แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DinDin123 เมื่อ 2020-8-7 02:29
หลังจากวันนั้นสายฟ้าก็ไม่ได้กลับไปที่บ้านอีกเลยแม้ทางพ่อสิงห์จะโทรและไลน์หาก็ตามเจ้าตัวเลือกที่จะไม่รับสายและตั้งหน้าตั้งตาทำงานหวังว่าจะลืมเรื่องพวกนั้นได้เร็ว ๆ เจ้าตัวจึงปณิธานตนเองว่าอยากทำงานเยอะ ๆจะได้ก้าวหน้า มีเงินเก็บ เมื่อมีเงินในบัญชีเพียงพอเขาอยากจะลองไปเที่ยวต่างประเทศดูสักครั้งเพราะงั้นตอนนี้ร่างบางจึงกลายเป็นคนบ้างาน ทำงานจนดึกดื่นทุกวันบางวันก็นอนค้างจนเพื่อน ๆ ต่างเป็นห่วงบอกให้พักบ้างดูเหมือนความเจ็บปวดจากการโดนนอกใจจะทำให้สายฟ้ายิ่งทำงานหนักขึ้นและดูแลตัวเองน้อยลงขอบตาดำคล้ำ แต่ยิ่งทำตัวให้ยุ่งจะยิ่งทำให้เขาลืมเรื่องพวกนั้นได้เร็วขึ้นพอเหนื่อยมากก็ทำให้หลับสนิท ส่วนคุณเจษหลังจากที่กลับจากงานเลี้ยงเขาก็ไม่เห็นอีกเลย น่าจะคงยุ่งอยู่แต่อีกฝ่ายเป็นถึงประธานบริษัทคงไม่มาสนใจอะไรเขาหรอก คนบ้างานยังคงจดจ่อกับงานไม่เว้นว่างพอถึงวันเทศกาลเจ้าตัวก็นอนอยู่แต่ในห้องไม่ไปไหนพ่อสิงห์และพ่อเสือเองก็ส่งข้อความและโทรหาตลอด เจ้าตัวก็ถามคำตอบคำเมื่อไหร่ที่ขอร้องให้เขากลับบ้านก็จะตัดสายทิ้งทันทีส่วนธันเองก็มีส่งข้อความและโทรหาบ้าง ช่วงแรก ๆ ที่เลิกกันก็โทรหาบ่อยช่วงหลังก็มีบ้าง ร่างบางจึงตัดสินใจบล็อกเบอร์และไลน์ทิ้งจวบจนถึงวันปีใหม่สายฟ้านั่งอุดอู้เปิดโทรทัศน์ดูหลังจากที่โอนเงินให้พ่อสิงห์และพ่อเสือเสร็จเพราะค่าใช้จ่ายที่ค่อนสูงจึงต้องประหยัดมาก เขาต้องโอนเงินใช้ให้พ่อเสือเจ้าตัวตีเป็นราคาให้หนึ่งล้านบาทเพราะตอนมหาลัยเขาก็ทำงานพาร์ทไทม์ส่งเสียตัวเองเรียนบางส่วน พ่อเสือและพ่อสิงห์ต่างรบเร้าให้กลับไปฉลองที่บ้านจนสายฟ้าเกือบใจอ่อนแต่ก็ยังดื้อรั้นไม่กลับพร้อมกับตัดสายทิ้ง เรียกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและพ่อทั้งสองค่อยๆ ห่างเหินกันเรื่อย ๆ จนแทบต่อไม่ติด วันนี้เพื่อนสมัยมหาลัยชวนไปงานเลี้ยงปีใหม่แต่รู้ว่าต้องเจอธันแน่นอนเขาจึงเลือกที่จะปฏิเสธ อยู่ ๆก็ได้ยินเสียงเคาะประตูห้องเมื่อส่องตาแมวดูก็เจอกับร่างสูงของคนที่ไม่ได้เจอตั้งนาน “คุณเจษมาทำอะไรที่นี่ครับ” สายฟ้ารีบเปิดประตูและเอ่ยถามอย่างสงสัยในมือของร่างสูงมีถุงใส่ของอยู่เต็มไปหมด “ได้ข่าวว่ามีคนฉลองปีใหม่คนเดียวผมก็เลยจะมาขออยู่เป็นเพื่อนน่ะครับไม่รบกวนใช่ไหมครับ”คุณเจษเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกถุงที่เต็มไปด้วยขวดเบียร์และกับแกล้มมาขนาดนี้เขาคงไม่กล้าปฏิเสธหรอก สายฟ้าทำหน้ามึนงงแต่ก็หลบให้อีกฝ่ายเข้ามาในห้อง “คุณเจษไม่ไปฉลองกับครอบครัวเหรอครับ”สายฟ้ามองร่างสูงที่ดูมีสง่าราศีมากยิ่งขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “ครอบครัวผมตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาหมดแล้วล่ะครับผมอยู่คนเดียวเลยมาหาคุณนี่ไง”ร่างสูงอธิบายก่อนจะถือวิสาสะเข้าครัวไปหยิบจานกับแก้ว สายฟ้าเห็นจึงตกใจรีบเข้าไปช่วย “ทำไมของใช้ในห้องดูน้อยจังเลยครับ”มีเตียง โทรทัศน์ ตู้เสื้อผ้า และขานช้อนส้อมไม่กี่อันเอง “ช่วงนี้ผมต้องรีบใช้เงินน่ะครับ”สายฟ้าเอ่ยทำเสียงแหะ ๆ ร่างสูงเห็นก็เลิกคิ้วอย่างสงสัย “มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะครับ”คุณเจษเอ่ยบอกอย่างใจจริง สายฟ้าไม่ได้พูดอะไรช่วยแกะถุงเอาอาหารใส่จานจากนั้นทั้งสองคนก็นั่งดื่มเหล้าพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดูท่าระยะเวลาหลายเดือนที่ไม่ได้เจอกันทำให้ทั้งสองคนต่างมีเรื่องคุยแลกเปลี่ยนท่านประธานหนุ่มบ่นเรื่องงานที่เพิ่งเข้ามาทำไม่เท่าไหร่ก็เจองานล้นหัวสายฟ้าเลยแขวะเล่นว่าเอาเวลามาปลอมตัวเป็นหัวหน้างานจนลืมงานของประธานบริษัทร่างสูงได้ยินก็ขยี้หัวเป็นการทำโทษ สายฟ้าดื่มเหล้าจนหน้าแดงก่ำเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ “เมาแล้วรีบไปนอนดีกว่า”คุณจษรีบเอ่ยเข้าไปประคองแต่ร่างบางดื้อรั้นไม่ยอม “ผมไม่ได้เมา! เอามาอีก!! ผมจะดื่มให้หมด!!!” สายฟ้าเอ่ยเสียงดังพยายามแย่งแก้วมาจากร่างสูงที่ตอนนี้มองหน้าดุ “เอามาครับให้ผมดื่มจนสลบดีกว่าต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียวที่ห้อง”ร่างบางเริ่มทำหน้าเศร้าจนอีกฝ่ายมองอย่างเป็นห่วงจากนั้นไม่นานสายฟ้าก็เริ่มเล่าทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่ที่เขาเลิกกับธัน “ไม่เข้าใจทำไมเขาต้องหลอกผมด้วย ทำไมทุกคนต้องหลอกผม” เพราะน้ำเมาแทนที่จะช่วยกลบความขมขื่นที่แม้จะดีขึ้นตามลำดับแต่กลับเป็นตัวกลั่นความรู้สึกให้เอ่อล้นมากขึ้น คุณเจษเห็นก็มองด้วยความสงสารและเห็นใจร่างบางยังคงระบายความในใจออกมาอย่างหมดเปลือก เขาไม่ได้กลับไปหาพ่อ เพราะยังทำใจไม่ได้เพราะงี้เขาจึงทำงานหนักหวังจะลืมทุกอย่าง และตั้งเป้าหมายในชีวิตแม้จะดีขึ้นแต่กลับแทนที่ด้วยความโดดเดี่ยวความเหงาที่เหมือนเขาขาดบางสิ่งบางอย่างไป ไม่ใช่คนรักแต่เป็นอะไรสักอย่างที่เขานึกไม่ออก “สายฟ้าฟังให้ดีนะ เรายังมีพี่อยู่ทั้งคน ถ้าเหงา พี่ก็จะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่อาจจะไม่มีเวลาว่างมากนัก แต่พี่ก็จะพยายามมาหาเรา พี่เข้าใจความรู้สึกนี้ดีเรายังมีพี่อยู่ข้าง ๆ เสมอนะ” ร่างสูงเอ่ยปลอบ กอดสายฟ้าแน่น