****** ชอบอ่านเมนต์นะครับเมนต์ได้มากกว่าคำว่าขอบคุณ จะขอบคุณมากครับ สื่อสารกัน***** เครื่องรางสวาท ภาคจบ5รับศึกหนัก ตามชะตากรรม(ตอนอวสาน) ผมถึงกรุงเทพบ่าย ๆ อีกวัน จัดการเก็บของก็นอนสลบไปถึงเช้าอีกวัน แดน กับนัท นอนบ้านผมเช้ามานั่งกินข้าวเช้า นัทขอตัวไปขนของ มาอยู่บ้านผม ผมให้เขาช่วยงานที่ ร้านเหล้าดูแลกับทีม ส่วนแดน ผมจะพาไปสมัครเรียน กศน. แล้วส่งเรียนไปเรื่อยตามที่เขาต้องการ “ผมฝันบอกว่า ให้ตามพี่”นัทบอก “ผมก็ฝันเหมือนกันพี่ฝันเหมือนพี่นัทเลย”แดนพูด ผมเลยนึกขึ้นมาได้ เปิดโทรศัพท์ดูวันข้างขึ้นข้างแรมแรม 2 ค่ำ ใกล้สุดก็อีกสามวัน ยังมีเวลาเตรียมตัว ผมนั่งนึกถึงฝันที่เกิดขึ้น ที่เดิม จุดเริ่ม วัดแห่งนั้นแน่ ๆบ้านหลังนั้น กับชายชุดขาว 3 คน “พี่รู้แล้วว่าที่ไหน เราคงต้องไปกัน อีกสามวัน วันนี้เราก็จัดการเรื่องเราก่อนแล้วกัน” ผมบอก “เราจะตายไหมพี่”นัทถามอีกแล้ว “ไม่รู้แต่มันติดตัวเรา ถ้าตาย หนีไปไหนก็ตายอยู่ดี”ผมบอก ทุกคนไม่พูดอะไรนั่งเงียบเครียด ๆ ผมเลยเปลี่ยนเรื่อง โดยขอเลขบัญชี นัท แล้วโอนเงินให้ 1 แสนบาท “เอ้าเอาไปใช้ซื้อความสุข แต่อย่าเมาอย่าตายนะมึง”ผมบอก นัทงงกับตัวเลขแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร พร้อมแต่งตัวออกจากบ้านไป เหลือผมกับแดนผมเลยชวนแดนไปที่ร้านก่อน เพื่อให้ลูกน้องช่วยขับรถให้อีกคน ไปถึงที่ร้าน ไอ้นุคนเดิม(มันขยันสุดเอาการเอางานที่สุดในบรรดาเพื่อน ๆ 4 คน) ผมเลยชวนนุไปด้วยช่วยถือของ ขับรถเราไปที่ห้างเพื่อจัดการเรื่องเสื้อผ้าของใช้ของแดน ตอนอยู่บนรถ “แดนนี่มีแววหน้าตาดีนะครับขัดผิวทำหน้าหน่อย น่าจะโอเลย”นุ บอก ผมก็ลืมดูเพราะสนใจแต่ เรื่องเครื่องรางหันไปมองหน้าแดน ก็จริงโครงหน้ามันดูมีแววหล่อเลย แถมมีแววเป็นลูกครึ่งด้วยพอถึงห้าง ผมเลยจัดการพาแดนไป ร้านดูแลผิว เจ้าประจำ ให้จัดชุดใหญ่ ทำทุกอย่างที่ทำได้ไปเลยร้านก็บอกยินดี ขอเวลาสัก 3 ชม ผมเลยทิ้งแดนไว้ที่ร้าน แล้วไปเดินเล่นกับนุ เดินไปจนเบื่อแล้วเบื่ออีก ครบ 3 ชม ผมก็ไปรอที่ร้าน กับไอ้นุ พอแดนออกมาผิวขาวขึ้นดูสะอาดสะอ้าน หน้าคม คิวดกเข้ารูป ผิวจริงขาว ตาสีน้ำตาล หุ่นดูสันทัดแถมมีกล้ามเล็ก ๆ เพราะผ่านการใช้แรงงานที่ต่างจังหวัดมา ราคาหลักหมื่นได้เด็กเยี่ยงพระเอกหนังมา คุ้มครับ เหลือแต่เสื้อผ้า ดูตุ่น ๆ ผมเลยพาไปซื้อเสื้อผ้า ของใช้ โทรศัพท์ และอื่นๆ สุดท้ายไปเปิดบัญชี