แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2020-11-4 10:36
ความรักกับชีวิตนั้นเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งนั่นคือ ไม่รู้พรุ่งนี้เลย เพราะไม่มีใครรู้ว่าในพรุ่งนี้นั้นสถานภาพหรือตัวตนของเราจะเป็นอย่างไร บ่อยครั้งที่หลายๆคนมองว่าทุกอย่างนั้นต้องมั่นคงและอยู่กับเราไปตลอดแต่แท้จริงแล้วทุกสิ่งล้วนแปรเปลี่ยนไปตามเหตุและปัจจัยโดยรอบอยู่เสมอ และนั่นแหละคือความจริงของชีวิตที่เราทุกคนจักต้องเผชิญกับมันบางทีการยอมรับในบางเรื่องและหันไปปล่อยวางในบางสิ่งมันก็อาจเป็นอีกหนึ่งหนทางที่ทำให้เราใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันได้อย่างที่มันควรเป็น ทุกคนที่กำลังช่วยกันเก็บกวาดลานหลังบ้านหลังผ่านพ้นงานกินเลี้ยงวันเกิดไปเมื่อคืน เบทเจ้าของสถานที่มันเดินตรงเข้ามาทุกคนที่ยังคงเก็บกวาดขยะและขวดเบียร์ใส่ถุงดำ “เห้ยๆพวกมึง ตะกี้ลุงกูที่อยู่บ้านไม่ห่างจากนี้ชวนพวกเราไปแดกข้าวเช้ากันที่บ้านลุงเค้าน่ะเห็นบอกว่าทำแกงคั่วไก่ ลาบหมูและก็หลนปูไว้เยอะมากแกเลยฝากกูมาบอกว่าให้ชวนพวกมึงทั้งหมดไปช่วยล้างผลาญกันหน่อยว่ะ” ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับโห่ร้องด้วยความดีใจกันยกใหญ่จนเตอร์ที่อยู่ในกลุ่มนั้นร้องถามขึ้นมา “ไอ้เบทเว้ยไอ้เบทลุงมึงจะว่าไรไมวะ ถ้ากูกับคนอื่นๆจะเอาเบียร์ที่เหลือจากเมื่อคืนไปนั่งกินด้วย” “ใจเย็นเว้ยเพื่อน จะหาเรื่องเมาแต่หัววันเลยรึไงวะวันนี้พวกเราต้องไปในเมืองอีกหลายที่นะเว้ยไอ้เตอร์” “ไอ้ยูโร โอลาฟตื่นยังวะถ้ายังไม่ตื่นกูว่ามึงรีบไปปลุกหน่อยวะ เดี๋ยวพวกกูจะไปกันล่ะ” “โอลาฟตื่นนานแล้วล่ะไอ้เบท เดี๋ยวไงกูไปดูน้องเค้าแปป” ยูโรเลยแยกจากทุกคนเดินเข้าไปในตัวบ้านและเมื่อมันมาถึงห้องนอนมันเห็นโอลาฟกำลังนั่งเก็บของใช้ใส่กระเป๋าเป้ “โอลาฟ ทำไรอยู่น่ะ เดี๋ยวไอ้เบทจะพาไปกินข้าวเช้าที่บ้านลุงมันนะโอลาฟอาบน้ำแปรงฟันแล้วใช่ป่าว” โอลาฟมันยังคงตั้งหน้าเก็บของใส่กระเป๋าเป้อยู่เช่นนั้นพร้อมกับขานตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆ“อืมมม” “แล้วโดนัทล่ะ ไปไหนล่ะเช้านี่พี่ไม่เห็นน้องเค้าเลย” “ไม่รู้มัน!!” ยูโรมันสงสัยกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของโอลาฟมันเลยรีบเอ่ยปากถามทันที “พี่ถามจริง เป็นไรเนี่ย มีใครทำอะไรให้ไม่พอใจรึไง” โอลาฟรีบยัดของทั้งหมดใส่ลงกระเป๋าเป้ก่อนจะลุกเดินมาหายูโรที่ยืนขวางประตูห้องนอนไว้ “ไม่มีไรหรอกพี่ยูโร ขอทางผมหน่อยครับ ผมจะออกไปข้างนอกล่ะ” ยูโรเห็นท่าทีและสีหน้าบึ้งตึงของโอลาฟมันเลยไม่อยากถามเซ้าซี้และขยับถอยให้โอลาฟเดินผ่านไป ทันทีที่โอลาฟเดินออกมานอกบ้านมันก็ต้องเจ็บจี๊ดอีกครั้งเมื่อมันเห็นโดนัทยืนคุยเกาะเเกะอยู่กับเฟิร์สไปมาท่ามกลางเสียงหัวเราะและเสียงพูดแซวจากเพื่อนคนอื่นๆรอบข้างซึ่งโดนัทเองก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายเลยสักนิดแต่มันกลับรู้สึกชอบและดีใจจนแอบยิ้มด้วยความฟิน มันทำให้โอลาฟที่ยืนมองแต่ไกลมันได้แต่อุทานเป็นคำพูดเบาๆออกมาว่า “อีโดนัทอีเด็กเวร” ไม่นานนักทุกคนพากันเดินเท้าออกจากบ้านสวนไปยังบ้านลุงของเบทที่อยู่ห่างไป 500 เมตรซึ่งเมื่อไปถึงที่หมายทุกคนต่างช่วยกันจัดแจงกับข้าวและนั่งล้อมวงกินด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อยจนเคนกับเจตต้องเอ่ยปากชม “ไอ้เบทลุงมึงนี่แม่งทำกับข้างอร่อยดีว่ะอร่อยกว่าแม่กูทำซะอีก” “เออใช่อย่างที่ไอ้เคนพูด กูก็ว่าอร่อยดี รสชาติถูกปากถูกลิ้นกูดีว่ะ” เบทมันได้แต่ยิ้มและหัวเราะ “ฮ่าๆ ดีแล้วล่ะที่กับข้าวถูกปากพวกมึงกัน เต็มที่นะพวกมึงกับข้าวยังมีอีกเยอะ” ยูโรเห็นโอลาฟที่นั่งข้างก้มหน้าก้มตาตักข้าวใส่ปากยกใหญ่มันถึงกับเอ่ยปากแซว “ถึงจะอร่อยแค่ไหน แต่เคี้ยวหน่อยก็ดีนะโอลาฟ” โอลาฟถึงกับชะงักและรีบหันมองยูโร “ก็เคี้ยวววอยู่ที่งายย ไม่เห็นหรอ รึจะให้ผมคายใส่มือเอาให้ดู” “เอิ่มมมไม่ต้องก็ได้ก็เห็นกินเอากินเอา พี่แค่เป็นห่วงน่ะ” ขณะเดียวกันลุงชมที่เป็นเจ้าของบ้านเดินออกมาทักทายทุกคน “ไงกับข้าวฝีมือลุงกับป้าอร่อยไหมถ้าไม่ถูกปากตรงไหนบอกลุงได้เลยนะ” ทุกคนรีบเอ่ยปากตอบเป็นเสียงเดียวกัน “สุดยอดครับลุงงง อร่อยมากครับ” “เออ ดีล่ะๆ ถ้าชอบกันลุงก็ดีใจแต่เมื่อคืนกินกันดึกเลยนะขนาดลุงอยู่บ้านยังได้ยินเสียงโหวกเหวกมาถึงนี่เลย” ทุกคนได้แต่หัวเราะและแซวกันไปมายกใหญ่ “เออจริงสิลุงเกือบจะลืมซะล่ะ ห้องน้ำบ้านลุงไม่ดีนะตอนเช้าๆลุงมาทำธุระเหมือนส้วมจะเต็ม สายๆโน่นกว่ารถดูดจะมาจัดการถ้าพวกเอ็งจะใช้ห้องน้ำกัน แนะนำไปใช้ห้องน้ำบ้านน้องชายของลุงข้างๆนี้ได้นะ เอาล่ะเดี๋ยวลุงจะออกไปบ้านไอ้เม็งเพื่อนลุงสักหน่อย มีไรก็บอกเมียลุงในบ้านได้ไอ้เบทบริการเพื่อนดีๆหน่อยนะเอ็ง” “ครับลุงชม ไม่ต้องห่วงไอ้พวกนี้มันสายชิลกันอยู่แล้วลุง” ทุกคนรีบยกมือไหว้ขอบคุณลุงชมกันยกใหญ่ก่อนที่ทุกคนจะหันไปสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ 20 นาทีผ่านไปขณะที่ทุกคนแยกนั่งคุยกันเป็นหย่อมๆหลังท้องอิ่ม เฟิร์สกับเอกมันเดินมาถามเบทที่นั่งคุยกับเวฟยูโรและโอลาฟอยู่ตรงบันไดขึ้นบ้านลุงชม “ไอ้เบท ไอ้เบทตะกี้ลุงชมมึงบอกว่าไปใช้ห้องน้ำ ที่บ้านข้างๆนี่ได้ใช่ปะ” “เออๆ ใช่แล้ว ไงวะพวกมึงสองคนแม่งลำไส้ดีจังเลยวะเอาเข้าปุ๊บออกปั๊บจะให้กูเดินไปส่งไหมล่ะ” เฟิร์สรีบส่ายหัวปฏิเสธทันที “ไม่ๆๆเดี๋ยวกูไปกับไอ้เอกได้ กูมาถามมึงแค่นี้แหละ ปะไอ้เอกไปกันว่ะ” เฟิร์สกับเอกรีบเดินดุ่มๆออกประตูบ้านอย่างรวดเร็วโดยมีโอลาฟแอบนั่งมองตามหลังไปติดๆ ทันทีที่ทั้งสองมาถึงห้องน้ำที่อยู่นอกตัวซึ่งมีอยู่เพียงห้องเดียวเลยทำให้เฟิร์สกับเอกหันมองหน้ากันยกใหญ่ก่อนที่จะทั้งสองจะรีบกรูไปจับประตูห้องน้ำและยื้อแย่งกันไปมา “ไอ้เอกกูจับประตูได้ก่อน ให้กูก่อนเว้ย” “ไอ้เฟิร์สมึงเป็นเพื่อนรักของกูตั้งแต่สมัยประถมน่ะเว้ย ดังนั้นให้กูเข้าก่อน” “แต่กูปวดหนักนะเว้ยจะราดแล้วเนี่ยยย ขอกูก่อนโว้ยย” “ของกูก็จะราดเหมือนกันไอ้เฟิร์สเนี่ยยมันจะแหกด่านรูก้นกูออกมาอยู่แล้ว ของกูนาทีเร่งด่วนกว่า” “ใครจะยอมล่ะวะไอ้เอก งั้นมึงกับกูมาตัดสินแบบลูกผู้ชายยเหมือนเมื่อก่อน ใครชนะคนนั้นได้ก่อน” “เอาดิวะ อย่าโกงนะมึง” ทั้งสองเลยเป่ายิ้งฉุบตัดสินกันซึ่งผลออกมานั่นคือ เอกเป็นฝ่ายชนะ เอกถึงกับหัวเราะดีใจยกใหญ่พร้อมหันไปพูดเยอะเย้ย “ฮ่าๆโชคชะตาเข้าข้างกูวะ อ่อนแอก็แพ้ไปเว้ยยยยมึง” เอกรีบผลักตัวเฟิร์สออกเบาๆก่อนที่มันจะรีบพุ่งตัวเข้าห้องน้ำและปิดประตูอย่างรวดเร็ว เฟิร์สได้แต่หน้าบึ้งและก้มมองมือซ้ายที่ออกกรรไกรด้วยความเจ็บใจก่อนที่มันจะเงยหน้าขึ้นมองประตูห้องน้ำตรงหน้า “ไอ้เอกมึงรีบแบ่งสุดแรงเกิดเลยนะเว้ยย คนยืนรอใจจะขาดอยู่แล้ว” เอกได้แต่พูดสวนกลับออกมา “ใจเย็นดิครับลูกพี่ ของแบบนี้ยิ่งเร่งยิ่งออกช้านะครับ” เฟิร์สมันได้แต่จับลูกบิดประตูและบิดตัวทำเสียงอ้อดอ้อนไปมา “ขอร้องล่ะคุณเอก กูจะไม่ไหวแล้วว ได้โปรดดด” ในขณะที่เฟิร์สกำลังยืนบิดตัวพูดออดอ้อนไปมาอยู่นั้น “พี่เฟิร์สสเป็นไรน่ะครับ” เฟิร์สถึงกับตกใจกับเสียงดังกล่าว “โดนัท!! มาเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรออ แต่ช่วยรอแปป พี่เองก็จะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน” โดนัทที่เห็นท่าท่าและน้ำเสียงดังกล่าวถึงกับหัวเราะชอบใจ “พี่ไม่ตลกเลยนะโดนัท โดนัทไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกพี่ในตอนนี้มันสาหัสสากันแค่ไหน….โอ้ยยยไอ้เอกก เร็วดิวะ” “แต่โดนัทเข้าใจว่ามันเป็นไงเวลาอั้นอึตอนอยู่โรงเรียนผมเป็นบ่อยนะ บางวันก็อั้นตั้งเช้าถึงเลิกเรียนเพื่อรอมาอึที่บ้าน…..