ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งในวันธรรมดาที่มีแต่เรื่องเดิมๆ ครอบครัวผมไปทำงานเหมือนทุกวัน ไอ้ปอไปทำงานที่อู่ผมนั่งอยู่บ้านคนเดียวเหมือนไร้ค่ายังไงไม่รู้ “เฮ้ย” ผมถอดหายใจอยู่หน้าบ้านคนเดียว(ไม่ได้ล่ะ กว่าจะไปเรียนก็อีกหลายเดือน)ผมตัดสินใจจะไปหางานทำผมเดินขึ้นไปบนห้องใส่กางเกงสแลกซ์กับเสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อนผมคิดว่าจะไปสมัครทำงานงานบริการก่อนครับ ยังไม่อยากทำงานตรงสายที่เรียนมา เพราะมันจะมีสัญญาแทบทุกครั้งไป อีกอย่างผมคงทำไม่ถึงปีผมก็ต้องไปเรียนผมขี่มอ-ไซต์คู่ใจของผมออกไป “ขอให้โชคดีนะไอ้ที” ผมพูดกับตัวเองจะมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าก่อน สมัครงานครั้งแรกครับ ตื่นเต้นมากผมขี่มอ-ไซต์ย้อนศรไปสี่แยกเพื่อจะได้ไปอีกเลนนึง(บ้านผมอยู่ใกล้สี่แยกแต่ถ้าจะกลับรถต้องไปไกลมาก 2กิโลได้)ผมขี่ย้อนศรด้วยอารมณ์ดี ผมเห็นอีกฝั่งไฟเขียว รถกำลังจะออกตัวผมเร่งเครื่องเลยครับต้องไปก่อนที่พวกนั้นจะมา ไม่งั้นรอนาน(เลวได้ใจตำรวจ) ผมบิดมอ-ไซต์ใกล้ถึงแล้วๆ “โครม” เสียงรถคันนึงมาปะทะกับรถผมครับผมโดนรถชนเข้าให้แล้ว จากกลางตัวรถไปหาท้ายรถ ผมไม่เป็นไรมากครับ รถพังมากกว่า เพราะโดนรถเต็มๆผมทั้งสั่นทั้งตกใจ เพิ่งเคยโดนรถชนก็อายุ 22 นี่แหละ ดีนะรถที่ชนเป็นรถมอ-ไซต์เหมือนกัน ผมและคู่กรณีถอดหมวกกันน๊อคในสภาพรถล้มทั้งสอง “ขอโทษครับพี่ๆๆ”ผมพูดย้ำ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงติดต่อใคร อะไรยังไง พี่ที่เป็นคู่กรณีก็อายุ 30 ปลายๆ40ต้นๆมั้ง “ขับรถยังไงวะ”พี่คนนตะคอกใส่ผม(คุยกันดีๆก็ได้ไอ้บ้า กูก็ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หนีซะหน่อย)แต่ผมก็ผิดแหละครับ ผิดมาดด้วย กลัวก็กลัว ค่าเสียหายไม่เท่าไหร่หรอกครับเพราะเป็นมอ-ไซต์ แต่ถ้าพ่อแม่ผมรู้น่ะดิ ต่อไปจะไปไหนมาไหนคงลำบาก ผมไม่อยากให้เรื่องถึงโรงพักเลย “พี่ผมผิดเองครับ ผมขอโทษ เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง”ผมพยายามพูดให้เสียงปกติแต่มันยังสั่นๆ “ต้องรับผิดชอบอยู่แล้ว” (เออ กูไม่หนีหรอก) “อย่าเพิ่งไปไหนนะ เดี๋ยวกูดูรถก่อน” (ไอ้บ้าเอ้ย ถ้ากูจะหนีกูไปตั้งนานแล้ว จะขี่รถทันกูเหรอ)คู่กรณีผมพยุงรถขึ้นสำรวจรถตัวเอง ผมยืนนิ่ง(เออๆโทรหาไอ้ปอ) “ ปอ กูถูกรถชน” ผมพูดเสียงอ่อยๆ “อะไรนะ” (แหกปากทำไมวะ) “มึงเจ็บมากไหม มึงอยู่ไหน” มันพูดเสียงดังมากคนคงได้ยินกันทั้งอู่แล้วมั้ง “กูอยู่สี่แยกใกล้ๆบ้านกู” ไอ้ปอวางหูเลยครับมาถึงไม่ถึง 