ตอนนี้ ฉากโดนทรมานอาจจะแฟนตาซีไปสักหน่อย อาจจะเกินความจริงไปสักนิด แต่เพื่ออรรถรสของผู้อ่าน ผมเลยให้คงไว้ดีกว่า ผู้อ่านที่ชอบแนวพันธนาการ หรือแนวเครื่องแบบเท่ห์ๆ จะได้ฟิน
กลุ่มคนนั้นพาต้อม จ็อบ และ บอลมาที่ ฐานของชมรมรักษาดินแดน จับทั้งหมดนั่งลงระหว่างที่เดินมานั้น บอลเหลือไปเห็นชื่อที่หน้าอก ใช่แล้วมันคือชื่อเดียวกับที่ปักบนเสื้อพละที่เขาขโมยมันมา “ทำไมมึงต้องมาขโมยชุดพละกูไป”ธามตะโกนถามใส่บอล บอลพยายามคิดหาเหตุผลแต่ถ้าบอกความจริงไป คนเหล่านั้นจะเชื่อไหม แถมเรื่องที่เขาโดนแบล็คเมลก็จะแตก “พี่เองแหละธามพี่ใส่ชุดมาผิดวัน เพราะวันนี้มีสัมภาษณ์เรียนต่อ แต่พี่ดันใส่ชุดพละมาเลยโทรหาน้องเขาว่าจะยืมชุดนักเรียนของเขามาก่อน แต่ชุดพละของพี่ดันล่วงไปที่ด้านนอก แล้วมีคนเอาไป แล้วน้องมันโดนอาจารย์เรียกตัวมันเลยยืมชุดเพื่อนมันมาใส่ต่ออีกที แล้วเพื่อนมันก็ไปเอาชุดแกมาใส่นี่แหละธาม” ต้อมพยายามแต่งเรื่องอธิบายปกปิดความจริงของเขาว่า จริงๆ แล้วเขาโดนชายนิรนามเอาผ้าปิดจมูกจากด้านหลังแล้วโดนขโมยเสื้อผ้าไป “ต้อมเลยให้มันมาขโมยชุดกู”ธามรีบตัดบทสรุป “ไม่ใช่ความคิดพี่เขาความคิดผมต่างหาก” บอลรีบบอกตัดหน้าต้อม “ไม่เคยมีใครมาทำกับกูแบบนี้”ธามเดินเข้าไปจิกผมทั้งจ็อบและบอลให้เงยหน้าขึ้น“วันนี้กูไม่มีชุดพละใส่ไปเรียนพละ โดนอาจารย์นรเวชทำโทษให้ถอดเสื้อวิ่งรอบสนามบอลเรื่องนี้ต้องมีคนชดใช้กู” “พวกมึงจับมันสองตัวถอดชุดนักเรียนออก” ธามสั่งพรรคพวกให้จับจ็อบและบอลถอดเสื้อผ้าออก จ็อบและบอลพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่อาจสู้แรงคนที่เยอะกว่าได้ตอนนี้เสื้อผ้าของจ็อบและบอลถูกวางกองไว้ข้างหน้าแล้ว “จับมันไปขึงไว้ที่ตะแกรงเหล็กโน่นเลย”ธามสั่งการต่อ ตอนนี้ร่างของจ็อบและบอลถูกนำไปยังตะแกรงเหล็กที่ตั้งไว้ที่จะเอาไว้ขึงป้ายไวนิลของชมรม ตะแกรงทำจากเส้นลวดเส้นใหญ่สานกันเป็นตารางเหมือนที่ใช้กันทั่วไป ตอนนี้จ็อบและบอลโดนเขาร่างขึ้นไปขึงที่ตะแกรงเล็กนั้น พร้อมกับโดนล็อคด้วยเคเบิ้ลไทด์ที่แน่นหนา ธาม เดินตามมาดูผลงานพร้อมกับต้อมตอนนี้ร่างของจ็อบและบอลถูกทิ้งน้ำหนักตัวลงมาทำให้ข้อมือต้องรับน้ำหนักของร่างกายจนสร้างความเจ็บตัวระหว่างข้อมือกับสายเคเบิ้ลไทด์จนต้องเกร็งร่างกายเพื่อระงับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นยิ่งสร้างความเซ็กซี่ให้กับบอลและจ็อบเป็นอย่างมาก ธามขว้าคัตเตอร์ออกมาจากกระเป๋า “ในเมื่อมึงทำให้กูอายได้กูก็ทำให้มึงอายได้ด้วยเหมือนกัน” ธามเปิดคัดเตอร์ออกมาพร้อมกับสอดเข้าไปในกางเกงในของบอล