และสอนกดเงินเพื่อผมจะได้โอนเงินให้ใช้ได้ เป็นอันเสร็จ กลับมาบ้านนัทกลับมาแล้วพร้อมของใหม่หลายอย่าง ซื้อเหมือนวันสุดท้ายของชีวิต บ้านที่ผมซื้อเป็นบ้านเดี่ยวมีบริเวณ เหมือนเจ้าของเก่าคงรวยพอสมควร มีหลายห้องแต่น่าจะเก่าหน่อย ผมซื้อมาแล้วรีโนเวทใหม่หน่อยก็ใช้ได้สองคนเข้าไปเลือกห้องจัดของเรียบร้อย ผมสั่งอาหารเย็นมาเรียบร้อย เราเริ่มกินข้าวไปคุยกันไปเพื่อรู้จักกันมากขึ้นทุกเรื่องรวมถึงเรื่องเซ็กส์ เราพักผ่อนกันได้อีก 1 วันเพราะ วันแรม 2 ค่ำกำลังจะมาถึง..... เช้าวันนั้นเราขับรถออกไป 3 คน ทั้งรถเงียบ นัทนั่งเครียดกว่าใคร นั่งเงียบ ไปตลอดทางส่วนไอ้แดน เพิ่งเล่นโทรศัพท์เป็น กำลังเห่อเล่นโทรศัพท์ไปตลอดทาง ขับรถไม่ทันเหนื่อยก็ถึงผมเลี้ยวเข้าไปตามทางเดิม คราวนี่ ทำไมมันดูไกล และลึกกว่าที่เคยมาก็ไม่รู้ผมขับเข้าไป จนสุดทางถนนดำ ไปตามถนนลูกรังอีกสักพัก จนถึง จุดที่พิกัดบอกว่าเป็นวัด ผมเลี้ยวเข้าไปที่ลานดินที่เดิม มันแปลกใจอย่างเดียวคือวัดโทรมกว่าที่ผมเคยมามาก ดูออกว่าเป็นวัดร้าง ผมพยามนึกว่า ไปทางเดิมทางไหนพยามเดินหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ “ลุง”นัทร้อง ลุงคนนั้น ยืนยิ้มที่อีกมุมหนึ่งของลานแล้วหันหลังเดินเข้าพุ่มไม้ไปเราวิ่งตามไปทางนั้น ฝ่าพุ่มไม้ พ้นพุ่มไม้ เป็นทางเดินจริง ๆ ทางเดินไปบ้านหลังนั้น!!! เราเดินไปตามทางลุงเดินนำห่าง ๆ ถึงบ้านหลังนั้นจริง ๆ แต่มันโทรมจนไม่มีใครอยู่ได้แล้วลุงก็ไม่ได้หยุดที่บ้าน แต่เดินต่อ เราเดินตามไปผ่านป่า ทึบ ลุยพงหญ้าจนถึงลานกว้าง เป็นลานดิน ลุงหยุดกลางลาน กับชายคนหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ ผมพยามมองหน้าตาเขาเหมือนคนโบราณ ดูดุดัน ลุงก้มลงกราบ แล้วลุกมายืนข้าง ๆเราหยุดกลางลานพอดี เมฆครึ้มโดยไม่มีสาเหตุ แต่ไม่มีฝน “ถึงเวลาแล้ว”ลุงบอกพร้อมหัวเราะ พวกเรายังนิ่ง เพราะไม่รู้จะเจออะไรต่อไป นัทเริ่มน้ำตาไหล “เจ้าต้องเป็นผู้สืบทอด”เสียงลอดออกมาจากชายคนนั้นแต่ผมไม่เห็นเขาขยับปาก “เราต้องทำยังไง”ผมถาม “ตายเราตายแน่ฮือ ๆ ๆ ๆ”นัทร้องไห้ฟูมฟาย “บูชาข้าบูชาข้าตลอดไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”เสียงดังก้องไปทั่ว “บูชาแน่ท่าน แต่ขอชีวิตเราไว้ได้ไหม”ผมถาม ใจก็เริ่มกลัวตายจะต้องเอาชีวิตบูชาหรือเปล่าวะ มีเพียงเสียงหัวเราร่างนั้นค่อย ๆ เลือนหายไปช้า ๆ ทันใดนั้น