เสียงร่างบางเริ่มเงียบหายจนน่าเป็นห่วงท่านประธานหนุ่มจึงดึงอีกฝ่ายขึ้นมาดู สายฟ้าจ้องตาคุณเจษแววตาวูบไหวก่อนจะใช้มือประคองอีกฝ่ายและแนบริมฝีปาก คุณเจษเบิกตากว้างแค่เพีงพริบตาเดียว จากปากแนบชิดกันกลายเป็นจูบปาก แลกลิ้นอย่างดูดดื่มไม่นานสายฟ้าก็สลบคาอกอีกฝ่าย คุณเจษเห็นก็ถอนหายใจอย่างเสียดาย เมื่อสายฟ้าตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในชุดใหม่มีกระดาษเล็ก ๆ แปะไว้พร้อมกับจานข้าว เป็นของคุณเจษที่ซื้อมาให้ก่อนจะออกจากห้อง หลังจากวันนั้นสายฟ้าก็กลับมาทำงานหามรุ่งหามค่ำสิ่งที่ผิดปกติคือคุณเจษที่เขาไม่ค่อยพบเจอ ตอนนี้เจอบ่อยขึ้นไม่ว่าจะทานอาหารหรือตอนทำงาน ยิ่งเวลาช่วงดึกที่เขาต้องทำงานคนเดียวคุณเจษก็มานั่งคุยและอยู่เป็นเพื่อน เขาเห็นแบบนั้นก็ตกใจและเกรงใจบอกว่าไม่เหมาะสมแต่มีหรือที่อีกฝ่ายจะฟัง ตั้งแต่เปิดเผยว่าเป็นประธานเขาก็ได้เห็นความเอาแต่ใจจากร่างสูงมากขึ้นจนสุดท้ายก็เริ่มชิน จากที่รู้สึกโดดเดี่ยวและเหงาก็เหมือนจะมีสีสันมากยิ่งขึ้น วันนี้สายฟ้ามางานแต่งงานของเพื่อนที่บริษัทร่างบางในชุดสูทรสีขาว ผมถูกเซ็ท ใบหน้าเกลี้ยงเกลารอยยิ้มร่าเริงแจ่มใสจนคนในงานต่างมองไม่เว้นแม้แต่ประธานหนุ่มที่ตอนนี้เริ่มจ้องคนในงานเขม็ง แต่ดูท่าร่างบางจะไม่รู้ตัวเดินทักทายทุกคนอย่างเป็นมิตรสายฟ้าจ้องมองที่ป้ายชื่อคู่บ่าวสาวพลางนึกถึงตอนนั้นที่เขาและธันวางแผนจะให้ชีวิตด้วยกันแต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว อย่างน้อยก็ถือว่าโชคดีที่เขาหลุดพ้นจากอีกฝ่ายมาได้ถ้าขืนแต่งไปแล้วเจอเหตุการณ์แบบนั้นมีหวังเขาคงได้ฆ่าตัวตายแน่ ๆ “สายฟ้าแต่งตัวหล่อเชียวนะ”คุณเจษรีบเดินเข้ามาทักทาย มองด้วยสายตาอ่อนโยน “ไม่เท่าคุณเจษหรอกครับ”สายฟ้าตอบความจริง ตั้งแต่เดินเข้างานมาก็เห็นมีแต่หนุ่ม ๆ สาว ๆหันไปมองที่ร่างสูงตาไม่กระพริบ “ไปนั่งกันก่อนไหม”ร่างสูงเอ่ยชวนก่อนจะส่งสายตาให้คนอื่นอย่างชัยชนะ “ครับแต่ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ” สายฟ้าเอ่ยจากนั้นก็เดินออกมานอกงานและตรงไปที่ห้องน้ำ หลังจากทำธุระเสร็จไม่ทันไรก็เจอกับร่างสูงคุ้นตาที่เขาไม่เจอหลายเดือนคนที่ทำให้เขารักและเจ็บปวด หลังจากที่เลิกกับสายฟ้าธันก็กลับมาอยู่ที่คอนโดของตัวเองเป็นครั้งแรกที่ใช้เงินของพ่อแม่นับตั้งแต่เริ่มทำงาน ร่างสูงพยายามใช้ชีวิตปกติแต่ทุก ๆ วันยิ่งทำให้เขารู้สึกเหมือนขาดอะไรไปร่างบางที่เขาเคยเจอสมัยเรียนมหาลัย เรียกได้ว่ารักแรกพบ เขาสองคนต่างประคับประคองความรักจนมั่นคงแต่สุดท้ายก็ต้องเลิกราเราะความมักมากของตัวเอง วันแรก ๆ หลังจากเลิกกัน