พี่เฟิร์สไปใช้ห้องน้ำบ้านผมไหมล่ะ อยู่ไม่ไกลจากนี้หรอก แถมกว้างด้วยนะ” เฟิร์สซึ่งในตอนแรกรีบพูดบ่ายเบี่ยงปฏิเสธคำชักชวนด้วยความเกรงใจแต่ด้วยคำรบเร้าและความทรมาณที่มันเผชิญอยู่ตอนนี้เลยทำให้มันจึงตัดสินใจตอบตกลงกับโดนัท และเมื่อมันสาวย่างตามโดนัทมาถึงยังตัวบ้านของมัน เฟิร์สไม่รอช้าให้โดนัทรีบบอกทางไปห้องน้ำทันทีทันใด หลังจากที่มันได้นั่งปลดทุกข์จนหมดสิ้นเฟิร์สเปิดประตูเดินออกมายืดตัวสูดอากาศด้วยความเบาโล่งกายและใจ “อ่าหห ฟิลลิ่งนี่สินะที่เค้าพูดกันว่ายกภูเขาออกจากอก อื้มมมม โคตรโล่งใจเลยวะ ยิ่งกว่าถูกหวยซะอีก” ขณะที่มันกำลังยืนพูดพำพึมอยู่คนเดียวจู่ๆโดนัทที่นั่งเก้าอี้รอมันอยู่ลุกเดินมาสะกิดมือขวาจนเฟิร์สหันมามองอย่างรวดเร็ว “ฮ่าๆ โทษทีโดนัท พี่เกือบลืมไปแหน่ว่าอยู่บ้านโดนัท แต่ไงขอบใจมากที่มาช่วยชีวิตพี่ได้อย่างฉิวเฉียดขืนชักช้าอีกนิดคงได้ราดกางเกงแน่ๆ ว่าแต่ทำไมบ้านเงียบจังน้อง ไม่มีใครอยู่เหรอ” “สายป่านนี้ผมว่าพ่อกับแม่คงออกไปทำงานแล้วล่ะพี่” “โดนัทเป็นลูกคนเดียวเหรอ” “จริงๆผมมีน้องสาวคนอีกคนอะพี่ชื่อแซนด์วิช อยู่ป.1 แต่ยายผมที่อยู่หมู่ข้างๆช่วยแม่ผมเอาไปเลี้ยงแทนให้ผมก็เลยได้อยู่กับพ่อแม่แค่เดียว” “อ๋อๆ แบบนี้คงเหงาแย่ ไงพี่ก็ขอบใจโดนัทอีกครั้งล่ะกัน ปะกลับไปหาคนอื่นๆเถอะ” ทันใดนั้นโดนัทเอื้อมมือมาจับมือขวาของเฟิร์สไว้มั่น “พี่เฟิร์ส ก่อนไปโดนัทมีไรอยากให้พี่เฟิร์สดูหน่อยน่ะ” ไม่ทันที่เฟิร์สจะได้เอ่ยปากโดนัทมันรีบดึงตัวเฟิร์สให้เดินตามมันเข้าไปในบ้านทันที “เดี๋ยวๆอย่าดึงพี่แบบนั้นดิโดนัท” โดนัทพาเฟิร์สเข้ามายังห้องนอนของมัน “โดนัทนี่มันห้องนอนไม่ใช่เหรอแถมเป็นห้องนอนของพ่อแม่โดนัทด้วยนะ พี่ว่าโดนัทไม่ควรพาพี่เข้ามาในนี้นะ” โดนัทมันหันมายิ้มให้กับเฟิร์ส “ไม่เป็นไรหรอกพี่เฟิร์สถึงเป็นห้องพ่อแม่แต่ห้องนี้ส่วนหนึ่งก็เป็นห้องผมเหมือนกัน” เฟิร์สมันยังคงหันมองไปรอบๆห้องด้วยความพะวง “แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ควรอยู่ดีนะ พี่รู้สึกไม่ดีเลย แล้วไหนล่ะโดนัทจะให้พี่ดูไรอะ” โดนัทมันก้มไปหยิบเอาเซตตุ๊กตาบาร์บี้จากในลิ้นชักขึ้นมาให้ยื่นให้กับเฟิร์ส “ไรเนี่ย!!!” “สวยไหมพี่เฟิร์ส นี่ผมเก็บตังค์ซื้อเองเลยนะ พี่เฟิร์สชอบรึป่าว” เฟิร์สยิ้มเจื่อนๆพร้อมกับพลิกดูตุ๊กตาไปมา “เอิ่มมมมมันก็…ก็ดี..แต่ถ้าเป็นพี่พี่คงซื้อฟุตบอลหรือปิงปองมาเล่นยังจะสนุกกว่าเยอะ” “ของที่พี่เฟิร์สว่าไม่เห็นจะสนุกเลยแถมเล่นแล้วยังเหนื่อยและเจ็บตัวด้วยนะ” เฟิร์สยื่นตุ๊กตาในมือคืนให้กับโดนัท “แต่ตุ๊กตาแบบนี้มันเหมาะกับเด็กผู้หญิงมากกว่านะ” “ไม่เห็นเป็นไรเลยพี่เฟิร์ส ก็ไม่เห็นมีเขียนบอกไว้สักหน่อยนิว่าห้ามไม่ให้ผู้ชายเล่น” “ฮ่าๆโอเคครับ ตามนั้น ปะ รีบกลับไปหาคนอื่นๆกันเดี๋ยวพวกพี่ต้องไปเที่ยวในเมืองกันอีก” ขณะที่เฟิร์สกำลังจะหันเดินออกจากห้องจู่ๆโดนัทมันรีบวิ่งไปขวางประตูพร้อมทำปากจือทำเอาเฟิร์สมองมันด้วยความประหลาดใจ “อะไร!!!” “พี่เฟิร์สง่าาาไหนๆวันนี้พี่เฟิร์สก็จะกลับแล้ว โดนัทขอทำอีกได้ไหมง่าาา” “หึ!!ทำอะไร!!” โดนัทมันเดินมาเกาะขาซ้ายของเฟิร์สพร้อมทำน้ำเสียงออดอ้อน “ก็ที่โดนัททำให้เมื่อคืนงายยย พี่เฟิร์สลืมไปแล้วหรออออ” “อึยยโดนัทไม่เอา พี่ไม่ทำแล้วแค่เมื่อคืนก็พอแล้วล่ะ” “อื้ออออมะเอาอะพี่เฟิร์สโดนัทยังอยากทำอีกอะ โดนัทชอบอะ โดนัทยังอยากจะเอาเข้าปากอีกอะ นะพี่เฟิร์สให้โดนัททำอีกนะ” โดนัทพูดพร้อมใช้มือลูบไล้ขาข้างที่มันกอดไปมา “อึยยโดนัทอย่าลูบแบบนั้นดิ แค่เมื่อก็พอแล้วนะขนาดพี่สะดุ้งตื่นมาช่วงเช้ามืด โดนัทเองก็ยังนอนดูดให้พี่อยู่ใต้ผ้าห่มเลยไม่ใช่เหรอ” “อื้ออแต่โดนัทยังอยากทำอีกอะ เมื่อคืนโดนัทยังทำได้ไม่หนำใจเลยแถมน้ำคาวๆลื่นๆที่มันพุ่งออกมาโดนัทยังได้กินแค่สามครั้งเองอะพี่เฟิร์ส” “แต่ถึงยังไงมันก็ไม่ดีไม่ใช่เหรอโดนัทเองก็ยังเด็กนะ ขนาดพี่เองยังทึ่งเลย ว่าโดนัทอายุแค่นี้แต่กล้าทำอะไรแบบนี้ได้ พี่ถามจริงโดนัทเคยทำให้ใครมาก่อนรึป่าว” โดนัทไม่ตอบได้แต่ลูบคลำกล้ามบริเวณขาและขนหน้าแข้งไปมา “อีกอย่างเกิดใครรู้ว่าพี่กับโดนัททำไรแบบนี้ พี่ว่าเรื่องมันจะหนักยิ่งกว่านี้อีกนะ” “โดนัทไม่บอกใครหรอกพี่เฟิร์สแล้วบ้านโดนัทเองก็ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมาอยู่แล้วยิ่งพ่อแม่ไปทำงานแบบนี้ยิ่งไม่มีใครเข้ามาเลย นะพี่เฟิร์สขอโดนัทอมหน่อยนะโดนัทอยากทำเหมือนมะคืนอีกจริงๆ” โดนัทพูดพร้อมเอามือที่ลูบเล่นขนหน้าแข้งไปมาพยายามสอดเข้าไปทางขากางเกงบอลที่เฟิร์สสวมใส่อยู่ จนเฟิร์สต้องรีบเอามือมาคว้าจับไว้ได้ทันควัน “โดนัท ไม่เอา!!ไม่ทำก็คือไม่ทำซิ” “อื้ออพี่เฟิร์สงะโดนัทอยากอมอีกอะ ทีเมื่อคืนไม่เห็นขัดโดนัทแบบนี้เลย นะพี่เฟิร์สโดนัทอยากเอากระจู๋ใหญ่ๆของพี่เฟิร์สเข้าปากอีกงะ” โดนัทยังคงสวมกอดขาและส่งสายตาออดอ้อนเฟิร์สพร้อมทั้งเอามืออีกข้างสอดลอดเข้าไปยังขากางเกงอีกฝั่ง แต่เฟิร์สก็ยังคงเอามืออีกข้างไปคว้าจับมับไว้ได้และพยายามดิ้นตัวให้โดนัทปล่อยจากขาของมัน "ปะเร็วเถอะปล่อยขาพี่ได้แล้ว ออกมานานแบบนี้ เดี๋ยวไอ้พวกนั้นได้ตามหากันให้วุ่น” “อื้อพี่เฟิร์สอะขอโดนัทอมแปปเดียวก็ได้ ผมชอบควยใหญ่ๆของพี่จริงๆนะอื้ออ” โดนัทพยายามออกแรงดันมือที่ถูกเฟิร์สจับไว้เข้าไปภายในกางเกงพร้อมทำตาพริบๆ “แหน่ๆยังไม่หยุดอีกเห็นแบบนี้ก็ดื้อใช่ได้เลยนะเนี่ยย…โดนัทกับพี่เป็นผู้ชายนะ ทำแบบนี้มันไม่ดีไม่ควรนะรู้ป่าว” “ก็ถ้าไม่มีใครรู้ก็ไม่เป็นไรหรอก ให้โดนัทอมนะ พี่เฟิร์สหล่อขาวเหมือนดาราในทีวีมาก ผมอยากอมควยให้พี่เฟิร์สทุกวันเลย” เฟิร์สถึงกับยืนอึ้งกับคำพูดของโดนัทซึ่งในจังหวะที่มันยืนอ้ำอึ้งอยู่นั้นโดนัทมันเลยออกแรงดันให้มือทั้งสองที่ถูกจับไว้นั้นไหลเข้าไปสัมผัสกับท่อนลำที่อยู่ใต้กางเกงใน “เอ้ย!!!” เฟิร์สร้องอุทานด้วยความตกใจพร้อมทั้งใช้มือทั้งสองแกะมือของโดนัทออก ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้โดนัทรีบล้วงมือน้อยๆทั้งสองเข้าไปยังกางเกงในก่อนจะคว้ามับเข้าที่ท่อนลำและจับชักไปมา “โดนัท!! หยุดสิ อย่าจับชักอย่างงั้น อย่าดิอย่า…” ยิ่งเฟิร์สร้องห้ามและดิ้นขัดขืนเท่าไหร่โดนัทก็ยิ่งเร่งจังหวะชักมือขึ้นลงเร็วขึ้น ซึ่งเจ้าท่อนลำของเฟิร์สเองก็ดันไวต่อการสัมผัสต่อมือของผู้อื่นเป็นว่าเล่น เพราะทันทีที่มือของโดนัทล้วงเข้ามาจับชักขึ้นลงได้ไม่นานเจ้าท่อนลำดังกล่าวก็พองตัวสู้ขึ้นมาจนมือน้อยๆทั้งสองจนกำเกือบไม่รอบ ส่วนเฟิร์สเองที่รู้ได้ถึงการผงาดท่อนลำของตัวมันเอง ณ เบื้องล่างเลยทำให้อาการขัดขืนในตอนแรกนั้นแปรเปลี่ยนเป็นการยืนนิ่งสงบปาก เลยทำให้บรรยากาศในห้องตอนนี้เหลือเพียงเสียงมือที่จับท่อนลำชักเข้าออกไปมาเสียดสีกับเนื้อผ้า “เห็นไหมพี่เฟิร์สมันแข็งแบบเมื่อคืนอีกแล้วงะ” เฟิร์สมันได้แต่นิ่งเงียบและปล่อยให้โดนัทชักเข้าออกอยู่แบบนั้นจนมันได้ยินเสียงเฟิร์สที่เริ่มหายใจถี่ขึ้น โดนัทเลยแหงนมองเฟิร์สซึ่งมันเห็นเฟิร์สหลับตากัดฟันซี๊ดปากเป็นช่วงๆ นั่นเป็นภาพที่ทำใจโดนัทรู้สึกฟินอย่างบอกไม่ถูก มันยืนชักขึ้นลงให้เฟิร์สอยู่ครู่หนึ่งจนมั่นใจว่าเฟิร์สคงไม่ขัดขืนความปรารถนาของมันเป็นแน่แท้ โดนัทเลยชักมือจากกางเกงและพาเฟิร์สไปนั่งยังขอบเตียงก่อนที่มันจะทรุดตัวลงในท่าคุกเข่า พร้อมใช้มือแหวกขาทั้งสองของเฟิร์สให้กางออกและแทรกตัวเข้าไปอยู่หว่างขามันใช้มือทั้งสองวางที่ขาก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือสองข้างขึ้นไปยังเป้ากางเกง จากนั้นมันจึงล้วงสอดมือเข้าไปยังขอบกางเกงเพื่องัดเอาท่อนลำที่มันต้องการออกมาภายนอก เฟิร์สถึงกับรีบเอามือตะปบไปยังมือที่อยู่ใต้กางเกง “โดนัทก่อนหน้าเมื่อกี้พี่ฉี่มาน่ะ พี่ว่ามันสกปรก…” โดนัทที่ได้ฟังมันไม่ทำหน้ารังเกียจแต่อย่างใดแต่กลับกันมันได้แต่ยิ้มส่งสายตาหวานใส่เฟิร์ส “ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวโดนัททำความสะอาดให้เอง พี่เฟิร์สแค่นั่งอยู่เฉยๆก็พอนะ” สิ้นเสียงพูดโดนัทเลยจับมือเฟิร์สที่ตะปบบไว้ออกพร้อมทั้งล้วงเอาท่อนลำที่แข็งตัวใหญ่ยาวใต้กางเกงขึ้นมา ซึ่งท่อนลำตรงหน้าโดนัทมันแข็งชี้โด่จนเป็นลำยาวสีขาวใหญ่ โดนัทไม่รอช้ารีบร่นหนังหุ้มปลายลงและจ้องมองมันอย่างพอใจ “ได้มาเห็นกระจู๋พี่เฟิร์สตอนกลางวันแบบนี้ สุดยอดเลยครับหัวมนสีแดงส้วยสวย เห็นแล้วมันน่าอมจริงๆเลยอะ พี่เฟิร์สเคยให้ใครอมกระจู๋เหมือนที่โดนัทอมให้รึยังอะ” “ไม่เคยหรอกนี่ก็เพิ่งครั้งแรกนี่แหละที่ตัวพี่ถูกใครทำอะไรแบบนี้” “จริงเหรอพี่เฟิร์ส…ผมดีใจจุงงง” สิ้นเสียงพูดโดนัทมันเลยก้มไปเลียหัวท่อนลำไปมา เฟิร์สถึงกับกระตุกตัวทันทีที่ปลายหัวถูกลิ้นน้อยๆเข้าสัมผัส โดนัทละเลงลิ้นเลียตวัดไปมาทั่วทั้งปลายหัวจนเยิ้ม “อื้มมมซีดด…โดนัท ลิ้นสากๆเวลาเลียมันเสียวแปลกๆดีว่ะ ซีดดด” โดนัทเลียไปมาได้ครู่ใหญ่มันเลยครอบปากอมลงไปเกือบครึ่งลำก่อนจะดูดย้อนขึ้นมายังปลายหัวและย้อนศรลงกลับไปอีกครั้งพร้อมทั้งห่ออุ้งปากเล็กลงให้มันบีบตอดกับท่อนลำใหญ่ในอุ้งปาก จนเฟิร์สเผลออุทานขึ้นมา “อ่าหหหหหสุดจี๊ดดดดเลยวะแม่งงง อ่าหหหห อมเก่งใช้ได้เลยวะโดนัท อ่าหหหซีดดด” คำพูดดังกล่าวทำเอาโดนัทได้ใจยกใหญ่จนมันต้องคิดด้นสดหาวิธีทำให้เฟิร์สนั้นพึงพอใจในความเสียวซ่านให้ได้นานที่สุด ท่อนลำเบ่งบานในอุ้งปากจนคับตึงแต่นั่นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค์กับปากน้อยๆของเด็กชายโดนัทแต่อย่างใด ในตอนนี้เด็กน้อยหัวเกรียนๆตัวเล็กกำลังก้มผงกขึ้นลงถวายบัวอยู่ตรงหว่างขาเฟิร์สอย่างเอาเป็นเอาตาย สองมือของโดนัทจับตรงโคนท่อนลำที่กำเกือบไม่รอบไว้มั่นและคอยประคองให้มันตรงกับตำแหน่งปากที่สูบขึ้นลงด้วยความหิวกระหายจ๊วบๆๆ “แม่งเอ้ยยยเสียวสัดดด อ่าหหห เสียวโครตตตต อ่าหหห อย่างงั้นแหละดูดเน้นๆตรงหัวนั่น