ฟ้ามึดมองอะไรไม่เห็น เหมือนทั้งหมดมืดไปหมด แล้วก็กลับมาสว่างขึ้น รอบข้างเราเปลี่ยนไป... เรายังยืนอยู่ตรงกลางลานแต่รอบเรา มีผู้ชายโบราณหุ่นกำยำ หน้าตาดุดัน ยืนแก้ผ้าอยู่รอบเราเป็นสิบคนเกินกว่าจะนับได้ ผมคิดในใจ เราตายแน่ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ใจแข็ง ตะโกนออกไป “บูชาอะไรก็ได้อย่าเอาชีวิตพวกเราเลย พวกเราขอร้อง”ผมยกมือไหว้ ชายทุกคนเดินเข้ามาหาเราช้า ๆ ท่อนของทุกคนตั้งชี้ ใหญ่หัวบาน “เจ้าจงบูชาอย่างที่เจ้าควรบูชาข้า อันเป็นเจ้าของเครื่องราง” เสียงลอยมาดังก้อง เพียงเท่านั้นชายทุกคนเข้ามาหาเราสามคน ผมแว็บคิดในสมอง “บูชา อย่างที่ควรบูชา”เราบูชาด้วยกาม มันต้องเป็นกาม “กามเราต้องบูชาด้วยกาม”ผมตะโกนบอกอีกสองคน แล้วนั่งคุกเข่าลงตรงกลางวงปากพอดีกับท่อนที่ใกล้เข้ามา ผมไม่รอ เริ่มอ้าปาก อมท่อนตรงหน้าปาก ดูดรูดบรรเลงเพลงลิ้น เพลงดูด อย่างรุนแรง แต่ไม่ทัน เอวผมถูกจับยกด้วยแรงมหาศาลไปอยู่ในท่าหมา ผมคลานสี่ขาปากอมดูด ท่อนนั้นที ท่อนนี้ทีผมรู้สึกได้ ท่อนใหญ่ๆ กำลังเข้ามาในรูตูดผม กดหัวเขาแล้วเข้ามาช้า ๆผมปล่อยปากไปดู คนนึงเริ่มกดเข้าไปในรูผมแล้วกดจนสุดแล้วเริ่มกระแทก อีกมุม ไม่ไกลนัท กำลังโดนท่าเดียวกับผม ปากก็ไม่ว่างเหมือนกัน แดนกำลังนอนหงาย คนรุมเอาปากดูดท่อน ทั้งตัวโดนเลียทั่ว เราไม่มีเสียงอื่น นอกจากเสียงฮือ ๆ ๆเพราะปากยังเต็มด้วยท่อน หลังผม โดนกระแทกเร็วแรงไปอีก ท่อนหนึ่ง ปล่อยน้ำใส่ปากผมมันเอ่อจนล้นออกมาจากปากไหลไปเลอะคางลงพื้น ผมไม่หยุด หันไปงับอีกท่อน รูดดูด หลังผมโดนน้ำแรกแล้ว เยอะเหมือนกันไหลออกมาถึงขา แปลกเพียงอย่างเดียว ท่อนแรกไม่ได้ชักออก แต่ความรู้สึกคือหายไปเฉย ๆ พอหายไปอีกท่อนก็ใส่เข้ามาทันทีที่เดียวสุด ผมจุกเลย สุดแล้วเริ่มกระแทกผม ตัวโยนตามแรง ปากก็ยังดูด รูดไม่ปล่อยเอวผมโดนรั้งขึ้นมาอีกอยู่ท่ายืนโก่งตูด แล้วกระแทกต่อผมก้มตัวมา ดูดอยู่ปล่อยท่อนเงยหน้ามอง ผมเห็นคาตา คนที่เอาแดน เมื่อเสร็จแล้วร่างค่อย ๆ หายไปตรงนั้นแต่รอบข้างเรา ยังอยู่อีกหลายสิบคน เข้ามาหาเราสามคนเรื่อย ๆ “ปึก”เสียงกระแทกเอวเขากับก้นผมกดสุด แล้วน้ำอุ่นๆ ก็ปล่อยใส่รูผมผมหันหลังไปมองร่างนั้นยิ้มอย่างมีความสุข แล้วค่อย ๆ เลือนเป็นอากาศไปผมเข่าอ่อนลงคุกเข่าท่าหมา “สวบ ท่อนอีกท่อนก็เสียบเข้ามาอีกแล้วรูก้นผมชาเกินกว่าจะเสียว ท่อนผมยังไม่แข็ง