โน้ตมันง่ายๆครับ เอานะเพลงสุดท้ายเพลงนี้เมื่อก่อนเป็น1 ใน 9 เพลงโปรดของพี่เลยแหละบิวกับบอลลองฟังดูนะ เผื่อรู้จัก” เจ้าเติร์กค่อยๆบรรเลงเพลงอีกครั้งซึ่งครั้งนี้เจ้าบิวกับเจ้าบอลได้แต่ยืนฟังนิ่งเงียบไม่ปริปากพูดสักคำ สักพักเจ้าบอลที่ยืนฟังอยู่จู่ๆมันค่อยๆถอยตัวออกมาและก้าวเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนอย่างรวดเร็วทิ้งให้เจ้าบิวยังคงยืนฟังอยู่แบบนั้น เจ้าเติร์กเล่นได้ครึ่งเพลงมันหยุดเล่นและหันมามองเจ้าบิวที่ยืนยิ้มมองเจ้าเติร์กตาเป็นประกายด้วยสีหน้าที่เพลิดเพลินกับเพลงที่มันเพิ่งฟังไปเมื่อครู่ “ไงบิว ดูทำหน้าทำตาเข้าให้ ถึงกับเคลิ้มไปเลยรึไง” “พี่เติร์กเพลงเพราะจังเลยค๊าบบ บิวชอบจังเลย มันชื่อเพลงอะไรค๊าบบบ” เจ้าเติร์กถึงกับยิ้มออกมา “โอ้โหแหะบิวเดี๋ยวนี้มีโมเม้นมุมอ่อนไหวด้วยหรอ ฮ่าๆ เพราะใช่ไหมล่ะ เพลงนี้น้อยคนจะรู้จักนะ เพราะมันเป็นเพลงของต่างประเทศน่ะชื่อเพลง Người Ấy (เหงื่อยเอ๋ย) บิวเคยได้ยินไหม” เจ้าบิวได้แต่ส่ายหัวไปมา “แค่ชื่อเพลง บิวยังเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกนี่แหละค๊าบบ ชื่อมันแปลกๆตลกดีนะค๊าบบพี่เติร์กมันเป็นภาษาไรหรอค๊าบ” “ภาษาเวียดนามครับ แปลว่า เขาคนนั้น” เจ้าบิวทำหน้างงทันที “เขาคนนั้น?ใครหรอค๊าบพี่เติร์ก” “อืมมมนั่นสินะบิว เอาเป็นว่าถ้าบิวโตขึ้นอีกหน่อยบิวลองไปแปลความหมายเนื้อเพลงนี้เอานะแล้วบิวจะรู้ว่า เขาคนนั้นคือใคร แล้วบิวชอบเพลงนี้ไหมล่ะ” “ชอบค๊าบบบมันเพราะมากเลยค๊าบบบยิ่งเป็นเพลงที่พี่เติร์กเล่นบิวก็ยิ่งชอบไปอีกค๊าบบบ” “แหมๆบิว เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนปากหวาน ยอคนเก่งไปแล้วหรอเนี่ย ไม่น่าเชื่อ!!!” “บิวพูดจริงๆนะค๊าบบบ ไม่ได้พูดหยอกเลยนะพี่เติร์ก” อ่าครับๆปะบิว พี่ว่าเราพอแค่นี้กันนี้กว่า ขึ้นไปนอนกันเห็นปะน้องรีบชิ่งขึ้นห้องไปนอนก่อนล่ะ” หลังจากเจ้าบิวแยกจากเจ้าเติร์กมันเข้ามานั่งบนเตียงในห้องนอนของมันพร้อมกับพยายามเรียกและมองหาเจ้าบอลอยู่พักใหญ่ เมื่อมันไม่เห็นน้องของมัน มันเลยนั่งเตียงจ้องมองโต๊ะเครื่องแป้งของน้าเอมอยู่ครู่ใหญ่จนมันเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา มันเลยลุกจากเตียงและเดินตรงไปที่โต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกับเปิดลิ้นชักหยิบเอาตลับแป้งรองพื้นของแม่มัน มาทาทั่วใบหน้าพร้อมทั้งเอาลิปสติกสีชมพูมาทาที่ริมฝีปากน้อยๆอันบอบบางของมันจนเข้ม อีกทั้งยังเอาดินสอเขียนคิ้วมาขีดๆที่ขอบตาทั้งสองจนเข้มด้วยเช่นกัน จากนั้นมันจึงค่อยๆเปิดประตูห้องของมันและโผล่หัวชะแง้มดูแม่ของมันตรงบันไดว่าขึ้นมาหรือป่าวเมื่อทุกอย่างยังคงเป็นปกติ มันเลยค่อยๆเดินไปยังหน้าห้องของเจ้าเติร์กพร้อมทั้งเคาะประตูเรียกเจ้าเติร์ก ไม่นานนักเจ้าเติร์กเปิดประตูห้องมา มันเห็นบิวยืนเอามือทั้งสองปิดหน้าไว้แน่น “ทำไรน่ะบิวเอามือปิดหน้าทำไมน่ะ เป็นไรหรอครับ” เจ้าบิวเงียบพร้อมกับค่อยๆก้าวเท้าเดินเข้าห้องเจ้าเติร์กและตรงไปที่เตียงเจ้าเติร์กถึงกับมองตามหลังด้วยความสงสัยและประหลาดใจไปพร้อมๆกัน “บิว ดึกแล้วนะ ยังจะเล่นอยู่อีกหรอ ถ้าโดนแม่ด่านี่พี่ไม่รู้ด้วยนะ” เจ้าเติร์กปิดประตูห้องและเดินตรงเข้าไปหาเจ้าบิวยังคงยืนหันหลังพร้อมกับเอามือปิดหน้าไว้เช่นเดิม “ไหนหน้าเป็นไรบิว ปิดทำไมเนี่ย พี่ดูหน่อย” เจ้าเติร์กพูดและพยายามดึงแขนทั้งสองของบิวลง “พี่เติร์กบิวมีไรจะให้พี่เติร์กดู พี่เติร์กอย่าหัวเราะบิวนะ” คำพูดดังกล่าวยิ่งกระตุ้นให้เจ้าเติร์กยิ่งอยากรู้ไปกันใหญ่“อืม ก็ต้องดูก่อนว่าบิวไปทำไรมา ไหนเอามือลงซิครับปิดไว้แบบนี้แล้วพี่จะดูได้ไง” เจ้าบิวค่อยๆเลื่อนมือลงและหมุนตัวหันกลับมามองเจ้าเติร์กอย่างช้าๆ “เห้ย บิว!!” ทันทีที่เจ้าเติร์กเห็นใบหน้าของบิวมันถึงกับผงะตกใจจนถอยหลังไป 2 ก้าวอย่างรวดเร็ว “เห้ยยยย ไปทำไรมาเนี่ยบิวอะฮ่า นี่มันอะไรกันเนี่ย” เจ้าบิวได้แต่ยิ้มอายๆ “พี่เติร์กว่า แบบนี้บิวดูดี ดูสวยรึยังครับ” เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าหว๋อและอมยิ้มไปพร้อมกัน“บ้าบิว พูดไรน่ะ เล่นอะไรแผลงๆน่ะเรานี่ถ้าแม่มาเห็นเข้านี่ พี่นึกภาพไม่ออกเลยว่าแม่จะยังไงต่อ” เจ้าเติร์กนั่งย่อตัวลงพูดไปพลางพร้อมกับเอานิ้วชี้เช็ดรอยดินสอตรงขอบตาของบิวไปพลาง” “แบบนี้ มันไม่โอเคหรอค๊าบพี่เติร์ก นี่บิวตั้งใจแต่งสุดๆแล้วนะ” “มันจะโอเคได้ยังไงกันล่ะบิว ดูซิเนี่ย โหนี่เอาแป้งรองพื้นของแม่มาทาหน้าด้วยเหรอเนี่ย ผู้ชายเค้าไม่ทำอะไรกันแบบนี้หรอกนะบิว ถ้าอยากดูดี บิวดูพี่นี่ เห็นไหมต้องหมั่นออกกำลังกายบ่อยๆให้มีกล้ามแบบนี้และหมั่นดูแลตัวเองดีๆไม่ให้อ้วน แบบนี้สิถึงจะเรียกว่าดูดีขืนทำแบบที่บิวทำเนี่ย มีหวังโดนคนอื่นๆล้อว่าเป็นตุ๊ดกันพอดี” “ไม่เห็นเป็นไรเลยพี่เติร์กบิวก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนี่น่า จะไปสนทำไม” “ตอนนี้บิวก็พูดได้สิลองถ้าถูกล้อจริงๆล้อเข้าบ่อยๆ บิวเองจะทนได้นานแค่ไหน ฟังพี่นะบิวโลกความเป็นจริงกับโลกในความคิดของตัวเอง มันคนละเรื่องกันเลยนะบิว”เจ้าบิวถึงกับทำหน้าจ๋อยทันที “ค๊าบบบก็บิวอยากทำให้ตัวเองดูดีบ้างนิน่า”“แล้วบิวจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะครับ ไหมลองบอกพี่หน่อยได้ไหมว่าทำแบบนั้นทำไม รึว่าบิวแอบชอบใครอยู่งั้นหรอ” เจ้าบิวชำเลืองสายตามองหน้าเจ้าเติร์กที่กำลังจ้องมองมันอยู่แว็บหนึ่งก่อนที่จะรีบก้มมองพื้นห้อง“ก็ ก็ บิว ก็บิวโตแล้วนิครับบิวก็ต้องอยากดูดีบ้างแค่นั้นเองพี่เติร์ก”เจ้าเติร์กถอนหายใจยาวและเอามือลูบหัวไปมา “บิวของแบบนี้ไม่ต้องรีบร้อน ถึงเวลามันก็ไปตามวัยเองแหละนะ บิวยังเด็กอยู่นะยังต้องเรียนรู้อะไรจากชีวิตอีกมาก” “งั้นพี่เติร์กก็ต้องสอนให้บิวบ้างซิค๊าบบ อย่าลำเอียง” “ลำเอียงอะไร? พี่ก็สอนไปอยู่หยกๆเนี่ย เอ้อบิวนี่ก็พูดแปลกเนาะ” “ไม่แปลกซะหน่อยพี่เติร์กนั่นแหละที่แปลก” เจ้าบิวยิ้มพร้อมเอื้อมมือทั้งสองไปคว้ามับที่เป้ากางเกงของเจ้าเติร์กทันใดเจ้าเติร์กถึงกับสะดุ้งและรีบปัดมือของมันออกอย่างรวดเร็ว “แหน่บิวมืออยู่ไม่สุขนะเรา พอเลยๆ ปะ พี่ว่าบิวไปล้างหน้าที่ห้องน้ำก่อนจะได้แยกย้ายได้ไปนอนซะที” “พี่เติร์กง่วงแล้วหรอค๊าบบบบิวยังไม่ง่วงเลยนะ” “พี่ก็เหมือนกันแต่ตอนนี้มันก็ 22.15 น.แล้ว พี่กลัวว่าพรุ่งนี้จะลุกไม่ขึ้นน่ะซิ บิวเองก็เช่นกันนะครับ” เจ้าเติร์กใช้มือลูบหัวเจ้าบิว 1 ครั้งก่อนที่มันจะเดินผละไปที่หน้าโต๊ะคอมพร้อมกับกด Shut down โน๊ตบุ๊คที่มันเปิดทั้งไว้โดยมีเจ้าบิวเดินตามหลังมาติดๆ “พี่เติร์กพาบิวไปล้างหน้าหน่อยซิค๊าบบ” “อะไรกันบิว ไม่กล้าเข้าห้องน้ำคนเดียวรึไง” “ป่าวค๊าบแต่บิวอยากให้พี่เติร์กช่วยดูให้หน่อยว่าบิวล้างสะอาดไหม”เจ้าเติรืกหันมายิ้มขำและส่ายหน้าไปมา “เหอๆห้องน้ำพี่มีกระจกอยู่นะบิว วันนี้เห็นบอกว่าโตแล้วไม่ใช่หรอ ถ้าโตแล้วก็ต้องจัดการกับตัวเองได้สิ” เจ้าบิวทำหน้าบูดและแลบลิ้นใส่เจ้าเติร์ก “ล้างเองก็ได้!!