ด้วยใบมีดที่คมกริบของคัตเตอร์เพียงแค่สะกิดนิดเดียว กางเกงในของบอลก็กลายเป็นเศษผ้าเน่าๆ ผืนหนึ่งแล้วตอนนี้ถึงตาจ็อบแล้ว จ็อบหลับตาปี๋ กลัวว่าคัตเตอร์ของธามอาจจะพลาดโดยอวัยวะสำคัญเอาได้ จ็อบลืมตาขึ้น ก้มมองตัวเองที่ตอนนี้ใส่แค่ถุงเท้าและรองเท้านักเรียนช่างเหมือนกับที่สนามฟุตบอลที่เด็กม.4 เล่นงานเขาเลย “ต้อมกูไม่คิดว่ามึงจะร่วมมือกับพวกมันของคนมาขโมยของกูนะ เห้ยพวกมึง พาไอ้ต้อมตามกูมา” ต้อมถูกพาร่างให้เดินตามธามไปยังบ่อโคลนอีกบ่อแต่ใหญ่กว่าบ่อที่บอลลงไปเมื่อตอนกลางวัน มันคือฐานข้ามหนองน้ำอีกฐานหนึ่ง ซึ่งมันไม่ไกลไปจากจุดที่จ็อบและบอลถูกตรึงไว้เลย ต้อมถูกผลักลงไปในบ่อโคลนจ็อบกับบอลตกใจในภาพที่เห็นไม่ต่างจากที่ตัวเองกำลังประสบอยู่ “มึงลืมความสัมพันธ์ดีๆที่เราเคยมีกันแล้วหรือไง มึงเกลียดกูมากใช่ไหม ถึงลาออกไม่ยอมจากกรรมการนักเรียน”ธามพูดกับต้อมพร้อมน้ำตาที่เอ่อคลอขึ้นมา ตอนนี้ภาพเก่าๆของธามกับต้อมผุดมาในหัวต้อมทันที “เห้ยมึงจะกลับหรือยังอ่ะ กูกลับด้วยคน” ธามถามต้อมที่เล่นบาสเพิ่งเสร็จและกำลังจะกลับไปเปลี่ยนชุดที่ห้องกิจกรรม “อีกสักพักแหละกูขอไปนั่งตากพัดลมให้เหงื่อแห้งแล้วเปลี่ยนชุดกลับแล้ว” ต้อมตอบ เมื่อเข้าไปถึงระหว่างที่ต้อมกำลังถอดเสื้อบาสออกเพื่อคลายร้อน ธามเดินมาสวมกอดข้างหลัง “ไอ้เชี้ยธามมึงทำอะไรวะ” ต้อมถามธามแล้วรีบสลัดตัวออกมา “กูชอบมึงว่ะต้อม” ธามสารภาพสิ่งที่อยู่ในใจ “เชี้ยกูเป็นผู้ชายนะ อุ๊บบบบ” ต้อมพูดไม่ทันขาดคำ ธามก็พุ่งตัวเอาปากเข้าประกบปากของต้อมแล้วจึงค่อยๆ ละเลงลิ้นลงบนเรือนร่างของต้อมอย่างละมุนจนทำให้แรงต่อต้านของต้อมเริ่มเบาลงจนตอนนี้คล้อยตามไปตามอารมณ์ที่ธามได้ก่อขึ้นแล้ว ธามจูงมือต้อมไปที่ห้องเก็บของในห้องกิจกรรมซึ่งมีกองเสื้อผ้ากีฬากองไว้ รอการไปซัก เพื่อนำมาใช้ในกีฬาสีเร็วๆ นี้ ต้อมทิ้งตัวลงบนกองเสื้อผ้าธามบรรเลงเพลงรักต่อจากเมื่อครู่ พร้อมกับพยายามสอดมือเข้าไปในกางเกงบาสของต้อมพร้อมกับท่อนลำที่แข็งพร้อมใช้งานธามจึงจัดการเปลื้องผ้าทั้งของตนเองและของต้อมออกจากนั้นจึงได้นั่งลงไปที่แก่นกลางลำตัวของต้อม ต้อมทำหน้าเหยเก เพราะมันคือความเสียวที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน จึงไม่นานนักที่น้ำรักของต้อมถูกฉีดเข้าไปยังร่างของธาม พร้อมกับน้ำรักของธามก็พรุ่งไปที่ตัวของต้อมทั้งคู่นอนแผ่หลา หลับไปจนตื่นมาอีกครั้งประมาณ สองทุ่ม “กูมีความสุขมากเลยว่ะ”ธามพูดกับต้อม “แล้วมึงรู้สึกกับกูอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”ต้อมถาม “ก็ตั้งแต่งานแห่เทียนปีที่แล้วกูเริ่มรู้สึกชอบมึงขึ้นมาแล้ว งั้นตั้งแต่วันนี้ไป มึงเป็นแฟนกับกูนะ”ธามขอต้อมเป็นแฟน “ได้สิ”ต้อมตอบพร้อมกับหอมที่หัวของธาม “แล้วพ่อมึงรู้เรื่องนี้ไหมเนี่ย” “มึงอย่าบอกพ่อกูนะแล้วเรื่องที่เราคบกันเป็นแฟนต้องเก็บเป็นความลับนะ” แต่ต่อมาต้อมได้สมัครเข้าเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัย ทำให้หลังเลิกเรียนเขาไม่มีเวลาที่จะไปทำกิจกรรมที่ห้องกรรมการนักเรียนได้อีกจึงเป็นสาเหตุให้ต้อมต้องลาออก “มึงรังเกียจกูจนต้องลาออกจากกรรมการนักเรียนเลยหรอวะมึงลืมที่เราเคยมีอะไรกันในห้องกิจกรรมแล้วเหรอ” จ็อบกับต้อมยืนช็อคกับความรู้สึกของธามที่พรั่งพรูออกมา แต่ตอนนี้น้ำตาของธามยังคงไหลออกมาถึงคาง “ธามฟังกูก่อนนะ ที่กูลาออกเพราะกูไปทำงานให้กู้ภัย กูยังรักมึงเหมือนเดิม” “กูไม่เชื่อพวกมึง จัดการจับไอ้ต้อมแก้ผ้าออกแล้วจับมันมัดมือไว้กับเชือกข้างบน”ธามสั่งการครั้งนี้ด้วยน้ำตา ต้อมพยายามขอร้องแต่ไม่เป็นผล ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าของต้อมถูกแขวนไว้เหนือบ่อโคลนที่ตอนนี้ลูกน้องของธามได้ลากสายยางมาเติมน้ำลงในบ่อโคลนจนน้ำโคลนสูงระดับเข่าได้แล้ว ธามรับเสื้อผ้าของต้อมมาต้อมรับชุดนักเรียนของต้อมมาพร้อมกับสูดกลิ่นที่เคยคุ้นเคยเข้าไปอีกครั้งอย่างมีความสุข “จับมันหย่อนลงไปในบ่อโคลนแล้วทิ้งมันไว้อย่างนี้แหละ” ก่อนที่จะกลับธามเดินกลับไปหาบอลและจ็อบพร้อมพูดทิ้งท้ายก่อนกลับ “พวกมึงหาวิธีกลับบ้านเองนะแล้วถ้าไม่อยากให้รูปพวกนี้มันหลุดไปทั่วทั้งโรงเรียน ไม่สิ มันวงแคบไป มันยิ่งกว่านั้นเอาทวิตเตอร์เลยไหม ถ้าไม่อยากให้หลุดก็อย่าเสือกปากโป้งไปบอกใครส่วนเสื้อผ้าพวกมึงกูเอาไปเป็นดอกเบี้ยแล้วกันว่ะ ของมีค่าอะไรกูไม่เอาไปหรอกเดี๋ยวกูกองไว้ให้ตรงนี้ แต่มึงหาวิธีมาเอาเองนะ ถ้าหาวิธีไม่ได้พรุ่งนี้เช้ามีคนมาเจอก็หาเหตุผลดีๆ ไว้แล้วกันอย่าสาวมาถึงกู แต่ถึงสาวมาถึงก็คงมีคนเชื่อกูมากกว่าพวกมึงนะ เห้ยพวกมึงพอได้แล้ว”ธามบอกลูกน้องให้เลิกถ่ายรูปร่างอันเปลือยเปล่าของจ็อบกับบอล พร้อมกับเดินจากไป ทางด้านต้อมที่ถูกแขวนในบ่อโคลนไปครึ่งตัวแล้วแต่เท้าก็ยังไม่สามารถแตะที่พื้นบ่อได้ ต้อมพยายามมองหาสิ่งของรอบตัวเพื่อที่จะช่วยเขาให้พ้นจากตรงนี้ ต้อมคาดคะเนจากระยะเชือกที่ถูกปล่อยลงมาจากจุดยึดด้านบนซึ่งเป็นคานที่มีเพียงเสาไม้สองต้นค้ำยันไว้นั้นสามารถเหวี่ยงตัวของต้อมเองขึ้นฝั่งได้ รอยยิ้มของต้อมเริ่มปรากฏ “นึกว่าจะเกลียดกูจริงที่แท้ยังรักและเป็นห่วงกูอยู่ใช่ไหม” ต้อมคิดในใจ เพราะเรื่องแค่นี้ต้อมเชื่อว่าธามคิดได้อยู่แล้ว ถ้าธามตั้งใจที่จะไม่ให้ต้อมหนีได้คงให้ลูกน้องดึงต้อมขึ้นสูงกว่านี้แน่ ต้อมพยายามถีบตัวเองให้แกว่งตัวขึ้นไปบนฝั่งพยายามอยู่พักใหญ่ๆ ก็สำเร็จ ต้อมขึ้นไปยืนบนฝั่งสำเร็จแต่ด่านต่อไปคือการแก้เชือกที่มัดมือไว้ ต้อมพยายามให้ทั้งปาก ทั้งมือ ทั้งสะบัดทั้งคลายปมจนในที่สุดก็หลุด แต่ก็ทำให้ต้อมเสียหลัก หงายหลังจมโคลนไปอีกรอบต้อมปีนป่ายออกจากบ่อ พร้อมทั้งคว้าสายยางมาล้างโคลนออกจากตัวแล้วรีบวิ่งเปลือยเปล่าไปคว้ากุญแจรถที่อยู่ตรงหน้าจ็อบและบอล “เดี๋ยวพี่มานะไปเอาคัตเตอร์ที่รถก่อน” ต้อมมองซ้ายมองขวาเมื่อมั่นใจว่าไม่มีภารโรงเดินมาแน่ๆ จึงรีบวิ่งไปที่ประตูรถพร้อมทั้งไขประตูนำชุดหมีกู้ภัยสีเหลืองมาใส่ก่อนชั่วคราวพร้อมทั้งเปิดกระโปรงท้ายเพื่อหยิบมีดคัตเตอร์จากกระเป๋าสัมภาระของเขามา ต้อมรีบวิ่งมาหาจ็อบกับบอลที่ถูกตรึงไว้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ต้อมพยายามปีนขึ้นไปเพื่อตัดสายเคเบิ้ลไทด์ออกจากมือของจ็อบและบอลร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่ล่วงลงมาอยู่บนพื้นด้วยสภาพอ่อนแรง “แล้วเราจะกลับบ้านกันยังไงดีล่ะ”จ็อบถามบอล “เอางี้เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง” ต้อมเสนอตัว แต่ ณ เวลานั้น คงไม่มีทางที่ดีกว่านี้แน่นอน ต้อมเดินกลับมาที่รถพร้อมกับจ็อบและบอลตามหลังมาอย่างห่างๆเพราะต้องเดินอย่างระวังภารโรงของโรงเรียนที่มักจะเดินมาตรวจตราความเรียบร้อยทันใดนั้น แสงไฟก็ฉายมายังต้อม ทั้งจ็อบและบอลต่างรีบหมอบหลบกับพื้นดินหลังพุ่มไม้ทันทีโชคดีที่ยังไม่มีใครเห็นสภาพของจ๊อบและบอลเลย “อ่าวต้อมมาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ แถวนี้เนี่ย น้าก็นึกว่าใคร” ภารโรงถามต้อมอย่างแปลกใจ ภารโรงชายหนุ่มอายุประมาณ 56 ปี มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของโรงเรียนแกอยู่ที่โรงเรียนนี้มาหลายสิบปีแล้ว และมักจะเจอต้อมกับพวกกรรมการนักเรียน เตรียมงานทำกิจกรรมอยู่ดึกๆ หรือโต้รุ่งที่โรงเรียนบ่อยๆจึงสนิทและคุ้นเคยกับต้อมพอสมควร แกชื่อ สมภพ แต่เหล่ากรรมการนักเรียนมักเรียกแกว่า “น้าภพ” แกเป็นคนใจดี เข้าใจเด็ก แต่ถ้าเวลาที่เด็กๆมั่วสุมทำอะไรผิด แกก็พร้อมจะสวมวิญญาณโหด ไล่ตะเพิดกระเจิงมานักต่อนักแล้ว “สวัสดีครับน้าภพพอดี ผมจะออกไปทำกู้ภัย แต่พอดีผมทำสร้อยพระหาย เลยมาดูแถวฐานชมรม ร.