ผมขออนุญาตบอกเล่าอะไรสักนิดนึงครับ จริงๆ แล้วตอนนี้ ผมได้เขียนเนื้อเรื่องของเรื่องนี้จบบริบูรณ์แล้ว แต่พอมาย้อนอ่านทวนดู รู้สึกว่า ตัวละครมันเริ่มเยอะไปหน่อย แล้วตัวละครที่ขณะนี้ยังไม่แสดงตัวออกมาหลายตัว ซึ่งล้วนแล้วแต่มีบทบาทในตอนจบด้วยเช่นด้วย แต่มีส่วนร่วมในตอนจบด้วย มันทำให้ผมรู้สึกว่า มันจะไม่ค่อยสนุก หรือสะใจผู้อ่านเท่าไหร่ และมันทำให้รู้สึกวุ่นวายน่ารำคาญมากกว่า (อันนี้ผมคิดแทนผู้อ่านครับ) เลยตัดสินใจที่จะแก้เนื้อเรื่องใหม่ โดยปรับลดตัวละครลง ซึ่งตัวละครสองตัวนี้ ก็ได้โผล่ออกมาแล้วด้วย แต่ไม่ได้เอาตัวละครนี้หายไปไหนครับ เพียงแต่จะเอาไปเขียนเรื่องแยกใหม่อีกเรื่องครับ
(ตอนนี้เริ่มเดินทางมาถึงกลางเรื่องแล้วนะครับคู่ของจ็อบกับบอล จะเรียกว่าเป็นคู่แฟนคู่เกรียนก็ได้ บางทีก็หยอกกันหวานหยดบางทีก็เกรียนใส่กันก็มี ทุกท่านไม่ต้องงงนะคับ) จ็อบตื่นมาในเช้าวันเสาร์อันสดใส เขามองปฏิทิน เหลืออีกไม่กี่วันพ่อกับแม่คงจะกลับมาจากต่างประเทศละจ็อบนั่งนับวันรอด้วยความคิดถึงแม่อย่างสุดหัวใจ วันนี้โรงเรียนหยุดแต่จ็อบต้องไปเรียนกวดวิชา ซึ่งละแวกนั้นที่จ็อบไปเรียนนั้นเต็มไปด้วยโรงเรียนกวดวิชาที่มีชื่อเสียงหลากหลายแห่ง “แฟนจ๋า ตื่นได้แล้ว เช้าแล้ว ไม่ลุกเค้าปล้ำนะ”จ็อบหยอกกับบอลที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่ข้างๆทั้งที่เมื่อคืนไม่มีภารกิจสวาทในบนเตียงกันสักนิด แต่ถ้าใครเข้ามาเห็นตอนนี้คงมีเข้าใจผิดกันแน่ว่าผ่านศึกหนักมา เพราะทั้งคู่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้นเดียว “ขอนอนอีกแปปนึงน้าที่ร้ากกกกกกก คร่อกกกกก” บอลตอบทั้งที่ตายังไม่ลืม “มึงนัดเตี่ยมึงไว้กี่โมง” จ็อบถาม “เก้าโมง นี่เพิ่งหกโมงเอง” บอลตอบ “หกโมงห่าไรล่ะ แหกตาดูนาฬิกาดิ เจ็ดโมงครึ่งแล้ว” “อ่อ เจ็ดโมงครึ่งเอง อีกตั้ง....” บอลเบิกตาโพลงมาทันที “ไอ้ชิบหาย เจ็ดโมงครึ่งแล้ว กูขออาบน้ำก่อนนะ” บอลบอก “ไม่ต้อง กูกับมึงอาบพร้อมกัน”จ็อบลากบอลเข้าห้องน้ำอาบน้ำทันที จ็อบกับบอลออกจากบ้านพร้อมกันโดยที่บอลแต่งตัวในเสื้อผ้าของจ็อบ เสื้อยืด ร.