ผมเริ่มต้นกับเครื่องแบบทหาร ในคราที่ผมอายุได้ 17ปีและเดินทางมาพักอยู่กับคุณอาที่กรุงเทพฯ วันหนึ่งมีญาติมาพักด้วยชั่วคราวเขาชื่อ ดอน เป็นญาติผู้พี่ของผม แต่มาจากคนละจังหวัดกับ ผมเคยพบเขาเมื่อสมัยเด็กๆ แต่เพราะความที่ไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กันทำให้ผมชักจะลืมเลือนญาติผู้นี้ไปเสียแล้วมาพบกันอีกทีก็ตอนที่เขาแวะมาเยี่ยมคุณอานั่นเองที่ผมจำได้และได้รู้ว่าผมก็มีญาติเป็นคนในเครื่องแบบกับเขาเหมือนกัน พี่ดอนไปเป็นทหารอยู่หลายปี แต่เพราะความที่คุ้นเคยกันดีกับคุณอา จึงแวะมาเยี่ยมคุณอาเสมอเมื่อมีเวลาและครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผม ในวันที่ผมเองก็โตเป็นหนุ่มหล่อหน้าตาดีเขาเองก็ยังทักทายผม “ไงนัท โตขึ้นแล้วหล่อนี่เรา อย่างงี้สงสัยสาว ๆ ที่โรงเรียนติดตรึม”ผมได้แต่ยิ้มแหย ๆ ก็จริงอย่างที่พี่ดอนว่า มีสาว ๆ มาติดผมตรึม แต่ผมหาได้รู้สึกรู้สมกับเธอไม่ที่ผมปรารถนาคือคนในเครื่องแบบเท่านั้น คุณอาให้พี่ดอนพักร่วมกับผมในห้องคืนนั้นคุณอาเลี้ยงเหล้าฉลองการพบกันกับพี่ดอน ชวนผมไปร่วมวงด้วยแต่เพราะรู้ว่าตัวเองคออ่อน ผมก็เลยดื่มไปแค่แก้วสองแก้วแค่นั้นหน้าผมก็แดงฉ่ำเนื้อตัวร้อนฉ่าจนผมต้องขอตัวไปอาบน้ำแล้วเข้านอน ผมไม่คิดจะหลับเพราะนี่เป็นโอกาสของผมที่จะได้สัมผัสคนในเครื่องแบบจริงๆ เสียที ผมเฝ้าแต่นอนรอให้คุณอากับพี่ดอนเลิกดื่มเหล้ากันเสียทีผมมาสมใจก็ตอนนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนผมได้ยินเสียงคุณอาเรียกหาคนใช้ให้ไปเก็บข้าวของก่อนจะขอตัวไปนอนส่วนพี่ดอนหยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ผมได้ยินเสียงอาบน้ำแค่นั้นหัวใจผมก็เต้นระทึก พาลนึกจินตนาการถึงเรือนร่างของพี่ดอนขณะที่อาบน้ำ ผมจินตนาการด้วยอารมณ์ตุปัดตุเป๋อยู่พักใหญ่ก็ได้ยินเสียงหมุนลูกบิดประตู พี่ดอนเปิดประตูเข้ามา เมื่อเห็นว่าไฟในห้องดับเขาจึงพยายามเคลื่อนไหวให้เบาที่สุดคงกลัวว่าผมจะตื่น ทั้งที่ผมตื่นตลอดเวลา หากแต่แสร้งหลับตาเพื่อเร่งรัดเวลาแห่งการพูดจาทักทายไปสู่เวลาแห่งความหฤหรรษ์เสียที ผมหรี่ตาดูพี่ดอน แสงไฟจากนอกห้องส่องผ่านลำตัวพี่ดอนเห็นเป็นเงาเรือนร่างที่สมส่วนสมบูรณ์ ตามแบบนายทหารที่ผ่านการฝึกมาอย่างหนักพี่ดอนถอดเสื้อ นุ่งเพียงกางกงผ้าร่มขาสั้นจู๋ชนิดที่ถ้าไม่มีชั้นในปืนพกส่วนตัวอาจออกมาเพ่นพ่านแน่ ๆ เช็ดเนื้อตัวจนแห้ง พี่ดอนก็ขึ้นมานอนเคียงข้างผมคงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เพราะเพียงไม่นานพี่ดอนก็กรนคร่อก นั่นเองที่เป็นนาทีทองของผม ผมแกล้งทำเป็นนอนดิ้น เอามือไปวางไว้บนหน้าอกของพี่ดอนเสียงกรนยังคงสม่ำเสมอ ผมดิ้นอีกทีคราวนี้เลื่อนตัวเองไปที่ด้านล่าง เอาใบหน้าซบกับสีข้างของพี่ดอนเพื่อที่มือจะได้วางแปะปะบริเวณเป้าสีน้ำเงินของทหารอากาศอย่างพี่ดอนคราวนี้เสียงกรนชะงักไปนิดหนึ่งเปลี่ยนเป็นเสียงหายใจเข้าออกเป็นระยะ ใจผมยิ่งเต้นระทึก ก็วันนี้ไม่ใช่หรือที่ผมปรารถนามาตลอดชีวิต ผมแกล้งทำมือเปะปะไปมาพักเดียวปืนพกของพี่ดอนก็ขยายตัว ความยาวใหญ่ของลำกล้องทำให้ปลายลำกล้องมันโผล่พรวดออกมาล้นกางเกง มือของผมสัมผัสปลายกระบอก อารมณ์ผมก็สุดกลั้นปืนเล็กของผมที่ขยายตัวมานานแล้วยิ่งแข็ง ไม่มีการไหวติง ไม่มีการปัดป้อง มีเพียงลมหายใจขณะที่อาวุธประจำกายแข็งปั๋ง นั่นเองที่ทำให้ผมคิดว่าพี่ดอนคงมีใจกับผมเหมือนกันอาจจะอยากรู้อยากลองหรือไม่กล้าลุกโวยวายเพราะเกรงว่าผมจะอาย แต่นั่นไม่สำคัญสำหรับผมอีกต่อไป ผมพลิกตัวเอาใบหน้าซุกไซ้อยู่ที่เป้าของพี่ดอนเอาลิ้นแฉลบเลียบริเวณปลายกระบอกปืน เมื่อเห็นมีน้ำปริ่มออกมาผมก็เลียเข้าปากจนหมด แล้วจัดการร่นกางเกงสั้นตัวจิ๋วของพี่ดอนลงมาถึงแข้งคราวนี้เองที่ปืนกระบอกใหญ่ผงาดท้าทายอยู่ที่ใบหน้าของผม ผมกระทอกขึ้นลงสลับกับการดูด ผมเล่นจนเมื่อยปากในที่สุดพี่ดอนก็สาดกระสุนน้ำรักออกมา ผมดูดดื่มกินจนหมดมีที่เล็ดลอดเลอะอยู่ตามหน้าท้อง ผมก็เอาลิ้นแอบเลียตวัดเข้าปากจนหมดทุกหยาดหยดทั้งยังเอามือรีดไปตามท่อนลำให้น้ำออกมาให้หมด จนกระทั่งถึงหยดสุดท้ายผมเห็นว่าไม่มีออกมาแล้วจริง ๆนั่นเองที่ผมจัดการดึงกางเกงของพี่ดอนกลับเข้าที่เดิมแล้วกลับมานอนที่เดิมของตนเอง ทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น รุ่งเช้า พี่ดอนมีอาการเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังแต่งตัวเสร็จ เขาล่ำลาคุณอาผมตามไปส่งเขาที่หน้าประตู ก่อนขึ้นรถแท็กซี่ที่เรียกมารอไว้ พี่ดอนกระซิบบอกผมว่า “เก่งนี่เรา วันหลังจะมาอีก คราวนี้ไม่ให้ใช้ปากอย่างเดียวนะ”ว่าแล้วพี่ดอนก็เอื้อมมือมาบีบตูดผมส่งสัญญาณลับซึ่งผมเองเข้าใจดีและพร้อมจะฟิตตูดรอพี่ดอน คนในเครื่องแบบคนแรกของผม