แบร่ร่ร่ร่พี่เติร์ก” เจ้าบิวก้าวเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็วไม่นานนักเจ้าบิวกลับออกมาด้วยใบหน้าที่สะอาดสะอ้าน “บิวล้างเสร็จแล้วค๊าบ” “อืมแบบนี้สิ ถึงจะดูโอเคกว่าเมื่อกี้เอาล่ะแยกย้ายๆพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน เจ้าเติร์กที่กำลังจะเดินไปเปิดประตูห้อง เจ้าบิวมันรีบเดินตรงเข้ามาสวมกอดที่ขาซ้ายของเจ้าเติร์กไว้มั่น “ไรเนี่ยยบิวเป็นหมีโคอาล่ารึไง ชอบกอดแข้งกอดขาคนอื่นเนี่ย” “ถ้าได้กอดพี่เติร์กแบบนี้ถึงเป็นหมีโคอาล่าบิวก็ยอมค๊าบบบตลอดสามสี่วันที่บิวไปสุพรรณกับพ่อปลื้มกับแม่เอมเนี่ยบิวคิดถึงพี่เติร์กจริงๆเลยค๊าบบ คิดถึงมากจุงๆ” “ครับๆ พี่รู้แล้วล่ะบิวก็บอกพี่ตอนที่พี่กลับมาโรงเรียนมารอบหนึ่งแล้วน้า” เจ้าบิวเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบหน้าที่กึ่งยิ้มกึ่งเศร้าพี่เติร์กค๊าบบก่อนบิวไปนอน บิวขอนอนหนุนตักพี่เติร์กให้หายคิดถึงก่อนนะค๊าบบ” “หืมมทำขี้อ้อนเป็นเด็กน้อยไปได้นะบิว” “ก็เด็กอยู่นิค๊าบพี่เติร์ก” “อืมมแสดงว่าไม่อยากบิวโตแล้วงั้นหรอ” “ก็อยากอยู่นะค๊าบแต่ขอเป็นเด็กก่อนและค่อยโตทีหลังยังทันอยู่ค๊าบบพี่เติร์ก” เจ้าเติร์กถึงกับอมยิ้มและเอามือจับที่หัวของมันและเขย่าเบาๆ “เดี๋ยวนี้รู้จักต่อปากต่อคำกับพี่นะบิว งั้นบิวปล่อยขาพี่ก่อน” ทันทีที่เจ้าบิวปล่อยขาเจ้าเติร์กพาเจ้าบิวขึ้นไปที่ขอบเตียงทันทีที่ทั้งสองนั่งลงที่ขอบเตียงเจ้าบิวไม่รอช้ามันค่อยๆโน้มหัวลงมานอนหนุนที่ตักเจ้าเติร์ก “สบายจังเลย พี่เติร์กบิวไม่ได้นอนหนุนตักแบบนี้มานานแล้วค๊าบ” เจ้าบิวค่อยหมุนเปลี่ยนเป็นท่านอนงายมองเจ้าเติร์กด้วยความอบอุ่น “เมื่อก่อนบิวนอนหนุนตักใครเหรอ” “ก็แม่เอมค๊าบบแต่ช่วงหลังมานี่แม่เอมยุ่งๆบิวเลยไม่มีโอกาสได้นอนหนุนเลย “แล้วพ่อล่ะ บิวกับน้องไม่หนุนบ้างหรอ” “ถ้าพ่อปลื้ม คงยากอะค๊าบพ่อไม่ค่อยทำไรแบบนี้อยู่แล้วส่วนใหญ่บิวก็เห็นพ่อทำแต่งานอย่างเดียวเลย” “อืมๆ ปะหนุนจนหายคิดถึงยัง พี่เริ่มง่วงๆล่ะบิว” “เดี๋ยวก่อนซิค๊าบบบิวเพิ่งหนุนได้แปปเดียวเอง” เจ้าบิวค่อยพลิกตัวหันหน้าเข้าหาท้องน้อยเจ้าน้อยพร้อมกับเอามือทั้งสองกอดเข้าลำตัวเจ้าเติร์กไว้แน่น “บิวทำนะค๊าบ” เจ้าเติร์กถึงกับรีมก้มมอง “อะไรน่ะบิว!!” เจ้าบิวเงียบพร้อมกับค่อยเอาใบหน้าซุกไปที่เป้ากางเกงเจ้าเติร์กและสูดหายใจเข้ายาวๆจะเกิดเสียง“ฟืดดดด” เจ้าเติร์กที่รุ้สึกถึงลมหายใจอุ่นๆเคลื่อนผ่านท่อนลำ มันถึงกับดิ้นตัวไปมา“เห้ยบิวไม่เอา ไม่ทำแบบนั้นครับ บิว อย่าทำครับ” “เจ้าบิวถึงกับหยุดไปชั่วครู่ “ทำไมอะค๊าบบเมื่อตอนนั้นพี่เติร์กยังให้บิวทำได้เลย” เจ้าบิวพูดโดยที่ใบหน้าของมันยังซุกคาเป้ากางเกง “ก็ตอนนั้นพี่…..พี่…อืม” จู่เจ้าเติร์กพลันนึกถึงหนิงขึ้นมา “ช่างมันเถอะ แต่พี่ว่าพี่รู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่บิว พี่เลย…”ไม่ทันที่เจ้าเติร์กจะพูดจบจู่ๆบิวมันใช้ริมฝีปากงับท่อนลำไปมาจากนอกกางเกงทันใด “บิวไม่ทำครับ ไม่ทำไง บิว ได้ยินที่พี่พูดไหมเจ้าเติร์กดิ้นไปมาแรงขึ้นและพยายามพลักเจ้าบิวให้ลุกจากตักของมัน ส่วนเจ้าบิวเองมันพยายามออกแรงกอดตัวเจ้าเติร์กไว้ให้แน่นขึ้นพร้อมกับเอาใบหน้าซุกถูบี้ไปมาบริเวณเป้ากางเกงและเอาปากงับๆไปพร้อมๆกัน ไม่นานนักมันรับรู้ได้ถึงท่อนลำในกางเกงที่ค่อยๆพองตัวใหญ่แข็งขึ้นมาชนเข้าที่ใบหน้าของเจ้าบิว “บิว ครับ บิว อย่า บิว ไม่เอา บิว” น้ำเสียงของเจ้าเติร์กเริ่มสั่นๆไปพร้อมกับเสียงลมหายใจจนท่อนลำของเจ้าเติร์กแข็งตัวใหญ่จนดันกางเกงชุดนอนเป็นแท่งลำยาวโด่ขึ้นมา เสียงของเจ้าเติร์กเงียบลงเหลือเสียงเพียงลมหายใจเท่านั้น เจ้าบิวถอนหน้าของมันออกมามองเจ้าเติร์กที่ก้มมองมันอยู่ด้วยสายตาที่สื่อถึงความต้องการ ทันทีที่มันสบตาเจ้าเติร์กบางสิ่งได้กระตุ้นความคิดของเจ้าบิวให้มันทำสิ่งเหมือนที่มันเคยกระทำ เจ้าบิวมันค่อยใช้มือดึงเปิดขอบกางเกงพร้อมทั้งเอามองขวาของมันล้วงไปงัดเอาท่อนลำเจ้าเติร์กที่ซ่อนตัวภายใต้กางเกงดังกล่าวออกมาชมโลกภายนอกทันที เมื่อท่อนลำสีขาวใหญ่ยาวอยู่ในกำมือและปรากฏแก่สายตาของมันแล้ว เจ้าบิวมันจึงลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าและก้มหัวลงที่ท่อนลำมันออกแรงดึงหนังหุ้มปลายลงจนหัวเห็ดบานๆสีแดงอมชมพูที่มันคอยท่าปรากฏ เจ้าบิวจองมองและยิ้มด้วยความพอใจก่อนที่มันจะก้มเอาลิ้นไปเลียวนๆที่หัวเห็ดดังกล่าวจนเยิ้มไปด้วยน้ำลาย “อ่าหห อ่าหหห