10 นาที รถยังไม่ทันได้ดับเครื่องมันตั้งรถได้วิ่งมาดูผมทันที (ขอบใจนะที่ยังห่วงกู) “มึงเป็นอะไรบ้างป่าว เจ็บตรงไหน” มันสำรวจผมตั้งแต่หัวจรดเท้า แขนขาและหลัง “ปอ กูไม่เป็นไร” ผมพูดสั่นๆมันจุกที่อกยังไงไม่รู้ เมื่อเห็นไอ้ปอเป็นห่วงน้ำตาซึมๆอีกต่างหาก “มึงขี่รถยังไงของมึง” มันมองที่หน้าผมตอนนี้ผมซึ้ง น้ำตาซึมๆ ก็เห็นหน้ามันจริงจังมาก “กูขอโทษ ปอ” (ขอโทษที่ทำให้มึงเป็นห่วง กูไม่คิดว่ามึงจะห่วงกูขนาดนี้) ผมกอดมัน ผมไม่กลัวแล้วว่าใครจะมอง ก็มันตกใจ แล้วได้เจอคนที่ผมรักไม่ว่าจะเป็นไอ้ปอ หรือคนในครอบครัวผมก็ตาม ผมก็จะทำแบบนี้ “กูอยู่กับมึงแล้ว มึงไม่ต้องกลัว ” มันตบหลังผมเบาๆ แล้วมันก็ไปยกรถผมขึ้นสำรวจรถ ด้านที่โดนชนตรงกลางไปหาท้ายรถบุบ ไฟเลี้ยวกับไฟหลังแตก อีกด้านนึงถลอกหลังจากนั้นมันก็เดินไปหาคู่กรณีของผม “พี่ผมขอโทษแทนน้องผมด้วยนะครับ”(อ้าวกูซึ้งอยู่ดีๆจะทำให้กูโมโหอีกแล้ว) “รถพี่เป็นไรมากป่าวครับ” “บังโคลนหน้าถลอก ตะกร้ายุบ ไฟหน้าแตกเป็นไรมากป่าวล่ะ” ไอ้ปอมองหน้าคู่กรณี มันคงโมโหมาก (ต่อยมันเลยปอ)55 แอบคิดลึกๆ ก็คนบอกจะรับผิดชอบอยู่แล้วยังทำหน้ากวนตีน “พี่เอาไปจอดไว้ที่อู่..............เลยนะครับเดี๋ยวผมจักการให้” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกน้อง” พี่เค้ามองไอ้ปอก่อนที่จะมองมาที่ผม “ทีหลังก็ขับรถให้มันระวังหน่อย จะขับย้อนศรก็ขับช้าๆ” “ครับๆ ขอโทษครับพี่” ผมจะตอบอะไรได้ล่ะ นอกจากคำนี้ “เดี๋ยวผมดัดตะกร้าให้”ไอ้ปอเดินไปที่รถดับเครื่องแล้วเปิดใต้เบาะรถเอาเครื่องมือ ดัดแป๊ปเดียวก็เสร็จ “บังโคลนหน้า เดี๋ยวผมถอดเอาไปทำที่อู่แล้วไฟหน้าเดี๋ยวผมเอามาเปลี่ยนให้ตอนเย็น” “อืม” พี่เค้าตอบ ไอ้ปอเคลียร์เรียบร้อยพี่เค้าไปแล้ว กลับมาที่รถผมยืนอยู่ “มึงแต่งตัวจะไปไหน” “กูว่าจะไปหางานทำ”(เฮ้ย...ทุกครั้งที่ให้พูดให้กำลังใจตัวเองเกิดเรื่องตลอด...กูไม่พูดอีกแล้วววววว) “มึงไม่ต้องไป ขับรถกูกลับบ้าน” “แล้วมึงล่ะ” “กูจะเอารถมึงไปซ่อมที่อู่”มันขับรถผมไปพร้องบังโคลนรถคู่กรณี ผมก็ขับรถมันกลับบ้าน 5 โมงเย็นมันมาที่บ้านผม “รถเค้าเป็นไง” “เรียบร้อย” “เฮ้ย รถกูเหมือนเดิมเลยหนิหว่า” ผมมองรถตัวเองด้วยความดีใจ เพราะพ่อแม่ผมจะได้ไม่รู้ “เท่าไหร่ว่ะ” “ไม่เท่าไหร่หรอก” “ไม่เท่าไหร่ของมึงน่ะ เท่าไหร่” “มึงจะถามทำไม กูจ่ายไปแล้ว” “ จ่ายไปเท่าไหร่ กูจะได้ให้มึง” “กูให้เค้าหักออกจากเงินเดือนกู แค่ค่าสี ไฟเลี้ยว ไฟหน้า เองเครื่องไม้เครื่องมือก็ของอู่ ค่าช่างก็ไม่ได้เสีย” “มึงทำเองเหรอ” “เออ” “มึงเคาะเป็นด้วยเหรอ กูนึกว่ามึงรู้แต่เรื่องเครื่องยนต์” “แค่เคาะให้มันเหมือนเดิม ใครๆก็เคาะได้” “เหมือนเคาะประตูป่าว55+” ผมแหย่หมาน้อยเล่น(จะกัดกูรึป่าววะ) “กวนตีนกูเข้าไป ทีหลังกูจะเอาฝาประตูบ้านมึงแหละ แทนกาบรถมึง” “55+” ผมหัวเราะ(ดุเว้ยเฮ้ย) “เท่าไหร่ มึงยังไม่บอกกูเลย กูไม่อยากเป็นหนี้มึง” “มึงเห็นกูเป็นคนอื่นเหรอ ถ้ามึงเอาเงินให้กูนะกูจะทุบรถมึงให้เหมือนเดิมเลย” “เฮ้ย” ผมถอดหายใจ “งั้นเย็นนี้กูเลี้ยงมึงอยากกินไร” “ไปฉลองที่มึงถูกรถชนเหรอ” มันหัวเราะเสียงดัง “ไปฉลองที่มึงจะปากแตกด้วย” “ทำไมปากกูต้องแตกด้วย” “โดนตีนกู” “ไอ้สาดดด” “จริงๆกูจะไปเลี้ยงมึงที่มึงซ่อมรถให้กู” “เหรอ งั้นไปกินหมูกระทะ” “แดกหมูอีกแล้วเหรอ..อาทิตย์นี้ถ้าไปอีกก็ครั้งที่2 แล้วนะ” “อ้าวแล้วมึงมาถามกูทำไม”(มึงไม่มีปัญญาคิดอย่างอื่นเลยเหรอ)..เป็นประจำครับถ้าถามเรื่องจะกินอะไรคิดไม่ออกทุกที “โอเค ได้ๆ” (ไม่อยากขัดว่ะ มึงอุตส่าห์ซ่อมให้) เย็นนั้นก็ไปกินหมูกัน 2คนกับไอ้ปอ (ไปกินร้านหน้าค่ายฯอักษรย่อ นอจอ ไม่ต้องไปกินนะ ไม่อร่อย) “มึงขี่รถยังไงให้โดนชน” ไอ้ปอถามขณะกินหมู “กูก็ขี่ปกติ มันก็มาชนกูเอง” “แล้วมึงขี่ยังไงล่ะ” “กูขับย้อนศร” “ต่อไปมึงไม่ต้องย้อนศร ใครสอนให้มึงย้อนศรกลางสี่แยก” “อ้าว ต้องมีคนสอนด้วยเหรอ”ผมกวนตีนใช่ย่อย(รู้ตัวเอง)55+ “โลงไงจะสอนมึง ถ้ามึงตาย นั่งแหละเค้าจะมึงไปสอน” “ไอ้เหี้ย แช่งกู” “มึงไม่ต้องย่างให้กู ย่างกินมึงเองเถอะ”ผมสังเกตว่ามันไม่ค่อยได้กิน ย่างให้ผมซะส่วนใหญ่ “อ้าว ไอ้นี่ไม่ชอบสบาย” “มึงมองดู 360 องศารอบๆมึงสิคนมองซะกูไม่กล้ากินเลย”ไม่ให้เค้ามองได้ไงล่ะครับ โต๊ะสี่เหลี่ยมนั่งได้ 4 คนแต่ผมกับมันนั่งติดกันด้านเดียวกัน (ประหยัดเนื้อที่)แค่นั้นเค้าก็มองกันแล้ว “ช่างหัวมันดิ” “น้องๆเปลี่ยนกระทะหน่อย”มันพูดต่อเมื่อเห็นพนักงานเดินผ่าน “น้องบ้านมึงดิ ระวัง เค้าจะเอาน้ำซุบราดหัวมึงนะปอ”ผมกระซิบข้างหูมัน พนักงานคนนั้นเค้าก็มองมันเคืองๆ (พนักงาน30แล้วมั้ง) มันทำหน้าเฉยๆ “ถ้ากล้าก็เอาดิ” “เมื่อไหร่มึงจะหยุดหาเรื่องคนอื่นว่ะ ระวังจะตายเพราะปาก” “มีแต่คนอื่นเค้ามาหาเรื่องกูก่อนนะเว้ย” “ก็มึงชอบพูดและทำหน้ากวนตีนใส่เค้า” “หน้ากวนตีนมันทำยังไงว่ะ” “แบบมึงทำตอนนี้ เริ่มจะกวนตีนกูอีกคนแล้ว” กินเสร็จประมาณ 3 ทุ่มก็กลับบ้าน มันอาบน้ำแล้วค้างที่บ้านผม (ขอบใจมึงมากนะปอ ขอบใจที่มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตกู)ผมนอนยิ้มแล้วหลับไป
|