แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย zodiacsci เมื่อ 2020-5-20 22:07
ขอบคุณทุกกระแสตอบรับใน 2 Chapter ที่แล้ว สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่าน 2 ตอนแรก กดแรงๆ ที่สองลิงก์ด้านล่างนี้เลยครับ
Chapter 1 : บทนำ
Chapter 2 : วันโลกาวินาศ
ส่วนใครที่รอติดตามตอนใหม่ ก็ไปต่อกันเลยครับ ว่าดูกันว่า จ็อบจะโดนอะไรขนาดไหน
“เธอทำไมใส่เสื้อนักเรียนแบบนั้น” เสียงดังมาจากข้างหลังหลังจากที่จ็อบกำลังเอาลูกบาสที่รวบรวมได้ไปเก็บ เวลานั้น ก็ประมาณ ห้าโมงกว่าแล้วจริงๆ มันควรจะเลิกประมาณสี่โมง แต่เพราะมีเด็กม.4 มาท้าแข่งบาสกับพวกจ็อบโดยมีเดิมพันว่า ทีมไหนแพ้ หัวหน้าทีมจะต้องรับผิดชอบ ทำตามคำสั่งของทั้งทีมชนะจนกว่าจะพอใจ ซึ่งคนที่รับคำท้าคือ โอ๊ต บอล ซอเพื่อนซี้ของจ็อบเอง โดยก่อนเดิมพันพูดกับจ็อบว่า มึงสบายใจได้กูจะไม่ทำให้มึงผิดหวังแน่นอน
แต่พอผลออกมาทีมของจ็อบ ซึ่งมีจ็อบเล่นเป็นแบบจริงจัง แค่คนเดียว ก็แพ้ไปตามระเบียบ จ็อบปลอบใจตัวเองว่ามันคงพูดเล่นมั้ง “ตามสัญญานะครับพี่” “ได้ๆคำไหน คำนั้น แต่กูขอโดนกับเพื่อนกูด้วยได้ไหม” บอลพูดต่อรองกับแก๊งค์เด็กม.4 “แล้วแต่พี่เลย” “มึงเพื่อนกูกูไม่ให้มึงโดนคนเดียวหรอก เราต้องรับผิดชอบร่วมกันแต่ตอนนี้มึงเอาลูกบาสไปเก็บตามคำสั่งของสยองก่อนไหม” บอลพูดกับจ็อบ “เออขอบใจว่ะ เดี๋ยวกูมานะ”จ็อบพูดเสร็จก็ลากถุงตาข่ายใส่ลูกบาสเก็ตบอลไปเก็บภายในห้องเก็บของโรงยิมจนกระทั่งได้ยินเสียงปริศนานั้น
“ครับ”จ็อบหันไปตอบทางต้นเสียงนั้น นั่น เสียงอาจารย์นรเวชนี่หว่า “ผมถามว่าทำไมคุณแต่งตัวแบบนั้น ไม่ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย” “ตอนเรียนวิชาบาสเกิดอุบัติเหตุครับ ทำให้เสื้อกระดุมหลุด” อาจารย์นรเวชเดินเข้ามาสำรวจเสื้อนักเรียนตามคำพูดของจ็อบ ระหว่างนั้นเด็กม.4 ที่เล่นบาส ก็ส่งเสียงดังเดินเข้ามาหาจ็อบ “พี่เพื่อนพี่ ชิ่งไปหมดแล้วนะ” “อ่าวไอ้สัส ทิ้งกูเฉย ไม่เห็นเหมือนตอนรับคำท้าเลย งั้นพี่ขอเป็นวันอื่นได้ไหมจะได้ลากพวกเพื่อนพี่มาโดนด้วย” จ็อบพยายามต่อรอง “ไม่ดีกว่าอ่ะพี่พวกผมเป็นพวกแบบว่าไม่ชอบติดค้างนาน” “พวกเธอท้าทายอะไรกัน”อาจารย์นรเวชถาม “ก็พวกผมแข่งบาสกับพวกพี่เขากับถ้าใครแพ้ หัวหน้าทีมแพ้ต้องทำตามคำสั่งของทีมที่ชนะ จนกว่าจะพอใจ” “งั้นคุณก็เอาลูกบาสไปเก็บก่อนแล้วมาหาน้องเขา” อาจารย์นรเวชสั่ง