ซีดดดดนั่นแหละ อาหหห” เฟิร์สเสียวจนยันตัวแอ่นเอวยกก้นไปตามแรงดูดของอุ้งปาก “ซีดดดดอื้มมมม เสียวกว่าที่โดนตอนเมื่อคืนอีกวะอ่าหหหห” โดนัทที่ก้มดูดดื่มอยู่ถึงกับปลื้มใจจนส่งเสียงอือๆๆๆอยู่ในลำคอ ในขณะที่เฟิร์สกำลังเสียวและเริ่มเกร็งกล้ามเนื้อไปทั่วร่าง “พี่เฟิร์สครับ พี่เฟิร์สอยู่รึป่าวครับ” ทั้งคู่ถึงกับตกใจกับเสียงเรียกที่ดังเข้ามาจากภายนอกตัวบ้านโดยเฉพาะเฟิร์สที่สะดุ้งจนรีบเอามือทั้งสองจับและงัดหัวโดนัทออกจากท่อนลำอย่างรวดเร็ว โดนัทถึงกับอุทานด้วยน้ำเสียงเบาๆ “พี่เฟิร์สเดี๋ยวก่อนสิอย่างเพิ่งงหัวกระจู๋ของพี่มันกำลังเต่งตึงเต้นตุบๆอยู่ในปากอยู่เลย ให้โดนัททำต่อนะ” โดนัททำท่าจะก้มกลับไปเขมือบท่อนลำเข้าปากน้อยๆของมันอีกครั้ง แต่เฟิร์สนั้นกับไม่สนใจในคำพูดของโดนัทแต่อย่างใด มันได้แต่เอามือจับและดันหัวโดนัทไว้ มันทั้งลนลานรีบยัดท่อนลำใหญ่ๆที่แข็งจนเห็นเส้นเลือดปูดไปทั่วลงสู่กางเกงเช่นเดิมพร้อมกับชันตัวลุกขึ้นจากเตียง “พอแล้วโดนัทไม่เห็นเหรอว่ามีคนเรียกอยู่ข้างนอกน่ะ” เฟิร์สเอามือเสยผมบนหัวไปมาและลูบหน้าก่อนจะรีบเดินไปยังนอกบ้าน “อ้าว ก็นึกว่าใครโอลาฟเองเหรอ” เฟิร์สมันพยายามตีหน้าซื่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่โอลาฟที่ยืนตรงหน้ายังคงยืนสังเกตแววตาและกิริยาของเฟิร์สไปมา “พี่เฟิร์สไปทำไรมาน่ะ ทำไมดูเหงื่อเต็มตัวเลย” “อ้อ..คือคือ พี่มาใช้ห้องน้ำบ้านโดนัทน่ะพอดีห้องน้ำที่บ้านข้างๆไอ้เอกมันใช้อยู่โดนัทมันก็...ก็เลยพาพี่มาที่นี่แล้วห้องน้ำในบ้านนี่มันก็ร้อนอบอ้าวด้วย ก็เลยย อย่างที่โอลาฟเห็นนี่แหละ” โอลาฟแอบสังเกตเห็นเป้ากางเกงของเฟิร์สที่ยังคงตุงขึ้นมาหน่อยๆ “แล้วโดนัทล่ะพี่ ไม่มาด้วยกันหรอ” “มาๆ ดูท่าคงใช้ห้องน้ำต่อจากพี่แหละมั้ง เอ่อแล้วแต่ไอ้พวกนั้นทำไรอยู่กันตอนนี้” “ก็ ตามหาพี่นั่นแหละผมก็เลยลองมาที่นี่ เพราะคิดว่าพี่คงอยู่แถวนี้” “งั้นเหรอ เอ่อๆ เอิ่มมม งั้นพี่กับโอลาฟรีบไปกันดีกว่า นี่ก็จวนจะถึงเวลาไปเที่ยวตามที่นัดหมายกันไว้แล้วนินะ” “งั้นพี่เฟิร์สไปก่อนเลยครับเดี๋ยวผมตามไป ตอนนี้ผมรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำเหมือนกัน” “งั้นเหรอ โอเคไงรีบทำธุระให้เสร็จล่ะ” เฟิร์สยิ้มเจื่อนๆและรีบเดินจากไป ไม่นานนักโดนัทเองก็ทำทีเดินออกมาจากตัวบ้านและหันมาพูดกับโอลาฟ “พี่โอลาฟ ห้องน้ำมันลื่นนะระวังหน่อยล่ะ” โดนัทยิ้มและค่อยๆก้มตัวเดินผ่านโอลาฟไปแต่โอลาฟมันเอามือจับคว้าแขนไว้ “เดี๋ยว!!!!” โอลาฟดึงตัวโดนัทเข้าไปยังตัวบ้านพร้อมชักสีหน้าบึ้งตึงทันใดจนโดนัทต้องพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน “อือออพี่โอลาฟทำไรน่ะโดนัทเจ็บนะ” “เจ็บเหรอ!!! ถ้าเทียบกับพี่ เจ็บแค่นี้มันยังไม่พอเลยด้วยซ้ำ” โดนัททำหน้างง “อะไรพี่โอลาฟ แล้วนี่พี่โอลาฟไปโดนไรมาอะถึงเจ็บ” “ลองถามตัวเองสิว่าพี่โดนไรมา พี่ว่าคำตอบนี้โดนัทน่าจะรู้แก่ใจแล้วนะ” โดนัทยังคงตีหน้างุนงง “ไรอะพี่โอลาฟ พูดไรก็ไม่รู้ ถ้าจะแกล้งโดนัทแบบนี้โดนัทไม่ชอบนะ” “หรอออแถเก่งเนาะเรา อย่าคิดว่าทำอะไรไปแล้วคนอื่นจะไม่รู้ไม่เห็น อย่าคิดว่าเป็นเด็กแล้วจะใช้ความสงสารมาบังหน้าถ้ากับคนอื่นมันคงได้ผล แต่กับพี่พี่มองออกหมดแหละในความตอแหลหน้าด้านๆ แล้วก็สิ่งที่โดนัททำกับพี่เฟิร์สถ้าคิดว่าไม่มีใครรู้ล่ะก็ เสียใจนะเพราะพี่รู้และได้ยินหมดทุกอย่างแล้ว นี่ถ้าพี่ไม่เห็นว่าน้องเป็นเด็กนะป่านนี้น้องคงได้นอนเลือดกลบปากแล้วแน่นอน” ทันใดนั้นโดนัทที่ทำหน้าเศร้าด้วยความกลัวจู่ๆมันยิ้มที่มุมปากก่อนจะพูดสวนกลับ “แล้วไงล่ะพี่ ก็พี่เฟิร์สบอกเองเมื่อคืนว่าไม่มีแฟนพี่เองก็ได้ยิน ดังนั้นถ้าผมจะทำให้พี่เค้ามีความสุขมันก็เรื่องของผมปะพี่ แล้วพี่เองก็ไม่ได้เป็นแฟนพี่เฟิร์สด้วย ของแบบนี้อะนะใครเร็วใครกล้าคนนั้นก็ได้ก่อนอะพี่ สมัยนี้หมดยุคแอบรักแอบชอบแบบค่อยเป็นค่อยไปกันแล้วจร้า” โอลาฟจับคอเสื้อของโดนัทพร้อมง้างกำปั้นจะต่อยหน้า “ปากเก่งนะอีเด็กร่าน” โดนัทยังคงยิ้มและทำหน้าเย้ยกลับ “เอาดิพี่โอลาฟ ชกผมเลย ชกแรงๆเลยนะผมจะได้ฟ้องพี่เฟิร์สว่าพี่ทำอะไรผมบ้าง แล้วพี่คิดว่าพี่เฟิร์สและคนอื่นๆจะเข้าข้างพี่ไหมอะเอาดิเอาเลย” โอลาฟที่เกือบจะลงมือแต่มันก็ยั้งคิดไว้ได้ทันก่อนจะค่อยๆลดมือลงแต่ด้วยความโกรธเคืองมันเลยผลักตัวโดนัทไป 1 ที “โกรธชิมิ ก็โทษตัวเองดิที่ไม่กล้า บอกเลยว่าน้ำพี่เฟิร์สอะอร่อยเวอร์ แบร่ๆๆๆ” โดนัทแลบลิ้นเยาะเย้ยก่อนจะวิ่งหนีออกจากบ้านไป โอลาฟมันเลยรีบถอดรองเท้าและเขวี่ยงตามหลังมันไปทันที เวลา 19.21 น.ยูโรมาส่งโอลาฟยังหน้าบ้านจากนั้นมันจึงแยกตัวจากยูโรและเดินเข้าไปยังตัวบ้านซึ่งที่แม่ของมันกำลังนั่งทำเอกสารการสอนอยู่หน้าทีวีทันทีที่โอลาฟมันเดินขึ้นบ้านมาแม่ของมันถึงกับรีบหันมามองด้วยความตกใจ “โอลาฟ !!!มาแล้วเหรอ กลับค่ำนะ” โอลาฟมันรีบยกมือไหว้แม่ของมัน “หวัดดีครับแม่ปุ้ย มันก็นิดหนึ่งแม่ก็พวกพี่ๆที่พาผมไปมัวแต่อ้อยอิ่งกันนิน่า” “แล้วที่ไปนี่การบ้านเสร็จหมดแล้วใช่ไหมพรุ่งนี้ก็วันจันทร์แล้วนะ” “แฮร่ๆๆยังเลยเลยแม่ปุ้ย แต่เดี๋ยวผมนั่งทำคืนนี้ก็เสร็จทันอยู่ครับ” “รู้สึกว่าช่วงหลังๆนี้จะเที่ยวบ่อยไปแล้วนะโอลาฟเดือนนี้ทั้งเดือนแม่ของสั่งงดเที่ยวนะ” โอลาฟชักสีหน้าด้วยความไม่พอใจ“โถ่แม่ปุ้ยอะ แต่อีก 2 อาทิตย์ที่จะถึงนี้โรงเรียนจะมีงาน SAE Meeting แล้วนะแม่ปุ้ยแถมชมรมที่ผมอยู่ก็เป็นหนึ่งในส่วนหลักของงานด้วย ยังไงก่อนหน้าที่จะถึงวันงานผมกับคนอื่นๆก็ต้องได้ไปนอนค้างช่วยเตรียมงานที่โรงเรียนอยู่ดีอะแม่” “อืมๆๆ ก็อย่าทำตัวนอกลู่นอกทางเหมือนพี่ลีฟแล้วกัน ล่ะนี่กินไรมายัง” “กินมาแล้วแม่ ก่อนหน้านี้พวกรุ่นพี่พากันไปกินชาบูในเมืองมาครับ ไงผมไปอาบน้ำนะผมอะเหม็นตัวเองโครต” โอลาฟยกมือไหว้และปลีกตัววิ่งขึ้นมาบนห้องนอนก่อนจะรีบวางกระเป๋าเป้สะพายลงพื้นห้องและพาตัวมันเองเดินเข้าห้องน้ำไปทันใด หลังอาบน้ำเสร็จโอลาฟมันเลยเดินนั่งเล่นเฟสบุ๊คจากโน๊ตบุ๊คเหมือนเช่นเคยและในระหว่างที่มันเลื่อนดูรูปดูข่าวพร้อมกดไลด์กดว้าวไปพลางๆทันใดนั้นมันได้เลื่อนไปเจอเข้าโพสต์ของเจมส์ที่โพสต์ไว้เมื่อวาน คนที่ห่วงใย ไกลแค่ไหนก็ยังห่วงกันคนที่ไม่เคยให้ความสำคัญ ใกล้กันทุกวันยังไม่เคยใส่ใจ #Lonely โอลาฟมันอ่านและทำหน้างงด้วยความสงสัยก่อนจะทักแชทไปหาเจมส์ โอลาฟ – ไม่เจอกันวันสองวันเกิดไรขึ้นเหรอ เจมส์ – โอลาฟ กูนี่มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอกูนี่มันงี่เง่าขนาดนั้นเลยเหรอ โอลาฟ – เดี๋ยวก่อน ใจเย็นมึง นี่มันเรื่องอะไรอะ ลองค่อยๆเล่าให้กูฟังเป็นช็อตๆดิ๊ เจมส์ –กูว่าพี่โฟรเปลี่ยนไปวะโอลาฟจริงกูเริ่มรู้สึกมาได้สักพักล่ะ ก็ตั้งแต่ทีกูไปเที่ยวต่างจังหวัดจนถึงวันนี้พี่โฟรไม่หรือตอบแชทที่กูส่งไปทั้งในไลน์ในเฟสเลยสักนิด กูก็เลยคิดว่าพี่เค้าเหนื่อยหรือยุ่งๆเลยไม่ว่างตอบซึ่งกูไม่อยากอะไรมาก แต่พอกูโทรไปตอนหัวค่ำพี่โฟรเค้าก็ตัดสายกูทิ้งตลอด โอลาฟ – กูว่าบางทีพี่เค้าอาจจะกำลังยุ่งอยู่กับงานจริงๆก็ได้เจมส์อีกอย่างพี่โฟรเค้าก็อยู่ม.6 แล้วนิคงจะเตรียมตัวสำหรับไปต่อในมหาลัยวิทยาลัย บางทีมึงอาจคิดมากไปเองก็ได้นะ เจมส์ – จะไม่ให้กูคิดได้ไงล่ะโอลาฟเพราะพี่โฟรไม่เคยติดสายกูทิ้งแบบนี้เลยสักครั้งแถมถ้าพี่เค้ามีอะไรหรือไม่สะดวกตรงไหนพี่เค้าก็จะบอกกูให้รู้ตลอดซึ่งกูเองก็เข้าใจและไม่เคยขัดใจพี่โฟรเลยสักครั้งเป็นแบบนี้กูโคตรไม่ชอบเลยว่ะมึง โอลาฟ – บางทีมันอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่มึงคิดก็ได้เจมส์ไงซะพรุ่งนี้มึงไปโรงเรียนและเจอพี่โฟรมึงก็ลองถามพี่เค้าดูดีๆดิว่ามันเกิดไรขึ้น และตอนนี้กูว่ามึงต้องทำใจโล่งๆเข้าไว้ ขืนมึงเป็นแบบนี้มันจะแย่เอานะ เจมส์ – อืมๆ กูจะพยายามล่ะกัน ขอบใจมึงมากโอลาฟ แล้วมึงล่ะไปงานวันเกิดพี่เฟิร์สมาเป็นไงมั่งสนุกป่าว โอลาฟ – เรื่องนี้คงได้คุยยาวว่ะมึง ไว้พรุ่งนี้ค่อยไปหาที่นั่งคุยกันเนาะมีหลายสิ่งที่กูอยากถกกับมึงอีกเยอะ เจมส์ – เอ่อ ก็ได้ See you School ระหว่างที่มันจะลุกจากโต๊ะคอมเพื่อเตรียมตัวปั่นงานที่ค้างไว้หูของมันก็ดันไปได้ยินบทสนทนาของลีฟที่โทรคุยกับแฟนสาวดังเข้ามาทางหน้าต่างด้วยความอยากรู้เลยมันเดินไปที่กระจกหน้าต่างและชะเง้อมองไปทางห้องลีฟซึ่งมันเห็นลีฟพี่ชายมันสวมใส่เสื้อกล้ามและกำลังยืนหันหลังให้มันพร้อมคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียงนอกหน้าต่าง“เอินจัดให้พี่เหมือนตอนนั้นอีกรอบไม่ได้เหรอ นะพี่ขอล่ะรอบนี้พี่จะยอมซื้อรองเท้าที่เอินอยากได้ให้เลยอะ….