ผมมีอะไรกับคนในเครื่องแบบทหารเรือ ด้วยเซ็กซ์แบบมาตราฐานทั่วไปนั่นหลังจากที่ผมได้ลองให้พี่ดอนเปิดซิงประตูหลังผมแล้ว ตามด้วยเครื่องแบบทหารบกที่เร่าร้อนขึ้นมาอีกหน้อยและกับตชด. และทหารพราน ในเวลาต่อมา ซึ่งแต่ละครั้งล้วนเป็นประสบกามที่น่าประทับใจ ตบท้ายด้วยเครื่องแบบที่ผมนึกไม่ถึง และไม่เคยคาดคิดมาก่อน นั่นก็คือเครื่องแบบยาม ผมไม่แคร์เพราะว่ามันก็เป็นเครื่องแบบเหมือนกันว่ายังมีสีน้ำเงินเหมือนกับเครื่องแบบทหารจะเป็นไรไปเขาเป็นยามของหมู่บ้านที่ผมพักอยู่ ในวันที่ผมร่ำเรียนจนจบออกมาหาบ้านเช่าอยู่เองแล้วผมเล่นเสียวกันตรงสวนหย่อมในหมู่บ้านนั่นเอง เอากันไป คอยหลบผู้คนไปตื่นเต้นออกจะตาย แต่ประสบการณ์เผ็ดแสบของผม มาสะใจสะท้านทรวงก็ตอนที่ได้เจอกับคนในเครื่องแบบตำรวจ คืนนั้นผมไปดื่มเหล้ากับเพื่อนแถวสะพานควายที่ผับที่เปิดยันหกโมงเช้าหลังจากที่เมาได้ที่ประมาณตี 2 ผมออกมาเดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างนอกเพราะนั่นเป็นช่วงที่เด็กบาร์เพิ่งเลิกและทยอยกันออกมาผมตั้งใจว่าจะหาไปเป็นเพื่อนดื่มเหล้าต่อสักคน ผมไม่ได้เด็กแต่กลับได้คนในเครื่องแบบที่มอบประสบการณ์แสบสะท้านทรวงจนผมลืมไม่ลง ขณะที่ผมกำลังเดินหาเหยื่ออยู่นั่นเองก็มีเสียงดังขึ้นทางด้านหลัง “ไง มองหาเหยื่ออยู่เหรอ” ผมหันไปมอง ก็เห็นตำรวจหนุ่มหล่อคมเข้มสไตล์คนใต้ อยู่ในเครื่องแบบฟิตเปรี้ยะจนผมอดไม่ได้ที่จะแฉลบสายตาลงไปที่เป้าตามความเคยชิน “มองอะไรน่ะ” ผมตกใจเพราะลืมตัว “เอ่อ เปล่าครับ ขอโทษครับมันเคยชินน่ะเห็นคนในเครื่องแบบไม่ได้เป็นต้องชำเลืองมองเป้าทุกที เสียมารยาทจัง ขอโทษครับ”เขาอมยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่อยากดูมากกว่านี้มั้ยล่ะ จะให้ดู” ผ่านมาร้อยกว่าท่อนลำแล้วผมไม่จำเป็นต้องสงวนท่าทีแต่อย่างใดผมถามว่าจะไปดูที่ไหน เขาบอกว่าในโรงแรม เท่านั้นเองสำหรับเซ็กซ์ปี 2000 ด้านได้อายอด เขาพาผมเข้าโรงแรมที่ไม่ใช่โรงแรมม่านรูด เมื่อเข้าไปในห้องเรียบร้อยเขาถามผมว่า “ชอบอะไรที่ตื่นเต้นท้าทายหน่อยมั้ย” เขาถามด้วยสีหน้าคุกคามทางเพศผม “เคยเจอมาแล้ว กลัวจะไม่ตื่นเต้นจริงน่ะสิ” ผมทำท่ายียวนเท่านั้นเองที่เขาเปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เขาตะคอกสั่งให้ผมไปอาบน้ำ ทำเสียงจริงจังจนผมกลัว ยอมไปอาบน้ำแต่โดยดีพออาบน้ำออกมาแปลกใจที่เห็นเขายังอยู่ในชุดเครื่องแบบ กำลังจะอ้าปากถามเขาว่าทำไมไม่ถอดชุดอาบน้ำ เขาก็เข้ามากระตุกผ้าเช็ดตัวผมออก เขาจิกหัวผมลากไปที่กลางห้อง แล้วผลักให้ผมนั่งลงเขาเดินเข้ามายืนคร่อมตรงหน้าผม ดึงหน้าผมไปซุกตรง “เป้าสีกากี” ของเขาเขาไม่รู้กระมังว่า นี่แหละของโปรดของผม ไฟสวาทในกายผมลุกโชน ผมลูบคลำเป้าของเขาเอาใบหน้าคลอเคลียสูดดมกลิ่นไอความเป็นชายของเขา เขาดึงร่างผมขึ้นมาแล้วจูบไซ้ผมอย่างรุนแรงแล้วพลิกตัวผมให้หันหน้าออก เขาไซ้ที่แผ่นหลังของผม มือบีบก้นผมอย่างแรงเอานิ้วสอดเข้ารูทวาร ผมรู้สึกสยิวฟิวส์ขาด ร่างแทบอ่อนระทวยเพราะเคราสาก ๆจากใบหน้าของเขา และขณะที่ผมกำลังเคลิ้มนั่นเองเขาก็งัดเอากุญแจมือมาใส่ที่ข้อมือผมแล้วลากไปคล้องไว้ที่เสาแขวนเสื้อผ้าที่เขาลากมาตั้งไว้กลางห้องเขาตบหน้าผมอย่างแรง “อย่าร้องนะถ้าไม่อยากตาย” ผมเริ่มตกใจอย่างจริงจังอวัยวะที่ชูชันหดเหลือสองนิ้ว ผมรู้แล้วว่าผมได้เจอพิสวาสซาดิสต์ตัวจริงเสียงจริงที่ผมเคยเห็นในวิดีโอเคยนึกอยากจะลองเหมือนกัน แต่ไม่คิดว่าจะเจอแบบจู่โจมเช่นนี้ทำเอาผมกลัวลนลานขึ้นมาจริง ๆ พาลคิดไปถึงข่าวคนถูกฆาตกรรมตามหน้าหนังสือพิมพ์นึกถึงคำเพื่อนที่เคยเตือนว่า “ระวังเถอะมึง จะเจอพวกข่มขืนแล้วฆ่า” ที่ผมเคยโต้กลับไปว่า “ดีสิ กลัวจะเจอประเภทฆ่าแต่ไม่ยอมข่มขืนนี่สิ มันน่าเจ็บใจ” คืนนี้ วันนี้ ผมโดนข่มขืนแน่เลย แต่จะโดนฆ่าหรือไม่นั้นยังไม่มีใครบอกได้ เขาตบหน้าผมอย่างแรง ปากก็ด่าผมต่าง ๆ นานาราวกับโกรธผมมาสักชาติหน้า ด่าไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์ ไอ้ลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอนจนผมตั้งตัวไม่ติด เขาชกผมที่ท้อง จนผมทรุดไปกองกับพื้น เขาทั้งจิกผม ตบหน้าชกท้อง เอาตีนถีบผม ราวกับผมทำผิดร้ายแรง เหมือนตอนที่ตำรวจรุมสกัมผู้ต้องหาให้รับสารภาพผมคิดว่าเขาคงเก็บกดจากเรื่องงานแน่ ๆ แต่ก็ไม่มีเวลาให้ผมได้คิดนาน เขาก็จับผมหันหลังเอาเท้ากระทืบกลางหลัง จนผมทรุดลงไปอยู่ในท่าคุกเข่า เขาถอดเสื้อผ้าออกผมเหลือบไปมองอย่างกลัว ๆ กล้า ๆ เห็นเขาชักว่าวจนท่อนลำแข็งเด่เอ็นท่อนขนาดประมาณ 7 นิ้วพองก๋า เรียกว่าถ้ากระแทบเข้าแบบรุนแรงรับรองว่าผมตูดบานเป็นจานเรดาร์แน่ ผมถอยตัวหนีตามสัญชาตญาณ แต่เขาก็จิกหัวผมไว้ “ไอ้สัตว์ ทำเป็นไม่เคย เดี๋ยวพ่อจะเย็ดให้ตูดฉีกเลยมึง” “เดี๋ยว