เขาพยายามโทรหาและส่งข้อความเพื่อขอคืนดีและหวังจะทำลายกำแพงของอีกฝ่ายแต่ดูเหมือนร่างบางจะรำคาญและตัดการติดต่อจากเขาทุกช่องทาง เขาไม่ได้กลับไปที่บ้านนั่นอีกเจอพ่อเสือและพ่อสิงห์ครั้งสุดท้ายคือตอนที่เข้าไปเก็บของก็พบว่าสายฟ้าได้มาที่นี่และประกาศว่าจะไม่มาเหยียบที่นี่อีกธันได้ยินก็ตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ อีกฝ่ายใจแข็งมากเมื่อเป็นแบบนั้นร่างสูงจึงพยายามใช้ชีวิตเป็นปกติ ตื่นเช้าไปทำงาน เย็นก็กลับห้องมีบ้างที่ไปสังสรรค์กับเพื่อน และมักจะหิ้วเด็กผู้ชายกลับห้อง แทนที่จะทำจนเสร็จแต่ก็ชะงักกลางคันเมื่อเห็นใบหน้าคนรักเก่าซ่อนทับ สุดท้ายจึงต้องเลิกราและให้เงินเป็นการขอโทษ ธันรู้สึกโง่เง่ามากที่สุดทำงานไม่มีสมาธิ หันไปทางไหนกลับรู้สึกเหมือนมีร่างบางนั่งอยู่ใกล้ ๆพยายามใช้ทุกวิถีทางที่จะสลัดอีกฝ่ายให้ออกไปจากหัว แต่ก็ไม่เป็นผลภาพที่สายฟ้ารอเขากลับบ้านหลังจากทำงานมาเหนื่อย ๆ เตรียมน้ำและอาหารไว้ให้ภาพตอนที่อีกฝ่ายเมาจนจูบเขาและก็ลามปามมาที่เตียงภาพที่สายฟ้าพยายามอ้อนวอนให้เขาพาไปเที่ยว ภาพที่รับปริญญาด้วยกันเจ้าตัวรู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไม่เข้าใจเหตุการณ์ในอดีตถึงไหลบ่าเข้ามาเรื่อย ๆ ความเจ็บปวดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นจนเมื่อเขาไม่สบายไข้ขึ้นจนต้องนอนจมเตียงที่ห้อง เหตุการณ์ที่มีสายฟ้าคอยเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวทำอาหารให้เขาทานชัดเจนจนเกือบแยกไม่ออกนั่นทำให้เขารู้เลยว่าเขารักอีกฝ่ายมากแค่ไหน มาคิดได้ตอนนี้ก็สายเกินไปในเมื่อร่างบางไม่คิดที่จะให้อภัยและรู้จักกับเขาอีกแต่ธันก็ไม่อยากอยู่โดยที่ไม่มีอีกฝ่ายเคียงข้าง เมื่อติดต่อไม่ได้จึงพยายามส่งดอกไม้ ส่งอาหารไปให้อีกฝ่ายที่ทำงานแทน แต่แปลกที่ถูกตีกลับทั้งที่ยังไม่ได้ฝากพนักงานต้อนรับเอาไปให้เลยด้วยซ้ำสุดท้ายเขาก็กลายเป็นคนต้องห้ามสำหรับบริษัทนั้น ที่อพาร์ทเม้นท์เองก็เหมือนกันเขาถูกสั่งห้ามไม่ให้ขึ้นไปหาและพบอีกฝ่าย หรือว่าทั้งหมดนี้นี้เป็นการบอกเป็นนัยๆ ว่าสายฟ้าไม่อยากให้เขามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของเขาอีกแม้แต่น้อยธันกลับห้องด้วยสภาพห่อเหี่ยว ใบหน้าซูบผอม ทานอะไรไม่ค่อยลงเวลาทานอาหารก็มักจะมีสายฟ้านั่งอยู่ด้วย หยอกล้อกัน เป็นคู่รักที่หวานชื่นร่างสูงทิ้งตัวลงนอนบนโซฟามือก่ายหน้าผาก สบถด่าตัวเองซ้ำ ๆ ว่าเขามันโง่เองโง่มากที่ทำให้ทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้ถ้าเกิดเขาไม่หมกมุ่นในราคะป่านนี้เขาคงจะใช้ชีวิตกับสายฟ้าอย่างมีความสุขเขาเข้าใจแล้วว่าสายฟ้ารู้สึกยังไงเมื่อตัวเองไม่ใช่ความสุขของคนที่รักเข้าใจแล้วว่าเขาทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัยแค่ไหน