ซีดดด” เสียงครางเบาๆเจ้าเติร์กดังออกมาจากข้างในลำคอเจ้าเติร์กหายใจถี่และเอนตัวนอนลงไปที่เตียงช้าๆและแอ่นสะโพกขึ้นมาเล็กน้อยเจ้าบิวที่บรรเลงลิ้นเลียไปมาอยู่นั้นถึงกับใช้ริมฝีปากดูดหัวเห็ดดังกล่าวเข้าปากไปทันใด “บ๊วบบบบ” มันผงกหัวขึ้นลงไปมาพร้อมทั้งออกแรงดูดเน้นๆไปที่ส่วนปลายหัว “อ่าหหหบิว ยะยะอย่าง งะงั้นครับ อ่าหหอ่าหหห” เสียงครางด้วยความเสียวของมันกระตุ้นให้เจ้าบิวดูดและรูดเร้นด้วยริมฝีปากและลิ้นที่ตวัดใส่หัวเห็ดในอุ้งปากไปมาต่อเนื่อง “อืมมมอ่าอืมมมบิวอืมมมอ่าหห ซีดดดอ่าซีดดด โอ่วววว” เจ้าเติร์กถึงกับยกก้นขึ้นตามแรงดูดของเจ้าบิว อืมมมเร็วอีกนะค๊าบบบ อืมมมมดอ่วววซีดดดดเจ้าเติร์กเอื้อมมือซ้ายไปกดหัวเจ้าบิวเร่งจังหวะการโม๊กให้เร็วกว่าเก่าซึ่งเจ้าบิวเองก็ไม่มีทีว่าจะขัดขืนหรือต่อต้านแต่อย่างใดแต่มันกลับทำตามความต้องการเจ้าเติร์กอย่างว่าง่ายมืออีกข้างของเจ้าบิวที่ยังว่างมันยกขึ้นไปลูบไล้ไปมาที่ท้องน้อย ในตอนนี้ท่อนลำของเจ้าเติร์กแข็งตัวใหญ่แบบสุดๆจนเห็นเส้นเลือดที่ปูดโปนตามผิวท่อนลำขาวๆอย่างชัดเจนหัวเห็ดที่เบ่งบานคับแน่นในอุ้งปากของมัน ทำเอาเจ้าบิวปวดที่กรามทั้งสองขึ้นเรื่อยๆกระนั้นมันก็ยังคงออกแรงดูดจ๊วบบบบและผงกหัวตามแรงกดที่ของมือที่จับหัวมันไว้อยู่ขณะนี้ไปอย่างต่อเนื่อง “อื้มมมซีดดดโอ่วววอ๊ากกก บิวครับ เสียวสุดๆไปเลย อ่าหหหเสียงครางปนกับเสียงหายใจถี่เจ้าเติร์กทำเจ้าบิวถึงกับสุขใจและเร้าใจขึ้นเรื่อยๆมันพยายามห่อปากให้เล็กลง พร้อมทั้งใช้ลิ้นตวัดไปมาบริเวณปลายหัวเห็ด “อื้มมมอ่าหหหซีดดด บะบะบิวอมเก่ง ระรอบนี้ โอ๊ยยยอ่าหหซีดดด เสียวมาก อ่าหห เลย” คำพูดดังกล่าวทำเอาเจ้าบิวถึงกับดีใจจนมันตัดสิ้นดูดอมหัวเห็ดต่อไปเรื่อยๆโดยไม่สนกับความเจ็บปวดบริเวณกรามทั้งสองของมันเพียงเพื่อหวังที่จะให้เจ้าเติร์กสัมผัสและลิ้มรสความเสียวซ่านจากอุ้งปากและเกลียวลิ้นของมันให้นานที่สุดเท่าที่มันจะทำได้เจ้าเติร์กถึงกับเกร็งไปทั้งตัวและกัดฟันทำหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านกว่าครั้งไหนๆ มันเสียวอยู่แบบนั้นได้นานเกือบ 8 