นัทเริ่มสนุกกับการดูดท่อนน้ำกามเลอะทั้งหัวทั้งหน้า ทั้งตั้ว ทั้งหน้าอก ทั้งหลัง แดน สลบไปแล้วแต่ก็ยังโดนเอาอยู่อย่างไม่ลดละ ทั้งตัวแดนมีแต่น้ำกาม เลอะไปหมดนอนหงายหมดสภาพผมกันกลับมาอีกทีน้ำกามพุ่งใส่หน้าผมเต็มหมดผมปิดตา ทัน แต่ปาก กับหัวหลบไม่ทันท่อนผมโดนกระแทกอีกแล้ว ตอนแรกก็นับ นับได้สิบท่อนก็หมดแรงนับ รู้อย่างเดียวว่าผมโดนเอาเกินสิบท่อนแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดรูตูดผมชาไปหมดแล้วแต่ก็ยังโดนอยู่ หน้าผม มีท่อนวนเวียนเข้ามาไม่ขาดผมดูดสลับทีละ สามท่อน ท่อนไหนแตก ก็มีท่อนใหม่เข้ามา เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ผมเริ่มเบลอ มองไปรอบ คนเริ่มน้อยลง รอบตัวนัทเหลือ 3 คน รอบตัวแดน เหลือ 2 คนรอบผม เหลืออีก 2ผมโดนจับนอนหงาย แล้วกดใส่รูท่านอนหงายทำให้ผมเห็น หน้าคนที่เอาผมอยู่ เป็นหน้าชายคนหนึ่งที่ดูดีเหมือนนักรบโบราณ กำลังแสยะยิ้ม แล้วกระแทกผมไปไม่ยั้งทุกคนมาแรงหมดคนนี้เสร็จ หน้าเขาดูเป็นสุขแบบไม่เคยสุขมาก่อน แล้วค่อย ๆ เลือนหายไปอีกคนก็เช่นกัน ผมหมด แล้วนอนหมดแรงกลางลานดิน หันหน้าไปมองนัทก็หมดแล้วนอนเหมือนกัน แดนก็หมดแล้ว แต่สลบไปนานแล้ว พอพักเอาแรงได้ ผมค่อย ๆพยุงตัวลุกขึ้น คลานไปหานัท เพื่อดู “ระเรา ไม่ตายพี่”นัทยิ้ม ผมพยุงนัท ไปหาแดน จับตัวแดนดู ยังไม่ตาย แค่สลบผมพยามปลุกแดน แต่ก็ยังไม่ตื่น เราพยามพยุงแดนและสังขารเราที่ผ่านท่อนมานับไม่ถ้วน เดินไปตามทาง ถึงบ้านหลังนั้น ใจผมอยากกลับไปถึงรถให้เร็วที่สุด อย่างน้อยอยู่ที่รถก็อุ่นใจ ผมเดินผ่านบ้านหลังนั้นช้าๆ ด้วยแรงเท่าที่มี “มานี่ก่อน”ลุงคนเดิม เรียกมาจากบนบ้าน ผมกำลังจะเดินหนี แต่ขาก้าวไม่ออก ขาเราสามคนค่อย ๆเดินไปที่บ้านหลังนั้น ใจบอกว่า ไม่ไหวแล้วนะ ไม่ไหวแล้ว แต่ขาก็ยังเดินบ้านหลังนั้นกลับมาสวย ไม้ใหม่ สะอาดสะอ้าน ลุงเดินนำขึ้นไปข้างบน เราค่อยๆเกาะราวบันได แล้วปีนขึ้นไปด้วยขาที่สั่นสะท้าน เรานั่งลงหมดสภาพกลางบ้าน ชายชุดขาวสามคน หายไปแล้ว เหลือแต่ ชายที่กลางลานคนเดียวนั่งอยู่ที่แท่นบูชา ในสภาพใส่ผ้านุ่งขาว ไม่ใส่เสื้อ “เอ้ากินซะ”ลุงเดินเอาน้ำมาให้คนละจอก น้ำกลิ่นเหม็นแทบอ้วก แต่โดนบังคับให้กินกลั้นใจกินเข้าไป สักพักร้อนในท้องแล้วรู้สึกสดชื่น แรงเริ่มกลับมาความชา เจ็บปวดอะไรก็ตาม เริ่มหายไปเริ่มกลับมาเป็นปกติ นัทเห็นผมกินแล้วดีก็กินบ้าง ก็เป็นเหมือนกันเราเอาน้ำนั้นกรอกปากแดน