โถ่ทำไมล่ะ เอินไม่ชอบเหรอ หรือจะให้พี่ทำอะไรยังไง…ไม่เอาใช้มือทำเองมันไม่มันส์เท่าทำกับเอินอะนะเอิน อย่าให้พี่ต้องทรมาณกับความงุ่นง่านอย่างนี้เลย” โอลาฟที่ยืนฟังอยู่ในห้องตรงริมหน้าต่างถึงกับยิ้มและนึกสะใจ “ชิ สนน สมน้ำหน้าสาธุขอให้แม่งเงี่ยนไม่มีที่ลงจนลงแดงตายห่าไปเลยก็ดี ช่างแม่งวะ ปั่นงานเราดีกว่า” โอลาฟมันเลยหันกลับเดินไปยังโต๊ะหนังก่อนจะหยิบเอางานมานั่งทำและแอบนึกถึงเรื่องเฟิร์สไปพลางๆ วันพุธที่ 23 สิงหาคม โอลาฟและคนในชมรมเดินออกจากห้องประชุมโรงเรียนหลังจากที่เฟิร์สกับกลุ่มสภานักเรียนได้นัดสมาชิกหลักจากชมรมต่างๆให้มาร่วมปรึกษา/รับฟัง/แสดงความคิดเห็นของงาน SAE Meeting ที่จะถึงในสองอาทิตย์นี้ ระหว่างที่โอลาฟกำลังเดินครุ่นคิดบางสิ่งในหัวอยู่คนเดียวนั้นยูโรมันเดินเข้ามาโอบคอของมันจากด้านหลัง “ประชุมเสร็จนานแล้วนะยังจะเคร่งเครียดอีกทำไม” “พี่ยูโร!! ป่าวครับผมแค่ลองคิดหาไอเดียที่จะเอาใส่ในลูกเล่นตอนตัดต่อหนังสั้นเชิญชวนมาร่วมงานน่ะ” “เดี๋ยวค่อยคิด ตอนนี้พี่ว่าเราสองคนไปหาอะไรเย็นๆหน้าโรงเรียนกินกันก่อนไหม” “ดีเหมือนกันผมเองตอนนี้ก็อยากหาเรื่องเติมน้ำตาลเข้าเลือดตัวเองซะหน่อย แต่ก่อนหน้านั้นขอผมเอาเอกสารในมือพวกนี้ไปไว้ที่ห้องชมรมก่อนนะพี่ ขี้เกียจถือล่ะ” ในขณะที่โอลาฟเก็บเอกสารประชุมลงกล่องของมันเองนั้น“โอลาฟ โอลาฟ อีโอลาฟ” เสียงเรียกของใครบางคนที่คุ้นหูดังขึ้นจากริมหน้าต่างๆที่อยู่ด้านหลังจึงทำให้มันรีบหันมองต้นเสียง"ดิว!! ไปทำไรตรงนั้นน่ะทำไมไม่เข้าข้างใน” โอลาฟที่เห็นดิวยืนอยู่ตรงอยู่นอกหน้าต่างมันเลยเดินเข้าไปหา “อีโอลาฟ กูถามหน่อยที่ว่าตีมงาน SAE Meeting ปีนี้จะแบบคาวบอยไนท์เป็นเรื่องจริงรึป่าว” “อืม ใช่แล้วล่ะแล้วนี่มึงรู้ได้ไงเนี่ย” “ก็อีบาร์บี้มันลือกับคนในก๊กให้แซดยกใหญ่กูก็เลยดิ่งมาถามจากปากมึงไงว่าจริงรึป่าว เพราะมึงเพิ่งเข้าประชุมมา” “เอ้อ ข่าวไปไวจังเนาะ” ดิวถึงกับดีใจจนเนื้อเต้น “อร้ายยยเริ่ดดเลยคร้า ต้องแบบนี้ซี้ ทีนี้แหละคงได้แต่งคาวบอยสาวนมใหญ่ให้สมอยากสักที” “ฮ่าๆแต่ครูกิจกรรมเค้ากำชับมาอยู่นะว่าให้แต่งเวอร์เกิ้นในวันงาน” “คร้าอยากฝากสวนกลับไปบอกคนที่ห้ามว่ายิ่งครูหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมนั่นแหละตัวดีเลยวงการแม่แห่งการแต่งครอสเพลย์เลยแหละคร้า” “จริงเหรอ แล้วนี่แคทกับเจมส์ไปไหนละ” “ถ้าอีเจมส์ก็กลับไปแล้วล่ะ แม่งทักก็ไม่พูดไม่จา ส่วนอีทอมนั่นเห็นบอกว่าไปดูพี่ลูกตาลซ้อมวอลเลย์ป่านนี้คงอยู่สนามโรงยิมโน่นแหละมั้ง เอ่อเพิ่งนึกได้อีกเรื่อง พี่ยูโรนี่ก็เล่นของสูงไม่เบาเลยนะจ๊ะ” “อะไรเหรอ เล่นของสูงที่ว่า” “เห้อออเห็นตัวติดกัน นึกว่าจะรู้เรื่องอะไรซะอีก นี่มึงไม่รู้เหรอว่าพี่ยูโรคบกับพี่เฟย์อยู่” “อ้าวจริงเหรอ!! กูไม่รู้เลยนะดิว พี่เค้าไปคบกันตอนไหนน่ะ” “กูก็เลยถามมึงอยู่นี่ไงนึกว่ามึงรู้รายละเอียดข่าวสารมากกว่านี้ เพราะกูเองก็ได้ยินจากคนอื่นอีกทีว่าอาทิตย์ก่อนพี่ยูโรไปส่งพี่เฟย์ไปซื้อของกับไปเที่ยวด้วยกัน” “งั้นเหรอ แต่ที่กูรู้มาก็คือกูรู้ว่าพี่เฟย์น่ะชอบพี่ยูโรแต่ไม่ยักกะรู้ว่าพี่เค้าคบกันแล้ว” “แต่พี่เฟย์น่ะกูพอรู้มาว่าพี่เค้าเป็นนางสาวของพี่นวลเชียวนะ” “พี่นวลเหรอ เดี๋ยวนะใช่คนในก๊กของพี่นกแก้วม.6 นั่นปะ” “ใช่มึงก็รู้ใช่ไหมว่าพวกพี่เค้าเป็นยังไงกูเลยแปลกใจไงว่าพี่ยูโรนึกไงถึงอยากเล่นของสูงนัก” “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน” “เอาเถอะถือว่ากูได้บอกให้มึงรับรู้ก็แล้วกันและถ้ามึงมีไรก็หัดมาอัพเดทให้กกูบ้าง ก๊กเราจะได้มีเรื่องเม๊าท์มอยไม่ขาดปากไงล่ะมึงงงง กูไปล่ะ ล้าลันล้าคาวบอยสาวผมสวยนมใหญ๊ใหญ่” ดิวเดินพร้อมเต้นกระโดดจากไป โอลาฟมันเลยเดินไปเก็บของต่อจนเสร็จและเมื่อมันเดินออกจากห้องตัดต่อไปหายูโรที่รออยู่นอกอาคารมันเห็นยูโรยืนคุบกับเฟย์อยู่แต่ไกล ซึ่งมันเห็นยูโรกับเฟย์ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กันและกันก่อนที่เฟย์จะยื่นชาไข่มุกปั่นแก้วใหญ่ให้กับยูโรทำให้โอลาฟที่ได้เห็นรู้สึกไม่ค่อยชอบใจขึ้นมานิดๆหลังเฟย์เดินจากไปโอลาฟที่ยืนดูอยู่แต่ไกลเลยเดินออกไปหน้าอาคารทำให้ยูโรที่เห็นโอลาฟเดินออกมาสวมรองเท้าและจะเดินไปทางอื่นถึงกับรีบร้องทัก “โอลาฟจะไปไหนอะลืมไปแล้วเหรอว่าจะไปหาซื้อไรที่หน้าโรงเรียนกับพี่” โอลาฟรีบหันมองยูโรพร้อมชักสีหน้า“ผมว่าพี่ไม่ต้องไปแล้วล่ะแค่ที่ถืออยู่ในมือก็คงอิ่มพอแล้วล่ะมั้ง อีกอย่างถึงพี่หิวพี่ก็มีคนเซอร์วิสให้อยู่แล้วนินะ ผมไปห้องสภาก่อนนะครับ มีงานรออีกเยอะ” โอลาฟมันรีบเดินผละจากยูโรออกมาทันทีซึ่งโอลาฟที่เดินๆอยู่ได้นึกในใจ “โอ้ยนี่กูเป็นอะไรของกูเนี่ยทำไมจู่ๆกูถึงหงุดหงิดขึ้นมาแบบนี้นะ” ในตลอดระยะเวลา 2 อาทิตย์ก่อนถึงวันงานทุกคนต่างช่วยกันเตรียมงานกันอย่างขยันขันแข็งโดยมีเฟิร์สและทีมงานสภาของมันเป็นฝ่ายบริหารและประสานงานกับหัวหน้าฝ่ายชมรมอื่นของโรงเรียนแม้ว่าจะมีความขัดแย้งการการทะเลาะกันเกิดขึ้นบ้างในบ้างจุดแต่ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตนที่ได้รับมอบหมายอย่างดีที่สุดจนงานที่แบ่งไว้ในแต่ละฝ่ายนั้นสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี วันศุกร์ที่ 8 เดือน กรกฏาคม เวลา 18.00 น. โอลาฟและคนอื่นๆถูกเรียกให้ไปรวมตัวกันที่ห้องชมรมก่อนที่เรนโบว์หัวหน้าฝ่ายตัวต่อได้ออกมาชี้แจงให้กับทุกคนฟัง “ก่อนอื่นพี่ก็สวัสดีทุกคนยามค่ำตอนนี้พี่ยูโรหัวหน้าชมรมเราต้องไปช่วยงานที่หอประชุมใหญ่กับพวกสภานักเรียนและได้มอบหมายให้พี่มาแจงงานให้กับทุกคนฟัง เอาล่ะก่อนอื่นพี่เมย์ หัวหน้าชมรมข่าวสารพาเพลินต้องการให้คนจากชมรมเรา 5 คนไปช่วยเก็บภาพทำข่าวซึ่งพี่ยูโรก็ได้มอบหมายให้กับคนที่มีชื่อในกระดาษแผ่นนี้รับผิดชอบ เดี๋ยวหลังออกจากนี้ไปให้ทั้ง 5 คนนี้ตรงไปที่บูธของฝ่ายข่าวที่ทางเข้างานได้เลย ส่วนน้องโอลาฟกับน้องแนนให้รับผิดชอบถ่ายวิดีโอบรรยากาศงานและกิจกรรมโดยรอบตามโซนที่ได้แบ่งไว้ และคนที่เหลือให้ไปช่วยฝ่ายโสตและฝ่ายอาคารสถานที่ตามที่ได้แบ่งกันไว้เลย เอาล่ะแยกย้ายๆตอนนี้แขกเริ่มทยอยเข้างานมาเรื่อยๆล่ะไงขอทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดล่ะ” ทุกคนที่ยืนฟังเรนโบว์ขานรับครับ/ค่ะ พร้อมกันก่อนจะพากันแยกย้ายไปตามหน้าที่ของตน ซึ่งในขณะที่โอลาฟเดินมองหามุมที่จะเริ่มถ่ายวิดีโอบรรยากาศอยู่นั้นงานแคทและดิวได้กรู่เข้ามาหาโอลาฟพร้อมกัน “อีโอลาฟ/โอลาฟเว้ย” “ดิว!!แคท!!ไปอยู่ไหนมา กูมองหาพวกมึงซะตั้งนาน” “ก็อีดิวน่ะสิมัวแต่ให้เราช่วยมันยัดเสริมนมอยู่ชั้นสองตึกสังคมนี่เองจะไปไหนก็ไม่ได้ไปกว่าจะทำเสร็จก็ล่อตั้งเกือบ 10 นาที” “โอ๊ยนี่คุณแม่ มึงเองก็เหมือนกันแหละอีแคทให้กูนั่งรอมึงรัดนมตั้งครึ่งชั่วโมง ตัวกูยังไม่เห็นบ่นสักคำทีงี้ทำเป็นมาบ่นนะมึง…ว่าแต่มึงเองนี่ก็แต่งตัวใช้ได้เลยนี่น่าอีโอลาฟเสื้อคาวบอยตัวนี้สวยใช้ได้คร้าที่ผ่านมากูนึกว่ารสนิยมมึงจะมาแนวครอสเพย์พริตตี้เคียวซะอีก” “แหมดิวกูก็ไม่ได้สายแบ๊วขนาดนั้นปะ…แล้วนี่เจมส์มันมางานยังพวกมึง เห็นมันบ้างป่าว” “เราก็ไม่รู้เหมือนกันโอลาฟพอมาถึงอีดิวมาก็ลากกูขึ้นไปช่วยมันแต่งตัวที่ตึกสังคมเลย” ทันใดนั้นดิวมันสะกิดแขนโอลาฟให้หันไปมองพร้อมตัวหมุนไปมา“ไงอีลาฟเห็นงี้ตัวกูสวยยังคะ” “อืมมมจะว่าสวยก็ไม่เชิงจะว่าไม่สวยก็ไม่ใช่” “อร้ายยยอีโอลาฟเดี๋ยวให้ตบปากเลยนี่ ไม่สวยยังไง” “อะไร!!!กูไม่ได้บอกสักคำว่าไม่สวย แต่ก็นะดูมึงยัดนมเข้าใส่สิ นี่มันใหญ่เกินจนจะคัดตู้มอยู่แล้วนะสรุปนี่มึงจะโชว์นมยัดรึจะโชว์ชุดกันแน่ดิว” แคทที่ยืนฟังถึงกับหัวเราะด้วยความชอบใจยกใหญ่ “ชิชะ อีแคทหยุดหัวเราะเลยอีนี่ มานี่เลยมาช่วยกูทำนมล่อผู้อีกรอบ” ดิวรีบลากพาตัวแคทกลับขึ้นไปบนอาคารอีกรอบ โอลาฟยืนมองพร้อมกับขำทั้งคู่ที่เดินขึ้นตึกไปโอลาฟมันเลยเริ่มเดินถ่ายบรรยากาศงานไปตามจุดที่มันต้องการทีละจุดๆจนไปถึงจุดที่เป็นซุ้มขายเนื้อย่างและเครื่องดื่มที่แต่งร้านเป็นแนว Cowboy Café อย่างสวยงามขณะที่มันกำลังยืนถ่ายอยู่นั้นสายตาของมันได้เห็นเจมส์ยืนซื้อเนื้อย่างอยู่ในร้านผ่านกล้องโอลาฟมันเลยรีบลดกล้องลงและมองไปยังเจมส์ “เจมส์…เจมส์” เจมส์ที่ได้ยินเสียงเรียกของโอลาฟมันหันมองซ้ายขวาก่อนจะเห็นโอลาฟยืนโบกมือไปมาท่ามกลางฝูงชนเจมส์เลยรีบจ่ายตังและเดินถือถุงกระดาษที่มีเนื้อย่างเสียบไม้อยู่ด้านในเข้ามาหาโอลาฟ“เจมส์ นึกว่ามึงไม่มาซะล่ะ แคทกับดิวก็ถามมึงอยู่นะ” “โทษทีโอลาฟพอดีกูมาถึงแต่เช้าแล้วแต่โดนพี่เจนลากไปช่วยพี่พี่เคนกับเพื่อนๆพี่เค้าเตรียมงานที่ห้องสภาน่ะนี่กูก็เพิ่งได้ออกมาเหมือนกันนี่แหละ” “อ้าว เตรียมงานไรน่ะ ไมมึงไม่เรียกกูไปช่วยล่ะ” “ก็มึงต้องอยู่ช่วยที่ชมรมไม่ใช่เหรอกูเลยไม่อยากกวนมึง” “มีไรก็บอกก่อนไปช่วยได้ไม่ได้นั่นก็อีกเรื่องแล้วนี่ซื้อเนื้อย่างมาเยอะแบบนี้ คงไม่ได้ซื้อให้พี่เจนหรอกใช่ไหม” “แน่นอนสิ นี่ข้าวเย็นกูมึงเอาหน่อยไหม เห็นเค้าว่าร้านนี้ที่มาเปิดขายนี้หมักเนื้อได้อร่อยโคตร” เจมส์ยื่นถุงกระดาษที่มีเนื้อย่างเสียบไม้ให้โอลาฟโอลาฟก้มมองเนื้อย่างในถุงกระดาษที่มีไอร้อนพร้อมกลิ่นหอมของซอสราดลอยโชยขึ้นมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาและส่ายหัวไปมา “ขอบใจมึงมากแต่กูไม่กินเนื้อวัวมึงกินเหอะ ยังไม่ได้กินข้าวเย็นไม่ใช่เหรอ” “ก็จริงอยู่ แต่มึงไม่กินงั้นกูเก็บไว้กินเองล่ะนะ เอ่อชุดมึงเทห์ดีว่ะ ซื้อมาเท่าไหร่เนี่ย แถบลายตรงขอบเสื้อสีเด่นดี” “ออพ่อกูซื้อให้น่ะเป็นรางวัลที่กูสอบเข้าม.1ได้ตอนเรียนที่พิดโลก นี่นำเข้าตรงจากญี่ปุ่นเลยนะ แต่เสื้อมึงก็ดูดีไม่น้อยเลยนะเจมส์ยังกะนายอำเภอคาวบอยในหนังฮอลลิวูดดังๆ” “งั้นกูว่าเราสองคนมาเชลฟี่กันหลายๆรูปดีกว่าโอลาฟที่ผ่านมามึงกับกูไม่เคยมีรูปเชลฟี่ด้วยกันสักรูปเลยนิ” “เออใช่ๆ ก็จริงของมึง มะมะ” เจมส์มันเลยล้วงเอาไม้เชลฟี่ในกระเป้าเสื้อมาดึงยืดออก “โห่เจมส์อุปกรณ์พร้อมเลยนี่หว่าฮ่าๆ” “นี่นิดงานใหญ่ของปี ก็ต้องจัดเต็มสิ เอาขยับมา มองกล้อง” ทั้งสองเลยถ่ายเชลฟี่ด้วยกัน หลายต่อหลายชอตจนเป็นที่พอใจ “โอเคๆได้หลายรูปเลย เดี๋ยวแต่งรูปเสร็จกูส่งไลน์ให้ เออเกือบลืมวันนี้ดูท่าคงได้กลับดึกกันแน่นอนกูเลยขอแม่มาค้างบ้านมึงน่ะซึ่งแม่กูก็อนุญาตแล้ว ไงรบกวนมึงช่วยบอกแม่ของมึงหน่อยนะโอลาฟว่าคืนนี้กูจะไปค้างด้วย” “เอ่อนะ น่าจะบอกกูล่วงหน้าก่อนจะได้เตรียมผ้าห่มกับหมอนไว้” “เอาน่าก็รู้อยู่ว่ากูชิลอยู่แล้ว” “แล้วกับพี่โฟรตกลงมึงกับพี่เค้าเคลียร์จนเข้าใจกันดีแล้วใช่ไหม” “อื้มมเรียบร้อยล่ะมึงรู้ปะวันนี้เป็นวันเกิดพี่เค้าด้วยกูเลยซื้อรองเท้าใส่เล่นบอลที่พี่เค้าอยากได้เป็นของขวัญเซอร์ไพร์สให้พี่เค้าน่ะ กูว่าจะให้พี่เค้าก่อนก่อนเลิก” “แหมๆดีจังเลย ถ้ากูเป็นพี่โฟรเจอแบบนี้เข้าคงรักมึงสุดๆเลยแหละ” “กูเองก็อยากเห็นหน้าตอนพี่โฟรเค้าดีใจเหมือนกัน เอาเถอะอีกไม่กี่ชั่วโมงเอง” “เคๆ ไงตอนนี้กูขอตัวทำงานชมรมต่อก่อนนะเว้ยเจมส์ เหลืออีกหลายจุดเลยที่กูยังไม่ได้ถ่าย” “เอ่อๆถ้าเสร็จแล้วมึงมาหาพวกกูที่บูธเบอร์เกอร์หน้าตึกวิทย์ได้นะเว้ย พอดีบูธขายของห้องเราย้ายจากจุดเดิมไปตั้งอยู่หน้าตึกวิทย์แทน” “อ้าวเหรอ ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยเคๆขอบใจๆ เสร็จงานเดี๋ยวกูไปหา” หลังแยกกับเจมส์ไป โอลาฟมันเลยเดินถือกล้องถ่ายตามจุดต่างๆจนเริ่มรู้สึกเหนื่อยมันเลยซื้อโค้กมานั่งดื่มที่เก้าอี้ไม้หน้าสหการโรงเรียนพร้อมนั่งดูผู้คนเดินผ่านไปมา ไม่นานนักสายตาของมันที่นั่งมองผู้คนไปมานั้นได้เห็นยูโรเดินออกมามายืนที่ซุ้มกองฟองตรงทางเข้าหอประชุมอยู่แต่ไกลโอลาฟสักเกตุเห็นยูโรยืนเหม่อนิ่งไปพักใหญ่ก่อนที่เฟย์คนที่ชอบยูโรเดินเข้ามาทักพร้อมกับยื่นผ้าเย็นสีขาวใส่มือยูโรทั้งสองหันมาคุยกันสักพักก่อนจะพากันเดินกลับเข้าไปยังหอประชุม ซึ่งนั่นทำให้โอลาฟที่นั่งมองอยู่แต่ไกลรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาจนมันต้องรีบลุกและเดินหนีไปจากตรงนั้นทันที “โอลาฟมึงจะหงุดหงิดทำไมนี่มึงเป็นไร ก็พี่เฟย์เค้าชอบพี่ยูโรนี่น่า เค้าก็ต้องเทคแคร์กันดิแล้วเราทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ล่ะ เราชอบพี่เฟิร์สนะเว้ย ไม่ใช่พี่ยูโร” ในหัวมันตอนนี้ทั้งสับสนและเศร้าใจตีสลับกันไปมาเลยทำให้มันเดินเหม่อจนไปชนเข้ากับใครบางคน “อุ๊บบบบ ขอโทษนะครับ…อ้าวพี่เฟิร์ส!!!” “เอ๊าๆเดินเพลินเลยนะโอลาฟ มัวแต่ใจลอยคิดถึงใครอยู่รึป่าว” ป่าวครับไม่ใช่ คือผมแค่เดินไม่ระวังแฮร่ๆ” “อืมม ก็ระวังๆหน่อยล่ะ คนในงานมันเยอะแถมห้อยกล้องของโรงเรียนเดินไปเดินมาแบบนั้นยิ่งต้องระวังขึ้นไปใหญ่” “นั่นสินะครับพี่เฟิร์ส ฮ่าๆตัวกล้องกับเลนส์ก็ราคาแพงซะด้วย แล้วนี่พี่เฟิร์สจะไปไหนอะครับ เพื่อนพี่คนอื่นล่ะ” “ถ้าไอ้พวกนั้นก็กระจายตามจุดรับผิดชอบที่แบ่งกันไว้ส่วนพี่ว่าจะไปเอาเอกสารบัญชีรายจ่ายที่ห้องสภาไปให้ครูหัวหน้ากิจกรรมน่ะพอดีครูเค้าอยากดูรายละเอียดรายการสั่งซื้อของที่ผ่านมาว่ามีไรบ้าง” “ออครับ อืมมมให้ผมไปส่งเป็นเพื่อนไหมพี่เฟิร์ส” “ก็ดี…ว่าแต่ว่างแล้วเหรอก่อนหน้าพี่เห็นน้องแนนเด็กม.3/7 ยังคงเดินถ่ายกิจกรรมแสดงที่สนามฟุตบอลอยู่เลยนิ” “ผมถ่ายเก็บบรรยากาศงานไว้หลายจุดล่ะครับพี่ยิ่งถ้าบวกกับรูปของพี่แนนอีกผมคงทำวิดีโอพรีเซนต์งานได้เป็นชั่วโมงอะ” “ขนาดนั้นเชียวเก่งใช้ได้นะเนี่ยย อ่าถ้าพูดมาซะขนาดนี้พี่ก็ไม่ขัดล่ะ ปะไปห้องสภากัน” เมื่อทั้งสองพากันมาถึงห้องสภาเฟิร์สเลยรีบดิ่งตรงไปยังตู้เหล็กเก็บแฟ้มของงานสภาโอลาฟเลยเดินไปนั่งเก้าอี้รอพร้อมกวาดสายตาไปทั่วห้องจนแน่ใจว่าในห้องสภามีแค่มันกับเฟิร์สที่อยู่ด้วยกัน “เหนื่อยหน่อยนะพี่เฟิร์สงานใหญ่แบบนี้พี่คงต้องกดดันน่าดู” “ก็นิดหนึ่ง แต่ก็ช่างแม่งพ้นงานนี้ไปก็ไม่เท่าไหร่ล่ะดีนะที่ทีมงานสภาของพี่มันสนิทกันมาตั้งแต่ม.1 แล้วเลยรู้ใจกันไม่งั้นช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีหวังพี่คงได้หัวร้อนอยู่บ่อยๆแน่ๆ” โอลาฟที่นั่งฟังจู่ๆมันได้นึกถึงคำพูดโดนัทที่พูดกับมันขึ้นมาในหัว “พี่เฟิร์ส พี่มีความคิดอยากคบใครแฟนไหมครับ” เฟิร์สที่ได้ยินถึงกับชะโงกหัวออกจากตู้และหันมองไปยังโอลาฟ “เดี๋ยวนะ ถามใหม่ดิ๊ตะกี้พี่ได้ยินไม่ชัด” “เอิ่มมผมถามพี่ว่าพี่มีความคิดอยากคบใครแฟนไหมครับ” “ฮ่าๆๆนึกไงถึงถามขึ้นมาเนี่ยโอลาฟ” “เอ่ออผมคงสงสัยน่ะคือคือไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะคนอื่นๆที่รู้จักพี่เค้าก็สงสัยกันทั้งนั้นเพราะปกติหล่อๆอย่างพี่งี้ คงได้ฟาดฟันผู้หญิงไปแล้วหลายคนแน่นอน” “โอ้โห โอ้โหงั้นแสดงว่าพี่ก็ไม่ปกติงั้นน่ะสิ” “ไม่ใช่นะพี่ ผมแค่ยกเปรียบเปรยให้เห็นภาพเฉยๆน่ะ” “ฮ่าๆคนหล่อๆที่ไม่มีแฟนก็ออกจะมีอยู่เยอะนะโอลาฟพี่ว่ามันขึ้นกับมุมมองของตัวคนนั้นมากกว่า” “แล้วพี่เฟิร์สมองว่ายังไงครับ” “จริงๆพี่ก็เคยมีแฟนเหมือนกันนะสมัยตอนม.3 แต่ไม่ว่าเราจะทำดีแทบตายยังไงสุดท้ายเค้าก็ดันไปเลือกคนอื่นอยู่ดี ตั้งแต่นั้นมาพี่ก็เลยไม่ค่อยเท่าไหร่กับเรื่องพวกนี้” “แต่นั่นมันก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะครับพี่เฟิร์ส ผมว่าบางทีการยึดกับอดีตมันก็อาจทำให้เราพลาดสิ่งดีๆที่จะผ่านเข้ามานะพี่ ยิ่งเดี๋ยวนี้ผมได้ยินเข้าหูบ่อยมากกว่าพี่อาจเป็นเกย์” “ขนาดนั้นเชียวแต่ก็ช่างเหอะใครจะคิดยังไงก็ช่างแม่ง ถึงเก็บมาคิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ แล้วโอลาฟล่ะคิดแบบนั้นรึป่าว” “อืมมมมบางทีก็คิดแต่บางทีก็ไม่คิดครับ” “พูดซะงง” “ก็บางทีผมสังเกตพี่ชอบสั่งขี้หงุดหงิด จู้จี้ในบางเรื่อง ซึ่งมันเหมือนกับนิสัยผู้หญิงมากอะครับ” “จริงเหรอ ฮ่าๆไม่บอกไม่รู้นะเนี่ย เห้อออดูท่าคงติดนิสัยม๊าเข้าเต็มๆแล้วสิ” “พี่เฟิร์สสมมุติว่า ถ้าพี่รู้ว่ามีคนชอบและรักพี่เฟิร์สมากๆแต่คนๆนั้นเค้าเป็นเกย์ด้วยพี่เฟิร์สจะทำยังไงอะ” “พี่ก็คงเฉยๆอะพี่เองก็ไม่ได้รังเกียจหรือมีอคติกับเพศที่สามหรอกนะ แต่ถ้าเป็นเพื่อนก็เป็นได้ แต่จะให้เป็นอะไรที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นพี่คงเป็นให้ไม่ได้หรอก” โอลาฟที่ได้ยินถึงกับหน้าจ๋อย “ไงโอลาฟดูทำหน้าเข้าให้ อย่าบอกนะว่าคนที่น้องพูดถึงหมายถึงตัวน้องเอง” โอลาฟถึงกับสะดุ้งโย่งพร้อมกับรีบยิ้มปฏิเสธทั้งที่ในใจกลับรู้สึกผิดหวัง “ว่าไปนั่นพี่เฟิร์สก็…ผมแค่สมมุติเฉยๆอะครับ” เฟิร์สสังเกตสีหน้าแววตาและเหมือนรู้ทันมันเลยรีบพูดขึ้น “โอลาฟเองก็เป็นเด็กที่น่าสนใจนะแถมยังเป็นคนที่คุยด้วยแล้วทำให้อารมณ์ดีด้วยแต่ในสายตาพี่โอลาฟก็เหมือนรุ่นน้องคนหนึ่งที่พี่ให้การยอมรับในหมู่คณะเพื่อนสนิทและพี่เองก็ไม่สามารถที่จะรู้สึกอะไรไปมากกว่านั้นได้ เป็นพี่เป็นน้องกันนั่นแหละดีที่สุดแล้วครับ” โอลาฟรู้สึกเจ็บปวดหัวใจจนอยากจะร้องไห้แต่มันก็ยังคงข่มไว้ด้วยรอยยิ้ม“คิดมากไปแล้วน่าพี่เฟิร์ส ผมไม่ได้คิดแบบนั้นสักหน่อย” “ก็ถ้าไม่ได้คิดก็แล้วไปแต่ที่พี่ต้องพูดแบบนี้ออกมาเพราะพี่เองก็ไม่อยากให้ใครมาตั้งความหวังกับพี่ไว้มากจนเกินไปสำหรับเรื่องความสัมพันธ์เชิงลึกพี่ยอมรับเลยว่าตอนนี้พี่ยังไม่ค่อยเท่าไหร่อาจด้วยปัจจัยหลายๆสิ่งที่ผ่านมา จิตใจของคนเรามันใช้เวลาเยียวยาต่างกันนะโอลาฟ มันไม่ใช่จะบังคับดั่งใจนึกได้ตลอด” โอลาฟยิ้มและพยักหน้าขานครับ “ครับ อืมมมผมว่าเราสองคนออกกันมานานเหมือนนะผมว่าป่านนี้ครูหัวหน้ากิจกรรมคงต้องบ่นถามหาพี่แล้วแน่ๆ” “เอ่อนั่นสินะ พี่เกือบลืมไปเลยเนี่ยมัวแต่คุยกันเพลิน….อะเจอล่ะๆมาอยู่นี่เอง….