เขาหลอกสายฟ้ามาสามเดือนไปมีอะไรกับพ่อแท้ ๆและพ่อเลี้ยงของอีกฝ่าย ลุ่มหลงในความสุขจนลืมว่าความสุขจริง ๆของเขาอยู่ที่ไหน ถ้าให้ย้อนเวลาไปได้เขาก็อยากจะแก้ไขทุกอย่าง อยากจะเอาใจและรักษาอีกฝ่ายไว้ในอ้อมกอดจะหวงแหนราวกับสมบัติล้ำค่าชิ้นสุดท้าย แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้แล้วธันนอนร้องไห้สะอื่นอยู่บนโซฟา สบถด่าตัวเองในใจไม่รู้จักเหนื่อยอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นแค่ฝันร้าย อยากจะรีบตื่นไว ๆและคอยดูแลอีกฝ่าย ตอบแทนความรักที่อีกฝ่ายมีให้อย่างสุดความสามารถ ธันมางานเลี้ยงฉลองต้อนรับลูกชายของเจ้าของบริษัทแต่เพราะเมื่อคืนดื่มเหล้าจนเมาจึงทำให้ตื่นสาย โดนทำโทษให้ทำงานจนกว่าจะเสร็จจากนั้นจึงรีบขับมาที่โรงแรมที่จัดงาน เพราะจิตใจยังไม่อยู่กับตัวคาดว่าจะแค่เข้าไปในงานให้เห็นหน้าแล้วก็กลับแต่ดันกดชั้นผิดไปโผล่ชั้นบนที่ติดกัน เมื่อก้าวเข้ามาก็เห็นงานเลี้ยงที่มีเจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนอยู่หน้าประตูจึงรู้ว่ามาผิดชั้นจึงจะกดลิฟท์ลงแต่สายตาปะทะเข้ากับร่างของใครคนหนึ่งที่เขาคิดถึงและโหยหามาตลอดเจ้าตัวขยี้ตาอีกรอบก็พบว่าไม่ใช่ภาพลวงตาธันจ้องมองไปยังสายฟ้าที่กำลังเดินไปไหนสักแห่งด้วยแววตาโหยหา ขาทั้งสองอยู่ ๆก็ก้าวตามไปอัตโนมัติ สงสัยร่างบางจะเข้าห้องน้ำ ร่างสูงจึงยืนรอหวังจะพูดคุยอยากจะถามไถ่ว่าสบายดีไหม วันนี้ทานข้าวกับอะไร นอนหลับสบายไหม เหนื่อยหรือเปล่าอยากจะขอโอกาสอีกครั้ง แม้มันจะไม่มีแล้วก็ตามทันทีที่สายฟ้าเดินออกมาธันก็รีบเข้าไปหาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายชะงักเขาจึงตัดสินใจหยุดเดินและมองหน้าอีกฝ่าย แววตาสั่นไหวความรู้สึกผิด ความเศร้า ความคิดถึง ความโหยหาต่างผสมปนเปไปหมด “สายฟ้ามางานแต่งเหรอ” ธันทักทายเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน สายฟ้าไม่ได้ตอบแต่พยักหน้าก่อนจะเดินผ่านไม่สนใจแต่ธันก็รีบเอื้อมมือมารั้งเอาไว้ “สายฟ้าขอเวลาสักครู่ได้ไหม” ธันอ้อนวอนขอร้อง มือสั่นเทาสายฟ้านิ่งเงียบก่อนจะถอนหายใจและหันมาเผชิญหน้า สะบัดมือออกจากอีกฝ่าย ธันเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างขมขื่นไม่มีความรู้สึกโหยหาหรือคิดถึงในสายตาของคนตรงหน้าอยู่เลย “สายฟ้าเป็นยังไงบ้างเหนื่อยไหม ทำงานเป็นยังไง นอนหลับหรือเปล่า...”ธันเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบจึงถามไปเรื่อย ๆ จนเหมือนร่างบางจะไม่พอใจเลยเอ่ยขัดขึ้น “นายต้องการอะไรพูดมาเลยดีกว่าฉันไม่อยากเสียเวลา” ทั้งที่เลิกกันไปแล้วก็น่าจะจบแล้วนี่ทำไมถึงโผล่มาที่นี่ได้ “เรา...เราอยากจะขอโอกาสอีกสักครั้งได้ไหม”ธันเอ่ยถามอย่างแผ่วเบา บรรยากาศเริ่มตรึงเครียดมากกว่าเดิมร่างบางไม่ตอบแต่มองอย่างเย็นชา “เราขอโทษเราไม่รู้จะแก้ไขอะไรได้ไหม แต่ทำได้เพียงขอโทษเท่านั้นเรารู้ว่าเราเป็นแฟนที่แย่มาก ที่ผ่านมา หลังจาก...หลังจากเลิกกัน...เราคิดถึงสายฟ้าตลอดเวลา ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่สายฟ้าเรารู้แล้วว่าเรารักสายฟ้ามากแค่ไหน เราอยากจะขอโอกาส เรารักสายฟ้ามากจริง ๆขอให้เราได้อยู่ข้าง ๆ สายฟ้าได้ไหม ไม่จำเป็นต้องเป็นคนรักก็ได้ แค่คุย ๆกันก็ได้ เราสัญญาว่าจะไม่นอกใจ ไม่มีใครอื่น จะรอจนกว่าสายฟ้าจะเชื่อมั่นในตัวเราเราจะไม่ทำให้สายฟ้าเสียใจอีกเป็นอันขาด เรารักสายฟ้านะ รักมากที่ผ่านมาเรารู้ว่า...ถ้าเราไม่มีสายฟ้า...เราก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง” ธันอ้อนวอนอย่างสุดความสามารถกุมมืออีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ให้เขาทำอะไรเขาจะยอมทำทุกอย่าง ให้เขาคุกเข่ากราบแทบเท้าก็ยอม แต่อย่าหมางเมินแบบนี้อีกเลย นัยน์ตาสีน้ำตาแดงก่ำ หยดน้ำใส ๆ เอ่อล้นออกมาแสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดและความจำยอมอย่างเต็มใจแสดงให้เห็นว่าเขาต้องการร่างบามากแค่ไหน สายฟ้าที่เห็นก็นึกประหลาดใจเล็กน้อยไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นแบบนี้มาก่อน อดีตคนรักในชุดทำงาน ร่างกายซูบผอมไม่เหลือมาดหนุ่มหล่อที่พกความมั่นใจเต็มร้อยอยู่เลยหนวดเคราที่ไม่ได้โกนเป็นเวลานาน ผมที่ยาวกระเซิงสภาพตอนนี้ไม่เหมือนกับธันที่เขาเคยรู้จัก แวบหนึ่งที่แววตาเขาวูบไหวก่อนจะปรับมาเป็นเหมือนเดิมตอนทำไม่คิด พอผลออกมาก็มาอ้อนวอน เขาในตอนนั้นก็เจ็บปวดไม่แพ้กันแต่ตอนนี้เขาได้เริ่มก้าวข้ามไปได้แล้ว และเขาจะไม่เดินกลับไปซ้ำสอง “ไปเถอะ นายไม่จำเป็นต้องมาหาเราอีกแล้ว”เสียงแหบแห้งเอ่ยในวันที่ฝนตั้งเค้า ร่างบางผิวขาวในวัย 25 ปีในชุดสูทสีขาวดูมีสง่า ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอาการอะไรออกมา “ผมขอโทษผมขาดคุณไปไม่ได้จริง ๆ” น้ำเสียงแหบแห้งร้องอ้อนวอนต่อคนตรงหน้า ใบหน้าหมองคล้ำมีหนวดเครารุงรัง ในชุดพนักงานเงินเดือน หน้าตาแดงก่ำ เว้าวอนร้องขอให้ร่างบางเห็นใจ “มันสายเกินไปแล้วล่ะ...