สักพักแดนก็ฟื้น เรานั่งลงดีแล้ว ลุงพยามทำท่าให้กราบซึ่งเราสามคนก็กราบกันอย่างว่าง่าย เมื่อเงยหน้าขึ้น “เจ้าถึงเวลาแล้วถึงเวลาสำหรับผู้ดูแล”ท่านผู้นั้น พูดออกมา คราวนี้ ดูเหมือนคนปกติ เท่านั้นเอง “ดูแลให้เราทำยังไง”ผมถาม ยิ่งเจอเหตุการณ์อย่างนี้ยิ่งสงสัย “ดูแลวิญญาณทั้ง 3 ต่อไป” เพียงพูดจบเครื่องรางที่ไม่เคยหลุดจากคอเพราะถอดเชือกไม่มีปมไม่ได้ ก็หลุดออกจากคอเชือกไม่มีปมเหมือนเดิม แต่กลายเป็นเชือกเส้นยาวสองปลายลุงเดินมาเก็บเครื่องรางทั้ง 3 ชิ้น ไป ผมมองตาม ภาพต่าง ๆที่เคยเกิดขึ้นจากเครื่องราง ลอยมา แล้วพูดในใจว่า “โชคดีนะขอบคุณ”ผมพูดในใจกับเครื่องราง ที่อาจจะไปถึงวิญญาณนั้น “จะขอบคุณทำไมเมื่อ เจ้าต้องดูแลวิญญาณนี้ต่อไปจนเจ้า ตาย”ท่านนั้นพูด “ก็เครื่องรางไปแล้ว”นัทโพล่งถามน่าจะด้วยความเสียดาย “เครื่องรางไปหาคนใหม่แต่วิญญาณทั้งสาม ก็ยังอยู่กับตัวเจ้า และจะออกมาเพื่อเจ้าทุกครั้งเมื่อเจ้าต้องการ”เสียงท่านยังพูดต่อ หมายความว่า ไม่มีเครื่องราง แต่พลังของเรา ยังอยู่ว่าอย่างนั้น “เจ้าต้องรอรับเจ้าของเครื่องรางคนใหม่ ทำพิธี ให้เขาบูชาข้า สืบต่อไป”เสียงยังไม่หาย ผมนึกถึงชายสามคนนุ่งห่มขาว ตอนที่ได้เครื่องรางมา เราต้องมานุ่งขาวห่มขาวเหรอวะเนี่ยเสียดายชีวิตอยู่เลย “ไม่ต้องถือสันโดษไม่ต้องบำเพ็ญ อยู่อย่างไรอย่างนั้นแล้วชะตา จะพาเจ้าไปทำ เพียงแค่หาที่บูชาข้า มาบูชาข้าแล้วเจ้าจะได้สิ่งที่เจ้าคาดไม่ถึง” เสียงหมดเพียงแค่นั้น ผมสามคนก้มลงกราบพอเงยหน้าขึ้นมา ร่างนั้นหายไปแล้ว หันไปทางลุง ที่นั่งอยู่ตรงบันได กลายเป็นนกกาตัวใหญ่ ตาสีขาวขุ่น เหมือนหันมามองเราสามคนแล้วโผบินไป เราลุกมอง กาตัวนั้น บินสูง ไปทางวัด แล้วบินวนอยู่รอบ ๆไม่ไกลเราวิ่งไปที่นั่ง พอใกล้ถึง อีกาตัวนั้น ร่องลงมาเกาะที่เนินดิน ผมยืนมองเนินดินอยู่ยังไม่ทันคิด แดนตรงเข้าไป เอามือคุ้ยตรงที่ อีกาตัวนั้นเกาะมันบินโผหายไปจากสายตาเราอย่างรวดเร็วผมเข้าไปคุ้ยดินกับแดน นัทตามมาช่วย ตรงที่กาเกาะ เหมือนก้อนหิน แต่พอดินเริ่มหลุดมันไม่ใช่หิน แต่เป็นแผ่นศิลาแลงแกะสลักเป็นรูป เทวรูปขอมลอยตัวเราสามคนมองหน้ากัน ไม่ต้องคิดมาก เราแบกกลับมาที่รถ และมุ่งหน้ากลับบ้าน “ ทำบุญ ให้มาก ทำดี ให้มาก ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ”เสียงสุดท้ายดังก้องหูพวกเราก่อนจะขับรถออกจากที่นั่น เมื่อขับรถออกมาถึงถนนใหญ่ ผมหันกลับไป ทางลูกรังหายไป เป็นทุ่งรกร้างไม่มีทาง ไม่มีทางเข้า อะไรเลย ....................................................................... ผ่านไป สองปี ธุรกิจผมดีไม่น่าเชื่อทั้งร้านเหล้า ทั้งซาวน่า และยังหุ้นอีก ผมเปิดธุรกิจใหม่หลายอย่าง ตอนนี้รายได้ดีมากผมยังติดต่อกับกิตอยู่เสมอ กิตไปตั้งรกรากอยู่ฝรั่งเศส กลับมาเยี่ยมเราบ้างผมบินไปเที่ยวฝรั่งเศสบ้าง นัทเรียนจบบริหารธุรกิจ ช่วยงานผม ดูแลธุรกิจกันไป มีเงินเลี้ยง พ่อแม่อย่างสบาย แดนเรียนจบกศน ม6 กำลังเรียนมหาลัยเปิด มีงานพิเศษ เป็นนายแบบเซ็กส์ซี่ ขวัญใจเกย์น้อยใหญ่ เรายังอยู่ด้วยกันที่บ้านผมซื้อที่ด้านหลังของบ้าน ทะลุกับถนนอีกสายด้านหน้า สร้างเรือนไทยแล้วเอารูปเทวรูปที่เจอไปบูชา ทุกวันแรม 2 ค่ำ เราจะไปบูชา ท่านด้วย กาม อันวิเศษซึ่งผม นัท และ แดนไม่เคยขาด อีกสิ่งที่เราไม่เคยขาดเหมือนกันคือ การทำบุญ วันนี้ก็เช่นกันเรามาทำบุญให้โรงเรียนวัดจังหวัดที่เราเจอบ้านหลังนั้น แล้วก็เลี้ยงพระทำบุญสร้างสิ่งจำเป็นที่วัดต้องการ วันนี้เรามาสร้างโกดังเก็บศพให้วัดเมื่อเลี้ยงพระเสร็จ คนร่วมบุญทยอยกลับ เราสามคนกำลังจะกลับ ก็มีพระรูปหนึ่งเดินมาหาเรา เมื่อนั่งคุกเข่าทำความเคารพเสร็จแล้ว ผมจำได้ว่าตลอดวันไม่เคยเห็นพระรูปนี้ แม้กระทั้งเราเลี้ยงพระทั้งวัด ก็ไม่เห็นผมหยิบปัจจัยทำใส่ย่าม ให้ท่าน แต่ท่านไม่รับ ยิ้มให้แล้วบอกว่า “ทำบุญเยอะ ๆเพื่อพวกเขาดีแล้วนะโยม พึงระลึกไว้นะโยม อะไรก็ตาม จะเกิดดี ถ้าทำเลว มันก็เลวแต่ถ้าเกิดเลว แต่ทำดี มันก็ดีนะโยม”ท่านพูดแค่นั้น แล้วก็เดินจากไป เมื่อเรากลับถึงบ้านอีกาตัวเดิม กาดำตัวใหญ่ ตาสีขาวขุ่น มาเกาะอยู่ที่รั่วบ้านเมื่อเราเห็นก็บินวนที่เรือนไทย แล้วก็ร่อนลงเกาะที่หลังคา เราสามคน เข้าไปที่เรือนไทยนุ่งผ้าสีขาวสั่นเปลือยด้านบน แล้วนั่งรอคนละมุม เพียงอึดใจ ชายหนุ่มอายุ 27 ในชุดพนักงานโรงงาน ก็เดินขึ้นมา ........ “ข้ารู้ว่าเจ้ามาทำไม”ผมพูดกับเขา “นั่งลงก่อน”เขานั่งลงอย่างว่าง่าย พนมมือไหว้เราทั้ง 3 คน “เจ้าจะถามเรื่องของที่เจ้าได้มาใช่ไหมล่ะ”ผมถาม ................................เจ้ายินดีใช้หรือไม่ ...................................................... (จบบริบูรณ์)................................................................................................. 3 N/ ?. j/ j \) }
|