เมื่อจ็อบเก็บลูกบาสเสร็จก็จะขออาจารย์ออกไปเอากระเป๋า “ผมขอออกไปเอากระเป๋านักเรียนผมหน่อยนะครับ” “ไม่ต้องครับพี่พวกผมเอามาให้แล้ว” “ขอบใจมาก” “งั้นพวกผมขอคิดบัญชีที่เดิมพันไว้วันนี้เลยนะครับ” “ก็ได้แล้วแต่น้องเลย” “แต่ผมจะให้อาจารย์นรเวชมาร่วมด้วยนะพี่” “เอางั้นเหรอ”พลันสายตาชำเลืองไปหาอาจารย์นรเวช “เอาก็เอาวะ” “ดีมาก”อาจารย์นรเวชพูดขึ้นทันที “นักเรียนไปดึงประตูเหล็กโรงยิมลงมา” อาจารย์นรเวชสั่งนักเรียนม.4 ดึงประตูลงมาซึ่งตอนนั้นห้าโมงกว่าจะหกโมงแล้ว ถ้าประตูโรงยิมมันปิดล็อคก็คงไม่มีใครสงสัย “กษิดิษฐ์วันนี้ผมยังไม่ได้ทำโทษเธอที่เธอแต่งตัวผิด ไม่ใส่ชุดพละแถมใส่เสื้อนักเรียนไม่เรียบร้อยด้วย” “โธ่ผมอธิบายไปแล้วนะครับอาจารย์” จ็อบพยายามอธิบาย “ผมไม่สนใจคุณรู้ไหมว่า คุณเป็นนักเรียนที่อาจารย์ยกให้เป็นแบบอย่างกับน้องๆแต่วันนี้ดันทำตัวแบบนี้ ถึงแม้ว่าอาจารย์สนองจะทำโทษไปแล้วนั่นก็ส่วนของอาจารย์สนอง ของผมก็มีบทลงโทษของผมเอง” “ครับ”จ็อบ ได้แต่ก้มหน้ารับคำไป “วิดพื้นท่าเตรียม”อาจารย์นรเวชสั่ง “เตรียม”จ็อบเตรียมทำท่าเตรียมวิดพื้น “50 ครั้งปฏิบัติ” จ็อบวิดพื้นขึ้นลงอย่างคล่องแคล่วจนครบ จากนั้นให้ทำท่าสะพานโค้งเป็นเวลา 5 นาทีจากนั้นทำท่าหมอบคลานกลิ้งรอบโรงยิม จนมอมแมมไปหมด จนกระทั่ง “อาจารย์ครับเสื้อพี่เขาแลรุ่มร่าม ผมจะให้เขาถอดเสื้อนะครับ” “เอ้าน้องบอกแล้วก็ทำสิ” จ็อบปลดกระดุมเสื้อนักเรียนเท่าที่เหลืออยู่ออก แล้วถอดเสื้อเพื่อที่จะไปวางบนเก้าอี้ “ใครให้เอาเสื้อมาวางถอดทิ้งไว้ตรงนั้นเลย” จ็อบก็ถูกอาจารย์กับน้องม.4 สั่งทำโทษต่อไป “อาจารย์ครับผมว่า ในโรงยิมร้อนมากเลย เราไปที่สนามฟุตบอลเล็กข้างโรงยิมดีไหมครับ” “เออก็ดีนะ” อาจารย์นรเวชเห็นด้วย
ที่สนามฟุตบอลพื้นสนามเป็นทรายแดง อาจารย์นรเวช พร้อมด้วย จ็อบ และนักเรียน ม.4 ที่ตอนนี้ถือเสื้อนักเรียนของจ็อบไม่ต่างอะไรกับผ้าขี้ริ้วดีๆ ผืนนึง ขณะนั้น เวลาประมาณ หกโมงแสงแดดกำลังลับขอบฟ้า แต่ยังไม่มืดมาก แต่ตอนนี้ รอบคนกลุ่มนั้นไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ ทั้งสิ้น “คุณไปยืนตามระเบียบพักที่กลางสนาม” จ็อบไปยืนกางขาพร้อมมือประสานไว้ที่เอวด้านหลังสภาพของจ็อบตอนนั้น มีแค่กางเกงมอมแมมจากการทำโทษในโรงยิมถุงเท้าและรองเท้านักเรียน “อาจารย์ครับเมื่อกี้ในโรงยิมกลิ้งยังไม่ได้ฟิลเท่าไหร่ขอให้พี่เขาหมอบกลิ้งในสนามนี้อีกทีได้ไหมครับ”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อพวกเธอคือผู้ชนะ” “กษิดิษฐ์หมอบ แล้วกลิ้งไปทางขวาจนสุดทาง แล้วกลิ้งไปทางซ้ายจนสุดทาง” จ็อบตกลงใจกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะสนามฟุตบอลมันไม่ใช่เล็กๆ แต่ก็ต้องทำจ็อบเริ่มเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่สาแก่ใจของนักเรียน ม.4 “ผมอยากเห็นนักเรียนดีเด่น ทำอะไรแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนน่ะครับอาจารย์” จ็อบเริ่มสงสัยในความหมายของเด็กม.4 คนนั้น “แบบไหนเหรอ”อาจารย์นรเวชถามกลับเหมือนจงใจเปิดทาง “ก็เช่นแก้ผ้าโดนทำโทษในสนามบอลอะไรพวกนี้ครับ” จ็อบตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “มันเกินไปหรือเปล่าน้อง”จ็อบโพล่งออกมาทันทีที่ได้ยิน “คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรองนะกษิดิษฐ์” อาจารย์นรเวชบอกกับจ็อบ ทำให้จ็อบเงียบไป “คุณก็ถอดกางเกงออกพอให้เหลือติดตัวบ้างแล้วกัน” อาจารย์นรเวชสั่งจ็อบ จ็อบก้มหน้าหลับตา ถอดกางเกงนักเรียนที่มอมแมมไปด้วยฝุ่น เผยให้เห็นกางเกงในสีน้ำเงินที่เป็นเหมือนปราการด่านสุดท้ายห่อหุ้มแก่นชายของจ็อบไว้ด้วยความบรรยากาศเริ่มมืดลง ทำให้มีหนึ่งในกลุ่มนักเรียน ม.4แอบถ่ายคลิปโดยที่จ็อบไม่รู้ตัว “กษิดิษฐ์พุ่งหลัง 10ยก ปฏิบัติ” “กษิดิษฐ์หมอบกลิ้งไปจนเข้าประตูทั้งสองฝั่ง” เมื่อจ็อบทำตามที่อาจารย์นรเวชสั่งเสร็จร่างกายเขาก็หมดเรี่ยวแรง นักเรียน ม.4 จึงเริ่มคิดแผลงๆ ขึ้นเดินไปหาจ็อบที่ตอนนี้นอนคว่ำหมดสภาพอยู่ จับจ็อบขึงกับประตูฟุตบอล กางแขนปล่อยขาไว้ นาทีนั้น แค่เอาพละกำลังมาหายใจยังยากเลย คิดต่อต้านคงลำบาก ตอนนี้ชายหนุ่มหุ่นดี หน้าตาดี โดน ขึงไว้กับประตูฟุตบอล ด้วยสภาพกางเกงในตัวเดียวกับถุงเท้าและรองเท้านักเรียน “ครูผมอยากเห็นนักเรียนตัวอย่างของครูหลายๆคนล่อนจ้อนจังเลยครับ” อาจารย์นรเวชไม่ตอบแต่พยักหน้าให้สัญญาณ แต่จ็อบเองตกใจไม่น้อย “หมดกันศักดิ์ศรีกู” จ็อบเองได้แต่นึกในใจ ทันใดนั้นนักเรียนคนหนึ่งก็ควักคัตเตอร์ออกมา ตัดกางเกงในของจ็อบ จ็อบพยายามใช้แรงเท่าที่มีอยู่ดิ้น “อย่าดิ้นสิครับถ้าดิ้นแล้ว คัตเตอร์ไปบาดอะไรเข้าผมไม่รับรู้นะ” ตอนนี้ปราการด่านสุดท้ายโดนพรากออกจากตัวไปเรียบร้อยแล้วเผยให้เห็นของลับของนักเรียนตัวอย่าง ที่ไม่ว่าจะใช้วิธีไหนก็ปกปิดไม่ได้ถ้ามีใครเดินผ่านตรงคิดว่า คนบ้าที่ไหนใส่แค่รองเท้ากับถุงเท้านักเรียนแล้วโดนขึงไว้กับประตูฟุตบอล “นี่ก็มืดแล้วนะพวกเธอพอใจกันหรือยัง” “ขออาบน้ำให้ผู้แพ้คนนี้ก่อนนะครับ” “ได้สายยางอยู่ตรงโน้นลากมาได้เลย ครูไปแล้วนะ ป่านนี้เมียรอกินข้าวแล้ว” “อาจารย์สวัสดีครับ”