ธัน”น้ำเสียงเรียบนิ่งเอื้อนเอ่ยอย่างไร้เยื่อใย จ้องมองร่างสูง ดึงมือออกจากอีกฝ่าย “สายฟ้าเป็นอะไรหรือเปล่างานจะเริ่มแล้วนะ” เสียงคุณเจษดังขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไปห้องน้ำนานเกินไปจึงรีบออกมาตาม ไม่คิดว่าจะมาเจอคนที่เขาเกลียดที่สุดคนที่ทำให้ร่างบางต้องทุกข์ใจและเจ็บปวดเวลานาน “นายมาที่นี่ทำไม”คุณเจษเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ เอื้อมมือไปโอบไหล่ร่างบางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของธันเห็นแบบนั้นก็เบิกตากว้าง “ช่างเถอะครับเรากลับเข้างานกันดีกว่า ผมกับเขามันจบแล้ว” สายฟ้าเห็นจึงแสดงตามน้ำ เกาะแขนร่างสูงและเดินไปที่งานทิ้งให้ธันมองตามอย่างเจ็บปวด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อเขาเป็นคนทำให้ร่างบางทิ้งเขาไปเอง เขาเป็นคนทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายทำลายความเชื่อมั่นจนแหลกสลาย ไม่มีทางที่จะเป็นคนคนนั้นของร่างบางได้อีกแล้วเขามันโง่เองที่รู้ว่ารักมาก มากที่สุด อยากจะบอกว่าสายฟ้าคือความสุขของเขาจริง ๆต่อให้เอาอะไรมาแกก็ไม่ยอม แต่ในเมื่อตอนนี้มันสายเกินไป กว่าจะรู้สึกและสำนึกได้อีกฝ่ายก็จากไป... คนเรารักกันก็อยากเห็นคนที่รักมีความสุขเพราะความสุขของเขาคือของเรา แต่ถ้าความสุขของเขาคือการมีใครอีกคน นั่นเขาไม่เรียกว่ารักเขาเรียกว่าเห็นแก่ตัว รักคือการให้ แต่ถ้าเขาให้เราคือความทุกข์และเจ็บปวดเราก็ควรถอยไปเจอสิ่งที่ดีกว่า.... -- ยามรักบอกรักมาก แต่ไม่รักษาเราจะเห็นค่ามันก็ต่อเมื่อเราสูญเสียใครคนนั้นไป... บางครั้งคิดได้ ก่อนที่จะสายไปแต่บางครั้งก็คิดได้....เมื่อมัน...สายไปแล้ว.... -- -----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล.1 จบแล้วววกับเรื่อง รักแท้ ดูแลไม่ได้ เรื่องนี้เราแต่งขึ้นมาเพราะนึกถึงเพลง เวลาฟังรู้สึกอินไปกับเพลงจนอยากจะแต่งออกมาเป็นนิยาย เพราะงั้นเรื่องนี้ถึงเป็นชื่อเพลง555555
ปล. 2 ขอโทษที่เข้ามาต่อช้า เราผิดเอง จริง ๆ อ่านนิยายจบไปนานมากแล้ว แต่ต้องรีบปั่นนิยายอีกเรื่องทีแต่งตั้งแต่ต้นปี เพิ่งแต่งไปได้ 50% (คาดว่าเสร็จปีหน้า) เพราะต้องหาข้อมูลเยอะมาก เราเพิ่งเปิดเทอม เรียนต่อโท เพราะงั้นอาจจะไม่ได้มานิยายในนี้ระยะยาว ถ้าคิดเรื่องไหนออกและคิดว่าเหมาะก็จะเอามาลงที่นี่ แต่คิดว่าต้องรอให้นิยายที่กำลังแต่งจนปวดหัวให้เสร็จก่อน และต้องดูด้วยว่าเรียนหนักหรือเปล่า มีเวลามาแต่งนิยายไหม5555
ปล. 3 นิยายเรื่องอื่นที่แต้งไว้และไม่ได้มาต่อ ขอดองไว้ก่อน พล๊อตคิดเอาไว้บ้าง แต่ยังไม่มีอารมณ์แต่ง55555
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติชมนะ เป็นกำลังใจที่ดีมาก ๆ รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความสุขมาก ๆ นะ
|