ด. ของจ็อบอีกตัว “สงสัยกูต้องไปเอาเสื้อผ้าจากบ้านกูมาฝากไว้ที่บ้านมึงบ้างละ” “เออ ได้ดิ เดี๋ยวพ่อแม่กูก็กลับมาแล้ว ทีนี้จะได้กินกับข้าวอร่อยๆฝีมือแม่กูสักที” เมื่อมาถึงป้ายรถเมล์ จ็อบกับบอลก็แยกขึ้นรถเมล์กันไปคนละทางจ็อบนั่งรถเมล์มาลงโรงเรียนกวดวิชา เมื่อลงจากรถแล้วก็เห็นเด็กสาวคนหนึ่งเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ นั่นหยกนี่นา จ็อบรีบปรี่เข้าไปทักทายหยก หยกยิ้มตอบ “หยกมาเรียนกวดวิชาด้วยเหรอ” จ็อบถาม “ชะ.. ชะ.. ใช่จ้ะ” หยกตอบ “แล้วหยกเรียนวิชาอะไรล่ะ” จ็อบถามต่อ “เรียนสังคมจ้ะ เดี๋ยวเราไปเรียนก่อนนะ” หยกรีบตัดบท “เดี๋ยวก่อนๆ เราขอไลน์เธอได้ไหม” จ็อบถามหยกนิ่งคิดชั่วขณะก่อนที่จะรับมือถือจากจ็อบมาพิมพ์ไอดีไลน์ตัวเองแล้วแอดไป “นี่ไอดีไลน์เรานะ เราไปก่อนนะ”หยกส่งมือถือคืนแล้วรีบวิ่งไปทางโรงเรียนกวดวิชาสังคมศึกษา แต่จ็อบไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากไลน์ที่อยู่ในมือ วันนี้จ็อบไม่มีสมาธิที่จะเรียนเลยสักนิด คอยคิดแต่ว่าจะทักไลน์เขาไปตอนไหนดีเขาเรียนอยู่หรือเปล่านะ จนกระทั่งเรียนเสร็จกลับถึงบ้าน จึงทักไปหา “สวัสดีคับ” “จ้ะ” “ทำอะไรอยู่หรอ” “อ่านหนังสือจ้ะ” “พรุ่งนี้ ว่างไหม อยากไปชวนไปดูหนังด้วย” “ได้สิ จะดูเรื่องอะไรดีล่ะ” “HiSeason ไหม” “ดีเลย เราก็อยากดูเหมือนกัน” “งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่หน้าโรงหนังตอนสิบโมงครึ่งนะ” “ได้จ้ะ งั้นขออ่านหนังสือต่อนะ” “จ้ะ ฝันดีล่วงน้านะ” แค่บทสนทนาไม่กี่ประโยคก็ทำจ็อบมีความสุขอย่างที่สุดจ็อบคิดว่านี่ถือว่าเป็นการออกเดทได้ไหมนะ แต่เขายังไม่ได้ขอหยกคบเป็นแฟนนี่นาอย่าเพิ่งเลยมันเร็วไป แล้วถ้าขอหยกเป็นแฟน แล้วบอลล่ะ จะรับได้ไหมเขาจะเป็นคนเลวไหมนะที่มีโลกสองใบ ความคิดเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวทั้งคืน จ็อบ ก้มดูนาฬิกา พร้อมกับชะเง้อหาหยกอย่างใจจดใจจ่อ สักพักหยกเดินมาในเสื้อยืดสีชมพู กางเกงยีนส์ ทำเอาจ็อบตกตะลึงในความน่ารักของหยก “วันนี้หยกน่ารักจัง” “ขอบใจจ้ะ ว่าแต่เธอซื้อตั๋วหรือยัง” “จ็อบ” หยกเรียกสติของจ็อบที่ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง “หยกว่าไงนะ” หยกถามซ้ำ “จ็อบซื้อตั๋วหรือยัง” “ซื้อแล้วจ้ะ เขาเรียกเข้าโรงพอดี ไปกันเถอะ” คงไม่ต้องถามเนื้อหาของหนังที่ดูจากจ็อบหรอกเพราะจ็อบไม่ได้ดูหนังแม้แต่น้อย เอาแต่มองหน้าหยักอยู่บ่อยๆจนไม่มีสติที่จะดูหนังแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งหนังจบ “หยกรีบกลับไหมอ่ะ ไปทานข้าวกัน” จ็อบชวนทานข้าว “ขอโทษด้วยนะ พอดีมีธุระด่วนที่บ้านเพิ่งไลน์มาตาม”หยกปฏิเสธและรีบขอตัวกลับบ้านทันที จ็อบออกอาการเซ็งๆ เล็กน้อย ก่อนหยิบโทรศัพท์ โทรหาโอ๊ตกับซอ “เห้ยไอ้ซอ มึงทำไรอยู่วะ” “กูอยู่ระยอง มาเที่ยวกับครอบครัวว่ะ มีไรเปล่า” “อ่อ ไม่มีอะไรๆ” “ฮัลโหล ไอ้โอ๊ต มึงอยู่ไหน” “กูพาน้องมาเที่ยวสวนสัตว์ว่ะ เนี่ยเพิ่งมาถึง มีไรวะ” “อ่อ เปล่า นึกว่าว่าง ไม่เป็นไรๆ” ส่วนบอล จ็อบรู้อยู่แล้วว่า เตี่ยให้บอลไปตรวจโรงงานแทนไม่น่าจะว่างถ้าไม่ได้ขอเตี่ยไว้ล่วงหน้า จ็อบจึงเดินทางกลับบ้าน เมื่อจ็อบกลับถึงบ้านมีโทรศัพท์เข้ามือถือของจ็อบ จ็อบหยิบขึ้นมาดู ขึ้นชื่อว่า “แม่” “ฮัลโหลครับแม่ คิดถึงพ่อกับแม่จัง” “พ่อกับแม่ก็คิดถึงลูกนะ เป็นไงสบายดีไหม” “ก็สบายดีครับ” จ็อบตอบไปทั้งที่ความเป็นจริง ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลยน้ำตาของจ็อบก็เอ่อคลอขึ้นมาทันที เมื่อย้อนไปคิดว่า ตัวเองและบอลต้องเจออะไรบ้าง “พ่อกับแม่ อาจจะไม่ได้กลับบ้านที่ชลบุรีอีกพักใหญ่ๆ เลยนะพอดีทางเชียงใหม่นี้ มีปัญหาเรื่องของหัวหน้าแผนกลาออก แล้วยังหาคนแทนไม่ได้จริงๆพ่อเลยต้องอยู่ดูแลพนักงานไปก่อน แล้วก็ต้องเทรนพนักงานให้ด้วย อย่างน้อยๆก็สองสามเดือนนะ” “ครับแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงจ็อบนะ จ็อบดูแลตัวเองได้ถ้าจ็อบคิดถึงพ่อกับแม่ จ็อบก็โทรหาพ่อกับแม่ได้ เดี๋ยวพอปิดเทอมเดี๋ยวจ็อบบินไปหาพ่อกับแม่ที่เชียงใหม่เลยนะครับ” “จ้ะๆๆๆๆ พ่อกับแม่ก็เป็นห่วงนะ คิดถึงลูกเหมือนกันอย่าลืมหาไรทานด้วยนะ” จ็อบวางสายจากแม่ก็เดินทบทวนตัวเองตั้งแต่มีเหตุการณ์เลวร้ายนี้มา