นาทีจนมันกระตุกตัวงึกๆปลดปล่อยน้ำเชื้อเข้าสู่อุ้งปากเจ้าบิวอย่างต่อเนื่องเจ้าบิวที่กำลังผงกหัวขึ้นลงดูดอมอยู่นั้นถึงกับหยุดนิ่งไปเจ้าเติร์กเกร็งตัวเสียวสุดยอดอย่างถึงที่สุดถึงกระนั้นหูของมันยังพอได้ยินเสียงกลืนอึกๆดังออกจากลำคอของเจ้าบิวอย่างต่อเนื่องเจ้าเติร์กถึงกับๆก้มลงมามองจนมันเห็นเจ้าบิวที่พยายมกลืนน้ำเชื้อของมันลงคออย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีจะลุกไปคายทิ้งเหมือนครั้งก่อนๆซึ่งมันเป็นภาพที่ทำให้เจ้าเติร์กรู้สึกฟินและดีอย่างบอกไม่ถูกทันทีที่น้ำเชื้อหยดสุดท้ายถูกกลืนลงคอไปหมดแล้ว เจ้าบิวที่ยังคงอมหัวเห็ดไว้ในปากมันไม่รอช้ามันผงกหัวขึ้นลงๆและออกแรงดูดจนเกิดเสียงดัง จ๊วบๆๆ ต่อทันทีเจ้าเติร์กบิดหน้าเกร็งและดิ้นไปมาด้วยความเสียวจี๊ดดดดด “อ๊ากกกกบิว บิว พอก่อน บิวว ซีดดดดด” มันเสียวจนต้องรีบลุกขึ้นมาจับหัวเจ้าบิวและงัดออกไปอย่างรวดเร็ว “แฮ่กๆๆๆ” เสียงหอบหายใจถี่ๆของเจ้าเติร์กดังขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมใช้มือยืนจับหัวสู้แรงเจ้าบิวที่พยายามจะก้มลงมาอมหัวเห็ดบานๆสีแดงสดที่เยิ้มไปด้วยน้ำลายเจ้าบิวต้อแสงจนเป็นมันวาวเจ้าบิวเองถึงกับเอ่ยปากถามขึ้นมา “พี่เติร์กหยุดไมอะบิวยังอยากทำต่ออีกอะ”เจ้าเติร์กถึงกับทำหน้าทึ่งในคำพูดดังกล่าว “แฮ่กๆๆพะพอแล้วบิวแฮ่ก พะพะพี่เสียวจนทนไม่ไหวแล้ว แฮ่กๆๆ” “แต่บิวยังไม่หนำใจเลยต่อนะพี่เติร์ก จู๋พี่เติร์กตอนนี้มันน่าอมมากเลยดูซิค๊าบบบ ดูมันกระตุกใหญ่เลย”เจ้าบิวรีบใช้มือทั้งสองจับกำท่อนลำและชักขึ้นชักลงไปมาและมองใบหน้าเจ้าเติร์กที่เป็นสีแดงอมชมพู“นี่บิวชอบขนาดนั้นเลยหรอ” “ค๊าบบพี่เติร์กบิวชอบบิวอมต่อนะ” “ถ้าบิวชอบงั้นเดี๋ยวพี่จะทำอะไรที่เสียวกว่านั้นครับ”“อะไรหรอพี่….” ไม่ทันที่เจ้าบิวจะพูดจบเจ้าเติร์กรีบกระโดดลงจากเตียงพร้อมใช้มือจับและกดเจ้าบิวให้นอนคว่ำพาดตัวไปกับขอบเตียง“เจ้าบิวถึงกับร้องทักเบาๆขึ้นมาด้วยความตกใจ “พี่เติร์ก!!! พี่จะทำไรบิวอะค๊าบ” “พี่ของลองอะไรหน่อยนะ” เจ้าเติร์กไม่รอช้ามันใช้มืออีกข้างดึงกางเกงขาสั้นของเจ้าบิวลงไปไว้ที่ขาเผยให้เห็นก้นสีขาวเรียบเนียนของเจ้าบิว “พี่เติร์ก!!!