เมื่ออาจารย์นรเวชไปแล้วหัวหน้ากลุ่มนักเรียน ม.4 ก็ลากสายยางมาตามที่อาจารย์บอก พร้อมเปิดน้ำฉีดใส่ร่างของจ็อบ จ็อบตอนนี้รู้สึกอย่างบอกไม่ถูกจะสดชื่นขึ้นก็ไม่ใช่ จะเวทนาตัวเองที่อยู่ในสภาพนี้ก็ไม่เชิง แต่แล้วน้ำจากสายยางเจ้ากรรมก็ดันฉีดมายังน้องชายของจ็อบเต็มแรง “โอ๊ย พอแล้วๆ เจ็บ” “เจ็บหรอพี่ทำไมมันแข็งล่ะ” นักเรียนม.4 หัวเราะชอบใจกันทั้งกลุ่ม แต่จ็อบเองเบียนหน้าหนี ไม่อยากเห็นภาพที่ตัวเองโดนย่ำยีศักดิ์ศรีต่อไปได้ เมื่อนักเรียนม.4 ฉีดน้ำจนหนำใจแล้วเด็กที่เหลือก็แก้เชือกที่มัดมือทั้งสองข้างของจ็อบลงตอนนี้ จ็อบลงไปนอนกองกับพื้นแบบไร้เรี่ยวแรง “พี่ขอเสื้อกับกางเกงพี่คืนด้วย” “เสื้อคงไม่ได้หรอกพี่เพราะมันเลอะน้ำที่ใช้ฉีดพี่เมื่อกี้หมดแล้ว”พร้อมทั้งชี้มือไปที่กองเสื้อที่เปียกเลอะโคลนสีแดงอิฐ “งั้นขอกางเกงก็ได้” “ผมเอากางเกงพี่ไปวางไว้บนอัฒจรรย์พี่ไปเอาเองแล้วกันนะ” จ็อบหมดคำที่จะพูดพยายามลากร่างเปลือยเปล่า ไปหยิบกางเกงนักเรียน ที่วางบนอัฒจรรย์แต่ก็ยังดีที่พวกนักเรียนพวกนี้ แค่ขู่ จริงๆ แล้ว มันวางอยู่กับกระเป๋าของจ็อบเอง จ็อบพยายามใส่กางเกงนักเรียนและคาดเข็มขัดด้วยร่างกายที่อ่อนแรงเต็มทีโชคยังดีที่จ็อบติดเอาเสื้อคลุมที่ใส่ตอนเช้ามาด้วย ไม่งั้นคงต้องเดินเปลือยอกกลับบ้านแน่ๆ จ็อบใส่เสื้อคลุมแล้วจึงเดินกลับมาจากกลุ่มเด็กพวกนั้นอีกครั้งก่อนกลับ “หวังว่าพวกน้องคงเก็บเรื่องนี้เป็นความลับกันแค่ตรงนี้นะ” “ได้พี่คนอื่นคงพอใจแล้ว แต่ผมยังไม่พอใจนะพี่” “อ่าวจะให้พี่ทำอะไรอีกวะ พี่ไม่ไหวแล้วนะ” เด็กคนดังกล่าวก็เดินเข้าไปหาจ็อบ เอื้อมมือไปรูดซิปเสื้อคลุมที่จ็อบใส่ลงมาถึงสะดือ “ระหว่างทางกลับบ้านห้ามพี่รูดซิปขึ้น ถึงบ้านแล้วถ่ายรูปส่งไลน์มาให้ผม ผมอยากให้พี่โชว์หุ่นพี่บ้าง”พูดจบ เด็กคนนั้นก็ส่งมือถือของจ็อบคืน “ก็ได้วะแค่นี้ใช่ไหม” จ็อบหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ทำตามที่เด็กสั่งไปแต่ก็แอบสงสัยตัวเองว่า ทำไมเขาถึงชอบสิ่งที่เขาเจอวันนี้
หลายคนที่เอาใจแช่งนายจ็อบให้โดน คงจะสะใจนะครับ ตอนนี้ผมกำลังเขียนตอนต่อไปเรื่อยๆ ขอแง้มๆ ว่า ต่อไปจะไม่ได้มีเพียงจ็อบคนเดียวที่ต้องโดนดี
|