จ็อบยังไม่ได้โทรหาพ่อแม่เลยเพราะไม่อยากให้ท่านเป็นห่วง เพราะจ็อบก็รู้ดีว่า งานทางนั้นน่าจะยุ่งด้วย ทันทีที่จ็อบผลักประตูเข้าไป “แท้แด......” “ไอ้เชี้ยบอล มึงไม่อยู่กับเตี่ยมึงหรอ”จ็อบถามด้วยความสงสัย “พอกูไปถึงบ้าน เตี่ยบอกว่า วันนี้โรงงานปิดเพราะจะดูแลปรับปรุงเครื่องจักรใหม่ทั้งหมด กูก็เลยเก็บเสื้อผ้ามา แล้วก็ออกมาเลยส่วนเตี่ยกูก็จะพาคนอื่นไปต่างประเทศอีกแล้ว” จ็อบโผเข้ากอดบอลทันที น้ำตาเอ่อขึ้นมา ความรู้สึกเหมือนอยากจะทิ้งตัวใส่ใครสักคน “มึงเป็นอะไรวะ ไม่สิ แฟนจ๋า เป็นไร มามะ เดี๋ยวกอดให้”บอลโอ๋จ็อบที่กำลังร้องไห้ “ไม่ต้องเลย” จ็อบผละออกจากบอล พร้อมกับปาดน้ำตา “ดีเลย กูกำลังเหงา กินไรดีวะ สั่งพิซซามะ”จ็อบเปลี่ยนเรื่อง “เอาดิ กำลังหิวเลย” บอลตอบสนอง ระหว่างที่รอพิซซามาส่ง บอลก็ชวนคุยเรื่องพี่ต้อมเมื่อคืน “เรื่องพี่ต้อม กูช็อคมากเลยนะเว้ย ว่าพี่ต้อมกับพี่ธามเคยเป็นแฟนกัน” “อย่าว่าแต่มึงเลย กูก็ช็อค ใครจะไปคิดว่า แมนๆอย่างพี่ธามจะชอบพี่ต้อม” “มึงอย่าไปมองไกล กูกับมึง กูเชื่อว่าก็ไม่มีคนคิดว่า เป็นแฟนกันแน่ๆ” “แต่เมื่อวานก็สงสารพี่ต้อมแกเนอะ โดยตำรวจรีดน้ำจนหมดแรง”บอลแซวต้อม “เดี๋ยวกูจะฟ้องพี่ต้อมให้มาเล่นงานมึง” จ็อบขู่ “แฟนจะยอมให้เค้ามาทำร้ายแฟนจริงๆ หรอ”บอลทำท่ากวนตีนกับจ็อบ “ติ๊งต่อง” “สงสัยพิซซามาส่งแล้ว เดี๋ยวกูไปรับก่อนนะ” “พิซซามาส่งครับ” เด็กหนุ่มหน้าตาดี คาดเดาอายุน่าจะประมาณ 19ปีน่าจะได้ “ครับพี่” จ็อบรีบเดินไปรับพิซซา ระหว่างนั้น โทรศัพท์ของพนักงานส่งพิซซาเข้ามา “ครับพี่ต้น ออเดอร์ของคุณแพรวนภาหรอครับ ผมเอามาแล้วครับเห็นว่าเป็นทางเดียวกันแล้วไม่มีพนักงานส่งคนอื่นเลย ผมเลยติดมาด้วยครับไม่มั่วออเดอร์แน่ครับ” พอพนักงานวางสาย ก็มาทวนสินค้าต่อแต่สมาธิของจ็อบไม่ได้ฟังที่ทวนแล้ว เพราะมัวไปคิดว่า ชื่อลูกค้าคนถัดไป มันคุ้นๆ “ครบนะครับ ชำระด้วยบัตรเครดิตเรียบร้อยแล้วนะครับขอบคุณมากครับ” “เดี๋ยวครับพี่ พี่รีบไหมครับ” จ็อบร้องเรียก “ก็รีบอยู่ครับ มีออเดอร์ไปส่งต่อ” พนักงานบอก “แล้วหลังจากนั้นล่ะครับ” “อ่อ ไม่มีแล้วครับ วันนี้ผมเข้างานแค่กะเช้า ก็เลิกงานแล้ว” “ผมมีเรื่องจะขอร้องพี่หน่อยคับ คือ คนที่พี่จะไปส่งเนี่ยผมกำลังจะขอเขาเป็นแฟน หาโอกาสไม่ได้สักทีที่จะเซอร์ไพรส์เขา”จ็อบกระซิบบอกหนุ่มพิซซาคนนั้น เพื่อไม่อยากให้บอลได้ยิน “ครับ แล้วจะให้ผมช่วยอะไรให้ผมส่งจดหมายรักแนบไปด้วยไหมครับ” “ไม่หรอกครับ ผมจะขอยืมชุดพี่ กับรถส่งพิซซาของพี่แล้วผมจะเอาพิซซาไปส่งให้” “จะดีหรอครับ ถ้าผู้จัดการรู้นี่ผมโดนไล่ออกเลยนะคับ” “ถือว่าผมขอร้องแล้วกันนะคับพี่งั้นถือว่าผมเช่าทั้งชุดพี่แล้วก็รถมอเตอร์ไซค์แล้วกัน แปปเดียวครับ ไม่เกิน สิบห้านาทีก็เสร็จ” “อ่ะ โอเคครับ ได้ๆ แต่อย่าบอกใครนะครับ เดี๋ยวผมแย่แน่ๆเลย” “แน่นอนอยู่แล้วครับ งั้นพี่เข้ามาก่อน” จ็อบรีบเอาพิซซาไปให้บอลที่ห้องรับแขกพร้อมกับบอกกับบอลว่า “เดี๋ยวกูมานะ ขอกูไปทำธุระก่อน” บอลได้แต่งงแต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะนาทีนั้น ความหิวเข้าครอบงำ “แล้วน้องจะยืมอะไรพี่บ้างล่ะ เสื้อคลุมอย่างเดียวหรือยังไง”พนักงานพิซซาถาม “ผมไม่มีกางเกงสีดำแบบที่พี่ใส่อ่ะครับผมจะขอยืมทั้งชุดเลยได้ไหม” “อ่อ ได้สิครับ แล้วจะให้เปลี่ยนที่ไหนครับเร็วหน่อยก็ดีนะครับ เดี๋ยวทางลูกค้าเขาโทรมาเร่งผู้จัดการผมอีก” “ตรงนี้เลยได้ไหมครับ จะได้ไม่เสียเวลา” “หา ในสวนหน้าบ้านนี้เหรอครับ” “ใช่ครับ เพราะคงไม่มีใครมาเห็นหรอกครับ กำแพงมันบังแต่พี่สะดวกไหม” “อ่า โอเคครับ ได้ๆ” จ็อบถอดกางเกงยีนส์ออก พร้อมๆกับพนักงานพิซซาที่ถอดยีนส์ออกแล้วส่งให้จ็อบ โชคดีที่ไซส์เสื้อผ้าของทั้งสองพอๆกันจึงใส่ได้พอดี หลังจากนั้น จ็อบก็ถอดเสื้อออกพนักงานพิซซาก็ถอดแจ็คเก็ตและเสื้อโปโลด้านในส่งให้จ็อบแต่งตัวตอนนี้ทั้งคู่เปลี่ยนเสื้อผ้ากันเสร็จแล้ว “พี่ฝากด้วยนะครับ ชีวิตการทำงานของพี่อยู่ที่น้องแล้วนะ”พนักงานพิซซาบอกก่อนที่จ็อบจะขี่รถออกมาจากบ้าน จ็อบจอดรถพร้อมกดกริ่ง เมื่อมีได้ยินเสียงเปิดประตูบ้านจ็อบจึงเดินไปเปิดตู้ที่ติดไว้ท้ายรถ หยิบพิซซาออกมา พอจ็อบเงยหน้ามาก็ยิ้มหน้าบาน เพราะคนที่มารับคือหยก “อ่าว จ็อบ มาได้ยังไง