จะทำไรอะ พี่เติร์ก!!” เจ้าเติร์กใช้มือจับโคนท่อนลำและเอาปลายหัวเห็ดไปจ่อที่รูก้นพร้อมกับออกแรงกด ทันทีที่ปลายหัวเห็ดใหญ่ๆบานๆมุดเข้าไปในรูก้นน้อยๆของเจ้าบิวได้เพียงเล็กน้อยเจ้าบิวรับรู้ได้ถึงความรู้สึกจุกและแน่นคับ จนกลายเป็นความเจ็บปวดทำเอามันถึงกับดิ้นไปมาด้วยความตื่นกลัว “หือออพี่เติร์กไม่เอา ไม่เติร์กบิวเจ็บค๊าบ เจ็บค๊าบบ ไม่เอาไม่ทำแบบนี้”เสียงร้องที่สั่นด้วยความกลัวของเจ้าบิวได้ดึงสติของเจ้าเติร์กกลับมามันเลยรีบปล่อยมือทั้งสองที่จับสะโพกของเจ้าบิวออกทันใดเจ้าบิวถึงกับรีบใช้มือดึงกางเกงขึ้นมาสวมไว้เช่นเดิมและกระโดดหนีขึ้นไปบนนั่งอยู่เตียงและหยิบหมอนขึ้นมาบังตัวมันไว้อย่างรวดเร็ว “บิว เป็นไรไหม พี่ขอโทษครับ” เจ้าเติร์กจ้องมองเจ้าบิวที่สีหน้าไม่สู้ดีพร้อมทั้งสั่นเทาริกๆไปทั่วตัวเจ้าเติร์กรีบสวมกางเกงกลับที่เดิมและตามขึ้นไปนั่งข้างๆเจ้าบิวพร้อมทั้งเอามือลูบหัวปลอบเจ้าบิว“ไม่เป็นไรนะบิว พี่ไม่ทำแล้ว พี่ไม่ทำแล้วครับนะ บิว อะวางหมอนลงก่อนนะ” เจ้าเติร์กพูดปลอบได้สักพักมันจึงพาบิวมานั่งที่ขอบเตียง “พี่เติร์กตะกี้ พี่ทำไรบิวน่ะ บิวเจ็บนะค๊าบบ และบิวกลัวมากด้วย” “ช่างมันเถอะบิว อย่านึกถึงมันเลยครับถ้าบิวไม่ชอบพี่ก็จะไม่ทำแบบนั้นอีกนะ” เจ้าเติร์กจับโน้มหัวบิวมาพิงที่ตัวของมันพร้อมทั้งใช้มือตบที่แขนขวาเบาๆเจ้าบิวที่เริ่มยิ้มได้ มันรีบเงยหน้ามองเจ้าเติร์กที่กำลังวิตกกังวล “บิวไม่เป็นไรแล้วค๊าบพี่เติร์ก อย่าทำหน้าแบบนั้นค๊าบบ งั้นบิวทำสิ่งที่พี่เติร์กชอบต่อนะ” เจ้าบิวมันรีบก้มลงไปที่เป้ากางเกงและงัดเอาท่อนลำที่ยังแข็งโด่ออกมาอีกครั้งพร้อมทั้งถอกหัวและลงลิ้นเลียวนไปที่หัวเห็ดและคอหยักต่อทันที ในขณะที่เจ้าบิวกำลังใช้เลียเล่นๆที่หัวKเจ้าเติร์กอยู่นั่นเอง ได้มีสายตาคู่หนึ่งที่แอบมองทั้งสองจากหลังตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆโดยที่เจ้าเติร์กกับเจ้าบิวไม่รู้ตัวซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่มันคือเจ้าบอลที่แอบเข้ามาซ่อนในห้องเจ้าเติร์กตั้งแต่ตอนที่มันวิ่งขึ้นบันไดตั้งมาแต่แรกเพื่อจะเล่นจ๊ะเอ๋ ให้เจ้าเติร์กตกใจอีกครั้งซึ่งเจ้าบอลที่ได้ยินได้เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ มันถึงกับจ้องตาไม่กระพริบและอึ้งไม่เป็นท่าจนมันอุทานขึ้นมาในใจ “พี่เติร์ก!! พี่บิว!!” ไว้มาต่อครับ………
เนื้อหาในตอนที่ 13 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php?mod=viewthread&tid=128914&fromuid=155129
|