ปะโอลาฟออกไปกัน” หลังแยกตัวจากเฟิร์สโอลาฟมันถึงกับเดินเหม่อใจลอยไปตามทางพร้อมคำพูดของเฟิร์สเมื่อครู่ในดังวกวนในหัวไปมาจนน้ำตาแห่งความผิดหวังและโศกเศร้าที่เริ่มคลอบเบ้าจนเอ่อล้านไหลผ่านแก้มทั้งสองมันเลยรีบเอื้อมมืออันสั่นเทาทั้งสองขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้าเพื่อไม่ให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาสังเกตเห็นจนกระทั้งเรนโบว์รุ่นพี่ในชมรมเดินเข้ามาเจอกับมัน “อ่าวน้องโอลาฟมาทำไรแถวเนี่ยยยแล้วนี่งานที่มอบไปทำเสร็จแล้วเหรอ” โอลาฟพยายามตีสีหน้าเป็นปกติ “เอิ่มมมผมมาเอาของที่ห้องสภาน่ะครับ ส่วนงานที่มอบหมายผมถ่ายไว้หลายจุดแล้วครับนี่ก็กำลังจะไปไล่เก็บรายละเอียดในจุดที่เหลืออะครับ” เรนโบว์ยืนนิ่งและจ้องไปยังใบหน้าโอลาฟจนโอลาฟต้องรีบก้มหลบสายตาของเรนโบว์ “ไปทำไรมาน่ะ หน้าแดงตาแดงเชียว ร้องไห้มาเหรอ” “ป่าวพี่ผมไม่ได้ร้องไห้นะ” “แล้วทำไมหน้าแดงตาแดงมาแบบนั้นล่ะแถมน้ำเสียงที่พูดมาอย่างกะคนอัดอั้นตันใจ” “ออเมื่อกี้คงตอนหาเอกสารที่ตู้แหละมั้ง พวกเศษฝุ่นเศษไรปลิวเข้าตาผมน่ะ ผมเลยเผลอขยี้มันกว่าจะไปหาน้ำหาไรมาล้างก็เล่นซะเอาหน้าตาตาแดงแบบนี้แหละครับ”เรนโบว์มันยังคงมองด้วยสีหน้าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ไม่ใช่ว่ามีใครแกล้งหรือไปโดนใครทำร้ายมาใช่ไหม” “ไม่มีหรอกพี่ ผมออกจะเป็นเด็กดีฮ่าๆ” “อืมๆถ้างั้นพี่ว่าน้องโอลาฟรีบไปทำงานของตัวเองเถอะ ตอนนี้กิจกรรมที่เป็นซิกเนเจอร์ของงานในหลายจุดๆจะได้เริ่มแล้วขืนมัวชักช้าเดี๋ยวจะพลาดเอาได้” “ครับพี่งั้นผมขอตัวนะครับ” โอลาฟยกมือไหว้เรนโบว์และเดินจากไปส่วนเรนโบว์เองมันยังคงหันมองตามหลังโอลาฟด้วยความสงสัย โอลาฟในหัวของมันตอนนี้ไม่มีแม้แต่อารมณ์หรือความกระตือรือร้นกับงานที่ได้รับมอบหมายแต่อย่างใดมันยังถูกครอบงำโดยความผิดหวังเศร้าใจและยิ่งมันเห็นเด็กนักเรียนจากโรงเรียนอื่นหรือแม้แต่นักเรียนโรงเรียนเดียวกับมันที่เดินดูงานเป็นคู่ๆนั่นก็ยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์ลบภายในใจที่มีอยู่นั่นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนมันเริ่มทนไม่ได้กับสภพาดังกล่าวและก่อนที่มันจะสติหลุดโอลาฟเลยรีบพาตัวเองวิ่งขึ้นไปบนห้องเรียนของมันเอง และเมื่อมาถึงโอลาฟถึงกับปล่อยโหร้องไห้เสียงดังไปทั่วห้อง มันเดินไปยังโต๊ะเรียนของมันก่อนถอดกล้องที่ห้อยคอออกพร้อมทั้งทรุดตัวนั่งและฟุบหน้าลงไปยังโต๊ะ มันร้องไห้จนทั้งน้ำและน้ำมูกไหลอาบปนไปทั่วใบหน้า “ฮืออออฮืออออทำไมทำไมถึงเจ็บปวดดดแบบนี้ ทั้งที่เราพยายามทุกอยาก ทั้งลงทุนไปเรียนตัดต่อทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เข้าใกล้พี่เค้า แต่ทำไมโชคชะตามันถึงทำกับเราแบบนี้ ฮือออออ การจะรักใครสักคนทำไมมันถึงได้ยากขนาดนี้ ฮืออออ” เสียงร้องไห้และเสียงพูดสะอึกสะอื้นยังคงดังปนกันไปทั่วห้องมันร้องไห้อยู่ได้ไม่นานจู่ๆมันก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินขึ้นมาพร้อมกับแสงไฟฉาย โอลาฟเลยรีบชันตัวขึ้นมาพร้อมกับรีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาปาดเช็ดน้ำตาและน้ำมูกบนหน้าและทันใดนั้นร่างเงาคนตัวค่อนข้างข้างสูงเดินมายืนประตูห้องพร้อมสาดแสงไฟฉายจากโทรศัพท์ข้างมาด้านในทำให้โอลาฟที่ได้เห็นถึงกับรีบเอ่ยปากถามด้วยความตื่นกลัว “ใครน่ะ!!!” “โอลาฟเป็นไรน่ะ!!” “พี่ยูโร!! มาได้…ไง…อะ” “นั่นไม่ใช่ประเด็น….แต่ที่พี่อยากรู้ มากกว่าคือ…โอลาฟเป็นไรร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรให้” “ผม…ไม่เป็น…ไร…สักหน่อย” “แล้วถ้าไม่เป็นไรทำไมน้ำเสียงถึงสะอึกสะอื้นแบบนั้นล่ะแถมตายังแดงกร่ำแบบนั้นด้วย” โอลาฟที่ไม่รู้จะหาคำแก้ต่างยังไงมันเลยจะเดินหนีออกจากห้องไปแต่ยูโรได้ใช้มือจับคว้าแขนไว้ได้ “นั่นจะไปไหนอะ” โอลาฟที่ถูกคว้าไว้มันพยายามดิ้นไปมา“ปล่อยพี่ยูโรจะมาจับผมทำไมอะ ผมจะลงไปข้างล่าง” “ก็ได้แต่โอลาฟต้องตอบคำถามพี่ก่อนว่าร้องไห้ทำไมเรื่องอะไร” “ไม่รู้….ปล่อยผมจะลงไปแล้ว” “ถ้าไม่พูดพี่ก็ไม่ปล่อย” โอลาฟที่เริ่มหัวเสียมันเลยพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน “โอ๊ยยยพี่ยูโรจะอะไรกับผมนักหน๋าเนี่ย ก็บอกว่าไม่รู้จบปะ” “ถ้างั้นก็อยู่บนห้องด้วยกันนี่แหละไม่ต้องไปไหนจะกว่าพี่จะรู้ว่าโอลาฟเป็นไร” ด้วยความเศร้าและเคืองอยู่ก่อนหน้าบวกกับการกระทำของยูโรที่ยั่วอารมณ์ให้แรงขึ้นโอลาฟมันเลยออกแรงดิ้นและใช้มือและเท้าทุบตีและเตะตัวของยูโรไปมา “ปล่อยนะ ปล่อย ปล่อยเซ่ ปล่อยยย” ยูโรที่เห็นว่าโอลาฟสติหลุดมึงเลยรีบใช้มือทั้งสองปัดป้องก่อนจะจับไหล่ทั้งสองโอลาฟเขย่าพร้อมตะคอกเสียงจนดังกังวลไปทั่วห้อง“โอลาฟฟฟฟ!” โอลาฟตกใจจนได้สติมันเลยนิ่งสตั้นจ้องแววตาอันดุดันของยูโร2 วิ ก่อนจะร้องไห้อีกครั้ง “ฮืออออปล่อยผมนะพี่ตอนนี้ผมไม่อยากพูดหรือบอกอะไรทั้งนั้น ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วฮือออ” “งั้นบอกพี่มาสินิดก็ยังดี ถือว่าให้พี่ได้รับรู้ด้วยอีกคน” “แล้วพี่จะมารับรู้เรื่องของผมทำไมฮืออออมันไม่ใช่เรื่องของพี่สักหน่อยย” “ก็จริงว่ามันไม่ใช่ แต่พี่ไม่อยากเห็นโอลาฟเป็นแบบนี้พี่ไม่สบายใจและก็ไม่ชอบใจมากๆเลยด้วยเวลาที่เห็นน้ำตาของโอลาฟแบบนี้ โอลาฟไม่รู้หรอกว่าพี่เป็นห่วงโอลาฟมากแค่ไหน” “ฮือออห่วงผมทำไมผมมันไม่ได้สำคัญอะไรกับพี่อยู่แล้ว พี่เฟย์โน่นสิที่พี่ควรห่วงมากกว่าผม” “ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะ” “ไม่ต้องมาทำเป็นไขสือเลยทั้งไปเที่ยวด้วยกันไปส่งกันไปไหนต่อไหน ซื้อโน่นนี่นั่นให้กัน พี่ไม่ต้องทำมาเป็นสงสารผมหรอก รีบกลับไปหายพี่เฟย์เลยไป๊” “มันก็จริงที่พูดมาแต่พี่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับน้องเฟย์มากกว่ารุ่นน้องคนหนึ่งเลยนะโอลาฟ เพราะพี่เองก็มีคนที่พี่ชอบอยู่แล้วมาโดยตลอด” “ไม่ต้องมาโกหกเพื่อทำให้ผมดีขึ้นหรอกนะฮืออออ ผมเห็นนะเวลาคุยกันยิ้มหัวเราะด้วยกันถ้าไม่รักกันจริงคงไม่มีแววตาแบบนั้นหรอกใส่กัน” ทันใดนั้นเองโอลาฟต้องตกใจกับสิ่งที่คาดไม่ถึงเพราะยูโรได้โน้มตัวเข้ามาจูบโอลาฟด้วยความอ่อนโยนจนมันสัมผัสได้ถึงริมฝีปากอุ่นและลมหายใจอุ่นๆที่พัดผ่านใบหน้า ยูโรค่อยๆถอนหน้าออกมามองโอลาฟที่ยังคงจ้องมองกลับด้วยสีหน้านิ่ง “ทีนี้เชื่อรึยังว่าพี่ไม่ได้โกหก เพราะคนที่พี่ชอบและรักมาโดยตลอด คนๆนั้นก็คือโอลาฟเองนะรู้ไหม พี่ชอบโอลาฟตั้งแต่เจอกันครั้งแรกที่สวนสุขภาพนั่นแล้ว และพี่เองก็รู้ว่าโอลาฟชอบไอ้เฟิร์สแต่พี่เองต้องคอยเก็บความรู้สึกเจ็บและขมขื่นมาโดยตลอดเพราะพี่เองก็ไม่อยากทำให้โอลาฟต้องมาอึดอัดเพราะพี่ แต่ถึงวันนี้พี่อยากบอกว่าทุกสิ่งที่พี่ทำไปทั้งหมดที่ผ่านมาเพราะพี่รักโอลาฟนะ” โอลาฟมันยังคงนิ่งเงียบ “ตอนนี้พี่ก็ได้บอกความรู้สึกที่มีใจในของพี่ไปหมดแล้วจากนี้ไปไม่ว่าผลจะออกมายังไงหรือต่อให้โอลาฟเกลียดขี้หน้าพี่ พี่ก็ยังคงรักโอลาฟเสมอนะครับเอาล่ะทีนี้บอกพี่ได้ยังว่าใครทำให้โอลาฟคนที่พี่รักคนนี้ต้องร้องไห้” โอลาฟได้แต่ส่ายหน้าไปมาก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงสั่นๆ“ช่างมันเหอะพี่ยูโรผมไม่อยากนึกถึงมันอีกแล้ว” “โอเค….โอลาฟรักพี่ไหมครับ” “พี่ยูโร…คือผมม” “พี่จะถามครั้งนี้แค่ครั้งเดียวนะคำถามนี้ไม่ต้องคิดอะไรมากแต่ขอให้ตอบตามที่หัวใจโอลาฟรู้สึกก็พอ…โอลาฟรักพี่ไหมครับ” โอลาฟมันนิ่งไปครู่หนึ่ง “เวลาผมเห็นพี่เฟย์อยู่กับพี่แล้วผมรู้สึกไม่ชอบเอามากๆเลยแบบนี้มันจะเรียกว่ารักได้รึยังครับ” ยูโรยิ้มด้วยความดีใจและโน้มตัวเข้าไปจูบริมฝีปากของโอลาฟอีกครั้ง เฟย์ที่แอบตามยูโรขึ้นมายืนหลบอยู่ริมประตูห้องเรียนทันทีที่มันได้เห็นการกระทำและได้ยินคำพูดของทั้งสองมันถึงกับยืนอึ้งจนไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เวลา 23.15 น.เจมส์ที่กำลังช่วยเพื่อนๆในห้องเก็บของในบูธเบอร์เกอร์ “อีแคท เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแปปนะปวดฉี่วะ….แล้วนี่อีดิวมันหายหัวไปไหนเนี่ย” “อีดิวน่ะเหรอ ดูท่าคงจะไปเตร็ดเตร่อ่อยผู้แถวๆห้องแต่งตัวโน่นแหละมั้ง” “เฮ้อไม่รู้จะว่าไงกับมันล่ะ….งั้นเดี๋ยวกูมา” หลังทำธุระส่วนเสร็จเจมส์เดินกลับมาหยิบกระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างบูธขึ้นสะพายหลังและเดินอ้อมอาคารไปยังบูธขายของพี่ม.6 ที่กำลังช่วยกันรื้อเก็บของเช่นเดียวกันเจมส์ที่เดินมาถึงจุดหมายมันเห็นโฟรยืนอยู่นอกบูธพร้อมกำลังคุยโทรศัพท์เจมส์มันเลยย่องเดินอ้อนไปด้านหลังก่อนจะเอ่ยปากทัก “พี่โฟรครับ” โฟรมันตกใจกับเสียงเรียกและหันมามองพร้อมรีบกดวางสายทันที “เจมส์!!!” “ตกใจอะไรปานนั้นพี่….คุยกับใครอยู่น่ะ” “อ๋อ อืมมเพื่อนเก่าน่ะ…ว่าแต่เจมส์มาได้ไง” “แถมแปลกๆนะ ผมก็เดินมาไงพี่โฟร” “งั้นเหรอ….เดี๋ยวไงพี่ขอไปช่วยเพื่อนๆเก็บของก่อนเสร็จงานแล้วค่อยคุยกัน” “เดี๋ยวก่อนสิครับพี่โฟร พี่โฟรช่วยมากับผมแปปหนึ่งนะครับ” “จะพาพี่ไปไหนเหรอ” “เถอะน่าพี่โฟร มากับผมแปปครับ” เจมส์มันเลยพาโฟรเดินขึ้นมายังตึกภาษาไทยชั้นสองซึ่งเป็นที่ปลอดคน“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่าอาคารเรียนพอมองจากมุมที่ไม่มีคนเยอะพุ่งพล่านก็ให้ความรู้สึกหว้าเหว่ใช้ได้เลย” โฟรเดินไปจับขอบระเบียงและมองดูอาคารเรียนตรงหน้า “เจมส์พี่มีเรื่องอยากบอกกับเจมส์…” ไม่ทันที่โฟรจะพูดจบเจมส์มันได้ล้วงเอากล่องรองเท้ากีฬาที่โฟรมันอยากได้จากกระเป๋าขึ้นมายื่นให้ตรงหน้า“แฮปปี้เบิร์ด เดย์ทูยู…สุขสันต์วันเกิดนะครับพี่โฟร” โฟรมันได้แต่ยืนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา “อันนี้ผมตั้งใจซื้อให้พี่เลยนะผมจำได้ตอนนั้นว่าพี่อยากได้รองเท้าคู่นี้มากๆ…พี่โฟรครับ!!! เป็นไรน่ะ!!! พี่ไม่ชอบรองเท้าคู่นี้เหรอ” “เอิ่มมป่าวๆ ก็…ขอบใจครับ” โฟรได้แต่ยิ้มเจื่อนพร้อมยื่นมือไปรับกล่องร้องเท้าจากเจมส์มา“ผมว่าดูพี่ไม่ค่อยร่าเริงเลยนะครับ พี่โฟรมีไรรึป่าว” “ป่าวหรอกไม่มีไรเจมส์?ซื้อรองเท้าราคาแพงแบบนี้เล่นเอาพี่ไม่กล้ารับเลยแหะ” “ฮ่าๆรับไว้เถอะครับวันนี้วันสำคัญของพี่เชียวนะและผมก็ตั้งใจไว้แล้ว” “อืมๆ ครับผม ขอบใจนะเจมส์” เจมส์ถึงกับยิ้มด้วยความดีใจยกใหญ่ “จริงสิครับ แล้วตะกี้นี้พี่โฟรมีไรอยากบอกกับผมเหรอครับ??” “ช่างมันเหอะ ไม่มีไรหรอก….ถ้าพี่ไม่ได้อยู่ที่นี้แล้วเจมส์จะอยู่ได้ไหม” “แหมพูดไรน่ะพี่โฟรฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเลย…มันก็ต้องอยู่ได้ซิครับ ตราบใดที่ยังมีพี่โฟรถึงกายห่างแต่หัวใจไม่ห่างนะครับพี่” “อืมๆๆ” เวลา 23.32 น. “ชมรมแกนี่ท่าจะเหนื่อยงานเยอะเหมือนกันเนาะ” “มากเลยแหละแคท นี่ขนาดงานเลิกแล้วยังต้องไปประชุมสรุปงานกันอีก” “เห้ออดีนะที่เราไม่ได้เข้าด้วย….นั่นไงโอลาฟเดินมาโน่นแล้วน่ะ….เจมส์ไปไหนมาไหนว่าจะไปเข้าน้ำแปปเดียวไม่ใช่เหรอ” “ฮ่าๆโทษทีๆแคทพอดีกูไปที่อื่นมาด้วยน่ะ…โอลาฟมานานยังเนี่ย” “เพิ่งมาถึงสักพักนี่แหละว่าจะมาช่วยคนอื่นๆเก็บของแต่ดูท่าคงไม่ทันได้ช่วยแล้วล่ะแต่มึงมานี่ก็ดีล่ะเดี๋ยวกูต้องรีบไปประชุมสรุปงานที่ห้องชมรมเห็นพี่ยูโรบอกว่ามีปัญหากับชมรมข่าวสารพาเพลินนิดหน่อย เลยจะเรียกไปหารือกันเดี๋ยวไงมึงกลับก่อนเลยนะไม่ต้องรอกูเพราะไม่รู้ว่ากูจะเสร็จกี่โมงวันนี้มึงจะไปค้างบ้านกูใช่ปะ อะนี่กุญแจบ้าน กูบอกแม่ไว้เรียบร้อยล่ะ ไว้กูถึงบ้านเดี๋ยวค่อยโทรบอกให้มึงลงมารับกู” “เอางั้นเลยเหรอแต่กูรอมึงได้นะโอลาฟ” “โอ่ยยไม่ต้องรอ กลับก่อนเลยมึง จะได้รีบไปพักผ่อน แล้วมึงกับพี่เจนมากันยังไง” “พี่เจนบอกจะให้พี่เคนไปส่งที่บ้านน่ะส่วนกูเดี๋ยวขับมอเตอร์ไซค์ไปบ้านมึง” “โอเคตามนั้นเลย แล้วมึงเจมส์อย่าลืมรับโทรศัพท์กูด้วยล่ะถ้ากูไปถึง เอาล่ะเดี๋ยวกูขอตัวก่อนนะเว้ย แคท เจมส์” 20 นาทีผ่านไปเจมส์ขับมอเตอร์ไซค์มาถึงบ้านโอลาฟ มันไม่รอช้ารีบไขกุญแจประตูพร้อมเดินเข้าไปในตัวบ้าน “เอ๊า…หวัดดีครับพี่ลีฟ” โอลาฟเห็นลีฟนั่งดูทีวีอยู่ที่ห้องนั่งเล่น มันตกใจจนต้องรีบยกมือขึ้นไหว้ส่วนลีฟเองที่นั่งอยู่นั้นก็หันมามองด้วยความแปลกใจเช่นเดียวกัน “เจมส์เหรอ!!! นี่เข้ามาได้ไง?? โอลาฟล่ะ??” “โอลาฟยังไม่เสร็จงานที่ชมรมอะครับพี่ลีฟคงอีกสักพักแหละครับถึงจะกลับ แล้ววันผมนอนค้างที่นี่อะครับ โอลาฟบอกว่าโทรบอกแม่ให้แล้วโอลาฟก็เลยให้กุญแจบ้านผมล่วงหน้ามาก่อน” “อ๋อ เข้าใจล่ะ” “งั้นผมขอขึ้นไปข้างบนก่อนนะครับพี่” เจมส์ยกมือไหว้อีกครั้งและเดินไปชั้นบนในระหว่างนั้นเจมส์นึกขึ้นในใจ “พี่ลีฟไม่ได้เจอตั้งนานหล่อขึ้นเยอะมากกกแต่ถึงไงก็หล่อสู้พี่โฟรของเราไม่ได้อยู่ดีหุหุ่” เจมส์มันรีบจัดแจงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าจนเสร็จสรรพก่อนจะกระโดดขึ้นมาบนเตียงและนอนเล่นโทรศัพท์ด้วยความสบายใจ“เตียงนอนโอลาฟนี่ก็เด้งดึ๋งใช้ได้เลยแหะแถมยังนิ้มนิ่มนอนสบายด้วย อืมมอยากให้แม่ซื้อเตียงอย่างงี้ให้เราบ้างจัง” ด้วยความรู้สึกคุ้นชินเจมส์เลยเดินสำรวจห้องดูข้าวของต่างๆจนมันเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า “โอ้โหแหะ เพิ่งรู้นะเนี่ยว่ามันก็นิสัยเจ้าระเบียบด้วยสุดยอดดด” เจมส์มองดูเสื้อผ้าที่แขวนแยกกันเป็นเซตสีๆเซตผ้าหนาผ้าอ่อน รวมถึงกางเกงที่แขวนและพับซ้อนเรียงกันเป็นระเบียบอย่างสวยงาม “กูเก็ตล่ะว่าทำไมในห้องน้ำมันถึงมีที่แขวนตากผ้าเช็คตัวตั้งสามอันแท้ที่มันก็แยกตากผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า และผ้าเช็ดมือออกจากกันนี่เอง แห่มมมเพื่อนกู…เพิ่งเคยพบเคยเจอ” ขณะเดียวกันเจมส์ได้เจอกล่องสีฟ้าที่วางอยู่ด้านในมันเลยถือวิสาสะหยิบออกมาเปิดดู ซึ่งสิ่งที่อยู่ในกล่องนั่นคืองานกระดาษโอริกามิที่โอลาฟชอบทำในเวลาว่างซ่อนอยู่เป็นจำนวนมาก “แม่งงงสวยอะ นี่โอลาฟมันทำเองหมดเลยเหรอวะ สวยๆๆมีทั้งดอกไม้ สัตว์น่ารัก เสื้อผ้า ว้าวๆๆไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าโอลาฟมันชอบไรแบบนี้ด้วย…เอ๊ะนี่มันรูปถ่ายนิ” เจมส์หยิบรูปถ่ายใบหนึ่งขึ้นมามอง “นี่มันโอลาฟ…ใครนิผู้ชายผมยาวใส่แว่นตัวสูงที่ยืนข้างมัน เอ้..หน้าแบบนี้ใช่เลยต้องเป็นพ่อของมันแน่ๆ พ่อโอลาฟนี่ก็หล่อดีวะ ถ้าเป็นนักเรียนม.ปลาย สมัยนี้สาวๆคงติดงอมแงมแน่นอน เพิ่งเคยเห็นหน้าพ่อของมันนะเนี่ย” ในขณะเดียวกันมันก็เจอเข้ากับรูปของเฟิร์สที่มันแอบถ่ายแล้วล้างเก็บไว้อยู่อีกเป็นจำนวนมาก“ดูท่าโอลาฟมันจะชอบพี่เฟิร์สเอามากๆเลยนะนิ เห้ออไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้มันกับพี่เฟิร์สไปถึงไหนกันแล้ว ตั้งแต่ที่ไปงานวันเกิดพี่เฟิร์สตอนนั้นมันก็เล่นบ่ายเบี่ยงไม่ยอมบอกอะไรเราเลยหืมมมเดี๋ยวคงต้องเล่นตีเนียนแอบถามดีกว่า” เจมส์มันเลยเก็บรูปลงกล่องพร้อมกับนำกล่องดังกล่าววางกลับเข้าที่เดิม “เอาล่ะไปนอนเล่น Candy Crush ชิลๆบนเตียงสักหน่อยดีกว่า” เจมส์นอนเล่นเกมส์ได้ไม่นานมันเลยรู้สึกคอแห้งกระหายน้ำมันเลยหันมองดูขวดน้ำภายในห้องว่ามีหรือไม่เมื่อไม่เห็นมันเลยตัดสินใจเดินลงไปยังห้องครัวชั้นล่างพร้อมเปิดตู้เย็นและหยิบเอาขวดน้ำในตู้ติดตัวขึ้นมาขณะที่มันกำลังเดินผ่านหน้าห้องของลีฟนั้น จู่ๆหูของมันได้ยินเสียงลีฟบ่นพึมพำอยู่ในห้องนอนและด้วยนิสัยอยากรู้อยากเห็นของมันทำให้เจมส์อดไม่ได้ที่จะเอาหูไปแนบเข้ากับบานประตูห้อง “ตอนนี่พ่อแม่เอินไปต่างจังหวัดไม่ใช่เหรอให้พี่ไปหามะ….เอินนนชอบโยเยอีกแล้วนะไมตัวเองไม่เข้าใจพี่บ้างอะ นี่ก็ตั้งอาทิตย์กว่าแล้วนะ…งานอะไรก็ไหนบอกว่าเคลียร์เสร็จหมดแล้วไม่ใช่เหรอ…ขอเถอะเอินนนะ พี่กับเอินเองเราสองคนก็ไม่ได้ สนุกด้วยกันนานแล้วนะเอินไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอครับ….เอินนะพี่เบื่อช่วยตังเองแล้วอะพี่อยากสนุกกับเอินมากกว่า…เอิน..ขอพี่ไปแปปเดียวก็ยังดี…เอิน เอิน..ไรวะเนี่ยย แม่งวางสายซะงั้นทำไมแม่งไม่เข้าใจฟิลผู้ชายบ้างวะ…โอ๊ยยเสี้ยนนวะ…แม่งงงทำเองก่อนก็ได้วะ…จะหาข้ออ้างห่าอะไรนักหนาก็ไม่รู้แม่งง…ซีดดดดดแม่งงงง….” ทันใดนั้นเสียงของซีดปากและเสียงของฝ่ามือที่กระทบท้องน้อยดังปั๊บๆๆได้หยุดลงซึ่งมันทำให้เจมส์ที่ยืนเอาหูแนบบานประตูฟังอย่างใจจดจ่อถึงกับนึกในใจ “อะไรกัน เสร็จแล้วเหรอ?? เร็วไปไหมน่ะ?? รึว่าพี่เค้ากัวเราที่อยู่ห้องข้างๆได้ยิน” เจมส์มันเลยพยายามเอาหูแนบชิดบานประตูยิ่งกว่าเก่าเพื่อจะฟังเสียงภายในให้ชัดเจนที่สุด แต่ทันใดนั้นเองประตูห้องของลีฟได้เปิดออกผ่างงงอย่างรวดเร็วทำให้เจมส์ที่เอาหน้าแนบอยู่นั้นล้มคะมำเข้าไปในห้องด้วยความตกใจเจมส์รีบยันตัวลุกขึ้นแต่ก็ถูกมือปริศนาพุ่งมาจับแขนดึงเข้าไปพร้อมกับปิดประตูห้อง ลีฟจับตัวเจมส์และดันไปพิงกับประตูห้อง “ทำไรวะ อยากรู้อยากเห็นนักเหรอ” สายตาเม็งที่จ้องเข้ามาทำให้เจมส์ยืนนิ่งพูดไรไม่ออก “พ่อแม่เอ็งไม่เคยสอนรึไงว่ามาบ้านคนอื่นแล้วยังมาแอบสอดรู้เรื่องของเจ้าบ้านอีกน่ะมันเหี้ยแค่ไหนห๊ะ” ลีฟพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่จนเจมส์รู้สึกหวาดกลัวขึ้นทันที “พี่ลีฟครับผมขอโทษ อย่าทำไรผมเลย ผมแค่ ผมแค่…” ลีฟเห็นท่าทีของเจมส์เริ่มพูดโวยวายด้วยความตื่นกลัวมันเลยรีบเอามือซ้ายขึ้นมาปิดปากเจมส์ “พ่อแม่เอ็งไม่เคยสอนอีกรึไงว่ากลางค่ำกลางคืนดึกดื่นเวลาเค้าหลับเค้านอนน่ะไม่ควรแหกปากส่งเสียงดัง” เจมส์มันหวาดกลัวจนสั่นไปทั่วร่าง “โอ้โหแหะสั่นเป็นผีเข้าเลยว่ะ ทีตอนมายืนแอบฟังล่ะไม่กลัว เอ็งคิดว่าพี่ไม่รู้รึไงว่าเอ็งมาแอบฟังเห็นไหมว่าแสงไฟตรงทางเดินน่ะมันทำให้เงาของเอ็งลอดผ่านพื้นประตูเข้ามาในห้อง แต่ในเมื่อได้รู้ในสิ่งที่ไม่ควรรู้แล้วเอ็งก็ต้องรับผลด้วย มานี่” ลีฟมันลากตัวเจมส์ไปที่เตียง พร้อมกับกดให้มันคุกเข่าลง “ดูท่าแกเอ็งคงเป็นประเภทเดียวกับโอลาฟสินะพวกชอบเพศเดียวกันในเมื่อมึงเลือกที่จะเป็นแบบนี้ มึงรู้ใช่ไหมว่ากูจะทำไร” “เจมส์มันรีบยกมือขึ้นไหว้ “พี่ลีฟครับ ผมขอโทษผมรู้ว่าที่ผมทำน่ะมันผิด พี่อย่าให้ผมทำไรแบบนั้นเลยผมไม่อยากทำอะ พี่เองก็เป็นพี่ชายของเพื่อนผมด้วย ผมทำไม่ได้อะ พี่ลีฟเองก็มีแฟนอยู่แล้วนะ” “ฉลาดดีนิ แต่บังเอิญว่าแฟนพี่มันพูดไม่รู้เรื่องและพี่เองก็เบื่อที่จะช่วยตัวเองล่ะ และนี่คือสิ่งที่มึงต้องรับผลในความสอดรู้ของมึง” “ผมทำไม่ได้จริงๆอะพี่ลีฟ ยิ่งถ้าโอลาฟรู้เรื่องนี้ด้วยผมว่ามันต้องเกลียดผมไปเลยแน่นอน พี่อย่าบังคับผมเลยนะครับ” ด้วยความงุ่นง่านและหงุดหงิดลีฟมันเลยคว้าคอเสื้อของเจมส์ไว้แน่น “ถ้ารีบทำมันก็ไม่รู้แต่ถ้ามึงชักช้าและมันกลับมามันอาจรู้แน่นอน แต่ถ้ามึงไม่ทำ กูจะต่อยมึงให้เลือดกลบปากเลยดีไหม” “ก็ได้ครับก็ได้แต่ผมขอชักให้พี่แค่นั้นนะ เดี๋ยวถ้าแตกแล้วพี่ก็รู้สึกดีขึ้นเอง” ลีฟไม่พูดได้แต่ดึงเจมส์ที่นั่งคุกเข่าตรงหน้าให้แทรกเข้ามายังหว่างขา เจมส์จ้องกางเกงบ๊อกเซอร์ลายตรงหน้าที่ปกปิดท่อนลำจนนูนเป็นก้อนขึ้นมา มันเลยเอาสองมือคว้าจับยังไปท่อนลำซึ่งมันสัมผัสได้ถึงความแข็งเหมือนท่อนไม้อุ่นๆเจมส์มันเลยล้วงเอาท่อนลำออกมาภายนอก ซึ่งพอมันได้เห็นท่อนลำของลีฟนั้น มันก็ต้องตกใจกับขนาดและรูปทรงของท่อนลำตรงหน้าเพราะมันเหมือนกับท่อนลำของพี่โฟรคนรักของมันเอามากๆ เจมส์มันเลยจับและชักขึ้นลงอย่างเบามือ จนลีฟอุทานพูดขึ้นมา “มือมึงนี่ก็นิ่มยังกะมือผู้หญิงเลยว่ะ มึงเป็นผู้หญิงแปลงเพศมาเป็นชายรึไงวะ แถมหน้าและแก้มมึงนี่ก็ขาวเนียนใช้ได้เลยนิหว่า” เจมส์ได้แต่ยิ้มด้วยความอายและพูดในใจ “พี่ลีฟนี่เวลาดูหน้าไปนานๆก็หล่อบาดใจดีว่ะแถมควยใหญ่พอๆกับของพี่โฟรเลยด้วย ถ้าไม่ติดนิสัยห่ามๆเถื่อนๆนะจะดีมาก” “เห้ยยมึงชักเร็วขึ้นอีกนิดดิวะจะช้าเป็นหอยหาเต่ารึไง” เจมส์มันรีบทำตามลีฟอย่างว่าง่าย ท่อนลำลีฟตอบสนองสัมผัสของอุ้งมือที่ชักขึ้นลงจนมันแข็งใหญ่หัวบานเบอะซึ่งเป็นภาพที่ล่อตาล่อใจเจมส์อย่างดีเยี่ยมอีกทั้งกลิ่นอับและกลิ่นฉี่อ่อนๆลอยโชยเข้าปะกับจมูกระหว่างที่มันกำลังจับท่อนลำชักขึ้นลงยิ่งทำให้สัญชาติญาณที่หลับไหลอยู่ภายในตื่นตัวจนค่อยๆครอบงำความรู้สึกผิดถูกหวาดระแวงและกลัวที่มันเป็นอยู่ก่อนหน้าจนสติของมันดำดิ่งไปสู่ราคะอันแรงกล้า เมื่อรู้ตัวอีกทีตัวของมันก็เขมือบท่อนลำของลีฟเข้าสู่อุ้งปากไปซะแล้ว ลีฟเองที่นั่งเพลิดเพลินทันทีที่มันรู้สึกอุ่นวาบที่หัวท่อนลำถึงกับตกใจจนก้มดู “อมเลยเหรอว่ะ เยี่ยมมมกูเชื่อว่าปากและลิ้นของมึงต้องเด็ดแน่นอน” เจมส์มันเลยดูดรูดขึ้นลงพร้อมกับลงลิ้นเหมือนที่มันเคยทำให้กับพี่โฟร ลีฟเสียงจนครางไม่เป็นภาษา “โอ่วววแม่งงงงโอ่ววแม่เจ้าซีดดดดด เสียวใช้ได้เลยนิ ลิ้นมึงสากดีนี่หว่าซีดดด ทำเร็วๆขึ้นดิ๊ นั่นแหละห่อปากแบบนั้นแหละ ลงลิ้นแบบนั้นอีก ซีดดดด” คำพูดดังกล่าวทำให้เจมส์ที่นั่งใช้ปากดูดรูดเร้นอยู่นั้นถึงกับฟินตาม “อ่าหหหหดีอ่าหหซีดดอ่าหหหดีมากกก กูว่าแฟนกูเก่งแล้วนะ อ่าหหหซีดดดดแต่มึงนี่แม่งเก่งกว่าแฟนกูเยอะ อ่าหหหหห ซีดดด” ท่อนลำลีฟถึงกับกระตุ้นงึกๆสู้ปากสู้ลิ้นที่จู่โจมไปมา จนลีฟเริ่มไม่ไหวเลยรีบงัดหัวของเจมส์ออกทันใด “แม่งเสียวสุดยอด ขืนให้ทำต่อไปอีกนิดคงแตกกันพอดี แต่กูยังอยากฟินยังอยากกับความเสียวต่ออีก มะตากูมั่งมึงรู้ใช่ปะว่านอกจากอมแล้วต้องทำไรต่ออีก” เจมส์พยักหน้าด้วยความเข้าใจ “ดีว่ะ มึงพูดเข้าใจง่ายใจ ถ้าเอินมันไม่เรื่องมากแบบมึงนะคงดีไม่น้อย” ลีฟจับตัวเจมส์ไปนอนคว่ำพาดยังขอบเตียงก่อนจะดึงกางเกงลงพร้อมกับไปฉีกถุงยางและเอาน้ำลื่นจากในซองมาทาชะโลมท่อนลำที่แข็งชี้โด่จนชุ่ม “แก้มก้นมึงเนียนดีนี่หว่า เอาล่ะมึงอย่าดิ้นนะถ้าไม่อยากเจ็บ” ลีฟค่อยๆแหกแก้มก้นออกและจับหัวท่อนลำไปจ่อที่รูที่ขมิบๆไปมาก่อนจะดันเอาหัวบานเบอะยัดเข้าไป เจมส์ที่ถูกหัวท่อนลำยัดเข้ามามันถึงกับจุกแน่นจนคับตึงไปทั่วรูก้นจนมันต้องเอามือทั้งสองบิดขยำผ้าห่มบนเตียงไว้แน่น “พี่ลีฟฟฟเจ็บอ๊ากกกกค่อยเอาเข้าสิครับพี่อ๊ากก” “โทษทีว่ะพอดีกูทาเยอะจนมันไหลลื่นเข้าไปเร็วหน่อย ตูดมึงนี่ฟิตแน่นเปรี๊ยะไม่แพ้หีของเอินเลยนะ” ลีฟมันดันเข้าไปจนมิดลำก่อนจะขยับออกและกระเด้าสวนเข้าไปช้าๆ “อ่าหหแบบนี้แหละ อดทนหน่อยนะมึง ของชอบของมึงไม่ใช่เหรอวะเวลาโดนแบบนี้” ลีฟค่อยๆเร่งจังหวะเร็วขึ้นส่วนเจมส์มันถึงคงบีบกำผ้าห่มพร้อมฟันกัดเกร็งหน้าใบหน้าด้วยความเจ็บและจุกแน่นอน สัมผัสได้ถึงท่อนลำใหญ่ที่เลื่อนเข้าออกไปเสียดสีกับเยื่ออ่อนมาในรูก้นของมันเจมส์ถึงกับนึกในใจ “กูไม่เข้าใจว่ะทำไมแฟนพี่ลีฟถึงไม่ยอมมีอะไรกับพี่ลีฟทั้งที่ควยใหญ่หัวบานๆแบบนี้เวลาโดนพี่เค้าน่าจะชอบนิ สุดท้ายกูก็ต้องมารับกรรมเป็นที่ระบายแบบนี้ให้” ลีฟมันยังคงซอยเข้าออกไปมาอย่างเมามัน “อืมมมชอบไหมวะ โดนแบบนี้ อืมมม เสียวดีว่ะเข้าท่าดีว่ะซีดดดด” ปั๊บๆๆๆๆๆๆเสียงท้องน้อยเข้ากระทบกับแก้มก้นไปมา ไม่นานนักความเจ็บปวดที่เจมส์เผชิญนั้นค่อยแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านแลฟินขึ้นมาทีละนิดจนมือไม้ที่บีบกำผ้าห่มค่อยๆคลายออก “โอ๊ยยยพี่ลีฟผมเสียวอะครับ” “เสียวก็ดี กูจะได้ทำไปเรื่อยๆ” ปั๊บๆๆในตอนนี้ทั้งเสียงครางและเสียงกระทบกันของเนื้อดังระงมทั่วห้อง “พี่ลีฟครับบบบผมเสียวววอะอ่าหหหห อึยยย” “อืมมมซีดดดดกูก็เสียวเหมือนกันวะซีดด” ลีฟมันซอยเข้าออกได้ไม่นานท่อนลำของมันเลยกระตุ้นปล่อยน้ำอุ่นๆเข้าสู่ภายในซึ่งเจมส์เองก็รับรู้ได้ถึงมันเช่นกันลีฟมันแช่ค้างไว้อยู่นานพอตัวก่อนจะดึงท่อนลำที่ยังแข็งโด่ออกมา จนน้ำสีขาวขุ่นๆไหลซึมออกจากรูที่ยังไงขมิบไปมา ลีฟลงไปนั่งเพียงขอบเตียงด้วยความเหนื่อยล้าส่วนเจมส์เองก็เช่นกันมันนอนคว่ำอยู่บนเตียงด้วยความอ่อนระทวย ไม่นานนักลีฟมันลุกขึ้นยืนอีกครั้ง “มันส์มากกแต่กูยังเสี้ยนไม่หายยเอาล่ะเดี๋ยวกูจะสอนอะไรสนุกให้มึง วิธีที่กูเคยใช้กับแฟนอยู่บ่อยๆ” เจมส์มันเลยพลิกตัวมาอยู่ในท่านอนหงายและถามด้วยความสงสัย “วิ…วิธีไรอะพี่ลีฟ” ลีฟมันยิ้มที่มุมปาก “ฮ่าๆ เดี๋ยวได้รู้ได้ลองแน่กูตั้งชื่อมันว่า ขย่มจุดระเบิดพวยพุ่งกระฉูดดดเว้ยย…อะทำหน้างงไม่ยากหรอกเดี๋ยวกูสอนมึงให้” ลีฟมันเลยขึ้นไปนอนบนเตียงพร้อมกับบอกให้เจมส์ขึ้นไปนั่งคร่อมตัว “เอาล่ะ เดี๋ยวกูจะจับเอวมึงไว้ส่วนมึงก็ให้นั่งทับควยแข็งๆของกูลงไปเลย” เจมส์ถึงกับหน้าแหยทันที “อือออไม่เวิร์คมั้งพี่ ก้มผมได้เจ็บแย่อะดิ” “เวิร์คดิ กูทำกับแฟนกูบ่อยๆความรู้สึกมันก็เหมือนกับที่มึงโดนกูทำเมื่อกี้แหละแต่ต่างตรงที่ว่ามันเป็นฝ่ายกระทำไม่ใช่กู เอาเลยอย่าชักช้าตอนนี้กูกำลังเงี่ยนสุดๆ” “ผมต้องทำไงนะพี่” “ก็แค่นั่งให้ควยกูเข้าไปในก้นมึงไง” เจมส์มันเลยค่อยๆใช้มือจับโคนท่อนลำไปจ่อที่รูก้นก่อนที่มันจะกดตัวนั่งทับลงไปซึ่งครั้งนี้ท่อนลำมันผุบเข้าไปอย่างง่ายโดยที่มันไม่รู้สึกเจ็บเหมือนตอนแรก “ซีดดดอ่าหหห เสียววะอะทีนี้มึงก็ข่มขึ้นลงตามจังหวะที่มึงต้องการ ค่อยๆทำและค่อยเร่งจังหวะรับรองสนุกทั้งกูและมึงแน่นอน” เจมส์พยักหน้าและทำตามซึ่งแรกๆเจมส์มันยังคงทำด้วยความติดๆขัดๆบางทีก็จังหวะไม่สมดุลบ้าง จนลีฟต้องเอ่ยปากปรามเป็นช่วงๆแต่ไม่นานนักเจมส์ค่อยๆเรียนรู้และทำตามจนเป็นที่พอใจลีฟและตัวมันเอง “อ่าหหหหซีดดดเก่งดีนิซีดดดดหัวมึงไวโคตรไม่ต้องสอนเป็นชั่วโมงเหมือนเอิน มึงก็ทำได้ล่ะ อ่าหหห” “อืมมซีดดดผมเองก็เสียวเหมือนกันครับ อืมมม” เจมส์นั่งขย่มขึ้นลงด้วยความสนุกและเสียวไปพร้อมกัน “อ่าหหแม่งงงไม่ได้เสียวสุดแบบนี้มานานกี่เดือนแล้วนะ ซีดดดอ่าหหห รักษาจังหวะไปนะเว้ย อย่าขาดช่วงนะมึงซีดดดด” ลีฟบีบกำผ้าห่มจนแขนและลำตัวเห็นกล้ามขึ้นเป็นมัดๆทำให้เจมส์ที่ได้เห็นถึงกับอารมณ์พุ่งปรี๊ด จนเร่งจังหวะและความเร็วขึ้นไปอีก ซึ่งนั่นก็ทำให้ลีฟพอใจยิ่งกว่าที่มันต้องการ มันร้อนผ่าวๆไปทั่วตัวส่วนเจมส์เองก็เช่นกันมันเสียวจนขนลุกซู่ซ่าไปถึงหัว มันเม้มปากหลับตาด้วยความสุขพริมๆจนท้ายที่สุดลีฟก็ปล่อยน้ำน้ำสที่สองของมันเข้าสู่ภายในตัวเจมส์เป็นจำนวนมากซึ่งก็เป็นไปดั่งชื่อที่มันเรียก ขย่มจุดระเบิดวารีพุ่งกระฉูด และนั่นเองก็ทำให้เจมส์เองได้เข้าใจในความหมายของชื่อดังกล่าวทันที ทั้งสองลงมานอนหอบหายใจแผ่ซ่านอยู่บนเตียงกันทั้งคู่อีกครั้ง ก่อนโทรศัพท์ของเจมส์ที่วางไว้ข้างเตียงจะดังขึ้น “พี่ลีฟ โอลาฟมาถึงแล้วอะ ผมต้องลงไปแล้วล่ะครับ” “งั้นเหรอ อืมๆ กูกะว่าถ้าหายเหนื่อยจะต่อกับมึงอีกสักยกแท้ๆเชียว” “โห่ยยพี่ลีฟฟ ความเงี่ยนของพี่นี่มันเลเวลไหนกันแน่เนี่ย” ไว้มาต่อครับ เนื้อหาในตอนที่ 6 ตามลิงค์ http://www.g4guys.com/forum.php? ... 2219&fromuid=155129
|