ใจเย็น ๆ ผมยอมทุกอย่าง จะทำอะไรก็ยอมหมดแล้วแต่ถึงอย่ากับให้ตูดฉีกเลย ผมไม่อยากไปหาหมอ อายเขา” เขาไม่ฟังเสียงแต่ก็บ้วนน้ำลายลงที่หำของตัวเอง แล้วอีกทีเอามาป้ายที่ประตูหลังของผมจากนั้นก็เอามาจ่อที่หน้าประตู ผมทำใจพยายามไม่เกร็ง รีบบานรูตูดเพื่อรอรับท่อนลำทำใจยอมรับความจริงที่ผมจะต้องเผชิญกับดอยักษ์ดอมาร แต่เขาก็ไม่ได้ใจร้ายจนเกินไปนัก ตอนที่เข้า เขาค่อย ๆ ดันเข้าแต่พอเข้าไปแล้วคราวนี้เขากระแทกไม่ยั้ง กระแทกไปจิกหัวผมไปเอามือฟาดไปที่กลางหลังผมอย่างแรง เขากระเด้าอยู่พักใหญ่ก็ชักท่อนลำออกมา แล้วเอามาราดที่หน้าผมผมหลับตาแทบไม่ทัน ระหว่างที่น้ำแตกร่างเขาเกร็งเขม็งร้องฮือฮาดุดัน ผมเองเหนื่อยหอบมันกลัวมากกว่าจะรู้สึกเซ็กซ์ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกและเข้าใจถึงคนที่โดนข่มขืนพอเสร็จเขาบอกให้ผมไปอาบน้ำ โดยถอดกุญแจมือออก “เป็นไง มันส์สะใจมั้ย เดี๋ยววันหลังจะเรียกมาใช้บริการใหม่” เขาว่าดูเขากลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิม ผมคิดในใจว่า จ้างให้กูก็ไม่มาแล้วแต่แล้วก็ฉุกใจคิดขึ้นได้ว่า ผมได้ให้เบอร์โทรเขาไปแล้วเขาฉลาดที่ตะล่อมถามรายละเอียดเกี่ยวกับผมจนหมดผมเองก็ย่ามใจเพราะเห็นว่าเป็นตำรวจสงสัยจะนึกว่าตัวเงเป็นผู้ต้องหาที่ถูกสอบปากคำ ระหว่างที่นั่งรถมาผมเลยบอกเขาไปจนหมด ซวยแล้วสิตู เมื่ออาบน้ำเสร็จ ผมออกมาจากห้องน้ำ ไม่มีเงาของเขาเสียแล้วเขารีบออกไปก่อน ผมมองไปที่เตียงเห็นเงินวางอยู่ เข้าไปหยิบดูนับได้สามพันบาทนี่ผมมีค่าตัวด้วยหรือนี่ ผมกลายเป็นกะหรี่ไปแล้วเหรอนี่ หยามกันชัด ๆแต่พอมานึกอีกที ก็ดีเหมือนกันถือเป็นค่ายารักษาตูด เพราะเจ็บนี้คงอีกนานทีเดียว ผมไม่รู้หรอกว่าประสบการณ์ครั้งนั้นมันจะส่งผลต่อมาเพราะหลังจากนั้นผมเริ่มรู้สึกอยากมีเซ็กซ์แบบดุเดือดอีกชนิดตัวต่อตัวเริ่มไม่สะใจ ผมชอบแบบเซ็กซ์หมู่ หรือมีห้าหกคนมารุมผมคนเดียวชอบเซ็กซ์แบบซาดิสต์ ถึงขนาดเคยออฟเด็กบาร์ แล้วให้เด็กบาร์ทำแบบที่ “คนในเครื่องแบบสีกากี”ทำกับผม ผมไม่กล้าบอกใครว่า ลึก ๆ ในใจผมแล้ว ผมเฝ้ารอโทรศัพท์จาก “คนในเครื่องแบบสีกากี”คนนั้นอีก เมื่อไหร่หนอ ที่เขาจะโทรมาเรียกใช้บริการผมอีกคราวนี้ผมสัญญาครับคุณตำรวจว่าผมจะไม่ร้องสักแอะ ผมจะแค่ร้องซี้ดและจะเตรียมตัวเตรียมใจรอรับการย่ำยีจากคุณด้วยหัวใจทั้งหมดที่มี
|