ด.เมื่อตอนกลางวัน ว่าตกอยู่แถวนี้หรือเปล่า” ต้อมจำเป็นต้องโกหก “แล้วเจอไหมให้น้าไปช่วยหาไหม” น้าภพถามอย่างเป็นห่วง พร้อมกับจะเดินเข้าไปหาต้อม “ไม่ต้องครับเจอแล้วครับ” ต้อมรีบปฏิเสธทันที เพราะรู้ว่า ถ้าน้าภพเดินเข้าไป คงเห็นจ็อบกับบอลนอนแก้ผ้าหลบอยู่แน่นอน “ไหนๆพระอะไร ขอน้าดูหน่อยสิ น้านี่เซียนพระเก่านะ”น้าภพก้าวเท้าจะเดินเข้ามาหาต้อมอีกครั้ง ต้อมจำเป็นต้องเดินไปหาน้าภพเองพร้อมกับรูดซิปชุดหมีด้านหน้าลงมาถึงช่วงท้องเผยให้เห็นกล้ามอกของนักกีฬาบาสของต้อม “นี่มันพระหลวงปู่เค็มวัดหนองอีโต้เขวี้ยงเป็ดนี่นา องค์นี้น่าจะหลายตังค์อยู่นะ”น้าภพส่งพระด้วยไฟฉายในมืออย่างสนใจ จังหวะที่น้าภพจับพระจากหน้าอกของต้อมมันทำให้ต้อมรู้สึกสยิวไปเล็กน้อยแต่ก็พอที่จะปลุกน้องชายของต้อมให้ตื่นขึ้นมาจากหลับไหลได้ ต้อมจึงต้องแกล้งเอามือมาประสานไว้ที่เป้ากางเกงประหนึ่งว่าตั้งฟังน้าภพอย่างเรียบร้อย “โชคดีที่ไม่หล่นหายไปนะ”น้าภพบอกกับต้อม “ครับ”ต้อมตอบรับ “แล้วเดี๋ยวต้อมต้องไปทำกู้ภัยอีกใช่ไหม”น้าภพถามต้อมต่อ “ครับเดี๋ยวคงไปทำต่อ” ต้อมตอบน้าภพไป ในใจพยายามที่จะไม่คิดอะไร เพื่อบังคับให้น้องชายตัวเองหลับไหลลงไปอีก “รักษาสุขภาพด้วยนะว่าแต่วันนี้ร้อนเหรอ” น้าภพถามต้องอย่างสงสัย “ค..ครับทำไมหรอครับ” ต้อมแปลกใจ “ก็ปกติถ้าน้าเห็นต้อมใส่ชุดนี้ อย่างน้อยก็ต้องใส่เสื้อยืดข้างในไว้ไม่ก็บางทีเป็นเสื้อพละ หรือทับชุดนักเรียนเลย แต่วันนี้ไม่เห็นใส่ ก็เลยถามดู” “อ่อครับวันนี้มันร้อนๆ ผมเลยถอดเสื้อนักเรียนออกครับ” ต้อมเผลอคิดในใจว่า ถ้าน้าภพแกรู้ว่ากำลังยืนคุยกับต้อมที่ข้างในชุดหมีตอนนี้ไม่มีอะไรเลย จะเป็นอย่างไรนะ คิดไปน้องชายของต้อมก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา บอลเห็นต้อมที่เอามือบังน้องชายที่ตื่นก็สะกิดจ็อบแล้วก็อดขำไม่ได้ “ตรงนั้นมีอะไรน่ะ”น้าภพได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของบอล “น่าจะเสียงใบไม้ถูกกันนะครับ”ต้อมโกหกไป โชคดีที่ลมพัดมาจังหวะนั้นพอดี “งั้นเดี๋ยวน้าไปตรวจโรงเรียนต่อละ”พร้อมกับหันหลังเดินกลับไป “สวัสดีครับน้า”ต้อมยกมือไหว้น้าภพ น้าภพหันหลังกลับมาพยักหน้าให้ต้อม แต่ไม่ได้ฉายไปฉายมาหาต้อมไม่งั้น คงได้เห็นน้องชายต้อมลุกขึ้นมาสวัสดีอีกครั้งแน่ “เห้ยพวกมึงขำอะไรกู เดี๋ยวกูให้เดินกลับบ้านเองซะเลย” ต้อมบอกกับจ็อบและบอล “ไอ้บอลเลยพี่ไอ้บอลมันขำพี่” จ็อบโบ้ยให้บอล “แหม่มึงยังมีหน้ามาขำนะ ดูสภาพมึงก่อน นึกว่าสัมภเวสีเถอะ” ต้อมบอกกับบอลบอลได้แต่ยิ้มๆ กลบเกลื่อนไป ต้อมเปิดประตูรถพร้อมกับส่งสัญญาณให้จ็อบกับบอลวิ่งมาขึ้นรถ จ็อบและบอลวิ่งขึ้นรถมาอย่างรวดเร็ว “พี่ต้อมแวะไปห้องกิจกรรมก่อนได้ไหม ผมจะไปเอากระเป๋านักเรียนที่ห้องกิจกรรมด้วยนะพี่”จ็อบบอก เพราะคิดว่า ถ้าใครมาเจอกระเป๋าของทั้งสามคนที่วางอยู่ที่หน้าห้องเรื่องคงแตกแน่ จ็อบเปิดประตูรถออกมารีบวิ่งไปเอากระเป๋ากลับมาขึ้นรถอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาทีที่น้าภพเดินลงมาจากตึกพอดี ทั้งจ็อบและบอลนั่งเบาะหลังเพื่อที่ง่ายต่อการหลบสายตาคนที่ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ที่เบาะหลังมีผ้าสีดำผืนใหญ่วางอยู่เป็นผ้าที่ต้อมแวะซื้อก่อนกลับมาหาจ็อบและบอลในตอนเย็น “เชี้ยแล้วข้างหน้ามีด่าน” ต้อมบอกจ็อบกับบอล “เอาไงดีวะพี่”บอลถามต้อม “มึงลงไปนอนหลบข้างล่างที่พื้นแล้วเอาผ้าดำคลุมไว้แล้วกัน” “สวัสดีครับอ่าว ต้อมใส่ชุดกู้ภัยมาจะไปประจำจุดไหนเนี่ย” คุณตำรวจทักทายเมื่อรู้ว่าเป็นคนรู้จัก ทั้งต้อม จ็อบและบอลที่หลบอยู่ก็ค่อยสบายใจ “พอดีผมเพิ่งเลิกเตรียมงานกีฬาสีที่โรงเรียนครับเลยจะไปประจำจุดตรงสี่แยกเฉลิมไผ่เนี่ยครับ” ต้อมพยายามแถไป “โอเคครับไปเลยๆ” ตำรวจคนดังกล่าวบอกต้อมพร้อมกับให้สัญญาณตำรวจนายอื่นให้ปล่อยรถคันนี้ไปได้ “โอยหัวใจจะวาย” บอลบ่นออกมา “นี่พวกมึงต้องขอบใจกูนะที่กูรู้จักคนเยอะ” ต้อมพูดกับจ็อบและบอลอย่างขำๆ รถของต้อมมาจอดหน้าบ้านของจ็อบพร้อมกับรับกุญแจจากจ็อบไปไขเปิดประตูรั้ว จากนั้น จึงมองซ้ายมองขวา เมื่อเห็นว่าปลอดคนจึงเปิดประตูรถออก จ็อบและบอลวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตเข้าประตูรั้ว ต้อมตั้งใจว่าจะยืนมองจ็อบและบอลให้เข้าบ้านอย่างปลอดภัยก่อนเขาจึงจะไปเมื่อจ็อบและบอลเข้าประตูรั้วไปแล้ว ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นแสงไฟมอเตอร์ไซค์สาดมาทางต้อม จ็อบและบอลรีบหลบในหลังพุ่มไม้หน้าบ้านมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวมาจอดที่รถของต้อม “อ้าวไอ้หนุ่มมาทำอะไรแถวนี้ลับๆ ล่อๆ เนี่ย ใส่ชุดกู้ภัยด้วย ใช่กู้ภัยจริงหรือเปล่า”หนึ่งในสองของคนที่มากับมอเตอร์ไซค์ถามต้อม “ผมรอเอาของมาให้รุ่นน้องครับพอดีรุ่นน้องเขาฝากไว้” ต้อมพยายามแก้ตัว “งั้นผมขออนุญาตค้นตัวก่อนนะครับ”คุณตำรวจจับต้อมหันเข้ารถตัวเอง พร้อมทั้งให้ต้อมเอามือประสานไว้ที่ท้ายทอย ตำรวจพยายามค้นตัวของต้อมลูบคลำร่างกายเพื่อค้นหาอาวุธ แต่ก็ต้องมาสะดุดตรงช่วงกลางลำตัว “เห้ยคุณไม่ได้ใส่เสื้อผ้าข้างในเลยหรอ ผมก็ว่าทำไมจับๆ ไปแล้วมันแปลกๆ”ตำรวจถามต้อมอย่างแปลกใจ “วันนี้ตอนกลับจากที่โรงเรียนมีเคสไปช่วยคนแถวตกคลองแถวๆ สะพานพสิณ ผมเลยถอดเสื้อผ้าเหลือบ็อกเซอร์ลงไปช่วยแต่พอขึ้นมาเสื้อผ้ามันปลิวตกลงไปด้วยครับ ผมเลยตัดสินใจทิ้งเสื้อผ้าทั้งหมดไปเพราะน้ำในคลองที่ผมลงไปมันเหม็นมากครับ” ระหว่างที่พูดจบน้องชายของต้อมก็ตื่นขึ้นมาอีก “ไอ้น้องน้องชายเอ็งตื่นว่ะ” ตำรวจอีกนายนึงแซว “ครับ”ต้อมรับอย่างอายๆ “งั้นเดี๋ยวช่วยนะ”พอตำรวจนายแรกพูดจบก็จับจ็อบใส่กุญแจมือไพล่หลัง แล้วดันต้อมให้ออกห่างจากรถพร้อมกับเอื้อมมือมาจากด้านหลังมารูปซิปตรงเป้ากางเกงขึ้น (ชุดหมีแบบทั่วไปซิปหน้าจะเป็นซิปแบบสองทางคือ จากหน้าอกไปยังเป้ากางเกง เอาไว้สวมใส่ปกติและจากเป้ากางเกงขึ้นไป เอาไว้สำหรับผู้ชายเข้าห้องน้ำ) ต้อมยืนนิ่งด้วยอาการช็อค ตำรวจนายนั้นก็ควักน้องชายของต้อมออกมาพร้อมกำอย่างพอดีมือ “ใหญ่พอตัวเลยนี่เรา” ต้อมเหมือนตกอยู่ในภวังค์เพราะนี่คือครั้งแรกของเขาที่น้องชายของเขาถูกสัมผัสโดยมือคนอื่นแบบกลางแจ้งอย่างนี้ตำรวจนายนั้นก็เริ่มสาวน้องชายของต้อมอย่างเบาๆ พร้อมกับเปิดหัว และใช้นิ้วเขี่ยเล่นเอาต้อมถึงกับเข่าอ่อนหมดแรงด้วยความเสียว ส่วนตำรวจอีกนายก็มาข้างหน้าต้อมเพื่อรูดซิปด้านบนลงมาถึงซิปอันล่างที่ถูกรูดขึ้นไปพร้อมกับใช้มือลูบไล้สร้างความสยิวให้กับต้อมเป็นอย่างมาก “เห้ยเดี๋ยวๆ กูว่าอย่างนี้ดีกว่า” ตำรวจคนที่รูดซิปบอกกับตำรวจอีกนายแล้วก็จับน้องชายของต้อมเอาไปในชุดหมีอีกครั้ง พร้อมกับรูปซิปล่างลง ทำให้ต้อมเริ่มใจชื้นคิดว่า คงจะพอกันแล้ว แต่เปล่าเลย ตำรวจนายนั้นรูดซิปบนลงมาจนสุดพร้อมทั้งดึงชุดมือลงมาที่ข้อมือ ทำให้ช่วงล่างของชุดหมีบริเวณเป้ากางเกงมาอยู่บริเวณหัวเข่า ถ้าต้อมไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือ ชุดหมีคงไปกองอยู่ที่พื้นแน่ๆแต่สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะตั้งแต่ช่วงไหล่ลงไปถึงช่วงน่องของถูกเอาออกมาโชว์กล้ามเนื้อแบบชัดเจน ต้อมยิ่งตื่นเต้นหนักเข้าไปใหญ่ยิ่งสร้างความเสียวซ่านให้กับน้องชายของเขาตำรวจนายเดิมก็มาชักน้องชายจนต้องงอตัวด้วยความเสียวจนเมื่อถึงจุดสุดยอดของอาการเดียว น้ำกามสีขาวของต้อมพุ่งออกมาราวกับน้ำตก พร้อมๆกับประตูบ้านที่เปิดออกมา “คุณตำรวจมีอะไรหรือเปล่าคับ”จ็อบเดินออกมาจากประตูบ้านในชุดคลุมอาบน้ำ และถามคุณตำรวจพร้อมกับมองต้อมหันหน้ายืนพิงรถด้วยอาการเหนื่อยหอบหมดแรงด้วยชุดหมีที่กองอยู่ที่ข้อมือและหัวเข่า “ผมเห็นเขาด้อมๆ มองๆ ที่บ้านเลยให้เขาถอดเสื้อผ้าเพื่อค้นหาอาวุธครับ ผมก็ไม่คิดว่า เขาจะไม่ใส่อะไรข้างในเลย”ตำรวจนายหนึ่งชี้แจงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อ่อคับ เขาเป็นรุ่นพี่ผมเองผมให้เขาเอาของมาคืนผมคับ พอดีผมอาบน้ำอยู่เลยให้เขารอนานไปหน่อย ไม่มีอะไรแล้วคับขอบคุณมากคับ” จ็อบบอกตำรวจทั้งสองนายตำรวจคนซ้อนก็เข้าไปไขกุญแจมือออกจากข้อมือของต้อม “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ”ตำรวจบอกลาจ็อบทันที “คับ ขอบคุณมากนะคับ”จ็อบบอกลาตำรวจเช่นกัน “พี่ต้อม โดนชักทีหมดแรงเลยหรอพี่”จ็อบแซวต้อมที่ลงไปนอนพิงข้างรถตัวเอง “ไอ้ห่า ก็ล่อจับกูชักว่าวเอ้าดอร์นี่หว่ากูนี่ชอบอะไรตื่นเต้นๆ ด้วย น้ำว่าวเลยเต็มที่ เอาซะกูหมดแรงเลย” “จะเอากางเกงบอลไปใส่สักตัวไหมพี่จะไม่ได้ไม่ต้องโดนฝนหัว เดี๋ยวโด่วอีก” จ็อบแซว “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวกูก็ขับรถกลับหอเลยขอบคุณมากนะ แล้วก็ขอโทษด้วยที่ทำให้จ็อบกับเพื่อนโดนอะไรต่อมิอะไรวันนี้” “ไม่ต้องคิดมากพี่ เรื่องมันผ่านไปละเดินทางปลอดภัยนะคับพี่” จ็อบอวยพรต้อม ต้อมลุกขึ้นมาใส่เครื่องแบบตัวเองที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่เข้าทางพร้อมกับสตาร์ทรถออกไป จ็อบพยายามคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนรอบข้างเราคอยโดนไปทีละคน เริ่มตั้งแต่ ไอ้บอล จนพี่ต้อมสงสัยเราต้องรีบสืบหาตัวการให้เร็วที่สุดแล้ว เมื่อจ็อบเปิดประตูเข้าไปก็เห็นบอลนั่งเปลือยล่อนจ้อนที่โต๊ะอาหาร “ไอ้เชี่ยบอลใจคอมึงจะแก้ผ้าอยู่กับกูอย่างนี้เลยหรอ” “ไม่ได้หรือไงวะ”บอลถามกลับด้วสีหน้ากวนตีน “ระวังเหอะ”จ็อบบอก “ระวังอะไรวะ”บอลถามด้วยความสงสัย “ระวังกูจะอดใจไม่อยู่”จ็อบพูดจบพุ่งตัวไปหาบอลที่โต๊ะอาหารทันที บอลก็มือไวใช่เล่นเมื่อจ็อบเข้ามาถึงก็กระตุกเสื้อคลุมอาบน้ำ พร้อมกับถอดลงไปกองกับพื้นตอนนี้ทั้งสองคนนัวเนียกันด้วยร่างอันเปลือยเปล่าที่โต๊ะอาหาร “พอก่อนๆกินข้าวกันก่อน กูหิวชิบหายละ” บอลเบรคจ็อบที่กำลังจะบรรเลงเพลงรักต่อ “เออก็ได้”จ็อบกำลังหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่ แต่โดนบอลดึงไว้ “แฟนต้องทำตัวชิลๆเหมือนเค้าสิ” บอลหยอกจ็อบต่อ พร้อมทั้งชวนกินข้าว “ได้สิตามใจแฟนเลย”
เปิดตัวละครมาอีกหนึ่งตามต้อมมาติดๆ มาลุ้นกันในตอนต่อๆ ไปนะครับว่า ธามเป็นใคร อยู่ฝั่งเดียวกับจ็อบหรือเปล่า
|