ตกลงเธอเป็นพนักงานส่งพิซซาด้วยเหรอ”หยกถามจ็อบด้วยความแปลกใจ “เฉพาะกิจน่ะ แค่อยากเอามาส่งให้หยก” จ็อบหยอดคำหวานใส่หยก “พอๆๆๆ หยกเขินจะตายอยู่แล้ว เท่าไหร่เนี่ย” หยกรีบตัดบท “ไม่เป็นไร มื้อนี้จ็อบเลี้ยงเองนะ” จ็อบแสดงอาการใจป๋าเลี้ยงพิซซาหยก “ขอบคุณนะ” “จ็อบขอคบหยกเป็นแฟนได้ไหม” จ็อบตัดสินใจยิงคำถามตรง “เอ่ออ... ไม่บอกกก พรุ่งนี้เจอกันที่เดิมนะแล้วหยกจะไปบอกคำตอบให้นะ” หยกทำท่าขวยเขิน ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไปทำให้จ็อบรู้สึกว่าตัวเองจะมีโอกาส แต่ในใจนึงก็แอบแคร์ความรู้สึกของบอลด้วย จ็อบขี่รถกลับมาถึงบ้านเรียบร้อยแล้ว “โอเคไหมน้อง” พนักงานพิซซาถาม “โอเคคับพี่ เขาบอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาให้คำตอบผม” “ขอให้โชคดีนะน้อง” “งั้นเปลี่ยนชุดคืนเลยนะครับพี่” ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังเปลี่ยนชุดกันจ็อบถอดเสื้อโปโลพาดไว้ที่เก้าอี้ริมบ่อปลา แต่เนื่องจากจ็อบเป็นคนเหงื่อออกง่ายเสื้อจึงลื่นไหลตกไปในบ่อปลา “เห้ย ขอโทษพี่ พี่เสื้อพี่เปียกหมดเลย”จ็อบขอโทษพนักงานพิซซา “ไม่เป็นไรน้อง เดี๋ยวพี่ใส่แจ็คเก็ตตัวเดียวก็ได้” “งั้นเดี๋ยวผมเอาเสื้อไปซักให้” เมื่อทั้งคู่เปลี่ยนชุดกันเสร็จแล้วจ็อบก็ส่งเงินให้พนักงานพิซซา “พี่นี่ค่าเช่า” พนักงานพิซซารับเงินมานับ “โห ตั้งห้าพัน มันเยอะไปนะ” “ไม่เป็นไรคับพี่ พี่เอาไปเถอะ ถ้าไม่ได้พี่ผมคงไม่มีโอกาสบอกเขา” “งั้นเอาเบอร์พี่ไปนะ ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยได้อีก บอกได้เลย” “โอเคคับพี่” “พี่ชื่อโอมนะ มีอะไรโทรหาได้” เมื่อทั้งคู่แลกเบอร์กันเสร็จพนักงานพิซซาก็ขี่รถออกไปซึ่งต่างจากขามาที่สวมแจ็คเก็ตไม่รูดซิปหน้าส่วนขากลับไปใส่แจ็คเก็ตรูดซิปจนสุด เพราะเสื้อสีเขียวที่ใส่ตอนขามาอยู่ในมือของจ็อบแล้ว จ็อบเดินเข้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะไม่อยากให้บอลรู้ จ็อบกับบอลนั่งกินพิซซากันที่ห้องรับแขกอย่างมีความสุข “อะไรในมือวะ” บอลถามเมื่อเห็นจ็อบถือผ้าสีเขียวในมือมา “อ้อ เสื้อของพนักงานส่งพิซซาเมื่อกี้พอดีกูอยากลองเป็นพนักงานพิซซาเลยขอเขาเปลี่ยนชุดแล้วไปส่งพิซซาแทนเขาให้ลูกค้าแต่พอเปลี่ยนชุดกลับ เสื้อดันตกไปในบ่อปลา ก็เลยขอเอาเสื้อมาซักให้เขา” “เดี๋ยวๆ คุณแฟน อารมณ์ติสท์เบอร์ไหนถึงอยากไปเป็นพนักงานส่งพิซซา”บอลถามแบบประชดประชัน “ถ้าติสท์แล้วรักป่ะล่ะ” จ็อบแกล้งถามตัดบท บอลไม่ตอบ พร้อมกับเดินเข้าไปจูบปากจ็อบทันที “พอก่อนเลยมึง กลิ่นออริกาโนกับซอสมะเขือเทศเต็มปากกูไปหมดละ”จ็อบรีบเบรค “กูว่า เรามาหากิจกรรมแบบคู่รักแบบเกรียนทำกันดีกว่ามะ”บอลเสนอ “ก็ได้ว่ะ ทำไรดีวะ” จ็อบเห็นด้วย “กูไปอ่านเจอในเว็บนึงมา ที่มันรวมเรื่องเล่าเสียวๆ จีจีอะไรเนี่ยแหละ มีกระทู้นึงเขาเล่าให้ฟังว่าเวลาเขาอยู่กับแฟน วันไหนอยู่ด้วยกัน เขาจะให้แฟนเขาจับไพ่มันมีไพ่คิงกับโจ๊กเกอร์ ถ้าใครได้โจ๊กเกอร์ จะต้องแก้ผ้าอยู่ในบ้านตลอดจนถึงเที่ยงคืน”บอลเสนอ “เอาจริงดิ แต่ว่าไอ้คนที่แอบดูเรามันจะไม่เอาเราไปแบล็คเมลหรอวะ” จ็อบกังวล แต่ก็อยากตามใจบอล “เราก็ปิดประตู ปิดผ้าม่านให้มิดชิดไม่ให้มีช่องเลยสิจะไปกลัวอะไร” บอลบอก ทำให้จ็อบคลายกังวล “โอเคได้ งั้นเดี๋ยวกูไปเอาไพ่ก่อน” “ใครจะเป็นคนจับ” จ็อบถาม “กูจับก็ได้” บอลบอกพร้อมกับเอื้อมมือไปจับไพ่ในมือจ็อบเมื่อเปิดไพ่มาดู โจ๊กเกอร์ “ไอ้บอล แก้ผ้าๆๆๆๆ” “เออ ก็ได้วะ ทำให้แฟนแค่นี้เอง”
หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้ อาจจะนึกโกรธจ็อบ หรือสงสัยในตัวจ็อบว่า ในเมื่อเป็นแฟนกับบอลแล้ว ทำไมถึงต้องไปขอหยกเป็นแฟนอีก แต่ผมว่าสำหรับหลายคนคงเดาออกแล้วล่ะครับ ว่า จ็อบ เป็นไบ ที่ยังไม่แน่ใจในตัวเองว่า เป็นไบ (ในใจชอบผู้ชาย แต่หยกก็เป็นผู้หญิงที่ตรงกับอุดมคติของจ็อบด้วยเช่นเดียวกัน เลยเกิดความสับสนว่าตัวเองชอบอะไรกันแน่ เพราะคิดว่าคนเราชอบได้แค่เพศเดียว) แต่จ็อบยังไม่รู้แบล็คกราวน์สำคัญข้อนึงของหยกครับ ซึ่งผมได้เขียนเอาไว้แล้วในช่วงแรกๆของเรื่องนี้ ถ้าใครจำได้คงจะเดาได้นะครับว่า จ็อบจะเป็นยังไงต่อไป ขอบคุณสำหรับการติดตามของทุกท่านครับ ส่วนเรื่องใหม่ ไว้ครั้งหน้า ผมจะมาเล่าไอเดียให้ฟังว่า จะไปทางแนวไหน |